คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : ทัศนศึกษา 2 RW
ตอน 20
ฉันพาอิบูกิ ไปรออยู่หน้ารถบัสขนาดกลาง
ซึ่งเป็นที่นัดรวมตัวของชั้นปีเรา ตอนนี้ฉันเห็นเด็กมาแล้วประมาณ สิบกว่าคน
หนึ่งในนั้น ก็มี ท่านมิกิ อยู่ด้วย
เธอกำลังนั่งคุยกับเด็กผู้หญิงใส่แว่นที่อยู่ห้องA เห็นแบบนั้นแล้วฉันก็ดีใจค่ะ อย่างน้อย เธอก็มีเพื่อนที่ดูเรียบร้อยน่ารัก
ไม่ได้มีกลุ่มเพื่อนเกเรอย่างคิริฮาระ หึ พอคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ฉันยังโมโหไม่หาย
กับท่าทางเอื่อยเฉื่อย แล้วก็ไอ้แววตาเยาะเย้ยคนที่อยู่ต่ำกว่าของคิริฮาระ
อารมณ์ฉันเริ่มครุกรุ่น หากมันก็ถูกขัดด้วยเสียงสดใสของฟุรุคาว่าเสียก่อน
“ สวัสดี อิบูกิ ซากุระ” ฟุรุคาว่า โบกไม้โบกมือมาแต่ไกล เขาวิ่งมาพร้อมกับกระเป๋าเป้ขนาดใหญ่
ที่พ่วงท้ายด้วย ขวดน้ำพลาสติก เจ็ดแปดขวด เสียงกระทบของขวดน้ำเปล่าทำให้
ฉันรู้สึกรำคาญ แกมสงสัยจึงต้องเอ่ยปากถาม
“ ฟุรุคาว่า
นายพกขวดน้ำเปล่ามาทำไม กะจะตุนน้ำสำรองไว้เหรอ
” ฉันชี้ไปที่ขวดพลาสติกที่ใช้เส้นเชือกห้อยไว้ตรงหูหิ้วของกระเป๋า
“ เปล่า คืองี้ ฉันแอบรู้มาจาก ‘รุ่นพี่คนสนิท’ ว่าตอนกลางคืนที่นั่นจะดูน่ากลัวจนไม่อยากออกจากห้องเลยแหละ
” ฟุรุคาว่ายังไม่ทันพูดจบ เขาก็ถามฉันด้วยความเป็นห่วง
“ ซากุระ เธอไม่สบายเหรอ ” เอิ่ม จริงๆฉันก็สบายดีอยู่ค่ะ
แต่พอได้ยินคำว่า ‘รุ่นพี่คนสนิท’ หน้าตาฉันคงดูเจ็บปวดออกมา
จนขนาดฟุรุคาว่ายังสังเกตเห็นได้ โฮ ฉันว่าความรู้สึกนี้มันต้องเรียกว่า ความอิจฉาแน่ๆ ทำไมทุกคนมี รุ่นพี่คนสนิทกันคะ! ทั้งริเอะ
มิโดริ แล้วก็ฟุรุคาว่า ฉันอยากมีบ้างอะค่ะ
“ เปล่า ฉันสบายดี
นายยังพูดไม่จบเลย พูดต่อสิ ” ฉันรีบสลัดความรู้สึก ‘อยากมีอยากได้’ ทิ้งไป
“ เฮ้ย ฮิโรชิ ฉันมีของจะให้นาย
เอาไปสิ ” ฟุรุคาว่ายังไม่ทันได้ตอบคำถามฉัน
ตัวเขาก็รีบกวักมือเรียกท่านฮิโรชิ ที่เพิ่งเดินมาถึง
ฉันไม่ได้เห็นท่านฮิโรชิ แบบเต็มๆตา
มาหลายเดือนแล้วค่ะ
มาวันนี้เลยเห็นท่านดูแปลกตาไปสักหน่อย
อาจจะเป็นเพราะทรงผมที่ดูแตกต่างจากเดิม สงสัยมันคงยาวเพิ่มขึ้นมา หรือว่าสั้นลงไป
ฉันก็ไม่แน่ใจ รู้แต่ว่า มันทำให้ใบหน้าท่านดูละมุน นุ่มนวลกว่าปกติ….‘เล็กน้อย ’
“ มันคืออะไร ” ท่านฮิโรชิหยิบขวดน้ำพลาสติกใบเปล่า
ขึ้นมา เขาลองเขย่าเบาๆเพื่อดูว่าข้างในมีน้ำอยู่หรือเปล่า
หน้าตาท่านดูสงสัยมากเลยค่ะ
“ อ้อ อันนี้ไว้สำหรับเวลานายปวด ‘ฉี่’ ตอนกลางคืนไง
ฉันได้ยินมาว่าห้องน้ำที่นั่นตอนกลางคืนน่ากลัว ไม่มีไฟ ต้องใช้เทียนไขจุดเอา
ฉันเลยคิดว่า ใช้ขวดน้ำนี่แหละดีที่สุด ” ฟุรุคาว่า
อธิบายสรรพคุณของขวดน้ำพลาสติกที่เอาให้ท่านฮิโรชิอย่างภาคภูมิใจ เอิ่ม
ฉันเริ่มเห็นขีดดำสามเส้นบนใบหน้าท่านอีกแล้วค่ะ
“ ส่วนนี่ ก็เป็นฝาพลาสติกสำรอง
เผื่อนายทำฝาเดิมมันหาย เวลานายฉี่เสร็จ จะได้ไม่ต้องกลัวหก เก็บไว้สิ ” ฟุรุคาว่าพูดไปด้วยก็ควานหาฝาพลาสติกสำรองในกระเป๋าเป้ใบใหญ่ของเขาโดยไม่สังเกตเห็นใบหน้าของท่านฮิโรชิ
ที่ดูจะดำทะมึนขึ้นมาอีกระดับ
“ ซากุระ กับอิบูกิ
ไม่ต้องน้อยใจไป ฉันก็เอามาเผื่อพวกนายแล้ว ” ฟุรุคาว่ายื่นขวดน้ำพลาสติกมาให้อิบูกิคนแรก
“ ขอบใจ ” อิบูกิยิ้มรับแบบอายๆนิดหน่อย
หึ หึ อิบูกิ ฉันดูออกนะ ว่านายไม่อยากได้ไอ้ขวดพลาสติกนี่เหมือนกัน
“ ส่วนขวดนี้ของเธอ
ฉันรู้ว่าเธออาจไม่มีใครให้ปรึกษาถามข่าวคราวเหมือนพวกเด็กผู้หญิงในห้อง
ฉันเลยเตรียมมาเผื่อเธอโดยเฉพาะ”ฟุรุคาว่า ยืนขวดพลาสติก
ซึ่งปากขวดเล็กนิดเดียวให้ฉัน
“……” ตอนนี้หน้าฉันคงมีแถบดำ
ขึ้นตรงหน้าเยอะกว่าท่านฮิโรชิแน่นอนค่ะ เขาเอาอุปกรณ์ไม่เหมาะสมมาให้ฉัน
แถมยังแขวะฉันอย่างไร้สำนึกอีกด้วย ……..ฟุรุคาว่า ฉันเป็นเพื่อนเล่นนายเหรอคะ! @##$*()%$ คำไม่สุภาพขอไม่บรรยายนะคะ
ฉันนิ่งอึ้งไปสักพักค่ะ
ไม่ยอมรับขวดน้ำพลาสติกให้มาเป็น ‘สัมภาระอันไร้ค่า’ ซึ่งมันใช้การไม่ได้สำหรับฉัน
ฉันมองลึกเข้าไปในดวงตาของฟุรุคาว่า เพื่อดูว่าเขากำลังกลั่นแกล้งฉันอยู่หรือเปล่า
แต่ไม่เลยค่ะ สายตาเจ้าลิงน้อยจริงใจสุดๆ ตอนนั้นเองที่ภาพลักษณ์คุณชายของเขาได้หายวับไปกับตา
ฉันคิดว่าเด็กรวยๆ อย่างน้อยพวกเขาก็ต้องมีอุปกรณ์แบบเล่นใหญ่ไฟกระพริบที่มันคงดู ‘ไฮโซ’ มากกว่าขวดน้ำพลาสติกใช่ไหมคะ!
ไอเดียของคุณชายฟุรุคาว่า ได้มาจากไหนกันคะเนี่ย และที่สำคัญเขาคงไม่ได้คิดว่าฉันมีพริกน้อยเหมือนพวกเขาใช่ไหม!
ถึงจะได้บังคับเส้นทางไม่ให้เรี่ยราดได้
และก่อนที่ฉันจะได้พูดปฎิเสธออกไป
ฉันก็ได้ยินเสียงหัวเราะของท่านฮิโรชิที่อยู่ข้างๆ ฟุรุคาว่า
จริงๆเขาก็พยายามปิดปากหัวเราะแบบเงียบๆแล้วนะคะ แต่มันคงกลั้นไม่ไหวจริงๆ
เสียงหัวเราะเลยดังออกมา เพิ่งเห็นท่านฮิโรชิ หัวเราะแบบสะใจขนาดนี้เป็นครั้งแรก
แต่ ฉันไม่โกรธท่านหรอกค่ะ เพราะท่านคงไม่ได้หัวเราะฉันใช่ไหมคะ!?
“ หัวหน้าห้องแต่ละห้อง
มาเอาใบเช็คชื่อเพื่อนในห้อง เพื่อดูว่ามากันครบแล้วนะคะ ” คุณครูคนหนึ่งพูดขึ้น
ทำให้เรื่องราวก่อนหน้าจบลงไปโดยปริยาย ท่านฮิโรชิ ฉัน และ
เด็กผู้หญิงผมยาวตัวเล็กๆอีกคน ก็ออกมาเอาใบเช็คชื่อไปให้เพื่อนๆในห้องเรียนของตัวเองลงทะเบียน
ตอนที่ฉันกำลังทำหน้าที่อยู่นั้น
ตัวฉันก็แอบเหล่ไปทางกลุ่มเด็กผู้ชาย 5 คนซึ่งแน่นอนว่าสองคนในนั้น
ก็ต้องมี คาซึโตะ กับคิริฮาระ อยู่ด้วย
โดยเด็กผู้ชายอีกสามคนกำลังส่งเสียงดังน่าหนวกหูมากเลยค่ะ
แถมบางครั้งฉันก็ได้ยินคำหยาบคายหลุดมาด้วย
ในส่วนของคาซึโตะ ฉันไม่ค่อยกังวลกับเขาเท่าไหร่
เพราะนิสัยดั้งเดิม เด็กคนนี้ก็เป็นประมาณนี้อยู่แล้ว คือแบบ
ดูเกเรแต่ไม่อัพเกรดเท่ากับสามคนนั้น
เอ๊ะ!? ฉันคิดกับคาซึโตะแบบนั้นจริงๆเหรอคะ เพิ่งรู้ตัวเอง แต่เอาเป็นว่า
ไม่ค่อยน่าเป็นห่วงเพราะดูท่าทางแล้วเจ้าหมูน้อย ก็พอมีความคิดความอ่านของตัวเอง
ผิดกับคิริฮาระ
ที่ฉันเห็นเขาตั้งแต่ตอนยังเป็นหนุ่มน้อยติดหุ่นยนต์อยู่เลย
เขาดูเป็นคนเงียบๆ ขี้อาย และสุภาพ
การที่นิสัยของเขาเปลี่ยนไปเป็นเด็กก้าวร้าวมากขึ้น รังแกคนที่อ่อนแอกว่า
ฉันคิดว่ามันเป็น เพราะคิริฮาระอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ย่ำแย่แบบนั้น
ในห้องซึ่งมีเด็กผู้หญิงแค่สองคน
ส่วนที่เหลืออีกห้าคนเป็นเด็กผู้ชาย แน่นอนว่าคิริฮาระ
หนุ่มน้อยแรกรุ่นซึ่งไม่ได้มีจิตใจเอนเอียงไปทางผู้หญิง
ย่อมต้องอยากอยู่ในกลุ่มเด็กผู้ชายอยู่แล้ว และการที่เขาจะเข้ากับกลุ่มเพื่อนเกเรพวกนั้นได้
เขาคงต้องปรับตัวอย่างมาก เพื่อไม่ให้หลุดออกนอกกลุ่ม และมันน่ากลัวตรงที่ว่า ‘ความต้องการเป็นที่ยอมรับในหมู่เพื่อน
’ ของคิริฮาระนี่แหละ ที่ทำให้ฉันอดเป็นห่วงไม่ได้
ว่าเขาอาจจะหลงไปในทิศทางที่ไม่ถูกไม่ควร
อย่างที่ผู้ใหญ่มักจะพูดกันว่าเด็กคือผ้าขาว ซึ่งซึมซับสิ่งต่างๆ ทั้งดีและไม่ดีได้ง่าย
แต่ฉันจะไม่ยอมให้ผ้าขาวอย่างคิริฮาระมาแปดเปื้อนเพราะไอ้เด็กพวกนี้ได้หรอกค่ะ
ฉันจะเป็นน้ำยาซักผ้าของคิริฮาระเอง!
เอิ่ม ฉันเปรียบเทียบตัวเองต่ำต้อยไปไหมคะ
“ มากันครบแล้ว
งั้นนักเรียนค่อยๆทยอยขึ้นนั่งบนรถเลยค่ะ เอาแต่ของมีค่าติดตัวไป ส่วนกระเป๋าสัมภาระติดชื่อของตัวเองให้เรียบร้อย
เดี๋ยวจะมีคนเอาเก็บไว้ในรถให้ค่ะ ” คุณครูคนเดิมพูดจบ
เสียงดังโวกเวกโวยวายก็เกิดขึ้น ดูทุกคนจะตื่นเต้นกันมากๆ
คนที่มีเพื่อนสนิทเป็นคู่ ก็ดีไป จะได้นั่งคู่กัน ส่วนคนที่เป็น เศษคี่
แบบฉันทำไงอะคะ ฉันไม่ได้อยากนั่งใกล้คุณครูที่มาคุมรถหรอกนะ
แต่เป้าหมายฉันอยู่ไม่ไกลหรอกค่ะ ฉันเห็นผมทุยสีน้ำตาลอ่อนเด่นมาแต่ไกล
คิริฮาระกำลังเดินอยู่ในกลุ่มเพื่อนของเขา โอ๊ะ ฉันสบสายตากับเขาแล้วค่ะ หืมมมมมมม
หลบสายตาเหรอคะ!
รังเกียจฉันขนาดนั้นเชียว สวนหมัดไปเบาๆแบบนั้น ยังมีเคืองด้วยอ่ะ แต่ฉันไม่สนใจคิริฮาระที่ส่งสัญญาณทางร่างกายบอกกับฉันประมาณว่า
‘ ไปให้พ้นๆหน้าฉัน
ไอ้พวกชอบใช้กำลัง! ’ ฉันจึงเดินเข้าไปหาคิริฮาระที่อยู่ท่ามกลางเด็กผู้ชายเหล่านั้น
“ เฮ้ย มายืนขวางทางเกะกะ ถอยไป
ไม่งั้นมีเจ็บ ” เด็กหัวเกรียนคนที่หนึ่งพูดขึ้น
มารยาทแย่มาก เห็นฉันเป็นผู้หญิงอ่อนแอไม่มีทางสู้เลยพูดขู่เล่นๆ
เอาหน้าต่อพวกเพื่อนๆเหรอคะ ……ไม่สนค่ะ ที่นี่คนเยอะ
ไอ้เด็กนั่นไม่กล้ารุมฉันแน่นอน สายตาฉันจึงจ้องไปที่คิริฮาระ
และเหมือนเขาจะรู้ว่าฉันมองอยู่ เพราะอยู่ดีๆเขาก็เงยหน้าขึ้นมาสบสายตากับฉัน
แววตาของเขาดูสับสนมากเลยค่ะ ก็เข้าใจหรอกค่ะ ทางหนึ่งก็เพื่อน อีกทางหนึ่งก็ เอ่อ
เด็กผู้หญิงอันธพาลคนหนึ่ง...มั้งคะ
“ หูหนวกหรือไง น่ารักหรือก็เปล่า
สงสัยคงจะเป็นพวกปัญญาอ่อน ฮ่าฮ่าฮ่า ”
เด็กหัวเกรียนคนที่สองพูดขึ้น ไอ้เด็กนั่นคงไม่ได้ยินเสียง ‘เปรี๊ยะ’ จากเส้นเลือดในสมองของฉันแน่นอนค่ะ
แต่ฉันได้ยินชัดเลยอ่ะ ……โฮ คิริฮาระนายเห็นสายตาฉันไหม
ถ้าเห็นก็รีบออกมาไวๆ ถึงฉันจะไม่กลัวเจ้าเด็กหัวเกรียนตัวสูงเท่านายตั้งสามคน
แต่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆแบบฉันก็เกร็งๆอยู่นะคะ
ไอ้ที่ฉันพูดขู่เอาความสะใจว่าจะซ้อมเพื่อนนายอ่ะ ฉันพูดเล่น! อย่ามาทำตัวซื่อบื้อใส่ฉันนะ
“ ซากุระ
เธออย่ามาทำท่าวางอำนาจแถวนี้ ตอนนี้ฉันไม่กลัวเธอแล้ว ไปให้ไกลหูไกลตาเลย
ยัยขี้เหร่ ถอยไป พวกเราจะขึ้นรถ ” คราวนี้ดันเป็นหมูน้อยคาซึโตะ
ที่ฉันเคยเริ่มมองว่าน่ารักค่ะ โฮะโฮะ เจ้าหมูน้อย ตอนนี้กล้าขึ้นมากเลยนะคะเนี่ย
แถมสายตาไม่ดีมากขึ้นด้วย ฉันทำท่าวางอำนาจตรงไหนคะ!? จริงๆแอบเกร็งด้วยซ้ำ
ฉันแค่ยืนทื่อๆ ของฉัน ถ้าอยากขึ้นรถก็เดินหลบอ้อมตัวฉันไปสิ!
ตัวฉันไม่ใช่กำแพงนะคะ
“ ซากุระ เธอรีบขึ้นรถไปเถอะ ”
คิริฮาระดันพูดขึ้นมาตอนที่ทุกคนกำลังเงียบ เสียงเขาเลยดังเป็นพิเศษ
“ นังนี่ชอบแกเหรอ คิริฮาระ งั้นหัวหน้าห้องพวกเราคงอกหักแล้วสิ ฮ่าฮ่า ”
เด็กหัวเกรียนคนที่สามพูดขึ้น อ่า ขัดหูมากเลยค่ะ
ไอ้เด็กนี่กล้าเรียกคุณหนูซากุระ อย่างฉันผู้เป็นทายาทสายตรงของตระกูลอิโนะอุเอะ
ซึ่งรวยอันดับสามของประเทศว่า ‘นังนี่’ เหรอคะ! พวกเด็กหัวเกรียนเป็นลูกคนรวยแน่เหรอมารยาทติดลบมากเลยค่ะ
ฉันมองไปที่คิริฮาระ สายตาฉันส่งไปประมาณว่า ‘นี่เหรอกลุ่มเพื่อนสนิทของนาย’
“ คิริฮาระ ฉันมารอนาย
มานั่งด้วยกันกับฉันเถอะ ฉันไม่มีเพื่อนนั่งด้วย ” ฉันพูดกับเขาดีๆ
ใช้ไม้อ่อนกับเขาโดยพยายามอดทน ต่อเสียงหมาเห่าทั้งสี่ตัวที่กำลังส่งเสียงอยู่รอบๆ หึ รอให้คิริฮาระมาอยู่ในอุ้งมือฉันก่อนเถอะไอ้พวกเด็กนิสัยไม่ดี
โดยเฉพาะเจ้าหมูตอนคาซึโตะ ฉันจำนายแม่นเลยล่ะ
“ คิริฮาระ แกห้ามไป ถ้าแกไป ก็ถือว่าเลือกนังนี่ มากกว่าพวกเรา
เพราะงั้นพวกเราก็จะไม่ใช่เพื่อนแกอีก ” เด็กหัวเกรียนคนที่สามพูดเสร็จก็ส่งสายตาท้าทายมาให้ฉัน
ทำท่าประมาณว่าตัวเองเป็นผู้ยิ่งใหญ่เลยค่ะ แต่ ที่สำคัญกว่านั้น
มันมีตรรกะแบบนี้ด้วยเหรอคะ คำพูดแบบนี้ส่อนิสัย ใจแคบ ขี้อิจฉา ถือตัวเองเป็นใหญ่
กลัวเพื่อนได้ดีกว่าล่ะสิ
หลังจากที่เด็กหัวเกรียนคนที่สามพูดออกไป
ทุกอย่างก็ดูเงียบขึ้นมา แม้แต่เสียงแซวที่เคยมีบ้างก็หายไปด้วย
บรรยากาศดูตึงเครียดยังไงชอบกลนะคะ
แต่ตอนนี้ฉันคาดหวังอย่างมากที่จะให้คิริฮาระเดินออกมาหาฉันด้วยตนเอง…..1…2…3 …4…..ฉันเริ่มนับตัวเลขในใจ
มันลุ้นอะค่ะ การจะเปลี่ยนแปลงนิสัยเด็กคนหนึ่ง สิ่งสำคัญ ก็คือต้องให้เขายินยอมพร้อมใจด้วย
‘ คิริฮาระ อย่าให้ฉันนับถึง 100 เลยนะ ’
อ่า
และแล้วก็เป็นแบบที่ฉันคาดหวังจริงๆด้วยค่ะ เขาเดินออกมาหาฉัน
แววตามีประกายระยิบระยับชนิดหนึ่ง แต่ฉันมองไม่ออกว่ามันหมายความว่ายังไง
แต่ช่างเถอะค่ะ แค่เขาส่งมือมาให้ฉัน ฉันสัญญาว่าจะเป็นน้ำยาซักผ้าขาวให้เขาเอง!
ฉันยื่นมือไปให้คิริฮาระพร้อมยิ้มน้อยๆ
เหมือนเป็นการต้อนรับมิตรภาพของพวกเราที่กำลังจะเริ่มใหม่อีกครั้ง
คิริฮาระส่งมือเขามาหาฉัน ฉันพาเขาขึ้นไปบนรถบัส พวกเราได้ที่นั่งอยู่ข้างหลัง
ฟุรุคาว่า กับอิบูกิ
เมื่อฟุรุคาว่าเห็นคิริฮาระดูเขาจะดีใจมากเลยค่ะ
เขาเลยยกขวดน้ำพลาสติกให้คิริฮาระถึงสองขวด เอ่อ
ฉันว่ามันเป็นการแสดงมิตรภาพแบบแปลกๆนะคะ
แต่ฉันคิดว่าฟุรุคาว่าคงคิดถึง คิริฮาระอยู่มาก
แต่เขาก็ไม่ต้องการจะฝ่าด่าน 3 อรหันต์หัวเกรียนพวกนั้นแน่ๆ ดังนั้นฟุรุคาว่า
กับคิริฮาระเลยไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ นานๆไปพวกเขาเลยห่างกันมากขึ้น
เมื่อฉันได้ที่นั่งเรียบร้อย
ฉันจึงค่อยๆแอบเหล่ไปมองเด็กเกเรพวกนั้น พวกเขาจองที่นั่งหลังสุด
และหากฉันมองไม่พลาด ฉันสังเกตเห็นแววตาไม่เป็นมิตรจากไอ้เด็กพวกนั้นด้วยค่ะ … หึ
สงสัยจะอิจฉาคิริฮาระแน่นอนที่เขามีเพื่อนคบมากกว่าพวกนายสี่คน
หวังว่าในช่วงทัศนศึกษาครั้งนี้
คิริฮาระที่ตัดสินใจจะแยกตัวออกมาจากกลุ่มเด็กอันธพาลพวกนั้น
คงไม่ถูกเพื่อนเคยสนิทตามกลั่นแกล้งหรอกนะคะ
แต่เอ๋
แล้วทำไมฉันถึงรู้สึกไม่สบายเนื้อไม่สบายตัวได้ล่ะคะ
มันให้ความรู้สึกเหมือนมีพลังลึกลับบางอย่างทิ่มแทงไปทุกส่วนของร่างกาย
ฉันจึงหันไปมองที่ข้างหลังทันที เพื่อดูว่าไอ้พวกเด็กหัวเกรียนมันแช่งฉันหรือเปล่า
แต่ก็ไม่นะคะ พวกเขากำลังคุยกันเองอยู่ จากนั้น ฉันจึงหันไปมองรอบๆ โอ๊ะ! เจอแล้วค่ะ
ต้นตอของพลังงานลึกลับอยู่ข้างๆฉันเอง โฮ ท่านฮิโรชิ เป็นเศษคี่
ที่ต้องนั่งกับคุณครูเหรอคะ ดูสายตาท่านสิคะ มันดูเหมือนการสาปแช่งเลยค่ะ
……หวังว่าท่านคงไม่เห็นฉากที่ฉันกุมมือคิริฮาระ
ใช่ไหมคะ?
……หวังว่าท่านคงไม่แอบถามท่านพ่อท่านแม่
ว่าตัวท่านเองมีฉันเป็นคู่หมั้นแล้ว ใช่ไหมคะ?
……..หวังว่าท่านคงไม่โตพอที่จะเริ่มมีนิสัยขี้หวง
กำเริบใช่ไหมคะ?
……ท่านฮิโรชิ
ได้โปรดทำใจเย็นก่อนค่ะ ซากุระคนนี้จงรักและภักดีต่อท่านฮิโรชิคนเดียวนะคะ!
ความคิดเห็น