โคลอี้กับโลกมหัศจรรย์ - โคลอี้กับโลกมหัศจรรย์ นิยาย โคลอี้กับโลกมหัศจรรย์ : Dek-D.com - Writer

    โคลอี้กับโลกมหัศจรรย์

    โดย benjibow

    การเดินทางของผู้หญิงคนหนึ่งที่ได้เข้าไปในอีกโลกหนึ่งซึ่งมีเรื่องประหลาดเกิดขึ้นมากมาย ติดตามได้ที่นี้

    ผู้เข้าชมรวม

    57

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    57

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  7 ม.ค. 61 / 19:12 น.

    แท็กนิยาย

    ลูก ผจญภัย



    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

           ณ เมืองแคเทอฟรองซ์  ค..1901  จอนและซาฮาร่าภรรยาของเขา ได้ให้กำเนิดสาวน้อยมหัศจรรย์ ผู้มีดวงตากลมโตในแววตาเหมือนดั่งมีเข็มนาฬิกาเดินหมุนอย่างไม่หยุดนิ่ง ช่างน่าแปลกใจยิ่งนัก เธอยิ้มอย่างน่ารักน่าชัง

    โอ้ที่รักคุณตั้งชื่อลูกว่าอะไรคะ ซาฮาร่าถามสามี พร้องปรายสายตาไปหาจอน

    ลูกของเราชื่อ โคลอี้ ดีไหมที่รัก จอนตอบซาฮาร่า    ซาฮาร่าอุ้มลูกน้อยโคลอี้ไว้ในอ้อมอก พลันถูกจอนสวมกอดจากด้านหลัง พวกเขาคงมีความสุขมากเมื่อมองออกไปไกลลิบตา แสงแดดของวันกำลังจะหายไป ท้องฟ้าสีส้มจางๆสลับกับกลีบเมฆปุยมันช่างเป็นช่วงเวลาแห่งความรัก ความอบอุ่น อย่างมิรู้ลืม

           หมู่บ้านกริฟฟินเดอร์ ในยามนี้มีแสงแดดร้อนระอุ ลมร้อนพัดโชยอย่างเบาๆ ใบไม้ปลิวไสวเป็นสัญญาณบอกฤดูใบไม้ร่วงกำลังมาเยือน

    ซาฮาร่าวันนี้ผมต้องเดินทางเข้าป่า คุณดูแลลูกให้ดีนะที่รัก จอนบอกกับซาฮาร่า  

    แต่วันนี้ โคลอี้อายุครบ 3 ขวบนะคะและคุณยายของเธอจะมาร่วมงานในวันนี้ด้วย ซาฮาร่าพูดพลางค้อนสายตาใส่จอน

     โคลอี้ พ่อขอโทษนะที่ไม่ได้ฉลองงานวันเกิดกับลูก ผมเลื่อนนัดเพื่อนไปหลายครั้งแล้ว ผมคงต้องไป จอนโผลกอดโคลอี้อย่างปลอบใจ พลางกอดซาฮาร่าหวังว่าเธอคงอารมณ์ดีขึ้น 

    ติ้ง..ติ้งติ้ง เสียงเตาอบดังขึ้นจากในครัว ซาฮาร่ากำลังวุ่นวายกับอาหารเช้าของทุกคน

     

    เฮ้จอนคุณจะไปที่ไหน ซาฮาร่าถามอย่างครุ่นคิด ผมเข้าป่าและจะไปปืนเขา ผมยังไม่รู้ว่าเป็นที่ไหน มันเป็นป่าที่ลึกพอที่จะมีสัตว์ร้ายอาศัยอยู่ ไม่ก็ตัวประหลาด จอนพูดชวนน่าฉงนให้ซาฮาร่าฟัง มันอันตรายขนาดนั้น คุณยังจะกล้าไปอีกหรือคะ แววตาของซาฮาร่ามีความสงสัย ฮ่า..ฮ่าฮ่า อย่าลืมสิ ผมคือยอดนักเดินทาง ไม่มีอุปสรรคใดๆในโลกแห่งนี้ที่ผมจะผ่านไปไม่ได้ ใช่ไหมโคลอี้ พูดจบจอนโบกมือลาพร้อมส่งจูบให้โคลอี้  อะแนะอะแนะ!!!เสียงของโคลอี้ดังขึ้นหลังจากที่จอนออกจากบ้านไป เหมือนเธอจะรู้เหตุการณ์ต่อจากนี้

     

           กริ่งกริ่ง เสียงกริ่งดังจากประตูหน้าบ้าน โคลอี้คุณยายของหนูมาถึงแล้วละจ้ะ ซาฮาร่าพูดพลางเดินไปเปิดประตู ไงจ้ะโคลอี้หลานรักคุณยายทีร่าหน้าตายิ้มแย้มทักทายหลานโคลอี้พร้อมสวมกอดซาฮาร่า  ในค่ำคืนแห่งการฉลองวันเกิดของโคลอี้ ซาฮาร่ารู้สึกสังหรณ์ใจพิลึก เธอไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มาก่อนหรือนี้จะเป็นลางบอกเหตุร้ายเกี่ยวกับจอน

           ในป่าลึกแถวเทือกเขาเอลนิโล่ ต้นไม้ใหญ่ปกคลุมไปทั่วรากไม้ใหญ่พอๆกับบ้านหลังเล็กๆรวมถึงกิ่งไม้ที่แตกกิ่งสลับซับซ้อนจนมองไม่เห็นท้องฟ้า ไม่เห็นแสงตะวันที่จะสาดส่องเข้ามาได้ จอนและเพื่อนของเขาเดินเข้ามาที่นี้ราวสามสัปดาห์ มันไม่เหมือนที่อื่นที่พวกเขาเคยไปสัมผัส ที่นี้ยิ่งเดินลึกเข้าไปเท่าไหร่ยิ่งน่ากลัว เสียงลมพัดใบไม้ปลิวว่อน เสียงนกร้องอย่างตื่นตกใจ สัตว์เล็กสัตว์น้อยที่อาศัยบนกิ่งไม้รีบวิ่งเข้ารังอย่าหวาดระแวง

    นี่กำลังจะเกิดอะไรขึ้น เสียงของเรียกถามเพื่อน ไม่ทันตั้งตัวพายุลูกใหญ่หมุนวนจนจอนปลิวเข้าไปในพายุนั้น จอน..จอนจอน!!!” เสียงเรียกของเพื่อนจอนตะโกนลั่นป่า สิ้นเสียงเรียกจอนก็หายลับไปกับพายุ

           พ่อ! พ่อ!! พ่อ!!!  โคลอี้ลืมตาตื่นขึ้นมาจากฝันร้าย ใบหน้าของเธอเปื้อนไปด้วยน้ำที่หลั่งออกจากตา เธอร้องไห้อย่าพร่ำเพ้อหาพ่อของเธอ วันนี้โคลอี้อายุครบ 15 ปี นานถึง 12 ปีแล้วที่จอนหายตัวไปจากวันนั้นโคลอี้ก็ไม่ได้พบหน้าพ่ออีกเลย ลางสังหรณ์บอกเหตุในวันก่อนเดินทางของจอนมันเป็นความจริง  โคลอี้รอวันเติบโตพอที่จะออกเดินทางเพื่อตามหาพ่อและคลายความลับของป่าแห่งนั้น

           โคลอี้ โคลอี้ ลูกจะไปไหน ซาฮาร่าแม่ของเธอเรียกถาม ตามหาพ่อ หนูจะไปตามหาพ่อ มันถึงเวลาแล้ว พระเจ้า! พระเจ้าบอกกับหนู หนูต้องไปคะแม่ โคลอี้เร่งรีบราวกับล่วงรู้เวลา ไม่นะลูก โคลอี้ แม่ไม่อยากสูญเสียลูกไปเหมือนพ่อ ซาฮาร่าร้องไห้วิงวอน หนูจะกลับมา หนูจะกลับมาพร้อมพ่อ หนูสัญญา โคลอี้หยิบธนูคันใหญ่ของพ่อออกไป พร้อมโบกมือลาและยิ้มให้แม่ของเธอ หลังจากนี้การเดินทางกำลังจะเกิดขึ้น การเดินทางสู่โลกมหัศจรรย์

    ในป่าแถบเทือกเขาเอลนิโล่การเดินทางที่แสนยากลำบาก เส้นทางที่คดเคี้ยวดั่งงูเลื้อย สองข้างทางที่พบเจอสัตว์ดุร้ายแต่เธอก็ผ่านพ้นมาได้ที่ที่พ่อของเธอหายไปบริเวณนี้เป็นป่าที่เงียบสงัด เงียบจนได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเอง เสียงนกฝูงใหญ่เหมือนบินหนีอะไรสักอย่าง อย่างน่ากลัว ลมพัดกระทบตัวเธออย่างรุนแรงแล้วหายไป นี่เกิดอะไรกับพ่อของฉันโคลอี้บ่นกับตัวเอง ครู่หนึ่งแววตาของเธอสะท้อนเงานาฬิกาหมุนๆๆอย่างรวดเร็ว เกิดพายุเฮอริเคนขนาดใหญ่มาก หมุนเวียนรอบตัวเธอและพัดเธอเข้าไปในพายุอย่างน่าอัศจรรย์

    … “แม่คะ ตอนนี้จอนอยู่ที่ไหน แล้วโคลอี้ละ หื้อหือ ซาฮาร่าร้องไห้กับแม่ของเธอ คุณยายทีร่าลุกขึ้นจากเก้าอี้ไม้ใกล้ผุ เดินไปที่หน้าต่างบานใหญ่พร้อมพูดว่า ซาฮาร่า ลูกอย่ากังวลไปเลย    พระเจ้าลิขิตมาแล้วยังไงโคลอี้กับจอนต้องปลอดภัย คุณยายทีร่าโอบกอดซาฮาร่า พูดปลอบจนซาฮาร่าหลับไป  มองไปบนท้องฟ้าหิมะเริ่มโปรยปรายปกคลุมไปทั่วช่างเป็นเวลาที่เศร้า เหงา คิดถึงจอนและลูกของเธอ

           …ตุ๊บ โอ๊ยโคลอี้ร้องเสียงหลงเหมือนตกลงมาจากที่สูง เธอปรายสายตามองไปโดยรอบบรรยากาศดูคลายดั่งเมืองในเทพนิยาย ดอกไม้สีสดใสพูดได้

    ไงจ้ะแม่สาวน้อย ดอกกุกลาบสีแดงเบ่งกลีบบานถามโคลอี้

     อะไรนะดอกไม้พูดได้ฉันได้ยินผิดไปหรือเปล่า โคลอี้รู้สึกสับสนขึ้นมาทันที

    ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฉันพูดได้จริงๆจ้ะ ที่นี่เป็นเมืองมหัศจรรย์ดุจดั่งเทพนิยาย ไม่ว่าดอกไม้ ต้นไม้  สัตว์ เครื่องใช้ต่างๆ ต่างก็พูดได้เรามีพลังวิเศษด้วยละ แต่เจ้าไม่ต้องกลัวข้าหรอก ระวังพวกภูตนางฟ้าจะดีกว่าพวกนางไม่ชอบคนแปลกหน้า ฟันของพวกภูตนางฟ้าอาจทำให้เธอเป็นแผลเหวอะหวะได้ ไม่ก็ดอกไม้ดอกใหญ่ๆบานๆมันพร้อมจะงับหัวเธอได้ทันทีสาวน้อย

    ดอกกุหลาบสาวอธิบาย  เมืองมหัศจรรย์…”โคลอี้แปลกใจ เรามาที่นี้ได้ยังไงหรือจะเป็นเพราะพายุลูกนั้น ฉะนั้นพ่อของเราต้องอยู่ที่นี้แน่นอน 

    เมืองปัปปาแลนด์ที่นี้คือ ปัปปาแลนด์ แดนมหัศจรรย์ กุหลาบสาวบอกโคลอี้  ที่นี้สวยงามดั่งเทพนิยายไม่ก็โลกนิทาน หรือโลกจินตนาการของมนุษย์ แม้สายฝนหรือละอองน้ำยังมีประกายสีทองวับวาว มีผู้คนที่เป็นดั่งเทพ หูยาว จมูกแหลม นุ่มห่มด้วยเสื้อผ้าทอประกายสีมุก  กุหลาบแดงเจ้ารู้จักพ่อเราไหม? โคลอี้ถามอย่าตั้งความหวัง

     มนุษย์ที่ชื่อ จอน งั้นเหรอ!...เขามาที่นี้ตั้งแต่12 ปีที่แล้ว กุหลาบแดงบอก โคลอี้ดีใจอย่างสุดซึ้งเมื่อจะได้เจอพ่อ ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน โคลอี้ถาม กุหลาบแดงทำหน้าตาเศร้าพร้อมหันหน้าไปทางทิศเหนือที่ตั้งของปราสาทปัปปาแลนด์ ยามนี้เมืองของเราถูกเจ้ามังกรร้ายเฮอชิน

    ใช้พลังอำนาจของมันปกครองที่นี้ รวมถึงมนุษย์พ่อของเจ้าก็โดนคุมขังในปราสาทนั่น มีเพียงแต่เจ้าชายที่หลุดพ้นออกมาได้ แต่ลำพังเจ้าชายคนเดียวคงสู้มันไม่ได้

    เราช่วยได้ไหม โคลอี้เสนอ กุหลาบจึง พูดต่อว่า

    เจ้าชายเคยประกาศหาผู้กอบกู้เมืองจากมังกรร้าย แต่ไม่เป็นผลไม่มีผู้ใดกล้าหาญพอที่จะอาสาเอาชีวิตของตนไปเสี่ยงขนาดนั้น   โคลอี้รู้สึกถึงเป้าหมายของการเดินทางในครั้งนี้ พ่อและอิสระของเมืองปัปปาแลนด์เป็นสิ่งที่เราต้องฝ่าฟัน แววตาของเธอมีเข็มนาฬิกาหมุนวนๆไปอย่างรวดเร็ว เปรียบเสมือนปลุกพลังในตัวโคลอี้ เราจะไปสู้กับมังกรร้ายเฮอชิน แล้วเจอกันใหม่นะกุหลาบแดงพูดเสร็จโคลอี้ก็เดินต่อไปจนถึงปราสาท

    เมืองปัปปาแลนด์กว้างใหญ่ไพศาลขนาดนี้ เราจะไปตามหาเจ้าชายได้ที่ไหน ผู้คนในเมืองต่างปิดหน้าปิดตาเดินอย่างเร่งรีบไม่สนใจผู้ใดทั้งสิ้น ทางนั้นทางนั้นมีบ่อน้ำ โคลอี้เดินตรงไปที่บ่อน้ำขนาดใหญ่ หากเราคือผู้ที่จะกอบกู้เมืองนี้ได้ บ่อน้ำวิเศษแห่งนี้จงพาข้าไปพบเจ้าชายด้วยเถิด โคลอี้กำมือแน่นไว้ที่อก ทันใดนั้นเกิดเป็นเทพแห่งบ่อน้ำวิเศษปรากฏตัวขึ้น

    โคลอี้ เจ้ามาแล้วช่วยเมืองของเราด้วย ข้าจะบอกเจ้าโคลอี้ เจ้าชายหลบซ่อนตัวในบ้านโพรงต้นไม้ฟิริบปี้ ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่สุดอยู่ในป่าหลังปราสาท เจ้าจงเดินทางไปที่นั้น เจ้าชายรอเจ้าอยู่ พูดจบเทพแห่งบ่อน้ำวิเศษก็หายตัวไป

    โคลอี้ เร่งเท้าเดินผ่านปราสาทที่เวลานี้กลายเป็นความน่ากลัว เธอรู้สึกว่าใครกำลังจ้องมองเธออย่าไม่ละสายตา เธอเริ่มหวาดระแวงพลันย่ำเท้าอย่าเร็วอีกไม่นานก็พ้นเขตของปราสาท

    จิ๊บจิ๊บนั่น สาวน้อยคนนั้นนางเป็นใคร เข้ามาที่นี้ได้อย่างไรกัน นกปัปปี๊รัคตัวจี้ดคุยเจ๊าะแจ๊ะบนกิ่งไม้ ฟิ่ว….ฟิ่วเสียงลมพัดเป็นครั้งคราว ราวกับนำทางโคลอี้ให้ไปเจอเจ้าชาย โคลอี้เข้ามาในป่าลึกพอสมควร มองไปโดยรอบ ป่าแห่งนี้ช่างสมบูรณ์ดอกไม้สีสันสดใส สัตว์ตัวน้อยวิ่งเล่นกันสนุกสนานต่างจากในเมืองที่ผ่านเข้ามา  ซู่ซู่เสียงน้ำตกดังมาจากทิศตะวันออก

    โคลอี้เดินไปตามเสียงน้ำไหลจนไปเจอสายน้ำไหลเย็นเซาะแก่งหินขนาดกว้าง แสงจากพระอาทิตย์สาดส่องกระทบน้ำตกเกิดเป็นภาพที่สวยงาม หมู่ปลาแหวกวายกันอย่าเพลิดเพลิน

    หลายวันมาแล้วที่เราไม่ได้อาบ เสื้อผ้าเปรอะเปื้อนสกปรกเหลือเกิน โคลอี้บ่นกับตัวเอง แล้วถอดเสื้อผ้าทีละชิ้น ทีละชิ้นวางไว้บนโขดหิน เรือนร่างเปลือยเปล่าเห็นทรวดทรงของโคลอี้อย่าเด่นชัด โคลอี้ลงไปอาบน้ำในน้ำตกที่ไหลเอื่อยๆ อย่ามีความสุข

    เจ้าเป็นใคร เข้ามาที่นี้ได้อย่างไร  โคลอี้ตกใจร้องโวยวาย นี่ท่านแอบดูเราเหรอเจ้าของเสียงทักแอบตกใจไม่น้อยเมื่อเห็นเรือนร่างของโคลอี้ จนเกิดอาการเขินอายหน้าแดงอย่างเห็นชัด

     ข้าจะออกไปจากตรงนี้ เจ้ารีบขึ้นมาซะโคลอี้ขมวดคิ้วเข้มไม่พอใจ

    ตกลงเจ้าเป็นใครสาวน้อย เราชื่อโคลอี้ ลมพายุพัดเรามาที่นี่ เรามาตามหาพ่อที่หายไปกว่า 12 ปี เรารู้ว่าที่นี้ถูกมังกรร้ายแย่งชิงไปได้ ทางเดียวที่เราจะได้พบพ่อเราต้องตามหาเจ้าชายเพื่อร่วมมือกันปราบมังกร เทพแห่งบ่อน้ำวิเศษบอกเราให้มาที่นี้ แล้วเจ้าเป็นใคร?

    ข้าก็คือเจ้าชายที่เจ้าตามหาไงละเจ้าชาย! โคลอี้อุทานเสียงดัง ช่างรูปงามเหมือนในเทพนิยายจริงๆ แต่แอบดูเราอาบน้ำนะเหรอ โธ่! เจ้าพูดอะไร ข้าได้ยินไม่ชัด เจ้าชายรูปงามถามโคลอี้

    ไม่มีอะไร ที่ท่านต้องรู้ เจ้าชาย เธอพูดพร้อมทำหน้าตาทะเล้น

      ไปข้าจะพาเจ้าไปบ้านในโพรงต้นฟิริบปี้ พูดพลางเดินต่อไป ต้นไม้ขนาดใหญ่เป็นที่หลบซ่อนของเจ้าชายตั้งแต่เมืองปัปปาแลนด์ถูกวายร้ายมังกรเฮอชินแย่งชิงไป

     เข้าไปสิโคลอี้ คืนนี้เจ้าพักที่นี้”  “เราขออาสาไปปราบมังกรด้วยคน ท่านต้องการเรา

    โคลอี้ เจ้าช่างกล้าหาญ ข้าเป็นเจ้าชายของเมืองแห่งนี้เป็นเทพที่มีพลังวิเศษ ข้ายังช่วยบ้านเมืองของข้าไว้ไม่ได้

    ในค่ำคืนที่ดาวเต็มฟ้า พระจันทร์ในโลกมหัศจรรย์สวยเหลือเกิน ในป่าที่เงียบสงบ โคลอี้และเจ้าชายวางแผนปราบมังกรเฮอชิน ด้วยความฉลาดและความหยั่งรู้เวลาของโคลอี้ทำให้ทั้งคู่เห็นทางสว่างที่จะชนะมังกรได้ไม่ยาก

     เจ้าไปนอนซะ โคลอี้พรุ่งนี้ข้าต้องการให้เจ้าเคียงข้างข้าปราบมังกร เจ้าชายพูดพลางเดินเข้าไปในบ้านโพรงไม้ โคลอี้ลุกขึ้นเดินตามเข้าไป

    อากาศหนาวเย็นเหมือนเมืองน้ำแข็ง แต่หากได้รับความอบอุ่นจากผ้าห่มผืนใหญ่

    โอ๊ย โคลอี้สะดุดชายผ้าห่ม ลงนั่งบนตักของเจ้าชาย

    โคลอี้ เจ้าช่างงดงามดั่งเทพเทวดานางฟ้า จะผิดไหมหากข้าจะรักเจ้า เจ้าชายพลางจับใบหน้าของโคลอี้อย่างเบามือ  เจ้าชายเราก็รู้สึกเช่นนั้น เจ้าชายโน้มตัวลงจุมพิตอย่างดูดดื่ม  ค่ำคืนนี้ฟ้าดินแห่งเมืองมหัศจรรย์คงเป็นพยานความรักของมนุษย์กับเทพ

    เช้าในวันรุ่งขึ้น แววตาของโคลอี้มีเงานาฬิกาเข็มหมุนอย่างเร็ว เป็นสัญญาณบอกให้โคลอี้รับมือกับเจ้ามังกรร้าย ถือธนูคู่ใจของพ่ออย่างกล้าหาญ โคลอี้ใช้ความกล้าหาญวิ่งไปหลอกล่อให้มังกรหลงกล ใช้คำพูดดูถูกเจ้ามังกรจนเกินอารมณ์โมโห อีกด้านหนึ่งเจ้าชายเตรียมกำลังเทพและภูตรอโจมตีเจ้ามังกร ย้าย้าชับขวั่บเสียงของการปะทะระหว่างมังกรและเทพ ภูต อย่างดุเดือน

    เจ้าชาย…..โคลอี้ตะโกนเรียก แล้วโยนดาบวิเศษให้เจ้าชาย

     เฉียบเสียงดาบที่ปักลงกลางหน้าของมังกร เจ้าชายกู้เมืองสำเร็จแล้วชาวเมืองร้องโห่ดีใจ

    เพราะเจ้าโคลอี้ ผู้วิเศษที่มาช่วยชาวเมืองปัปปาแลนด์ ข้าซึ้งใจในตัวเจ้า ขอบคุณ ขอบคุณโคลอี้เจ้าชายดึงตัวโคลอี้มากอดไว้แน่น โคลอี้ใช้มือสองข้างโอบกอดเจ้าชายไว้อย่างอบอุ่น

    ในช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองของชาวเมือง บรรยากาศของเมืองปัปปาแลนด์กลับสู่ความสุข สงบ เป็นโลกอีกมิติหนึ่งที่มหัศจรรย์เหลือเกิน

    โคลอี้ โคลอี้!!! เสียงเรียกของชายกลางคน

    พ่อ……โคลอี้ ขานรับอย่างดีใจเมื่อรู้ว่าเสียงนั่นคือพ่อของเธอ เค้าทั้งสองสวมกอดกันแน่น แม้วันเวลาผ่านไปนานสักเท่าไหร่ ความผูกพันของพ่อและลูกยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

    เจ้าชายยืนมองอย่างยินดี ทันใดนั้น เกิดพายุหมุนพัดกวาดดิน ทราย ปลิวเข้าไปในงวงพายุนั้น

    ถึงเวลาที่เจ้าต้องไปแล้วสินะโคลอี้

    เราต้องกลับโลกของเรา เราจะไม่ลืมท่านเจ้าชาย ทั้งสองจุมพิตเพื่อเตือนถึงความรักที่มีให้ต่อกัน ก่อนที่โคลอี้จะวิ่งพลางจับมือพ่อของเธอ วิ่งเข้าไปในพายุ บ๊ายปัปปาแลนด์

     

    หื้ม โคลอี้ โคลอี้ ได้ยินเสียงพ่อไหมลูก ลุกขึ้นมาเร็ววันนี้วันเกิดลูก 16 ปีแล้วนะลูกรัก

    เสียงจอนเรียกโคลอี้แต่เช้า

    เฮ้จอน โคลอี้ตื่นหรือยังคะ คุณยายทีร่ามาฉลองกับโคลอี้หลานรักแล้วดูสิ ฮ่า..ฮ่า..ฮ่า

    โคลอี้เป่าเค้กสิลูก ….  พ่อคะ แม่คะ ปีนี้หนูจะเดินทางไปที่ไหน

    โอ้โคลอี้ แม่ว่าลูกต้องขอพรจากพระเจ้าแล้วละจ้ะ

     

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×