ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฮองเฮาไร้รัก [MarkBam] #มบฮองเฮาไร้รัก [END]

    ลำดับตอนที่ #12 : ๑๒.เดทแรกของฮ่องเต้กับฮองเฮา 130%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 12.99K
      865
      6 เม.ย. 65













    นี่เป็นอีกครั้งที่คุณสามีของแบมแบมกำลังทำให้เธอประหลาดใจ ใช่ประหลาดใจจริงๆไม่ได้เป็นคำพูดเปรียบเทียบแต่อย่างใด เมื่อวานเขาส่งจดหมายมาว่าตั้งแต่บ่ายวันนี้เขาจะว่างและอยากพาเธอไปเที่ยวนอกวังบ้าง โดยในจดหมายเองก็มีข้ออ้างร้อยแปดที่ไม่ว่าแบมแบมจะอ่านมันกี่ครั้งก็ดูเหมือนว่าเขากำลังชวนเธอเดทอยู่ ขอประทานโทษเถอะ!! นี่ไม่ได้เรียกว่าชวนเดทเลยแม้แต่น้อย!! ดูเขาเขียนทิ้งท้ายไว้สิ!!

                เตียวเอ๋อร์ ในวันพรุ่งนี้เจิ้นว่างตั้งแต่บ่าย เจิ้นจำได้ว่าเตียวเอ๋อร์เคยหนีไปเที่ยวมาแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนี้เราไปด้วยกันสองคนดีหรือไม่? หากยินดีจะไปล่ะก็ไปรอเจิ้นที่สวนของเจ้าแล้วเจิ้นจะไปรับ เตียวเอ๋อร์อาจจะลืมว่าพรุ่งนี้เสด็จแม่นัดเจ้าไปคุยเล่นด้วย หากจะไปก็อย่าลืมบอกเสด็จแม่ก่อนด้วยนะ

                เรื่องที่แม่สามีอยากคุยกับเธอก็คงไม่พ้นเรื่องที่เมื่อไหร่จะมีหลานให้อุ้มแน่ๆ เพราะฉะนั้นก็ต้องเลือกหนีแม่สามีและไปเที่ยวเล่นกับคุณสามีดีกว่า

                “เสด็จแม่เพคะ ลูกลืมบอกเสด็จแม่ไปเรื่องหนึ่งเพคะ” แบมแบมพูดขึ้นพร้อมมองแม่สามีที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม “ตอนบ่ายเสด็จพี่ชวนลูกไปนอกวังเพคะ หากเสด็จแม่จะยกเลิกนัดของเราแล้ว

                “จริงรึ! เตียวเอ๋อร์ไปเที่ยวกับพี่เขาได้ตามสบายเลยลูก ไม่ต้องห่วงแม่หรอกลูก” นางกล่าวด้วยน้ำเสียงดีอกดีใจอย่างไม่คิดจะปกปิด “แม่ได้ยินจากอี้ฟานว่าฮ่องเต้ยกสวนให้ลูก เป็นความจริงหรือไม่?”

                “เอ่อจริงเพคะ” แบมแบมรู้สึกมึนงงเล็กน้อยที่อีกฝ่ายทราบข่าวไวมาก “ลูกจำไม่ได้เลยว่าเคยบอกพี่อี้ฟานเรื่องสวน”

                “คิกๆ ไม่เอาน่า” ไทเฮาหัวเราะคิกคักอย่างสนุกสนานพร้อมมองหน้าลูกสะใภ้อย่างรู้ทัน “มิใช่ว่าลูกรู้อยู่แล้วหรอกหรือว่าใครทำสวนให้”

                “เสด็จแม่นี่จริงๆ ใช่เพคะลูกแค่บังเอิญไปเห็นตอนชินอ๋องทั้งสามช่วยเสด็จพี่ทำสวน” แบมแบมยิ้มหวานพร้อมตอบตามความจริง

                “ไม่ต้องไปสนใจหรอก พวกเขาโกรธกันไม่นานหรอก” ไทเฮาพูดขึ้นอย่างรู้ทันพร้อมยิ้มกว้าง “เตียวเอ๋อร์ไม่คิดจะมีหลานให้แม่จริงๆอย่างนั่นหรือ?”

                “” ชิบหาย!!! มือเรียวกำแก้วชาไว้แน่นพร้อมสูดหายใจลึกๆก่อนจะพูดต่อ “เสด็จแม่เพคะ ลูกขอตอบตามความจริงเลยนะเพคะ”

                “ย่อมได้”

                “วันแรกที่ลูกกับเสด็จพี่แต่งงานกัน พวกเราทั้งสองสัญญาว่าจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันไม่ว่าจะเกิดอะไรพวกเราก็จะยืนเคียงข้างกัน แต่เมื่อไม่นานมานี้เราสองคนพึ่งทำเรื่องที่เกินคำว่าเพื่อนไปแล้วที่สำคัญก็มีอยู่สองอย่าง” แบมแบมเงยหน้าขึ้นมองแม่สามีพร้อมพูดอย่างจริงจัง “หนึ่งลูกไม่ชอบเด็กเพคะและสองเสด็จพี่ไม่เคยพูดว่ารักลูกเลยสักครั้งลูกต้องการคำยืนยันว่าตอนนี้ลูกกับเสด็จพี่เป็นอะไรกัน”

                “เตียวเอ๋อร์แม่ไม่ควรบังคับลูกเรื่องนี้จริงๆ เอาเถอะวันนี้ก็ไปเที่ยวให้สนุกนะ”

                “เพคะเสด็จแม่”

     

                “จะพาหม่อมฉันไปที่ไหนหรือเพคะ?” แบมแบมถามขึ้น เพราะตั้งที่ออกจากวังอีกฝ่ายก็กึ่งลากกึ่งจูงนานมานานแล้ว “หม่อมฉันเดินจนเมื่อยแล้วนะเพคะ”

                “คืนนี้มีปล่อยโคมลอย เราจะกลับวังก็ต่อเมื่อได้ปล่อยโคมแล้ว” คำตอบของคุณสามีทำให้แบมแบมอึ้งไปครู่หนึ่ง

                “ก็หมายความว่าอยู่นอกวังจนกว่าจะมืดหรอกเพคะ!!

                “ใช่  แล้วตอนนี้อยู่นอกวังแล้วนะ เตียวเอ๋อร์ควรทำตัวให้เหมือนว่าพวกเราเป็นคู่สามีภรรยาธรรมดาทั่วไป” ต้วนอี้เอินเอ่ยเตือนพร้อมยิ้มอย่างเอ็นดู “ดูสิ  ตรงหัวมุมมีร้านเครื่องประดับด้วย! เตียวเอ๋อร์อยากไปดูหรือไม่?”

                “ไม่เจ้าค่ะ! น้องมีเยอะจนทุกวันนี้น้องจะกลายเป็นตู้เก็บเครื่องประดับเดินได้อยู่แล้ว” แบมแบมพูดอย่างไม่พอใจ ใช่! มันใช่เรื่องไหมล่ะที่กลับวังดึกๆดื่นๆ รอบที่แล้วมีคนมาลอบฆ่าในวังยังไม่เข็ดรึอย่างไร

                “ก็จริงพี่จำได้ว่าถ้าเดินไปอีกหน่อยจะมีโรงเตี๊ยมอยู่ อาหารที่นั่นอร่อยมากเลยทีเดียว” ต้วนอี้เอินเอ่ยชวนพร้อมยิ้มหวาน

                “จะอร่อยเท่าอาหารที่พ่อครัวหลวงทำหรือเพคะ?” แบมแบมกอดอกพร้อมพูดขึ้น “ไม่กลัวจะโดนลอบทำร้ายหรือเพคะ?”

                “ไม่เลยสักนิด บอกแล้วนะว่าวันนี้เราเป็นแค่คู่สามีภรรยาธรรมดาสามัญ” มือหนากุมมือของเธอไว้แน่นพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

                “เชื่อได้ไหมเนี่ย”

                “ได้สิ  พี่เป็นสามีเจ้านะ”

     

     

                  บางครั้งแบมแบมก็สงสัยว่าผู้ชายตรงหน้าเธอนั้นเป็นฮ่องเต้ผู้ยิ่งใหญ่แห่งแคว้นจริงหรือเปล่า เพราะท่าทางของเขาตอนนี้ดูเหมือนเด็กๆเสียมากกว่าคนที่จะเป็นชายที่กุมอำนาจของทุกอย่างในแคว้นแห่งนี้  หรือเพราะอยู่บนจุดสูงสุดเหนือทุกคนมากและนานจนไม่มีเวลาทำอะไรในสิ่งที่ตัวเองต้องการกันแน่ เพราะเท่าทีฟังๆจากเสด็จแม่มานั้นทำให้รู้ว่าอดีตฮ่องเต้ค่อนข้างเป็นคนที่เข้มงวดพอสมควร จนทำให้เหล่าลูกสาวลูกชายไม่ได้ทำอะไรหลายๆอย่างในช่วงวัยที่ยังเป็นวัยรุ่นหากคิดตามนั้นล่ะก็มันก็ไม่ได้เสียหายอะไรถ้าเธอจะปล่อยให้เขาได้สนุกกับชีวิตบ้าง อย่างน้อยก็ดีกว่ามีเมียน้อยเป็นงานที่เต็มโต๊ะละนะ

                “ดูท่านพี่จะสนุกกับการออกมาเที่ยวครั้งนี้มากนะเจ้าคะ” แบมแบมพูดขึ้นในขณะที่กำลังมองผู้เป็นสามีพวกแสดงละครเร่มาที่มาแสดงอยู่ริมทาง

                “น้องไม่สนุกอย่างนั้นหรือ?” ต้วนอี้เอินเอ่ยถามทั้งๆที่สายตายังคงจับจ้องอยู่กับพวกนักแสดง

                “น่าสนใจดีเจ้าค่ะ เป็นความสามารถพิเศษที่ถ้าหากไม่ได้รับการฝึกก็ไม่ควรทำตาม”

                “น่าให้ไปแสดงที่วังหลวงยิ่งนัก”

                “หากทำแบบนั้นล่ะก็คงโดนพี่อี้ฟานบ่นจนหูชาแน่ๆ อย่าทำเลยนะเจ้าคะ” พอนึกถึงพี่สามีที่มักจะบ่นนู่นบ่นนี่ได้ดีราวกับผู้หญิงวัยทองทีไรก็อดกลัวไม่ได้ “ยิ่งตอนนี้แพ้ท้องแทนพี่สะใภ้ก็ยิ่งบ่นเก่งกว่าเดิม”

                “ฮ่าๆ นั้นสินะ” ฮ่องเต้หนุ่มหัวเราะชอบใจพร้อมจูงมือเธอออกจากฝูงชนที่กำลังชมการแสดงตรงหน้าพร้อมเดินตรงไปทางร้านค้าอีกร้านที่อยู่ไม่ไกลนัก “เป็นร้านค้าที่ดูน่าสนใจดี”

                แบมแบมกวาดสายตามองรอบๆร้านอย่างสนอกสนใจก่อนจะยิ้มให้ผู้เป็นสามี “น่าสนใจจริงๆด้วยเจ้าค่ะ  ดูไปดูมาก็ไม่ได้เหมือนร้านค้าแต่เหมือนร้านหมอดูเสียมากกว่า”

                “แค่กๆ นั่นใคร!!” เสียงไอเหมือนคนป่วยออดๆแอดๆดังขึ้นมาจากในร้านพร้อมเสียงพูดแหบห้าวเหมือนคนเจ็บคอ “ข้าถามได้ยินหรือ?”

                “ต้องขอโทษท่านยายจริงๆขอรับ บังเอิญว่าข้ากับภรรยาผ่านมาเห็นร้านของท่านยายแล้วเกิดสนใจจึงแวะเข้ามาดู พวกเราทั้งสองไม่ได้เจตนาร้านจริงๆนะขอรับ” แบมแบมอึ้งเล็กน้อยเมื่อเห็นคุณสามีพูดประโยคยาวๆกับคนที่ไม่ใช้คนในครอบครัวหรือพวกขุนนาง “ไม่ทราบว่าร้านนี้เป็นร้านอะไรหรือขอรับ?”

                “ร้านดูดวงนะสิ  ไหนๆก็มาแล้วเขยิบมาให้ข้าดูหน้าใกล้ๆสิ” หญิงชราพูดขึ้นพร้อมกวักมือเรียกทั้งสองคน แบมแบมที่ตอนแรกขืนตัวไม่ไปแต่ก็โดนแรงของคุณสามีลากมาจนได้ “รูปร่าง หน้าตาของพวกเจ้าช่างเหมาะสมกันยิ่งนัก”

                “ขอบคุณเจ้าค่ะ//ขอบคุณขอรับ”

                “อื่มๆ” หญิงชรามองที่มือของทั้งสองคนพร้อมถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน “ข้าแม่หนูน้อย เจ้าคงเป็นพวกจับตะเกียบตรงปลายสินะ ถึงได้แต่งงานออกจากบ้านมาไกลถึงเพียงนี้”

                “เจ้าคะ? เอ่อใช่เจ้าค่ะ” แบมแบมพยักหน้ารับพร้อมนึกถึงนิสัยที่ชอบจับตะเกียบตรงบริเวณส่วนปลายตะเกียบของเธอ “ท่านยายรู้ได้อย่างไรเจ้าคะ?”

                “ก็ถ้าเป็นหมอดูนิ แม่หนูออกไปก่อนสักประเดี๋ยวสิข้ามีเรื่องจะคุยกับสามีของเจ้าสักหน่อย” คำพูดของหญิงชราทำให้แบมแบมทำสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อยแต่ก็ต้องยอมทำตาม เพราะคุณสามีของเธอดูสนุกกับเรื่องแบบนี้เสียได้

                “น้องจะรอข้างนอกนะเจ้าคะ”

                “ไม่นานหรอก เตียวเอ๋อร์”

                แบมแบมยืนรออยู่ข้างนอกสักพักจนเริ่มรู้สึกเบื่อ เธอหันไปสนใจเจ้าแมวขนสีเหลืองอมส้มสวยที่มาออดอ้อนที่แข้งที่ขาเธอ  ร่างระหงนั่งย่อตัวเล่นกับแมวจนลืมว่าคุณสามีของเธอนั้นกำลังอยู่ข้างในโดยมีหญิงชราที่อ้างตัวว่าเป็นหมอดูกำลังทำนายอะไรบางอย่างให้ฟัง แบมแบมสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อมีแรงสะกิดจากด้านหลัง ใบหน้าที่เจือลงของเขาทำให้แบมแบมเกิดความสงสัย แต่เธอเองก็ไม่ได้คิดจะถามอะไรให้มากความเช่นกัน

                “ชอบแมวอย่างงั้นหรือ?” เขาถามพร้อมยิ้มอย่างเอ็นดูพร้อมพูดต่อ “นางบอกว่ามีบางอย่างอยากจะบอกกับเจ้า”

                “เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ”

                “แม่หนูเจ้าเชื่อเรื่องด้ายแดงหรือไม่?” แบมแบมส่ายหน้าปฏิเสธทันที หญิงชราหัวเราะชอบใจพร้อมหันมามองเธอด้วยแววตายากจะอ่าน “เจ้าเก่งไปเสียทุกอย่าง แต่เพราะความเก่งของทั้งเจ้าและสามีทำให้พวกเจ้าไม่เคยพูดเปิดใจกันอย่างเต็มที่ เพราะความเก่งทำให้เจ้าและสามีหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรี”

                “ถูกต้องตามที่ท่านยายกล่าวมาทั้งหมดเลยเจ้าค่ะ แต่ข้าไม่คิดจะแก้ไขหรอกนะเจ้าคะ” คำตอบของแบมแบมทำให้หญิงชราแปลกใจเล็กน้อย “มันไม่ได้จำเป็นต้องแก้ไขมิใช่หรือเจ้าคะ?”

                “เขาให้เจ้าได้ทุกอย่างเลยนะ ในขณะเดียวกันเจ้าเองก็เป็นที่พักที่เขาต้องการมากเช่นเดียวกัน”

                “

                “เป็นเรื่องธรรมดาของการมีความรักที่จะต้องเจ็บปวด หากรักไม่เจ็บปวดพวกเจ้าก็จะไม่เห็นค่าในความรัก”

                “จะพูดอะไรกันแน่เจ้าคะ”

                “เจ้าไม่เชื่อเรื่องด้ายแดงข้าแค่จะบอกว่าหากเจ้าจำเป็นต้องอ่อนแอก็จงอ่อนแอ อย่าได้เก็บกดมันไว้เลย หากเจ้ารู้สึกเช่นไรก็จงบอกความรู้สึกหรือถามในสิ่งที่เจ้าสงสัยไปเสียเถิดทั้งเจ้าทั้งสามีนั้นเป็นคู่ที่สวรรค์สร้างให้เป็นคู่กัน แต่ตอนสร้างพวกเขาคงใส่ของที่ทำให้พวกเจ้าทั้งสองปากแข็ง ใจแข็งและไม่แสดงความรู้สึกโดยตรงมากเกินไปหน่อย” หญิงชราพูดพร้อมหัวเราะชอบใจในขณะที่แบมแบมกำลังเบ้หน้าอย่างไม่ชอบใจ “หากลดทิฐิลงได้ก็ลดเถอะนะ”

                “เจ้าค่ะ  ข้าจะจำคำที่ท่านชี้แนะ”

     

                แบมแบมไม่ได้เชื่อเรื่องที่หญิงชราพูดทั้งหมดและก็ไม่ได้คิดจะทำตามทั้งหมดด้วยเช่นกัน เป็นแบบนี้มันดีอยู่แล้วไม่ใช่หรืออย่างไร? เธอส่ายหัวไปมาเพื่อไล่ความคิดฟุ้งซ่านที่ลอยฟุ้งเต็มหัวให้ออกไปพร้อมทั้งมองคุณสามีที่ไปซื้อโคมลอยและกำลังโดนแม่ค้าสาววัยแรกรุ่นคนนั้นจีบอยู่ ถึงเธอจะไม่รู้สเป็คของคุณสามีแต่เธอคิดว่านางพูดมากไป คุณสามีคงไม่ชอบนางแน่ๆ แบมแบมที่กำลังมองไปทางผู้เป็นสามีอยู่ก็ไม่ได้ว่าเธอยืนอยู่คนเดียวเสียหน่อย มีชายมากหน้าหลายตาตรงเข้ามารุมขายขนมจีบให้เธอนับรวมๆแล้วก็คนนี้น่าจะคนที่ห้า แต่ประเด็นมันอยู่ที่ตอนนี้มีชายสามคนกำลังยืนอยู่ตรงหน้าของเธอและยังขายขนมจีบให้เธอพร้อมกันอีกด้วย

                “เตียวเอ๋อร์ พี่คงไปซื้อโคมนานเกินไปสินะ” ต้วนอี้เอินเอ่ยเสียงเรียบพร้อมมองไปทางคุณชายทั้งสามด้วยสายตาเย็นชา “คุณชายทั้งสามช่วยถอยห่างจากภรรยาสุดสวยของข้าด้วยขอรับ”

                “ไม่นานหรอกเจ้าค่ะ พวกคุณชายแค่กลัวข้าโดนฉุดเลยมายืนล้อมก็เท่านั้นเองเจ้าค่ะ” แบมแบมพูดไปตามตรงพร้อมหัวเราะเบาๆให้กับท่าทางหึงหวงของเขา “พี่อี้ไปกันเถอะ”

                “ไปกัน”

                ฮ่องเต้หนุ่มยื่นโคมทั้งสองให้แบมแบมถือซึ่งเธอเองก็รับมาแบบงงๆเช่นกัน ทันทีที่รับโคมทั้งสองไว้ในมือร่างของเธอก็ถือคุณสามีอุ้มจนขาลอยจากพื้นทันที รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ปลายเท้าของเธอสัมผัสกับพื้นกระเบื้องของหลังที่ไหนสักแห่ง แบมแบมหันไปมองทางสามีหมายจะดุเขาแต่ก็รู้สึกเหมือนว่าเธอจะเป็นฝ่ายโดนดุเสียเอง ฮ่องเต้หนุ่มจ้องหน้าเธออยู่นานจนทำให้เธอรู้สึกกลัว มือหนาของเขาจับแขนทั้งสองข้างของเธอไว้แน่พร้อมดึงร่างของเธอไปกอด

                “เตียวเอ๋อร์” เขาเรียกชื่อเธอในลำคอไปพร้อมๆกับกอดเธอแน่นกว่าเดิมจนแทบจะจมเข้าไปในอกแกร่งของเขา “พี่ให้เจ้าได้ทุกอย่าง จริงๆนะ”

                “ไม่ไม่ลอยโคมกับน้องแล้วหรือเจ้าคะ?” คำถามของแบมแบมทำให้ฮ่องเต้หนุ่มหัวเราะชอบใจพร้อมยิ้มกว้าง แบมแบมหยิบโคมของเธอขึ้นพร้อมหันไปให้คุณสามีจุดไฟให้ เธอหลับตาพร้อมอธิถานขอในสิ่งที่เธอมักขอทุกครั้งขอให้ชีวิตเป็นไปด้วยดี ถึงมีอุปสรรคก็ขอให้ฝ่ายไปได้ด้วยดี

                “เตียวเอ๋อร์ พี่สามารถให้เจ้าได้ทุกอย่างที่ใจเจ้าปรารถนาจริงๆนะ” ทันทีที่เธอหันไปฮ่องเต้หนุ่มก็ย้ำประโยคเดิมกับเธออีกครั้งด้วยสีหน้าจริงจัง “เว้นแต่

                “เว้นแต่อะไรหรือ? อิสระหรือความรักล่ะเจ้าคะที่ให้น้องไม่ได้”

                “

                “หากให้ทั้งสองอย่างที่น้องพูดมาไม่ได้พระองค์ก็ไม่สามารถมอบทุกอย่างที่น้องต้องการได้”

                “นั่นสินะ  เตียวเอ๋อร์วันนี้เจ้ามีความสุขหรือไม่?”

                “” แบมแบมไม่ได้ตอบเพียงแค่ส่งยิ้มให้อีกฝ่ายแทนคำตอบ

     








                                     #มบฮองเฮาไร้รัก


    Thumbnail Seller Link
    ฮองเฮาไร้รัก
    Princess Comet
    www.mebmarket.com
    เหอะ!! เกิดใหม่เป็นองค์หญิงที่พ่อไม่รักแถมยังโดนส่งมาเป็นเมียฮ่องเต้ต่างแคว้น  ที่สำคัญสามีใหม่ก็ดันมีคนรักอยู่แล้วด้วย  สามีข้าขอบอกท่านเลยหากบรรดาอน...
    Get it now
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×