ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { EXO }Pandora of love [ Chanbaek ]

    ลำดับตอนที่ #21 : Pandora 17

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.56K
      6
      9 พ.ย. 56

    Chapter 17

     









     

    เวลาผ่านไป 3 อาทิตย์แล้วที่ชานยอลกับแบคฮยอนไม่เคยได้ติดต่อกันเลยแม้แต่นิดเดียว เสียงก็ไม่ได้ยิน หน้าก็ไม่เคยได้เจอ เพราะเฮเคียวยึดโทรศัพท์ของแบคฮยอนไป แม้แต่โทรศัพท์บ้าน.. แบคฮยอนก็ไม่เคยมีโอกาสได้ใช้มัน ถ้าไม่ใช่พวกเพื่อนของเขาโทรเข้ามาจริงๆ 

    ดวงตาเรียวของคนตัวเล็กบวมขึ้นเพราะผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักเกือบทุกคืน... คิดถึงเหลือเกิน อยากเจอ อยากกอด แต่ก็ทำไม่ได้เลยสักอย่าง..

     

    ป่านนี้ชานยอลจะเป็นอย่างไรบ้าง จะคิดถึงเขาบ้างมั้ย ?

     

    แบคฮยอน.. เพื่อนๆ มาหาน่ะลูก

     

    เฮเคียวบอกผ่านบานประตูไม้เข้ามาในห้องนอนที่แบคฮยอนอยู่... ทำไมไม่มีสักครั้งที่แม่จะพูดว่าชานยอลมาหาบ้างนะ.. คิดถึงจริงๆ

     

    แม่ให้พวกเขาเข้ามาในห้องเลยครับ แบคฮยอนไม่อยากลงไปข้างล่าง

     

    เพียงพักเดียวลู่หาน เซฮุน คยองซู และจงอินก็เดินเข้ามาในห้อง พวกเพื่อนรักถึงกับผงะเมื่อเห็นสภาพของแบคฮยอนหลังจากที่ไม่เจอกันเพียงเดือนเดียว

    จากคนที่เคยดูมีชีวิตชีวา ใบหน้าที่ดูมีความสุขกลับเปลี่ยนไปเหลือแค่แบคฮยอนที่ดูทรุดโทรม ตัวผอมลง ใบหน้าเศร้าหมองและดวงตาที่บวมเป่งจนน่ากลัว...

     

    แม้พวกเพื่อนจะพยายามหาเรื่องพูดคุยให้อีกคนผ่อนคลาย หรือร่วมสนุกไปมากเท่าไหร่ก็ไร้ผล เมื่อสิ่งที่แบคฮยอนสนใจมีแค่เรื่องของชานยอล ทุกประโยคที่เอ่ยถามมีเพียงแค่เรื่องของชานยอลเรื่องเดียวเท่านั้น

     

    แบคฮยอน.. มึงเลิกทำเป็นหมาหงอยสักทีสิวะ

    มึงก็ลองห่างกับคยองซูดูบ้างสิจงอิน พอพูดเพราะเป็นห่วงทีไร ประโยคคำตอบก็มักจะเป็นการทวนคำถามกลับมาแบบนี้ทุกที จนเพื่อนๆ ถึงกับพากันถอดใจเรื่องที่จะพยายามเกลี่ยกล่อมให้แบคฮยอนอารมณ์ดีขึ้น

     

    อีกสักพักกูกลับแล้วนะ กูมีธุระต้องไปต่อ”  เซฮุนพูดขึ้นแล้วหันหน้าหนีแบคฮยอนที่เริ่มมีน้ำตาคลอขึ้น

     

    ไม่อยากอยู่คนเดียว.. ไม่อยากเหงาอีกแล้ว

     






    ก๊อก ก๊อก !

     

    แบคฮยอนอา.. แม่ออกไปทำธุระที่บริษัทก่อนนะลูก อยู่กับเพื่อนๆ ไปก่อนได้ใช่มั้ย ? จะเอาอะไรก็บอกพวกแม่บ้านข้างล่างนะ

     

    เสียงของเฮเคียวตะโกนบอกลูกชายก่อนจะเดินออกไป

     

    ความจริงแล้วเฮเคียวก็รู้สึกแย่ที่ต้องทำให้ลูกตัวเองต้องเป็นแบบนี้ เธอรู้ดีว่าแบคฮยอนรักชานยอลมากแค่ไหน เพียงแต่เธอก็ยังไม่ไว้วางใจในตัวของชานยอลมากถึงขั้นที่จะยอมรับง่ายๆ

    เธอเองก็เคยผ่านการเจ็บช้ำจากความรักมาถึงสองครั้งสองครา  เธอเลยอยากพิสูจน์ให้แน่ใจเสียก่อนถึงความมั่นคงของชานยอลที่มีต่อแบคฮยอน

     

    แต่เหมือนตอนนี้ทุกอย่างมันชัดเจนแล้ว...

     

     

    ว่าชานยอล ไม่เคยมีความมั่นคงต่อแบคฮยอนเลยสักนิดเดียว !

     

    ตลอดระยะเวลา 3 อาทิตย์ ชานยอลอยู่ในสายตาของเฮเคียวตลอด  ใครบางคนคอยเฝ้าดูพฤติกรรมของชานยอลอย่างไม่ละสายตา...

     









    ใครบางคนที่เจ็บช้ำจากการโดนเพื่อน และ แฟนหักหลัง !











     

     

     

    เมื่อได้ยินเสียงรถของแม่ออกไปจากบ้านแล้ว แบคฮยอนก็พยายามส่งสายตาให้เพื่อนๆ คล้ายกับจะร้องขออะไรบางอย่าง ซึ่งคนที่เป็นเพื่อนกันมาเกือบ 6 ปีก็สามารถเดาได้อย่างไม่ยากเย็น

     

    ไม่ต้องคิดจะให้กูพาไปหาชานยอล

    ลู่หานอา...

    กูบอกแล้วไงว่ากูมีธุระกันอ่ะแบคฮยอน

    เซฮุน.. มึงก็แค่พากูไปส่งหน้าคอนโดเอง

     

    เซฮุนถอนหายใจพรืดเมื่อคนตัวเล็กเหมือนจะลืมว่าทางไปที่ทำงานของเขา กับทางไปคอนโดของชานยอลมันคนละทางกัน  แล้วดูเหมือนว่าถ้ายังอยู่ต่ออีกสักพัก คงได้แพ้ลูกอ่อนของแบคฮยอนแน่ๆ เลยตัดสินใจที่จะลุกขึ้นเป็นคนแรกแล้วเดินออกไป

     

    เซฮุน.. มึงจะไม่ไปส่งกูจริงๆ หรอ ? จงอินก็ได้ ไปส่งกูเถอะนะ ในเมื่อขอร้องเซฮุนไม่ได้ผล ก็ต้องลองขออีกคนแทน

    ไม่ใช่ว่ากูไม่อยากพามึงไปนะแบคฮยอน แต่ว่าพวกกูกลัวว่ามึงจะเดือดร้อน ถ้าแม่มึงรู้

    เดี๋ยวสักวันมึงก็ต้องได้เจอกัน เชื่อกูเถอะนะคยองซูบอกเสริมเพื่อปลอบใจเพื่อน ซึ่งดูเหมือนจะไม่ได้ผลเลยเมื่อแบคฮยอนเริ่มมีน้ำตาคลอขึ้นมาอีกครั้ง

     

    แต่กูอยากเจอชานยอล ต่อให้กูต้องเดือดร้อนกูก็ยอม...

     

    สุดท้ายน้ำตาที่กลัดกลั้นไว้ก็ค่อยๆ ไหลออกมาเปื้อนแก้ม  ลู่หานที่เห็นแบบนั้นจึงเป็นเดินเข้าไปกอดเพื่อนตัวเล็กไว้แนบอกด้วยความสงสาร

     

    ไม่ใช่ว่าลู่หานไม่เข้าใจ... ทุกคนสงสารและเห็นใจแบคฮยอนถึงที่สุด แต่จะทำอะไรไปโดยพลการมันก็ไม่ใช่เรื่อง เดี๋ยวจากที่แย่อยู่แล้ว จะกลายเป็นแย่หนักมากกว่าเดิม

     

    เพื่อนๆ ปลอบกันได้สักพักก็ลากันกลับไปเพราะเซฮุนต้องไปทำธุระ สุดท้ายแบคฮยอนก็ต้องนั่งเหงาอยู่คนเดียวในห้อง  เหม่อมองไปที่หน้าต่างคล้ายกับกำลังคิดอะไรอยู่

     

    เพียงสักพักร่างบางก็สะดุ้งคล้ายกับหลุดออกจากภวังค์  ขาเล็กเดินไปเปิดหน้าต่างห้องนอนที่อยู่ชั้นสองของบ้านออกไป แล้วมองไปที่พื้นสนามหญ้าด้านล่าง

     

     

    นี่ถ้าโดดลงไป... จะตายหรือจะพิการนะ ?

     

    ฝืนกลืนก้อนน้ำลายเหนียวลงคออย่างยากลำบาก แววตาสั่นระริกด้วยความกลัวกับการตัดสินใจกระทำการบ้าบิ่นเช่นนี้ ! แต่ถ้าไม่ทำ... เขาก็ไม่รู้จะมีโอกาสได้เจอกับชานยอลอีกทีตอนไหน

     

     

    แบคฮยอนเดินไปหยิบผ้าคลุมเตียงในตู้เสื้อผ้าออกมา แล้วนึกว่าถ้าตัวเองทำเหมือนในละครด้วยการนำผ้ามามัดต่อๆ กัน แล้วปีนลงไปจะดีมั้ย ?

     

    ไม่เอาล่ะ... กว่าจะปีนลงไปได้ คงมีคนเห็นก่อนพอดี !

     

    สุดท้ายผ้าผืนนั้นก็ถูกเก็บไว้ที่เดิม แล้วเปลี่ยนเป็นตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ที่เฮเคียวเคยซื้อให้ไว้แทน !

     

    ตัวมันก็ใหญ่พอพอกับเขา ถ้าเกินว่าเขาโดดลงไปทับมัน มันอาจจะช่วยให้ไม่เจ็บมากเท่าที่ควรนะ...

     

    ชานเลี่ย... หนูอย่าโกรธป่ะป๊านะครับ” 

     

    ใบหน้าน่ารักถูไถไปกับลำตัวของตุ๊กตาหมีตัวโปรด.. ชานเลี่ยตัวน้อย ? ที่น่าสงสาร ลงไปนอนที่พื้นหญ้าเพื่อป่ะป๊า และได้โปรดปกป้องป่ะป๊า ให้มีชีวิตรอดด้วยเถิด ! ( ห๊ะ ! )

     

    สุดท้ายชานเลี่ยที่น่าสงสารก็ถูกโยนลงไปจากหน้าต่างชั้นสองของบ้าน แล้วเพียงไม่นานก็ตามลงมาด้วยร่างของแบคฮยอนที่โดดลงมาทับตรงตัวตุ๊กตาตัวโปรดอย่างพอดิบพอดี

     

    อัก !

     

    จ.. จุกเชี่ยย โอ้ยยยย....

     

    สองมือยกขึ้นมาปิดปากของตนไว้เพื่อไม่ให้หลุดเสียงดังโวยวายออกมา แต่ถึงอย่างนั้นก็อดไม่ได้ที่จะครางด้วยความเจ็บปนจุก

    พอประคองร่างให้ลุกขึ้นได้ก็เดินย่องไปตรงข้างๆ บ้านเพื่อสอดส่องว่าทางโล่งหรือไม่ แล้วผลก็เป็นไปตามคาด... พวกแม่บ้านแก่ๆ ทั้งหลายมัวแต่หมกมุ่นทำงานกันอยู่ในบ้าน ส่วนคนสวนที่ถูกจ้างมาก็โดดงานตามปกติ เมื่อคุณนายบยอนไม่อยู่

     

    สองเท้าเปล่าเปลือยออกวิ่งไปจากประตูรั้วของบ้านทันที ระหว่างที่วิ่งไปนั้นก็เหยียบหิน เหยียบเศษอะไรต่อมิอะไรจนเจ็บแสบไปหมด แต่ก็ต้องกัดฟันทน

     

    เพื่อชานยอล... เพื่อคนที่รักที่สุดเพียงคนเดียว !

     

     

    เมื่อวิ่งไปได้ประมาณกิโล สองกิโลเท่านั้น ขาก็เริ่มล้า... แบคฮยอนหอบจนตัวโยนไปทั้งตัว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่หยุดวิ่ง

     

    ระยะทางจากบ้านไปคอนโดก็แค่เกือบ 20 กิโลเอง T^T

     

     

    ปรี๊นนนนนน !!

     

    เสียงบีบแตรรถดังขึ้นจากทางด้านหลัง แบคฮยอนจึงหันไปมองด้วยความตกใจ แต่เมื่อเห็นว่าคนที่อยู่ภายในรถเป็นใคร หัวใจก็พลันโลดแล่นด้วยความดีใจอีกครั้ง

     

    อย่างน้อยโชคชะตาก็ไม่ได้เล่นตลกกับเขามากเกินไป !

     

    แบคฮยอนจะไปไหนครับ ?”

    พี่คริส ! พี่อี้ชิง !”

     

    เมื่อขึ้นมาอยู่บนรถ แบคฮยอนก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้คู่รักสูงอายุ ? ฟังทันที   อี้ชิงที่สงสารแบคฮยอนจับใจถึงกับน้ำตาไหล ปีนจากที่นั่งคนขับมาข้างหลังเพื่อกอดปลอบแบคฮยอนทันที

     

    แบคฮยอน แล้วทำไมไม่ใส่รองเท้าออกมา ? แล้วนั่น.. เลือด !”

     

    อี้ชิงก้มไปมองที่เท้าของแบคฮยอนก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่ามีเลือดไหลออกมาตรงบริเวณฝ่าเท้าของคนตัวเล็ก  มือขาวๆยื่นไปหวังจะจับขึ้นมาดูแผล แต่ก็ต้องถูกห้ามไว้ก่อน

     

    พี่อี้ชิง ! อย่าฮะ... เดี๋ยวแบคไปทำแผลที่คอนโดของชานยอลเอง

    แต่แผลน่าจะลึกนะ เลือดยังไม่หยุดไหลเลย... ฟาน ! คุณพาแบคไปโรงพยาบาลก่อนได้มั้ย ?”

     

    ฟาน... คริสที่ถูกเรียกซ้อนตาขึ้นมองผ่านทางกระจก เห็นแบคฮยอนเบะปากแล้วส่ายหน้ารัวๆ เพื่อปฏิเสธ คริสก็ถึงกับหลุดขำ

     

    ผมน่ะไม่มีปัญหาหรอกชิง แต่แบคฮยอนเนี่ยสิ จะร้องไห้อยู่แล้ว

    แต่ชิงว่า...

    ไม่เป็นไรจริงๆ ครับพี่อี้ชิง.. แบคอยากเจอชานยอล... อยากเจอจะตายแล้ว

     

    ในเมื่อคนที่เป็นแผลยืนยันว่าจะไม่ไป คุณหมอคนสวยก็คงจะชัดใจอะไรไม่ได้

    ตลอดทางมีเพียงเสียงของอี้ชิงที่คอยถามสารทุกข์สุขดิบของน้องชายที่รัก เสียงเจื้อยแจ้วที่พูดคุยกันทำให้คริสอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมากับความน่ารักของ ภรรยาคนสวย กับ น้องชายตัวแสบ

     

    เมื่อมาถึงหน้าคอนโด แบคฮยอนก็โดดลงจากรถทันที โดยไม่ลืมที่จะหันมาโค้งศีรษะขอบคุณพี่ทั้งสองบนรถ เมื่อเดินเข้ามาภายในห้องโถงของคอนโดเตรียมจะเดินไปกดลิฟท์ก็เจอกับเพื่อนคนหนึ่งที่ไม่ได้เจอกันมาเกือบสองเดือนทั้งๆที่อยู่คอนโดเดียวกัน...

     

    จื่อเทา ! ไม่เจอกันนานเลยนะ กำลังจะไปไหนหรอ ?”

    ไม่ได้ไปไหนหรอก... แต่กำลังจะขึ้นห้องน่ะ

    งั้นไปพร้อมกันเลยนะ ^^”

     

    แบคฮยอนเดินมากอดคอเพื่อนแล้วเดินเข้าลิฟท์ไป  ร่างบางของแบคฮยอนไม่อยู่สุขตลอดเวลา ใบหน้าก็มีแต่รอยยิ้มเมื่อนึกถึงตอนที่จะได้เจอกับคนรัก...

     

    แบคฮยอน.... มาหาชานยอลหรอ ?”
    อื้อ ! ฉันคิดถึงจะแย่อยู่แล้ว เทาหันมามองหน้าแบคฮยอนด้วยแววตาเรียบเฉย แต่ถ้ามองลึกๆก็จะเห็นว่าเขาต้องการสื่ออะไรบางอย่างออกมาให้แบคฮยอนได้รับรู้

     

    ความเศร้า.. และความผิดหวังที่ซ่อนอยู่ภายใต้นัยน์ตาคม...

     

    แบคฮยอน เดี๋ยวฉันไปส่งนะ ดูท่าแล้วนายคงจะเดินลำบาก ก้มหน้ามองเท้าของแบคฮยอนที่เป็นแผลอยู่ จนพื้นที่ภายในลิฟท์เปื้อนเลือดตรงตำแหน่งที่แบคฮยอนยืน

     

    ย๊าส์ ! พื้นเปื้อนเลย T^T ขอบคุณมากนะเทา

     

     

    ติ๊ง !

     

    เมื่อมาถึงที่หมาย ลิฟท์ก็เปิดออกแล้วร่างบางของแบคฮยอนก็พุ่งออกมาจากข้างใน... ความตื่นเต้นดีใจทำให้ลืมความเจ็บปวดที่เกิดจากบาดแผล

     

    เทามองตามแบคฮยอนไปด้วยใบหน้าเรียบเฉย... ก้มมองหยดเลือดที่ไหลมาเปื้อนพื้นจากเท้าของแบคฮยอน

     

     

    อีกไม่นาน.. หยดเลือดพวกนี้คงถูกแทนที่ด้วยคราบน้ำตา

     

     

     

    ประตูห้องของเขาสองคนถูกเปิดออก แบคฮยอนรีบเดินเข้าไปข้างในจนไม่ทันได้เอะใจเลยสักนิดว่า

     

    ประตูห้องไม่ได้ล๊อค

     

     

    อือ.... เสียงของชานยอลดังมาจากทางห้องนอน แบคฮยอนหันไปตามเสียงแล้วขำคิกเมื่อนึกถึงใบหน้ายามหลับใหล แล้วเผลอละเมอครางออกมาแบบนี้ทุกครั้ง

     

    เตรียมจะเดินไปเปิดประตูห้องนอนออก หวังจะเซอร์ไพรส์คนรักให้ดีใจ ทว่า...

     

    ชานยอลอา... อย่าแกล้งสิ

     

    เสียงนั้น... เป็นเสียงของใคร ?

     

    มือจับลูกบิดประตูค้างไว้แบบนั้น เทาที่เดินตามแบคฮยอนเข้ามาในห้องตั้งแต่แรก ทาบมือลงไปบนมือเล็กของแบคฮยอนที่จับลูกบิดอยู่

     

    สิ่งที่นายเห็นต่อไปนี้มันอาจจะทำให้ชีวิตของนายเปลี่ยนไป...

    .....

    ถ้านายต้องการให้ฉันช่วยอะไร.. นายบอกฉัน แล้วฉันจะช่วยเองแบคฮยอน

     

    ปล่อยมือออกให้แบคฮยอนได้เป็นอิสระ แบคฮยอนยืนนิ่งอยู่เพียงสักพักก็ตัดสินใจเปิดประตูออกไปเพื่อพบเจอกับความจริงบางอย่าง...

     

    ความจริงที่โหดร้ายเกินกว่าหัวใจจะรับไหว !

     

     

     

    ฮึก...

    ดวงตาเรียวเคลือบด้วยน้ำตาทันทีที่ประตูถูกเปิดออก ร่างของคนสองคนบนเตียงสีขาวสะอาดซึ่งเคยเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเขากับชานยอลถูกคนนอกขึ้นมาทับที่  เหมือนไม่รู้ตัวว่ามีใครยืนอยู่กิจกรรมจึงยังคงดำเนินต่อไป...

     

    สองร่างกอดรัดกันแน่นด้วยสภาพเปลือยท่อนบน ริมฝีปากของทั้งคู่ประกบเข้าหากันอย่างเร่าร้อนประกอบกับเสียงครางอื้ออึงในลำคอ

     

    เดาได้เลยว่าต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นถ้าไม่มีบุคคลที่สามและสี่เข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน !

     

    ชานยอล....

    “ !!!!

     

    คนถูกเรียกชื่อเงยหน้าขึ้นจากการทำกิจกรรมเมื่อครู่.. เสียงที่แสนคุ้นเคยทำให้ชานยอลหันไปมองตามด้วยความตกใจ !

     

    แบคฮยอน !”
    พวกนาย... ทำบ้าอะไรกันอยู่ !”

     

    ชานยอลลงจากเตียงหวังจะเข้ามากอดคนตัวเล็กสักทีให้หายคิดถึง.. ทว่าการกระทำเมื่อสักครู่นี้ ทำให้ร่างบางถอยหลังออกห่างโดยอัตโนมัติ

     

    อย่าเข้ามา ! มึงอย่าใช้ร่างกายที่สกปรกนั่นมาเข้าใกล้กู !”

     

    สรรพนามบ่งบอกถึงอารมณ์และความรู้สึกได้เป็นอย่างดี ดวงตาเรียวมองคนรักอย่างผิดหวังถึงที่สุด

    ความรักในการใช้ชีวิตคู่ ถูกทำลายลงเพียงเวลาไม่ถึง 3 นาที....

     

    ....เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมภายในห้อง ไม่มีใครพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว

    เทาที่ยืนอยู่ข้างหลังแบคฮยอน ทอดสายตามองคนรักของตนที่ยังคงนั่งอยู่บนเตียงนอน ไม่ขยับตัวไปไหน... ถึงแม้จะรู้เรื่องมาก่อนหน้านี้สักพักแล้ว แต่ก็อดที่จะเสียใจไม่ได้เมื่อต้องเห็นความจริงกับตาของตนเอง

     

    ทำไม... ทำไมซูโฮถึงต้องหักหลังต่อความรักที่เขามีให้ !

     

    สนุกมากมั้ยปาร์คชานยอล !?”

    ......

    ทำไมมึงทำแบบนี้ ? มึงทำกับกู กับเทาอย่างนี้ทำไมชานยอล !”

    ......

     

    เมื่ออีกคนยังไม่แม้แต่จะเอ่ยปากพูดอะไรออกมา แบคฮยอนก็ยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่ มือเล็กผลักเข้าที่แผ่นอกเปลือยเปล่าของอีกคนเต็มแรง แล้วยืนจ้องอยู่อย่างนั้น

     

    กูขอโทษ

     

    เพี้ยะ !

     

    ใบหน้าขาวสะบัดไปตามแรงมือของแบคฮยอน เลือดซึมออกมาตรงมุมปาก แต่ก็ไม่ได้เรียกความสงสารจากแบคฮยอนได้แม้แต่นิด !

     

    เก็บคำขอโทษของมึงไว้ให้เทาเถอะนะชานยอล... กูไม่รับ !”

     

    แบคฮยอนมองไปภายในห้องที่ซูโฮอยู่ แล้วส่งสายตาเหยียดหยันไปให้

     

    อยากได้นักใช่มั้ยแฟนของคนอื่นน่ะซูโฮ ?”

    .......

    นายเอาไปเลย ! ฉันยกให้ !!” ตะโกนเสียงดังลั่นห้องด้วยความโมโห จนคนที่ถูกพูดด้วยถึงกับหน้าชา...

     

    ขอบใจมากนะแบคฮยอนอา...

    ......

    ฉันจะได้ไม่ต้องมาคอยหลบๆ ซ่อนๆ แบบนี้อีก คิก ^^”

    “!!!!!”

     

    ซูโฮลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินมากอดแขนชานยอลไว้แน่น ไม่แม้แต่จะสนใจความรู้สึกของเทา.. คนที่คบมานานถึง 4 ปี !

     

    ไฟที่ลุกโชนอยู่แล้ว เมื่อเจอลมโหมพัดย่อมลุกไหม้หนักกว่าเก่า..

     

    แบคฮยอนหมายจะเดินเข้าไปหาซูโฮ แต่กลับถูกคนที่ยืนอยู่ข้างหลังคว้าแขนไว้เสียก่อน.. แบคฮยอนหันขวับไปมองอย่างขัดใจ แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นใบหน้าของเทาที่เปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา..

     

    ชานยอลและซูโฮเองก็ตกใจไม่ต่างกันเมื่อเห็นว่าคนที่เคยเข้มแข็งอย่างจื่อเทามีน้ำตาแบบนี้... ขนาดตลอดเวลาที่คบกันเทากับซูโฮจะทะเลาะกันมากมายสักแค่ไหน แต่ซูโฮก็ไม่เคยได้เห็นน้ำตาของคนรักเช่นนี้

     

    ขอโทษนะเทา... ขอโทษที่ฉันทำร้ายนาย...

     

    แบคฮยอน... ยอลขอโทษจริงๆ ได้โปรด...

     

    แกร้ง !

     

    แหวนเงินที่สลักชื่อไว้ว่า Park Baekhyun ถูกขว้างใส่ใบหน้าคมคายของชานยอลเสียเต็มแรง แหวนนั่นกลิ้งไปแรงเหวี่ยงแล้วไปหยุดอยู่ที่ใดที่หนึ่งซึ่งแบคฮยอนก็ไม่ได้สนใจมัน....

     

    แหวนวงนั้น... มึงสวมให้กูด้วยความรักในวันที่มึงยังคงซื่อสัตย์กับกูอยู่... แต่ในวันนี้กูเป็นคนถอดมันออกแล้วขว้างมันทิ้งไปอย่างไม่สนใจ เมื่อหมดเลือกที่จะทรยศกับความรักของกู !”

    ......

    กูกับมึง... เราขาดกัน !”

     

    น้ำตาใสไหลรินลงมาจากดวงตาเรียวเล็ก ความรู้สึกเจ็บจากการโดนหักหลังมันเจ็บ ทรมานมากแค่ไหนก็พึ่งเคยได้สัมผัสกับมันเป็นครั้งแรก

     

    แบคฮยอนหันมาจับมือเทาไว้แล้วเดินจูงมือกันออกจากห้องไป ชานยอลที่ยังคงมองตามอยู่ทรุดลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง..

     

    เขาผิดเขารู้ดี ผิดเองที่ทรยศต่อความรักของแบคฮยอน.. เลยไม่อยากจะพูดแก้ตัวอะไรออกไปให้ดูน่าสมเพชมากกว่าเดิม

     

    ขอโทษ... แบคฮยอน

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    แบคฮยอนเดินก้าวขาออกจากห้องของชานยอลมาได้เพียงพักเดียวก็หมดเรี่ยวแรงที่จะเดินต่อ สองขาทรุดนั่งลงกับพื้นปล่อยให้น้ำตาไหลจนอาบหน้า เสียงสะอื้นดังกึกก้องไปทั่วบริเวณนั้น

    เทาเองก็ทำได้แค่ยืนมองเฉยๆ จะเข้าไปปลอบใจได้อย่างไร ในเมื่อเขาเองก็ยังอ่อนแอไม่ต่างกัน...

     

    แบคฮยอน...เสียงที่แสนคุ้นเคยดังขึ้นจากเบื้องหน้าของเขา...

    ฮึก.. แม่ครับ

     

    แบคฮยอนเหมือนจะแปลกใจไม่น้อยเมื่อเห็นว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือเฮเคียว... ก็ไหนบอกว่าไปธุระแล้วทำไม ?

     

    มาหาแม่

     

    เฮเคียวอ้าแขนออกรอให้แบคฮยอนวิ่งเข้าไปกอดเธอเหมือนกับเมื่อตอนเด็กๆ ที่แบคฮยอนชอบวิ่งมากอดเธอในตอนที่เขาหกล้ม...

     

    ฮึก..แบคฮยอนโผเข้ากอดคนเป็นแม่แล้วร้องไห้เหมือนเด็กๆ เฮเคียวลูบศีรษะของลูกอย่างอ่อนโยน เธอเข้าใจดีว่าการโดนทรยศหักหลังมันเจ็บมากขนาดไหน เธอเข้าใจความรู้สึกนั้นดี...

     

    ไม่เป็นไรนะแบคฮยอน... ลูกยังมีแม่นะ

    เจ็บจังครับแม่.. ผมเจ็บ ฮือ..ปล่อยให้น้ำตาไหลลงจนเปียกซึมเสื้อของผู้เป็นแม่ เฮเคียวมองไปทางจื่อเทาที่มีสีหน้าเจ็บปวดไม่ต่างกันกับลูกชายของเธอ

     

    ขอบคุณนะเทา... มีอะไรโทรหาหรือไปที่บ้านฉันได้นะ

     

    เฮเคียวยิ้มให้กับจื่อเทาอย่างอ่อนโยน ซึ่งนั่นก็พอจะทำให้เทารู้สึกดีขึ้นแม้จะไม่ได้รับอ้อมกอดอบอุ่นเหมือนกับแบคฮยอนก็ตาม

     

    ฮึก.. แม่ครับ ผมอยากกลับบ้าน

    อือ.. กลับบ้านเรากันนะแบคฮยอน....

     

    สองมือประคองลูกชายของตนไว้เพื่อไม่ให้เดินล้มลงไปอีก แบคฮยอนสะอึกสะอื้นจนตัวโยนซึ่งก็ทำให้ผู้เป็นแม่น้ำตาซึมด้วยความสงสารลูกจับใจ...

     

    ตระกูลปาร์คก็เป็นแบบนี้ทุกคน ! ดีแต่ทำให้คนอื่นต้องผิดหวังและเสียใจ...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    เฉลยปมสองตระกูล...

     

     

     

    ย้อนกลับไป 25 ปีก่อน

     

     

    จีมินและเฮเคียวคือเพื่อนที่คบกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมปลาย ทั้งสองเป็นเพื่อนที่รักกัน ไว้ใจกันมาก ไม่ว่ามีเรื่องอะไรก็จะเล่าให้ฟังตลอด ไม่เคยมีความลับต่อกันเลยแม้แต่เรื่องเดียว

     

    แต่แล้ววันนึงความเป็นเพื่อนก็ต้องจบลง เมื่อมีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในชีวิตของหญิงสาวทั้งคู่...

     

    ความเจ็บปวดจากการโดนทรยศหักหลังทั้งจากเพื่อนและแฟนทำให้เฮเคียวถึงกับคิดจะฆ่าตัวตาย  คนหนึ่งทุกข์ทรมาน แต่อีกสองกลับเสวยสุขกันไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น

     

     

    ในช่วงปีหนึ่งของมหาวิทยาลัย เฮเคียวได้พูดคุยกับผู้ชายที่ชื่อมินโฮ เขาเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่นิสัย หน้าตา และฐานะโอเค ครอบครัวตระกูลบยอนยอมรับในคุณสมบัติที่เพียบพร้อมของมินโฮ  

     

    พอขึ้นปีสองเฮเคียวก็ได้สูญเสียพ่อและแม่ไปทั้งคู่เพราะท่านประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ช่วงนั้นมีเพียงมินโฮและจีมินที่คอยอยู่ข้างเธอเสมอ

     

    แต่พอปีสาม.. ทั้งเพื่อนและคนรักของเธอกลับเริ่มมีปฏิกิริยาที่แปลกไป เหมือนกับทั้งคู่มีความลับอยู่ แต่ด้วยความที่ไว้ใจ และรักมากจึงไม่กล้าที่จะสงสัยอะไรในความสัมพันธ์ของทั้งสองคน

     

    แต่แล้วสุดท้ายความลับก็ย่อมไม่มีในโลก... ในวันที่เฮเคียวไปหาเพื่อนรักที่บ้านนั่นเอง คือวันที่ทุกอย่างโดนเปิดเผยออกมา.... ภาพของคนรักกับเพื่อนรักที่คบกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมจูบกันอยู่บนโซฟากลางบ้าน !

     

    ทุกอย่างพังทลายลงนับตั้งแต่วันนั้น.. คำแก้ตัวที่ได้จากมินโฮคือการที่บอกว่าเขาแอบรักจีมินมาสักระยะแล้วแต่ไม่กล้าที่จะบอกเฮเคียวไปตรงๆ ส่วนจีมินก็บอกว่าแอบรักมินโฮนับตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอแล้วเหมือนกัน แต่เพราะเห็นว่าเป็นคนรักของเพื่อนเลยไม่กล้าที่จะยุ่ง

     

    แต่เพราะความหวั่นไหวเลยทำให้ทั้งคู่แอบมีความสัมพันธ์ลับๆ มานานนับปีแล้ว....

     

     

    เฮเคียวก็เหมือนคนโง่ โง่มากๆ ที่โดนทั้งเพื่อนรักและคนรักหลอกมาแรมปีแต่ไม่เคยเอะใจอะไรเลย  ความผิดหวังทำให้เฮเคียวนึกอยากจะตายเสียให้รู้แล้วรู้รอด แต่ใจนึงก็คิดว่าปัญหาแค่นี้เดี๋ยวก็ต้องผ่านไปได้ทำให้ความคิดที่จะฆ่าตัวตายหายไปนับตั้งแต่วันนั้น

     

    เธอทนใช้ชีวิตอย่างขื่นขมมานานเป็นปี จนกระทั่งจบมหาวิทยาลัยเฮเคียวก็ไม่เคยได้เจอกับมินโฮและจีมินอีกเลย  ในช่วงที่เธอเข้าไปบริหารงานในบริษัทบยอนต่อจากพ่อเธอก็ได้พบกับความรักครั้งใหม่

     

    ฮยอนบิน ผู้ชายที่เธอคิดว่าจะได้ใช้ชีวิตคู่กับเขาจนกระทั่งแก่ตาย แต่สุดท้ายมันก็เป็นแค่ความฝัน...

    เมื่อเธอพบว่าเธอไม่สามารถให้กำเนิดเด็กได้ ฮยอนบินก็เลิกรากับเธอทันที... ความเสียใจเข้าทำร้ายเฮเคียวอีกครั้งแต่ก็ไม่ได้ร้ายแรงเท่าที่มินโฮทำไว้กับเธอ

     

    จนกระทั่งเธออายุ 25 เฮเคียวได้เข้าไปในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า.. ก็ได้เจอกับเด็กคนหนึ่งที่มีหน้าตาคล้ายกับเฮเคียวมาก เธอรู้สึกถูกชะตากับแบคฮยอนเป็นพิเศษ เธอเลยขอแบคฮยอนมาเลี้ยงไว้ในฐานะลูกแล้วให้เขาได้ใช้นามสกุลบยอนเพื่อเป็นลูกชายของเธออย่างเต็มตัว

     

     

     

     

    ความเจ็บช้ำจากการโดนทำร้ายยังคงฝังลึกอยู่ในหัวใจ เฮเคียวตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตลำพังพร้อมกับลูกชายอีกหนึ่งคน  แต่เพราะกลัวว่าลูกชายของเธอจะต้องเจออะไรๆ เหมือนกับที่เธอเคยเจอมา ทำให้เฮเคียวค่อนข้างจะเข้มงวดเรื่องความรักของแบคฮยอน  จนกระทั่งถึงวันที่โชคชะตาเล่นตลกให้พวกเขาได้เจอกันอีกครั้ง...

     

    ความโกรธจากการโดนหักหลังยังคงเหมือนเดิมไม่จางหายไป ทำให้เธอปิดหัวใจที่จะต้อนรับคนตระกูลปาร์คเข้ามาในชีวิตอีก.. แต่เพราะเฮเคียวสงสารแบคฮยอนที่ดูแล้วจะรักชานยอลมาก เธอเลยตัดสินใจให้โอกาสเขาด้วยการพิสูจน์ถึงความมั่นคงของชานยอลที่มีต่อลูกชายของเธอ...

     

    เทาคือคนที่ถูกเลือกในการเป็นคนคอยส่งข่าวให้กับเฮเคียว ในวันนั้นเทาเข้ามาเยี่ยมแบคฮยอนที่บ้าน แล้วได้พูดคุยกับเฮเคียว เธอเลยตัดสินใจร้องขอให้เด็กคนนี้คอยดูพฤติกรรมคนรักของลูกชายอยู่ห่างๆ

     

    ในช่วงอาทิตย์แรกชานยอลออกจากคอนโดไปเที่ยวกลางคืนทุกวัน กลับมาก็เมาไม่ต่างจากสุนัข เสียงร้องไห้ยังคงดังกึกก้องอยู่ภายในห้องนอนจนเจ้าตัวหลับไปเอง

     

    แต่พออาทิตย์ที่สอง... ซูโฮซึ่งเป็นคนรักของเทาก็ได้เข้าหาชานยอล ทุกๆคืนที่ชานยอลเมากลับมา ซูโฮก็จะไปอยู่กับชานยอลทั้งคืนจนรุ่งเช้า  เฮเคียวรู้สึกสงสารเทาจับใจแต่ก็ยังจำเป็นต้องให้เทาช่วยเหลืออยู่จึงขอร้องให้เทาคอยดูต่อไป ซึ่งเทาก็ไม่ได้ขัดอะไรแม้แต่น้อย

     

    แล้ววันที่แบคฮยอนตาสว่างก็มาถึง... เฮเคียวตัดสินใจโกหกลูกชายว่าเธอจะไม่อยู่บ้าน เธอรู้ว่าแบคฮยอนต้องออกไปหาชานยอลแน่ๆ แม้จะต้องลำบากมากขนาดไหนก็ตาม

    เธอจอดรถอยู่ตรงซอยข้างบ้าน รอจนกระทั่งเห็นว่าลูกชายของเธอวิ่งออกมาแล้วจึงขับรถตามออกไป.. ตลอดทางที่เธอเห็นว่าแบคฮยอนวิ่งเท้าเปล่าเหยียบหิน เศษขยะอื่นๆ บนท้องถนนจนเท้าเป็นแผลเธอก็แทบอยากจะร้องไห้ในความสงสาร...  ทำไมถึงต้องทนทำอะไรเพื่อมันขนาดนี้ด้วยแบคฮยอนลูกแม่...

     

    แต่โชคชะตาย่อมเข้าข้างคนดี.. รถคันหนึ่งที่คาดว่าคงเป็นเพื่อนหรือคนรู้จักของแบคฮยอนจอดรับแบคฮยอนขึ้นรถไปแล้วตรงไปส่งที่คอนโด เธอโทรไปบอกเทาว่าลูกชายมาถึงแล้วให้เทาลงมารับ

    ดังนั้นการที่เทาและแบคฮยอนเจอกันระหว่างทางจึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ...

     

     

    เฮเคียวเดินตามลูกชายไปจนถึงชั้นที่เป็นห้องของชานยอล เธอนั่งรออยู่ตรงบันไดหนีไฟเพียงสักพักก็ได้ยินเสียงของคนร้องไห้.. เป็นไปตามที่เธอคาดไว้ ลูกชายตัวเล็กของเธอนั่งสะอื้นจนตัวโยนอยู่บนพื้น

    หัวใจของผู้เป็นแม่แทบแตกสลายเมื่อเห็นว่าลูกชายของตัวเองเสียใจมากขนาดไหน แม้จะไม่สามารถเข้าถึงความรู้สึกได้ แต่เธอมั่นใจว่าอ้อมกอด และความรักจากแม่ย่อมเยียวยาได้ทุกสิ่ง...

     

     

     

    จบแล้วความสัมพันธ์ของทั้งสองตระกูล หวังว่าพระเจ้าคงไม่เล่นตลกกับชีวิตของเฮเคียวและแบคฮยอนอีกเป็นครั้งที่สอง....

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     












     

     

    ความเจ็บช้ำจากความรัก.. หากถูกแทนที่ด้วยความเกลียด ก็จะทำให้หายเศร้าใจได้เร็วขึ้น !






























































    To be continued...






































    กรีดร้องงงง !! จบแล้ว 100% สำหรับตอนนี้.. คือมันหน่วงๆ ป่ะ ? หรือยังไง บอกเค้าหน่อยจะได้แก้ไข T^T
    ขอโทษนะที่ไรต์หายไปนาน แต่ช่วงนี้การบ้านท่วมท้นล้นหลามมากจริงๆ กระซิกๆ  คิดถึงรีดทุกคนนะคะ อย่าทิ้งไรท์นะ จุ๊บๆ 







    เรื่องรวมเล่ม มีใครสนใจมั้ย บอกไรต์หน่อย ^^





















     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×