[SF] Sorry,sorry ..I got wrong number [83lines - CinTeuk]
"ทงเฮ อย่าลืมเอางานบนโต๊ะพี่กลับไปทำที่บ้านด้วยนะ" "คุณน่ะโทรผิดมากี่รอบแล้วรู้มั๊ย! ผมชื่อ ..คิม-ฮี-ชอล!!" สองเบอร์แปลกหน้าที่โชคชะตาจงใจผูกคลื่นโทรศัพท์เข้าไว้ด้วยกัน.. "แล้วคุณน่ะ ..ชื่ออะไร??"
ผู้เข้าชมรวม
3,666
ผู้เข้าชมเดือนนี้
7
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
(14 มค 54)
ฟึ่บ ..ฟึ่บ ..ฟึ่บ
ไฟนีออนสีขาวทยอยดับลงเรื่อยๆ ห้องกว้างสีขาวขนาดหนึ่งชั้นของตึกที่เคยคลาคล่ำไปด้วยผู้คน ณ เวลานี้ เหลือเพียงพนักงานทำโอทีจำนวนไม่มาก ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ “ปาร์ค จองซู” ..พนักงานดีเด่น 3 ปีซ้อน ในสภาพเนคไทหย่อนๆ กับแขนเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ถูกพับขึ้นอยากลวกๆ กำลังเคาะปลายปากกาเข้ากับกรอบแว่นบางอย่างเหนื่อยอ่อน
“พี่จองซูจะไม่ไปดื่มกับพวกผมจริงๆเหรอฮะ” หนุ่มน้อยหน้าตาน่ารักชะโงกมาเกาะที่หน้าจอคอมของปาร์คจองซูพร้อมถามด้วยเสียงสดใส ก่อนที่เพื่อนร่วมงานต่างแผนกอีกคนจะเข้ามาโอบไหล่เจ้าของเสียอย่างแนบเนียน
“นั่นสิ พี่ทำงานหนักติดกันมากี่อาทิตย์แล้วเนี่ย ไปดื่มคลายเครียดกันหน่อยดีกว่านะครับ” แม้น้ำเสียงจะดูเชิญชวน แต่สายตาของคยูฮยอนกลับเว้าวอนให้รุ่นพี่ตอบปฏิเสธ ...
ได้โปรดนะพี่...นะ..นะ~
“อ่า ... พี่รู้สึกเหนื่อยๆน่ะ อยากกลับไปนอนที่ห้องมากกว่า เชิญพวกนายไปดื่มด่ำกันให้เต็มที่เถอะ” พูดจบก็หรี่ตามองคยูฮยอนอย่างเจ้าเลห์ .. ก็กว่าทงเฮจะยอมไปดื่มด้วยซักที ต้องชวนแล้วชวนอีกจนร่างเล็กรำคาญถึงได้ตอบรับส่งๆว่าจะไปด้วย แล้วอย่างนี้จะให้มีคนไปเป็น ก. ข. ค. ได้ยังไงล่ะ
“ขอบคุณครับพี่~”
“เต็มที่เลยไอ้น้อง”
สาดตาคมจ้องมองรุ่นน้องสองคนที่เดินโอบไหล่กันไปหยุดอยู่ที่หน้าลิฟท์ มือหนาถือวิสาสะเอื้อมมาหยิบกระเป๋าสะพายของคนข้างๆมาถือให้ อีกมือสอดประสานกันแน่น ก่อนที่คนตัวสูงกว่าจะจับมือทงเฮเข้าไปสอดไว้ในกระเป๋าเสื้อโค้ทตัวอุ่น ร่างเล็กที่ดูเหมือนจะเขินจนทำอะไรไม่ถูกก็ได้แต่ซุกหน้าไว้กับต้นแขนของคนรัก ทั้งคู่หัวเราะคิกคักกันก่อนที่ประตูลิฟท์จะปิดลงสนิทจนเห็นเพียงแค่ภาพสะท้อนของคนที่มองอยู่ห่างๆอย่างเงียบๆ...
อ่า ...ช่างเป็นภาพคู่รักที่เหมือนถอดมาจากบทในละครยังไงยังงั้น ..
เรียวคิ้วเหนือดวงตากลมโตขมวดเข้าหากันช้าๆ ..
แ ม่ง ......คนแก่ก็อิจฉาเป็นนะโว้ย..
ในที่สุดก็ตัดสินใจเก็บข้าวเก็บของกลับไปนอนซุกผ้าห่มอุ่นๆที่ห้อง นึกเจ็บใจที่ต้องสอดมือเปล่าๆเข้าไปในกระเป๋าเสื้อโค้ทหนาๆของตัวเองโดยที่มืออีกข้างยังต้องถือของพะรุงพะรัง
เสื้อก็แพงกว่า ..ทำไมมันยังรู้สึกหนาวอยู่วะ ..
อยากจับมือกับใครซักคน ..แต่ถ้าจับมือกับตัวเอง มันก็ใส่ในกระเป๋าเสื้อไม่ได้น่ะสิ
ไอ้กระเป๋าเวรนี่อีก ทำไมแม่ งต้องถือกลับเองด้วยวะ กลับเองไม่เป็นรึไง!? (- - ?)
โว้ยย! ..คนแก่ฟุ้งซ่าน
แต่ไม่ทันจะได้ทะเลาะกับความคิดตัวเองเสร็จ จองซูก็ได้ยินเสียงวิ่งตึกตักมาจากด้านหลัง ปรากฏร่างเล็กวิ่งหอบแฮ่กๆมาพร้อมกับเสียงใสๆดังก้องไปทั้งตึก
“พี่จองซู~~~~~ ผม ..ลืมบอกไปว่าผมเปลี่ยนเบอร์มือถือใหม่แล้วนะฮะ ..แฮ่กๆๆ”
“อ่อ เหรอๆ เบอร์อะไรล่ะ” มือเรียวล้วงคว้าหาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะยื่นให้ร่างเล็กที่ยืนหอบจนต้องค้ำขอบโต๊ะตรงหน้า
ตู้ดๆ ๆ ..ๆๆ
“ทงเฮ~~~~ เสร็จรึยัง” ร่างสูงส่งเสียงเร่งมาจากในลิฟท์ที่กดปุ่มรอไว้นานจนมือจะเป็นตะคริวอยู่รอมร่อ
“รู้แล้วว ไปเดี๋ยวนี้แหละ!” ทงเฮหันหน้าไปตะโกนเสียงดังจนก้องไปทั้งชั้นที่ว่างเปล่า ก่อนจะยื่นโทรศัพท์มือถือคืนให้รุ่นพี่ที่ยืนรออยู่ด้านหน้า
“แล้วก็ เอ่อ ..พรุ่งนี้ผมมีนัดคุยงานกับลูกค้าแต่เช้า จะพึ่งคยูมันปลุกก็คงไม่ไหวกันทั้งคู่ ยังไงพี่ช่วยโทรมาปลุกผมตอนตี 5 หน่อยได้มั๊ยฮะ”
“ได้สิ ไม่มีปัญหา ดื่มหนักน่ะพี่ไม่ว่า แต่อย่าอย่างอื่นหนักจนลุกไม่ไหวล่ะ หึๆ”
“หะ..หา...”
“ทงเฮ!!!~~~”
“อะ ..โอเค ไปเดี๋ยวนี้ล่ะ!!~”
ว่าแล้วปลาน้อยก็ก้มหน้าแดงงุดๆวิ่งกลับไปหาเจ้าของที่รอจนเหงือกแห้ง จนปาร์คจองซูอดขำไม่ได้ นิ้วเรียวกดเซฟเบอร์น้องรักอย่างรวดเร็วก่อนที่จะกลับสู่อารมณ์เปลี่ยว(?)อีกรอบ
กระเป๋าแ ม่งหนักชิบหายเลยย!!!
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ ..
แสงไฟนีออนหลากสีถูกปิดลงแทบจะพร้อมๆกัน
ณ ผับชื่อดังแห่งหนึ่ง ไฟหน้าร้านได้ถูกสลับจากคำว่า Online เป็น Offline เหล่าสาวเชียร์เบียร์นุ่งน้อมห่มน้อยต่างทยอยกันขี่มอเตอร์ไซแฟนหนุ่มซึ่งก็คงไม่พ้นเด็กเสิร์ฟกลับบ้าน เหล่านักดนตรีต่างพากันแบกอุปกรณ์ส่วนตัวขึ้นหลัง บ้างก็กลับบ้าน บ้างก็หาที่ดื่มปล่อยอารมณ์ต่อ ..
เหลือเพียงแค่ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลที่กำลังตั้งอกตั้งใจก้มหัวบูชาโถส้วมอย่างเอาเป็นเอาตาย
อ่อกกก~~~
ว่าแล้วก็โก่งคอสำรอกมื้อเย็นออกมาอีกรอบ
“มึงไหวป่ะเนี่ย? กูกลับก่อนได้ป่ะ มะม้าโทรตาม~”
“ม้าหรือเมียยย ..อ้วกกก~~”
“เยซองเป็นได้ทั้งสองอย่างนั่นแหล่ะ ช่างกูเถอะ ..อะนี่ กระเป๋ากีต้าร์มึง กูไปล่ะ”
“อะ ..ไอ้ คังงงง~~... อ้วกกกกก~~~ “
เมื่ออ้วกไปอ้วกมาจนหัวโขกกับโตส้วมก็เหมือนว่าคนขี้เมาจะได้สติกลับมาเล็กน้อย มือเรียวค่อยๆจิกทึ้งหัวตัวเองให้หายจากอาหารมึน เบลอ เอ๋อแดก ..ก่อนจะยันตัวลุกขึ้นกดชักโครก เปิดน้ำจากอ้างล้างมือใกล้ๆแล้วสาดน้ำเย็นยะเยือกใส่หน้าสองสามที
เย็นสาดดดดด ..สร่างเลยกู
ตากลมโตกลอกไปมาอย่างอึนๆ โคลงหัวไปมา คว้ากระเป๋ากีต้าร์ขึ้นสะพายหลัง ก่อนจะค่อยๆเดินโงนๆเงนๆกลับห้องพักซึ่งก็อยู่ถัดไปจากผับเพียงแค่ 4 ซอย ..
ระยะทางเล็กน้อยสำหรับคนเมา ที่เดินได้ 4 ก้าว ถอย 3 ก้าว ....รวมถึง
“อ้วกกกกก ~ “
ไปตามทาง ... - -
ก้าบ ๆๆๆ ๆ ก๊าบบบบ ก้าบบๆๆ
เสียงน้องเป็ดร้องโหยหวนมาจากกระเป๋ากางเกงยีนส์สีซืดบนร่างไร้สติที่นอนสลบเป็นซากแมวจรจัดอยู่บนเตียง แม้จะเพิ่มสตรีมรบกวนโสตประสาทด้วยระบบสั่นระดับ 2 ริกเตอร์ แต่ก็ไม่ทำให้แมวแฮ๊งค์รู้สึกตัวได้เลย
ก้าบ ๆๆๆ ๆ ก๊าบบบบ ก้าบบๆๆๆๆๆๆ
เป็ดน้อยยังคงส่งเสียงร้องประท้วงดังขึ้นเรื่อยๆ จนเจ้าของเริ่มขมวดคิ้วด้วยความรำคาญ ก่อนจะคว้าหมอนมาปิดหูหาความสงบข่มตานอนต่อด้วยความด้านทน
ก๊าบบบบบ กาบ ก้าบบ~~ ก้าบๆๆๆ ก๊าบบบ
“อ๊ากกกกก แม่ งงง ใครวะ!!!” ร่างสูงดันตัวลุกขึ้นพรวดด้วยความโมโห มือล้วงหาโทรศัพท์ที่ยังคงสั่นเป็นเจ้าเข้าในกระเป๋ากางเกง
“มะ..
.!!”
“อี-ทง-เฮ!!! นายรู้มั๊ยว่านี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว! พี่โทรหานายเป็นสิบๆรอบแล้วนะเว้ย! มั่วแต่เมาหัวราน้ำอยู่นั่นแหละ!! ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยนะ ไปอาบน้ำแต่งตัว บึ่งรถไปหาลูกค้า ...เดี๋ยวนี้!!!”
“หะ...หา..”
“ยังจะมาหาบ้าบออะไรอีก!? ถ้ายังทำตัวเละเทะไม่รู้จักหน้าที่การงานอย่างนี้อีกละก็ พี่จะโทรไปฟ้องแม่นายให้ส่งนายกลับไปอยู่บ้านนอกซะเลย!!”
“หะ..เห้ย ..ไม่เอา ไม่ฟ้องแม่” เมื่อได้ยินคำว่าแม่ คิมฮีชอลก็ถึงกับหัวหด ลูกชายที่ขาดการติดต่อจากบ้านมาเกือบครึ่งปีโดยที่วันๆใช้ชีวิตเสเพลเป็นนักดนตรีกลางคืนในโซล คนมีคดีติดตัวอย่างนี้ คำว่า”ฟ้องแม่” ถือเป็นคำต้องห้าม
“ดี เข้าใจแล้วก็รีบไปอาบน้ำซะ พี่มีเวลาให้นาย 20 นาที!”
“คะ..ครับผม!!”
เมือโทรศัพท์ถูกตัดสาย คิมฮีชอลก็รีบกระเด้งตัวลุกออกจากเตียง สะบัดเสื้อผ้าทิ้งก่อนจะรีบวิ่งผ่านน้ำด้วยเวลาสถิติโลก คว้ากุญแจรถแล้ววิ่งกระหืดกระหอบลงจากห้องพักชั้น 4 โดยไม่เสียเวลารอกดลิฟท์
ร่างสูงกระโจนเข้านั่งคนขับ มือนึงเสียบกุญแจรถ ส่วนอีกมือก็ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูอย่างรีบร้อน
แต่เมื่อกำลังถอยรถออกจากลอคที่จอด มือที่จับพวงมาลัยก็ชะงักกึก ..เหมือนเซลล์ประสาทเล็กๆในสมองเพิ่งระรึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ..
เดี๋ยวนะ ...
นี่กูกำลังจะไปไหน....?
ตากลมหันไปมองนาฬิกาบนรถ ก่อนจะรู้สึกอยากกัดลิ้นตาย ..
ตีหาสี่สิบ!! ..เพิ่งหลับไปได้แค่ 2 ชั่วโมง!!? แล้วกูตื่นมาทำซากอะไรวะเนี่ยยยย!!
คนที่เพิ่งรู้สึกถึงอาการแฮ๊ง โขกหัวลงกับพวงมาลัยอย่างเอาเป็นเอาตาย จนมีเสียงแตรดังออกมา
ปิ๊น!!
อ่อ ..ใช่ๆ มีไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้โทรมาปลุกผมเมื่อ 20 นาทีที่แล้ว
ปิ๊น!!
แล้วมันก็ขู่ว่าถ้าไม่ออกไปหาลูกค้าภายในอีก 20 ที มันจะโทรฟ้องแม่ผม
ปิ๊น!!
ผมเล่นดนตรีที่ผับตอนกลางคืน จะมีนัดกับลูกค้าตอนตีห้าได้ยังไง!?
ปิ๊นน!!
แล้วที่สำคัญคนที่ไอ้นั่นมันสั่งชื่ออีทงเฮ ..แล้วคิมฮีชอลคนนี้จะทำตามคำสั่งมันทำไม!!!?
โว้ยยย! ทำไมกูโง่อย่างนี้!!!
ปิ๊นนนนนนนนนนนนนน!!!
“บีบแตรตอนตีห้าหาพ่ อมึ งรึไงงงง!!!!”
เสียงตะโกนดังมาจากชั้น 2 ของคอนโดก่อนจะตามลงมาด้วยร้องเท้าแตะเป็นของสมนาคุณหนึ่งข้าง ตกลงมาแปะบนหน้ากระจกรถฮีชอลแบบพอดีเป๊ะๆ
“แน่จริงปาลงมาให้ครบๆข้างดิสัส!!”
ทั้งๆที่ตัวเองเป็นคนผิด แต่ก็ยังหน้าด้านชะโงกหัวออกมาตะโกนด่ากลับไป
ปั่ก!!
แล้วอีแตะอีกข้างก็บินลงมาจอดบนหน้าเจ้าของรถแบบเต็มๆ ตามรีเควสแบบด่วนทันใจ ..
โฮกกก .... ชีวิตกู ... TT____TT
“ทงเฮ คุยงานกับลูกค้าเป็นไงบ้าง?” หัวหน้าแผนกชะโงกหัวออกมาฉีกยิ้มสวยๆให้รุ่นน้องที่เพิ่งกลับเข้าออฟฟิศตอนพักเที่ยง
“ก็โอเคฮะ พอดีคุยกันถูกคอ ทางนู้นเค้าก็เลยเซ็นสัญญากับเราเรียบร้อยแล้ว” พูดจบก็อมยิ้มแก้มป่อง เปิดแฟ้มงานโชว์ผลงานตัวเองด้วยความภูมิใจ
“อ่าา~ ดีแล้วล่ะ ขอบใจนายมากนะ แล้วก็ ...เมื่อเช้าขอโทษด้วยล่ะที่พี่เผลอโมโหใส่นายไปน่ะ”
“ฮะ...?”
“ก็พี่โทรไปตั้งเกือบ 20 สายแล้วนายไม่ยอมรับซักที่นี่ พี่ก็เลยเผลอตะคอกไปน่ะ โทษทีนะ”
“เอ่อ...”
“..พี่ไปเข้าห้องน้ำก่อนล่ะ” พูดจบก็ระบายยิ้มนางฟ้าก่อนจะรีบหายตัวไปเข้าห้องน้ำ ปล่อยให้น้องทงเฮได้แต่ทำหน้าเอ๋อๆ กับคำพูดของคุณหัวหน้าแผนก
“คือ...ผมกำลังจะถามว่า ทำไมเมื่อเช้าพี่ไม่โทรมาปลุกผม ........ อา .........ช่างเถอะเนอะ ( ‘ . ‘ ; ) “
คิมฮีชอลใช้เวลา 5 ชั่วโมงที่ปกติควรจะเป็นเวลานอน ไปกับการขับรถเล่นนอกเมือง ปล่อยอารมณ์เซ็งไปกับบรรยากาศยามเช้าที่คงไม่มีวันแหกขี้ตาขึ้นมาเห็นอีก ก่อนจะจบมื้อเช้า(เกือบเที่ยง)ด้วยการนั่งเคี้ยวแฮมเบอร์เกอร์ในโรงหนังรอบแรกของวัน
Naked girl in the city
แค่เห็นชื่อเรื่อง คิมฮีชอลก็แทบกระโจนเข้าใส่ ..ถ้าปกติ โรงแบบ 3D มักจะแน่นเอียดจนต้องโทรมาจองล่วงหน้า ยิ่งหนังแบบนี้ด้วยแล้วยิ่งไม่ต้องหวังอะไรเข้าไปใหญ่
..แต่สำหรับหนังรอบเช้าแบบรอห้างเปิดแบบนี้ แค่ลำพังพนักงานยังขี้เกียจตื่นมาทำงาน แล้วมันจะมีมนุษย์ที่ไหนมามีอารมณ์ดูหนังแบบนี้นอกจากคิมฮีชอลคนนี้ละวะครับ! ยิ่งมองไปรอบๆยิ่งเหมือนจอ 3D ขนาดใหญ่ยักษ์นั่นเป็นของผมคนเดียว!
วู้วววว ~ คิมฮีชอลมีความสุขคร้าบบ~~
แต่ดูเหมือนว่า หนังสมัยนี้มันจะขยันออกกันเยอะไปรึเปล่า? ..เลยเวลาฉายมาครึ่งชั่วโมงกว่าแล้ว แต่ดูเหมือนโฆษณาจะไม่ยอมจบง่ายๆ
ทั้งหนัง 2222 วันสิ้นโลก ..
แฮรี่พอตเตอร์ภาค 8.3 ..
บาร์บี้ในแดนไนโดเสาร์ ..
หอแต๋วแตก แหก คริคริ ( -_- ?)
บลา ๆ ๆ ๆ
อ่า ... แอร์เย็นสบายมากเลย ...
เก้าอี้นุ่มๆ แล้วก็ไฟสลัวๆ.........
จะว่าไป ..ผมเพิ่งได้นอนแค่ 2 ชั่วโมงเองนี่เนอะ ...
อืม..
งืมๆ ...
“....”
Z ..Z..z ..z
ก้าบ ๆๆๆ ๆ ก๊าบบบบ ก้าบบๆๆ
“.....”
ก้าบ ๆๆๆ ๆ ก๊าบบบบ ก้าบบๆๆ
“นี่คุณ! โทรศัพท์ดังน่ะ รีบๆรีบซะสิ มันรบกวนคนอื่นรู้มั๊ยคุณ” แรงโยกพนักเก้าอี้แรงๆสองสามทีทำให้เจ้าของโทรศัพท์ปรือตาขึ้นอย่างมึนๆ ..
เช้าวันใหม่แล้วเหรอ? ..อ่า ผมอยู่ที่ไหนเนี่ย @__@
ร่างสูงค่อยๆบิดขี้เกียจ สลัดความเมื่อยจากการนั่งหลับมาเกือบสองชั่วโมง..พร้อมกับฮาววอดใหญ่เสียงดัง - -
ก้าบ ๆๆๆ ๆ ก๊าบบบบ ก้าบบๆๆ
“โทรศัพท์น่ะคุณ!!” เสียงสบถด่าเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆเนื่องจากคุณเจ้าของโทรศัพท์ที่นอกจากจะยืนบิดขี้เกียจกลางโรงหนัง บังเต็มๆจอแบบไม่เกรงใจใครแล้ว ยังไม่ยอมปิดปากเป็ดน้อยที่เอาแต่ส่งเสียงครวญครางซะที
เซลล์สมองเพียงเล็กน้อยของบุรุษรูปงามนามว่าคิมฮีชอลก็ได้ประมวลผลออกมาแล้วว่า
กูอยู่ในโรงหนังนี่หว่า ..
“ยะ ..ยอโบเซโย??” เมื่อระรึกชาติได้ดังนั้น ก็รีบตระครุบเป็ดน้อยให้หยุดโหยหวนก่อนจะหมอบลงคุยกับพื้นราวกับหนีปืนใหญ่ในสงครามโลก ..เป็นการแสดงความเกรงใจที่ผิดมนุษย์มนาเอามากจริงๆ -_-
ใครแม่ งเสื อกโทรมาเวลานี้เนี่ย..
“นายยังอยู่ที่บริษัทใช่มั๊ย?”
“บริษัทบ้าอะไรล่ะ อยู่โรงหนังเว้ย โรงหนัง!”
“อะไรนะทงเฮ พี่ไม่ค่อยได้ยินน่ะ”
“บอกว่าโรงหนังไง คุณน่ะโทรผิดแล้ว! โทรผิดมาสองรอบแล้วด้วย! ฟายยยย!”
“อ่า ช่างเถอะ ตอนนี้พี่ออกมาทำธุระ เสร็จแล้วกะว่าจะกลับบ้านเลยเพราะรู้สึกจะไม่สบายหน่อยๆน่ะ พี่โทรบอกบอสแล้ว ยังไงแฟ้มที่อยู่บนโต๊ะพี่ทงเฮช่วยเอาไปทำต่อด้วยได้มั๊ย”
“ทงเฮที่ไหนน ผมชื่อคิมฮีชอล ..คิม-ฮี-ชอล! ได้ยินมั๊ย”
“ครับ คุณคิมฮีชอล พวกเราได้ยินชัดมากแล้วครับ! ในโรงหนังเค้าตัดสัญญาณโ?รศัพท์ ตะโกนให้ตายก็ไม่ได้ยินกันหรอกครับ! ถ้าจะคุยกรุณาออกไปคุยข้างนอก คนอื่นเค้าจะดูหนัง มีมารยาทซะบ้างสิคุณ!!!” เสียงตะโกนอย่างเหลืออดดังมาจากที่นั่งหลังฮีชอล จนเจ้าตัวต้องหมอบคลานหนีออกมาเพื่อเอาชีวิตรอด
“แฮ่กๆๆ ..นี่คุณ ได้ยินผมแล้วใช่มั๊ย!? ผมไม่ใช่ทงเฮอะไรของคุณทั้งนั้น
ตู๊ด ..ตู๊ด..ตู๊ด ..
เสื อกตัดสายไปอีก เวรเถอะ!
แต่ผมไม่ยอมง่ายๆหรอก ยังไงวันนี้ไอ้ซื้อบื้อนั่นมันต้องรู้ให้ได้ว่ามันโทรผิด!
ไว้เท่าความคิดนิ้วเรียวก็กดโทรออกอีกครั้ง
ยอดเงินของท่านไม่พอที่จะใช้บริการนี้ ..กรุณาเติมเงินด้วยค่ะ
..ตู๊ดด...
อ๊ากกกก ! ทำไมชีวิตผมถึงได้ตกต่ำปานนี้! TT___TT
สบถอย่างหัวเสียใส่หน้าจอโทรศัพท์จนพอใจ ก่อนจะเดินกระฟัดเฟียดกลับเข้ามา “ดูหนัง” ตามที่ตั้งใจไว้แต่แรก แต่ก็ต้องช๊อคเหมือนเห็นผีแทนที่จะเป็นสาวเปลือยในเมือง ..เมื่อ...
Credit ..
กำกับโดย
=[]= !!!
โฮกกกก ... ชีวิตกู T_______T
83838383838383838383832B-Continue838383838383838383838383
ยอโบเซโย~ เอสเอฟซินทึกบูชาหัวเกรียนของคุณฮีค่ะ! 555 5 - -
อะไรเข้าสิงให้พี่แกทำอย่างน้านนน โอเอ็มจี! T___T
ถึงโบจะอยู่ลัทธิซับพอร์ตฮี "เมะ" อย่างเป็นทางการ
แต่ตรูไม่ได้สนับสนุนให้เกรียนฟ่อยยย ..ไอ้บ้า TT__TT ไปปลูกผมเดี๋ยวเน้!
ส่วนป้าเป็ดของเราก็โมเอ้ขึ้นทุกวันๆ ..มันจะแบ๊วไปไหน
ฟีลนี้เหมาะต่อการอวยซินทึกที่สุดแล้วค่ะ วู้ฮู~ \\( =0=)//
อีก 3 วันก็ซูเปอร์โชว์แล้วเนอะ ^-^
เม้นฟิคกันเถอะ! (????)
ขอบคุณที่อ่านจนจบ และโปรดติดตามทูบีคอนทินิว ก่อนซูเปอร์โชว์ 1 วันค่ะ > <
*หมายเหตุ* ถ้า 14 นี้ สามสิบดับบลิวมันไม่โผล่มา สามารถไปตบกะบาลแล้วลากซากมันมาลงฟิคได้ที่
https://twitter.com/30ww
ด้วยรักและหัวเกรียน
838383838383838383838383PART-END8383838383838383838383
สุดท้ายชายเปลี่ยวนามว่าคิมฮีชอลก็ต้องสโลสเลกลับมานอนตายซากที่ห้องรกๆที่ร้อยวันพันปีไม่เคยจะได้ใช้เวลาอยู่ในห้องแคบๆนานเท่านี้มาก่อน พอได้เห็นคำว่า “รก” ตัวเท่าควายกลางห้องถึงได้รู้สึกว่าทำไมตัวเองถึงได้เป็นคนซกมกขนาดนี้ ...แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงใช้สอยพื้นที่แค่บนเตียงเป็นที่วางโน้ตบุ๊ค แหวกพื้นที่ข้างเตียงเป็นที่วางตูด ก่อนจะถูกดูดเข้าไปในโลกแห่งเกมไปอีกเกือบครึ่งวัน
จนมารู้สึกตัวอีกทีก็ต้อนกระเพาะน้อยร้องหาสารอาหารมาเติมพลังงานให้พอเป็นผู้เป็นคน
ต่ายห่า ..ห้าทุ่มแล้วกูยังไม่ได้กินข้าวเย็น =[]=;;
ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ยอมย้ายตูดไปไหน ค่อยๆยืนหลังยาวๆเลื้อยไปตามพื้น เกะมาม่าคัพออกจากแพค ปรุงรสแบบออริจินัล บิดตัว 30 องศาไปหากระติกน้ำร้อน กดจึ๊กเดียวคิมฮีชอลก็มีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีก 1 วันแล้ว
เลื้อยกลับที่เดิมแล้วก็เล่นเกมต่อ อย่างมีความสุข ..เนื่องจากเพื่อนรวมวงตัวแสบได้โทรมาบอกตั้งแต่บ่ายแล้วว่าวันนี้ไม่ต้องไปเล่นดนตรีที่ผับ ในโอกาสวันครบรอบแต่งงาน ผู้จัดการร้านจึงได้ไปฮันนีมูนกับเมียถึง 1 อาทิตย์ วงผมจ้างเป็นร้ายเดือน เงินก็ไม่ได้ถูกหักเงินแต่อย่างใด
แหม ..ผมล่ะอยากให้มันมีเมียหลายคนจริงๆ =w=
ก้าบ ๆๆๆ ๆ ก๊าบบบบ ก้าบบๆๆ
มันมาอีกแล้วครับ อีนังเป็ดหลอน T____T กูกำลังจะทริปเปิ้ลคิลได้แล้วนะเนี่ย หยุดร้องก่อนได้ม๊ายยย
ทำเป็นหูทวนลมกับเสียงเห่าหอนของน้องเป็ด มือก็คลิ๊กเมาส์ยิกๆเพื่อที่จะทำแต้มทริปเปิ้ลคิลให้ได้อย่าเอาเป็นเอาตาย นิ้วสวยกดคีย์บอร์ดให้ตัวละครในจอหาที่ซ่อนเพื่อรักษาชีวิตแล้วควานหาน้องเป็ดเจ้าปัญหาจากกองขยะกลางห้อง
“ยอโบเซโย?” กดรับสายก่อนจะเอามือถือมาหนีบไว้กับไหล่ มือยังคงกดคีย์บอร์ดหาเหยื่อเพื่อล่าทริปเปิ้ลคิลต่อไปอย่างเมามันส์
“ทงเฮ ...~”
มันมาอีกแล้ว!! ไอ้บ้านี่อีกแล้ว =_=! ++
“ผมไม่ใช่ทงเฮอะไรนั่นของคุณ! โทรผิดมา 3 รอบแล้วรู้ตัวบ้างมั๊ยหะ!? ไม่ต้องโทรมาอีกนะโว้ย!”
“ทงเฮ ...ฮึก ...ฮืออ”
“อ้าวเฮ้ย ร้องไห้ทำไมเนี่ย!?”
“ฮือออ. ...ฮึก ...ฮือๆๆ”
“เป็นอะไรน่ะคุณ??”
“เมา”
“หะ..หา??” เพราะคำตอบซื้อบื้อจากคนในสายจึงทำให้คนอารมณ์เสียเผลอหัวเราะออกมา จนทำโทรศัพท์ร่วง แต่เมื่อละมือจากคอมมาหยิบโทรศัพท์ไปแนบหูอีกครั้ง ...
ปุ้ง!!!
*YOU DIE*
สัส!! ใครยิงกู๊!!!!! TTT^TTT
เวลาไอ้บ้านี่โทรมาที่ไหนทำไมจะต้องเจอแต่อะไรซวยๆด้วยวะ - -
ดี ..มึงเมาใช่มะ? ..กูจะคุยกับมึง เมากับมึงเนี่ยแหล่ะ กูไม่รู้จะทำอะไรแล้ว ..กูเซ็ง!!! = =
“นี่คุณ ยังอยู่ใช่มั๊ย?”
“อือ ...ฮือออ” ดูมันโหยหวน - -
“เมาอยู่ร้านแถวไหน เดี๋ยวผมไปหา”
“อยู่บ้าน~~”
“เมาอยู่บ้านเนี่ยนะ?”
“อือ~ เมาที่ร้าน เดี๋ยวกลับบ้านไม่ถูกอ่าา~ “
“เออว่ะ จริง .. ฮ่าๆ ” เป็นอีกครั้งที่คิมฮีชอลหลุดขำออกมากับคำตอบซื้อบื้อๆของคนในสาย
จะว่าไป เสียงมันก็น่ารักดีนะ ^^
“คุณอายุเท่าไหร่กันเนี่ย?”
“หืมมม? นายก็รู้จักพี่มาตั้งนานแล้วนี่นาทงเฮ~~~~”
เออใช่ ..ตอนนี้กูกำลังเป็นทงเฮบ้าบออะไรของมันนี่เนอะ - - “ ...อ่า เปลี่ยนคำถามๆ
“อ่า ~ ผมหมายถึง ทำไมคุณถึงร้องไห้ล่ะ?”
“โดนบอสโทรมาด่า~~~ ฮึก~ มันหาว่าพี่ทำงานมันหายยย~~ “
“อ่อเหรอ อืมๆ”
เอาไงต่อดีวะ ..กูจะคุยกับคนเมารู้เรื่องมั๊ยเนี่ย “-
ระหว่างหาเรื่องคุยก็กวาดสายตาไปรอบห้อง(รกๆ)
ตู้เย็น! ..กูต้องเมาด้วย ถึงจะคุยกับมันรู้เรื่อง!
ว่าเสร็จก็เลื้อยๆไปหาตู้เย็น โกยเบียร์มาสามสี่กระป๋องก่อนจะเปิดแล้วดื่มอึกๆๆ
“แล้วมันด่าคุณว่ายังไงบ้างล่ะ?”
“บอกไม่ด้ายหรอกกก เดี๋ยวนายก็เอาไปนินทาพี่อ่ะเด่ะ~~ “
บอกไม่ได้แล้วโทรหากูทำไมครับ =_= ..จะเอาอะไรมากกับคนเมา
เสี้ยววินาทีที่แอลกอฮอล์กำลังไหลเวียนในร่างกายก่อนจะซึมซับอย่างรวดเร็วเข้าสู่สมอง ..ประสาทรู้สึกวึ้งๆก่อนที่ไอเดียจะพุ่งปรู๊ดปร๊าด~
“งั้นเอางี๊นะ .. คิดซะว่าผมไม่ใช่ทงเฮ ..ยังไงดีล่ะ จินตนาการว่าผมเป็นโฮสต์ก็ได้เอ้า! อยากจะพูดอะไรก็พูด ยังไงก็ได้ ไม่ต้องแคร์ ทำเหมือนว่าเราเพิ่งรู้จักกัน โอเคมั๊ย?”
“เอ๋~~~ แล้วโฮสต์คือไรอ่ะ~” โอเค ..ผมลืมไปว่ามันซื้อบื้อ - -
“สรุปว่าทำเป็นว่าไม่รุ้จักกันก็พอ จะได้กล้าพูดได้ทุกอย่างไง ตอนนี้ผมก็เมา คุณก็เมา วางสายไปก็จำอะไรไม่ได้แล้วเนี่ย เข้าใจป่ะ?”
“เข้าจายยแล้ววว~~~”
“ดีมาก เด็กดี~ ..อันดับแรก ..คุณชื่ออะไรครับ?”
“จองซู~~ ปาร์ค จอง ซู~~”
จองซูเหรอ ..ปาร์ค จองซู ..อืม..ก็ธรรมดา ไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่ - -
“อายุเท่าไหร่ล่ะ?”
“ยี่ฉิบบบ~ ห้า!”
“ผม 26 แล้ว เพราะฉะนั้นอย่าเรียกแทนตัวเองว่าพี่อีก ใช้ผมแทน เข้าใจมั๊ย~”
“เข้าใจแล้วฮะพี่~”
“ไม่ใช่ๆ ไม่ได้หมายความว่าให้เรียกผมว่าพี่ นี่คุณเมาป่ะเนี่ย”
“ก็เมาน่ะซี่~ ถามได้ โง่จัง!! ฮ่าๆๆๆ”
เออครับ ผมโง่ ..แล้วผมก็เริ่มเมาเหมือนมันแล้วด้วย = =
“แล้วคุณเลือดกรุ๊ปอะไร~”
“เอ ~~ “
“ผมเอบี~ งั้นลูกของเราก็คงจะเอบี ชอบสีอะไรครับ”
“เอ๋~ สีเหรอ ... ผมชอบสีขาว~~*0*”
“แล้ว....”
คนที่พอจะมีสติอยู่กับตัวชวนคุณเรื่องไร้สาระไปเรื่อยๆ ถามคำถามปัญญาอ่อนบ้าง ถามเรื่องส่วนตัวบ้าง แม้บางครั้งจะถามอะไรน่าเกลียดชนิดที่ว่าถ้าปาร์คจองซูมีสติดีคงจะแจ้งตำรวจให้มาจับโทรศัพท์โรคจิตนี้แน่ แต่ถ้าหากในเวลานี้คนตัวเล็กกลับตอบทุกคำถามอย่างตรงไปตรงมา ...ใส่ซื่อ ไร้การเสแสร้ง...
เวลาหลายชั่วโมงผ่านไหลผ่านไปเรื่อยๆ คำพูดมากมายพูดถูกโต้ตอบกันไปมาอย่างไม่รู้เบื่อ จนเรื่องที่คุยดูจะหลุดโลกมากขึ้นเรื่อยๆ
“จองซูอ่า~ ทำไมเป็ดต้องร้องก้าบๆรู้มั๊ยยย”
“อ่าาาา .... ไม่รู้อ่ะ~”
“เพราะถ้าร้องอ๊บๆมันจะกลายเป็นกบน่ะซี่~~”
“ฮ่าๆๆๆๆ ~~”
เวลาคนเมาคุยกัน ..แม้จะเล่นมุขควายเรียกพ่อขนาดไหน ..มันก็ขำกันได้ - -
“ทำไมหมาต้องขี้ก้อนเดียวรู้รึเปล่า~”
“ก็มันมีตูดเดียวนี่นา ใช่มั๊ยล้า~ ฮ่าๆๆๆ”
“ผิด!!!~~”
“อ๊าา ทำไมล่ะ!!!”
“เพราะถ้ามีขี้(คี่)สองก้อน มันจะกลายเป็นคู่ไง!!”
“ฮ่าๆๆๆๆ
.ฮ่ะ ...ฮือ...”
“อะ..อ้าวเห้ย ร้องไห้ทำไมเนี่ยยย~”
“ก็จองซูอยากมีคู่~~~ ฮือออ”
“จะอยากมีไปทำไมล่ะ? อยู่คนเดียวน่ะสบายดีออกน้า”
“ไม่รู้! จองซูเหงา จองซูหนาว! อยากมีคนมาจับมือ มีคนถือของให้แบบทงเฮ! ฮืออออ~~”
คนที่ปลายสายเริ่มโวยวาย ร้องไห้งอแงแบบเด็กๆ เพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จึงทำให้คนอารมณ์อ่อนไหวอย่างปาร์คจองซู ยิ่งอ่อนไหวมากขึ้นไปอีก จนเรียกได้ว่าแปรปรวน บรรยากาศที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วทำให้ฮีชอลถึงกับเอามือกุมหัว
กูพูดอะไรผิด TT____TT
“เค้าไม่อยากเดินกลับบ้านคนเดียว.. ฮือๆ”
“...”
“ขับรถไปส่งเค้าที่ออฟฟิศ แล้วก็กินข้าวกลางวันด้วยกัน ..”
“....”
“อยากมีคนช่วยถือแฟ้มหนักๆ ..จับมือเค้า ..กอดเค้า..ฮึก...”
“อ่า...”
“ฮือๆๆๆๆ”
แค่เพียงเสี้ยววินาทีเดียวเท่านั้น แต่ผมก็ปฏิเสธไม่ได้ ..แม้ว่าผมจะสติไม่เต็มร้อยก็ตาม แต่สมองของผมมันก็เผลอคิดไปว่าบางที ทั้งหมดนั่น ..ผมอาจจะเป็นให้เค้าได้..
อ่า ..ไม่ใช่สมองสิ
มันอะไรกันนะที่ทำให้คิดแบบนั้น ....?
“คุณ ..อยากมีคู่จริงๆน่ะเหรอ?”
“อะ..อือ!!”
“ผมมีวิธีนะ”
“หืมมมม~~”
“พาแมวไปขี้ข้างหมาสิ ..จะได้เป็นคู่ไง!!”
“.....”
กูแป้กเหรอ TT___TT;;
“ฮึก ..ฮ่ะ ...ฮ่าๆๆๆๆๆ” ในที่สุดเด็กงอแงที่ปลายสายก็ระเบิดเสียงหัวเราะแสบแก้วหูออกมาเสียงดัง ทำให้คิมฮีชอลอมยิ้มกับอารมณ์แปรปรวนแปลกๆของปาร์คจองซู
“เสียงหัวเราะคุณนี้ แสบแก้วหูชะมัดเลยยยย”
“ฮ่ะๆๆ ......น่ารักใช่มั๊ยล๊าา~~” เสียงหวานใสที่ตอบกลับมาเหมือนเหมือนประโยคทั่วๆไปที่จองซูไม่ได้ใส่ใจอะไร ...แต่กลับทำให้คนอ่อนไหวยากอย่างคิมฮีชอลหยุดหายใจไปชั่วขณะ..
เสียงหวานๆยังคงพูดประโยคเดิมซ้ำไปซ้ำมาในโสตประสาทของผม
แค่เพียงชั่วอึดใจเดียวเท่านั้นที่ผมรู้สึกเหมือนถูกเจ้าของเสียงนั่นดูดเอาพลังบางอย่างไป..
แม่ง...
...น่ารักว่ะ...
ตึกๆๆๆๆๆ
อ่า ..รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างในร่างกายของผมกำลังขยับผิดจังหวะแฮ๊ะ..
หรือผม ..จะเมามากเกินไปแล้วนะเนี่ย?
“นี่~ คุณรู้มั๊ย ว่าผมน่ะ ชอบแมวนะ! ฮิๆ~” เสียงใสๆดังออกมาจากหูโทรศัพท์อีกครั้ง เหมือนกับเสียงนาฬิกาปลุกที่เรียกให้อีกคนตื่นจากภวังค์ นิ้วเรียวนวดที่ขมับสองสามครั้งก่อนจะสะบัดหัว แม้ความรู้สึกร้อนวูบๆที่ใบหน้าจะยังคงอยู่ แต่ปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติ แล้วตอบปลายสายกลับไปด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
..บทสนทนาแสนยืดยาวยังคงดำนเนินต่อไป..
ยามราตรีที่เงียบสงัด ..ลมหนาวยังคงพัดสัมผัสไปทั่วทุกแห่งหน ...ยังคงมีคนแปลกหน้าสองคนเติมเต็มเสียงหัวเราะให้กันและกัน..
เวลาเนิ่นนานที่ผ่านไปนั้น
คิมฮีชอลจะรู้มั๊ยว่า
เค้าไม่สามารถหยุดยิ้มได้เลย ..
แล้วอาการที่ได้ยินเสียงอวัยวะบางอย่างขยับผิดจังหวะนั้น
..มันไม่ใช่อาการของคนเมา..
แสงแดดอ่อนๆยามเช้าส่องผ่านผ้าม่านผืนบาง กระทบกับเข้าเปลือกตาที่ยังคงปิดสนิทของร่างสูงบนเตียง คิ้วเรียวเหนือตาคู่สวยค่อยๆขมวดเข้าหากันช้าๆ ก่อนที่คิมฮีชอลจะค่อยๆปรือตาขึ้นมารับเช้าวันใหม่ที่เจ้าตัวคิดว่ามาถึงไวกว่าปกติ
เมื่อตั้งสติได้ก็รีบควานหาโทรศัพท์ เท่าที่ระรึกได้ ..เค้าจำไม่ได้ว่าได้วางสายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือเรื่องสุดท้ายที่คุยกับ “ปาร์ค จองซู” คือเรื่องอะไร ..มือเรียวตระครุบโทรศัพท์ที่หล่นไปอยู่ใต้เตียงก่อนจะคว้าขึ้นมากดดูเบอร์ที่โทรเข้าล่าสุดแล้วท่องจำให้ขึ้นใจ
สายตาคมไล่ไปทีละตัวเลขก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปากตามสไตล์ ..
ปาร์ค จองซู ...ปาร์ค จองซู ... ปาร์ค จองซู...
ก้าบ ๆๆๆ ๆ ก๊าบบบบ ก้าบบๆๆ
เสียงน้องเป็ดแผดขึ้นมากะทันหันจนคิมฮีชอลเผลอทำโทรศัพท์ร่วงลงอีกครั้ง มือเรียวรีบคว้าโทรศำท์ขึ้นมาก่อนจะจ้องไล่ไปทีละตัวเลขบนหน้าจโทรศัพท์
ปาร์ค จองซู!!!!!
ไวกว่าความคิด มือเจ้ากรรมก็ดันกดรับสายทั้งๆที่ยังตั้งตัวไม่ทันซะแล้ว
“ยะ..ยอโบเซโย??”
“ทงเฮเหรอ พี่มารอนายนานแล้วนะ รถติดเหรอ?”
ทงเฮอีกแล้ว ...ผมล่ะปวดหัวกับไอ้บ้านี่จริงๆ T-T
ฮีชอลเสยผมที่ปรกหน้าขึ้นก่อนจะฉุกคิดอะไรได้บ้างอย่าง ...
“ผม ..ลืมสถานที่นัดน่ะครับ.. ที่ไหนนะฮะ?” คนเจ้าเล่ห์รีบดัดเสียงให้ดูเด็กที่สุดในชีวิตก่อนจะตอบกลับไป หวังว่าจะไม่ถูกคที่ปลายสายจับได้ซะก่อน
“เมียงดงไง หน้าร้านสตาร์บัคน่ะ”
“อ่อฮะ ..เดี๋ยวผมจะรีบออกไป” ร่างสูงกดวางสายโทรศัพท์ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างเปิดเผย..
รอทงเฮแปบนึงนะฮะ ..พี่ปาร์ค จองซู...หึหึหึ~~~
^___________^
เมียงดง
คนตัวเล็กนั่งหดตัวอยู่บนม้านั่งเตี้ยๆในย่านที่ผู้คนกำลังเดินผ่านไปมาไม่ขาดสาย ถูมือสองข้างเข้าด้วยกันเบาๆก่อนจะสอดกลับเข้าไปในกระเป๋าเสื้อโค้ทตัวหนา ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเป็นรอบที่ห้าแต่คนที่นัดไว้ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะโผล่มาซักที ..
อีกด้านหนึ่ง ..ผู้ชายที่เคยมีความมั่นใจในตัวเองแบบเกิน 100% ไปหลายสิบล้าน กำลังเดินด้วยความประหม่าที่สุดในชีวิต สายตาคมมองผ่านแววกันแดดสีชาเพื่อสอดส่งหาคนคนหนึ่งที่บอกว่ากำลังรออยู่หน้าร้านสตาร์บัค
คิมฮีชอลไล่สายตาไปเรื่อยๆตามถนนที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมาย ก่อนจะมาสะดุดกับร่างเล็กที่นั่งรออยู่บนม้านั่งหน้าสถานที่นัดแบบพอดีเป๊ะๆ
แม้จะอยู่ในระยะห่างหลายสิบเมตร แม้จะมีคนเดินเบียดผ่านไปมามากมาย
แต่ผมไม่อาจละสายตาไปจากคนคนนั้นได้เลย..
ผมยาวประบ่าสีน้ำตาลเข้ม ภายใต้หมวกไหมพรมสีขาว ..สีที่เค้าคนนั้นชอบ เสื้อโค้ทตัวหน้าที่ห่อหุ้มร่างเล็ก แต่ก็ไม่อาจปกปิดผิวที่ขาวราวหิมะนั้นได้เลย ..
และเมื่อเจ้าของร่างที่ถูกจ้องมองอยู่ค่อยๆหันมา ..
คิมฮีชอลก็รีบหันตัวหลบไปซ่อนระหว่างมุมตึกอย่างรวดเร็ว
ไม่นะ ..ผมไม่ได้กลัว!
ผมแค่ ..รู้สึกประหม่า ..ใช่! ..ผมรู้สึกประหม่ามากๆเลยล่ะ!
ให้ตายสิ! ...ผมไม่เคยมีความรู้สึกอะไรแบบนี้มาก่อนจริงๆนะ!!
ไม่ๆ มันไม่ได้แย่หรอก ..มันดีต่างหาก ..ดีมากๆเลยล่ะ
ดีมากจริงๆ!!!!
คิมฮีชอลส่องดูสภาพตัวเองจากกระจกหนาต่างร้านเค้กข้างๆ เซตผม(ที่เซตมาแล้ว)ให้ดูดีที่สุด จัดเสื้อผ้าให้เข้าที แถมตบหน้าตัวเองที่หนึ่งที่โทษฐานที่ดันมาอาการร้อนวูบๆแบบแปลกๆ
ร่างสูงสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วพ่นออกมาแรงๆ ...
ฟู่ววว.....
ก้าบ ๆๆๆ ๆ ก๊าบบบบ ก้าบบๆๆ
“ครับ ..ผมกำลังไปฮะ คนเยอะมากเลย รอแปบนึงนะครับ” ร่างสูงกรอกเสียงใส่โทรศัพท์อย่างเป็นธรรมชาติก่อนจะค่อยๆเดินฝ่าฝูงชนออกไปเรื่อยๆ ..จุดหมายของเค้าอยู่ห่างไม่ถึง 5 เมตรเท่านั้น
“พี่หนาวมากเลยล่ะ อยากกินกาแฟนอุ่นๆซัก ....แก้ว....”
“ผมมาถึงแล้วฮะ ..พี่ปาร์คจองซู...” ร่างสูงเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าร่างเล็กอย่างช้าๆ จองซูที่ตกอยู่ในอาการอึ้งจนพูดไม่ออก ได้แต่กระพริบตามองคนตรงหน้าตาปริบๆ
คิมฮีชอลเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกง ก่อนจะเดินก้าวเข้ามาอีกก้าว
“สวัสดีครับ คุณปาร์ค จองซู ..อายุ 25 ปี ทำงานเป็นหัวหน้าแผนกฝ่ายขายของบริษัท SJ พนักงานดีเด่น 3 ปีซ้อน และว่าที่หัวหน้าฝ่ายคนต่อไป.. เลือดกรุ๊ปเอ ชอบสีขาว สตรอว์เบอร์รี่ และฤดูใบไม้ร่วง ไม่ชอบอากาศหนาว การไปทำงานตั้งแต่เช้า และต้องแบกแฟ้มกลับบ้านเองคนเดียว ..”
“หะ...หา...” ปาร์คจองซูนิ่งค้างอ้าปากหวอ เมื่ออุปนิสัยต่างๆที่ถูกคนแปลกหน้าตรงหน้าพูดร่ายยาวอย่างไม่รู้จบนั้น ล้วนเป็นความจริงทั้งสิ้น ..บางอย่างพ่อกับแม่เค้ายังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ!
“อยากมี ..คู่...”
“!!!” ประโยคสั้นๆประโยคสุดท้ายถูกพูดออกมาเบาๆ แต่กลับทำให้คนตัวเล็กนึกย้อนความทรงจำเมื่อคืนได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ...
“ผม ..คิม ฮีชอล ..ยินดีที่ได้รู้จัก”
“ขอเบอร์หน่อยนะครับ ^_^”
The end
(?)
"ทงเฮ พี่ขอเบอร์ใหม่นายหน่อยสิ"
"ได้ฮะพี่ซองมิน .. ศูนย์ แปด ศูนย์ สี สอง ...สาม!!"
"หืม ??"
"ผมกดเบอร์ให้พี่จองซูผิดไปนะสิ ตายแล้วๆๆๆ ถึงว่า ตั้งแต่ผมเปลี่ยนเบอร์ พี่เค้ายังไม่เคยโทรมาหาผมเลย ...จะเป็นอะไรมั๊ยนะ ..... แย่จัง (; . .)"
The end
ดิเอนจ้าา >O< กรี๊ดๆๆๆ
ถ้ามีคำผิดหรือประโยคแปลกๆ ต้องขอโทษด้วนะคะ ยังไม่ได้อีดิทเลย - -" แฮ่ๆ ไว้จะมาแก้ค่า~
พรุ่งนี้ซูเปอร์โชว์แล้ววว ...เม้นฟิคก่อนไปดูคอนกันเถอะเนอะ หุหุ -..-
ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบนะคะ ^^
แล้วเจอกันที่คอน ..และฟิคเรื่องหน้า ..หลังคอนจ้าา ^^
บ๊ายบายยย~
ปล. ตอนแรกอิสามสิบดับบลิวมันลืมอัพจริงๆ - - .. มันมัวแต่จัดของไปสอบ(ต้องสอบก่อนไปดูคอน T T ..ลำเข็ญเนอะชีวิต) แล้วก็ดีด๊าต่างๆนานา ... ขอบพระคุณ @Bloodyz100 ที่ทวีตมากระชากความทรงจำปลวกๆของเค้าน้าา หุหุ -..- ขอบคุณจ่ะ~
ผลงานอื่นๆ ของ findme_30 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ findme_30
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ความคิดเห็น