ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ช่วยด้วยค่ะ! ฉันพยายามเป็นนางร้าย

    ลำดับตอนที่ #20 : ทัศนศึกษา 2 RW

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.45K
      305
      28 ส.ค. 64

    ตอน 20

    ฉันพาอิบูกิ ไปรออยู่หน้ารถบัสขนาดกลาง ซึ่งเป็นที่นัดรวมตัวของชั้นปีเรา ตอนนี้ฉันเห็นเด็กมาแล้วประมาณ สิบกว่าคน หนึ่งในนั้น ก็มี ท่านมิกิ อยู่ด้วย เธอกำลังนั่งคุยกับเด็กผู้หญิงใส่แว่นที่อยู่ห้องเห็นแบบนั้นแล้วฉันก็ดีใจค่ะ อย่างน้อย เธอก็มีเพื่อนที่ดูเรียบร้อยน่ารัก ไม่ได้มีกลุ่มเพื่อนเกเรอย่างคิริฮาระ หึ พอคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ฉันยังโมโหไม่หาย กับท่าทางเอื่อยเฉื่อย แล้วก็ไอ้แววตาเยาะเย้ยคนที่อยู่ต่ำกว่าของคิริฮาระ อารมณ์ฉันเริ่มครุกรุ่น หากมันก็ถูกขัดด้วยเสียงสดใสของฟุรุคาว่าเสียก่อน

    สวัสดี อิบูกิ ซากุระฟุรุคาว่า โบกไม้โบกมือมาแต่ไกล เขาวิ่งมาพร้อมกับกระเป๋าเป้ขนาดใหญ่ ที่พ่วงท้ายด้วย ขวดน้ำพลาสติก เจ็ดแปดขวด เสียงกระทบของขวดน้ำเปล่าทำให้ ฉันรู้สึกรำคาญ แกมสงสัยจึงต้องเอ่ยปากถาม

    ฟุรุคาว่า นายพกขวดน้ำเปล่ามาทำไม กะจะตุนน้ำสำรองไว้เหรอ  ฉันชี้ไปที่ขวดพลาสติกที่ใช้เส้นเชือกห้อยไว้ตรงหูหิ้วของกระเป๋า

    เปล่า คืองี้ ฉันแอบรู้มาจาก รุ่นพี่คนสนิทว่าตอนกลางคืนที่นั่นจะดูน่ากลัวจนไม่อยากออกจากห้องเลยแหละ ฟุรุคาว่ายังไม่ทันพูดจบ เขาก็ถามฉันด้วยความเป็นห่วง

     

    ซากุระ เธอไม่สบายเหรอ ”  เอิ่ม จริงๆฉันก็สบายดีอยู่ค่ะ แต่พอได้ยินคำว่า รุ่นพี่คนสนิทหน้าตาฉันคงดูเจ็บปวดออกมา จนขนาดฟุรุคาว่ายังสังเกตเห็นได้ โฮ ฉันว่าความรู้สึกนี้มันต้องเรียกว่า ความอิจฉาแน่ๆ  ทำไมทุกคนมี รุ่นพี่คนสนิทกันคะ! ทั้งริเอะ มิโดริ แล้วก็ฟุรุคาว่า ฉันอยากมีบ้างอะค่ะ

    เปล่า ฉันสบายดี นายยังพูดไม่จบเลย พูดต่อสิ ฉันรีบสลัดความรู้สึก อยากมีอยากได้ทิ้งไป

    เฮ้ย ฮิโรชิ ฉันมีของจะให้นาย เอาไปสิ ฟุรุคาว่ายังไม่ทันได้ตอบคำถามฉัน ตัวเขาก็รีบกวักมือเรียกท่านฮิโรชิ ที่เพิ่งเดินมาถึง

    ฉันไม่ได้เห็นท่านฮิโรชิ แบบเต็มๆตา มาหลายเดือนแล้วค่ะ  มาวันนี้เลยเห็นท่านดูแปลกตาไปสักหน่อย อาจจะเป็นเพราะทรงผมที่ดูแตกต่างจากเดิม สงสัยมันคงยาวเพิ่มขึ้นมา หรือว่าสั้นลงไป ฉันก็ไม่แน่ใจ รู้แต่ว่า มันทำให้ใบหน้าท่านดูละมุน นุ่มนวลกว่าปกติ….‘เล็กน้อย

     “ มันคืออะไร ท่านฮิโรชิหยิบขวดน้ำพลาสติกใบเปล่า ขึ้นมา เขาลองเขย่าเบาๆเพื่อดูว่าข้างในมีน้ำอยู่หรือเปล่า หน้าตาท่านดูสงสัยมากเลยค่ะ

    อ้อ อันนี้ไว้สำหรับเวลานายปวด ฉี่ตอนกลางคืนไง ฉันได้ยินมาว่าห้องน้ำที่นั่นตอนกลางคืนน่ากลัว ไม่มีไฟ ต้องใช้เทียนไขจุดเอา ฉันเลยคิดว่า ใช้ขวดน้ำนี่แหละดีที่สุด ฟุรุคาว่า อธิบายสรรพคุณของขวดน้ำพลาสติกที่เอาให้ท่านฮิโรชิอย่างภาคภูมิใจ เอิ่ม ฉันเริ่มเห็นขีดดำสามเส้นบนใบหน้าท่านอีกแล้วค่ะ

    ส่วนนี่ ก็เป็นฝาพลาสติกสำรอง เผื่อนายทำฝาเดิมมันหาย เวลานายฉี่เสร็จ จะได้ไม่ต้องกลัวหก เก็บไว้สิ ฟุรุคาว่าพูดไปด้วยก็ควานหาฝาพลาสติกสำรองในกระเป๋าเป้ใบใหญ่ของเขาโดยไม่สังเกตเห็นใบหน้าของท่านฮิโรชิ ที่ดูจะดำทะมึนขึ้นมาอีกระดับ

    ซากุระ กับอิบูกิ ไม่ต้องน้อยใจไป ฉันก็เอามาเผื่อพวกนายแล้ว ”  ฟุรุคาว่ายื่นขวดน้ำพลาสติกมาให้อิบูกิคนแรก

    ขอบใจ อิบูกิยิ้มรับแบบอายๆนิดหน่อย หึ หึ อิบูกิ ฉันดูออกนะ ว่านายไม่อยากได้ไอ้ขวดพลาสติกนี่เหมือนกัน

    ส่วนขวดนี้ของเธอ ฉันรู้ว่าเธออาจไม่มีใครให้ปรึกษาถามข่าวคราวเหมือนพวกเด็กผู้หญิงในห้อง ฉันเลยเตรียมมาเผื่อเธอโดยเฉพาะฟุรุคาว่า ยืนขวดพลาสติก ซึ่งปากขวดเล็กนิดเดียวให้ฉัน

    “……” ตอนนี้หน้าฉันคงมีแถบดำ ขึ้นตรงหน้าเยอะกว่าท่านฮิโรชิแน่นอนค่ะ เขาเอาอุปกรณ์ไม่เหมาะสมมาให้ฉัน แถมยังแขวะฉันอย่างไร้สำนึกอีกด้วย  ……..ฟุรุคาว่า ฉันเป็นเพื่อนเล่นนายเหรอคะ! @##$*()%$  คำไม่สุภาพขอไม่บรรยายนะคะ

    ฉันนิ่งอึ้งไปสักพักค่ะ ไม่ยอมรับขวดน้ำพลาสติกให้มาเป็น สัมภาระอันไร้ค่า’  ซึ่งมันใช้การไม่ได้สำหรับฉัน ฉันมองลึกเข้าไปในดวงตาของฟุรุคาว่า เพื่อดูว่าเขากำลังกลั่นแกล้งฉันอยู่หรือเปล่า แต่ไม่เลยค่ะ สายตาเจ้าลิงน้อยจริงใจสุดๆ ตอนนั้นเองที่ภาพลักษณ์คุณชายของเขาได้หายวับไปกับตา ฉันคิดว่าเด็กรวยๆ อย่างน้อยพวกเขาก็ต้องมีอุปกรณ์แบบเล่นใหญ่ไฟกระพริบที่มันคงดู  ไฮโซมากกว่าขวดน้ำพลาสติกใช่ไหมคะ!  ไอเดียของคุณชายฟุรุคาว่า ได้มาจากไหนกันคะเนี่ย และที่สำคัญเขาคงไม่ได้คิดว่าฉันมีพริกน้อยเหมือนพวกเขาใช่ไหม! ถึงจะได้บังคับเส้นทางไม่ให้เรี่ยราดได้

    และก่อนที่ฉันจะได้พูดปฎิเสธออกไป ฉันก็ได้ยินเสียงหัวเราะของท่านฮิโรชิที่อยู่ข้างๆ ฟุรุคาว่า จริงๆเขาก็พยายามปิดปากหัวเราะแบบเงียบๆแล้วนะคะ แต่มันคงกลั้นไม่ไหวจริงๆ เสียงหัวเราะเลยดังออกมา เพิ่งเห็นท่านฮิโรชิ หัวเราะแบบสะใจขนาดนี้เป็นครั้งแรก แต่ ฉันไม่โกรธท่านหรอกค่ะ เพราะท่านคงไม่ได้หัวเราะฉันใช่ไหมคะ!?

    หัวหน้าห้องแต่ละห้อง มาเอาใบเช็คชื่อเพื่อนในห้อง เพื่อดูว่ามากันครบแล้วนะคะ คุณครูคนหนึ่งพูดขึ้น ทำให้เรื่องราวก่อนหน้าจบลงไปโดยปริยาย ท่านฮิโรชิ ฉัน และ เด็กผู้หญิงผมยาวตัวเล็กๆอีกคน ก็ออกมาเอาใบเช็คชื่อไปให้เพื่อนๆในห้องเรียนของตัวเองลงทะเบียน

    ตอนที่ฉันกำลังทำหน้าที่อยู่นั้น ตัวฉันก็แอบเหล่ไปทางกลุ่มเด็กผู้ชาย 5 คนซึ่งแน่นอนว่าสองคนในนั้น ก็ต้องมี คาซึโตะ กับคิริฮาระ อยู่ด้วย โดยเด็กผู้ชายอีกสามคนกำลังส่งเสียงดังน่าหนวกหูมากเลยค่ะ แถมบางครั้งฉันก็ได้ยินคำหยาบคายหลุดมาด้วย

    ในส่วนของคาซึโตะ ฉันไม่ค่อยกังวลกับเขาเท่าไหร่ เพราะนิสัยดั้งเดิม เด็กคนนี้ก็เป็นประมาณนี้อยู่แล้ว คือแบบ ดูเกเรแต่ไม่อัพเกรดเท่ากับสามคนนั้น  เอ๊ะ!? ฉันคิดกับคาซึโตะแบบนั้นจริงๆเหรอคะ เพิ่งรู้ตัวเอง แต่เอาเป็นว่า ไม่ค่อยน่าเป็นห่วงเพราะดูท่าทางแล้วเจ้าหมูน้อย ก็พอมีความคิดความอ่านของตัวเอง

    ผิดกับคิริฮาระ ที่ฉันเห็นเขาตั้งแต่ตอนยังเป็นหนุ่มน้อยติดหุ่นยนต์อยู่เลย เขาดูเป็นคนเงียบๆ  ขี้อาย และสุภาพ การที่นิสัยของเขาเปลี่ยนไปเป็นเด็กก้าวร้าวมากขึ้น รังแกคนที่อ่อนแอกว่า ฉันคิดว่ามันเป็น เพราะคิริฮาระอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ย่ำแย่แบบนั้น ในห้องซึ่งมีเด็กผู้หญิงแค่สองคน  ส่วนที่เหลืออีกห้าคนเป็นเด็กผู้ชาย แน่นอนว่าคิริฮาระ หนุ่มน้อยแรกรุ่นซึ่งไม่ได้มีจิตใจเอนเอียงไปทางผู้หญิง ย่อมต้องอยากอยู่ในกลุ่มเด็กผู้ชายอยู่แล้ว และการที่เขาจะเข้ากับกลุ่มเพื่อนเกเรพวกนั้นได้ เขาคงต้องปรับตัวอย่างมาก เพื่อไม่ให้หลุดออกนอกกลุ่ม และมันน่ากลัวตรงที่ว่า ความต้องการเป็นที่ยอมรับในหมู่เพื่อน ของคิริฮาระนี่แหละ ที่ทำให้ฉันอดเป็นห่วงไม่ได้ ว่าเขาอาจจะหลงไปในทิศทางที่ไม่ถูกไม่ควร  อย่างที่ผู้ใหญ่มักจะพูดกันว่าเด็กคือผ้าขาว ซึ่งซึมซับสิ่งต่างๆ ทั้งดีและไม่ดีได้ง่าย แต่ฉันจะไม่ยอมให้ผ้าขาวอย่างคิริฮาระมาแปดเปื้อนเพราะไอ้เด็กพวกนี้ได้หรอกค่ะ ฉันจะเป็นน้ำยาซักผ้าของคิริฮาระเอง!  เอิ่ม ฉันเปรียบเทียบตัวเองต่ำต้อยไปไหมคะ

    มากันครบแล้ว งั้นนักเรียนค่อยๆทยอยขึ้นนั่งบนรถเลยค่ะ เอาแต่ของมีค่าติดตัวไป  ส่วนกระเป๋าสัมภาระติดชื่อของตัวเองให้เรียบร้อย เดี๋ยวจะมีคนเอาเก็บไว้ในรถให้ค่ะ คุณครูคนเดิมพูดจบ เสียงดังโวกเวกโวยวายก็เกิดขึ้น ดูทุกคนจะตื่นเต้นกันมากๆ คนที่มีเพื่อนสนิทเป็นคู่ ก็ดีไป จะได้นั่งคู่กัน ส่วนคนที่เป็น เศษคี่ แบบฉันทำไงอะคะ ฉันไม่ได้อยากนั่งใกล้คุณครูที่มาคุมรถหรอกนะ

    แต่เป้าหมายฉันอยู่ไม่ไกลหรอกค่ะ ฉันเห็นผมทุยสีน้ำตาลอ่อนเด่นมาแต่ไกล คิริฮาระกำลังเดินอยู่ในกลุ่มเพื่อนของเขา โอ๊ะ ฉันสบสายตากับเขาแล้วค่ะ หืมมมมมมม หลบสายตาเหรอคะ!   รังเกียจฉันขนาดนั้นเชียว สวนหมัดไปเบาๆแบบนั้น ยังมีเคืองด้วยอ่ะ  แต่ฉันไม่สนใจคิริฮาระที่ส่งสัญญาณทางร่างกายบอกกับฉันประมาณว่า ไปให้พ้นๆหน้าฉัน ไอ้พวกชอบใช้กำลัง! ’  ฉันจึงเดินเข้าไปหาคิริฮาระที่อยู่ท่ามกลางเด็กผู้ชายเหล่านั้น

    เฮ้ย มายืนขวางทางเกะกะ ถอยไป ไม่งั้นมีเจ็บ เด็กหัวเกรียนคนที่หนึ่งพูดขึ้น มารยาทแย่มาก เห็นฉันเป็นผู้หญิงอ่อนแอไม่มีทางสู้เลยพูดขู่เล่นๆ เอาหน้าต่อพวกเพื่อนๆเหรอคะ ……ไม่สนค่ะ ที่นี่คนเยอะ ไอ้เด็กนั่นไม่กล้ารุมฉันแน่นอน สายตาฉันจึงจ้องไปที่คิริฮาระ และเหมือนเขาจะรู้ว่าฉันมองอยู่ เพราะอยู่ดีๆเขาก็เงยหน้าขึ้นมาสบสายตากับฉัน แววตาของเขาดูสับสนมากเลยค่ะ ก็เข้าใจหรอกค่ะ ทางหนึ่งก็เพื่อน อีกทางหนึ่งก็ เอ่อ เด็กผู้หญิงอันธพาลคนหนึ่ง...มั้งคะ

    หูหนวกหรือไง น่ารักหรือก็เปล่า สงสัยคงจะเป็นพวกปัญญาอ่อน ฮ่าฮ่าฮ่า ”  เด็กหัวเกรียนคนที่สองพูดขึ้น  ไอ้เด็กนั่นคงไม่ได้ยินเสียง เปรี๊ยะจากเส้นเลือดในสมองของฉันแน่นอนค่ะ แต่ฉันได้ยินชัดเลยอ่ะ  ……โฮ  คิริฮาระนายเห็นสายตาฉันไหม ถ้าเห็นก็รีบออกมาไวๆ ถึงฉันจะไม่กลัวเจ้าเด็กหัวเกรียนตัวสูงเท่านายตั้งสามคน แต่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆแบบฉันก็เกร็งๆอยู่นะคะ ไอ้ที่ฉันพูดขู่เอาความสะใจว่าจะซ้อมเพื่อนนายอ่ะ ฉันพูดเล่น! อย่ามาทำตัวซื่อบื้อใส่ฉันนะ  

    ซากุระ เธออย่ามาทำท่าวางอำนาจแถวนี้ ตอนนี้ฉันไม่กลัวเธอแล้ว ไปให้ไกลหูไกลตาเลย ยัยขี้เหร่ ถอยไป พวกเราจะขึ้นรถ คราวนี้ดันเป็นหมูน้อยคาซึโตะ ที่ฉันเคยเริ่มมองว่าน่ารักค่ะ โฮะโฮะ เจ้าหมูน้อย ตอนนี้กล้าขึ้นมากเลยนะคะเนี่ย แถมสายตาไม่ดีมากขึ้นด้วย ฉันทำท่าวางอำนาจตรงไหนคะ!จริงๆแอบเกร็งด้วยซ้ำ ฉันแค่ยืนทื่อๆ ของฉัน ถ้าอยากขึ้นรถก็เดินหลบอ้อมตัวฉันไปสิ! ตัวฉันไม่ใช่กำแพงนะคะ      

    ซากุระ เธอรีบขึ้นรถไปเถอะ คิริฮาระดันพูดขึ้นมาตอนที่ทุกคนกำลังเงียบ เสียงเขาเลยดังเป็นพิเศษ

    “  นังนี่ชอบแกเหรอ คิริฮาระ งั้นหัวหน้าห้องพวกเราคงอกหักแล้วสิ ฮ่าฮ่า เด็กหัวเกรียนคนที่สามพูดขึ้น  อ่า ขัดหูมากเลยค่ะ ไอ้เด็กนี่กล้าเรียกคุณหนูซากุระ อย่างฉันผู้เป็นทายาทสายตรงของตระกูลอิโนะอุเอะ ซึ่งรวยอันดับสามของประเทศว่า นังนี่เหรอคะ!  พวกเด็กหัวเกรียนเป็นลูกคนรวยแน่เหรอมารยาทติดลบมากเลยค่ะ ฉันมองไปที่คิริฮาระ สายตาฉันส่งไปประมาณว่า นี่เหรอกลุ่มเพื่อนสนิทของนาย’ 

    คิริฮาระ ฉันมารอนาย มานั่งด้วยกันกับฉันเถอะ ฉันไม่มีเพื่อนนั่งด้วย ”  ฉันพูดกับเขาดีๆ ใช้ไม้อ่อนกับเขาโดยพยายามอดทน ต่อเสียงหมาเห่าทั้งสี่ตัวที่กำลังส่งเสียงอยู่รอบๆ  หึ รอให้คิริฮาระมาอยู่ในอุ้งมือฉันก่อนเถอะไอ้พวกเด็กนิสัยไม่ดี โดยเฉพาะเจ้าหมูตอนคาซึโตะ ฉันจำนายแม่นเลยล่ะ

    คิริฮาระ แกห้ามไป  ถ้าแกไป ก็ถือว่าเลือกนังนี่ มากกว่าพวกเรา เพราะงั้นพวกเราก็จะไม่ใช่เพื่อนแกอีก เด็กหัวเกรียนคนที่สามพูดเสร็จก็ส่งสายตาท้าทายมาให้ฉัน ทำท่าประมาณว่าตัวเองเป็นผู้ยิ่งใหญ่เลยค่ะ แต่ ที่สำคัญกว่านั้น มันมีตรรกะแบบนี้ด้วยเหรอคะ คำพูดแบบนี้ส่อนิสัย ใจแคบ ขี้อิจฉา ถือตัวเองเป็นใหญ่ กลัวเพื่อนได้ดีกว่าล่ะสิ

    หลังจากที่เด็กหัวเกรียนคนที่สามพูดออกไป ทุกอย่างก็ดูเงียบขึ้นมา แม้แต่เสียงแซวที่เคยมีบ้างก็หายไปด้วย บรรยากาศดูตึงเครียดยังไงชอบกลนะคะ  แต่ตอนนี้ฉันคาดหวังอย่างมากที่จะให้คิริฮาระเดินออกมาหาฉันด้วยตนเอง…..1…2…3 …4…..ฉันเริ่มนับตัวเลขในใจ มันลุ้นอะค่ะ การจะเปลี่ยนแปลงนิสัยเด็กคนหนึ่ง สิ่งสำคัญ ก็คือต้องให้เขายินยอมพร้อมใจด้วย

    คิริฮาระ อย่าให้ฉันนับถึง 100 เลยนะ

     อ่า และแล้วก็เป็นแบบที่ฉันคาดหวังจริงๆด้วยค่ะ เขาเดินออกมาหาฉัน แววตามีประกายระยิบระยับชนิดหนึ่ง แต่ฉันมองไม่ออกว่ามันหมายความว่ายังไง แต่ช่างเถอะค่ะ แค่เขาส่งมือมาให้ฉัน ฉันสัญญาว่าจะเป็นน้ำยาซักผ้าขาวให้เขาเอง!

    ฉันยื่นมือไปให้คิริฮาระพร้อมยิ้มน้อยๆ เหมือนเป็นการต้อนรับมิตรภาพของพวกเราที่กำลังจะเริ่มใหม่อีกครั้ง คิริฮาระส่งมือเขามาหาฉัน ฉันพาเขาขึ้นไปบนรถบัส พวกเราได้ที่นั่งอยู่ข้างหลัง ฟุรุคาว่า กับอิบูกิ

    เมื่อฟุรุคาว่าเห็นคิริฮาระดูเขาจะดีใจมากเลยค่ะ เขาเลยยกขวดน้ำพลาสติกให้คิริฮาระถึงสองขวด เอ่อ ฉันว่ามันเป็นการแสดงมิตรภาพแบบแปลกๆนะคะ  แต่ฉันคิดว่าฟุรุคาว่าคงคิดถึง คิริฮาระอยู่มาก แต่เขาก็ไม่ต้องการจะฝ่าด่าน 3 อรหันต์หัวเกรียนพวกนั้นแน่ๆ ดังนั้นฟุรุคาว่า กับคิริฮาระเลยไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ นานๆไปพวกเขาเลยห่างกันมากขึ้น

    เมื่อฉันได้ที่นั่งเรียบร้อย ฉันจึงค่อยๆแอบเหล่ไปมองเด็กเกเรพวกนั้น พวกเขาจองที่นั่งหลังสุด และหากฉันมองไม่พลาด ฉันสังเกตเห็นแววตาไม่เป็นมิตรจากไอ้เด็กพวกนั้นด้วยค่ะ หึ สงสัยจะอิจฉาคิริฮาระแน่นอนที่เขามีเพื่อนคบมากกว่าพวกนายสี่คน หวังว่าในช่วงทัศนศึกษาครั้งนี้ คิริฮาระที่ตัดสินใจจะแยกตัวออกมาจากกลุ่มเด็กอันธพาลพวกนั้น คงไม่ถูกเพื่อนเคยสนิทตามกลั่นแกล้งหรอกนะคะ

    แต่เอ๋ แล้วทำไมฉันถึงรู้สึกไม่สบายเนื้อไม่สบายตัวได้ล่ะคะ มันให้ความรู้สึกเหมือนมีพลังลึกลับบางอย่างทิ่มแทงไปทุกส่วนของร่างกาย ฉันจึงหันไปมองที่ข้างหลังทันที เพื่อดูว่าไอ้พวกเด็กหัวเกรียนมันแช่งฉันหรือเปล่า แต่ก็ไม่นะคะ พวกเขากำลังคุยกันเองอยู่ จากนั้น ฉันจึงหันไปมองรอบๆ  โอ๊ะ! เจอแล้วค่ะ ต้นตอของพลังงานลึกลับอยู่ข้างๆฉันเอง โฮ ท่านฮิโรชิ เป็นเศษคี่ ที่ต้องนั่งกับคุณครูเหรอคะ ดูสายตาท่านสิคะ มันดูเหมือนการสาปแช่งเลยค่ะ

    ……หวังว่าท่านคงไม่เห็นฉากที่ฉันกุมมือคิริฮาระ ใช่ไหมคะ?

    ……หวังว่าท่านคงไม่แอบถามท่านพ่อท่านแม่ ว่าตัวท่านเองมีฉันเป็นคู่หมั้นแล้ว ใช่ไหมคะ?

    ……..หวังว่าท่านคงไม่โตพอที่จะเริ่มมีนิสัยขี้หวง กำเริบใช่ไหมคะ?       

    ……ท่านฮิโรชิ ได้โปรดทำใจเย็นก่อนค่ะ  ซากุระคนนี้จงรักและภักดีต่อท่านฮิโรชิคนเดียวนะคะ! 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×