ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [yaoi]want you:คุณเพื่อนครับ กูต้องการมึง

    ลำดับตอนที่ #33 : ตอนที่ 25 หึงระยะสุดท้าย [100%]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 481
      3
      2 ก.ย. 58

     

        ตอนที่ 25 หึงระยะสุดท้าย

     

     

     





     

    ติน

     

         สวัสดีครับน้องพีม ผมพูดทักทายเด็กหนุ่มตรงหน้าด้วยน้ำเสียงปกติ ปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆ ว่าเด็กคนนี้เวลาใส่ชุดแบบนี้แล้วดูน่ารักสุดๆ แต่ถึงอย่างงั้นก็เถอะ ความหน้ารักตรงหน้าทำอะไรผมไม่ได้หรอก

     

         “ทำไมช่วงนี้พีมไม่ค่อยเจอพี่ตินเลยฮะ

     

         “ไม่รู้สิ ช่วงนี้พี่เลิกเรียนแล้วก็กลับบ้านเลยน่ะ เดี๋ยวนี้มีเรียนแค่ช่วงเช้าด้วย ผมพูดตอบออกไป แบบที่คนตรงหน้าก็พยักหน้ารับ ไม่รู้คิดถูกหรือคิดผิด ที่ปล่อยให้เจเจกลับไปรอที่รถ แต่ก็น่าจะดีกว่าให้สองคนนี้มาก่อสงครามขนาดหย่อมกันตอนนี้ล่นะ แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจ ทำไมเด็กคนนี้ถึงยังกล้ามายุ่งกับผมอีก.. ในเมื่อวันนั้นที่ร้านอาหารผมคิดว่าผมก็พูดทุกอย่างออกไปชัดเจนแล้วนะ

     

         “คิดอะไรอยู่ฮะพี่ติน

     

         “..คิดอะไรไปเรื่อยน่ะครับ แล้วพีมมาที่นี่ทำไมเหรอ

     

         “เอ่อ..ผมเอาของมาให้พี่ที่รู้จักน่ะฮะ

     

         “ครับ งั้นรีบไปเถอะ เดี๋ยวจะมืดเอาซะก่อน ผมพูดออกไป ไม่อยากจะให้มันเหมือนว่าเป็นการไล่เดี๋ยวน้องเขาจะเสียใจซะเปล่าๆ เด็กน้อยตรงหน้าระบายยิ้มกว้างให้ผมก่อนที่จะพูดเสียงใส

     

         “พี่ตินไปส่งพีมได้มั้ยฮะ

     

         “หืม? ผมขานในลำคอพลางเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม ไม่ใช่ว่าไม่รู้ว่าพีมกำลังพูดถึงอะไร แต่ผมไม่เข้าใจ..

     

         “ก็นี่มันจะหกโมงแล้วนี่น่า พีมไม่อยากกลับมืดๆคนเดียวนี่ฮะ เด็กตรงหน้าพูดเสียงเอื่อย ทำหน้าหม่นลงนิด แบบที่ผมเองก็คิดตามแล้วคิดว่ามันก็จริงอย่าที่พูด นี่ก็จะหกโมงแล้วถ้าปล่อยให้เด็กตัวเล็กๆแบบนี้กลับบ้านคนเดียวก็คงไม่ดีเท่าไหร่ ถึงจะเป็นเด็กผู้ชายก็เถอะ.. แล้วไอเจเจมันจะว่าอะไรมั้ยนะ..

     

             ความคิดของชายหนุ่ม ที่ตอนนี้เขาเองก็ไม่รู้เลยว่า คนที่นั่งรออยู่ในรถมองมาด้วยสายตาแบบไหน..

     

         “นะฮะ..ไปส่งพีมนะ เด็กน้อยตรงหน้าผมส่งเสียงออดอ้อนเสียงใส พร้อมกับกระพริบตาปริบๆ ให้ดูน่ารักน่าเอ็นดู แต่มันกลับมีอีกความคิดนึงที่แทรกขึ้นมาว่า.. ถ้าผมพาพีมไปด้วยมั่นใจว่าต้องโดนไอเจเจมันอาละวาดแน่ๆ

     

         “เดี๋ยวพี่ขอถาม...

     

    แกร๊ก..

     

         “ขอโทษที่นะจ๊ะน้องติน.. พอดีโต๊ะทำงานพี่มันรกไปหน่อยเลยต้องหาซะนาน แต่ก่อนที่ผมจะได้พูดตอบบอกไปจบกระโยค ประตูห้องทำงานของประธานคณะก็เปิดขึ้น หญิงสาวร่างสูงโปร่งก็เปิดประตูออกมาพูดเสียงหวาน แบบที่ผมเองก็ได้แต่ระบายยิ้มในแบบฉบับของตัวเองไปให้

     

         ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมากครับพี่อิง ผมพูดตอบไปเสียงนุ่ม แบบที่พี่สาวแกก็ส่งยิ้มหวานเยิ้มมาให้ พร้อมกับสายตาหวานๆ ที่ดูจะขัดกับลุคสาวสวยใสของพี่แกมาก

     

         จ้ะ งั้นพี่ทำงานต่อก่อนนะจ๊ะ

     

         ครับผม ผมยืนมองจนร่างสูงเข้าไปในห้องเรียบร้อยก่อนจะหันมาสบตาเด็กหนุ่มตรงหน้าอีกครั้ง พีมมองหน้าผมงงๆ เหมือนจะถามอะไรสักอย่างแต่ก็ไม่กล้า.. แต่เรื่องนั้นช่างมันเถอะ

     

         เรื่องที่จะไปส่งเราน่ะ พี่ขอถามเจเจก่อนแล้วกันนะ

     

         พี่เจเจมาด้วยเหรอฮะ.. แล้วมันก็เป็นอย่างที่คาด เสียงใสๆ หม่นลงไปอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับเจ้าของเสียงที่ก้มหน้าลงนิดก่อนที่จะช้อนตามองผม.. ยอมรับเลยว่าเวลาเห็นท่าทางแบบนี้แล้วมันใจอ่อนได้ง่ายๆ แต่ถ้าผมไปส่งพีมจริงๆ ไอเจเจมันคง..

     

         ได้ของแล้วก็ไปสักที่สิวะ!!”

     

    เฮือก!!

     

         ทั้งผมทั้งน้องพีมที่สะดุ้งโหยงกับเสียงใสๆ แหลมๆ ที่ดังมาจากด้านหลัง ผมหันขวับไปมองต้นเสียงที่ตอนนี้สายตาของมันกำลังจ้องมาที่ผมตาเขียว..

     

         “ออกมาทำไมครับ แดดมันร้อน ผมเดินเข้าไปหาคนตัวเล็กตรงหน้า พร้อมกับเอาเอกสารในมือมาบังแดดให้เป็นการเอาใจ หวังว่ามันจะไม่โวยวายแบบที่ผมคิด แต่ดูจากสีหน้าของมันตอนนี้แล้ว คิดว่าคงช่วยอะไรไม่ได้มากเท่าไหร่..

     

     

         “ร้อนก็กลับสิ! ยืนคุยอะไรกันอยู่ได้!!” จู่ๆ ผมก็ยิ้มออกมาซะดื้อๆ มองหน้าคนที่กำลังหายใจฟึดฟัดท่าทางโกรธจัด แบบที่ผมก็พอจะเดาได้ว่ามันคงนั่งมองผมกับน้องพีมอยู่นานแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงทำให้มันตัดสินใจลงมาจากรถแบบนี้

     

                   แบบนี้เรียกว่าหึงระยะสุดท้ายแล้วสินะครับ หึหึ

     

         “พี่เจเจ..สวัสดีฮะ น้องพีมยกมือขึ้นไหว้ไอเจเจ โดยที่มันก็ทำแค่ปรายตามองแล้วพยักหน้ารับส่งๆ อยากจะดุมันอยู่หรอกที่ทำท่าทางกับน้องแบบนั้น แต่พอรู้เหตุผลแล้วก็ไม่อยากจะพูดว่าอะไรสักเท่าไหร่

     

         เอ่อ.. เจเจ น้องพีมเขาขอ...

     

         “ไม่ให้!! ขออะไรกูก็ไม่ให้ทั้งนั้นแหละ!!” อยากจะหัวเราะออกมาดังๆ กับคนที่ปกติแล้วรักเด็กยิ่งกว่าอะไร จะเด็กหญิงเด็กชาย ขอแค่หน้าตาน่ารัก พูดจาสุภาพ ไอเจเจคนนี้แทบจะเอามาเลี้ยงเป็นลูก แต่มันน่าขำมั้ยครับ ถ้าจู่ๆมันก็มาออกอาการว่าไม่ชอบเด็กคนนี้ซะมากๆ

     

         “ไม่เอาหน่าเจ ใจเย็นๆสิครับ

     

         “อะไร กูก็ไม่ได้ใจร้อนอะไรนี่!”

     

               นี่ขนาดไม่ใจร้อนนะครับเจ...

     

          ผมแอบกลั้นขำกับการกระทำของอีกคน จะว่ามันดูตลกก็ใช่ ดูน่ารักก็ใช่ คนที่บอกว่าไม่ได้หึงไม่ได้หวงแต่กลับมามีท่าทางแบบนี้มันเรียกว่าอะไรกันล่ะครับ หรือนี่มันยังไม่ชัดเจน?

     

         “เอ่อ..ตกลงไปส่งพีมได้มั้ยฮะ ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไรให้มันเคลียร์กับเจเจเสียงใสๆ ก็แทรกขึ้นมา ทั้งผมทั้งเจหันไปมองที่ต้นเสียง แต่ดูเหมือนว่าอารมณ์ของเราสองคนจะแตกต่างกันราวฟ้ากับเหวเลยล่ะครับ

     

         “ทำไมต้องไปส่งมันด้วยไอติน!”

     

         “เดี๋ยวๆ.. น้องเขาถามว่าจะไปส่งได้รึเปล่า

     

         “แล้วมึงจะไปส่งมันทำไม!!” เจเจมันพูดเสียงดังลั่น แบบที่ผมเองก็อ้าปากค้าง กำลังงงว่าตอนมันเป็นบ้าไปแล้วหรือยังไง ผมจำได้ว่ายังไม่ได้พูดสักคำว่าจะไปส่ง.. แต่เหมือนว่าอธิบายอะไรไปตอนนี้มันจะไม่ฟังแล้วล่ะครับ..

     

         “ก็พีมไม่อยากกลับมืดๆ คนเดียวนี่ฮะ..

     

         “ตอนมามึงก็มาคนเดียวได้!!”

     

         “แต่ตอนกลับมันน่ากลัวนี่ฮะ.. เหมือนตอนที่ผมคิดเอาไว้ไม่มีผิด สงครามขนาดหย่อมๆ เริ่มเกิดขึ้นระหว่างสองคนนี้ คนนึงก็เหมือนมีไฟอยู่รอบตัว ส่วนอีกคนก็ทำตัวเป็นน้ำมันราดกองไฟให้มันแรงขึ้นไปอีก

     

            นี่ผมควรจะดีใจรึเปล่าครับ...

     

    -------50%-------

     

         “ไปรอที่รถก่อนเถอะเจ เดี๋ยวกูคุยเอง

     

         “คุยบ้าอะไร! กูเห็นมึงยืนคุยกับมันมานานแล้วนะ!!” ร่างเล็กแหวขึ้นเสียงแข็ง จ้องหน้าชายหนุ่มตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง แบบที่ตินก็ทำได้เพียงถอนหายใจอีกเฮือกใหญ่แล้วหันไปมองหนุ่มน้อยอีกคน

     

         “น้องพีมครับ พี่ต้องขอโทษด้วยแล้วกัน..

     

         “ไปขอโทษมันทำไม!!” ยังไม่ทันพูดจบประโยค ไอคนไม่มีเหตุผลก็โวยวายขึ้นมาอีก ให้ตินหันกลับมามองตาดุๆ แล้วหันไปพูดต่อ

     

         “ขอโทษนะครับน้องพีม พี่คงไปส่งไม่ได้ ตินพูด

     

         “แต่พี่ตินฮะ...

     

         “พี่ไม่อยากให้ไอเจมันงอนอีกน่ะ ร่างสูงพูดพลางเอามือไปวางแปะบนหัวของเพื่อนสนิท(คิดไม่ซื่อ)แล้วโยกไปมาเหมือนเด็กๆ แบบที่ปกติแล้วเจเจต้องโวยวายขึ้นมาเสียงดังแต่ครั้งนี้กลับทำเพียงหายใจฟึดฟัดแล้วปล่อยให้อีกคนโยกหัวของตัวเองไป

     

         “ก็ได้ฮะ เด็กหนุ่มตอบเสียงแผ่ว ก้มลงหม่นๆ แบบที่เจเจก็รู้ทันไม่ได้มีความสงสารเลยสักนิด ในขณะที่ความคิดหนึ่งของนายจิราวัตร์ก็ผุดขึ้นมาในหัว..

     

            เด็กนี่มันยังทำท่าทางแบบนี้เรียกคะแนนสงสารได้ ทำไมเราจะทำบ้างไม่ได้..

     

          แค่คิดอย่างเดียวไม่พอ ใบหน้าหวานเงยขึ้นมองเพื่อนข้างตัว ดวงตากลมโตเป็นประกายกระพริบถี่ๆ แบบที่ตินหันมามองก็อดที่จะสงสัยไม่ได้

     

         “อะไรเข้าตาครับเจ

     

             เข้าตาบ้านมึงไอ้บ้า!!

     

    เจเจร้องลั่นในใจ พ่นลมหายใจแรงๆออกมาให้อีกฝ่ายรู้ว่ากำลังอารมณ์ขุ่นเต็มที่ แต่ก็ยังไม่เลิกล้มความพยายาม มือเล็กๆเอื้อมไปกอดแขนแกร่งแน่น ก่อนที่ใบหน้าหวานจะซบลงกับต้นแขน... การกระทำที่ทำให้นายราติณท์เกิดความรู้สึกแปลกๆในอก..

     

       ตึกตัก! ตึกตัก! ตึกตัก!

     

         “เจครับ..

     

          “ร้อนจะตายอยู่แล้วนะ กลับกันเถอะติน เสียงหวานที่ติดอ้อนนิดๆ ยิ่งทำให้ใบหน้าคมที่ขึ้นสีแดงระเรื่อจากแสงแดด ตอนนี้ยิ่งขึ้นสีแดงมากขึ้นไปอีก ปฏิกิริยา ที่ทำให้บุคคลที่สามที่กำลังมองอยู่เกิดความไม่พอใจ..

     

         “พีมขอตัวก่อนนะฮะ เด็กหนุ่มพูดจบก็หมุนตัวเดินกลับไป แบบที่เจเจก็ยกยิ้มขำนิดๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมาสบตาร่างสูงอีกครั้ง สายตาที่มองมาทำให้เจเจชะงักนิ่งก่อนที่จะใจเต้นไม่เป็นจังหวะอย่างไม่มีสาเหตุ แล้วดูเหมือนว่าคนที่เพิ่งแสดงความเป็นเจ้าของออกไปเพิ่งจะได้สติ

     

                 อะไรวะ..เมื่อกี้.. กูทำอะไรลงไปวะเนี่ย!!!

     

         “กลับเถอะครับเจ นายราติณท์พูดเสียงนุ่ม พร้อมกับเอากระดาเอกสารที่เพิ่งได้มา มาพัดให้คนตัวเล็กที่กำลังเหงื่อท่วมตัว แบบที่คนที่กำลังอายสุดขีดตวัดสายตามามองแล้วพูดขึ้นเสียงแข็ง

     

         “ก็รีบกลับดิวะ!! จะยืนรออะไรเล่า!!”

     

     

    ----------------------------------------------

     

     

         ยังไม่เลิกเขินรึไงครับเจ

     

         “เขินอะไรของมึง

     

         “หึหึ ใครสอนให้ทำแบบนั้นครับ หืม? คำถามที่ทำให้คนฟังคิดว่าฆ่ากันให้ตายยังจะดีกว่าต้องมาตอบคำถามแบบนี้ เจเจนั่งตัวแข็งทื่อ ในขณะที่คนมองกำลังอมยิ้มแบบที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามีความสุขแค่ไหน

     

         ขณะนี้นาฬิกาที่เข็มสั้นชี้เลขแปด แข็มยาวเลยเลขสิบสองมานิดๆ ฟ้องฟ้ามืดสนิดมองไม่เห็นดาวสักดวง ชายหนุ่มสองคนที่กำลังนั่งอยู่บนระเบียงของผับย่านใจกลางเมืองสถานที่ ที่เขาสองคนคุ้นเคยดี..

     

         “แล้วมึงไม่ลงไปดูร้านรึไง มานั่งเล่นทำไมตรงนี้อยู่ได้

     

         “วันนี้คนไม่ค่อยเยอะนี่ครับ ให้เด็กๆ ดูกันไปก็ได้ตินพูดพลางเงยหน้ามองขึ้นไปบนฟ้าในขณะที่เพื่อนตัวเล็กก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วหันมามองเสี้ยวหน้าคมเข้มของอีกฝ่าย

     

         “เฮ้อ..

     

         “หืม? เป็นอะไรครับเจ เสียงทุ้มนุ่มถามขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงถอนหายใจ เจเจหันหน้าเข้าหาตัวอาคารแล้วเอนหลังพิงกับระเบียงก่อนที่จะพูดออกมาเสียงแผ่ว

     

         “เปล่า กูแค่..เซ็งๆ

     

         “เซ็งอะไรครับ

     

         “..ก็เซ็งอะ! มึงจะถามไรนักหนาวะ เจเจหันมาแวดเสียงดัง ก่อนจะพ่นลมหายใจฟึดฟัดแบบที่คนมองก็ขมวดคิ้วฉับแล้วขยับตัวมายืนอยู่ตรงหน้า

     

         “เป็นอะไรหื้ม

     

         ช่างเหอะ กูขี้เกียจพูด เจเจพูดปัดจ้องตากับนายราติณท์เหมือนจะสื่อให้รู้ว่าตอนนี้ยังไม่พร้อมที่จะพูดอะไรจริงๆ แล้วดูเหมือนอีกฝ่ายก็จะเข้าใจได้ดี ตินถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วพูดขึ้น..

     

         “เฮ้อ โอเคครับ หิวอะไรมั้ยเดี๋ยวให้เด็กเอาขึ้นมาให้ ร่างสูงพูดถามเสียงนุ่ม พร้อมกับระบายยิ้มอ่อนๆให้ อย่างที่คนมองก็คลายความหงุดหงิดลงมานิด เจเจนิ่งไปก่อนที่จะตอบออกมา

     

         “อืม.. ไม่ดีกว่า

     

         “งั้นเดี๋ยวกูลงไปดูร้านแป๊บนึงแล้วกัน เดี๋ยวขึ้นมา

     

         “ไปด้วย!” เสียงใสๆ พูดขึ้นมาทันควันที่ตินพูดจบประโยค ท่าทางที่เหมือนเด็กๆ ติดผู้ใหญ่ทำให้ตินหลุดขำออกเบาๆ โดยที่เจเจก็เบ้ปากใส่ รู้ทันว่าไอ้เพื่อนบ้านี่มันกำลังคิดอะไร แต่ดูเหมือนตอนนี้คนที่ปกติจะต้องเขินอายดูจะไม่สนใจอะไรแล้ว

     

         “ฮ่าๆ ครับๆ มาสิ

     

         “ขำบ้าอะไรของมันวะ (-3-) เจเจพึมพำกับตัวเองขณะที่เดินลงมาจากชั้นสามของผับชื่อดัง เสียงเพลงจังหวะเร้าใจดังกระหึ่มไปทั่วห้องโถงกว้าง ดวงตาคู่โตกวาดมองไปรอบๆ แล้วทำท่าทางเหมือนกำลังใช้ความคิด..

     

         “เจเจ คิดอะไรอยู่ครับ

     

    เฮือก!!

     

         ดูเหมือนว่าท่าทางแปลกๆ ของเพื่อนตัวน้อยนี่จะทำให้คนที่คอยสนใจอยู่ตลอดเริ่มรับรู้ได้ ตินถามขึ้นพร้อมกับเลิกคิ้วแล้วมองไปตามสายตาที่เจเจมองอยู่เมื่อครู่

     

         “คิดอะไรเล่า กูก็แค่เหม่อๆ

     

         “แค่เหม่อ? ตินขมวดคิ้วฉับมองหน้าอีกคนอย่างจับผิด เจเจถอนหายใจอีกรอบแล้วเดินนำไปที่ห้องทำงานของเจ้าของผับ ตลอดทางพนักงานภายในร้านหันมาทักทายกันไม่ขาด โดยที่ทุกการกระทำของร่างเล็ก ถูกจ้องมองจากสายตาของชายหนุ่มร่างสูงใหญ่อีกคน..

     

         “ไม่ได้เจอซะนานเลย..น้องเจเจ

     

        

     

     

    -อัศวินดาบชมพู-

    100%------------------------------------------100%

    -มาแล้วจ้า ขอโทษที่มาช้านะคะ เมื่อคืนบอกไว้ในแฟนเพจว่าจะมาลงให้ก็ไม่ได้มา T^T เค้าไม่สบายง่า ตอนนี้ก็เริ่มดีขึ้นแล้ว มีไอเลิฟยู เอ๊ย! ไอค่อกแค่กๆ บ้างเล็กน้อย ยังไงก็ส่งกำลังใจให้ไรท์ทางคอมเม้น/คะแนนโหวต แล้วกันนะค้า ><

     

    **ขอบคุณที่ติดตามค่า**

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×