คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : Pandora 17
Chapter 17
เวลาผ่านไป 3 อาทิตย์แล้วที่ชานยอลกับแบคฮยอนไม่เคยได้ติดต่อกันเลยแม้แต่นิดเดียว เสียงก็ไม่ได้ยิน หน้าก็ไม่เคยได้เจอ เพราะเฮเคียวยึดโทรศัพท์ของแบคฮยอนไป แม้แต่โทรศัพท์บ้าน.. แบคฮยอนก็ไม่เคยมีโอกาสได้ใช้มัน ถ้าไม่ใช่พวกเพื่อนของเขาโทรเข้ามาจริงๆ
ดวงตาเรียวของคนตัวเล็กบวมขึ้นเพราะผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักเกือบทุกคืน... คิดถึงเหลือเกิน อยากเจอ อยากกอด แต่ก็ทำไม่ได้เลยสักอย่าง..
ป่านนี้ชานยอลจะเป็นอย่างไรบ้าง จะคิดถึงเขาบ้างมั้ย ?
“แบคฮยอน.. เพื่อนๆ มาหาน่ะลูก”
เฮเคียวบอกผ่านบานประตูไม้เข้ามาในห้องนอนที่แบคฮยอนอยู่... ทำไมไม่มีสักครั้งที่แม่จะพูดว่าชานยอลมาหาบ้างนะ.. คิดถึงจริงๆ
“แม่ให้พวกเขาเข้ามาในห้องเลยครับ แบคฮยอนไม่อยากลงไปข้างล่าง”
เพียงพักเดียวลู่หาน เซฮุน คยองซู และจงอินก็เดินเข้ามาในห้อง พวกเพื่อนรักถึงกับผงะเมื่อเห็นสภาพของแบคฮยอนหลังจากที่ไม่เจอกันเพียงเดือนเดียว
จากคนที่เคยดูมีชีวิตชีวา ใบหน้าที่ดูมีความสุขกลับเปลี่ยนไปเหลือแค่แบคฮยอนที่ดูทรุดโทรม ตัวผอมลง ใบหน้าเศร้าหมองและดวงตาที่บวมเป่งจนน่ากลัว...
แม้พวกเพื่อนจะพยายามหาเรื่องพูดคุยให้อีกคนผ่อนคลาย หรือร่วมสนุกไปมากเท่าไหร่ก็ไร้ผล เมื่อสิ่งที่แบคฮยอนสนใจมีแค่เรื่องของชานยอล ทุกประโยคที่เอ่ยถามมีเพียงแค่เรื่องของชานยอลเรื่องเดียวเท่านั้น
“แบคฮยอน.. มึงเลิกทำเป็นหมาหงอยสักทีสิวะ”
“มึงก็ลองห่างกับคยองซูดูบ้างสิจงอิน” พอพูดเพราะเป็นห่วงทีไร ประโยคคำตอบก็มักจะเป็นการทวนคำถามกลับมาแบบนี้ทุกที จนเพื่อนๆ ถึงกับพากันถอดใจเรื่องที่จะพยายามเกลี่ยกล่อมให้แบคฮยอนอารมณ์ดีขึ้น
“อีกสักพักกูกลับแล้วนะ กูมีธุระต้องไปต่อ” เซฮุนพูดขึ้นแล้วหันหน้าหนีแบคฮยอนที่เริ่มมีน้ำตาคลอขึ้น
ไม่อยากอยู่คนเดียว.. ไม่อยากเหงาอีกแล้ว
ก๊อก ก๊อก !
“แบคฮยอนอา.. แม่ออกไปทำธุระที่บริษัทก่อนนะลูก อยู่กับเพื่อนๆ ไปก่อนได้ใช่มั้ย ? จะเอาอะไรก็บอกพวกแม่บ้านข้างล่างนะ”
เสียงของเฮเคียวตะโกนบอกลูกชายก่อนจะเดินออกไป
ความจริงแล้วเฮเคียวก็รู้สึกแย่ที่ต้องทำให้ลูกตัวเองต้องเป็นแบบนี้ เธอรู้ดีว่าแบคฮยอนรักชานยอลมากแค่ไหน เพียงแต่เธอก็ยังไม่ไว้วางใจในตัวของชานยอลมากถึงขั้นที่จะยอมรับง่ายๆ
เธอเองก็เคยผ่านการเจ็บช้ำจากความรักมาถึงสองครั้งสองครา เธอเลยอยากพิสูจน์ให้แน่ใจเสียก่อนถึงความมั่นคงของชานยอลที่มีต่อแบคฮยอน
แต่เหมือนตอนนี้ทุกอย่างมันชัดเจนแล้ว...
ว่าชานยอล ไม่เคยมีความมั่นคงต่อแบคฮยอนเลยสักนิดเดียว !
ตลอดระยะเวลา 3 อาทิตย์ ชานยอลอยู่ในสายตาของเฮเคียวตลอด ใครบางคนคอยเฝ้าดูพฤติกรรมของชานยอลอย่างไม่ละสายตา...
ใครบางคนที่เจ็บช้ำจากการโดนเพื่อน และ แฟนหักหลัง !
เมื่อได้ยินเสียงรถของแม่ออกไปจากบ้านแล้ว แบคฮยอนก็พยายามส่งสายตาให้เพื่อนๆ คล้ายกับจะร้องขออะไรบางอย่าง ซึ่งคนที่เป็นเพื่อนกันมาเกือบ 6 ปีก็สามารถเดาได้อย่างไม่ยากเย็น
“ไม่ต้องคิดจะให้กูพาไปหาชานยอล”
“ลู่หานอา...”
“กูบอกแล้วไงว่ากูมีธุระกันอ่ะแบคฮยอน”
“เซฮุน.. มึงก็แค่พากูไปส่งหน้าคอนโดเอง”
เซฮุนถอนหายใจพรืดเมื่อคนตัวเล็กเหมือนจะลืมว่าทางไปที่ทำงานของเขา กับทางไปคอนโดของชานยอลมันคนละทางกัน แล้วดูเหมือนว่าถ้ายังอยู่ต่ออีกสักพัก คงได้แพ้ลูกอ่อนของแบคฮยอนแน่ๆ เลยตัดสินใจที่จะลุกขึ้นเป็นคนแรกแล้วเดินออกไป
“เซฮุน.. มึงจะไม่ไปส่งกูจริงๆ หรอ ? จงอินก็ได้ ไปส่งกูเถอะนะ” ในเมื่อขอร้องเซฮุนไม่ได้ผล ก็ต้องลองขออีกคนแทน
“ไม่ใช่ว่ากูไม่อยากพามึงไปนะแบคฮยอน แต่ว่าพวกกูกลัวว่ามึงจะเดือดร้อน ถ้าแม่มึงรู้”
“เดี๋ยวสักวันมึงก็ต้องได้เจอกัน เชื่อกูเถอะนะ” คยองซูบอกเสริมเพื่อปลอบใจเพื่อน ซึ่งดูเหมือนจะไม่ได้ผลเลยเมื่อแบคฮยอนเริ่มมีน้ำตาคลอขึ้นมาอีกครั้ง
“แต่กูอยากเจอชานยอล ต่อให้กูต้องเดือดร้อนกูก็ยอม...”
สุดท้ายน้ำตาที่กลัดกลั้นไว้ก็ค่อยๆ ไหลออกมาเปื้อนแก้ม ลู่หานที่เห็นแบบนั้นจึงเป็นเดินเข้าไปกอดเพื่อนตัวเล็กไว้แนบอกด้วยความสงสาร
ไม่ใช่ว่าลู่หานไม่เข้าใจ... ทุกคนสงสารและเห็นใจแบคฮยอนถึงที่สุด แต่จะทำอะไรไปโดยพลการมันก็ไม่ใช่เรื่อง เดี๋ยวจากที่แย่อยู่แล้ว จะกลายเป็นแย่หนักมากกว่าเดิม
เพื่อนๆ ปลอบกันได้สักพักก็ลากันกลับไปเพราะเซฮุนต้องไปทำธุระ สุดท้ายแบคฮยอนก็ต้องนั่งเหงาอยู่คนเดียวในห้อง เหม่อมองไปที่หน้าต่างคล้ายกับกำลังคิดอะไรอยู่
เพียงสักพักร่างบางก็สะดุ้งคล้ายกับหลุดออกจากภวังค์ ขาเล็กเดินไปเปิดหน้าต่างห้องนอนที่อยู่ชั้นสองของบ้านออกไป แล้วมองไปที่พื้นสนามหญ้าด้านล่าง
นี่ถ้าโดดลงไป... จะตายหรือจะพิการนะ ?
ฝืนกลืนก้อนน้ำลายเหนียวลงคออย่างยากลำบาก แววตาสั่นระริกด้วยความกลัวกับการตัดสินใจกระทำการบ้าบิ่นเช่นนี้ ! แต่ถ้าไม่ทำ... เขาก็ไม่รู้จะมีโอกาสได้เจอกับชานยอลอีกทีตอนไหน
แบคฮยอนเดินไปหยิบผ้าคลุมเตียงในตู้เสื้อผ้าออกมา แล้วนึกว่าถ้าตัวเองทำเหมือนในละครด้วยการนำผ้ามามัดต่อๆ กัน แล้วปีนลงไปจะดีมั้ย ?
ไม่เอาล่ะ... กว่าจะปีนลงไปได้ คงมีคนเห็นก่อนพอดี !
สุดท้ายผ้าผืนนั้นก็ถูกเก็บไว้ที่เดิม แล้วเปลี่ยนเป็นตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ที่เฮเคียวเคยซื้อให้ไว้แทน !
ตัวมันก็ใหญ่พอพอกับเขา ถ้าเกินว่าเขาโดดลงไปทับมัน มันอาจจะช่วยให้ไม่เจ็บมากเท่าที่ควรนะ...
“ชานเลี่ย... หนูอย่าโกรธป่ะป๊านะครับ”
ใบหน้าน่ารักถูไถไปกับลำตัวของตุ๊กตาหมีตัวโปรด.. ชานเลี่ยตัวน้อย ? ที่น่าสงสาร ลงไปนอนที่พื้นหญ้าเพื่อป่ะป๊า และได้โปรดปกป้องป่ะป๊า ให้มีชีวิตรอดด้วยเถิด ! ( ห๊ะ ! )
สุดท้ายชานเลี่ยที่น่าสงสารก็ถูกโยนลงไปจากหน้าต่างชั้นสองของบ้าน แล้วเพียงไม่นานก็ตามลงมาด้วยร่างของแบคฮยอนที่โดดลงมาทับตรงตัวตุ๊กตาตัวโปรดอย่างพอดิบพอดี
อัก !
“จ.. จุกเชี่ยย โอ้ยยยย....”
สองมือยกขึ้นมาปิดปากของตนไว้เพื่อไม่ให้หลุดเสียงดังโวยวายออกมา แต่ถึงอย่างนั้นก็อดไม่ได้ที่จะครางด้วยความเจ็บปนจุก
พอประคองร่างให้ลุกขึ้นได้ก็เดินย่องไปตรงข้างๆ บ้านเพื่อสอดส่องว่าทางโล่งหรือไม่ แล้วผลก็เป็นไปตามคาด... พวกแม่บ้านแก่ๆ ทั้งหลายมัวแต่หมกมุ่นทำงานกันอยู่ในบ้าน ส่วนคนสวนที่ถูกจ้างมาก็โดดงานตามปกติ เมื่อคุณนายบยอนไม่อยู่
สองเท้าเปล่าเปลือยออกวิ่งไปจากประตูรั้วของบ้านทันที ระหว่างที่วิ่งไปนั้นก็เหยียบหิน เหยียบเศษอะไรต่อมิอะไรจนเจ็บแสบไปหมด แต่ก็ต้องกัดฟันทน
เพื่อชานยอล... เพื่อคนที่รักที่สุดเพียงคนเดียว !
เมื่อวิ่งไปได้ประมาณกิโล สองกิโลเท่านั้น ขาก็เริ่มล้า... แบคฮยอนหอบจนตัวโยนไปทั้งตัว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่หยุดวิ่ง
ระยะทางจากบ้านไปคอนโดก็แค่เกือบ 20 กิโลเอง T^T
ปรี๊นนนนนน !!
เสียงบีบแตรรถดังขึ้นจากทางด้านหลัง แบคฮยอนจึงหันไปมองด้วยความตกใจ แต่เมื่อเห็นว่าคนที่อยู่ภายในรถเป็นใคร หัวใจก็พลันโลดแล่นด้วยความดีใจอีกครั้ง
อย่างน้อยโชคชะตาก็ไม่ได้เล่นตลกกับเขามากเกินไป !
“แบคฮยอนจะไปไหนครับ ?”
“พี่คริส ! พี่อี้ชิง !”
เมื่อขึ้นมาอยู่บนรถ แบคฮยอนก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้คู่รักสูงอายุ ? ฟังทันที อี้ชิงที่สงสารแบคฮยอนจับใจถึงกับน้ำตาไหล ปีนจากที่นั่งคนขับมาข้างหลังเพื่อกอดปลอบแบคฮยอนทันที
“แบคฮยอน แล้วทำไมไม่ใส่รองเท้าออกมา ? แล้วนั่น.. เลือด !”
อี้ชิงก้มไปมองที่เท้าของแบคฮยอนก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่ามีเลือดไหลออกมาตรงบริเวณฝ่าเท้าของคนตัวเล็ก มือขาวๆยื่นไปหวังจะจับขึ้นมาดูแผล แต่ก็ต้องถูกห้ามไว้ก่อน
“พี่อี้ชิง ! อย่าฮะ... เดี๋ยวแบคไปทำแผลที่คอนโดของชานยอลเอง”
“แต่แผลน่าจะลึกนะ เลือดยังไม่หยุดไหลเลย... ฟาน ! คุณพาแบคไปโรงพยาบาลก่อนได้มั้ย ?”
ฟาน... คริสที่ถูกเรียกซ้อนตาขึ้นมองผ่านทางกระจก เห็นแบคฮยอนเบะปากแล้วส่ายหน้ารัวๆ เพื่อปฏิเสธ คริสก็ถึงกับหลุดขำ
“ผมน่ะไม่มีปัญหาหรอกชิง แต่แบคฮยอนเนี่ยสิ จะร้องไห้อยู่แล้ว”
“แต่ชิงว่า...”
“ไม่เป็นไรจริงๆ ครับพี่อี้ชิง.. แบคอยากเจอชานยอล... อยากเจอจะตายแล้ว”
ในเมื่อคนที่เป็นแผลยืนยันว่าจะไม่ไป คุณหมอคนสวยก็คงจะชัดใจอะไรไม่ได้
ตลอดทางมีเพียงเสียงของอี้ชิงที่คอยถามสารทุกข์สุขดิบของน้องชายที่รัก เสียงเจื้อยแจ้วที่พูดคุยกันทำให้คริสอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมากับความน่ารักของ ภรรยาคนสวย กับ น้องชายตัวแสบ
เมื่อมาถึงหน้าคอนโด แบคฮยอนก็โดดลงจากรถทันที โดยไม่ลืมที่จะหันมาโค้งศีรษะขอบคุณพี่ทั้งสองบนรถ เมื่อเดินเข้ามาภายในห้องโถงของคอนโดเตรียมจะเดินไปกดลิฟท์ก็เจอกับเพื่อนคนหนึ่งที่ไม่ได้เจอกันมาเกือบสองเดือนทั้งๆที่อยู่คอนโดเดียวกัน...
“จื่อเทา ! ไม่เจอกันนานเลยนะ กำลังจะไปไหนหรอ ?”
“ไม่ได้ไปไหนหรอก... แต่กำลังจะขึ้นห้องน่ะ”
“งั้นไปพร้อมกันเลยนะ ^^”
แบคฮยอนเดินมากอดคอเพื่อนแล้วเดินเข้าลิฟท์ไป ร่างบางของแบคฮยอนไม่อยู่สุขตลอดเวลา ใบหน้าก็มีแต่รอยยิ้มเมื่อนึกถึงตอนที่จะได้เจอกับคนรัก...
“แบคฮยอน.... มาหาชานยอลหรอ ?”
“อื้อ ! ฉันคิดถึงจะแย่อยู่แล้ว” เทาหันมามองหน้าแบคฮยอนด้วยแววตาเรียบเฉย แต่ถ้ามองลึกๆก็จะเห็นว่าเขาต้องการสื่ออะไรบางอย่างออกมาให้แบคฮยอนได้รับรู้
ความเศร้า.. และความผิดหวังที่ซ่อนอยู่ภายใต้นัยน์ตาคม...
“แบคฮยอน เดี๋ยวฉันไปส่งนะ ดูท่าแล้วนายคงจะเดินลำบาก” ก้มหน้ามองเท้าของแบคฮยอนที่เป็นแผลอยู่ จนพื้นที่ภายในลิฟท์เปื้อนเลือดตรงตำแหน่งที่แบคฮยอนยืน
“ย๊าส์ ! พื้นเปื้อนเลย T^T ขอบคุณมากนะเทา”
ติ๊ง !
เมื่อมาถึงที่หมาย ลิฟท์ก็เปิดออกแล้วร่างบางของแบคฮยอนก็พุ่งออกมาจากข้างใน... ความตื่นเต้นดีใจทำให้ลืมความเจ็บปวดที่เกิดจากบาดแผล
เทามองตามแบคฮยอนไปด้วยใบหน้าเรียบเฉย... ก้มมองหยดเลือดที่ไหลมาเปื้อนพื้นจากเท้าของแบคฮยอน
อีกไม่นาน.. หยดเลือดพวกนี้คงถูกแทนที่ด้วยคราบน้ำตา
ประตูห้องของเขาสองคนถูกเปิดออก แบคฮยอนรีบเดินเข้าไปข้างในจนไม่ทันได้เอะใจเลยสักนิดว่า
ประตูห้องไม่ได้ล๊อค
“อือ....” เสียงของชานยอลดังมาจากทางห้องนอน แบคฮยอนหันไปตามเสียงแล้วขำคิกเมื่อนึกถึงใบหน้ายามหลับใหล แล้วเผลอละเมอครางออกมาแบบนี้ทุกครั้ง
เตรียมจะเดินไปเปิดประตูห้องนอนออก หวังจะเซอร์ไพรส์คนรักให้ดีใจ ทว่า...
“ชานยอลอา... อย่าแกล้งสิ”
เสียงนั้น... เป็นเสียงของใคร ?
มือจับลูกบิดประตูค้างไว้แบบนั้น เทาที่เดินตามแบคฮยอนเข้ามาในห้องตั้งแต่แรก ทาบมือลงไปบนมือเล็กของแบคฮยอนที่จับลูกบิดอยู่
“สิ่งที่นายเห็นต่อไปนี้มันอาจจะทำให้ชีวิตของนายเปลี่ยนไป...”
“.....”
“ถ้านายต้องการให้ฉันช่วยอะไร.. นายบอกฉัน แล้วฉันจะช่วยเองแบคฮยอน”
ปล่อยมือออกให้แบคฮยอนได้เป็นอิสระ แบคฮยอนยืนนิ่งอยู่เพียงสักพักก็ตัดสินใจเปิดประตูออกไปเพื่อพบเจอกับความจริงบางอย่าง...
ความจริงที่โหดร้ายเกินกว่าหัวใจจะรับไหว !
“ฮึก...”
ดวงตาเรียวเคลือบด้วยน้ำตาทันทีที่ประตูถูกเปิดออก ร่างของคนสองคนบนเตียงสีขาวสะอาดซึ่งเคยเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเขากับชานยอลถูกคนนอกขึ้นมาทับที่ เหมือนไม่รู้ตัวว่ามีใครยืนอยู่กิจกรรมจึงยังคงดำเนินต่อไป...
สองร่างกอดรัดกันแน่นด้วยสภาพเปลือยท่อนบน ริมฝีปากของทั้งคู่ประกบเข้าหากันอย่างเร่าร้อนประกอบกับเสียงครางอื้ออึงในลำคอ
เดาได้เลยว่าต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นถ้าไม่มีบุคคลที่สามและสี่เข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน !
“ชานยอล....”
“ !!!! “
คนถูกเรียกชื่อเงยหน้าขึ้นจากการทำกิจกรรมเมื่อครู่.. เสียงที่แสนคุ้นเคยทำให้ชานยอลหันไปมองตามด้วยความตกใจ !
“แบคฮยอน !”
“พวกนาย... ทำบ้าอะไรกันอยู่ !”
ชานยอลลงจากเตียงหวังจะเข้ามากอดคนตัวเล็กสักทีให้หายคิดถึง.. ทว่าการกระทำเมื่อสักครู่นี้ ทำให้ร่างบางถอยหลังออกห่างโดยอัตโนมัติ
“อย่าเข้ามา ! มึงอย่าใช้ร่างกายที่สกปรกนั่นมาเข้าใกล้กู !”
สรรพนามบ่งบอกถึงอารมณ์และความรู้สึกได้เป็นอย่างดี ดวงตาเรียวมองคนรักอย่างผิดหวังถึงที่สุด
ความรักในการใช้ชีวิตคู่ ถูกทำลายลงเพียงเวลาไม่ถึง 3 นาที....
“....” เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมภายในห้อง ไม่มีใครพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว
เทาที่ยืนอยู่ข้างหลังแบคฮยอน ทอดสายตามองคนรักของตนที่ยังคงนั่งอยู่บนเตียงนอน ไม่ขยับตัวไปไหน... ถึงแม้จะรู้เรื่องมาก่อนหน้านี้สักพักแล้ว แต่ก็อดที่จะเสียใจไม่ได้เมื่อต้องเห็นความจริงกับตาของตนเอง
ทำไม... ทำไมซูโฮถึงต้องหักหลังต่อความรักที่เขามีให้ !
“สนุกมากมั้ยปาร์คชานยอล !?”
“......”
“ทำไมมึงทำแบบนี้ ? มึงทำกับกู กับเทาอย่างนี้ทำไมชานยอล !”
“......”
เมื่ออีกคนยังไม่แม้แต่จะเอ่ยปากพูดอะไรออกมา แบคฮยอนก็ยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่ มือเล็กผลักเข้าที่แผ่นอกเปลือยเปล่าของอีกคนเต็มแรง แล้วยืนจ้องอยู่อย่างนั้น
“กูขอโทษ”
เพี้ยะ !
ใบหน้าขาวสะบัดไปตามแรงมือของแบคฮยอน เลือดซึมออกมาตรงมุมปาก แต่ก็ไม่ได้เรียกความสงสารจากแบคฮยอนได้แม้แต่นิด !
“เก็บคำขอโทษของมึงไว้ให้เทาเถอะนะชานยอล... กูไม่รับ !”
แบคฮยอนมองไปภายในห้องที่ซูโฮอยู่ แล้วส่งสายตาเหยียดหยันไปให้
“อยากได้นักใช่มั้ยแฟนของคนอื่นน่ะซูโฮ ?”
“.......”
“นายเอาไปเลย ! ฉันยกให้ !!” ตะโกนเสียงดังลั่นห้องด้วยความโมโห จนคนที่ถูกพูดด้วยถึงกับหน้าชา...
“ขอบใจมากนะแบคฮยอนอา...”
“......”
“ฉันจะได้ไม่ต้องมาคอยหลบๆ ซ่อนๆ แบบนี้อีก คิก ^^”
“!!!!!”
ซูโฮลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินมากอดแขนชานยอลไว้แน่น ไม่แม้แต่จะสนใจความรู้สึกของเทา.. คนที่คบมานานถึง 4 ปี !
ไฟที่ลุกโชนอยู่แล้ว เมื่อเจอลมโหมพัดย่อมลุกไหม้หนักกว่าเก่า..
แบคฮยอนหมายจะเดินเข้าไปหาซูโฮ แต่กลับถูกคนที่ยืนอยู่ข้างหลังคว้าแขนไว้เสียก่อน.. แบคฮยอนหันขวับไปมองอย่างขัดใจ แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นใบหน้าของเทาที่เปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา..
ชานยอลและซูโฮเองก็ตกใจไม่ต่างกันเมื่อเห็นว่าคนที่เคยเข้มแข็งอย่างจื่อเทามีน้ำตาแบบนี้... ขนาดตลอดเวลาที่คบกันเทากับซูโฮจะทะเลาะกันมากมายสักแค่ไหน แต่ซูโฮก็ไม่เคยได้เห็นน้ำตาของคนรักเช่นนี้
ขอโทษนะเทา... ขอโทษที่ฉันทำร้ายนาย...
“แบคฮยอน... ยอลขอโทษจริงๆ ได้โปรด...”
แกร้ง !
แหวนเงินที่สลักชื่อไว้ว่า Park Baekhyun ถูกขว้างใส่ใบหน้าคมคายของชานยอลเสียเต็มแรง แหวนนั่นกลิ้งไปแรงเหวี่ยงแล้วไปหยุดอยู่ที่ใดที่หนึ่งซึ่งแบคฮยอนก็ไม่ได้สนใจมัน....
“แหวนวงนั้น... มึงสวมให้กูด้วยความรักในวันที่มึงยังคงซื่อสัตย์กับกูอยู่... แต่ในวันนี้กูเป็นคนถอดมันออกแล้วขว้างมันทิ้งไปอย่างไม่สนใจ เมื่อหมดเลือกที่จะทรยศกับความรักของกู !”
“......”
“กูกับมึง... เราขาดกัน !”
น้ำตาใสไหลรินลงมาจากดวงตาเรียวเล็ก ความรู้สึกเจ็บจากการโดนหักหลังมันเจ็บ ทรมานมากแค่ไหนก็พึ่งเคยได้สัมผัสกับมันเป็นครั้งแรก
แบคฮยอนหันมาจับมือเทาไว้แล้วเดินจูงมือกันออกจากห้องไป ชานยอลที่ยังคงมองตามอยู่ทรุดลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง..
เขาผิดเขารู้ดี ผิดเองที่ทรยศต่อความรักของแบคฮยอน.. เลยไม่อยากจะพูดแก้ตัวอะไรออกไปให้ดูน่าสมเพชมากกว่าเดิม
ขอโทษ... แบคฮยอน
แบคฮยอนเดินก้าวขาออกจากห้องของชานยอลมาได้เพียงพักเดียวก็หมดเรี่ยวแรงที่จะเดินต่อ สองขาทรุดนั่งลงกับพื้นปล่อยให้น้ำตาไหลจนอาบหน้า เสียงสะอื้นดังกึกก้องไปทั่วบริเวณนั้น
เทาเองก็ทำได้แค่ยืนมองเฉยๆ จะเข้าไปปลอบใจได้อย่างไร ในเมื่อเขาเองก็ยังอ่อนแอไม่ต่างกัน...
“แบคฮยอน...” เสียงที่แสนคุ้นเคยดังขึ้นจากเบื้องหน้าของเขา...
“ฮึก.. แม่ครับ”
แบคฮยอนเหมือนจะแปลกใจไม่น้อยเมื่อเห็นว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือเฮเคียว... ก็ไหนบอกว่าไปธุระแล้วทำไม ?
“มาหาแม่”
เฮเคียวอ้าแขนออกรอให้แบคฮยอนวิ่งเข้าไปกอดเธอเหมือนกับเมื่อตอนเด็กๆ ที่แบคฮยอนชอบวิ่งมากอดเธอในตอนที่เขาหกล้ม...
“ฮึก..” แบคฮยอนโผเข้ากอดคนเป็นแม่แล้วร้องไห้เหมือนเด็กๆ เฮเคียวลูบศีรษะของลูกอย่างอ่อนโยน เธอเข้าใจดีว่าการโดนทรยศหักหลังมันเจ็บมากขนาดไหน เธอเข้าใจความรู้สึกนั้นดี...
“ไม่เป็นไรนะแบคฮยอน... ลูกยังมีแม่นะ”
“เจ็บจังครับแม่.. ผมเจ็บ ฮือ..” ปล่อยให้น้ำตาไหลลงจนเปียกซึมเสื้อของผู้เป็นแม่ เฮเคียวมองไปทางจื่อเทาที่มีสีหน้าเจ็บปวดไม่ต่างกันกับลูกชายของเธอ
“ขอบคุณนะเทา... มีอะไรโทรหาหรือไปที่บ้านฉันได้นะ”
เฮเคียวยิ้มให้กับจื่อเทาอย่างอ่อนโยน ซึ่งนั่นก็พอจะทำให้เทารู้สึกดีขึ้นแม้จะไม่ได้รับอ้อมกอดอบอุ่นเหมือนกับแบคฮยอนก็ตาม
“ฮึก.. แม่ครับ ผมอยากกลับบ้าน”
“อือ.. กลับบ้านเรากันนะแบคฮยอน....”
สองมือประคองลูกชายของตนไว้เพื่อไม่ให้เดินล้มลงไปอีก แบคฮยอนสะอึกสะอื้นจนตัวโยนซึ่งก็ทำให้ผู้เป็นแม่น้ำตาซึมด้วยความสงสารลูกจับใจ...
ตระกูลปาร์คก็เป็นแบบนี้ทุกคน ! ดีแต่ทำให้คนอื่นต้องผิดหวังและเสียใจ...
เฉลยปมสองตระกูล...
ย้อนกลับไป 25 ปีก่อน
จีมินและเฮเคียวคือเพื่อนที่คบกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมปลาย ทั้งสองเป็นเพื่อนที่รักกัน ไว้ใจกันมาก ไม่ว่ามีเรื่องอะไรก็จะเล่าให้ฟังตลอด ไม่เคยมีความลับต่อกันเลยแม้แต่เรื่องเดียว
แต่แล้ววันนึงความเป็นเพื่อนก็ต้องจบลง เมื่อมีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในชีวิตของหญิงสาวทั้งคู่...
ความเจ็บปวดจากการโดนทรยศหักหลังทั้งจากเพื่อนและแฟนทำให้เฮเคียวถึงกับคิดจะฆ่าตัวตาย คนหนึ่งทุกข์ทรมาน แต่อีกสองกลับเสวยสุขกันไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
ในช่วงปีหนึ่งของมหาวิทยาลัย เฮเคียวได้พูดคุยกับผู้ชายที่ชื่อมินโฮ เขาเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่นิสัย หน้าตา และฐานะโอเค ครอบครัวตระกูลบยอนยอมรับในคุณสมบัติที่เพียบพร้อมของมินโฮ
พอขึ้นปีสองเฮเคียวก็ได้สูญเสียพ่อและแม่ไปทั้งคู่เพราะท่านประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ช่วงนั้นมีเพียงมินโฮและจีมินที่คอยอยู่ข้างเธอเสมอ
แต่พอปีสาม.. ทั้งเพื่อนและคนรักของเธอกลับเริ่มมีปฏิกิริยาที่แปลกไป เหมือนกับทั้งคู่มีความลับอยู่ แต่ด้วยความที่ไว้ใจ และรักมากจึงไม่กล้าที่จะสงสัยอะไรในความสัมพันธ์ของทั้งสองคน
แต่แล้วสุดท้ายความลับก็ย่อมไม่มีในโลก... ในวันที่เฮเคียวไปหาเพื่อนรักที่บ้านนั่นเอง คือวันที่ทุกอย่างโดนเปิดเผยออกมา.... ภาพของคนรักกับเพื่อนรักที่คบกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมจูบกันอยู่บนโซฟากลางบ้าน !
ทุกอย่างพังทลายลงนับตั้งแต่วันนั้น.. คำแก้ตัวที่ได้จากมินโฮคือการที่บอกว่าเขาแอบรักจีมินมาสักระยะแล้วแต่ไม่กล้าที่จะบอกเฮเคียวไปตรงๆ ส่วนจีมินก็บอกว่าแอบรักมินโฮนับตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอแล้วเหมือนกัน แต่เพราะเห็นว่าเป็นคนรักของเพื่อนเลยไม่กล้าที่จะยุ่ง
แต่เพราะความหวั่นไหวเลยทำให้ทั้งคู่แอบมีความสัมพันธ์ลับๆ มานานนับปีแล้ว....
เฮเคียวก็เหมือนคนโง่ โง่มากๆ ที่โดนทั้งเพื่อนรักและคนรักหลอกมาแรมปีแต่ไม่เคยเอะใจอะไรเลย ความผิดหวังทำให้เฮเคียวนึกอยากจะตายเสียให้รู้แล้วรู้รอด แต่ใจนึงก็คิดว่าปัญหาแค่นี้เดี๋ยวก็ต้องผ่านไปได้ทำให้ความคิดที่จะฆ่าตัวตายหายไปนับตั้งแต่วันนั้น
เธอทนใช้ชีวิตอย่างขื่นขมมานานเป็นปี จนกระทั่งจบมหาวิทยาลัยเฮเคียวก็ไม่เคยได้เจอกับมินโฮและจีมินอีกเลย ในช่วงที่เธอเข้าไปบริหารงานในบริษัทบยอนต่อจากพ่อเธอก็ได้พบกับความรักครั้งใหม่
ฮยอนบิน ผู้ชายที่เธอคิดว่าจะได้ใช้ชีวิตคู่กับเขาจนกระทั่งแก่ตาย แต่สุดท้ายมันก็เป็นแค่ความฝัน...
เมื่อเธอพบว่าเธอไม่สามารถให้กำเนิดเด็กได้ ฮยอนบินก็เลิกรากับเธอทันที... ความเสียใจเข้าทำร้ายเฮเคียวอีกครั้งแต่ก็ไม่ได้ร้ายแรงเท่าที่มินโฮทำไว้กับเธอ
จนกระทั่งเธออายุ 25 เฮเคียวได้เข้าไปในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า.. ก็ได้เจอกับเด็กคนหนึ่งที่มีหน้าตาคล้ายกับเฮเคียวมาก เธอรู้สึกถูกชะตากับแบคฮยอนเป็นพิเศษ เธอเลยขอแบคฮยอนมาเลี้ยงไว้ในฐานะลูกแล้วให้เขาได้ใช้นามสกุลบยอนเพื่อเป็นลูกชายของเธออย่างเต็มตัว
ความเจ็บช้ำจากการโดนทำร้ายยังคงฝังลึกอยู่ในหัวใจ เฮเคียวตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตลำพังพร้อมกับลูกชายอีกหนึ่งคน แต่เพราะกลัวว่าลูกชายของเธอจะต้องเจออะไรๆ เหมือนกับที่เธอเคยเจอมา ทำให้เฮเคียวค่อนข้างจะเข้มงวดเรื่องความรักของแบคฮยอน จนกระทั่งถึงวันที่โชคชะตาเล่นตลกให้พวกเขาได้เจอกันอีกครั้ง...
ความโกรธจากการโดนหักหลังยังคงเหมือนเดิมไม่จางหายไป ทำให้เธอปิดหัวใจที่จะต้อนรับคนตระกูลปาร์คเข้ามาในชีวิตอีก.. แต่เพราะเฮเคียวสงสารแบคฮยอนที่ดูแล้วจะรักชานยอลมาก เธอเลยตัดสินใจให้โอกาสเขาด้วยการพิสูจน์ถึงความมั่นคงของชานยอลที่มีต่อลูกชายของเธอ...
เทาคือคนที่ถูกเลือกในการเป็นคนคอยส่งข่าวให้กับเฮเคียว ในวันนั้นเทาเข้ามาเยี่ยมแบคฮยอนที่บ้าน แล้วได้พูดคุยกับเฮเคียว เธอเลยตัดสินใจร้องขอให้เด็กคนนี้คอยดูพฤติกรรมคนรักของลูกชายอยู่ห่างๆ
ในช่วงอาทิตย์แรกชานยอลออกจากคอนโดไปเที่ยวกลางคืนทุกวัน กลับมาก็เมาไม่ต่างจากสุนัข เสียงร้องไห้ยังคงดังกึกก้องอยู่ภายในห้องนอนจนเจ้าตัวหลับไปเอง
แต่พออาทิตย์ที่สอง... ซูโฮซึ่งเป็นคนรักของเทาก็ได้เข้าหาชานยอล ทุกๆคืนที่ชานยอลเมากลับมา ซูโฮก็จะไปอยู่กับชานยอลทั้งคืนจนรุ่งเช้า เฮเคียวรู้สึกสงสารเทาจับใจแต่ก็ยังจำเป็นต้องให้เทาช่วยเหลืออยู่จึงขอร้องให้เทาคอยดูต่อไป ซึ่งเทาก็ไม่ได้ขัดอะไรแม้แต่น้อย
แล้ววันที่แบคฮยอนตาสว่างก็มาถึง... เฮเคียวตัดสินใจโกหกลูกชายว่าเธอจะไม่อยู่บ้าน เธอรู้ว่าแบคฮยอนต้องออกไปหาชานยอลแน่ๆ แม้จะต้องลำบากมากขนาดไหนก็ตาม
เธอจอดรถอยู่ตรงซอยข้างบ้าน รอจนกระทั่งเห็นว่าลูกชายของเธอวิ่งออกมาแล้วจึงขับรถตามออกไป.. ตลอดทางที่เธอเห็นว่าแบคฮยอนวิ่งเท้าเปล่าเหยียบหิน เศษขยะอื่นๆ บนท้องถนนจนเท้าเป็นแผลเธอก็แทบอยากจะร้องไห้ในความสงสาร... ทำไมถึงต้องทนทำอะไรเพื่อมันขนาดนี้ด้วยแบคฮยอนลูกแม่...
แต่โชคชะตาย่อมเข้าข้างคนดี.. รถคันหนึ่งที่คาดว่าคงเป็นเพื่อนหรือคนรู้จักของแบคฮยอนจอดรับแบคฮยอนขึ้นรถไปแล้วตรงไปส่งที่คอนโด เธอโทรไปบอกเทาว่าลูกชายมาถึงแล้วให้เทาลงมารับ
ดังนั้นการที่เทาและแบคฮยอนเจอกันระหว่างทางจึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ...
เฮเคียวเดินตามลูกชายไปจนถึงชั้นที่เป็นห้องของชานยอล เธอนั่งรออยู่ตรงบันไดหนีไฟเพียงสักพักก็ได้ยินเสียงของคนร้องไห้.. เป็นไปตามที่เธอคาดไว้ ลูกชายตัวเล็กของเธอนั่งสะอื้นจนตัวโยนอยู่บนพื้น
หัวใจของผู้เป็นแม่แทบแตกสลายเมื่อเห็นว่าลูกชายของตัวเองเสียใจมากขนาดไหน แม้จะไม่สามารถเข้าถึงความรู้สึกได้ แต่เธอมั่นใจว่าอ้อมกอด และความรักจากแม่ย่อมเยียวยาได้ทุกสิ่ง...
จบแล้วความสัมพันธ์ของทั้งสองตระกูล หวังว่าพระเจ้าคงไม่เล่นตลกกับชีวิตของเฮเคียวและแบคฮยอนอีกเป็นครั้งที่สอง....
ความเจ็บช้ำจากความรัก.. หากถูกแทนที่ด้วยความเกลียด ก็จะทำให้หายเศร้าใจได้เร็วขึ้น !
To be continued...
กรีดร้องงงง !! จบแล้ว 100% สำหรับตอนนี้.. คือมันหน่วงๆ ป่ะ ? หรือยังไง บอกเค้าหน่อยจะได้แก้ไข T^T
ขอโทษนะที่ไรต์หายไปนาน แต่ช่วงนี้การบ้านท่วมท้นล้นหลามมากจริงๆ กระซิกๆ คิดถึงรีดทุกคนนะคะ อย่าทิ้งไรท์นะ จุ๊บๆ
เรื่องรวมเล่ม มีใครสนใจมั้ย บอกไรต์หน่อย ^^
ความคิดเห็น