ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [yaoi]want you:คุณเพื่อนครับ กูต้องการมึง

    ลำดับตอนที่ #13 : ตอนที่ 10 น้องเจเจของพี่ติน [100%]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 837
      6
      23 มี.ค. 58

    ตอนที่ 10  น้องเจเจของพี่ติน

     

     

     

     

    อเล็กซ์

     

     

     

        “นายมาที่นี่ได้ยังไง...ฉันหมายถึง..มาทำไม แล้วรู้ได้ไงว่าฉันอยู่ที่นี่

     

     

        “ก็วันนี้พี่ไม่ไปมหาลัยผมก็คิดถึงเลยมาหา.....ส่วนที่ผมรู้ว่าพี่อยู่ที่นี่ได้ยังไงก็เพราะว่าหัวใจมันบะ..

     

     

    ปึ่กก!

     

     

        “โอ๊ย!”

     

     

        “ฮ่าๆๆ...ชอบความรุนแรงก็ไม่บอกนะครับคนสวยของผม หึ

     

     

        “!!!!”

    หึหึ ทันทีที่ผมพูดออกไป เดาออกมั้ยครับว่าพี่บัทเตอร์คนสวยของผมทำหน้ายังไง ตาสวยๆคมๆของพี่มันเบิกกว้างขึ้นนิดเหมือนไม่อยากจะเชื่อว่าผมจะกล้าพูดออกมา ไหนจะปากสวยๆบางๆที่อ้าออกนิดๆจนผมได้แต่ยิ้มขำ ไม่กล้าขำออกมาดังๆกลัวจะโดนฝ่าเท้าคนสวยซะก่อน

     

     

        อย่าทำหน้าแบบนั้นสิครับคนสวย

     

     

        “นายอเล็กซ์!!”

     

     

        “คร้าบบบ แหม่..เรียกจังเลย กลัวจำชื่อผมไม่ได้เหรอครับ หึหึ

    ผมก้มหน้าลงไปใกล้หน้าสวยๆที่ตอนนี้บูดเบี้ยวไปหมด พี่บัทหันหน้าหนีผมไปทางอื่นแล้วนั่งกอดอกหายใจฟึดฟัด แล้วชะง้อคอมองเหมือนหาใครสักคน ก่อนที่ดวงตาคู่สวยจะหันมามองผม

     

     

        “เบสล่ะ..มันไม่มาด้วยเหรอ

     

     

        “อ้อ พี่เบสเห็นบอกว่าแม่พี่แกเป็นลมน่ะครับ เลยฝากให้ผมเอาเอกสารมาให้ครับ

    ผมพูดตอบพี่มันไป พี่บัทเตอร์คนสวยสุดที่รักของผมหรี่ตามองผมอย่างจับผิด แต่ก็ยอมพยักหน้ารับ แล้วมองสำรวจตัวผม วันนี้ผมใส่ชุดธรรมดาครับ ก็ผมไม่มีเรียนนี่น่า แค่ตั้งใจจะมาหาว่าที่ภรรยาในอนาคตเฉยๆ ฮ่าๆ

     

     

        “เอาเอกสารมาให้ฉันสิ

    พี่บัทเตอร์พูดเสียงนิ่ง แบบที่ผมเลิกกลัวไปแล้วล่ะ กับน้ำเสียงแบบนี้ ผมหมุนตัวกลับไปที่ประตู ไม่ได้จะเปิดไปไหนหรอกครับ แต่ผมทำมันหล่นไว้ตรงนั้น แต่ตอนที่ผมกำลังจะก้มเก็บก็เห็นรูปของใครสักคนหล่นออกมาจากซอง แล้วมันก็อดไม่ได้ที่จะหยิบมาดู

     

     

        “นี่มัน...ซ้อนี่หว่า...

    ผมหลุดปากพูดออกมาอย่างไม่รู้ตัว จนพี่บัทเตอร์หันมามองตาขวาง แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังเก็บความสงสัยเอาไว้ไม่ได้ นี่มันซ้อของไอติน เป็นพี่ชายที่ผมสนิทๆอยู่คนนึง ที่เขามาเที่ยวที่ผับของไอตินบ่อยๆ ผู้ชายตัวเล็กๆหน้าขาวๆ แถมยังมีผัวเป็นตัวเป็นตน แล้วพี่บัทมีรูปเขาได้ยังไง..

     

     

        “สงสัยอะไรก็พูดมาเถอะ ถ้าตอบได้จะตอบ

     

     

    แหน่ะ! เห็นมั้ยครับ รู้ใจสามีซะด้วย!

     

     

        “พี่เอารูปซ้อมาทำไม?..เอ่อ หมายถึง ผู้ชายคนนี้

     

     

        “นายรู้จัก?

     

     

        “เขาเป็นญาติกับไอติน แต่พี่ยังไม่ตอบคำถามผมเลยนะครับ

    ผมถามกลับไป พี่บัทก็ทำแค่นั่งกอดอกอยู่ท่าเดิมแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนที่จะเล่าให้ผมฟังคราวๆ ว่าเป็นคนที่พี่บัทจะต้องคอยไปดูแลเพราะว่าพ่อของซ้อแกสั่งมา อันนี้ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่ถ้ารู้ว่าพี่บัทสุดโหดของผมไม่ได้จะไปทำอันตรายอะไรซ้อของไอตินมันผมก็สบายใจไม่ได้ซักถามอะไรต่อ ผมยื่นซองกระดาษสีน้ำตาลไปให้พี่บัทคนสวยของผม พี่มันก็เปิดอ่านแปบนึงแล้วก็วางไว้ที่โต๊ะเล็กๆหัวเตียง

     

     

        “นายกลับไปได้แล้ว

     

     

        “อ่าว ทำไมไล่ผมแบบนี้ล่ะครับ

     

     

        “แล้วจะอยู่ต่อทำไม

    พี่บัทหันมามองหน้าผมนิดๆ สายตาแสดงชัดเจนถึงความรำคาญแบบสุดๆ แต่ถ้าถามว่านายอเล็กซ์คนนี้แคร์มั้ย? ไม่เลยครับ ฮ่าๆ

     

     

        “ก็ผมมาเหนื่อยๆ นี่ก็ไม่ได้เอารถมา จะให้เดินออกไปยืนรอรถถึงหน้าปากซอยมันก็ไกลนะพี่

     

     

        “ฉันให้ยืมรถ

     

     

        ง่ะ..

    เรียกว่าไปต่อไม่เป็นเลยก็ว่าได้ แหม่ ขนาดเข้ามาอยู่ในบ้านยังไม่ไว้ใจ แต่ยอมให้ยืมรถไปได้ง่ายๆ เท่ากับว่าถึงรถจะโดนผมขโมยเอาไปขายก็ดีกว่าจะต้องมาทนเห็นหน้าผมงั้นสิ โถ่ ทำไมภรรยาของผมถึงจิตใจโหดร้ายแบบนี้หนอ T^T

     

     

        “ไปได้แล้ว ฉันจะพัก

     

     

    ปิ๊ง!

     

     

    ถ้านี่เป็นการ์ตูน ตอนนี้คงมีรูปหลอดไฟ กระพริบๆอยู่ข้างหัวผมแบบที่พึ่งปิ๊งไอเดียได้ ใช่แล้ว พี่บัทไม่สบาย ว่าที่ภรรยาของผมไม่สบาย สามีที่ดีอย่างผมก็ต้องดูแลสิครับ!

     

     

        “ได้ยังไงกันครับ...พี่บัทไม่สบาย ใครจะดูแล

     

     

        “เรื่องของฉัน

     

     

        “’งั้นผมจะอยู่มันก็เรื่องของผม^^”

    เรื่องหน้าด้านนี่ยกให้ผมเถอะครับ ผมพูดออกไปหน้าตาเฉย แบบที่พี่บัทก็หันหน้าสวยๆมามองผมแบบอึ้งสุดๆ อยากจะถ่ายรูปเก็บไว้เอาไปให้ลูกน้องพี่แกดูจริงๆ ว่านายอเล็กซ์คนนี้ทำให้พี่บัทเตอร์สายตาน้ำแข็ง(?)ตาโตเป็นไข่ห่านได้ แต่มันก็เป็นได้ไม่นาน พี่บัทกลับมาใช้สายตานิ่งๆแบบเฉือดเฉือนเหมือนเดิมมองมาที่ผม และแล้วเสียงเย็นยะเยือกที่เย็นกว่าเดิมร้อยเท่าก็ดังขึ้น..

     

     

        “อเล็กซ์

     

     

        “คะ..คร้าบ

     

     

     

    วอนหาเรื่องตายอีกแล้วไงกู มาให้เขาฆ่าถึงที่เลยด้วย T^T

     

     

     

        “หยิบยาในตู้ให้หน่อย

     

     

        “ห๊า!!”

    คุณเชื่อมั้ยครับ ความรู้สึกมันเหมือนกำลังจะจมน้ำลงไปใกล้จะขาดอากาสหายใจตายเพราะแรงกดดัน แต่อยู่ๆมันก็เหมือนน้ำนั้นกลายเป็นลูกกวาดแสนหวานขึ้นมาทันทีที่เสียงเย็นยะเยือกนั้นพูดออกมา หยิบยาในตู้? นี่แปลว่า..พี่บัทไม่ได้จะฆ่าผม ไม่ได้จะไล่ผมใช่มั้ยวะครับ?

     

     

        “เป็นบ้าอะไรของนาย ฉันบอกให้หยิบยาในตู้นั้นให้หน่อย

    นิ้วมือเรียวสวยชี้ไปที่ตู้เล็กๆ ที่ติดกับผนังเอาไว้ ผมมองตามไปก็เห็นกระปุกยาที่ตั้งอยู่ เลยเดินตามไปแบบใจตุ้มๆต่อมๆ ไม่รู้ว่าพี่มันจะปามีดมาปักหลังมันในหนังรึเปล่า (เออ เขาไม่ฆ่ามึงก็ยังคิดจะให้เขาฆ่าอยู่ได้นะอเล็กซ์)

     

     

        “ขวดนี้เหรอพี่

     

     

        “อืม

    พอพี่บัทขานตอบในลำคอผมก็หยิบขวดสีขาวๆที่เต็มไปด้วยภาษาอะไรก็ไม่รู้ มันเป็นตัวภาษาอังกฤษนั่นแหละครับ แต่คำมันไม่ใช่เลย คงเป็นภาษาฝรั่งเศสหรืออิตตาลี่อะไรพวกนี้ละมั้ง ผมยื่นไปให้พี่มัน พี่บัทก็รับไปแล้วหยิบยาขึ้นมาสองเม็ดก่อนที่จะเงยหน้ามาสบตาผมอีกครั้ง แหม่ มองตาผมแบบนี้ใจผมสั่นนะครับบอกเลย ><

     

     

        “นายคงไม่คิดว่าฉันจะกินยาเปล่าๆใช่มั้ย?

     

     

        “ครับ?

     

     

        “เฮ้อ..ไปหยิบน้ำให้หน่อย

    ผมถึงกับกลั้นยิ้มเอาไว้ไม่อยู่ ตอนแรกก็คิดอยู่หรอกว่าพี่มันไม่เอาน้ำรึไง แต่พอพี่มันพูดถามออกมาแบบนั้นก็พอจะรู้ว่าคงจะเป็นพวกอีโก้สูงไม่อยากจะขออะไรให้ผมช่วยบ่อยๆ ก็เลยพูดประชดไป แต่แหม่ ไอเจไอตินคงไม่เคยบอกพงกคุณใช่มั้ยครับ ว่าผมเคยแสดงละครเวที แล้วเล่นได้ดีซะด้วยสิ ตีหน้าซื่อๆไปให้พี่มันถอนหายใจแรงๆแล้วยอมพูดขออกมาแบบนี้ สามี(?)ที่น่ารักแบบผมก็พร้อมที่จะทำให้ภรรยา(?)คนสวยของผมอยู่แล้ว

     

     

        “นี่คร้าบน้ำ

     

     

        ขอบใจ

    พี่บัทรับไปแล้วกินยากินน้ำเข้าไปก็ส่งแก้วมาคืนผม ผมก็เดินเอาไปวางไว้ที่โต๊ะแถวๆนั้น หันมาอีกทีก็เห็นคนสวยของผมยังคงนั่งวางมาดเป็นนางพญาอยู่ที่เดิม

     

     

        “เออนี่..พี่กินยาอะไรอะ ผมอ่านไม่ออก

     

     

        “ไม่ยุ่งสักเรื่องจะได้มั้ย

     

     

        “อีกและ...ไม่ยุ่งได้มั้ย..อย่าถามมากได้มั้ย...อย่าเสือกได้มั้ย...โอ๊ย ทำไมใครๆก็ชอบว่าผมเสือกจังวะ ผมนี่หวังดีนะครับ ก็เป็นห่วงเลยถามเฉยๆ โถ่

    ผมพูดออกมานี่ออกมาจากใจจริงล้วนๆเลยนะครับ ไม่เข้าใจเวลาถามอะไรใครทำไม ใครๆมันก็พูดว่าผมยุ่ง ผมเสือกไปซะหมด ผมก็แค่อยากรู้อยากเห็นเรื่องชาวบ้านเขาก็เท่านั้นแหละ ไม่เห็นจะเสือกอะไรตรงไหนเลยนะ นี่ที่ถามพี่บัทก็เพราะเป็นห่วงจริงๆ อยากรู้ว่าพี่มันเป็นอะไร จะได้ดูแลถูกวิธี ตัวบางๆหน้าซีดๆแบบนี้ เห็นแล้วน่าสงสาร น่าเอากลับไปเลี้ยงที่บ้านซะจริงๆ อ่าว..แล้วนี่คุณก็ให้ผมพูดนู่นพูดนี่ยาวเหยียดอยู่ตั้งนานไม่รู้จักห้าม แล้วก็ชอบมาว่าผมพูดมาก โว๊ะ! ทำไมใครๆก็ไม่เข้าใจนายอเล็กซ์สุดหล่อคนนี้เลยครับ!!

     

        “เออ..พี่บัทผม....อ่าว

    หันมาอีกทีกะจะเล่าเรื่องที่มหาลัยให้ฟังซะหน่อยพี่มันก็หลับคอพับไปซะแล้ว อะไรมันจะเร็วขนาดนั้นครับ นี่พึ่งจะกินยาไปเมื่อกี้ไม่ถึงนาทีก็หลับซะแล้ว ถึงเป็นยานอนหลับมันก็คงไม่หลับเร็วขนาดนี้หรอก ผมนั่งลงกับพื้นข้างๆเตียงแล้วมองหน้าพี่มันก็มั่นใจว่าคงหลับจริงๆ เพราะเสียงลมหายใจสม่ำเสมอนั่นแหละ

     

     

        “พี่บัทครับ นอนดีๆเดี๋ยวปวดคอเอาหรอก

    ผมแตะแขนพี่มันเบาๆ ไม่กล้าจับอะไรมากเดี๋ยวหาว่านายอเล็กซ์สุดหล่อคนนี้ลวนลามอีก จะโดนปืนยิงกระบานไม่รู้ตัว พี่มันทำหน้ามุ่ยเหมือนเด็กโดนแม่ปลุดไปโรงเรียนแต่ก็ยังไม่ยอมลืมตา แถมยังดึงแขนหนีมือผมอีกแหนะ

     

     

        “ฮื่ออออ

     

     

        “พี่บัทคร้าบบ นอนดีๆหน่อย

    ผมเรียกเสียงดังขึ้นนิด คือตอนนี้พี่มันนั่งคอหักเป็นปลาทูแม่กรอง กลัวว่าตื่นมาแล้วจะปวดคอเอาได้ เลยขอถือโอกาสช้อนตัวพี่มันขึ้นมาแล้ววางลงใหม่ให้อยู่ในท่าสบายๆ ตัวพี่มันเบามากๆ อุ้มแล้วก็ไม่อยากจะวางเลย ฮ่าๆ เบาซะจนผมคิดว่านี่ผมแบกกลับบ้านได้สบายเลยนะ นี่หลับลึกซะด้วยสิ..

     

     

        “หึหึ น่ารักเป็นบ้า

    ผมพูดพึมพำอยู่คนเดียวแล้ว จัดการห่มผ้าให้พี่มันขึ้นมาถึงระดับอก ภรรยาในอนาคตของผมก็แสนจะน่ารัก ไม่หือไม่อือนอนหลับตาพริ้มแบบที่บอกว่าพี่มันโดนวางยานอนหลับนี่เชื่อเลยนะครับ คนบ้าอะไรกินยาไปไม่ถึงนาทีสลบไปซะงั้น ผมใช้หลังมืออังหน้าผากพี่มันเช็คดูว่าเป็นยังไงบ้าง มันก็ยังร้อนเหมือนตอนแรกเลยเอาผ้าผืนเดิมนั่นแหละไปชุบน้ำใหม่แล้วก็เอามาวางไว้บนหน้าฝากของคนสวยของผม

     

     

        “อือออ

    คนสวยของผมร้องออกมาเสียงน่ารักเชียว แล้วส่ายหน้าเบาๆเหมือนจะหนีสัมผัสเย็นๆ แต่ผมก็ตามไปเอาผ้าแปะไว้จนได้ พี่มันก็ยอมแพ้แล้วยอมนอนไปนิ่งๆ ผมนั่งอยู่ที่พื้นเกาะขอบเตียงมองหน้าพี่มันไปเรื่อยๆนี่ถ้าจะให้มองหน้าพี่มันทั้งวันก็ไม่เบื่อเลยจริงๆ ผู้ชายบ้าอะไรสวยได้ขนาดนี้ ขนตายาวๆ หน้าขาวๆ ปากแดงๆ ทุกอย่างของพี่มันดึงดูดไปหมด ผมเชื่อว่าคงไม่ใช่แค่ผมที่คิดแบบนี้ แต่ก็เถอะ ดวงตาสวยๆคู่นี้มันน่ากลัวเกินกว่าที่ใครหลายคนจะกล้าเข้ามาใกล้ แต่ถ้าใครได้มาเห็นพี่บัทตอนนี้ละก็

     

     

    ....กล้าเอาหัวตัวเองเป็นประกันเลยครับ ว่าหลงจนโงหัวไม่ขึ้นแน่ๆ

     

     

        “พี่บัทครับ ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ

     

     

        “……..”

     

     

        “เอาไว้เดี๋ยวจะมาเยี่ยมใหม่นะครับ

     

     

    -----------------------------------------------------------

     

     

    บัทเตอร์

     

     

     

    ผมตื่นขึ้นมาตอนที่ทุกอย่างในบ้านมืดไปหมด มีเพียงโคมไฟหัวเตียงที่หรี่ลงอ่อนๆ นี่ผมหลับไปได้ยังไง? คงเป็นเพราะยาบ้าๆนั่นอีกแล้วสินะ ผมค่อยๆยันตัวลุกขึ้นนั่ง แล้วมองไปรอบๆ ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้ผมฝันรึเปล่าว่าผู้ชายคนนั้นเขามาหาผม..นายอเล็กซ์ ผมคงฝันไปสินะ..

     

        เข็มสั้นของนาฬิกาชี้ที่เลขเก้า สามทุ่มแล้วเหรอ นี่ผมหลับนานจริงๆ ที่นี่เป็นบ้านของพี่ตั้ม คนที่ผมเคารพเหมือนพี่ชายอีกคน แต่เขาไม่ค่อยอยากจะเป็นพี่ชายของผมสักเท่าไหร่หรอกนะ บ้านหลังนี้ผมเป็นคนซื้อให้เขา ตอบแทนที่ดูแลน้องชาย และผมมาตลอด อย่างที่ผมเคยบอกไปร่างกายของผมมันไม่ค่อยแข็งแรง ไม่สบายอยู่บ่อยๆ แล้วครั้งนี้ก็เช่นกัน ผมเปิดไฟให้ส่องสว่างไปทั่วบ้านก่อนที่จะเดินไปที่ครัวแต่ผมก็ต้องชะงัก..

     

     

    …….ผมอุ่นข้าวต้มไว้ให้ ทานด้วยนะครับ คนสวยของผม........

     

     

     

        “หึ

    นี่มันคงไม่ใช่ความฝันแล้วล่ะ เด็กบ้านั่นมาที่นี่จริงๆ ไม่รู้อะไรทำให้มุมปากผมยกขึ้นมาได้ อาจจะเป็นเพราะลายมือเหมือนไก่เขี่ยที่อยู่บนกระดาษนี่ หรือเพราะข้อความที่เรียกผมแบบนั้น แต่ถึงยังไงก็เถอะ ผมไม่รู้ว่าเด็กนั่นมันเอาความกล้ามาจากไหน ถึงได้มาหาผมถึงที่นี่ แต่มันก็ทำให้ผมยิ้มได้ล่ะนะ.......

     

     

     

      

    -------50%-------

     

     

     

              ในขณะที่ร่างเล็กนั่งอยู่บนเก้าอี้นวมสีดำตัวใหญ่ มองรถแข่งสีแดงสดที่กำลังวิ่งอย่างรวดเร็วอยู่ในสนามเวลากลางคืน ดวงตาคู่กลมๆส่งประกายแวววาววิวับเหมือนกำลังสนุกสนานกับการมองรถที่กำลังวิ่งด้วยความเร็ว

     

     

    เอี๊ยดดดดดดดด

     

     

        เฮ้!!!!”

    เสียงโห่ด้วยความดีใจดังกึกก้องไปทั่วสนาม ทันทีที่รถแข่งคนงานแล่นเข้าเส้นชัย นำอีกคันมาเพียงไม่กี่วินาที มุมปากบางๆยกยิ้มกว้างออกมาก่อนที่จะหันมามองชายหนุ่มข้างตัว

     

     

        “ติน! ไอติน..ไอนิกชนะแล้วเว้ย

    เจเจหันมายิ้มกว้างเขย่าแขนเพื่อนรักแล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสดใส ก่อนจะหันกลับไปมองเพื่อนรักอีกคนที่ไม่ได้เข้ามาแข่งที่นี่นาน นิกกี้ ลงออกมาจากรถหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่วิ่งกรูกันเข้าไป ล้อมรอบแสดงความยินดี ใบหน้าสวยราวกับผู้หญิงยิ้มแย้มก่อนที่จะหันมาโบกมือให้กับทั้งคู่ที่นั่งมองอยู่ห่างๆ

     

     

        “เจครับ นั่งลงดีๆ

     

     

        “กูจะไปหานิก

     

     

        “เจเจนั่งก่อน คนเยอะจะตายเดี๋ยวค่อยไปก็ได้

    ตินพูดขึ้นเสียงดุ แบบที่เจเจได้แต่หันมาเบ้ปากใส่ แต่ก็ยอมนั่งลงตามเดิม ชายหนุ่มยิ้มให้เพื่อนสนิท(คิดไม่ซื่อ)น้อยๆ แล้วขยี้หัวเบาๆแบบที่เคย

     

     

        “ฮื่อออ

    เจเจร้องออกมาอย่างขัดใจแล้วเบี่ยงหัวหลบก่อนที่จะยกมือมาสางผมตัวเองแล้วจัดให้เข้าที่ ภาพที่ทำให้ตินหัวเราะขำ แล้วพยักเพยิดหน้าไปอีกทาง เจเจเลิกคิ้วนิดๆเป็นเชิงถามแล้วหันกลับไปมอง

     

     

        “กูชนะทั้งทีไม่ลงไปยินดี มานั่งจีบกันอยู่ตรงนี้นะพวกมึงเนี่ย

     

     

        “จีบบ้านมึงสิ!”

     

     

        “เหอะๆ เอาเถอะ แล้วนี่ไอเล็กสุดหล่อของกูล่ะ

    นิกกี้ถามขึ้นมองหาเพื่อนรักอีกคนที่ปกติจะชอบมากวนประสาทกันเล่นอยู่บ่อยๆ แต่คราวนี้กลับเหลือแต่ไอคู่สามีภรรยาสองคนที่มันนั่งจู๋จี๋ดู๋ดี๋กันอยู่

     

     

        “ไม่รู้มัน เห็นบอกมีธุระ”  เจเจพูดตอบ ให้นิกกี้พยักหน้ารับนิดๆ

     

     

        “เข้าไปข้างในกันดีกว่า ตรงนี้ฝุ่นเยอะนะครับเจ

    ตินพูดบอกออกมาเสียงนุ่มด้วยความเป็นห่วง พลางจับข้อมือเล็กแล้วกระตุกนิดๆเป็นเชิงให้เดินตาม ภาพที่ทำให้ไอเพื่อนที่พึ่งมาใหม่เบ้ปากใส่แล้วพึมพัมอยู่คนเดียว

     

     

        “ฝุ่นมันเยอะนะครับเจ แหวะ ที่กับกูนี่ด่าเอาด่าเอา

     

     

        “ไอนิก กูได้ยิน

    ตินหันมาพูดว่าอย่างไม่จริงจังนัก ให้เจเจหัวเราะลั่นกับทั้งคู่ แล้วเดินนำเข้าไปข้างในห้องพักให้เพื่อนรักทั้งสองเดินตามมาติดๆ

     

     

        “เดี๋ยวกูเข้าห้องน้ำแปบ

     

     

        “เออ// ครับ

    สองเสียงที่ตอบออกมาพร้อมกันแต่คนละคำคนละโทน ทำเอาเจเจยิ้มขำแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปปล่อยเพื่อนสองคนนั่งอยู่ในห้องโถง ไม่นานร่างเล็กก็เปิดประตูออกมา แต่ไม่ทันที่ขาจะก้าวออกก็ได้ยินเสียงที่ทำให้ตัวชาวาบ..

     

     

        “อ๊ะ..อื้อ..ติน....

     

     

        “มึงจะครางทำไมเนี่ย

     

     

        “ก็มัน...อื้อ..ตรงนั้นแหละ..อ่าห์..ดี...แรงหน่อยไอติน

     

     

        “ตรงนี้ใช่มั้ย

     

     

        “อืม..เน้นๆหน่อย...อ่าห์

     

     

                                        ทำบ้าอะไรกันวะ!!!!

     

     

        ร่างเล็กที่ดวงตาเบิกกว้างกับเสียงครางหวานของเพื่อนรักที่ดังออกมาจากทางห้องนอนกับเสียงทุ้มนุ่มของอีกคนที่คอยถามนู่นถามนี่ หัวใจดวงน้อยๆเต้นระรัว รู้ดีว่าไอนิกมันเป็นคนยังไง...มันรักสนุก มันทำได้กับทุกคน...แต่กับไอตินเนี่ยนะ!!!!

     

     

                                 .....เย็นไว้ไอเจ..เย็นไว้

     

     

        “อ๊ะ..อื้อ

     

     

                                  ......ไม่เย็นแล้วโว๊ยยย!!!!!!

     

     

    ปั่ง!!

     

     

    ร่างเล็กผลักประตูเข้าไปสุดแรงสีหน้าแสดงถึงอารมณ์ขุ่นมัว ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง แต่มันจะให้คิดเป็นอะไรไปได้อีกเมื่อมันได้ยินมาชัดเจนขึ้นนั้น!! ดวงตากลมโตเบิกกว้างกับภาพตรงหน้า ทั้งสองที่กำลังทำกิจกรรมกันอยู่บนเตียงหันมามองแล้วมีสีหน้าตกใจนิดๆ ก่อนที่นิกกี้จะเป็นคนเอ่ยพูดขึ้น..

     

     

        “มึงเป็นบ้าอะไร...เปิดประตูซะแรง กูตกใจหมดสัส

    เจเจนิ่งค้างอ้าปากพะงาบๆแบบที่ตินลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินมายืนอยู่ตรงหน้าก่อนที่จะใช้หลังมืออังหน้าผากเบาๆ

     

     

        “เจครับ ไม่สบายรึเปล่า เป็นอะไร

     

     

       “เมื่อกี้พวกมึง......ทำอะไร...กัน.....

     

     

        “หืม?

    ตินเลิกคิ้วสูงมองอีกคนอย่างงุงงง ขณะที่เจเจมองเพื่อนทั้งสองสลับไปมา ก็ไอตอนที่เขาเปิดประตูเข้ามาภาพที่เป็นมันก็คือ...

     

     

    ไอนิกนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียง ส่วนไอตินก็ใช้สองมือกดไปกลางหลังไอนิก..

    โดยที่ทั้งคู่ ยังแต่งตัวเรียบร้อยเหมือนเดิม..

     

     

        “ก็เมื่อกี้ตอนแข่งรถ กูเลี้ยวแรงไปหน่อยแล้วแม่งปวดหลังชิบหาย เลยให้ไอตินมันนวดให้ ทำไม?

     

     

    กึก

     

     

    เรื่องเล็กชะงัก เหมือนหน้ามันร้อนๆขึ้นมานิด เมื่อเพิ่งรู้ว่ามันก็แค่ นวดให้กันเท่านั้น เจเจเม้มปากแล้วยิ้มออกแหย่ๆ ก่อนจะเกาหัวแก้เก้อ แล้วพูดออกมาเสียงอ้อมแอ้ม

     

     

        “ก็กูได้ยินเสียง...

     

     

        “เห็นมั้ยไอนิก! กูบอกว่าอย่างครางๆ แม่งไม่ฟังกู...ครางทีกูละขนลุก สัส!”

    นายราติณท์หันไปว่าคนที่นอนปวดหลังอยู่บนเตียงเสียงขุ่น แบบที่นิกก็ทำได้แค่หัวเราะออกมาดังๆ แล้วพูดลอยหน้าลอยตา

     

     

        “ฮ่าๆๆ อะไรวะ..กูอยากรู้จริงๆ ถ้าเป็นไอเจครางมึงจะพูดแบบนี้รึเปล่า คิกคิก

     

     

    ฉ่า...

     

     

         คำพูดที่เหมือนพูดโดยไม่ได้คิดอะไร แต่ทำให้ร่างเล็กอีกคนนึงหน้าร้อนฉ่าขึ้นมาแบบกะทันหัน พวงแก้มขาวขึ้นสีแดงจัด จนบุรุษอีกสองคนในห้องหันมามองหน้ากันแล้วยิ้มขำ ตินขยี้หัวเพื่อนตัวเล็กแรงๆจนผมยุ่งเหยิง แบบที่เจเจก็ได้แต่ก้มหน้างุด แล้วควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจตัวเอง

     

     

        “เฮ้อ กูกลับก่อนดีกว่า ไม่อยากเป็น กขค

    นิกกี้พูดแล้วค่อยๆลุกขึ้น ก่อนจะนิ่วหน้านิดๆ เมื่อรู้สึกเจ็บแปล๊บที่กลางหลัง ก่อนที่จะพูดลากันนิดหน่อย แล้วเขาก็กลับออกไป ปล่อยอีกสองคนที่ยังคงอยู่ในห้องนอน..

     

     

        “มึง... กลับบ้านกันเหอะ

     

     

        “เออเจ วันนี้แม่กูบอกให้ชวนมึงไปกินข้าวที่บ้าน..ไปมั้ยครับ?

    ตินพูดเสียงนุ่มพลางเปิดประตูแล้วเดินออกมาจากห้องนอน ให้อีกคนหยุดคิดแค่เพียงชั่วครู ก่อนที่จะตอบกลับเสียงใส

     

     

        “ไปๆ ดีเหมือนกัน..ไม่ได้กินข้าวฝีมือป้าแจ่มนานแล้ว คึคึ

    เจเจพูดพลางหัวเราะคิกคัก ก่อนที่จะกวักมือเรียกเพื่อนร่างสูงให้ออกมาจากห้องพัก ร่างเล็กหันไปพูดเสียงเข้มกับลูกน้องนับสิบที่กำลังนั่งเช็ครถแข่งคันอื่นๆ ทำเอาตินยิ้มขำ

     

     

    .....นี่บ้านมึงเรียกว่าดุแล้วใช่มั้ยวะ..

     

     

        “กูไปก่อนละ ดูกันดีๆนะเว้ย

     

     

        “คร้าบบบบบบบบบ

    ชายหนุ่มร่างสูงพูดขึ้นเสียงยานแบบขำๆ  ให้เจเจแยกเขี้ยวใส่ไปรอบนึง ก่อนจะเดินนำไปขึ้นรถคันหรู  ไม่นานนักทั้งคู่ก็มาถึงบ้านหลังใหญ่ ที่มีต้นไม้ดูร่มลื่น รถคันหรูแล่นเข้าไปในลานจอดรถก่อนที่รถจะหยุดนิ่ง ให้ร่างเล็กที่นั่งตาลุกวาวอยู่บนรถยิ้มกว้าง..

     

     

        “ติน! ป้าแจ่มมายืนรอหน้าบ้านเลย!”

    เสียงใส่ๆพูดขึ้นพลางยิ้มกว้างจนตาปิด ภาพที่ดูดเหมือนจะตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้มา ตินมองรอยยิ้มสดใสนั้นแล้วอดใจเต้นแรงไม่ได้

     

     

        “ครับ ลงไปกันเถอะ

    ทันที่ที่ตินพูดจบ ร่างเล็กก็พยักหน้าแรงๆ แล้วเปิดประตูวิ่งลงไปหาคนที่ยืนยิ้มรออยู่ปน้าบ้านทันที

     

     

        “ป้าแจ่มมมม คิดถึงจังเลยคร้าบบบบบ

     

     

        “น้องเจอย่าวิ่งสิหนู เดี๋ยวล้มหรอกลูก

    หญิงชราพูดขึ้นอย่าเอ็นดูเมื่อเห็นหนุ่มตัวเล็กวิ่งเข้ามาด้วยใบหน้าสดใส ป้าแจ่มเป็นแม่บ้านของที่นี่ ซึ่งสนิทกับเจเจตั้งแต่ยังเล็กๆ เพราะเธอทั้งใจดีและอบอุ่น จึงทำให้เจเจเคารพนับถือเป็นเหมือยญาติผู้ใหญ่คนนคง

     

     

    ฟอดดด

     

     

        “คิคิ....ชื่นใจจัง

    ปลายจมูกถูกกดไปที่แก้มของหญิงชรา ก่อนที่ร่างบางจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงร่าเริง ภาพแสนอบอุ่นที่ทำให้คนที่เดินตามมาข้างหลังอมยิ้มออกมาได้อย่างง่ายได้

     

     

        “เข้าไปข้างในกันดีกว่าค่ะ คุณผู้หญิงรออยู่แล้ว

    ป้าแจ่มพูดขึ้น แล้วส่งยิ้มอ่อนหวานให้กับลูกชายเจ้าของบ้าน ก่อนที่จะโดนเจเจกระโจนเข้ามากอดอีกครั้งแล้วพากันเดินเข้าไปในบ้าน

     

     

        “เฮ้อ..”

     

     

    .....ก็มันน่ารักซะขนาดนี้ จะไม่ให้รักได้ยังไงวะ

     

     

    ความคิดของคนที่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา ไม่ใช่เพราะหนักใจ เหนื่อยใจรู้อะไร แต่มันคงเป็นเพราะความสุขที่มันจุกแน่นอยู่ในอกจนทำอะไรไม่ถูกซะมากกว่า..

     

     

     

     

     

     

        “ต๊ายย หนูเจ..ไม่ได้เจอตั้งนาน น่ารักขึ้นเป็นกองเลยนะลูก

    ทันทีที่ร่างเล็กเดินเข้าไปในห้องอาหาร หญิงสาววัยทำงาน ในชุดเดรสสีขาวสะอาดก็เบิกตากว้างแล้วรีบวิ่งเข้ามาหาทันที

     

     

        “โถ่ อะไรกันครับ..ผมหล่อขึ้นต่างหาก

    เจเจยู่ปากนิดๆดูน่ารัก ก่อนที่จะพูดตอบออกไปเสียงอ้อมแอ้ม ให้หญิงสาวหัวเราะลั่น แล้วถามต่อเสียงใส

     

     

        “ฮ่าๆๆ จ่ะๆ...เป็นยังไงบ้าง เจ้าตินแกล้งอะไรเรารึเปล่า หื้ม?

     

     

        “แกล้งครับแกล้ง..ไอตินมันชอบแกล้งเจ แกล้งบ่อยด้วย!”

    เจเจตอบกลับก่อนที่จะทำหน้าตาให้หน้าสงสารเหมือนแมวน้อยถูกทอดทิ้ง แต่ก็ไม่วายเอี้ยวตัวหันกลับไปมองร่างสูงที่ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่ข้างหลังยิ้มๆ แล้วแลบลิ้นใส่ซะอย่างงั้น แต่เหมือนเจเจจะลืมอะไรบางอย่าง...

     

     

        “หนูเจ..ทำไมเรียกพี่เขาอย่างงั้นล่ะลูก..

     

     

    กึก..

     

     

    ร่างเล็กชะงักไปนิด เหมือนจะพึ่งนึกอะไรได้ แล้วกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดๆ หันมามองหญิงสาวที่ตอนนี้ตีหน้าดุซะจนน่าขนลุก..

     

     

    ลืมไปซะสนิท..ไอตินมันเกิดก่อนปีนึง......ต้องเรียกมันว่าพี่....

    ชิบหาย.......

     

     

        “เอ่อ...แหะๆ

    ไอคนที่พึ่งรู้ว่าตัวเองเป็นน้องก็ทำได้เพียงยกมือขึ้นมาเกาหัวแกรกๆ แล้วหัวเราะออกมาแห้งๆ พยายามส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากไอลูกเจ้าของบ้าน และป้าแจ่มที่ยืนยิ้มขำอยู่ใกล้ๆ.. แต่พวกนั้นทำยังไงน่ะเหรอ..เหอะๆ

     

     

     ยืนยิ้มแล้วทำลอยหน้าลอยตาน่ะสิ!!

     

     

        “แม่ครับ..น้องเจชอบเรียกผมแบบนี้อยู่เรื่อยเลย ดูสิ

    พอได้ที ไอเด็กโข่งก็ทำหน้าตึงแล้วพูดเสียงตินอ้อน ส่งสายตาเศร้าๆไปให้ผู้เป็นแม่ทันที อย่างที่รู้กันตั้งแต่ที่ไอตัวเล็กนี่เข้ามาเป็นส่วนนึงในชีวิต ทั้งบ้านเขาก็ทั้งรักทั้งเอ็นดูมันจนเหมือนเป็นลูกของพ่อกับแม่อีกคน แต่กฎเหล็กที่ห้ามลืมคือ... มันเป็นน้อง เขาเป็นพี่..

     

     

        “เจเจ...แม่บอกแล้วไงคะ หนูเป็นน้องตินเขานะลูก ถึงจะเกิดทีหลังแค่ปีเดียว หนูก็เป็นน้อง

    หญิงสาวหันไปพูดเสียงดุใส่เจเจที่ยืนก้มหน้างุดอยู่ข้างตัว ท่าทางที่เหมือนจะสำนึกผิดแต่มีใครหารู้ไม่ว่าในหัวมันกำลังคิดแค้นใจกับไอพี่หน้าหล่อที่ยืนยิ้มอยู่ข้างตัว จนสมองน้อยๆคิดไอเดียสุดเจ๋งขึ้นมาได้..ทำไมเขาจะไม่รู้ล่ะ คนในบ้านนี้มีจุดอ่อนเดียวกันคือ...... ต้องอ้อน...

     

     

        “น้องเจไม่ได้ตั้งใจนี่ครับ...พะ..พี่ติน...

    คนที่เพิ่งจะนึกวิธีได้ก็เอ่ยปากพูดไปแบบไม่ทันคิด แถมยังสะดุดนิดๆ ไอตรงที่ต้องเรียกคนที่พูด กูมึง กันมาเป็นปีๆว่าพี่ แต่ถึงอย่างนั้น น้ำเสียงหวานๆ ที่เหมือนจะสำนึกผิดนิดๆ บวกกับสายตาอ้อนๆทำเอาสองแม่ลูกชะงัก หัวใจชายหนุ่มเต้นแรงอย่างไม่น่าเชื่อ

     

     

        “น่ารักจริงๆ ดูสิ เจ้าตินหน้าแดงหมดแล้ว คิคิ

    หญิงสาวพูดขึ้นพลางหัวเราะคิกคัก อยู่คนเดียวก่อนที่เจเจจะหน้าร้อนขึ้นมาหน่อยเมื่อเห็นว่าไอพี่ชายชั่วคราวของตัวเองกำลังหน้าแดงอยู่จริง..

     

     

    .....นี่มันเขินใช่มั้ยวะ...แล้วกูจะเขินตามมันทำไมวะเนี่ย!!!

     

     

        “ติน พาน้องไปอาบน้ำก่อนเถอะลูก..แล้วค่อยลงมากินข้าว

     

     

        “คร้าบแม่...ป่ะ..ไปอาบน้ำกันครับ น้องเจเจ หึหึ

    ตินพูดพลางยิ้มกรุ่มกริ่ม สายตาแพรวพราวมองเพื่อนตัวเล็กที่ตอนนี้เอาแต่มองค้อนตัวเองทั้งๆที่ยังหน้าแดงอยู่แท้ๆ เจเจเดินตามไอคุณพี่ติน ขึ้นไปบนห้องนอนกว้างด้วยอารมณ์ขุ่นนิดๆ แต่ทันทีที่ทั้งสองปิดประตู....

     

     

    แกร๊ก..

     

     

        “ไอ-สัส-ติน!!!!”

    ทันทีที่ประตูปิดลง น้องเจเจคนนี้ก็ตะโกนลั่น แถมยังหยิบหมอนใบน้อยๆ ข้างตัวปาเข้าใส่หน้าเพื่อนรักเต็มแรง แบบที่ตินผงะไปนิดก่อนที่จะเดินตรงเข้าไปหาคนที่กำลังอาละวาดอยู่ข้างเตียง

     

     

    หมับ!

     

     

        “น้องเจคร้าบบ อะไรเนี่ย อยู่นิ่งๆสิ!!”

     

     

        “อ๊ากกกก ปล่อยกู๊!!”

    ร่างเล็กดิ้นสุดแรงเมื่อไอลูกชายเจ้าของบ้าน กอดหมับเข้าที่เอวแถมยังอุ้มเขาจนตัวลอย เข้าไปในห้องน้ำแสนหรูนั่นอีก

     

     

    ปั่ง!!

     

     

    ประตูห้องน้ำปิดลงอย่างแรงพร้อมกับเจ้าของห้องที่ล็อกกลอนประตูทันที เหมือนกับว่ากลัวอีกคนจะเรียกให้คนอื่นมาช่วยซะอย่างงั้น ดวงตาคู่คมจ้องมองหน้าเพื่อนรักที่ตอนนี้ต้องจำใจเป็นน้องชายของเขา เจเจมองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจ ก่อนที่เสียงหวานๆจะถามออกมา

     

     

        “ทำบ้าอะไรของมึงเนี่ย! จะเข้ามาทำไม!”

     

     

        “พูดไม่เพราะเลยนะครับน้องเจ...

     

     

        “น้องพ่อง!”

     

     

    เออ เจครับ มึงช่วยอ่อนหวานกับกูหน่อยเหอะ!

     

     

    ตินได้แต่คิดในใจ กับท่าทางเหมือนแมวน้อยขู่ฟ่อๆ แต่ก็ไม่กล้าที่จะทำอะไร เจเจมองอีกคนตาขวางเหมือนจะหงุดหงิดตั้งแต่อยู่ข้างล่างที่ต้องยอมเรียกมันว่าพี่ แต่จะทำไงได้ ก็อยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่มันต้องรักษามารยาท แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรให้รักษาแล้ว! ... นอกซะจาก..ความปลอดภัยของตัวเองเนี่ย!

     

     

        น้องเจพูดไม่เพราะเลยนะครับ...แบบนี้พี่ตินต้องลงโทษ..

    เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นมาเบาๆ กับสายตาที่เคยแสนจะอบอุ่นและดูอ่อนโยน ตอนนี้มันดูแพรวพราวกว่าปกติ ใครว่าสายตาไออเล็กซ์มันน่ากลัวแล้ว ไอบ้านี่ตอนนี้มันน่าขนลุกสุดๆเลยแหละ!

     

     

        “ตะ..ติน...มึง...เล่นบ้าอะไร

    ทันทีที่ร่างเกร่งเดินเข้ามาใกล้ จนคนที่ถอยหนีหลังชิดกำแพง ริมฝีปากเล็กๆก็เอ่ยขึ้นมาทันที เหมือนจะพึ่งตั้งสติได้ แต่อีกคนก็ไม่มีท่าทีที่จะหยุดการกระทำของตัวเอง..มันเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จนมาหยุดตรงหน้า...ใกล้กันแค่เพียงฝ่ามือกั้น..

     

     

        “ติน...มึง....

     

     

        “น้องเจเจ...ของพี่ติน......

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    -อัศวินดาบชมพู-

     

    100%-------------------------------------------------100%

     

     

     

    -มาแล้วค้า ขอโทษทีที่มาช้าน้า ไปต่างจังหวัดมา นี่ก็รีบมาปั่นเอาตอนเที่ยงคืนกว่าๆ ฮ่าๆ ตาล้ากันเลยทีเดียว ยังไงก็อย่าลืม เลื่อนลงไปข้างล่างแล้วคลิกแสดงความคิดเห็นกันให้ชื่นใจหน่อยนะเจ้าคะ ^^

    -คิดว่า ตอนหน้าอาจจะมี NC ให้ชมกันอีกแล้วนะ สำหรับ พี่ตินกับน้องเจเจเนี่ย ถ้าตามพล็อตก็อีก 3 ตอนจ้า แล้วคู่แทนกับนิกกี้จะโผล่มา แต่เค้าเห็นว่าคู่ของอเล็กซ์กับบัทเตอร์ไม่ค่อยมีใครสนใจเท่าไหร่ก็เลยจะย่อๆ ให้หน่อยแล้วกันเพราะความจริงคู่นี้เขาต้องยาวไปถึงตอนที่ 20 นู่น แต่คิดว่าแค่ 15 ก็คงเกินพอแล้ว ฮ่าๆ

     

    **ขอบคุณที่ติดตามจ้า**

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×