คะแนน 5/5
นักวิจารณ์ wondermomo
Civil War's Diary...สงครามและความรัก
เรื่องย่อ บันทึกความทรงจำในช่วงสงครามที่บอกเล่าถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความทุกข์ ทรมาน และการเข็นฆ่ากัน รวมไปถึงความรักที่ก่อตัวขึ้นโดยไม่จำกัดว่าจะเป็นฝ่ายศัตรูหรือฝ่ายมิตร
โครงเรื่อง (35/40)
การลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเรื่อง (17/20) การลำดับเหตุการณ์นั้นเหมือนกับบันทึกในไดอารี่เล่มหนึ่ง ถ้าบอกว่าเรื่อยๆ ก็คงจะถูก แต่การดำเนินเรื่องแบบนี้จะให้รายละเอียดที่ชัดเจนมากที่สุดเพราะไม่ต้องกระโดดข้ามเหตุการณ์ไปมาและด้วยที่ว่ามันเป็นเนื้อเรื่องค่อนข้างหนักการใช้วิธีอื่นก็คงจะลำบาก แต่ผู้แต่งก็พยายามที่จะสลับการดำเนินเรื่องอยู่เป็นพักๆ ก็ทำให้รู้เรื่องของแต่ละฝ่ายไปพร้อมๆ กัน จึงทำให้ไม่รู้สึกว่าเน้นหนักไปที่ใครคนใดเป็นพิเศษค่ะ
ความสนุก (18/20) บรรยากาศเรื่องมันอึดอัดตั้งแต่เริ่มต้นเลยค่ะ เพราะว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับสงคราม การบรรยายต่างๆ เลยรู้สึกหดหู่ตามไปด้วย ถ้าใครไม่ชอบอ่านแนวนี้เป็นพิเศษก็จะเลิกอ่านไปเลย ต่อให้มีความรักแทรกเข้ามามันก็ไม่ได้ฉุดให้เรื่องมันรู้สึกดีขึ้นนะคะ ซึ่งถ้าผู้แต่งต้องการให้ผู้อ่านรู้สึกเช่นนี้ก็นับว่าประสบความสำเร็จแล้วล่ะค่ะ
ตัวละคร (18/20)
ความสมเหตุสมผลของตัวละคร ขอกล่าวโดยรวมนะคะ เนื่องจากตัวละครเยอะทีเดียวซึ่งแต่ละตัวละครก็สมจริงอิงตามความเป็นจริงในเรื่องดีค่ะ เนื้อเรื่องเกิดในช่วงสงครามทุกคนก็จะมีมุมมองที่ต่างกันออกไปตามแต่ละสภาพและสถานะที่เกิดขึ้น ผู้แต่งสามารถรักษาความเป็นเอกลักษณ์ของตัวละครได้สม่ำเสมอค่ะ แต่มีติงนิดหนึ่งถ้าเกิดว่าเฉลี่ยให้ตัวละครมีบทเท่าๆ กัน เนื้อเรื่องจะเอื่อยๆ เพราะผู้วิจารณ์อ่านมาถึงตอนที่ห้าก็ยังเดาไม่ออกว่าใครเป็นตัวเอกค่ะ รู้แค่ว่าแต่ละฝ่ายจะมีตัวดำเนินเรื่องชัดๆ อยู่ 2-3 คน
การใช้ภาษา (36/40)
การบรรยาย (18/20) ถือว่าผู้แต่งมีความสามารถเกินอายุเลยก็ว่าได้ เพราะเนื้อหาเรื่องไม่ได้เป็นเนื้อหาที่เขียนได้ง่ายๆ ต้องอาศัยความชอบโดยส่วนตัวและการศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับสงคราม ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อม หรือแม้กระทั่งความรู้เกี่ยวกับอาวุธต่างๆ ต้องยอมรับว่าเก่งเลยทีเดียว อีกทั้งการรู้จักหยิบใช้ภาษาที่มันค่อนข้างเก่ามาบรรยายก็ทำให้อรรถรสในการอ่านเรื่องนี้ดูสมจริงสมจังดีค่ะ
ความถูกต้องของหลักภาษา (18/20)
คำผิดคำตกหล่น เช่น หนังอึ้ง – หนักอึ้ง, อยู่ในทีที่มองตรงมานั้น – อยู่ในที่ที่มองตรงมานั้น, พูดพร่ำทพำเพลง – พูดพร่ำทำเพลง, ชเลวิส – เลวิส, เป็นต้น
ปรัศนี ? ตามความเป็นจริงหลักภาษาไทยไม่มีการใช้ค่ะ เพราะในภาษาไทยมีคำไทยที่เป็นคำถามในตัวมันเองแล้ว เช่น หรือ เหรอ หรือไม่ อะไร ที่ไหน อย่างไร
ไม้ยมก หน้าและหลังเครื่องหมายให้เคาะวรรคเช่น ต่าง ๆ นานา เป็นต้น แต่บางสำนักพิมพ์ก็เคาะเพียงหลังเครื่องหมาย เช่น เสื้อสีแดงๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะ เป็นต้น ทั้งนี้ควรเลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่งไปตลอดการเขียนบรรยายค่ะ
การลากคำ เช่น บึ้มมมม กรี๊งงง เป็นต้น จากเนื้อหาและอารมณ์เรื่องผู้แต่งเน้นให้ดราม่า อารมณ์ต้องหม่นๆ สีเทา ดังนั้น การใช้การลากคำทำให้ดูเป็นภาษาการ์ตูน ควรปรับเป็น บึ้ม! ให้ใช้อัศเจรีย์เติมด้านหลังจะทำให้ดูหนักแน่นมากขึ้นค่ะ
การเลือกใช้คำ
ยังไงกัน? เมื่ออยู่ในบทบรรยายแล้วและผู้แต่งบรรยายในลักษณะบุคคลที่สาม สิ่งสำคัญคือต้องบรรยายให้มีลักษณะเป็นทางการ ไม่ใช่ภาษาพูด ดังนั้นควรปรับเป็น อย่างไรกันและตัดเครื่องหมายปรัศนีออก เพราะภาษาไทยมีคำที่เป็นคำถามอยู่แล้วนั่นคือ อย่างไร
แต่ก็มีเวลาให้เธอชื่นชมกับความสำเร็จนั้นได้ไม่นานนัก ลองปรับเป็น แต่ไม่มีเวลาให้เธอชื่นชมกับความสำเร็จนานนัก
เธอไม่สามารถรับรู้เลยว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างตรงหน้า ลองปรับเป็น เธอไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่ามีสิ่งใดเกิดขึ้นตรงหน้าบ้าง
“ป่ะ ไปรายงานแม่คุณอังเดรียกันดีกว่า ปานนี้รอจนรากงอกแล้วมั้ง” แนะนำว่าการพูดจาระหว่างเพื่อนผู้ชายน่าจะดูหนักแน่นกว่านี้ คำว่า ป่ะ ทำให้บทสนทนาดูอ่อนลงไป ถ้าปรับได้น่าจะได้ว่า “ไปรายงานแม่คุณอังเดรียกันเถอะ ปานนี้รอจนรากงอกแล้ว”
เลวิสหันไปมองเลวิสซึ่งกำลังนั่งยองๆ อยู่เหนือร่องดิน น่าจะเป็นเจเรมี่มากกว่าค่ะที่นั่งอยู่
ตรงหน้าเขามีนายทหารทั้งระดับสูงและต่ำยืนอยู่เจ็ดแปดคน ถ้าต้องการจะอธิบายว่าเลวิสมองเห็นคนอยู่ประมาณ 7-8 คนน่าจะเติมคำว่า ราว หรือประมาณลงไปเพื่อเป็นการบอกถึงการกะคร่าวๆ ไม่ได้สังเกตเห็นชัดนัก ซึ่งผู้แต่งจะเขียนทำนองนี้อยู่หลายจุด อย่าลืมลองไปปรับดูนะคะ จะทำให้การบรรยายดีขึ้น
แววตาของเขาไร้ซึ่งวี่แววของความเป็นมนุษย์หลงเหลืออยู่ ตัดคำที่ขีดเส้นใต้ไว้ค่ะเพราะเป็นคำฟุ่มเฟื่อยใจความข้างต้นเข้าใจดีอยู่แล้วค่ะ
แก่นเรื่อง
สงครามไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด ไม่มีใครมีความสุขกับสงครามเพราะทุกฝ่ายต่างก็สูญเสียเท่าๆ กัน
รวม 89/100 คะแนน
สำหรับเรื่องนี้ผู้วิจารณ์หยิบยกบางข้อมาแนะนำนะคะ เพราะเนื้อหาค่อนข้างมาก หากมีข้อผิดพลาดก็ขออภัยด้วยค่ะ