ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    #รอยสักจอน [JUNGKOOK X YOU] *tattoo Jeon*

    ลำดับตอนที่ #13 : Chapter Jeon : 12 [ 100% ]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.17K
      456
      31 ส.ค. 62

    B
    E
    R
    L
    I
    N





    Chapter 12













        ร่างสูงช้อนคนตัวเล็กขึ้นทันทีเมื่อเห็นคนดื้อนอนไร้สติอยู่บนเตียง ด้วยความหายใจที่รัวรินทำให้ชายหนุ่มรู้สึกกระวนกระวายหัวใจอย่างลืมตัว...นาทีทุกวินาทีมีค่า หากไปช้ากว่านี้มันอาจจะสายเกินไป



        ร่างเล็กถูกพาออกมาจากหมู่บ้าน และมุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองของปูซาน ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงโรงพยาบาล ตอนนี้(ชื่อคุณ)มือหมอเป็นที่เรียบร้อย และเธอก็ปลอดภัย เพียงแค่ตอนนี้ต้องนอนพักต่อสักคืนสองคืน


        ช่วงเวลาที่รอ ร่างสูงก็เดินตามคุณหมอออกมาเพราะเขามีเรื่องที่จะแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับสาเหตุที่ร่างเล็กหมดสติถึงขั้นหัวใจเกือบหยุดเต้น...บรรยากาศในโรงพยาบาล ช่วงบ่ายๆแบบนี้ยังคงวุ่นวายไม่หายบวกกับก้อนพายุที่ยังไม่ลอยหนีไปไหนจึงทำให้สภาพอากาศรอบกายหนาวเย็นตลอดทั้งวัน กระทั่งชายหนุ่มพึ่งรู้ตัวว่าตัวเองรีบร้อนจนลืมดูสภาพอากาศภายนอก และมาถึงโรงพยาบาลจนได้



        "หมอมีอะไรจะคุยกับผมอีก?"    ทั้งสองเดินออกมาจากห้องพักฟื้นพร้อมมาหยุดคุยกันตรงหน้าห้อง


        "เอ่อ ผมก็แค่อยากบอกคุณอีกครั้งว่าคนก็ไข้ปลอดภัยดีครับ เพียงแต่ช่วงนี้ร่างกายของเธออ่อนเพลียมากเกินไป ยังไงซะตอนนี้เธอกำลัง..กำลังจะมีลูก แค่ตอนนี้อาการแพ้ท้องยังไม่แสดงผลเพราะระหว่างที่ผมกำลังตรวจร่างกายคนไข้พบว่าในร่างกายของเธอกำลังมีตัวอ่อนเล็กๆที่ยังไม่กำเนิดขึ้นมาอย่างเต็มที่ ยังไงซะช่วงนี้ก็เพลาๆเรื่องอย่างว่าไว้ก่อนนะครับ หมอกลัวว่าคนไข้จะหมดสติลงไปอีกและอาจจะอันตรายขึ้นเรื่อยๆ"



        สิ่งที่หมออธิบายยาวเหยียดมาถึงขนาดนี้ ใครไม่ตกใจก็บ้า โดยเฉพาะเรื่องที่บ่งบอกว่า(ชื่อคุณ)ตั้งท้องกับตัวเอง...



        "ครับ...."    เสียงทุ่มเอ่ยออกไปเบาๆ ก่อนที่คุณหมอจะขอตัวไปทำงานต่อ...ตอนนี้ร่างสูงแทบทำตัวไม่ถูกกับสิ่งที่เกิดขึ้น เม็ดเหงื่อที่เริ่มผุดขึ้นมาเพราะความกังวลที่ทำให้ความคิดของชายหนุ่มสับสนวุ่นวายไปหมด นัยต์ตาคมเหม่อลอยออกไปมองหน้าต่างด้านนอกที่กำลังมีสายฝนตกลงมาไม่หยุด..กลางอกของร่างสูงเหมือนมีพายุฝนฝ่าลงมากลางลำตัว มันชาไปหมด...แล้วต่อไปนี้จะทำยังไง ในเมื่อสิ่งที่เกิดขึ้น...แน่นอนว่าไม่เคยป้องกันเลยสักครั้ง...และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ปราศจากความรัก มันเป็นเพียงแค่อารมณ์ชั่ววูบ




        ยังไงซะ มันก็อาจเป็นความจริง เพราะช่วงนี้(ชื่อคุณ)ดูดื้อมากกว่าปกติ ข้าวปลาก็กินนิดเดียว ไม่แปลกหรอกที่(ชื่อคุณ)จะ...ท้อง




        เรื่องท้องไม่สำคัญ แต่จะบอกเรื่องนี้กับเยจินยังไงดี หรือจะไม่บอกและปล่อยมันทิ้งไปซะ ทำเป็นไม่สนใจ เพราะยังไงซะ เด็กในท้อง คนอย่าง จอน จองกุก ไม่ยอมรับแน่ๆ







        1 8  :  0 0 น.



        ยังคงอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งเดิม แต่เวลาใกล้พลบค่ำ ภายในห้องพักฟื้นธรรมดาๆไม่เล็กมากหรือใหญ่จนเว่อร์วัง เป็นห้องธรรมดาๆแค่รับรองพักฟื้นจนกว่าคนตัวเล็กจะเริ่มมีสติ จนถึงตอนนี้ร่างบางยังคงนอนหลับใหลและดูดรับน้ำเกลือผ่านทางสายยางอย่างเรื่อยๆ...ต่างจากอีกคนที่ทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไร เพราะตัดสินใจได้แล้วว่าจะไม่รับเด็กในท้องว่าเป็นลูกของตัวเองแท้ๆ ฉะนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเดือดร้อนใดๆ



        นี่อาจเป็นการเห็นแก่ตัวไปหน่อย..แต่ก็ไม่ได้ทำให้ตัวเองเดือดร้อนแม้แต่น้อย



        นั่งเล่นโทรศัพท์จนเบื่อ ร่างสูงจึงตัดสินใจที่จะออกไปเดินเล่นในโรงพยาบาลสักหน่อย เพราะเอาแต่นั่งๆนอนๆแบบนี้เบื่อตายกันพอดี..ระหว่างที่ชายหนุ่มคิดจะเดินออกไปก็ปะทะเข้ากับพยาบาลสาวที่เดินเข้ามาให้ห้องพร้อมส่งรอยยิ้มหวานๆให้ ในมือของหล่อนมีซองเอกสารที่ถือเอาไว้กะว่าจะมาให้คนในห้องเพื่อต้องการรับรองเอกสารแล้วค่อยสามารถนำไปส่งให้คุณหมอทำภารกิจต่อได้


        "เอ่อ อยู่พอดีเลยนะคะ..คือว่าคุณหมอให้นำเอกสารมาให้คุณเซ็นรับรองบุตรค่ะ^^"   เธอพูดพร้อมยื้นเอกสารไปให้คุณพ่อมือใหม่ที่ไม่ต้องการลูกจริงๆของตัวเอง


        มือหนาเอื้อมออกไปหยิบเอกสารมาเซ็นให้รู้แล้วรู้รอด แต่ทว่าปลายปากกาต้องหยุดชะงักเพราะเสียงของคุณพยาบาลสาวพูดขึ้นอีกครั้ง


        "ขอดูบัตรด้วยค่ะ..บัตรประจำตัวประชาชน^^"   หล่อนกลัวว่าจะมีข้อมูลผิดพลาดตามมาภายหลัง ฉะนั้นหากเซ็นชื่อรับรองต้องมีบัตรออกมายืนยัน


        ร่างสูงถอนหายใจเบาๆ ปากบางจิ๊ปากอย่างหัวเสียเมื่อถูกพยาบาลดักทางความคิดและการกระทำของตัวเอง...อีกนิดเดียว จะเซ็นชื่อ 'จอน จีมิน' ลงไปเสียแล้ว




        ( จอน จองกุก )
        บิดาของบุตร



        "เอาไป.."


        "ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือค่ะ ยินดีด้วยนะคะ^^"    หลังจากที่ได้การเซ็นรับรอง พยาบาลสาวก็หมดหน้าที่และเดินออกไป


        ร่างสูงเก็บบัตรใส่กระเป๋าก่อนที่จะตวัดสายตามองร่างเล็กที่ไม่ได้สติอยู่บนเตียง..หล่อนจะรู้มั้ยว่าตอนนี้ตัวเองกำลังจะมีลูกทั้งๆที่ยังเรียนไม่จบ และเด็กในท้อง พ่อแท้ๆก็ไม่ได้รักและไม่ได้ต้องการเลยสักนิด หากฆ่าได้ก็จะทำ เพื่อไม่ให้มันเกิดมาลืมตาดูโลกและต้องมารู้เอาทีหลังว่าเป็นลูกไม่มีพ่อ



        "เหอะ!...."










        ร่างเล็กของใครบางคน กำลังอ้อนวอนและขอความเห็นใจ จากพี่ชายของแฟน ที่ตอนนี้ไม่อยากจะเหลียวมอง..เป็นอีกวันที่เยจินตามจีมินมาถึงบ้านและโวยวายให้เขาช่วยตามจองกุกแฟนหนุ่มของเธอกลับมาเสียที




        "ขอร้องล่ะ ฉันไม่รู้ว่าฉันจะทำยังไงแล้ว..ฉันรักพี่จองกุกมาก ได้โปรดตามเขากลับมาให้ฉันได้มั้ย...พี่จีมิน"   เพียงปัญญาแค่หล่อนคนเดียวคงทำไม่ได้ เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมา ติดต่อจองกุกไม่ได้ และคิดถึงจนใจจะขาด เสียงแหลมๆของเยจินพูดลั่นบ้าน ทำให้คนใช้ในบ้านต่างพากันมองอย่างน่าสมเพช พลางคิดว่าคุณจองกุกเจ้านายน้อยของพวกเธอไปรักผู้หญิงแบบนี้ได้ยังไง ใครๆก็ดูออกว่าหล่อนนั้นไม่ได้อ่อนโยนและเป็นคนดีอย่างที่เห็น



        ผีย่อมเห็นผี..โดยเฉพาะผู้หญิงด้วยกัน




        ร่างสูงสง่าที่มีแต่ความเบื่อหน่ายต่อหญิงสาวนั้น พูดยังไงก็ไม่รู้เรื่อง เพราะจีมินเองก็ตามติดจองกุกไม่ได้เหมือนกัน เขาเพียงแค่คิดว่าอยากให้คนตัวเล็กของเขารีบกลับมาหาเขาเสียที...


        "พี่จีมิน..ขอร้องล่ะ"


        "แล้วเธอจะให้ฉันทำยังไง?"


        "ไปตามพี่จองกุกกลับมา...ถ้าเขากลับมาได้เร็วๆ พี่ต้องการอะไรฉันก็ยอม"   สิ่งที่เยจินพูดทำเหมือนไม่ได้คิดอะไร ต่างจากจีมิน ที่ความแค้นและอารมณ์ที่เก็บกักไว้นานมานับเดือนเพียงเพราะการกระทำของน้องชายที่ทำร้ายผู้หญิงตัวเล็กๆอย่าง(ชื่อคุณ)เจ็บปวดมานับต่อหลายครั้ง..และคราวนี้แหละ จองกุกมันจะได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดเสียทีเมื่อเห็นคนรักกำลังโดนทำร้าย



        "ได้ ถ้ามันยังไม่กลับ..เธอต้องทนเจ็บหน่อยเยจิน"   จีมินเองก็รู้ตัวว่ากว่าจะทำให้น้องชายของตนกลับมานั้นอาจใช้เวลานาน แต่เขาไม่สน เพราะตอนนี้เยจินตกอยู่ในกำมือของเขาเป็นที่เรียบร้อย



        "หมายความว่ายังไง?"



        "ทุกอย่างที่มันทำกับ(ชื่อคุณ)...เธอต้องโดนคืนมากกว่านั้นเป็น2เท่า!!"   เสียงทุ่มตวาดลั่นบ้าน ทุกคนที่แอบฟังอยู่นั้นต้องสะดุ้งตกใจ เพียงแค่ดีดนิ้วครั้งเดียว การ์ดตัวใหญ่เดินเข้ามาประกบหลังเยจินเอาไว้ เธอตกใจมากและทำตัวไม่ถูก ดวงตาเบิกกว้างพลางมองหน้าจีมินสลับกันไป


        "เอายัยนี่ไปเก็บไว้บนห้องเก็บของ ส่วนพวกแกจะทำอะไรก็ทำ แต่อย่าให้มันตายก็พอ..."



        "ปะ..ปล่อย! พี่จีมินนี่พี่ทำอะไรน่ะ!?"


        นี่ไม่ใช่พี่จีมินอย่างที่เยจินรู้จัก..ผู้ชายคนนี้คือปีศาจร้ายชัดๆ
















        YOU



        เวลาล่วงเลยไปจนฟ้ามืด ร่างบางบนเตียงเริ่มขยับตัว พร้อมส่งเสียงครางในลำคอเมื่อรู้สึกตัว เปลือกตาคู่สวยค่อยๆเปิดขึ้นด้วยภาพพร่ามัวจากตรงหน้า ก่อนจะปรากฏเพดานสีขาวกับหลอดไฟห่างกันออกไปเพียงไม่กี่เซน แต่ปลายจมูกสัมผัสได้ชัดว่ากลิ่นนี้ มันคือกลิ่นที่อยู่ในโรงพยาบาล


        "โรงพยาบาล?"   เสียงแหบเบาๆเปล่งออกมา ก่อนที่ฉันจะยันตัวลุกขึ้นนั่งด้วยความเหนื่อยล้าที่แทรกเข้ามาสู่ร่างกาย อ่า..นี่ฉันเป็นอะไรไปเนี่ยทำไมมันเหนื่อยมากขนาดนี้ แล้วทำไมฉันถึงได้มานอนอยู่ในโรงพยาบาลได้ล่ะ?


        เมื่อนึกได้ใบหน้าของจองกุกก็ผุดขึ้น ทำให้ฉันเอะใจน้อยๆหากว่าเขาเป็นคนพาฉันมาส่ง...ว่าแต่ตอนนี้เขาหายไปไหน



        ฉันมองไปรอบๆห้องก็ไม่มีแม้แต่เงาของเขา....




        ขณะที่กำลังมองหา ประตูห้องน้ำก็เปิดออกพร้อมเห็นร่างสูงๆของจองกุกเดินออกมาด้วยสภาพเซอร์หน่อยๆ จองกุกมองมาที่ฉันแวบนึงก่อนที่จะเดินผ่านไปนั่งลงบนโซฟา..แต่ฉันก็ดีใจนะที่ได้เห็นเขาน่ะ เพราะได้รู้ว่าเขาก็ยังมีน้ำใจพาฉันมาส่งโรงพยาบาล ถึงแม้จะไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรก็เถอะ-_-


        "จองกุก...ฉันเป็นไปหรอทำไมถึง..."


        "เธอหมดสติ..."   น้ำเสียงของจองกุกตอบออกมาอย่างไม่เต็มใจนัก ฉันรู้ดีว่าเขาไม่ค่อยชอบขี้หน้าฉัน แต่ฉันชอบเขานะ ชอบมากๆด้วย^^


        "หรอ ดีจัง..."


        "อะไรของเธอ?"


        "ก็ดีใจไง ดูเหมือนนายเป็นห่วงฉันนะ ไม่งั้นคงไม่พามาอยู่ที่โรงพยาบาลหรอก อิอิ><"   ร่างบางเผยยิ้มอย่างเต็มที่พร้อมมองไปที่ชายหนุ่มกำลังนั่งขมวดคิ้วอย่างหัวเสีย ไม่รู้สิ ฉันไม่สนหรอกว่าเขาจะอารมณ์ดีหรือร้าย ปกติจะตายหากจองกุกจะใจร้ายน่ะ ใจดีสิแปลก :)



        "เห้อ!....เธอควรออกไปจากชีวิตฉันได้แล้วล่ะ(ชื่อคุณ)"


        "ห้ะ?"    ร่างเล็กขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ..ฉันทำอะไรผิด ทำไมจองกุกถึงได้...พูดแบบนี้? แล้วจู่ๆก็บอกให้ออกไปจากชีวิต นายบ้าไปแล้วหรอ นี่ฉันพึ่งฟื้นนะ!!


        "ไม่! นายบอกเหตุผลมาก่อนสิ!"    ใครๆก็รู้ว่าฉันเป็นคนดื้อหากไม่ได้รับเหตุผลที่ดี ฉะนั้นตอนนี้ฉันต้องการที่จะรู้ว่าทำไมเขาถึงได้พูดแบบนี้ออกมาน่ะ!


        "งั้นก็แหกตาอ่านดู!"   จองกุกพูดขึ้นอย่างหัวเสีย ก่อนที่จะหยิบซองเอกสารอะไรสักอย่างมาให้ฉันเปิดอ่าน ร่างสูงของเขายืนอยู่ข้างๆเตียงพลางกอดอกมองและรอให้ฉันเปิดซองอ่าน..ร่างเล็กปิดปากเงียบ มือบางล้วงหยิบแผ่นกระดาษสีขาวขึ้นมาไล่อ่านทีละประโยค ตอนแรกก็ไม่คิดอะไรมากหากฉันไม่ไปสะดุดกับคำว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ อะไรนะ!!


        "ฉะ..ฉันท้อง!?"   เสียงเล็กร้องขึ้นมาอย่างตกใจ ร่างกายบางเริ่มสั่นสะท้านเพราะความรู้สึกจุกอกมันเล่นงานเข้ามาเสียดื้อๆ


        "ใช่ ฉะนั้นเธอไม่ควรมายุ่งกับฉะ---!"


        "ฮะ..ฮึก...ฉันกำลังจะมีลูก จองกุกลูกของเราหรอ^^"   นี่มันไม่ใช่น้ำตาแห่งความเสียใจ แต่เป็นน้ำตาแห่งความสุขต่างหาก ไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงไม่เศร้าแต่กลับดีใจขึ้นมาเสียดื้อๆ รู้สึกเหมือนมีบางอย่างเข้ามาเติมเต็มในชีวิต เป็นจุดเชื่อมโยงระหว่างเราสองคนได้อยู่ด้วยกัน จองกุกจะรักฉันมั้ยนะ



        เพราะเรากำลังจะมีเจ้าตัวน้อยออกมาจริงๆ..ถ้าเป็นเมื่อก่อนฉันคงเสียใจแทบบ้า แต่ตอนนี้ไม่แล้วล่ะ ฉันยินดีที่สุดเลย



        "แต่ฉันไม่ได้อยากให้มันเกิดมา(ชื่อคุณ)...พรุ่งนี้เธอต้องไปเอาไอ้เด็กเวรนี่ออกซะ!"


        " !!! "




        น้ำเสียงและการกระทำอันไร้หัวใจของเขา เหมือนมีเข็มพันเล่มพุ่งเข้ามาทิ่มแทงหัวใจฉันที่กำลังพองโต ค่อยๆแตกสลาย..ความเจ็บปวดนี้มันอะไรกัน ทำไมถึงได้ใจร้ายขนาดนี้



        จองกุกไม่รักลูกของเราหรอ...



        "ตะ..แต่นี่มันลูกของเรานะ จองกุกฮึก!"


        "ลูก..ลูกของเธอคนเดียว ไม่ใช่ฉัน"


















        





        










    [ 50% ]










        "งะ..งั้นหรอ..."   อ่านี่มันจุกจนแทบพูดไม่ออกเลยแฮะ ฉันพยายามที่จะกลั้นน้ำตาเอาไว้แต่ก็ห้ามไม่ได้เพราะมันดันไหลอาบแก้มฉันเต็มไปหมด ไม่ส่งเสียงสะอื้นใดๆก่อนจะตัดปัญหาโดยการเอนตัวลงนอนและหันหลังให้


        สิ่งที่เขาพูดออกมานั้นฉันไม่สามารถรับฟังมันได้ มันโหดร้ายและบาดลึกเข้าไปในหัวใจหลายพันเท่า โดยเฉพาะการยอมรับลูกของเรานั้นมันเป็นเรื่องยากสำหรับใครหลายๆคนที่ยังไม่ทันตั้งตัว จองกุกเองก็อาจเป็นเช่นนั้น ท่องไว้สิว่าสักวันเขาจะดีขึ้นเอง สักวันจองกุกจะรักลูกของเราเอง...ปลอบใจตัวเองไว้ก่อนสิ


        แต่นั่นมันก็ยังทำให้ร่างกายบางสั่นเทาพลางกัดริมฝีปากและกำผ้าห่มในมือไว้แน่น พยายามที่จะทำให้ตัวเองหยุดร้องและไม่อยากให้ใครรับรู้ถึงน้ำตาที่ปล่อยออกมาเป็นสายฝน มองคนตัวเล็กจากด้านหลังทำให้ร่างสูงถอนหายใจออกมายาวๆเพราะเขาดูออกว่าคนบนเตียงกำลังบังคับตัวเองเพื่อไม่ให้ร้องไห้..จองกุกไม่รู้จะทำยังไงต่อ จึงตัดสินใจเดินหนีออกไปจากห้องพักฟื้น





        ร่างของชายหนุ่มเดินออกมาเรื่อยๆอย่างไร้ความคิด สมองว่างเปล่าไปเสียหมด และอาจมีสตินิดหน่อยเพราะพึ่งคิดได้ว่าเมื่อกี้ตัวเองพูดแรงเกินไปหรือเปล่า แต่มันก็อาจจะเป็นผลดีเพื่อให้(ชื่อคุณ)ตัดใจจากเขาได้..เพราะยังไงซะจองกุกก็ไม่มีวันรับเด็กในท้องเป็นของตนแน่ๆ เขาดูเป็นคนเห็นแก่ตัว แต่เมื่อไม่ได้รักจะให้ทำยังไงล่ะ เพราะจองกุกเองไม่คิดจะทิ้งแฟนตัวเองอยู่แล้ว



        ขณะที่เดินอยู่ ผ่านผู้คนไปนับต่อหลายชีวิต เท้าหนาหยุดชะงักสายตาคมเหลือบไปเห็นห้องกระจก ณ ตอนนี้ตนเองมายืนหยุดอยู่พอดิบพอดี..จองกุกมองผ่านกระจกบานใสเข้าไป มันคือห้องที่มีเด็กทารกแรกเกิดหลายสิบชีวิตกำลังหลับปุ๋ยอยู่ในตู้ เด็กน้อยที่เกิดใหม่มันก็ไม่ค่อยดูน่ารักสักเท่าไหร่ ออกจะหน้าเหมือนลิงน้อยซะมากกว่า...


        เมื่อก่อนจองกุกเคยคิดอยากสร้างครอบครัวกับคนที่รัก แต่ดูเหมือนตอนนี้จะยังไม่ใช่ เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะผูกมัดกับคนอื่น ยิ่งแย่ไปกว่านั้นการมีลูกขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัวแบบนี้ จองกุกจึงอยากจะตัดสินใจตัดความสัมพันธ์บ้าๆพวกนี้ซะ ส่วนเรื่องลูกจะทำยังไงต่อก็ค่อยคิดทีหลังก็แล้วกัน




        แต่ความจริงแล้วจองกุกเองก็ไม่ได้เกลียดเด็กอะไรมากขนาดนั้น แต่ถ้าหากเป็นลูกของ(ชื่อคุณ)ล่ะก็...ไม่รู้จะหาความรักมามันได้ยังไงดี










        หลังจากที่ยืนดูลูกคนอื่นอยู่นาน ร่างสูงจึงตัดสินใจเดินออกไปอย่างไม่มีที่สุดสิ้นของเส้นทาง ชายหนุ่มเดินมาเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่ที่ร้านมินิมาร์ทในตัวโรงพยาบาล ก่อนที่จะเดินเข้าไปข้างในร้านเพื่อซื้อของกินนิดหน่อยเผื่อผู้หญิงคนนั้นบ้างเพราะตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาร่างบางก็ยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง เขาเลยคิดว่าหาอะไรให้กินสักหน่อยคงไม่เสียหายเพราะถ้าอาการแย่ลงไปมากกว่านี้คงไม่ดีแน่ๆ



        จองกุกยังไม่อยากมีภาระให้กับตัวเอง...




        Rrrrrr!



        ขณะที่กำลังจะจ่ายตังค์ เสียงสมาร์ทโฟนในกระเป๋ากางเกงก็ดังขึ้น จองกุกเลยรีบหยิบขึ้นมาดูปรากฏว่าสายเรียกเข้านั้นนานๆทีถึงจะสามารถติดต่อมาได้และจองกุกไม่คิดอยากจะรับสายเลยสักครั้ง แต่คราวนี้เขาดันอยากรับสายมันขึ้นมาเสียดื้อๆ พี่ชายผู้แสนดีของเขา ได้ยินเสียงสักวันคงไม่เป็นไร


        "ว่าไงฮยอง?"   เสียงทุ่มเอ่ยทักปลายสายด้วยน้ำเสียงปกติและไม่มีความสำนึกผิดในสิ่งที่ตัวเองทำ 


        "จองกุก ตอนนี้แกอยู่ไหน.."   เมื่อโดนยิงคำถามใส่ด้วยความเยือกเย็น จองกุกกลับยกยิ้มมุมปากอย่างน่าสมเพช จีมินจะคิดยังไงนะถ้าหากรู้ว่าเจ้าสาวของตัวเองกำลังจะมีลูกกับน้องชายแท้ๆของตน ไม่รู้จะรับได้รึเปล่า ที่แน่ๆมันคงสนุกไม่น้อยหากลูกในท้องไม่ใช่ของจีมินแต่เป็นของจองกุกแทนเสียเอง


        "อ่า นี่ฮยองถามอะไรเนี่ย ผมก็ทำงานอยู่ไง..ทำไม ทำใครหายหรอ หึ!"   ความในใจที่รู้ว่าทางนั้นก็คงไม่ได้โง่ว่า(ชื่อคุณ)อยู่กับจองกุก แต่แปลกทำไมคนพวกนั้นถึงได้ดูนิ่งไม่ร้อนรนอะไรเลยสักอย่าง หรือว่า พวกเขากำลังคิดอะไรอยู่



        เสียงของน้องชายเอ่ยด้วยวาจากวนประสาท แต่จีมินก็เก็บอารมณ์โกรธของตนเอาไว้และรู้ว่าจองกุกนั้นกำลังกวนประสาทและโกหกจีมินอย่างเต็มปาก...



        "เปล่า ฉันรู้ว่าแกไม่ได้อยู่ที่ห้องและหายไป แต่ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะ แค่อยากบอกให้แกรู้ว่ารีบพา(ชื่อคุณ)กลับมาซะ แล้วจะหาว่าฉันไม่เตือน"


        "หรอวะ คิดว่ากลัวรึไง..ยังไงซะยัยนั่นไม่ได้เจอหน้าใครง่ายๆแน่ และไม่ต้องตามหาเพราะคงหาไม่เจออยู่ดี!"



        คนอย่างจองกุกคงไม่อยากพูดให้เปลืองน้ำลาย เขาจึงตัดสินใจกดสายทิ้งและปิดเครื่องหนี..จะหาว่าไม่เตือนงั้นหรอ คนอย่างพี่ชายเขาจะทำอะไรได้นอกจากคำว่าขู่ แล้วค่อยมาดูกันว่าใครจะเป็นคนได้หรือเป็นคนเสียกันแน่































        บรรยากาศในโรงพยาบาลเริ่มเงียบเหงา ดวงไฟแต่ละดวงก็เริ่มดับลงตามกาลเวลาที่กำหนดของแต่ละพื้นที่ แต่ยังมีแสงไฟระยะเปิดเพื่อให้แสงสว่างต่อบุคลากรในที่สาธารณะอยู่ตลอดเวลา รวมถึงห้องพักฟื้นที่ยังคงเปิดไฟสว่างเอาไว้ตั้งแต่หัวค่ำจนถึงตอนดึก


        เวลาผ่านไป3ชั่วโมง ฉันนั่งๆนอนๆดูทีวีจนเริ่มเหนื่อยกาย หนังตาก็เริ่มหย่อนเพราะร่างกายได้รับพลังงานอย่างเต็มที่ทั้งของกินและน้ำเกลือ รับเข้าสู่ร่างกายจนตัวบวมไปเสียหมด..ตอนนี้ฉันกำลังจะเข้านอนโดยที่มีคนใจร้ายยืนจัดผ้านวมอยู่ข้างๆ โซฟาและเตียงของเราสองคนห่างกันไม่มากและสามารถเอื้อมถึงกันได้ถ้ายื้นแขนออกไปอีกหน่อย แต่ว่าตั้งแต่เขากลับมาจองกุกก็เงียบไม่ยอมพูดกับฉันและทำสีหน้าเรียบนิ่งใส่จนน่าอึดอัด...ฉันเองก็ปลอบใจตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่าเขาอาจแค่เหนื่อยและยังยอมรับไม่ได้เรื่องลูก แต่ยังไงซะฉันเชื่อว่าสักวันเขาจะหันกลับมามองลูกของเราอย่างที่หวัง




        เพราะฉันตัดสินใจแล้วว่าจะทำให้เขายอมรับในตัวฉันให้ได้ ถึงแม้จะโดนทำร้ายทางคำพูดพวกนั้นก็ตาม!


        "นาย ขึ้นมานอนกับฉันไม่ได้หรอ?"   ฉันตัดความเศร้าออกไปจากหัวใจและเริ่มต้นใหม่ด้วยความสดใส เสียงอ้อนและทำสายตาอ้อนวอนสื่อให้คนตัวใหญ่ได้รับรู้ คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่ต้องพักอยู่ที่นี่ คุณหมอบอกว่าฉันกลับบ้านได้แล้ว ฉันเลยอยากให้เขาขึ้นมานอนเป็นเพื่อน นอนด้วยกัน3คน^^


        "หนวกหู..."


        "นะ..นะ ฉันเหงา"


        "พูดมาก รีบนอนซะ พรุ่งนี้ต้องเก็บของแต่เช้า"


        "แต่ว่า...."


        "นี่!! ฉันบอกเธอไปแล้วใช่มั้ยว่าให้ออกไปจากชีวิตฉันได้แล้ว ตอนนี้เธอหมดประโยชน์แล้วล่ะ!"   ร่างสูงเอ่ยน้ำเสียงหนักแน่น ดวงตาสีเข้มเกรี้ยวกราดมองร่างเล็กอย่างหงุดหงิด


        "ไม่..ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ฉันจะอยู่กับนายจำเอาไว้!!!"





        ซึ่งรู้ดีว่าเราไม่ได้จากกันไปไหนแน่นอน เพราะจองกุกไม่ยอมพาฉันกลับโซล....













        2 วันต่อมา...




        ปูซาน...เกาะเล็กๆ หมู่บ้านเล็กๆ กำลังเริ่มต้นสู่เช้าวันใหม่ หลังจากที่พายุฝนพัดผ่านไป ชาวบ้านเริ่มออกทำประมง ทำสวน และออกมาใช้ชีวิตตามปกติ เฉกเช่นวันนี้ฉันยังอยู่ที่นี่ไม่ยอมไปไหน แต่กลับดื้อดึงแอบหนีออกมาเดินตลาดเช้า เพื่อหาวัตถุดิบทำมื้อเช้า ฉันขโมยเงินจองกุกมาซื้อของ ระหว่างที่เขายังหลับไม่ตื่น



        แต่ก็แปลกนะ ปากไล่ไม่หยุดแค่การกระทำตรงกันข้าม...ไอ้คนปากแข็ง




        "ป้าคะ อันนี้คืออะไรหรอคะ?"   ร่างน่องแน่งเดินมาหยุดตรงหน้าแผงขายผัก ผักชนิดแปลกตาเยอะแยะไปหมด ทำให้คนตัวเล็กรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ออกมาเดินตลาดเป็นครั้งแรกของชีวิตนี้ เคยเดินแต่ห้างแต่ตลาดบ้านๆแบบนี้ไม่เคยเลย


        นิ้วเล็กชี้ลงไปที่แผ่นสีดำแห้งๆที่วางขายไว้อยู่บนถาดไม้สาน...



        "อ่อ นี่มันสาหร่ายคอมบุตากแห้งน่ะหนู^^"


        "สาหร่ายคอมบุหรอคะ?"   ฉันขมวดคิ้วทันที สาหร่ายคอมบุที่ว่านี่มันหน้าตาเป็นอย่างนี้เองหรอ ปกติเห็นกินแต่เป็นเส้นๆไม่ก็ชิ้นเล็กๆ ไม่ยักกะรู้ว่าสาหร่ายคอมบุจริงๆหน้าตาจะเป็นแบบนี้


        "ใช่จ้ะ จะเอาไปต้มหรือไปปรุงรวมกับเมนูอื่นๆก็ได้ ทานแล้วทำให้รู้สึกสดชื่นแล้วหายเคลียดด้วยนะ"


        กินแล้วหายเคลียด?..แสดงว่าทำให้อารมณ์ดี หื้ม เจ้านี้ควรซื้อไปให้จองกุกกินเป็นมื้อเช้านะเนี่ย เผื่อตื่นเช้ามาเขาจะพูดดีๆกับฉันบ้าง-*-


        "งั้นขอชุดนึงค่ะ^^"









        จ่ายตลาด เดินชิวไปรอบหมู่บ้านและทำความรู้จักกับใครหลายๆคนที่พบเจอ จนถึงเวลากลับบ้าน มือเล็กเอื้อมออกไปบิดประตูก่อนที่จะเปิดออก ร่างบางหยุดชะงักเมื่อเดินเข้ามาในบ้าน..ดวงตาหวานมองไปที่ร่างหนาของจองกุกที่นั่งดูทีวีด้วยสภาพที่พึ่งตื่นนอน


        "อ๊ะ...."   ฉันสะดุ้งตัวเล็กน้อยเพราะจองกุกตวัดหางตามามองที่ฉันอย่างจับผิด ฉันได้แต่ยืนยิ้มแหย่ๆก่อนที่จะค่อยๆขยับตัวเดินไปจากข้างหลังเพื่อวิ่งหนีไปห้องครัว แต่ทว่ามือเล็กต้องถูกดึงเอาไว้กลางคันก่อนร่างสูงจะลุกขึ้นยืนแล้วดึงร่างของฉันเข้าไปใกล้


        "อ๊ะ ปล่อย...ฉะ..ฉันเจ็บ"   ร่างบางนิ้วหน้า ข้อมือบางถูกบีบแน่น


        "ใครอนุญาตให้เธอเดินออกไปจากบ้านหลังนี้..."   ชายหนุ่มพูดน้ำเสียงเยือกเย็นพร้อมออกแรงบีบจนทำให้หญิงสาวรู้สึกเจ็บเหมือนข้อมือกำลังจะถูกบีบจนกระดูกแตกสลาย


        "ฉะ..ฉัน ออกไปซื้อของ...คือว่าฉันขอโทษนะที่แอบเอาเงินนายไปน่ะ!"


        "เธอนี่มันทำตัววุ่นวายไม่เข้าเรื่อง ฉันบอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าออกไปถ้าไม่ได้รับอนุญาต!!!"


        "โอ้ย!! จองกุก!!!..."



        สิ้นเสียงของคนโมโหร้าย ร่างเล็กก็ถูกจับเหวี่ยงลงบนโซฟาขนาดเล็ก แรงรับนุ่มๆจากเบาะล่างรองรับร่างบางเอาไว้ หากไม่มีโซฟาอยู่ตรงนี้ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าจองกุกจับฉันเหวี่ยงลงพื้นแข็งๆ มีสิทธิ์แท้งลูกได้สูงเลยทีเดียว...


       "นะ..นายเป็นบ้าอะไรห้ะ! นี่ฉันท้องอยู่นะจองกุก!!"    ฉันเปล่งเสียงออกไปอย่างเหลืออด นี่มันมากเกินไปแล้ว เขาไม่คิดจะห่วงลูกในท้องเลยหรอ! ฉันอุส่าต์พูดดีด้วย เอาใจ แต่สิ่งที่ได้ก็คือความรุนแรงและคำพูดแรงๆพวกนั้น!  นี่มันเกินไปแล้ว!!




        เมื่อไหร่เขาจะเห็นใจฉันสักที!!!




        "ท้องแล้วไงวะ..พูดดีๆแล้วไม่ชอบ อยากโดนล่ามโซ่อีกรึไง!!!"



        "ไม่!! ฉันไม่อยากอะไรทั้งนั้น! ฉันผิดมากหรอที่ออกไปเจอโลกภายนอกบ้าง! แค่เดินไปตลาดแล้วซื้อของมาทำมื้อเช้าให้หวังว่านายจะตื่นขึ้นมาแล้วหิว! ฉันผิดหรอที่เป็นห่วงนายน่ะ!!..ฮ..ฮึก...นายมันบ้าจองกุก!"    ไม่รู้ทำไมฉันต้องเป็นฝ่ายยอมเขาตลอด ทั้งๆที่รู้ว่าไม่เคยถูกทำดีด้วยเลยสักครั้ง สีหน้าและคำพูดฉันยังทนได้  แต่การกระทำเขามีต่อฉันแบบนี้ฉันไม่ชอบเลย มันเจ็บและเสี่ยงมากโดยเฉพาะตอนนี้ เขาคิดจะฆ่าลูกของเราทางอ้อมใช่มั้ย


        ไม่อยากให้ออกไปอีกก็บอกกันดีๆสิ คราวหน้าฉันจะไมทำอีกแล้ว...





        "...."


        "ฉะ..ฉันขอโทษก็แล้วกัน ต่อไปนี้ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ถ้านายต้องการอึก!"    หลังมือเล็กยกขึ้นเช็ดน้ำตาที่อาบแก้ม ปากหวานเม้มเป็าเส้นตรงก่อนจะตัดสินใจคว้าถุงที่ถือมาแล้วเดินหายไปในครัว



        แต่นี่มันก็เป็นเรื่องดีเพราะหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล จองกุกก็ไม่เคยคุยเรื่องลูกอีกและนั่นมันเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เขาจะไม่ให้เอาเด็กออก..ฉันหวังว่าแบบนั้น








        ตัดภาพมาที่ห้องครัว หลังจากที่ร่างเล็กลงมือทำมื้อเช้าเสร็จก็รีบหนีกลับขึ้นไปบนห้องและหายเงียบไปอยู่นาน...ชายหนุ่มได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่พลางเท้าคางบนโต๊ะมองอาหารตรงหน้า เนื้อย่าง ซุปสาหร่ายคอมบุ จองกุกเคยกินอาหารพวกนี้เป็นอาหารเช้าซะที่ไหนกันล่ะ มันไม่ชินปากเอาเสียเลย


        แต่ยังไงซะเขาก็ต้องกิน...



        ข้าวคำสุดท้ายกลืนหายลงไปในท้อง จองกุกกินมันมาอย่างไม่รู้ตัวว่าตัวเองนั้นทานข้าวจนหมด ไม่เหลือแม้แต่เศษ สายตาคมมองจานว่างๆตรงหน้าอย่างแปลกใจ ความปากว่าไม่อยากกินแต่เผลอกินไปจนเสียหมด ดีนะที่(ชื่อคุณ)ไม่อยู่ดู ไม่งั้นโดนล้อแน่ๆ 


        เมื่อนึกได้ภาพของคนตัวเล็กก็ผุดขึ้นมาบนหัว ใบหน้าหวานๆที่ดูเศร้าและดวงตาที่มีแต่ความแปลกเปื้อน..คิ้วหนาขมวด กระตุกความรู้สึกจุกกลางอก..ไม่รู้สิ เห็นแล้วหงุดหงิด ทำไม(ชื่อคุณ)ไม่ทำข้าวให้ตัวเอง ทำไมทำให้แต่จองกุกกินคนเดียว



        "เห้อ...."


        ไม่อยากจะเชื่อว่าวันนี้จะมาถึง...









        ตัดมาที่ห้องนอนที่มีคนตัวเล็กนอนขดตัวอยู่บนเตียง ผ้านวมผืนหนาคลุมร่างอันบอบบางเอาไว้ ขณะที่คนตัวเล็กกำลังหลับใหลด้วยความเหนื่อยล้า...ไม่ใช่เหนื่อยกายแต่เหนื่อยใจต่างหากล่ะ เพราะวันนี้จองกุกทำเกินไป การกระทำของเขากักขังฉันไว้เหมือนอยู่ในคุก เขาเคยเป็นคนพูดเองหนิว่าอยากให้ฉันออกไปจากชีวิตเขา แต่พอฉันเดินออกไปนอกบ้านหน่อยก็โมโหร้ายใส่



        ไม่รู้วันดีคืนดีเขาจะหวนกลับมาทำร้ายฉ้นตอนไหนอีกก็ไม่รู้..



        ร่างเล็กถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะตัดสินใจลืมตาและลุกขึ้นนั่ง มือบางพลางยกขึ้นจับหน้าท้องแบนราบของตัวเองที่ตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลาที่จะรู้สึกว่าตัวเองมีลูก..แค่หมอบอกว่าตรวจพบแต่อาการแพ้ท้องยังไม่ปรากฏ



        "...อึก.."    แต่จู่ๆความรู้สึกสะอิดสะเอียดพวกนี้ก็เล่นงานฉัน อาการคลื่นไส้และพร้อมที่จะปล่อยของเหลวออกมาจากปากเต็มทน  ฉันยกมือขึ้นปิดปากก่อนที่จะรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ เมื่อมาถึงร่างบางก็โถมตัวลงชักโครกและอ้วกออกมาอย่างต่อเนื่องและสารอาหารในร่างกายก็ถูกปล่อยออกไปจนหมดแล้วทำให้ฉันหมดแรงก่อนจะทรุดตัวนั่งลงยองๆพร้อมจับชักโครกไว้แน่น



        "นี่..ฉันแพ้ท้องงั้นหรอ?"




        และแล้วสัญญาณแห่งการกำเนิดก็ปรากฏขึ้น...





        ฉันอ้วกอยู่แบบนั้นหลายรอบก่อรที่จะหมดพลังงานและกลับขึ้นไปนอนบนเตียงอีกครั้ง










        แกร๊ก!...



        ขณะที่เปลือกตากำลังจะปิดลง เสียงปลดล็อคประตูก็ดังขึ้นทำให้ฉันลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะตัดสินใจผงกหัวมองไปที่ร่างสูงๆของจองกุกที่เดินเข้ามาในห้องนอน คิ้วสวยขมวดสงสัยพร้อมมองมือของเขา 




        พอรู้สึกตัวอีกที จองกุกก็เดินมาหยุดอยู่ข้างเตียง...




        "..."   ฉันปิดปากเงียบพลางเงยหน้ามองจองกุกทั้งๆที่ยังนอนอยู่บนเตียง



        "..."   จองกุกเองก็เงียบไม่ต่าง แต่เขายื้นอะไรบางอย่างมาวางไว้บนตัวฉัน สิ่งที่อยู่ในถุงนั้นมันยังอุ่นๆและนั้นทำให้ฉันรับรู้ได้ถึงความรู้สึกนั้น



        "กินซะ ฉันไม่อยากมีคนตายในบ้านอีกคน"



        "ห้ะ...."



        ยังไม่ทันจะพูดอะไรต่อ จองกุกก็เดินออกไปจากห้อง และปล่อยให้ฉันนอนงงอยู่บนเตียงตามลำพัง..อะไรของเขา มาอารมณ์ไหนอีกเนี่ย?





        ฉันเลิกสนใจจองกุกสักพักก่อนจะดันตัวนั่งพิงหัวเตียงและเปิดถุงออกดู ตากลมเปิดกว้างด้วยความตกใจอยู่ไม่น้อยเมื่อเห็นกล่องบรรจุอาหารถูกวางอยู่ตรงหน้า...ไก่ทอดหรอ?





        จองกุกให้ไอ้นี่แก่ฉันและรีบหนีออกไป..ทำไมถึง....














        Rrrrr!



        "หื้ม...ดูซิใครโทรมา:)"


        ร่างสูงโปร่งเหยียดยิ้มร้าย สมาร์ทโฟนเครื่องบางถูกโชว์หน้าจอขึ้นท่ามกลามความมืด ร่างเล็กอีกคนที่นั่งมองอย่างหวาดกลัวเพราะรอยยิ้มมุมปากพวกนั้นจากจีมิน...เยจินนั่งกอดเข่าตัวเองไว้แน่น ตามเนื้อตัวช้ำเขียวไปเสียหมด ที่สภาพหล่อนตกอยู่ในอาการแบบนี้ก็ไม่ใช่ฝีมือใครหรอกนอกจากลูกน้องของจีมิน จีมินเองคงไม่ลดตัวลงไปเล่นสกปรกๆกับเยจิรหรอกนะ เพราะเขาไม่จำเป็นต้องเป็นคนกระทำและคอยเผลอทำให้ตัวเองเสียหายไปด้วย


        "พี่จองกุก..."    เสียงเล็กเอ่ยอย่างแผ่วเบาก่อนจะมองไปที่โทรศัพท์ของตัวเอง นาทีนี้หล่อนดีใจมากขนาดไหนที่จองกุกโทรมา ความหวังเดียวของเธอที่จะช่วยพาเธอออกไปจากที่นี่ได้ก็มีจองกุกแค่คนเดียว


        เยจินรู้ว่าตัวเองอยู่ในห้องนี้นานมากแค่ไหนแล้ว แต่หล่อนก็ไม่สามารถหนีออกไปได้ ทั้งโดนกระทำและเจ็บช้ำอย่างต่อเนื่อง ทำให้เธอฉุกคิดได้ว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวกับแฟนหนุ่มของเธออย่างแน่นอน



        แต่ว่า..จองกุกไปทำอะไรให้ ทำไมจีมินถึงได้ลงไม้ลงมือกับเธอแบบนี้




        "พี่จองกุกช่วยเยจินด้วย!!"



        เมื่อชายหนุ่มกดรับสายก็นำโทรศัพท์มาจ่อที่เยจิน เธอเลยถือโอกาสร้องขอความช่วยเหลือ แต่ทว่าจีมินกลับชักโทรศัพท์คืนแล้วเอาแนบหู


        "เยจิน!!" เสียงน้องชายเล็ดลอดออกมาจากปลายสาย น้ำเสียงของจองกุกฟังดูตกใจไม่น้อยเมื่อได้ยินเสียงของแฟนสาวกำลังร้องขอความช่วยเหลือ



        ไม่ยักจะเดาได้ว่าจองกุกโทรมาตอนนี้ได้เวลาพอดิบพอดี...



        "ได้ยินแล้วสินะ..."


        "ฮยอง! นั่นเสียงเยจินใช่มั้ย!?"


        "ถ้าบอกว่าใช่ล่ะ..ตอนนี้เยจินอยู่กับฉัน และเธอก็กำลังกลัวสุดๆ:)"


        "ว่าไงนะ!?"


        "ได้ยินไม่ผิดหรอกจองกุก!! แกน่าจะรู้ตัวดีว่าแกเคยทำอะไรไว้! และตอนนี้คนที่ได้รับผลกรรมก็คือเยจิน!!..(ชื่อคุณ)เคยเจ็บยังไง แฟนเอ็งก็ต้องโดนมากกว่านั้นหลายเท่า!!" เสียงทุ่มตวาดขึ้นท่ามกลางความมืดภายในตัวห้อง คำพูดที่ออกมาจากปากของจีมินทำให้คนที่กำลังนั่งฟังอย่างเยจินเป็นอันต้องเบิกตากว้าง เธอแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง สิ่งที่ได้ยินมานั้น ทุกประโยคของจีมินที่พูดเกี่ยวกับ(ชื่อคุณ) ผู้หญิงคนนั้นคนที่เคยอยู่กับจองกุกแฟนของเธอ...หมายความว่าการที่เยจินโดนแบบนี้เท่ากับว่าเป็นการแลกเปลี่ยน (ชื่อคุณ)เคยโดนยังไง เยจินก็ต้องโดนแบบนี้












        พี่จองกุก พี่ทำแบบนี้ได้ยังไง...








        เรื่องทั้งหมดเป็นฝีมือของจองกุก และเขากำลังทำให้คนอื่นเดือดร้อน และเจ็บปวดมานานมากแค่ไหนรู้ตัวบ้างมั้ย ?





        "อย่ายุ่งกับแฟนผม!! เยจินไม่เกี่ยว!!" ปลายสายเอ่ยคำขาด ความสำนึกผิดชอบนั้นไม่มีในตัวของจองกุกเลยแม้แต่น้อย เขาจะไม่ยอมเสียเปรียบและจะไม่ยอมให้คนรักต้องมาเจ็บตัว ทั้งๆที่ตัวเองเป็นคนทำให้ความรักของจีมินนั้นต้องมาถึงจุดๆนี้





        รักข้างเดียว...






       
    ถึงจองกุกในจะเลวมากแค่ไหน (ชื่อคุณ)ก็รักมัน เพราะจองกุกมันมาก่อนและทำให้เธอเผลอมอบความรู้สึกดีๆนั้นให้ไปหมด แม้จะทำให้ถอดใจก็เป็นเรื่องอยากเพราะ...รักแรก...ไม่มีวันลืมง่ายๆ








        "ไม่....จนกว่าแกจะเอา(ชื่อคุณ)คืนมาให้ฉัน"


        "..."


        "ฉันให้เวลาแกคิดทบทวน...แกรักใครกันแน่..เยจินหรือ(ชื่อคุณ)..ถ้ารักเยจิน ก็เอา(ชื่อคุณ)คืนมาและเลือกยุ่งกับเธอซะ"


        "..."


        "ฉันเห็นเอ็งว่าเป็นน้อง..จะให้โอกาสครั้งนี้ ครั้งสุดท้าย..."





















        ความรักหรือความเห็นแก่ตัวกันแน่...


































        ปั้ง!






        "เฮือก!..จะ..จองกุก!?" ฉันตกใจหัวใจแทบวาย และมองไปที่จองกุกถีบประตูเข้ามาในห้องพร้อมสีหน้าดุดันเต็มไปด้วยความโกรธ แววตาที่ดูเปลี่ยนไปของเขานั้น ทำให้ฉ้นแอบหวั่นอยู่ไม่น้อย








        "มะ..มีอะไรหรอ?" ร่างเล็กทวนถามอีกรอบ ก่อนจะตัดสินใจวางหนังสือในมือลงและยืนขึ้นเต็มความสูง






        คนตรงหน้าไม่ปริปากพูดใดๆ ก่อนที่จะเดินเข้ามาใกล้คนตัวเล็กอย่างรวดเร็ว พร้อมมือใหญ่คว้าเข้าไปกระชากหัวร่างบางอย่างเต็มแรง






        "อ๊ะ!! โอ้ย!!" หญิงสาวร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บ ใบหน้าหวานนิ้วหน้าอย่างเจ็บแสบเมื่อโดนกระชากจนแสบหนังหัวไปทั่ว..มือเล็กพยายามยื้อมือของจองกุกออก แต่ก็โดนมืออีกข้างของเขากระชากคอเสื้อจนตัวเซไปข้างหน้า





        "ปะ..ปล่อย ฉันเจ็บอึก!" เป็นเพราะแรงดึงจากจองกุกทำให้ขอบตาของฉันเริ่มร้อนผ่าว








        เขาบ้าไปแล้วหรอ! ทำแบบนี้ทำไม!









        "เป็นเพราะเธอ!!"




        "อะ..อะไรนะ! ฮึก!"




        "ในเมื่อมันแก้ไขอะไรไม่ได้ เธอเองก็ต้องเป็นคนที่เจ็บเหมือนกัน!!"








        จองกุกพูดอะไรของเขา ฉันไม่เข้าใจ..ฉันเองก็อยู่เฉยๆของฉันแล้วทำไมเขาถึงได้ดูบ้ามากขนาดนี้!!







        ฉันได้แต่ส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจและสับสน พอรู้ตัวอีกทีก็โดนคนตัวใหญ่จับนอนราบลงไปบนเตียง เข่าของเขาบีบอัดมาที่เอวของฉันจนทำให้รู้สึกได้ถึงความเจ็บแปลบๆอยู่กลางลำตัว..มือเล็กพยายามผลักไสคนบนร่างออกเพราะการกระทำของจองกุกกำลังทำให้ฉันกลัว กลัวในสิ่งที่เขาจะทำ....






        "ฉันอยากเห็นเสียงร้องเธอจังเลย(ชื่อคุณ)...เอามันออกมาซะ!!"





        "ฮะ..ฮึก...อย่า..."





        เสียงร้องสะอึกระงมไปทั่วห้อง ร่างบอบบางดิ้นไปมาอย่างเจ็บปวด แรงอัดจากด้านข้างยิ่งทำให้กลัวและเจ็บไปในเวลาเดียวกัน..ก้อนเนื้อกลางอกเต้นถี่แรงขึ้นเรื่อยๆ ความรู้สึกหวาดกลัวสั่นสะท้านอย่างห้ามไม่ได้ แววตาจากด้านบนฉายลงมาราวกับว่าไม่มีความปรานีแม้แต่ความเห็นใจและรู้สึกสงสาร...แค่มองตาฉันก็กลัว กลัวว่าตอนนี้จองกุกกำลังจะทำให้ฉันเบ่งสิ่งมีชีวิตตัวน้อยๆออกมาจากร่างกาย









        ยิ่งมองยิ่งเสียใจ..เขาไม่คิดแม้แต่จะรักและเห็นใจฉันเลยสักครั้ง









        "ฮึก...."





        "ฉันเกลียดเธอ..."
















       ความมืดเข้าครอบงำ จิตใจที่ห่อเหี่ยวไร้ความสดใสดั่งเมื่อก่อนที่เคยมี...ตอนนี้ไม่แน่ใจแล้วล่ะว่าจะอยู่ไปเพื่ออะไร






        ถ้าฉันไปแล้ว..เขาคงมีความสุขมากกว่านี้







        สติของฉันเริ่มกลับมา ตัวเองสลบไปนานมากแค่ไหนก็ไม่รู้ แต่ว่าพอมองออกไปข้างนอกก็เริ่มมืด พระอาทิตย์ลับขอบฟ้า..แต่ขอบตาของฉันยังคงบวมเป่งเพราะสาเหตุเกิดจากการร้องไห้ไม่หยุด






        ฉันละสายตาจากหน้าต่าง มือบางพลางลูบตัวท้องเองด้วยความอ่อนโยน...






        "เกือบไปแล้วสินะ...ลูกแม่" ฉันเกือบจะเสียเขาไปแล้ว ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นต่อ แต่ว่าฉันมั่นใจได้ว่าลูกของฉันยังอยู่ หลังจากตอนนั้นจองกุกก็หายไป มีแต่ความเงียบและความว่างเปล่า ทำให้หัวใจของฉันมันปวดหนึบ เจ็บปวดและเสียใจ ผิดหวัง หลายๆอย่างมันตีกันไปหมด





        ฉันควรทำยังไงดี..ฉันทำอะไรผิด









        "ฉันเกลียดเธอ..."







         "ฮึก..ฮือ...ฮึกๆ!" จะลืมให้ได้ แต่คำพูดเมื่อชั่วโมงก่อน ที่ออกมาจากปากของจองกุก ทำให้ฉันได้รู้ว่าสิ่งที่ทำมามันเปล่าประโยชน์ จะทำดีให้ตายก็สู้ดีในสายตาของเขาไม่ได้...จองกุกไม่ได้รักหรือชอบฉัน...





        และนั่น ทำให้ฉันหมดหวัง...






        ฉันจะไปจากที่นี่ แม้จะไม่มีใครเลยก็ตาม ฉันจะพาลูกหนี หนีจากคนใจร้าย ไปให้ไกลที่สุด













        [ 100% ]





    To be continued





        #TALK



         ไรท์ขอเกลียดจองกุกอีกรอบค่ะ จะให้นางเอกหนีไปใช่มั้ยถึงจะพอใจ เมื่อไหร่กุกจะรู้ใจตัวเองสักที งานนี้ต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องเจ็บปวดค่ะ

        ที่จริงไรท์จะอัพตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แต่ว่าเน็ตล้มเลยอัพไม่ได้แหะๆ












    เม้น ให้กำลังใจนางเอกหน่อย^^





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×