ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อาณาจักรเล็กๆในตู้หนังสือ (รีวิวหนังสือ)

    ลำดับตอนที่ #55 : รีวิว...กระบี่กล้าจันทราเรือง 大漠荒颜・帝都赋 : ชางเยวี่ย (แนว Chinese Period)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 782
      8
      14 ก.ค. 59



    กระบี่กล้าจันทราเรือง

    大漠荒颜・帝都赋

     

    ผู้เขียน : ชางเยวี่ย 沧月

    ผู้แปล : Wisnu

    สำนักพิมพ์แจ่มใส (มากกว่ารัก)

     

    คำโปรยปกหลัง

    เวลาสิบปีไม่อาจฝังกลบความทรงจำที่สลักลึกในใจ...

    เขาไม่อาจลืมมันเช่นเดียวกับที่บาดแผลหนึ่งไม่อาจรักษาให้หายขาด คอยตอกย้ำให้เขานึกถึงภาพเหตุการณ์สุดพรั่นพรึง บดขยี้และบีบคั้นหัวใจจนนับวันเขายิ่งคล้ายคนสติฟั่นเฟือนเข้าไปทุกที

    อำนาจและความมั่งคั่งล้วนอยู่ในกำมือเขาแล้ว กระทั่งความเป็นความตายของผู้คนนับหมื่นก็เช่นกัน แต่เขาหาได้สนใจสิ่งเหล่านี้แม้แต่น้อย เพราะสุดยอดปรารถนาของเขาก็คือนาง สตรีผู้ฝากรอยแผลกลางหน้าอกนี้และหวนกลับมายืนเบื้องหน้าเขาอีกครั้งในฐานะศัตรู!...




    กรีดร้องงงงงงงงงงงงงว์ ทำไมนาตนงเพิ่งได้อ่านเรื่องนี้ (คุ้ยกองดองมาชัดๆ) เรื่องของเรื่องค่ะ นิยายเล่มนี้ปกสวยถูกจริต แต่ช่วงที่มันออกมาใหม่ๆ น้านนนนน คนอ่านไม่ชอบเยอะมาก นาตนงก็เลยยังไม่อ่านปล่อยผ่านมานาน จนเพิ่งได้อ่านจบไป อุกรี๊ดดดด!!!! นาตนงควรอ่านเร็วกว่านี้ เสียใจ!!!!! ควรได้หยิบนิยายตรงจริตที่ปกสวยโดนใจมารีวิวตั้งนานมาแล้ว

    บอกเลยนะคะ...คอนิยายรักที่ต้องการความรักจากเรื่องนี้ ย้ำ...คนที่ต้องการเรื่องความรักระหว่างชายหญิงจากเรื่องนี้ควรปล่อยเบลอค่ะ เพราะความรักน้อยมาก น้อยจนแทบไม่มีสิ่งที่เป็นการแสดงออกถึงความรัก แต่ว่าอ่านแล้วสามารถเข้าใจและสัมผัสถึงความรักระหว่าง ซาม่านหวาและซูเยี่ยได้ค่ะ

    นิยายเรื่องนี้เป็นงานกำลังภายในผสมแฟนตาซีที่เน้นเรื่องมิตรภาพและการชิงไหวชิงพริบค่ะ ทุกคนต่างเป็นหมากของผู้มีอำนาจ ทั้งยังเป็นหมากของกันและกันด้วย ทุกตัวละครจึงมีสีเทาอ่อนแก่แตกต่างกันไป เนื้อหาของเรื่องมีความดราม่าหนักพอสมควรค่ะ บอกเลยว่าชอบมากๆ เพราะเป็นดราม่าที่สมเหตุสมผล สิ่งที่เกาซูเยี่ยต้องเลือกคือความรัก กับความรับผิดชอบ มันรู้สึกว่ากระแทกใจมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก มันให้ความรู้สึกแบบโอ๊ย ทำไมต้องบีบคั้นกันขนาดนี้ ว้อททททททท? ซูเยี่ยทำอะไรผิด ไม่นะม่ายยยยย ไม่เลือกได้มั้ย แต่ก็นะนิยายอะ (อินไปม้ายยยย)

    สำหรับเรื่องนี้ผู้เขียนดำเนินเรื่องเร็วและกระชับมากค่ะ ด้วยความที่ประเด็นมันเยอะ ทั้งลัทธิจรัส เมืองตุนหวง เมืองหลวง ลิทธิบูชาจันทรา...มิตรภาพ บุญคุณ ความรัก ความแค้น พี่น้อง นายบ่าว อาจารย์ลูกศิษย์ คือเรื่องราวมันเยอะมากจริงๆ กว่าที่พระเอกกับนางเอกจะได้ลงเอยกันนี่ อุปสรรคครั้งแล้วครั้งเล่า ความพลัดพรากครั้งแล้วครั้งเล่า มันสาหัสจริงๆ ค่ะ แต่ผู้เขียนสื่อออกมาได้ดีมากค่ะ ทุกอย่างวางไว้เป็นขั้นตอน และมีความซับซ้อนในคาแรคเตอร์ ทำเดาทางได้บ้างไม่ได้บ้าง และแม้ว่าจะเขียนให้เดาบางอย่างได้ก็ตามเถอะ แต่ปมที่เฉลยซ้ำในความเดาได้นั้นกลับรู้สึกว่า มันสนับสนุนเรื่องราวได้ดีทีเดียว

    อย่างที่บอกค่ะ เมื่อเรื่องนี้ประเด็นมันเยอะ ทั้งยังเป็นแนวกึ่งรักกึ่งกำลังภายในผสมแฟนตาซีมันเลยทำให้คอนิยายรักอาจจะปรับตัวไม่ทัน ทั้งยังตามประเด็นไม่ทันด้วยเรื่องมันดำเนินไปเร็วไม่มีความอาวรณ์ร่ำไรใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งพอมันเป็นแบบนี้บางจุดนาตนงยังตามไม่ทันเลยว่าอะไรยังไง ก็ต้องย้อนกลับมาอ่านใหม่ (ฮาาาาาาา) แต่ถึงกระนั้นก็อ่านจบเล่มไป 2 รอบแล้วค่า จะว่ายังไงดีล่ะ มันจะดูอวยไปมั้ยเนี่ย คือนาตนงชอบอะ ชอบความหนักของเรื่องและเหตุผล และการวางแผนที่กล้าแลก กล้าได้กล้าเสีย อย่างซูเยี่ยนี่ก็ยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อความรักที่ตนเองปรารถนามาโดยตลอด ส่วนโม่เซียงก็ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ ทุกคนแบบสุดตัวมากเพื่อความปรารถนาของตนเอง จนมันมีความรู้สึกว่า เมื่อสมปรารถนาแล้วชีวิตจะเป็นยังไงล่ะ คุ้มไหมที่แลกมา ชีวิตเพื่อรัก ชีวิตเพื่อแค้น ชีวิตเพื่ออำนาจ อ่านจบแล้วนาตนงอยากถามโม่เซียงเลยนะว่า เหนื่อยไหม พอหรือยัง คุ้มเหรอ แต่ก็นะ นิยายมันจบแล้วอะ อยากให้มีต่ออีก แต่ได้ข่าวว่าแจ่มไม่แปลเล่มอื่นๆ ในเซ็ตแล้ว เสียใจมากนะบอกเลย T^T

    สรุปค่ะสรุป...เรื่องนี้สำหรับนาตนงแล้วพอใจมากทั้งเนื้อหา ความเข้มข้น และสำนวนแปลซึ่งมันกำลังพอดีพองาม สามารถดึงอารมณ์ร่วมของผู้อ่านได้ ขอให้สัก 9/10 คะแนนมันจะดูลำเอียงไปไหม แต่ก็นั่นแหละ ฮ่าๆๆๆๆๆ ชอบอะ อยากอ่านแบบนี้อีก คือย้ายไปออกกับเอ็นเทอร์ก็ได้นะ แต่คืออยู่กับแจ่มแล้ว ปกสวยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก จะเอาๆๆๆๆ หากใครชอบนิยายสไตล์หวานน้อยๆ เข้มข้นมากๆ ลองดูค่ะ เรื่องนี้อาจตอบโจทย์คุณ



    .
    .
    .
    .
    .

    ตามธรรมเนียมค่ะ...เรื่องไหนชอบมาก นาตนงสปอยล์แหลกกกกก ฉะนั้นเรื่องนี้ก็มิรอดนะค้าาาาา เข้าเรื่องกันเลยดีกว่าเนาะ

    กระบี่กล้าฯ แบ่งเรื่องราวออกเป็น 2 พาร์ทค่ะ คือ เปลวทรายพรายแสง และ ร่ายนครจักรพรรดิ ซึ่งพาร์ทแรกเป็นการบอกเล่าถึง เกาซูเยี่ยในตอนที่เป็นเจ้าเมืองตุนหวง ซึ่งเป็นเจ้าเมืองที่ขึ้นชื่อในความโหด เหี้ยม อำมหิต ชนิดที่ว่าฆ่าคนของลัทธิจรัสได้แบบเลือดเย็นมาก แต่ก็นะ ลิทธิจรัสนี่มันสุดๆ ไปเลยเช่นกัน ดูเป็นแบบลัทธิมารที่สร้างคนให้คลั่งลัทธิแบบสุดโต่งสุดตัว  ตันหวงนี่เป็นด่านแรกที่จะป้องกันไม่ให้คนของลัทธินี้เข้าสู่เมืองหลวง เกาซูเยี่ยจึงใช้ความเด็ดขาดเข้าสู้ ทว่าคนที่มาเยือนตุนหวงกลับเป็นซาม่านหวานางในดวงใจของซูเยี่ยที่เขาทั้งรัก ทั้งแค้น ทั้งรอคอย ในพาร์ทนี้ความดีงามสุดๆ ที่นาตนงโคตรประทับใจคือมิตรภาพระหว่างเกาซูเยี่ยและโม่เซียง สหายร่วมเป็นร่วมตายเมื่อครั้งที่ทั้งคู่ถูกจับไปอยู่ในลัทธิจรัส

    ตอนที่อยู่ในทะเลทรายแล้วซูเยี่ยกำลังจะได้พบกับซาม่านหวาที่เขารอคอยมาถึง 10 ปี มันกลับมีข้อแม้ให้เขาต้องเลือก ทั้งเมืองของเขา ทั้งเพื่อนของเขาที่กำลังบาดเจ็บสาหัส คือ ถ้าอ่านมาถึงตรงนั้นจะรู้เลยว่า เกาซูเยี่ยมีชีวิตเพื่อรอคอยซาม่านหวา เท่านั้น จุดมุ่งหมายของชีวิตเขาอยู่แค่เอื้อมแต่สุดท้ายเขาก็เอื้อมไปไม่ถึงนาง บีบหัวใจมากกกกก แถมยังทำน้ำตารื้นเอาตอนที่ซูเยี่ยกลับมาเจอน้องชายที่เรียกเขาว่าพี่ใหญ่อีก คำพูดของโม่เซียงกินใจมาก เพราะตอนแรก ซูเยี่ยไม่พอใจที่น้องชายของเขาที่กลับมาถึงตุนหวงนั้นไม่เป็นอย่างที่คาดหวัง แถมไปโวยโม่เซียงอีกว่าอบรมน้องเขามายังไงทำไมถึงดูเป็นคนดีเกินไป ทั้งเป็นคนที่กล้าหาญ ตรงไปตรงมา แม้จะมีความแค้นกับซูเยี่ยอย่างเต็มเปี่ยมแต่ก็ยังมีความอ่อนโยนอยู่ในบุคลิก แต่พอฟังเฉลยจากโม่เซียงเท่านั้นละ จุกไปเลยข่าาาาาาา

    โม่เซียงกล่าวว่า.... “ตอนนี้เจ้าคงรู้แล้วสินะว่า ทำไมข้าต้องอบรมเขาให้เป็นคนเช่นนี้...........เพราะมีเพียงคนเช่นนี้ ถึงจะสามารถกลับมาเป็นพี่น้องกับเจ้า”

     

    ในพาร์ทที่ 2 ร่ายนครจักรพรรดิ เป็นการกล่าวถึงเรื่องราวหลังจากซูเยี่ยหายตัวไปจากตุนหวง และโม่เซียงขึ้นเป็นผู้สำเร็จราชการในองค์จักรพรรดิ ต้องบอกว่าพาร์ทนี้จัดหนัก จัดเต็มมากเพราะเป็นลัทธิจรัสได้งอกเงยในเมืองหลวงอย่างเต็มขั้นและเตรียมการก่อกบฏหวังยึดครองเมืองหลวงให้ได้  คือมันเล่ายากมาก เพราะทุกตัวละครที่ไม่ใช่พระเอกและนางเอก ล้วนใช้เล่ห์เหลี่ยมเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ตนเองปรารถนา แต่สุดท้ายแล้วผู้มี่วางหมากได้อย่างลึกซึ้งที่สุดก็โม่เซียงสหายรักของพระเอกนั่นเอง พาร์ทนี้ค่อนข้างทึ่งกับฉากต่อสู้ และกลยุทธ์ในการเอาชนะศัตรู ที่มันผสมผสานความแฟนตาซีไว้แบบเจ๋งอะ คนเขียนต้องวางแผนอย่างดีมากเพื่อให้เรื่องราวและทุกๆ อย่างมันเชื่อมโยงกัน

     เอาจริงๆ นะ พาร์ทนี้นาตนงแอบรู้สึกว่าเจ้าลัทธิจรัสแพ้ง่ายไปหน่อย แต่คือคนเขียนดันสร้างคู่ปรับที่เป็นปุโรหิตของลัทธิจันทราได้ดีมากอะ สร้างได้เก่งและโดดเด่นไม่ใช่คนธรรมดา มันเลยรู้สึกว่าถึงจะพ่ายแพ้ง่าย แต่มันก็สมเหตุสมผลแค่เพียงแต่เขาไม่ได้เล่าการต่อสู้ของทั้งสองอย่างชัดเจนเท่านั้นเอง พาร์ทนี้จุดประทับใจมีเยอะมาก โดยเฉพาะความสัมพันธ์และเชื่อใจระหว่างโม่เซียงกับคนสนิท คือพูดเลยว่าโม่เซียงเอาชีวิตไปวางไว้ในมือคนที่ไว้ใจไม่ได้ด้วยซ้ำ ซึ่งมันก็เป็นเดิมพันที่เสี่ยงเอามากๆ แต่ผลที่ได้มันก็คุ้มค่า และหลังจากที่โม่เซียงแลกอะไรไปเยอะ สุดท้ายแล้วการเดินหมากมาทั้งหมดของโม่เซียงก็ยังต้องพึ่งพามิตรภาพของซูเยี่ย ที่ผูกพันกันมาเนิ่นนานอยู่ดี มันเลยเน้นย้ำว่าเรื่องราวนี้เน้นมิตรภาพและคุณธรรมของน้ำมิตร ในตอนจบซูเยี่ยบรรลุเป้าหมายในที่สุด แม้ว่าสำหรับซาม่านหวาแล้วเขาจะกลายเป็นคนแปลกหน้า แต่เขาก็ยินดีที่จะรักนางและเริ่มต้นใหม่ไปด้วยกัน ส่วนโม่เซียงหลังต้องแลกหลายสิ่งแล้วเขาสมปรารถนาในแบบที่ต้องการ เรื่องราวมันจึงจบสมบูรณ์ในแบบของมันอะ ไม่ได้ถึงกับสุขนิยมแต่ก็สมหวังนะ

    สุดท้ายแล้วนาตนงเลือกสปอยล์เฉพาะจุดที่ชอบค่ะ ซึ่งในเรื่องเนื้อหาย่อยมีเยอะกว่านี้มาก เอาเป็นว่ายังคงยืนยันว่าชอบเล่มนี้มาจริงๆ ^____^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×