[ FIC SNSD ] ONE SHOT สิ่งสุดท้ายคือหัวใจ [ YURI ]
คุณเคยไหมที่แอบไปรักใครแล้วไม่กล้าบอก และที่สำคัญคนๆนั้นก็เป็นแฟนของเพื่อนคุณเอง
ผู้เข้าชมรวม
5,600
ผู้เข้าชมเดือนนี้
14
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
[ FIC SNSD ] ONE SHOT สิ่งสุดท้ายคือหัวใจ [ YURI ] ( ยูริ กับ ยุนอา เป็น Man เต็มตัว )
เธอ ฉัน เขา เราสามคนเป็นเพื่อนกัน ความสัมพันธ์ขอพวกเรานั้นเป็นไปอย่างราบรื่น จนวันนึงฉันดันเกิดความรู้สึกแปลกๆกับเธอ สาวสวยที่มีผมสีบลอนด์คนนี้ เธอคนที่อยู่ข้างกายตลอดเวลาที่รู้จักกันมา ฉันเก็บความรู้สึกนั้นไว้เรื่อยมาจนมันเต็มอก ฉันอยากจะบอกให้เธอได้รับรู้ถึงความรู้สึกของฉันจนใจแทบจะขาดออกจากกัน แต่ว่า.......................
“ นี่ยุนอา ”
“ ว่าไง ”
“ แกว่าสิก้าเป็นไงมั่ง ”
“ ก็สวยดีนี่ ”
“ ฉันก็ว่างั้นแหละ แล้วแกว่ามันจะผิดไหมว่ะถ้าเอ่อ ถ้า ” ยูริจะพูดอะไรก็ไม่ยอมพูดซักที แล้วฉันจะรู้ด้วยไหมว่ามันจะผิดยังไง
“ ถ้าอะไร ” ฉันเริ่มรำคาญกับการกระทำของยูริเหลือเกิน
“ ก็ถ้าฉันจะบอกว่าฉันรักสิก้าน่ะ ” เมื่อได้รู้ถึงสิ่งที่ยูริต้องการ มันก็เหมือนกับสายฟ้าได้ฝ่าลงมายังกลางใจ หัวใจฉันแตกสลายทั้งที่มันยังเต้นแต่เป็นจังหวะที่เร็วขึ้น ฉันหายใจติดขัดพูดอะไรไม่ออกมันเหมือนมีก้อนอะไรมาจุกอยู่ที่คอ ตอนนี้น้ำตาของฉันมันใหลนะแต่มันใหลอยู่ข้างใน ในใจฉันนี่ไง
“ เฮ้ย ยุนอาแกเป็นอะไรวะ ฟังฉันอยู่หรือเปล่าเนี้ย ” ยูริเรียกสติของฉันให้กลับคืนมา และฉันก็ต้องทำเป็นว่าไม่รู้สึกอะไร
“ ฟังสิฟัง แล้วแกจะบอกเมื่อไหร่ล่ะ ” ฉันฝืนพูดในสิ่งที่ไม่ต้องการเลย
“ ก็คิดว่าจะบอกเร็วๆนี้แหละ ”
“ ทำไมรีบบอกนักล่ะ ”
“ ขืนบอกช้ากว่านี้มีหวังโดนใครบาดหน้าเค้กไปก่อนน่ะสิ ” ใช่เพราะฉันกำลังโดนใครปาดหน้าเค้กอยู่ในตอนนี้
หลังจากที่ยุนอากับยูริคุยกันเสร็จแล้ว เราทั้งสามคนก็ออกมาจากบริษัทที่มียุนอาเป็นเจ้าของ ส่วนยูริเป็นผู้จัดการบริษัท และเจสสิก้าก็เป็นเลขาส่วนตัวของยุนอา เราทั้งสามนัดกันออกมาทานอาหารที่ภัตคารหรูแห่งหนึ่ง ยุนอามากับเพื่อนๆทั้งที่ใจยังไม่แข็งแรงพอ ยิ่งได้มาเห็นภาพบาดตาที่ยูริเอาอกเอาใจเจสสิก้าแล้ว มันยิ่งทำให้ยุนอาอยากจะเดินหนีออกมาจากที่ตรงนั้นแต่ทำไม่ได้
“ สิก้าทานนี่เยอะๆนะ ” ยูริตักกุ้งตัวโตให้เจสสิก้า สายตาที่คนทั้งสองมองกันมันช่างทรมานใจเหลือเกิน
“ ขอบใจนะยูล ยูลก็ทานบ้างสิ ” คราวนี้เป็นเจสสิก้าที่ตักอาหารให้ยูริบ้าง ยุนอาทนมองภาพเหล่านั้นไม่ไหวจริงๆจึงเลี่ยงออกไป
“ ฉันขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนนะ ”
“ แล้วรีบๆมาล่ะ ” เจสสิก้าบอกให้ฉันรีบมาไวๆ
ยุนอาแอบดีใจนิดๆที่ตัวเองยังอยู่ในสายตาของเธอ ยุนอาไม่ได้พูดอะไรแค่เดินตรงไปยังห้องน้ำเขาใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนานพอสมควรเหมือนกันเพื่อจะได้สงบสติอารมณ์เอาไว้ เมื่อออกมาจากห้องน้ำก็เดินตรงไปยังโต๊ะที่เคยนั่งทานข้าว แต่ไม่เจอเจสสิก้ากับยูริ ยุนอาก็เลยเดินออกมาจากภัตคารตรงไปยังรถยนต์ที่ตัวเองขับมา ระหว่างนั้นยุนอาเห็นภาพของคนสองคนกำลังจูบกันอย่างดูดดื่มภายในรถยนต์ของยูริที่จอดอยู่ข้างๆรถยนต์ของยุนอา มันเป็นภาพที่ยูริกำลังจูบกับเจสสิก้า จากที่หัวใจของยุนอามันแตกสลายอยู่แล้ว ยิ่งมาเห็นแบบนี้มันยิ่งแหลกละเอียดเป็นผุยผง ขาทั้งสองข้างของยุนอามันไม่มีแรง ยุนอาไม่สามารถยืนอยู่ได้เข่าทั้งสองข้างมันทรุดลงไปกระแทกกับพื้น ตอนนี้ยุนอาเหมือนตายทั้งเป็น เขายังหายใจแต่ไร้ความรู้สึก ยูริคงบอกรักเจสสิก้าไปแล้ว หลังจากนี้ฉันจะทำยังไง จะมองหน้าทั้งสองคนแบบไหน ฉันสับสนไปหมด และในตอนนั้นเองที่ฝนก็ช่างเป็นใจสร้างบรรยากาศให้กับยุนอาและสองคนนั่นเหลือเกิน บรรยากาศของยุนอาคือภาพของคนอกหัก ส่วนภาพบรรยากาศของยูริกับเจสสิก้าคือความสุขสม ยุนอายังคงนั่งคุกเข่าอยู่กับพื้นส่วนคู่รักได้ขับรถกลับไปแล้ว
ยุนอากลับมาบ้านโดยที่มีสภาพไม่ต่างอะไรกับหมาเปียกน้ำเลย เขาพยายามข่มตานอนแต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ผล ตาของฉันมันหลับก็จริงแต่ใจนี่สิมันไม่ยอมหลับ ยุนอาคงต้องใช้เวลาในการทำใจแต่มันคงจะนานหน่อย แต่ยิ่งพยายามจะทำใจเท่าไหร่ก็ดูเหมือนว่ามันยิ่งเจ็บปวดมากเท่านั้น ก็เพราะว่าทั้งยูริและเจสสิก้ายิ่งสวีทกันขึ้นเรื่อยๆ และแล้วช่วงเวลาที่ผ่อนคลายของยุนอาก็มาถึง เมื่อทางบริษัทได้เสนอให้ยูริไปดูงานที่อังกฤษเป็นเวลาสามเดือนเพื่อที่จะได้พัฒนาบริษัทต่อไป ยูริทำท่าจะไม่ยอมไปเพราะเขาห่วงเจสสิก้าผู้ที่เป็นดั่งดวงใจของเขา แต่ก็ไม่สามารถขัดได้ เย็นวันนั้นเขาเดินมาหายุนอาที่ห้อง
ทำงาน
“ ยุนอา ฉันขอคุยอะไรด้วยหน่อยสิ ”
“ มีอะไรก็ว่ามาสิ ฉันรอฟังอยู่ ”
“ ฉันต้องไปดูงานตั้งสามเดือน ฉันเป็นห่วงเจสสิก้า ”
“ แล้วแกจะให้ฉันทำยังไง ”
“ ฉันฝากให้แกช่วยดูแลแทนฉันจะได้ไหม ”
“ เอ่อคือ ” ยุนอาอ้ำอึ้งเหมือนคนเป็นใบ้ ใจนึงก็ดีใจที่จะได้อยู่ใกล้ๆกับคนที่ตัวเองแอบรัก แต่อีกใจนึงก็ไม่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับความจริงที่ว่า คนที่ตัวเองต้องมาดูแลได้ชื่อว่าเป็นแฟนของเพื่อน
“ ว่าไงล่ะ แกจะดูแลเจสสิก้าแทนฉันได้ไหม ยุนอา ”
“ ได้ ฉันจะดูแลเจสสิก้าแทนแกเองไม่ต้องเป็นห่วงนะ ”
“ แกรับปากแล้วนะ ยุนอา ”
“ อือ ฉันรับปาก ”
และแล้วเวลาที่ยูริจะต้องเดินทางก็มาถึง ยุนอากับเจสสิก้ามาส่งยูริที่สนามบินอินชอน ยูริยังอาลัย
อาวรเจสสิก้าอยู่ตลอดเวลา
“ นี่สิก้า ยูลไม่อยู่สิก้าดูแลตัวเองดีๆนะ ” ยูริสั่งกับเจสสิก้าด้วยความเป็นห่วง
“ ยูลก็ดูแลตัวเองดีๆล่ะ สิก้าเป็นห่วงนะรู้ไหม ” เจสสิก้าโผเข้าไปกอดยูริแน่น ซึ่งยูริก็กอดตอบเหมือนกัน
“ ไม่ต้องห่วงนะยูริฉันจะดูแลเจสสิก้าให้แกเอง ”
“ ขอบใจมากนะเพื่อน ” ไม่นานนักประชาสัมพันธ์ก็ประกาศให้ผู้โดยสารที่จะไปอังกฤษขึ้นเครื่อง
“ สิก้ายูลไปก่อนนะ ยุนอาฉันฝากด้วยนะ ”
“ ได้ โชคดีนะเพื่อน ”
แล้วยูริก็เดินไปขึ้นเครื่อง ตอนนี้เหลือเพียงยุนอากับเจสสิก้าเท่านั้นที่ยังยืนมองตามยูริจนลับตา
“ สิก้า เรากลับกันเถอะ ”
“ ยุนอา ฉันรู้สึกไม่ดีเลย ”
“ ทำไมล่ะ ไม่สบายเหรอ ”
“ เปล่า แต่ฉันรู้สึกใจหายยังไงไม่รู้ บอกไม่ถูกจริงๆ ”
“ ไม่มีอะไรหรอกน่า อย่าคิดมากเลย ”
เมื่อทำให้เจสสิก้าสบายใจแล้วยุนอาก็พาเธอแวะทานข้าวกลางวันกัน ยังเหลือเวลาอีกตั้งหลายชั่วโมงกว่าจะค่ำ ก็เลยฆ่าเวลาด้วยการเดินช็อปปิ้งไปเรื่อยๆ เข้าร้านนั้นออกร้านนี้ และยุนอาก็ได้เห็นรอยยิ้มที่สดใสของเจสสิก้าอีกคั้งหลังจากที่เมื่อกลางวันเธอเอาแต่นั่งซึม
“ ยุนอาเรากลับกันเถอะ ”
“ เบื่อแล้วเหรอ ”
“ เปล่าหรอก แค่รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวอยากอาบน้ำน่ะ ” มันก็น่าอยู่หรอกที่เจสสิก้าอยากอาบน้ำ ก็เล่นเดินกันตลอดเหงื่อก็ต้องออกบ้างถึงแม้จะอยู่ในห้างก็เถอะ
“ ก็ดีเหมือนกัน ฉันก็ชักจะเหนื่อยแล้วล่ะ ”
แล้วเราทั้งคู่ก็ออกมาจากห้างสรรพสินค้าตรงดิ่งมายังคอนโดหรูที่เจสสิก้าอยู่ ทีแรกยุนอากะว่าจะมาส่งเจสสิก้าถึงแค่หน้าห้องเท่านั้นเพราะกลัวมันจะดูไม่ดีที่มีผู้ชายอื่นนอกจากแฟนเธอมาหา
“ ยุนอา เข้ามาดื่มน้ำก่อนสิ ” เจสสิก้าชวนยุนอาให้เข้าไปดื่มน้ำในห้องของเธอ
“ ไม่เป็นไรหรอก ฉันไม่หิวน่ะ ” ใจจริงของยุนอาอยากจะเข้าไปข้างในห้องนั้นอยู่เหมือนกัน
“ งั้นก็ตามใจละกัน ขับรถดีๆล่ะ ”
“ อือ เธอเข้าห้องเถอะ ” เจสสิก้าเชื่อฟังคำพูดของยุนอา เธอเดินเข้าห้องไปอย่างว่าง่าย ยุนอายืนมองเธอจนแน่ใจว่าเธอล็อคประตูห้องแล้ว หลังจากนั้นเขาหันหลังเตรียมจะออกไปจากคอนโดแห่งนี้ แต่เสียงสะอื้นของใครบางคนก็รั้งเขาเอาไว้ ยุนอาเดินเข้าไปใกล้ประตูแล้วแนบหูเพื่อแอบฟังว่าใช่เสียงของคนที่เขาคิดไหม และมันก็ใช่จริงๆ
ก๊อกๆๆ
“ เจสสิก้า นี่ฉันเองนะ ยุนอา เธอเป็นอะไรหรือเปล่า ” ยุนอารีบเคาะประตูห้องของเจสสิก้ายกใหญ่
“ เจสสิก้า เธอเป็นอะไร เจสสิก้า ”
ไม่นานนักประตูห้องก็เปิดออกมาพร้อมกับใบหน้าสวยที่เปื้อนไปด้วยน้ำตา สภาพของเธอตอนนี้ดูไม่ได้เลย เธอไม่พูดอะไรนอกจากเดินเข้ามากอดยุนอา เจสสิก้าเธอเป็นอะไรกันแน่เมื่อครู่ยังยิ้มยังหัวเราะอยู่เลย
“ เจสสิก้า เธอเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม ”
“ ยุนอา ยูริเค้า เค้า ”
“ ยูริทำไม เจสสิก้า ยูริเป็นอะไร ” ยุนอาดันตัวของสาวเจ้าน้ำตาคนนี้ออกห่างเพียงเล็กน้อย เพื่อจะได้มองหน้าเธอให้ชัดๆ
“ ยูริตายแล้ว ” เหมือนเวลามันหยุดหมุน หูทั้งสองข้างมันอื้อไปหมด ในหัวมันมึนเหมือนโดนหมัดหนักๆมากระแทกเข้าอย่างจัง
“ เป็นไปได้ยังไงก็เมื่อกลางวันเรายังไปส่งเค้าที่สนามบินอยู่เลย ” ยุนอายังไม่เชื่อ อะไรก็คนเพิ่งแยกจากกันไม่นานเองนะ
“ ยูริตายแล้วจริงๆ ข่าวเพิ่งจะรายงานมาว่าเครื่องบินที่บรรทุกผู้โดยสาร เที่ยวบิน ที่จะไปอังกฤษ ตกลงกลางทะเล ไม่พบผู้รอดชีวิตเลย มันเป็นเที่ยวบินที่ยูรินั่งไปนะ ”
เจสสิก้าพูดทั้งน้ำตาที่ใหลออกมาอาบแก้มขาวๆอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ยุนอาเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้เธออย่างเบามือที่สุด หลังจากนั้นยุนอาก็พาเจสสิก้าเข้าห้องไปเพื่อชำระร่างกายและสงบสติอารมณ์
“ ยุนอา อย่าเพิ่งไป อยู่เป็นเพื่อนฉันก่อนได้ไหม ฉันไม่อยากอยู่คนเดียว ” เจสสิก้าขอร้องให้ยุนอาอยู่เป็นเพื่อน
“ ได้สิ ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนเธอเอง ” ยุนอาเดินไปคว้าตัวเจสสิก้าเข้ามากอดเพื่อให้เธออุ่นใจ มือขวาโอบเอวบางเอาไว้ ส่วนมือซ้ายก็ลูบผมของเธอเบาๆเพื่อเป็นการปลอบใจ
“ ขอบคุณนะที่ไม่ทิ้งฉันไปอีกคน ” ยุนอาสะเทือนใจทันทีที่เจสสิก้าพูดว่า” อีกคน ” ซึ่งมันแปลว่าเขากำลังยุ่งอยู่กับคนที่มีเจ้าของแล้ว
“ ฉันว่าเธอไปนอนได้แล้วนะ ” ยุนอาดันร่างบางให้ออกห่างและไล่ให้เธอไปนอนพัก เพราะกลัวว่าถ้าขืนเขากอดเธอนานๆเขาจะอดใจไม่อยู่ที่จะไม่ปล่อยเธอ
“ แล้วเธอล่ะ “
“ ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ถ้าเธอไม่สั่ง ฉันจะอยู่กับเธอในห้องนี้ และจะนอนตรงโซฟานี่ ” ยุนอายืนยันว่าจะไม่ทิ้งเจสสิก้าไว้คนเดียว พร้อมกับเดินไปนั่งลงบนโซฟาตัวใหญ่ที่วางไว้ในห้องรับแขก เจสสิก้ามองมาที่ยุนอาแล้วก็ยิ้มออกมา ยุนอาดีใจนะที่เห็นรอยยิ้มนั้นถึงมันจะไม่เต็มที่ก็ตาม อย่างน้อยเจสสิก้าก็ยิ้ม
ยุนอาคอยดูแลปกป้องเจสสิก้าตั้งแต่ที่ยูริจากไปก็เป็นเวลาสองเดือนแล้ว เจสสิก้าทำใจได้แล้ว และกลับมายิ้ม หัวเราะอย่างสนุกสนานเหมือนเดิม วันนี้ยุนอามีงานค้างที่ยังทำไม่เสร็จก็เลยอยู่เคลียร์จนดึก พอยุนอาออกมาหน้าห้องทำงานของตัวเองก็พบว่าเจสสิกก้ายังนั่งทำงานอยู่เลย
“ นี่เจสสิก้า ดึกป่านนี้แล้วทำไมยังไม่กลับบ้านอีก ” เธอเงยหน้าขึ้นมามองหน้ายุนอาอย่างสงสัยเช่นกัน
“ แล้วเธอล่ะ ทำไมยังไม่กลับ ”
“ ฉันเคลียร์งานอยู่น่ะสิ ”
“ ฉันก็เหมือนกัน ”
“ แล้วเสร็จหรือยังล่ะ ”
“ เสร็จแล้ว กลับกันเถอะ ”
“ เธอเอารถมาหรือเปล่า ” ยุนอาถามเจสสิก้าเพราะอยากรู้ว่าเธอจะกลับบ้านยังไง
“ เปล่า ฉันจะกลับแท็กซี่ ”
“ ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวฉันไปส่ง ขืนปล่อยเธอนั่งแท็กซี่ฉันคงเป็นห่วงแย่เลย ” เจสสิก้ามองหน้ายุนอาอย่างสงสัย เหมือนกับหาความหมายของคำที่เขาเผลอพูดออกไป แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ จากนั้นทั้งสองคนก็เดินออกมาจากอาคาร ฝนเจ้ากรรมก็ดันมาตกเอาตอนนี้ทั้งยุนอาและเจสสิก้าวิ่งออกมาขึ้นรถที่จอดอยู่หน้าอาคาร ทั้งคู่ต่างก็เปียกปอน ยุนอาเห็นเจสสิก้าออกอาการหนาวสั่นคงเพราะโดนแอร์รถแน่ๆ
“ หนาวเหรอ ”
“ นิดหน่อยน่ะ ”
เมื่อได้ยินว่าเธอหนาวยุนอาก็ถอดเสื้อสูทตัวหนาออกจากตัวเองแล้วเอามันไปคลุมตัวให้คนที่นั่งสั่นเป็นเจ้าเข้า เจสสิก้ามองหน้ายุนอาอย่างหาคำตอบ ยุนอาเองก็ไม่ได้ปิดบังเลยที่จะแสดงออกว่าเขาเป็นห่วงเธอมากมาย
“ ใส่ซะเดี๋ยวจะเป็นหวัดเอา ”
“ ขอบคุณนะ ”
“ ไม่เป็นไร เพื่อเธอฉันทำได้ทั้งนั้นแหละ ”
แล้วยุนอาก็ขับรถออกไป ระหว่างที่เดินทางกลับบ้านทั้งสองคนไม่ได้พูดคุยอะไรกัน นอกจากนิ่งเงียบกันทั้งคู่ จนมาถึงที่หมาย ยุนอาขึ้นไปส่งเจสสิก้าถึงหน้าห้องเหมือนเดิม และไม่คิดจะเข้าไปข้างใน เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นคราวนั้นยุนอาก็ยังไม่เข้าไปข้างในอีกเลย เมื่อส่งเจสสิก้าถึงหน้าห้องแล้วยุนอาก็เตรียมเดินกลับไปข้างล่าง แต่เจ้าของห้องคว้าแขนของเขาเอาไว้
“ เดี๋ยวก่อนอย่าเพิ่งไป ”
“ ทำไม มีอะไรเหรอ ”
“ เข้าไปข้างใน แล้วทำตัวให้แห้งก่อนค่อยไป ขืนกลับไปสภาพแบบนี้มีหวังได้เป็นไข้แน่ๆ ”
“ แต่ ”
“ ไม่ต้องมีแต่ เข้าไปเลยไป ”
เจสสิก้าดันตัวยุนอาให้เข้าไปในห้องเธอจัดแจงให้ยุนอาอาบน้ำ พออาบน้ำเสร็จยุนอาก็เดินออกมาจากห้องน้ำที่อยู่ภายในห้องนอนของเธอ ยุนอาออกมาในสภาพที่มีแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันรอบเอวเอาไว้ เป็นเวลาเดียวกับที่เจสสสิก้าเดินเข้ามาในห้องนอนพอดีเมื่อเธอเห็นว่ายุนอายังไม่มีเสื้อผ้าใส่เธอก็รีบไปค้นเสื้อผ้าของยูริออกมา แต่แทนที่เธอจะเอามันมาให้ยุนอาใส่เธอกลับยืนจ้องมัน เจสสิก้ายืนนิ่งไม่ไหวติง ยุนอาพอจะเข้าใจจึงเดินเข้าไปใกล้ๆแล้วกอดเธอจากด้านหลัง ดูเหมือนว่าเธอจะได้สติ เจสสิก้าหมุนตัวหันหน้าเข้ามาหาคนตัวสูงในขณะที่เขายังกอดเธออยู่ ตาของทั้งสองสบประสานกัน ยุนอาเห็นความอ้างว้างในดวงตาแจสสิก้า เขาอยากจะปลอบเธอ แต่กลับโน้มใบหน้าเข้าไปหาเธออย่างช้าๆแล้วริมฝีปากของยุนอาก็ประกบกับริมฝีปากบางอย่างนุ่มนวล ดูเหมือนว่าเจสสิก้าจะไม่ปฏิเสธสัมผัสของยุนอา เธอกลับใช้แขนโอบรัดต้นคอของเขาเอาไว้และเผยอปากรับสัมผัสจากลิ้นอุ่นๆนั้นด้วย ทั้งสองคนจูบกันอยู่อย่างนั้นไม่นานเท่าไหร่ยุนอาก็ผละออกจากริมฝีปากบางแล้วมาซุกไซ้ซอกคอขาวเนียนแทน เขาอุ้มเจสสิก้ามาวางบนเตียงอย่างเบามือก่อนจะเริ่มปลดเปลื้องอาภรที่ปกปิดร่างบางเอาไว้ ปากเรียวยังคงฝากรอยแดงไว้ที่ลำคอของอีกฝ่ายและไล่ลงมาเรื่อยก่อนจะมาหยุดอยู่ที่หน้าอกคู่งาม หลังจากนั้นทั้งสองคนก็ลงเอยกันอย่างที่ควรจะเป็น
ยุนอาต้องการความรัก ส่วยเจสสิก้าต้องการความอบอุ่นดังนั้นมันไม่ยากเลยที่ทั้งสองคนจะเผลอตัวเผลอใจให้กันและกัน หลังจากวันนั้นความสัมพันธ์ของททั้งสองคนก็พัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ
ทั้งสองคนใช้ชีวิตอยู่อย่างคู่รักทั่วไปเป็นเวลาประมาณสองเดือนได้แล้วมั้ง แต่ก็ไม่ได้เปิดเผยอย่างป็นทางการ เจสสิก้ากำลังทำอาหาร ยุนอาเห็นร่างบางตั้งใจทำก็นึกสนุกจึงเดินเข้าไปกอดเธอและหยอกล้อกัน ทั้งสองหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน
“ นี่ยุนอา ปล่อยนะ เห็นไหมว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่เนี้ย ”
“ เห็น แต่ไม่ปล่อย ”
“ ปล่อยนะ เดี๋ยวก็ไม่ได้กินข้าวกันพอดี ”
“ ไม่ได้กินข้าว ก็กินเธอแทนยังไงล่ะ ”
“ บ้า พูดอะไรก็ไม่รู้ ”
“ ก็พูดความจริงไง เธอเล่นน่ากินออกอย่างนี้ แล้วจะไม่ให้ฉันอยากกินได้ยังไงล่ะ ”
ขณะที่ยุนอากำลังซุกไซ้ซอกคอของเจสสิก้าอยู่นั้น ใครบางคนก็เดินเข้ามาภายในห้องและเดินตามเสียงหยอกล้อที่ดังมาจากในครัว เขายืนดูการหยอกล้อกันของคนสองคนที่คุ้นตาเขาเป็นอย่างดี คนนึงก็เพื่อนอีกคนก็แฟน และดูเหมือนว่าเจสสิก้าจะรู้สึกตัวว่าไม่ได้อยู่กันแค่สองคน เธอจึงมองออกมาทางประตูห้องครัว เจสสิก้าตัวแข็งทื่อเหมือนเห็นผีทันที ยุนอาก็เริ่มเห็นว่าเจสสิก้าผิดสังเกตจึงมองตามไป แล้วเขาก็เจอกับร่างสูงโปร่งเท่าๆกับเขา คนๆนี้ไม่ว่าจะหายไปนานแค่ไหนเขาก็จำได้
“ ยูริ ” เป็นคำพูดแรกที่ยุนอาเอ่ยออกมา พร้อมกับคลายอ้อมกอดออกจากเจสสิก้า
“ ใช่ฉันเอง ไม่ได้เจอกันนานเลยนะยุนอา ”
“ นี่แกไม่ ”
“ ใช่ฉันยังไม่ตาย และดูเหมือนว่าแกจะดูแลเจสสิก้าแทนฉันได้ดีทีเดียวนะ ” ที่ยูริยังไม่ตายก็เพราะว่าวันที่เครื่งบินตกกระแทกพื้นน้ำเขาหนีออกมาจากตัวเครื่องก่อนที่มันจะจม เขาลอยคอมาติดฝั่งและชาวประมงก็ช่วยเขาเอาไว้ เขาต้องทนอยู่ที่นั่นตั้งหลายเดือนกว่าที่จะติดต่อสถานฑูตและทำเรื่องกลบมายังเกาหลีได้
“ เอ่อ คือฉัน ”
“ คิดถึงเธอนะเจสสิก้า ”
“ ยูริ ” เจสสิก้ากำลังจะอธิบายแต่ยูริขัดขึ้นก่อน
“ ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรตอนนี้หรอก เพราะฉันยังไม่อยากฟัง แต่ฉันอยากจะทำอย่างอื่นมากกว่า ”
“ แล้วแกอยากทำอะไรล่ะ ” ยุนอาถามด้วยความไม่รู้ และในไม่ช้าเขาก็กระจ่างแก่ใจเมื่อกำปั้นของยูริกระแทกเข้ากับหน้าของเขาอย่างจัง ยุนอาไม่ทันตั้งตัวจึงทำให้ขาเซไปตามแรงกระแทกของหมัด เจสสิก้ารีบวิ่งเข้าไปห้ามการกระทำของแฟนเก่า และเข้าไปดูอาการของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรักในตอนนี้ ยุนอามีเลือดกบปากและใหลซึมออกมา
“ เธอบ้าไปแล้วเหรอไงยูริ ” เจสสิก้าตะโกนใส่หน้ายูริด้วยความโกรธ แต่ยูริก็ยังทำหน้านิ่งไม่รู้สึกรู้สาอะไร
“ สิก้าช่างเถอะ ไม่เป็นไรหรอก ”
“ นี่สำหรับที่แกทำเกินหน้าที่ของตัวเอง ” ยูริพูดใส่หน้าของยุนอา และเป็นผลทำให้คนฟังหน้าสลดลงมาทันที เมื่อรู้ว่าที่อีกฝ่ายพูดมามันเป็นความจริง ความจริงที่ว่าเขาทำเกินหน้าที่ของผู้ดูแล
“ ยูริฉัน ”
“ แกไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น หมดหน้าที่ของแกแล้ว ไปซะ ต่อจากนี้ฉันจะเป็นคนดูแลเจสสิก้าเอง และแกก็ไม่ต้องมายุ่งกัยเธออีก ”
ยูริออกปากไล่ยุนอาทันที พร้อมกับเดินเข้ามากอดเจสสิก้าเอาไว้เพื่อบ่งบอกความเป็นเจ้าของ ใช่ยูริเป็นเจ้าของตัวจริงส่วนเขามันก็แค่คนดูแลเท่านั้น เจสสิก้าก็พูดอะไรไม่ออกได้แต่ยืนนิ่งให้ยูริกอดอยู่อย่างนั้น เมื่อโดนไล่แล้วยุนอาก็เดินคอตกออกมาจากห้องของเจสสิก้า เมื่ออยู่กันตามลำพัง ยูริก็ปล่อยเจสสิก้าให้เป็นอิสระ ส่วนตัวเองก็เดินมานั่งที่โซฟา ภายในห้องนี้บรรยากาศมันน่าอึดอัดมากและมันก็เงียบ เงียบจนสามารถได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเอง
“ สิก้า มานั่งนี่สิ ” ยูริตบเบาะโซฟาที่ว่างเพื่อเรียกให้เจสสิก้ามานั่งใกล้ๆเขา เจสสิก้าคิดอยู่สักพักก่อนจะเดินไปนั่งข้างๆยูริ เมื่อเห็นว่าร่างบางมานั่งข้างๆตนแล้วยูริก็กอดเธอทันที
“ เจสสิก้า ฉันรักเธอนะ เราแต่งงานกันเถอะ ”
“ ยูริ แต่ว่าฉันกับยุนอา เรา ”
“ ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ฉันรับได้ทุกอย่าง ”
ยูริรักเจสสิก้าจริงๆ เจสสิก้าก็สองจิตสองใจว่าจะเลือกใคร เพราะเธอรักทั้งสองคน และสุดท้ายเธอก็เลือกยูริถึงแม้ว่าจะรักยุนอาเหมือนกัน
“ ตกลงยูริ ฉันจะแต่งงานกับเธอ ” เจสสิกาพูดทั้งน้ำตา เพราะทราบซึ้งใจที่ยูริไม่คิดรังเกียจเธอแล้วทั้งสองก็แต่งงานกัน ส่วนยุนอานั้นตอนนี้ใจแตกสลายไม่เหลือชิ้นดี มีเมียก็ดันเป็นแฟนของเพื่อน และเมื่อรู้ข่าวว่าคนที่เขารักทั้งสองคนกำลังจะแต่งงานกัน ยิ่งทำให้เขาทนไม่ได้จึงบินไปดูงานที่ต่างประเทศในวันที่ยูริกับเจสสิก้าแต่งงานกัน เขาทนเดียวดายอยู่ที่อื่น ดีกว่าทนเห็นภาพบาดตาอยู่ที่เกาหลี และหลังจากงานแต่งผ่านพ้นไปได้ไม่นาน เจสสิก้าก็ต้องทำให้ยูริแปลกใจ เมื่อเธอท้องและยูริก็มั่นใจว่าเด็กในท้องนั่นไม่ใช่ลูกของเขาอย่างแน่นอน เพราะยูริเพิ่งกลับมา และเขากับเจสสิก้าก็แต่งงานกันได้ไม่นาน จะเป็นลูกของใครไม่ได้นอกจากลูกของ
“ ยุนอาใช่ไหม ที่เป็นพ่อของเด็กคนนี้ ” ยูริถามเจสสิก้าเพื่อหาคำตอบที่เขาเองก็รู้อยู่แก่ใจ เจสสิก้านิ่งเพียงชั่วอึดใจ
“ ใช่ ”
“ กี่เดือนแล้ว ”
“ สองเดือน ”
“ แล้วจะให้บอกมันไหม ”
“ ไม่ต้องหรอก ยังไงเราก็ต่างคนต่างอยู่ ”
“ แต่มันจะมาวันนี้แล้วนะ จะไม่บอกให้มันรู้หน่อยเหรอว่าเธอท้อง ”
“ เธอรับเด็กคนนี้ไม่ได้เหรอ ยูริ ”
“ ทำไมฉันจะรับไม่ได้ ฉันไม่เคยรังเกียจเธอกับลูกเลยนะเจสสิก้า ” ยูริเดินเข้ามากอดผูซึ่งได้ชื่อว่าเป็นภรรยาเอาไว้ หวังให้คนในอ้อมแขนเชื่อใจ
“ งั้นขอร้องล่ะ อย่าเพิ่งบอกยุนอานะ ”
“ ได้ถ้าเธอต้องการอย่างนั้น แล้ววันนี้จะออกไปรับยุนอาด้วยกันไหม ”
“ ไปสิ ยังไงเราก็ เป็นเพื่อนกันนะ ” เจสสิก้าบอกว่าเป็นเพื่อนแต่เธอก็รู้อยู่แก่ใจว่ามันไม่ใช่ที่สนามบินยูริกับเจสสิก้ามายืนรอยุนอาอยู่ที่อาคารผู้โดยสารขาเข้า และไม่นานยุนอาก็เดินออกมาและตรงมาหาคนทั้งสอง ยุนอาดีใจที่เจอยูริแต่ที่ทำให้เขาใจเต้นไม่เป็นจังหวะก็ตอนที่เห็นว่าเจสสิก้ามารอรับเขา เจสสิกาก็ไม่ต่างอะไรกัน เธอใจเต้นรัวมือไม้สั่นไปหมดเมื่อเห็นคนที่เธอรักอีกคน
“ เป็นไงเพื่อนสบายดีไหม สิก้าด้วยสบายดีไหม ” ยุนอาเอ่ยทักทายยูริและไม่ลืมที่จะทักทายเจสสิก้าด้วยเหมือนกัน
“ สบายดี สิก้าก็เหมือนกัน แล้วแกล่ะ ” ยูริตอบแทนเจสสิก้าเสร็จสับ
“ ฉันสบายดี ขอโทษด้วยนะที่ไม่ได้ไปร่วมงานแต่งน่ะ ”
“ ไม่ป็นไร ก็แกงานยุ่งนี่ เอาล่ะฉันว่าเรากลับกันดีกว่านะ แกจะได้พักผ่อนไง “ ยูริเดินมาเอาแขนคล้องคอยุนอาเหมือนสมัยที่ยังเรียนด้วยกัน ซึ่งมันทำให้ยุนอารู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมา เพราะว่านานแล้วที่พวกเขาทั้งสองคนไม่ได้กอดคอกันอย่างนี้ ทั้งสามคนขึ้นรถกลับยูริเป็นคนขับ โดยมีเจสสิก้านั่งอยู่ข้างคนขับ และยุนอานั่งอยู่เบาะหลังคอยลอบมองเจสสิก้าจากด้านหลัง ตลอดเวลาที่รถแล่นออกมาจากสนามบินก็มีเพียงยุนอากับยูริท่านั้นที่พูดคุยกัน ยุนอาหวังว่าเขาจะได้ยนเสียงหวานๆของใครบางคนแต่เธอคนนั้นกลับไม่ปริปากพูดอะไรเลยเอาแต่นั่งนิ่ง และในขณะนั้นเองที่รถมีปัญหาขับมาอยู่ดีๆมันก็ดับเองซะงั้น ยูริจึงอาสาลงไปดูโดยปล่อยในคนที่อยู่ภานในรถได้มีโอกาสคุยกันบ้าง
“ เดี่ยวฉันลงไปดูเอง แกนั่งอยู่ในรถนี่แหละ ” ยูริรีบห้ามเมื่อเห็นว่ายุนอาทำท่าจะลงไป แล้วยูริก็เดินไปเปิดกระโปรงหน้ารถ ก็เหลือแต่ความเงียบงันภายในรถ จนยุนอาทนไม่ไหวต้องเอ่ยปากพูดออกมาก่อน
“ ทำไมเงียบนักล่ะ สิก้า ”
“ ก็ไม่รู้ว่าพูดอะไรนี่ ”
“ อะไรก็ได้ แค่เป็นเสียงของเธอก็พอ ”
“ ทำไมถึงอยากให้ฉันพูดนัก ”
“ เพราะฉันอยากได้ยินเสียงของคนที่ฉันรักไง ” ไม่มีเสียงตอบรับจากเจสสิก้าอีกเลย เมื่อยุนอาเห็นว่าเจสสิก้าดูหงุดหงิดก็ไม่พูดอะไรอีก แล้วก็เดินลงไปหายูริ ปล่อยให้เจสสิก้านั่งอยู่ในรถเพียงลำพัง ยุนอาจะรู้ไหมว่าตอนนี้หัวใจของเจสสิก้ามันเจ็บปวดมากขนาดไหน เธออยู่ใกล้ยุนอาแค่เอื้อมมือแต่เธอไม่สามารถจะแตะต้องได้เลย ไม่สามารถจะบอกว่าคิดถึงและดีใจแค่ไหนที่ได้เจอเขาอีกครั้ง เธอไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากนั่งน้ำตาใหลเงียบๆเท่านั้น เมื่อไม่สามารถซ่อมรถเองได้ยูริจึงออกไปโบกรถเพื่อขอความช่วยเหลือ พอดีมีรถยนต์คันหนึ่งวิ่งมาเขาก็รีบออกไปโบกมือ รถคันนั้นแล่นเข้ามาใกล้เรื่อยๆ และดิ่งตรงมาหายูริด้วยความเร็ว เมื่อยุนอาเห็นยูริไม่หลบเขาจึงวิ่งไปผลักยูริออกไปให้พ้นจากตรงนั้นแต่เขากลับเป็นคนที่หลบไม่ทัน
เอี๊ยดดดดดดดดดด
มันเป็นเสียงของล้อรถยนต์ที่ถูกเบรคอย่างกระทันหัน แต่มันไม่ช่วยอะไรเมื่อร่างสูงของใครบางคนลอยข้ามหลังคารถและไปตกอยู่ที่พื้นแล้ว
ตุ๊บ
“ ยุนอา ” เจสสิก้าร้องเสียงหลง
ร่างของยุนอานอนนิ่งอยู่กลางถนน เขาไม่กระดิกแม้แต่น้อย เจสสิก้าที่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเต็มสองตาเธอแทบช็อคอยู่ตรงนั้น แต่เธอก็ตั้งสติที่มีอยู่น้อยนิดแล้ววิ่งออกมาหาร่างที่หมดสติของยุนอา เธอรีบวิ่งเข้าไปจับตัวของยุนอาที่ตอนนี้มีแต่เลือดสีแดงฉานใหลซึมออกมาจากลำตัว หัว และปาก
เจสสิก้ายกหัวของยุนอาขึ้นมาหนุนตักของตัวเอง ส่วนยูริเมื่อตั้งสติได้เขาก็รีบวิ่งมาหาเพื่อนทันที
“ ยุนอา ยุนอา ตื่นขึ้นมาสิยุนอา ” เจสสิก้าทั้งเรียกชื่อคนที่นอนนิ่ง ทั้งร้องไห้
“ เฮ้ย ไอ้ยุนแกอย่าเป็นอะไรนะ ตื่นขึ้นมาสิวะ ตื่นสิไอ้บ้า ” ยูริทั้งเรียกทั้งเขย่าตัวของยุนอา แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ ยุนอา ได้ยินฉันไหม ยุนอา ขอร้องล่ะตื่นทีสิ ” น้ำตาที่ใหลเอ่อออกมาจาตาของเจสสิก้าหยดลงไปโดนหน้าของยุนอา และเหมือนน้ำตาของเจสสิก้าจะช่วยได้เป็นอย่างดี ยุนอากระพริบตาเล็กน้อยและค่อยๆลืมตาขึ้นมา เขาฟื้นแล้วเจสสิก้ากับยูริคลี่ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ
“ ยุนอา ได้ยินฉันไหม ” เจสสิก้าเรียกชื่อของคนที่นอนมองหน้าเธอ และยุนอาก็มีการตอบสนอง
“ เจสสส สิก้า ” ยุนอาเรียกชื่อคนที่อยู่ตรงหน้าด้วยเสียงที่ติดขัดและแผ่วเบา
“ ยุนอาแกเป็นยังไงบ้าง ” ยูริที่คุกเข่าอยู่ข้างๆตัวเขาเอ่ยถามด้วยความห่วงใย
“ ฉัน ฉัน เจ็บไปทั้งตัวเลย ฉันคงไม่ไหว ”
“ ไม่นะแกจะตายไม่ได้นะ ได้ยินไหมแกห้ามตายนะ แกกำลังจะเป็นพ่อคนนะยุนอา ” คำพูดของยูริเรียกสติให้ยุนอาอีกครั้ง
“ แก แกว่า อะไรนะ ”
“ แกมีลูกแล้ว แกจะเป็นพ่อคนแล้ว เจสสิก้าท้องกับแก ” เจสสิก้าจับมือของยุนอาขึ้นมาแนบที่ท้องของตน
“ ยุนอา นี่ลูกของเรานะ ลูกของเธอ ” เจสสิก้าบอกให้ยุนอาสัมผสกับเจ้าตัวเล็กที่อยู่ในท้องของเธอ
“ ใช่เด็กในท้องเป็นลูกของแก ”
“ ไม่ ตอนนี้ เป็นลูกของแกแล้ว เพราะฉัน คงเป็นพ่อ ให้เค้าไม่ได้ ” ยุนอาพูดทั้งๆที่มีเลือดใหลออกมาจากปากอยู่ไม่หยุด แล้วเขาก็รวบรวมกำลังที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดเพื่อเอื้อมมือไปลูบใบหน้าของเจสสิก้า
“ เจสสิก้า ดีใจจัง ที่เธอ ยอมพูดกับฉัน ” และเขาก็เอื้อมมืออีกข้างไปจับมือของยูริ แล้วเอามาวางทับบนมือของเจสสิก้า
“ จะสายไปไหมหากฉันจะบอกตอนนี้ เจสสิก้า ฉันรักเธอนะ ยูริ ฉันขอโทษกับสิ่งที่ผ่านมา ฉันเสียใจ แกจะให้อภัยฉันได้ไหม ”
“ ได้สิฉันให้อภัยแกเสมอนะเพื่อน ” ตอนนี้ตาของยุนอาเริ่มหรี่ลงเรื่อยๆแล้ว
“ และอีกอย่างนะยูริ แกช่วยดูแลเจสสิก้ากับลูกแทนฉันด้วยนะ ” เสียงของยุนอาเริ่มเบามากขึ้นกว่าเดิม
“ แกไม่ต้องเป็นห่วงนะ ฉันจะดูแลเจสสิก้ากับลูกให้เอง ”
“ ขอบบบใจ นะเพื่อนนน ” นั่นเป็นคำพูดสุดท้ายที่ยุนอาเอ่ยออกมา เปลือกตาปิดลงเรื่อยๆจนสนิท ลมหายใจที่แผ่วเบาก็หยุดลงอย่างช้าๆ และมือที่กุมมือของเสสิก้ากับยูริก็เริ่มคลายออกและตกลงบนพื้น ตอนนี้หัวใจที่เคยแตกสลายของยุนอาก็หยุดเต้น เหลือเพียงแต่ร่างไร้วิญญาณที่ไม่รับรู้อะไรอีกต่อไป เขาจะไม่เจ็บปวดใจ จะไม่ทุกข์ทรมาน และเขาจะไม่เลือนหายไปจากใจของคนที่รักเขา
“ ไม่นะยุนอา อย่าจากฉันไป ได้ยินไหม อย่าจากฉันไป ฉันรักเธอยุนอาฉันรักเธอ ” เจสสิก้าร้องเรียกยุนอาเหมือนคนเป็นบ้า เธอกอดร่างที่ไร้วิญญาณของยุนอาแน่น พร้อมกับร้องไห้ปานจะขาดใจ ภาพเรื่องราวที่ผ่านมาระหว่างเธอกับยุนอาปรากฎขึ้นในหัวอยู่ไม่หยุด ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอไม่เคยบอกรักยุนอาเลย และตอนนี้เธอได้บอกรักแล้วแต่คนที่รักกลับไม่อยู่ที่จะฟังมัน
เจ็ดเดือนผ่านไป ยูริเดินวนไปวนมาอยู่หน้าห้องคลอด เขาทั้งตื่นเต้นที่จะได้เห็นหน้าลูก ทั้งเป็นห่วงเจสสิก้า เขาทำอะไรไม่ถูกเลย จนหมอทำคลอดเดินออกมานั่นแหละเขาจึงสงบลง
“ หมอครับ เมียกับลูกของผมเป็นยังไงบ้างครับ ”
“ ปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูกเลยครับ คุณได้ลูกเป็นผู้ชายยินดีด้วยนะครับ แถมเด็กยังแข็งแรงดีอีกด้วย ” เมื่อได้ยินว่ามู่กปลอดภัยเขาก็ดีใจอย่างบอกไม่ถูกถึงขนาดอุ้มนางพยาบาลที่เดินออกมาจากห้องคลอด ทั้งหมอทั้งพยาบาลต่างหัวเราะกับการกระทำของคุณพ่อมือใหม่คนนี้ และเมื่อหมอบอกให้เข้าเยี่ยมได้ยูริก็ไม่รีรอ เขาเดินเข้าไปหาเจสสิก้าที่นอนกอดลูกชายตัวน้อยอย่างน่าเอ็นดู
“ สิก้าลูกเราเป็นไงบ้างจ๊ะ ” เจสสิก้าเงยหน้ามองสามีที่เพิ่งเดินเข้ามา
“ นี่ไง ” เจสสิก้าชี้นิ้วไปที่เจ้าตัวน้อยที่นอนหลับปุ๋ยอยู่แนบกับอกของผู้เป็นแม่
“ เค้ามีชื่อหรือยัง ” ยูริเอ่ยถามภรรยา พรางเอามือลูบหัวเจ้าตัวน้อยไปด้วย
“ ยังไม่ได้ตั้งเลย เธอว่าเค้าควรจะชื่อว่าอะไรดีล่ะ ”
ยูริเพ่งพินิจหน้าของลูกชาย ใบหน้าเรียวยาว ปากสวยได้รูป ยิ่งมองก็ยิ่งเหมือน เหมือนใครคนนั้นมาก คนที่ทำให้เจ้าตัวน้อยถือกำเนิด
“ ยุนอา ลูกของเรามีชื่อว่า ยุนอา ” ใช่เด็กคนนี้เหมือน อิม ยุนอา ทุกอย่าง แล้วสองสามีภรรยาก็มองหน้ากันและยิ้มออกมาด้วยความยินดี ไม่ว่าตอนนี้ยุนอาจะอยู่ที่ไหน เขาก็ยังจะเป็นที่รักของยูริกับเจสสิก้าตลอดมาและตลอดไป เพราะเขาอยูในหัวใจของทั้งสองคน
THE END
.....................................................................................................................................................................................................................
ผลงานอื่นๆ ของ เฟื่องพิมาน ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ เฟื่องพิมาน
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ความคิดเห็น