คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #28 : Pandora 23 {Endding's part}
Chapter 23
เพียงแค่สองวันชานยอลก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้.. ไม่รู้ว่าสาเหตุที่หายเร็วเป็นเพราะร่างกายแข็งแรงหรือได้คนดูแลดีกันแน่..
แบคฮยอนโทรตามให้คนขับรถที่บ้านของตนมารับชานยอลกลับบ้าน แต่กว่าจะตกลงกันได้ว่าควรจะไปที่ไหนก่อนก็เสียเวลาไปนานพอควร..
ชานยอลเหมือนจะอยากไปบ้านแบคฮยอนก่อน แล้วก็ดึงดันว่าจะไปวันนี้ให้ได้.. แต่แบคฮยอนก็อยากให้ชานยอลได้พักผ่อนให้เต็มที่ ไม่อยากให้ไปไหนมาไหนมากนักเพราะกลัวว่าแผลที่เย็บมาจะฉีกได้ แต่ในเมื่อชานยอลยังดื้อกับคนตัวเล็กอยู่ในตอนแรก ทำให้แบคฮยอนหมดความอดทนแล้วตะโกนลั่นโรงพยาบาลว่า..
“ถ้ายอลไม่ทำตามที่แบคพูด แบคจะหนีไปอีกครั้งแล้วจะไม่กลับมาเลย !!!”
“……”
“จะเถียงอีกมั้ย !!?”
“ขอโทษครับเมีย....”
เท่านั้นแหละ.. ชานยอลก็หูตก ยอมกลับบ้านตัวเองได้ทันที
เมื่อกลับมาถึงบ้าน แบคฮยอนก็รีบก้าวลงจากรถแล้วมองสำรวจไปยังบ้านหลังใหญ่ที่ไม่ได้มานานแสนนาน.. ความอบอุ่นจากความทรงจำเมื่อ 3 ปีที่แล้วย้อนเข้ามาทำให้เกิดรอยยิ้มเล็กๆ แล้วขาเรียวก็รีบวิ่งเข้าไปในบ้านโดยลืมคนที่ได้รับบาดเจ็บไว้บนรถ
“ห.. เห๊ย ! แบคฮยอน !!”
“ว้ายยย ! แบคฮยอนลูกแม่ !!” เสียงแหลมของหญิงสาวดังขึ้นกรบเสียงของชานยอลจนมิด.. จีมินรีบวิ่งลงมาจากบันไดบ้านเมื่อเห็นว่าแขกผู้มาเยือนคือใคร..
ทั้งสองวิ่งเข้าไปสวมกอดกันด้วยความรักใคร่และคิดถึงหลังจากที่ห่างหายกันไปนาน จีมินดันตัวแบคฮยอนออกแล้วจับหมุนซ้ายหมุนขวาอย่างพิจารณาคนตัวเล็ก
“แบคฮยอนอา.. แม่คิดถึงจัง เรานี่ไม่เปลี่ยนไปเลยน๊า ยังเหมือนเด็กอายุ 24 อยู่เลย คิกคิก”
“แม่ก็สวยเหมือนเดิมเลยฮะ.. พ่อก็เหมือนกัน” แบคฮยอนหันไปยิ้มให้มินโฮซึ่งเดินตามมาทีหลัง.. มินโฮยิ้มกลับให้แบคฮยอนแล้วเอื้อมมือไปยีผมของแบคฮยอนเบาๆ
“คุณปาร์คครับ พวกคุณห่วงลูกชายบ้างมั้ยครับ” ชานยอลเดินมาบึ้งตามเข้ามา เรียกร้องให้คนสามคนมองไปตามเสียงแล้วหลุดหัวเราะออกมาเสียงดัง จีมินจึงเดินไปหาลูกชายตัวสูงแล้วสวมกอดอย่างแผ่วเบา
“โอ๋ๆ ใครจะไม่ห่วงลูกตัวเองบ้างละคะ ก็แม่คิดถึงแบคฮยอนนี่นา ก็เลย...”
“เลยลืมลูกชายตัวเอง” มินโฮเสริมประโยคให้แล้วก็หัวเราะดังลั่นออกมาอีกครั้ง ก่อนจะเอื้อมมือไปกอดคอแบคฮยอนให้เดินตามเข้าขึ้นไปบนห้องทำงาน.. ทิ้งให้คนสองคนมองตามอย่าง งงๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาเลยสักคำ..
ฝ่ายมินโฮกับแบคฮยอน เมื่อมาถึงห้องทำงานแล้ว เขาก็ปล่อยคอแบคฮยอนออกจากนั้นก็เดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานของเขา..
“แบคฮยอน.. เป็นอย่างไรบ้างลูก ? ไปอยู่ที่นู่นมาตั้งนาน..”
“ก็ดีฮะ.. พี่มินซอกกับพี่จงแดดูแลผมดีมากเลย” แบคฮยอนตอบแล้วก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงพี่ชายตัวเล็กทั้งสองคนที่ดูแลเขามาตลอด 3 ปี..
“อืม.. แต่ดูเหมือนคนที่แบคฮยอนหนีเขาไปจะไม่สบายเหมือนแบคฮยอนเลยนะ” คุณพ่อคนหล่อพูดขึ้นแล้วปรับสีหน้าให้ดูจริงจัง แบคฮยอนที่ได้ยินแบบนั้นก็เข้าใจผิดคิดว่าตนจะโดนตำหนิ...
“ชานยอลน่ะ.. พ่อไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้มาก่อนเลย”
“อย่างไงหรอฮะ ?”
“แบคฮยอนเคยเห็นชานยอลร้องไห้เกินหนึ่งชั่วโมงมั้ย ตั้งแต่ที่รู้จักกันมา ?”
“เคยฮะ.. ตอนประถมที่ผมแย่งขนมชานยอลมากินหมอนั่นก็ร้องไห้ทั้งวันเลย” แบคฮยอนพูดจบก็หัวเราะคิกกับอดีตในตอนนั้น ส่วนมินโฮก็ทำหน้าประมาณว่า ‘แบคฮยอนนี่เองที่เป็นคนแกล้งลูกชายของเขาในตอนนั้น…”
แต่ก็อดไม่ได้อยู่ดีที่จะหัวเราะตามแบคฮยอน ความก๋ากั่นอีกมากมายที่ชานยอลเล่าให้เขาฟังตั้งแต่อนุบาลถึงปี 4 เขาจำได้ดีหมดทุกอย่าง แล้วก็ชอบแบคฮยอนเสียตั้งแต่ตอนที่ยังไม่เคยเจอกันด้วยซ้ำ..
“แบคฮยอนเชื่อมั้ย.. ตั้งแต่ที่เราหนีชานยอลไปน่ะ ลูกชายพ่อมันทนอยู่ที่คอนโดคนเดียวไม่ได้เลยนะ.. มันบอกว่าทนไม่ได้ที่จะต้องอยู่ในสถานที่ที่เคยอยู่กับเราแบบนั้น มันคิดถึงแบคฮยอนมากแต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปตามหาได้ที่ไหน สุดท้ายก็ทำได้แค่รอเวลาที่เราจะกลับมานั่นแหละ...”
“ฮะ...”
“เกือบ 3 เดือนที่พ่อไปแอบยืนอยู่หน้าห้องของชานยอล.. แบคฮยอนเชื่อมั้ยว่าชานยอลร้องไห้ทั้งคืนจนเผลอหลับไปเอง.. ไม่ใช่แค่ 3 เดือนหรอก.. ก็ทุกวันนั่นแหละ เพียงแต่ก็เริ่มเบาๆลงมาบ้าง..”
“......”
“ชานยอลไม่เคยไปเที่ยวกลางคืน ไม่เคยมีผู้หญิงคนใหม่ ไม่เคยไปคุยกับใครที่ไหน.. ชานยอลพร่ำบอกกับพ่อแม่ว่าจะรอแค่แบคฮยอนคนเดียว.. รอนานแค่ไหนก็จะรอ”
“จริงหรอฮะ ?” เหมือนแบคฮยอนจะไม่เชื่อ.. ดวงตาเรียวเล็กจ้องมองอย่างจับพิรุธจนมินโฮอดที่จะหมั่นไส้ไม่ได้..
“แล้วชานยอลก็คุยอะไรบางอย่างกับพ่อไว้ด้วยล่ะ.. เรื่องที่ขนาดจีมินเองก็ไม่รู้ หึหึ”
“อะไรหรอฮะ ? บอกผมได้มั้ย ?”
“ไม่ได้หรอก ต้องให้ชานยอลเป็นคนบอกเองนะ.. คาดว่าคงจะเป็นวันนี้แหละ.... แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยทำเป็นพิธีการอีกที ^^” มินโฮยิ้มให้ปิดท้ายแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างอารมณ์ดี.. แต่ก่อนจะออกไปก็ยังจะหันมาพูดให้แบคฮยอนข้องใจหนักขึ้นยิ่งกว่าเดิม..
“พ่อกับแม่เองก็ไม่ได้รังเกียจที่จะมีแบคฮยอนมาอยู่ในบ้านเพิ่มอีกคนหรอกนะ”
สุดท้ายคำถามนั้นก็ไม่ได้การคลี่คลายเมื่อชานยอลก็ไม่ยอมตอบเขา.. คำพูดเดิมๆที่ชานยอลบอกคือ ‘เดี๋ยวเย็นนี้ก็รู้’ แล้วทำไมล่ะ ? รู้ตอนนี้กับตอนเย็นมันแตกต่างกันอย่างไง ?
แล้วสิ่งที่แบคฮยอนทำได้ก็คือการนั่งรอเวลาเท่านั้น... แต่เหมือนยิ่งเฝ้ารอ เวลาก็ยิ่งเดินช้า จนสุดท้ายคนตัวเล็กก็เผลอหลับไปบนเตียงในห้องนอนของชานยอล...
คนตัวสูงแอบย่องเข้ามาในห้องนอนตัวเองอย่างเงียบๆ แล้วมาหยุดยืนที่ข้างๆ เตียงของเขา.. ดวงตากลมโตจ้องมองใบหน้าน่ารักที่กำลังหลับสนิทอยู่แล้วระบายยิ้มออกมาบางๆ...
เพียงสักพักจีมินก็เดินตามเข้ามาในห้องแล้วพูดเสียงแผ่วเบาออกมาเพราะเกรงว่าคนบนเตียงจะตื่น..
“ชานยอลอา.. แม่เชื่อว่าทุกอย่างจะโอเค”
“ผมก็หวังว่าแบบนั้นครับแม่” แม่ลูกยิ้มให้กันเพียงสักพัก ก่อนจะได้ยินเสียงเสียงหนึ่งที่ทำให้ทั้งสองคนยิ้มกว้างออกมา
“งื้อออออ...”
“แม่หวังว่าทุกเช้า.. ครอบครัวของเราจะได้ยินเสียงหมาน้อยร้องแบบนี้นะลูก คิกคิก”
หลังจากที่แบคฮยอนหลับไปได้เกือบๆ 3 ชั่วโมงแล้วก็เข้าสู่ช่วงเวลาที่กำลังพอดี.. ไม่เย็นมากเกินไป และไม่ร้อนมากเกินไป..
คนตัวเล็กลืมตาขึ้นเมื่อแสงแดดสีส้มส่องเข้ามาในห้อง.. ปลุกให้คนที่หลับอยู่ต้องตื่นขึ้นมาอย่างจำใจ.. ทว่าเมื่อลืมตาขึ้นมา สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าก็ทำให้แบคฮยอนยิ้มกว้าง..
ชานยอลนอนอยู่ข้างๆ แบคฮยอน แขนยาวโอบกอดรอบเอวของแบคฮยอนไว้ตลอด แล้วส่งยิ้มให้เมื่อคนในอ้อมกอดตื่นขึ้น..
“จะไปกันหรือยังครับแบคฮยอน ?”
“หืม ?” เหมือนอาการมึน งง จะเป็นผลมาจากการตื่นไม่เต็มที่ ทำให้แบคฮยอนมองอีกคนด้วยแววตาสงสัย.. คล้ายกับลืมไปแล้วว่าชานยอลบอกกับเจ้าตัวไว้ว่าอะไร..
“ก็ไปแก้ข้อสงสัยที่แบคถามยอลไง”
“อ๋อ ! แปปนึงนะ แบคขอไปล้างหน้าแปป” แล้วแบคฮยอนก็รีบกระโดดลงจากเตียงเข้าห้องน้ำไป.. ชานยอลที่มองตามก็หัวเราะออกมาเบาๆ กับท่าทีแบบนั้น ก่อนจะดันตัวเองให้ลุกขึ้นแล้วเดินไปหยิบอะไรบางอย่างจากลิ้นชักหัวเตียงออกมา..
กล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินที่ใส่แหวนวงนั้นเอาไว้... ถึงเวลาที่จะได้กลับคืนสู่เจ้าของที่แท้จริงเสียที
“แบค ! เดี๋ยวยอลเก็บเสื้อผ้าให้นะ อาบน้ำแต่งตัวมาให้เรียบร้อยเลย เร็วๆล่ะ”
“ห๊ะ ! จะไปไหน ?”
“ไปทะเล.. คืนนี้ไปนอนข้างนอกกัน”
ชานยอลนั่งรออยู่ข้างล่างสักพักแบคฮยอนก็ตามลงมาด้วยสภาพที่ทำให้ชานยอลถึงกับฉุนกึก..
“ใครใช้ให้ใส่เสื้อกล้ามกับกางเกงขาสั้นหะแบคฮยอน !?” คนที่กำลังวิ่งลงบันไดถึงกับชะงัก แล้วก้มลงมองตัวเองด้วยความงุนงง
มันน่าเกลียดหรอ ?
“ทำไมอ่ะ ? แบคว่ามันก็โอเคแล้วนะ” คนตัวเล็กเถียงออกไปแล้วทำหน้ายู่ใส่ชานยอล..
เออ ! มันดูดีครับ มันดูน่ารักมาก... ก็เลยหวงไง !!
“ไม่โอเค ! ไม่เลยสักนิด !”
“ทำไมอ่ะ !”
“ไปเปลี่ยนเดี๋ยวนี้ ! ใส่กางเกงขายาวเสื้อแขนยาวรึยังไงก็ได้ที่ไม่ใช่เสื้อกล้ามกางเกงขาสั้น !”
เสียงของชานยอลกับแบคฮยอนดังลั่นจนพวกแม่บ้านออกมาดูด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะเอ่ยถามอะไรออกไปสักคำ..
“แล้วจะให้ใส่ชุดสูทไปหรือไงเล่าไอ้บ้า !”
“แบคฮยอน.. ไปเปลี่ยนชุด !”
“ไม่ !” คนตัวเล็กตะโกนเสียงดังแล้วกอดอก มองหน้าชานยอลอย่างเอาเรื่อง..
“แบคฮยอน....”
“อะไร !?”
“ผมถามอีกครั้งว่าคุณจะไปเปลี่ยนดีๆ หรือต้อง...” สรรพนามแบบนี้เล่นเอาแบคฮยอนขนลุก แอบกลัวลึกๆ เมื่อเห็นว่าสายตาของชานยอลที่มองมาเริ่มน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก
แต่... แบคฮยอนไม่ยอมแพ้หรอกนะ !
“แบคไม่เปลี่ยน !”
“ถ้าคุณไม่เปลี่ยน งั้นเดี๋ยวผมจะเปลี่ยนให้คุณเองนะแบคฮยอน !” พูดจบ.. ขายาวก็ก้าวตรงไปที่บันไดทันที แบคฮยอนที่ตอนแรกยืนนิ่งอยู่ถึงกับทำหน้าเหวอ
“ช.. ชานยอล !”
“รับรองว่าผมไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าให้อย่างเดียวแน่ !”
“งื้ออออออออ ไปแล้วๆ !!” แล้วแบคฮยอนก็รีบวิ่งขึ้นไปในห้องทันที โดยไม่ลืมที่จะปิดประตูลงกลอนไว้ด้วย.. ชานยอลที่เห็นภาพแบบนั้นก็ยกยิ้มขึ้นที่มุมปากแล้วก็เดินลงไปนั่งรอเหมือนตอนแรก
ส่วนพวกแม่บ้านก็ยิ้มปนหัวเราะออกมาเมื่อได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของบ้านหลังนี้.. มันกำลังจะสนุกสนานและอบอุ่นกว่าที่เคยเป็น...
แบคฮยอนอยู่ในสภาพเสื้อยืดตัวสีขาวโคร่ง กับกางเกงขาแค่เข่าตามสไตล์ที่แบคฮยอนชอบใส่บ่อยๆ ซึ่งพอที่จะผ่านตาชานยอลไปได้ ส่วนชานยอลเองก็ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเช่นกัน เพราะตอนแรกก็สวมเสื้อกล้ามตัวสีดำ.. แบคฮยอนซึ่งโดนบังคับให้ไปเปลี่ยนเลยโวยวายบ้าง ไม่ยอมให้ชานยอลใส่เสื้อกล้ามเช่นกัน สุดท้ายก็โวยวายกันลั่นกว่าจะออกจากบ้านมาได้ก็พระอาทิตย์ตกดินพอดี...
ภายในรถเงียบกริบ มีเพียงแค่เสียงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอของแบคฮยอนเท่านั้นที่ยังคงดังอยู่ภายในรถ.. ชานยอลหันไปมองก็เห็นว่าตุ๊กตาหน้ารถของเขานั่งคอพับคออ่อนหลับไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เขาเอื้อมมือไปยีผมของแบคฮยอนเบาๆ แล้วยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงสิ่งที่เขากำลังจะเซอร์ไพรส์คนตัวเล็กของเขา..
สิ่งที่ใครต่อใครก็ถือว่ามันคือความสุขที่แท้จริงของชีวิต... แบคฮยอนกำลังจะได้เป็นหนึ่งในคนพวกนั้นเหมือนกัน..
นั่งรถเพียงไม่นานก็ถึงที่หมาย ชานยอลอุ้มแบคฮยอนลงจากรถแล้วเดินไปที่บ้านพักส่วนตัวที่เขาแอบซื้อไว้ตอนที่แบคฮยอนไม่อยู่..
บ้านหลังนี้ที่เขาเก็บเงินซื้อด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง หวังไว้ว่าจะได้ใช้บั้นปลายของชีวิตร่วมกับแบคฮยอนที่นี่..
เมื่อเข้าไปถึงภายในบ้าน ชานยอลก็เดินเข้าห้องไปแล้ววางแบคฮยอนก่อนที่เขาจะเดินไปขนกระเป๋าเสื้อผ้าลงมาจากบนรถ.. ฝ่ายแบคฮยอนพอได้ยินเสียงดังขึ้นก็ตื่น.. มือเล็กๆ ยกขึ้นขยี้ตาแล้วดันตัวเองขึ้นนั่งอย่างงัวเงีย..
พอได้ยินเสียงประตูเปิดเข้ามาแบคฮยอนก็หันไปตามเสียงทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ลืมตาขึ้น ชานยอลที่เห็นแบบนั้นก็ขำออกมาเบาๆ แล้วเดินไปวางของไว้ที่ตู้เสื้อผ้า...
แบคฮยอนลืมตาขึ้นมองแล้วค่อยๆ คลานไปที่ปลายเตียงแล้วค่อยๆ เลื่อนตัวลงมานั่งบนโซฟาปลายเตียงต่อ..
ชานยอลเมื่อหันหลังมาแล้วเห็นภาพนั้นก็ถึงกับใจกระตุก.. รู้ว่าแบคฮยอนไม่ได้ตั้งใจที่จะยั่วหรืออ่อย แต่สภาพตอนนี้มัน...
เสื้อสีขาวตัวโคร่งล่นลงมาจนเผยให้เห็นไหล่บาง ส่วนกางเกงก็เหมือนกัน.. มันเลื่อนขึ้นจนเห็นขาอ่อนขาวของแบคฮยอนได้ และอาจจะเห็นลึกไปมากกว่านี้ถ้าชานยอลกำลังนั่งอยู่ที่พื้น...
“ต.. ตื่นแล้วหรอแบคฮยอน”
“อื้ออ...”
“ไปอาบน้ำสิครับตัวเล็ก” ชานยอลเดินเข้าไปใกล้แบคฮยอนแล้วดึงเสื้อของตัวเล็กให้อยู่ในสภาพที่ดี.. ไม่ทำให้เขาต้องคอยระงับอารมณ์ตัวเองแบบนี้..
แบคฮยอนลุกขึ้นเดินไปหยิบกระเป๋าของตัวเองขึ้นมาเพื่อจะหาชุดนอน.. ทว่า...
“ยอล.. เอาชุดนอนแบคมาป่ะเนี่ย ?”
“เออ เหมือนยอลจะลืมอ่ะ” ลืมแบบตั้งใจนะ
“ย๊าส์ ! แล้วแบคจะใส่อะไรอ่ะ ? ถามจริงๆเหอะ ยอลเอาของอะไรของแบคมาบ้าง ?”
“อือ.. พวกชั้นในอย่างเดียวอ่ะ อ่อ ! แบคใส่เสื้อยอลก่อนก็ได้ อ่ะ” ชานยอลหยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใหญ่ยื่นให้แบคฮยอน พร้อมกับกางเกงขาสั้นสีชมพูอ่อนที่ชานยอล ‘จงใจ’ หยิบมันใส่กระเป๋ามา
ชานยอลไม่ได้หื่น.. แต่มันก็นานแล้วอ่าเนาะ...
“มันไม่ เอ่อ...”
“อายอะไรล่ะแบค ? อยู่ด้วยกันมาตั้งกี่ปี เห็นๆกันมาหมดแล้ว” ชานยอลยิ้มกรุ่มกริ่มแกล้งแบคฮยอน จนคนตัวเล็กหน้าขึ้นสีแดง รีบคว้าผ้าขนหนูแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไป..
“ไอ้บ้าชานยอล !”
ใช้เวลาเพียงไม่นานแบคฮยอนก็อาบน้ำเสร็จ ร่างเล็กเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วเดินไปนั่งที่โซฟาปลายเตียง.. แล้วเหมือนสักพักก็นึกขึ้นได้ว่าคนในห้องนี้หายไปไหน..
แบคฮยอนหันซ้ายแลขวา แล้วมองไปตรงระเบียงบ้านก็พบกับชานยอลที่นอนอยู่บนเก้าอี้นวมขนาดใหญ่.. คนตัวเล็กเดินตามออกไปแล้วนั่งลงข้างๆ ชานยอลที่คล้ายกับจะเหม่อลอยไปไกล
“ชานยอลอา.. เป็นอะไร ?”
“เปล่าหรอก.. ยอลคิดอะไรอยู่นิดหน่อยน่ะ” แม้จะสงสัยอยู่มาก แต่แบคฮยอนก็ไม่กล้าถามเมื่อเห็นว่าชานยอลเหมือนจะไม่พอใจกับอะไรบางอย่างอยู่.. แบคฮยอนเดินเข้าไปในห้องเพื่อหยิบโทรศัพท์มาเล่น แล้วก็พบกับสิ่งสิ่งหนึ่งที่พอจะคาดเดาได้ว่ามันน่าจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้ชานยอลเป็นแบบนั้น !
แบคฮยอนรีบวิ่งกลับมาที่ระเบียง. .แล้วตะโกนเสียงดังเมื่อรู้ถึงสาเหตุ
“ชานยอล ! สุขสันต์วันเกิด !!!!” แบคฮยอนยิ้มโชว์เขี้ยวแล้วโถมตัวไปกอดชานยอลไว้..
ริมฝีปากหยักได้รูปยกยิ้มขึ้นมุมปาก แอบดีใจที่แบคฮยอนนึกเรื่องวันเกิดของเขาได้... ความจริงแล้วตอนแรกเขาเองก็ลืมไปเหมือนกัน แต่พอมานึกขึ้นได้ก็เลยน้อยใจคนตัวเล็กโทษฐานที่ลืมวันเกิดของเขา..
แต่ที่มานั่งอยู่ตรงนี้ ไม่ได้เกิดจากความน้อยใจอะไรหรอกนะ.. แต่บรรยากาศมันดีจริงๆ
บ้านหลังที่ชานยอลซื้อ เรียกได้ว่าห่างไกลจากผู้คนมาก.. หาดทรายแถวนี้จึงเงียบสงบมากกว่าปกติ ไม่มีแสงไฟและผู้คนคอยรบกวน.. เรียกได้ว่าบรรยากาศล้วนๆ
ท้องฟ้ามืดสนิทจนสามารถมองเห็นดวงดาวได้ชัด แล้วแสงสว่างสีเหลืองอ่อนที่ทอประกายมาก็ได้จากดวงจันทร์กลมโตในค่ำคืนนี้... เสียงน้ำทะเลซัดสาดชายฝั่งก็เหมือนเป็นอะไรที่ดีในการที่จะ.. (ไม่บอก คิคิ)
“นึกว่าจะลืมไปแล้วสะอีก...” ชานยอลแกล้งทำหน้านิ่งใส่จนแบคฮยอนใจเสีย.. ใบหน้าน่ารักแหงนขึ้นมองฟ้าแล้วเปลี่ยนเรื่องไปอย่างเนียนๆ
“วันนี้ดาวสวยนะชานยอลอา..”
“เปลี่ยนเรื่องเลยนะตัวเล็ก”
“ไม่ได้เปลี่ยนนะ ! ว่าแต่.. คิดอะไรอยู่ถึงได้พามาเที่ยวทะเลตอนหน้าหนาว ?” แบคฮยอนหันไปมองชานยอลด้วยความสงสัย.. แม้หิมะจะละลายไปเกือบหมดแล้ว แต่อุณหภูมิความหนาวเย็นก็ยังคงอยู่จนแบคฮยอนตัวสั่นเมื่อลมเย็นเข้าปะทะกับร่างบาง..
“จะหน้าไหนก็ไม่สำคัญหรอกครับ” แขนยาวเอื้อมไปโอบรอบเอวแบคฮยอนแล้วดึงให้มานั่งตักของเขาไว้.. ชานยอลพาดคางของเขาไว้บนไหล่บางของแบคฮยอนแล้วหลับตาลงเมื่อรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากตัวของคนในอ้อมกอดนี้..
“แบคฮยอน...”
“หืมม ?”
“รักยอลมั้ยครับ ?” ชานยอลถามออกไปทั้งๆที่เขาเองก็เคยได้รับคำตอบนี้อยู่แล้ว.. แต่ในเมื่อต้องการยืนยันอีกครั้ง ก็เลยต้องถาม.. ไม่ผิดใช่มั้ย ?
“รักสิ ! แบครักยอลมากที่สุดเลย” แบคฮยอนตอบกลับพร้อมกับยิ้มออกมา ไม่สนใจว่าชานยอลจะเห็นมั้ย.. เพราะรอยยิ้มที่เกิดขึ้นตอนนี้มันมาจากความสุขที่มีจนล้นหัวใจต่างหาก..
“แบคฮยอน.. ไว้ใจยอลมั้ยครับ ? แบคจะเชื่อมั้ยถ้ายอลจะบอกว่ายอลสามารถดูแลและรักแบคได้ตลอดชีวิต ?”
“อืมม.. ไม่รู้สิ แต่แบคเชื่อน๊า ว่าแบคทำได้อ่ะ” คำพูดนั้นทำให้ชานยอลยิ้มกว้างออกมาไม่ต่างจากแบคฮยอน..
คนตัวสูงดันให้แบคฮยอนลุกขึ้นยืนก่อนที่ตัวเขาเองจะยืนตาม..
“แบคฮยอนอา...” ชานยอลดึงมือข้างซ้ายของแบคฮยอนมากอบกุมไว้แล้วจ้องมองคนตรงหน้าด้วยสีหน้าที่ปรับให้ดูจริงจังมากกว่าเดิม..
เพราะสิ่งที่เขาจะพูดต่อไปนี้.. มันเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับชีวิตของคนสองคน
“ผมไม่ขอให้เราเริ่มต้นใหม่กันอีกครั้ง.. เรื่องในอดีตของเราทั้งสองคนผมก็จะไม่ขอให้แบคลืมด้วย”
“.....”
“ผมอยากให้แบคจำมันไว้เป็นบทเรียน.. ผมก็จะไม่ลืมมันเพราะมันถือเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิตผม แล้วมันทำให้ผมเกือบเสียแบคฮยอนไป..”
“ชานยอล ?” แบคฮยอนเอียงคอด้วยความสงสัย เมื่ออยู่ๆ ชานยอลก็ดึงตัวเข้าไปกอด แล้วคนตัวเล็กยื่นแขนเรียวไปโอบกอดชานยอลไว้เช่นกัน...
“ขอบคุณนะครับที่แบคกลับมา.. ขอบคุณที่ยังให้โอกาสผมอยู่...”
“.....”
“แบคเชื่อมั้ย ? ตลอดเวลาที่ผ่านมามีสิ่งหนึ่งที่ผมคิดมาเสมอเกี่ยวกับเรื่องระหว่างเรา...”
“เรื่องอะไรหรอ ?”
“ผม..... ผมอยากดูแลแบคไปตลอดชีวิต”
“เอ๋ ?”
“อยากจะเป็นที่คอยป้อนยาให้แบคตอนไม่สบาย อยากจะคอยดูแลเวลาที่แบคกำลังอ่อนแอ.. อยากทำทุกๆ อย่างเพื่อให้แบคมีความสุข... อยากใช้ช่วงชีวิตทั้งหมดของผมไปกับแบคฮยอน....” ร่างสูงดันตัวของแบคฮยอนออกแล้วจ้องมองไปยังนัยน์ตา...
“ถ้าหากแบคฮยอนไม่รังเกียจที่จะใช้ชีวิตร่วมกับผมตลอดไป.. แบคฮยอน...”
“......”
“แต่งงานกันนะครับ...” เมื่อคำขอนั้นถูกเอื้อนเอ่ยจนจบ น้ำตาใสก็ไหลรินออกมาจากดวงตาเรียวของแบคฮยอน.. เสียงสะอื้นฮึกดังขึ้นแข่งกับเสียงของคลื่นทะเลในยามค่ำคืน..
“ฮึก.. ชานยอล”
“แต่ง... นะ ?” ชานยอลถามขึ้นอีกครั้งเมื่อแบคฮยอนยังไม่ตอบคำถามของเขา.. แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นสบตากับคนตัวสูงแล้วยิ้มออกมาทั้งน้ำตา จากนั้น....
ศีรษะเล็กก็พยักขึ้นลงเพื่อเป็นคำตอบแทนเสียงพูด..
เมื่อได้คำตอบแล้วชานยอลก็เบิกตาขึ้นด้วยความดีใจแล้วดึงแบคฮยอนเข้ามากอดไว้ใหม่อีกครั้ง... รอยยิ้มปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของคนทั้งสอง.. หัวใจของทั้งคู่เต้นแรงและเป็นจังหวะเดียวกัน เหมือนกับความรักของเขาทั้งสองที่กำลังจะก้าวเดินไปบนเส้นทางของชีวิตคู่อย่างจริงจังเสียที..
ชานยอลผละกอดออกแล้วนั่งคุกเข่าลงบนพื้นต่อหน้าแบคฮยอน.. คนตัวเล็กหน้าเหวอทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นอากัปกิริยาแบบนี้
“ช.. ชานยอล ! ลุกขึ้นมา.. ทำอะไรเนี่ย ?”
“ในเมื่อการแต่งงานของชีวิตคนมันมีแค่ครั้งเดียวนี่นา.. ก็ต้องทำอะไรให้มันดูน่าประทับใจหน่อยสิ” เมื่อตอบเสร็จชานยอลก็ล้วงมือลงไปในกระเป๋าเสื้อคลุมที่เขาใส่มา.. จากนั้นก็หยิบบางอย่างจากกระเป๋าเสื้อมาไว้ในมือ...
“แบคฮยอน.. จำได้มั้ยว่านี่คืออะไร ?”
กล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินขนาดเล็กที่วางอยู่บนมือของชานยอลทำให้แบคฮยอนเบิกตาขึ้นด้วยความตกใจ.. นี่มัน....
ชานยอลไม่รอให้แบคฮยอนตอบกลับมา.. เขาเปิดฝากล่องขึ้น แล้วสิ่งที่ปรากฏต่อสายตาของแบคฮยอนก็คือ.. แหวนเงินกลมเกลี้ยงที่สลักชื่อ.. Park Baekhyun
ร่างสูงหยิบแหวนวงนั้นขึ้นมา แล้วยื่นมือไปคว้ามือเรียวข้างซ้ายของแบคฮยอนมาไว้ตรงหน้า..
“ขออนุญาตนะครับ..” ชานยอลพูดจบก็บรรจงสวมแหวนให้แบคฮยอนที่นิ้วนางข้างซ้าย.. ตำแหน่งเดียวกับที่เขาเคยใส่ให้แบคฮยอนมาแล้วเมื่อ 3 ปีก่อน.. ก่อนที่ริมฝีปากจะจุมพิตลงเบาๆ บนแหวน..
คนตัวเล็กหน้าขึ้นสีแดงจัดเมื่อได้รับสัมผัสที่อ่อนโยนจากคนตรงหน้า.. น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าก็ยังคงไหลรินออกมาไม่หยุด..
“แบคฮยอนอา.. ผมไม่อนุญาตให้แบคถอดมันออกอีกแล้วนะครับ..”
“แล้วถ้าชานยอลทำเหมือนครั้งที่แล้ว ?”
“มันจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้วผมสัญญา.. ต่อจากนี้ชีวิตผมจะมีแค่แบคคนเดียว.. ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นผมจะไม่มีวันทำเรื่องแย่ๆ อย่างตอนนั้นอีกแล้ว...” ชานยอลเงยหน้าขึ้นมองคนที่ร้องไห้อยู่ จากนั้นก็ทิ้งตัวนั่งลงขัดสมาธิลงกับพื้นพร้อมกับดึงให้คนตรงหน้านั่งลงมาบนตักด้วย..
สายตาของทั้งคู่มองตรงไปที่ผืนน้ำกว้างสุดสายตา.. ความอบอุ่นที่ได้รับทำให้แบคฮยอนรับรู้ได้ว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่ความฝัน.. ความสุขที่ได้รับในตอนนี้มันคือเรื่องจริง...
“แบคเชื่อใจชานยอลนะ..”
“ผมก็เชื่อใจแบคฮยอน...”
ถามว่าความสุขที่แท้จริงคืออะไร.. ตอนนี้ทั้งคู่ตอบได้เลยว่า.. มันคือการที่เราได้ร่วมใช้ชีวิตไปกับคนที่เรารัก..
การที่ได้ดูแลกัน ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุข และได้มีความสุขและเสียใจไปพร้อมๆ กัน....
หากความรักที่เกิดขึ้นมาเมื่อนานมาแล้ว.. เขาไม่ยอมพูดให้อีกฝ่ายได้รับรู้ก็คงไม่มีวันนี้.. วันที่จะได้ใช้ชีวิตร่วมกัน..
ถ้าหากไม่มีความกล้าที่จะเอื้อนเอ่ยออกไป.. ตอนนี้ก็อาจจะต้องแยกทางไปใช้ชีวิตของแต่ละคน ซึ่งอาจจะต้องลาจากกันไปตลอดกาล...
นั่งเงียบกันไปสักพักแบคฮยอนก็เริ่มง่วงนอนแต่เหมือนจะเสียดายถ้าจะต้องมานอนหลับตอนนี้จึงขอให้ชานยอลพาออกไปเดินเล่นรอบๆหาด..
มือของทั้งคู่สอดประสานแล้วก้าวเดินออกไปพร้อมๆ กัน เสียงเจื้อยแจ้วของแบคฮยอนดังอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ไม่ได้ทำให้ชานยอลนึกรำคาญ..
เมื่อเดินมาเรื่อยๆ จนไกลพอสมควร.. สายตาของแบคฮยอนก็เหลือบไปเห็นแสงไฟสีส้มพร้อมกับกลุ่มควันที่พวยพุ่ง.. เสียงเพลงบรรเลงทำให้คนตัวเล็กอดที่จะสงสัยไม่ได้ จากนั้นก็รีบจูงให้อีกคนออกวิ่งทันที..
บนเกาะนี้มันห่างไกลจากผู้คนมากนะ.. แล้วใครกัน ?
แต่เมื่อวิ่งไปถึง.. ความสงสัยทุกอย่างก็ถูกคลี่คลาย..
“อ้าว ! แบคฮยอน ชานยอล ! มานี่กันทำไมน่ะลูก ?” เฮเคียวเอ่ยถามขึ้นเมื่อลดมือที่ถือแก้วน้ำส้มลง แล้วก็มองไปยังทั้งคู่ด้วยความสงสัย..
“ชานยอลอา ! มาเต้นด้วยกันสิ” จีมินเอ่ยชวนลูกชายแล้วก็ยักย้ายส่ายสะโพกกับมินโฮต่ออย่างสนุกสนาน.. นี่มันอะไรกัน ?
“นี่ตามผมกันมาหรอครับ ?” ชานยอลเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย มินโฮส่งสายตาไปทางลูกชายแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา..
“เอ้า ! ในเมื่อลูกชายแม่จะต้องงานแล้ว.. งั้นเพื่อนแม่จะน้อยหน้าได้อย่างไงกัน ?”
“หืมมม ?”
“แบคฮยอนอา.. นี่ฮยอนบิน เรากำลังจะแต่งงานกันนะลูก” เฮเคียวพูดแล้วดึงตัวของชายหนุ่มร่างสูงออกมา.. ใบหน้าหล่อเหลาจ้องมองแบคฮยอนแล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
“ฝากตัวด้วยนะครับลูกชาย”
“ครับ.. ว่าแต่แม่ไปคุยกันตอนไหน ?”แบคฮยอนตอบกลับแล้วยิ้มให้อย่างสุภาพ ก่อนจะหันไปถามแม่ของตนด้วยความสงสัย
“ก็แบคฮยอนไม่อยู่ตั้ง 3 ปี แม่ก็เหงาน่ะสิ.. อีกอย่างฮยอนบินเขาบอกคิดถึงแม่ เราก็เลยกลับมาคุยกันน่ะ.. แสดงว่าความสวยของแม่ยังใช้ได้อยู่นะ คิกคิก” เฮเคียวตอบแล้วหัวเราะคิกคักด้วยความสุข.. ฮยอนบินที่เห็นแบบนั้นจึงเผยรอยยิ้มออกมาแล้วจ้องมองไปทางเฮเคียว..
“ว่าแต่จะไปไหนกันหรอ ?”
“ก็มาเดินเล่นกันน่ะครับ.. แล้วบังเอิญมาเจอผู้เฒ่าผู้แก่เสียก่อน” ชานยอลตอบแล้วยักคิ้วให้มารดาอย่างกวนประสาท จีมินอดไม่ได้ที่จะหมั่นไส้จึงยู่หน้าใส่เล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าไปกระซิบบางอย่างกับชานยอล..
ซึ่งทำให้ชานยอลนึกอยากจะหอมแก้มแม่ของตนแรงๆ สักทีที่รู้ใจเขาได้มากถึงขนาดนี้
“เข้าหอก่อนแต่งก็ได้นะ.. เดี๋ยวจะลืมกลวิธีไปสะก่อน คิกคิก”
แบคฮยอนมองทั้งคู่ด้วยความสงสัยแต่ก็ไม่กล้าจะเอ่ยถามอะไรออกมา.. ชานยอลเดินกลับมาจูงมือแบคฮยอนให้เดินออกไปแล้วตะโกนตอบแม่ของตนด้วยสีหน้าที่ดูมีความสุขมากกว่าปกติ
“อย่านอนดึกกันนะครับแม่ ! ผมกับแบคฮยอนขอตัวก่อนละกัน”
“โอเค ! อย่าหักโหมมากนะชานยอล !!”
ตัด !!
พวกคุณเคยเชื่อในเรื่องของพรหมลิขิตมั้ย ? คุณคิดมั้ยว่าการที่เราสองคนจะรักกันได้มันยากลำบากขนาดไหน ?
ผู้คนนับล้านบนผืนแผ่นดินนี้ อะไรที่ทำให้คนสองคนได้มาเจอกันและรักกัน.. เราเองก็ไม่รู้... หากแต่ทุกอย่างมันมักจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อครั้งแรกที่สบตากัน..
เมื่อได้พบ ได้พูดจา ได้สานความสัมพันธ์จากคนรู้จักให้กลายเป็นคนรัก..
ถามว่าถ้าไม่ใช่เพราะพรหมลิขิต แล้วมันคืออะไรล่ะ ? ความบังเอิญอย่างงั้นหรอ ? ก็คงใช่...
ตอนนี้ผมเองก็ไม่รู้หรอกว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้ผมและแบคฮยอนได้พบเจอกัน.. แต่สิ่งที่ผมรู้อยู่เต็มอกคือ.. ผมรักคนคนนี้มาก..
เหมือนโชคชะตาจะกำหนดให้เราเป็นคู่กันมาตั้งแต่แรกแล้วล่ะมั้ง.. เพราะเท่าที่ผมจำความได้.. ผมก็อยู่กับแบคฮยอนมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว.. แล้วเราทั้งคู่ก็ไม่เคยห่างกันเลย..
อยู่ด้วยกัน.. มีความรักที่ตรงกันแต่กลับไม่กล้าพูดออกไปจนต้องแบกรับความอึดอัดไว้ทั้งสองฝ่าย.. พอเปิดใจก็ถึงจะได้พบกับความสุขที่แท้จริงแบบนี้...
ผมอยากจะบอกกับทุกคนนะครับ.. ว่าถ้ารักใครก็ให้รีบบอกไปเถอะ ก่อนที่จะเสียเขาไป..
อย่าปล่อยให้เราต้องคิดไปเอง และอย่าปล่อยให้เขาต้องคอยเดาความรู้สึกของเรา.. อย่ากลัวที่จะต้องเสียเพื่อน อย่ากลัวที่จะต้องผิดหวัง...
ความรักต้องใช้ความกล้าเท่านั้น.. คุณเชื่อผมเถอะ แล้วความสุขที่ผมมีอยู่ในตอนนี้คุณจะเข้าใจมันได้อย่างง่ายดายเลย...
“รักนะครับ.. ปาร์ค แบคฮยอน”
Happy Endding…..
จบแล้วจ้ะ ! จบแล้ววววววว
แต่จบไม่แท้จริง ฮิฮิ... ฉากสเปเชียลอีก 5 ตอน สามารถอ่านต่อได้ในเล่มเท่านั้น ^^
รวมเล่มคงเดิมจ้ะ.. หาฉากดุ๊กดิ๊กอ่านได้ในทวิตเตอร์ และฉากดุ๊กดิ๊กที่ถึงใจในรูปเล่ม อิอิ.. ฉากหวานๆ ยังคงมี แต่ก็ในเล่มเช่นกัน.. พูดง่ายๆ คือบทสรุปอยู่ในเล่มจ้า ! *วิ่งหลบรองเท้า
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามมาจนถึงตอนจบ.. ฟิคเรื่องนี้คือเรื่องแรกของชีวิต และรู้สึกประทับใจมากที่มีคนคอยติดตามมากถึงขนาดนี้ .. ขอบพระคุณจริงๆค่ะ..
รักรีดทุกคนนะคะ.. รักมากจริงๆ นี่พูดเลย ^^ ขอบคุณทุกๆ กำลังใจ และทุกอย่างที่มอบให้กันมา
สุดท้ายนี้เรามีของขวัญมาให้...
สปอย....
“แม่ครับ.. ผมไม่อยากแต่งงานกับชานยอลแล้ว”
“.....”
“ทั้งชีวิตของผมจะมีแค่คุณเท่านั้น.. บยอน แบคฮยอน”
……………………….
“แบคใส่อะไรให้ยอลกินหรือเปล่า ทำไมมันร้อนจัง ?”
“ไม่รู้อ่ะ.. จงอินบอกว่าให้กินก่อนนอน”
“อย่าบอกนะว่า.. อื้อ.. ร้อน”
บ๊ายบายยยยยยยยยยยยยยยยยยย
สำหรับคนที่สั่งจองฟิค ไรต์ส่งรายละเอียดไปให้แล้วนะค้าบบบบบ จุ๊บ ๆ
ปล. ฉากสเปเชียลที่จะลงมีแค่ตอนเดียวเท่านั้น นอกนั้นติดตามได้แค่ในเล่มม
คือไรต์อยากบอกว่ารับรองไม่ผิดหวังแน่นอนกับฉากสเปเชียล จะบอกพล๊อตนิดนึงเนาะ -..- ใจดี 5555
2. Honey moon { Chanbaek } ตอนนี้คือหลังจากที่แต่งงานกันแล้ว ก็ต้องฮันนีมูลกันชิปะ ? แล้วก็... NC 20+ จ้ะ ^^
3. Provoke { Hunhan } ตามชื่อเรื่องเลยค่ะ ^^ NC 18+
4. I’m henpecked { All Couple } ตามชื่ออีกค่ะ.. กลัวเมีย 55555
ความคิดเห็น