คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #133 : [ Special ] ความเป็นมาของลีทึก < ลีดเดอร์แห่ง วง Super junior >
[SJ Radio] "Our precious day" Leeteuk part1
ในคอนเนอร์พิเศษของรายการนี้ เป็นช่วงที่ให้สมาชิกซูเปอร์จูเนียร์มาเล่าเรื่องของตัวเองว่ามาเป็นซุปเปอร์จูเนียร์
ด้อย่างไร โดยทำออกมาเป็นรูปแบบละครวิทยุ
(มีเสียงที่ทึกพูดด้วย แต่ไม่ได้เอามาลง)
จองซูชายหนุ่มผู้รักเสียงดนตรี
ชื่อของผมคือปารค์จองซู
หัวหน้าวงที่มีสมาชิก 13 คน วงซูปเปอร์จูเนียร์
ทุกวันนี้ยุ่งมากขนาดที่คิดว่าขอแค่ได้นอนเต็มอิ่มซักวันก็ยังดี
เอาหล่ะ มาย้อนไปดูกันดีกว่าตั้งแต่เป็น จองซู จนมาเป็น อีทึก
ครั้งแรกที่ได้เห็นวง ซอเดจีวาไอดอล ในทีวี
มันเป็นสิ่งแปลกใหม่ที่ทำให้ผลตะลึง
อีทึก - (ร้องเพลงเกาหลี)
เพื่อนบ้าน - อ่าเอาอีกแล้ว นี่ให้ฉันได้นอนบ้างเถอะ! ลูกบ้านนี้ไม่หลับไม่นอนกันหรือไง!
ทนไม่ไหวแล้วหนวกหู !
ผมที่ชอบแหกปากร้องเพลงในบ้าน ก็จะได้ยินเสียงตะโกน "ช่วยเงียบหน่อยได้ไหม" มาจากข้างบ้านเป็นระยะๆ
ผมก็ใช้ชีวิตมาอย่างนี้ จะพูดว่าเสียงดนตรีคือ เพื่อนของผมก็ไม่ผิด
แม่ - อ่า ไม่เอาหรอก ไม่ได้ชอบเพลงนักหนาเหมือนใครบางคนนี่ไม่รู้เรื่องหรอก ชอบขนาดนั้นไม่จัดห้องโชว์เทปเพลงไปเลยซะหละ ??
ความฝันที่อยากจะเป็นนักร้องของผมค่อยๆก่อตัวมาทีละเล็กละน้อย จากคำเย้าแหย่แบบไม่ได้ตั้งใจของแม่ แต่ว่า ผมก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงถึงจะได้เป็นนักร้อง จึงได้เก็บแต่ความฝันนั้นไว้ในใจอย่างช่วยไม่ได้ แต่แล้ววันนึง สมัยอยู่ม.ต้นปี 3
เพื่อน - จองซู! ฉันนะกำลังจะได้เดบิวเป็นนักร้องแล้วนะ
อีทึก - อะไรกัน? เดบิว?
เพื่อน - ใช่ ช่วงก่อนมีโทรศัพท์เข้ามา แต่ก็ไม่คิดว่าจะได้เดบิวเร็วขนาดนี้!!
อีทึก - อ่า ดีจังเลยนะ ดีใจด้วยกับนายจริงๆนะ
เพื่อนที่เต้นที่ร้องเพำลงมาด้วยกันมากำลังจะได้เดบิวเป็นนักร้อง ผมจะนิ่งเฉยไม่ได้แล้วหละ ผมต้องทำอะไรสักอย่างแล้วโอกาสก็มาถึงอย่างโดยไม่ทันตั้งตัว
เพื่อน - นี่ จองซู วันนี้วันเกิดมินวูนะ??
อีทึก - อ่า อืมมม ใช่ๆ
เพื่อน - หลังจากนี้จะจัดงานวันเกิดที่อับกูจอง นายไปได้หรือเปล่า?
อีทึก - อับกูจองเหรอ?
เพื่อน - อืม
อีทึก - ฉันไม่เคยไปที่นั่นเลยนะ มันไปยังไงเหรอ?
เพื่อน - อ๊า....นายที่เป็นคนโซลจริงๆหรือเปล่าเนี๊ย? อะไรก็ไม่รุจัก...
ปารค์จองซูหนุ่มสุดเชยแห่งเมืองโซลที่ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยไปสถานที่ๆชื่อว่าอับจองกู แต่แล้วที่นั่นก็กลายเป็นที่ๆทำให้ผมได้พบโอกาส
อีทึก - อ่า ที่นี่มันที่ไหนกันเนี๊ย ไปเรื่อยๆตามนี้จะเจอจริงๆเหรอ? แล้วไอ้ที่ๆจะไปนั่นมันเรียกว่าอะไรนะ ....
SM - เอ่อ...น้องนักเรียนคนนั้น
อีทึก - อ่ะครับ ผมเหรอ
SM - เอ่อ อายุเท่าไรเหรอครับ?
อีทึก - ผม 18 ครับ
SM - อ่อเหรอครับ หน้าตาดีนะครับ เดี๋ยวผมให้นามบัตรไว้ ยังไงไปออดิชั่นที่บริษัทดูซักครั้งนะครับ
อีทึก - ออดิชั่นเหรอครับ ?
นามบัตรที่ได้มาจากที่อัปกูจองที่เคยมาเป็นครั้งแรกในชีวิต บนนามบัตรนั้นเขียนว่า "SM Entertainment"
หลังจากนั้นไม่กี่วัน ก็ได้เริ่มการฝึกซ้อมในสถานที่แห่งนั้น แต่ว่า ความสำเร็จที่ได้มาโดยไม่ต้องถูกทดสอบนะมีจิงหรือ?
เพื่อน - เฮ้! จองซู นายซวยแล้ว!
อีทึก - เอ๋? อะไร? เกิดอะไรขึ้น?
เพื่อน - เมื่อกี้พ่อนายมาที่โรงเรีนกวดวิชา ก็เลยรู้เรื่องที่นายไม่มาเรียนกวดวิชา พ่อนายโกรธจนหน้าแดงเลยอะ
อีทึก - อะไรนะ จริงเหรอ?
ในตอนนั้นเพราะที่บ้านไม่เห็นด้วย ผมจึงปิดเรื่องที่ไปฝึกซ้อมที่ค่ายเพลงไว้ แล้วบอกว่าไปเรียนกวดวิชา แล้วก็เอาค่าเรียนกวดวิชาที่พ่อให้ไปใช้เป็นค่ารถเพื่อไปซ้อม เมื่อเรื่องแดงขึ้นมาแล้ว คืนนั้นผมคุกเข่าขอโทษพ่อของผม
อีทึก - พ่อครับ ... ผมรู้ว่ามันไม่ดีที่โกหก แต่ผมคิดว่าพ่อคงไม่อนุญาติถ้าบอกพ่อไป แต่ผมขอร้องนะครับ ครั้งเดียวเท่านั้นช่วยดูต่ออีกนิด ผมจะไม่ทำให้ผิดหวังนะครับ! นะครับ
ผมไม่มีวันลืมใบหน้าของพ่อวันนั้น ริมฝีปากของพ่อปิดสนิท จ้องมองผมโดยไร้คำพูดใดๆ
ผมมองพ่อของผมที่ทำหน้าแบบนั้นพรางให้สัญญาว่า
" ผมจะพยายามอย่างสุดความสามารถ ให้พ่อสามารถมองผมแล้วพูดว่า [เยี่ยมมาก! ลูกชายของฉัน]
สมัยที่เริ่มเป็นนักร้องฝึกหัด ไม่ว่าจะฝนตก หรือหิมะจะตก ผมก็จะกัดฟันฝ่าไปเพื่อที่จะไปซ้อม แต่สิ่งที่ได้กลับคืนมามีแต่ความล้มเหลว
เด็กฝึกหัด - พี่ พี่ได้ยินรึยัง? คราวหน้าเด็กคนนั้นจะได้เดบิวนะ?
อีทึก - อืม ได้ยินแล้ว
เด็กฝึกหัด - แต่เด็กคนนั้นเช้ามาทีหลังพี่ตั้ง 2 ปี พี่....พี่ไม่เป็นไรนะ?
อีทึก - เฮ้ย ก็ต้องไม่เป็นไรอยู่แล้วน่า มันไม่สำคัญที่เวลาหรอกไม่ใช่เรอะ? ดวงดีตะหาก
ปากก็บอกว่า ไม่เป็นไร แต่ที่ใจนะมันไม่ได้พูดอย่างนั้น ผมก็ทำได้ดีแล้วแท้ๆ แต่ทำไมโอกาสยังไม่เข้ามา มันเจ๊บปวดอย่างช่วยไม่ได้ ไหนจะคำพูดโดยไม่คิดของพ่อแม่และญาติ มันสร้างแผลใหญ่ให้ผมหลายต่อหลายครั้ง
ญาติ - จองซู นายบอกว่าจะเป็นนักร้องเหรอ?
อีทึก - อ่า ใช่ครับ ตอนนี้กำลังเตรียมตัวอยู่?
ญาติ - แล้วไอ้เตรียมตัวเนี๊ยมันใช้เวลากี่ปีเหรอ? แล้วไปได้ดีรึเปล่า? ไม่ได้ถูกหรอกใช่ไหม???
อีทึก - ไม่ได้เป็นอย่างนั้นแน่ฮะ
ญาติ - ชู่ๆๆๆๆ อยากรู้เรื่องนี้มาตั้งนานแล้ว มีเยอะไม่ใช่เหรอ เด็กที่ไปซ้อมแล้วซ้อมอีกสุดท้ายก็ไม่ได้เดบิวแล้วก็จบความฝันแค่เท่านั้นนะ เพราะผมเป็นเด็กฝึกหัดมาอยู่นาน ทำให้มีเสียงซุบซิบจากข้างหลังมากมาย
" ทำไมเดบิวไม่ได้สักทีนะ "
" มหาลัยก็ไม่ได้ไปดีแต่ทำให้พ่อแม่เป็นห่วง "
ในเวลาแบบนั้นแม้ว่าร้องไห้มากแค่ไหน แต่มันก็ไม่ทำให้ผมหวั่นไหว เพราะผมปารค์จองซูคนนี้เชื่อในตัวเอง
ถึงแม้จะผิดหวังสักกี่ครั้ง แต่ก็จะทำไม่สนใจเพื่อที่จะเป็นนักร้องที่ดีที่สุดขอเกาหลีให้ได้
[We are Super junior] 20060724 Leeteuk part2
ผมที่รักในเสียงดนตรีมาตั้งแต่เด็กๆ ค่าขนมที่เก็บสะสมได้เท่าก็เอาไปซื้ออัลบั้มเพลง ความฝันที่จัเป็นนักร้องเพาะบ่มมากับเพลงเหล่านั้น ตั้งแต่สมัยม.ต้นก็ตั้งทีมเต้น เต้นเรื่อยมาเพื่อรอที่จะได้พบกับโอกาส แล้วโอกาสก็ได้เข้ามาโดยบังเอิญ
เมื่อได้พบกับแมวมองที่ถนนอับจูกอง จากนั้นก็ได้เข้ามาเป็นเด็กฝึกหัด ผมได้เรียนรู้อะไรมากมายจากการฝึกอย่างหนัก
แต่กลับไม่มีวี่แววของผลแห่งควมพยายามนั้นให้เห็น.....
จนต้องเผชิญกับความผิดหวังและการทดสอบมากมายจากความรู้สึกที่กังวลต่ออนาคตของตัวเอง
อีทึก- นี่ ~ทงเฮ ~ยุนโฮ วันนี้มันวันแข่งแบ่งรอบตัดเชือกไม่ใช่เหรอ?
วันนี้ไม่ว่าจะซ้อมจะอะไรก็หยุดไว้ก่อน ไปเชียร์บอลดีกว่า?
ยุนโฮ- ใช่ๆๆๆ วันนี้ซ้อมต่อไปก็เหนื่อยเหมือนเดิม จริงๆนะ พวกเราวันนี้ไปเที่ยวดีกว่า
อีทึก- เอ่อ แต่ว่านะ แล้วจะไปไหนหล่ะ นายมีที่ไปเหรอ?
ยุนโฮ- อ่า ...ก็จริงนะอืม คิดๆดูพวกเรามีที่ให้ไปเหรอ อ่า..งั้นดูที่ห้องออฟฟิสเป็นไง?
อีทึก- อ่า ก็ดีเหมือนกัน....ไม่มีที่จะไปจิงๆอ่านะ
ยุนโฮ- อยู่ไหนนะห้องทีวี....นี่ๆพวกเรามาสั่งจาจังเหมี่ยนมากินไปดูไปกันดีกว่า!!
...แทฮันมิคกุค!!~ จ้า! จ้า! จ้า! (เกาหลีสู้ๆๆ!!~ เย้! เย้! เย้!)
อีทึก- อ่า แต่ทำไมง่วงอย่างเงี๊ย? เดี๋ยวของีบแปบ แล้วค่อยมาเชียร์ต่อหละกัน.....ZZZZZZZZZ
ยุนโฮ- อ่า...พี่จองซู...พี่ๆๆๆ
อีทึก- อา~
ยุนโฮ- บอลจบแล้วพี่!! เกาหลีแพ้อีกต่างหาก
อีทึก- ห๊า! จบแล้วเหรอ?
ยุนโฮ- พี่บอกจะนอนแปบเดียวแท้ๆ แต่นี่พี่หลับไปตั้ง3ชั่วโมงกว่าๆแหน่ะ...สงสัยพี่จะเหนื่อยเพราะซ้อมมาหล่ะมั๊ง
อีทึก- อะไรนะ? ...3ชั่วโมง?
.......ปี2002ที่ไม่ว่าใครต่อใครก็สนใจอยู่กับการแข่ง ฟุตบอลเวิลด์คัพ
แต่ผมนั้นทุ่มเทพลังทั้งหมดไปกับการฝึกซ้อม แม้แต่การแข่งรอบตัดเชือกยังอดดูเพราะเหนื่อยจากการซ้อมหนัก
ผม ทงเฮ ยุนโฮ พวกเราสามคนที่ดูบอลรอบตัดเชือกอยู่บนความฝันและความจริง
ทำยังไงถึงจะลืมช่วงเวลานั้นไปได้นะ ตัวผมหลังจากวันนั้นฝึกซ้อมจนกระดูกแทบหัก ...แต่ยังพบแต่เรื่องแย่ๆเรื่อยมา
SM- นี่ ปารค์จองซู นายทำได้แค่นี้เองเหรอ!!
อีทึก- ไม่ใช่นะฮะ คือ....
SM- นายคิดว่าเป็นอย่างนี้จะเป็นนักร้องได้เหอะ? ไม่เห็นเด็กที่เขามาจากไม่ได้อะไรเลยจนมาได้งั้นเรอะ
...นาบนะจะฝึกหัดไปทั้งชีวิตหรือไง??
อีทึก- อ่า...คือ พี่ฮะ
SM- นายนะถ้ายังเป็นอย่างนี้ เลิกไปเลยซะดีกว่า ต่อให้ไม่ใช่นาย ก็ยังมีเด็กที่ทำได้อยู่อีกเยอแยะ ม่มีนายสักคนก็ไม่เป็นอะไรหรอก...
ในเวลาที่ถูกว่าแบบนี้ไม่รู้ต้องร้องไห้ไปเท่าไร
ยิ่งคนปกติก็ร้องไห้แบบผม ในเวลาแบบนี้มีหรือที่จะทนได้
ต่อให้กัดฟันทนขนาดไหน..แต่สุดท้ายก็ไม่เคยเก็บมันไว้ได้
ในตอนที่เพลง Hug ของดงบังชิกิ ที่ฝึกซ้อมมาด้วยกัน ขึ้นอันดับ1
ความทุกข์ยิ่งโหมกระหน่ำเข้ามา....
จุนซู- อ่า...พี่จองซู
อีทึก- จุนซู!!~ เห็นในทีวีได้ที่1 ยินดีด้วยนะ
จุนซู- อืมม...พี่ฮะ พี่ก็กำลังเตรียมตัวอยู่ใช่ไหม
อีทึก- แน่นอน
ทันที่ทีวางโทรศัพท์....น้ำตาก็ไหลออกมา
เวลานั้นก็นึกขึ้นได้ว่า เช่าวีดีโอหนังดราม่า มา
จึงเปิดดูวีดีโอไปแล้วโทษหนังมันเส้า....เลยร้องห่มร้องไห้ไปกับหนัง
วันรุ่งขึ้นตาบวมเป็นนกฮูก.....แต่แล้วโอกาสก็ก้าวเข้ามาหาผม การเตรียมอัลบั้ม
ในฐานะของ Super Junior ก็ได้เริ่มขึ้น
ในตอนที่ฝึกซ้อม ใช่จะแค่ฟอร์มทีมฝึกไป แล้วออกอัลบั้มก็เป็นดี
ความลำบาก ...มันได้ถาโถมเข้ามาแต่ต้น
SM- นี่! อีทึก อึนฮยอกกับเยซอง อยู่ไหน?
อีทึก- ครับ?
SM- เจ้าพวกนั้นตอนนี้ไม่อยู่ที่ห้องซ้อมนี่
อีทึก- อ่า...ใช่จริงๆด้วย เมื่อกี้ก็อยู่นะฮะ สงสัยไปเข้าห้องน้ำมั้งครับ?
SM- นีนาย....เคยคุยกันแล้วไม่ใช่เหรอว่า ถ้าได้สมาชิกครบแล้วทั้งหมดนั้นนะคือ ความรับผิดชอบของนาบ
ต้องดูแลสมาชิกนะ เข้าใจไหม
อีทึก- ผมขอโทษครับ
ตำแหน่งลีดเดอร์ ไม่ใช่เรื่องสนุก
เพราะว่าเป็นลีดเดอร์ เป็นพี่ใหญ่....ต้องพบกับความลำบากเผื่อไปถึงส่วนของเพื่อนสมาชิก จนความรู้สึกค่อยๆก่อตัวขึ้น
ทั้งๆที่ผมไม่ควรจะทำอย่างนั้น แต่ก็มีบางเวลาที่ผมเผลอนิสัยไม่ดีใส่สมาชิกคนอื่น
....แต่ในที่สุดพวกเราก็สามรถรวมตัวกับเป็นวงไอดอลทั้ง 12 คน และขึ้นเปิดตัว.....
อีทึก- ทุกคนมั่นใจมั้ย?
สมาชิก- แน่นอน!! จำได้ไหมพวกเรามาถึงวันนี้ได้ยังไง
อีทึก- เอ้า งั้นวันนี้ต้องพยายามให้เท่ากับที่ผ่านมาเลยนะ ใช่ม้ย? ..SUPER JUNIOR ...Figthing!!
พอลงจากเวทีเปิดตัวนั้น พวกเราทั้ง12คนร้องไห้กอดคอกันยกใหญ่
น้ำตาในวันนั้น จะเป็นน้ำตาที่ไม่มีอีกบนโลกเป็นครั้งที่สอง
ผมยังจำน้ำตาวันนั้นได้ดี เหล่าสมาชิกก็เช่นกันไม่มีใครลืมน้ำตาในวันนั้นกันได้
มีคำพูดที่ว่า...เวลาและความพยายามไม่เคยทรยศใคร
มันก็เหมือนกับวันเวลาที่เราได้พยายามมาจนถึงวันนี้
อนาคตที่สดใสกำลังรอพวกเราอยู่
ตอนนี้มันยังแค่เริ่มต้น
ผมอีทึก....ลีดเดอร์แห่ง วง Super junior
.........
Credit : Korean Text by gksmftlsql@BABY
Japanese Taxt by yume@ http://kr2jp.blog54.fc.com/
Thai Translation by didy@ LoveveU Super Junior
ความคิดเห็น