ครีเอทีฟปากร้าย ปะทะ ยอดชายนายรันเวย์ - นิยาย ครีเอทีฟปากร้าย ปะทะ ยอดชายนายรันเวย์ : Dek-D.com - Writer
×

    ครีเอทีฟปากร้าย ปะทะ ยอดชายนายรันเวย์

    เปรมฤดีสาวปากร้ายที่ใฝ่ฝันอยากทำงานครีเอทีฟ เมื่อเธอได้ทำงานตามที่ต้องการ งานชิ้นแรกที่ได้รับกลับโหดมหาหิน เมื่อต้องเจอสองหนุ่มคู่ดูโอ ที่โอไม่สมชื่อ เวลาอยู่หน้าเวทีเป็นคู่หูที่แสนเพอร์เฟกต์ แต่ไงเบื้องหลังกัดกันได้ทุกที ยิ่งเรื่องหัวใจแล้วไม่มีใคร

    ผู้เข้าชมรวม

    73

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    73

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  6 มี.ค. 57 / 00:00 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    “โอ้ว  อะไรกันเนี่ย ทำไมผู้คนแห่มาสมัครกันเพียบแบบนี้  แค่วันแรกนะเนี๊ย” เปรมฤดีบ่นอุบ  พลางสอดส่ายสายตาดูรอบๆ  บริษัทยักษ์ใหญ่ที่ผลิตนักร้องซุปเปอร์สตาร์ระดับแถวหน้าของวงการ ที่ขณะนี้ล้นหลามไปด้วยเหล่านิสิตจบใหม่ๆ กำลังต่อคิวยาวเหยียดเพื่อสมัครงาน

    “แกจะบ่นไปทำไมว่ะยัยเปรม  บ่นอยู่นี่แหละ  ฉันเริ่มจะเบื่อเสียงแกแล้วนะเนี่ย”  มัสยาเพื่อนสนิทของเปรมฤดีตำหนิ

    “คนที่ได้เกียรตินิยมอย่างฉัน  ต้องมาทนเข้าแถวยาวเหยียดเบียดเสียดกับพวกนี้เนี๊ยนะ โอยจะบ้าตาย>O<” เปรมฤดียังบ่นต่อ โดยไม่สนใจคนอื่นๆ  ที่มองคนพูดอย่างเอาเรื่อง

                “นี่ยัยขี้โอ่  ถ้าเธอจะบ่น บ่น แล้วก็บ่น แบบนี้ล่ะก็ ฉันว่านะ เธอไปที่อื่นเลยไป๊ ฉันชักจะทนเสียงฉอดๆ ของเธอไม่ได้เหมือนกัน” หญิงสาวปากแดงที่แดงเกินกว่าจะเป็นสาววัยทีนท้าวเอวอย่างเอาเรื่อง  ก่อนที่จะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งลงไม้ลงมือก่อน มัสยาที่ยืนคั่นระหว่างสาวปากแดงกับเพื่อนปากร้ายรีบดึงแขนเพื่อนรักออกจากแถวทันทีทันใด

    “แกไม่ปรับปรุงตัวเลยนะยัยเปรม  เพื่อนกี่คนต่อกี่คนที่ต้องหนีแกไป”  มัสยาเอ่ยขึ้นทันทีหลังจากหาที่หลบสายตาผู้คน  เปรมฤดีมองหน้ามัสยา ก่อนที่ภาพหลอนต่างๆ  ของเพื่อนๆ ที่รุมด่าทอ เสียงตะโกนดังลั่นอยู่ในหู  “ยัยขี้โอ่  ยัยขี้วีน”  “ยัยปากร้าย”  เปรมฤดีเอาฝ่ามือทั้งสองกุมหูไว้ ก่อนจะเอ่ยขึ้น

    “มัสจ๋าฉันผิดไปแล้ว  อย่าทิ้งฉันไปเหมือนคนอื่นๆ นะ ได้โปรด พลีสสส”  เปรมฤดีไม่พูดเปล่า ลงทุนคุกเข่าแบบชายหนุ่มขอหญิงสาวแต่งงาน  พลางทำสายตาอ้อนวอน

    “เอ่อ ให้มันได้แบบนี้สิน๊า  ทีงี้ล่ะทำเป็นขอโทษ”  มัสยาดึงเพื่อนขึ้นมาตบที่ไหล่เบาๆ 

    “ถ้าฉันไม่ได้โตมาด้วยกันกับแกนะ ฉันทิ้งแกไปนานแล้วยัยปากร้ายเอ๊ย”  สองสาวหัวเราะเสียงใส  ก่อนจะทำปากจุ๊ๆ  เพราะมีสายตาหลายสิบคู่มองมาที่สองสาวเป็นจุดเดียว

    “ฉันว่าเรากลับบ้านก่อนเถอะ  พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่  วันนี้ฤกษ์ไม่ดีเท่าไหร่^O^  เปรมฤดีเอ่ยขึ้นอย่างสำนึกผิด

    “แต่ก่อนจะกลับ  ไหนๆ  ก็ไหนๆ  แล้ว ฉันว่าแกกับฉันไปแหล่ๆ  แถวนี้ก่อนเถอะเผื่อจะเจอ กล์อฟ ไมค์ หรือพี่บี้รีบไปกันเถอะเสียเวลา  แกก็รู้นี้น๊า ที่ฉันมาเป็นเพื่อนแกเพราะจุดประสงค์อะไร    มัสยาออกอาการบ้าศิลปินขึ้นมาอย่างปัจจุบันทันด่วน

    “ที่อย่างงี้อารมณ์ดีขึ้นมาทันควันเลยนะแก"  เปรมฤดีกระเซ้าเพื่อนรัก พลางเดินตามอย่างขัดเสียไม่ได้

    “หวังว่าแถวนี้คงจะไม่เจอนายทินหรอกนะ”  สิ้นเสียงของมัสยาเปรมฤดีถึงกับหยุดชะงัก ทิน  นายแบบหนุ่มอนาคตไกลอดีตคนรักของเปรมฤดี พอเริ่มเข้าวงการ มีชื่อเสียงก็ทิ้งเธอไปอย่างไม่ใยดี หันไปคว้าดารานางแบบที่มีชื่อเสียงไม่แพ้กัน

    “อย่าเอ่ยชื่อคนคนนี้ให้ฉันได้ยินอีกนะ ไม่งั้นแกกับฉันเลิกคบกัน” เปรมฤดีพูดเด็ดขาด

    “จร้า  ฉันขอโทษT-T ก็ฉันนึกว่าเธอน่าจะทำใจได้แล้วนี้ มันก็เกือบ 2 ปีแล้วนะเปรม  แล้วแกไม่คิดหรือว่าเส้นทางสายอาชีพที่แกกำลังเลือกอยู่เนี่ย สักวันหนึ่งมันต้องได้เจอเขา” มัสยาอธิบาย  เปรมฤดีหวนคิดถึงเรื่องเก่าๆ  ที่ครั้งหนึ่งเคยมีผู้ชายที่ชื่อทิน  เป็นคนรัก

    เพราะคนคนนี้มิใช่หรือที่เธอต้องเจ็บปวด เกือบจะเสียอนาคต โชคดีที่เธอยังมีแม่  มีเพื่อนที่ยังห่วงใยเธอ จนเธอสามารถยืนหยัดจนกระทั่งทุกวันนี้ได้ เปรมฤดีสะบัดหน้าเพื่อให้ความทรงจำในอดีตลบเลือนก่อนจะเอ่ยเสียงดังเฉียบขาด

    “ถ้าแกยังไม่ยอมหยุดพูด  ฉันจะกลับล่ะ”  เปรมฤดีหันหลังจะเดินกลับ แต่

    “เฮ้ย นั่นไงพี่บี้ โอย  ไปกันเถอะ ยัยเปรม”  มัสยาคว้าข้อมือเพื่อนรัก โดยไม่สนใจคำพูดของเปรมเลยสักนิด เพราะตอนนี้จิตใจพะวงอยู่กับซุปเปอร์สตาร์คนดัง

    “เอ่อเอาเข้าไป”  เปรมฤดีเห็นท่าทางของเพื่อนจึงปล่อยเลยตามเลย  แม้ใจหนึ่งจะประวิงกับเรื่องที่มัสยาพูด จริงอย่างที่เพื่อนว่า หากเธอจะชื่นชอบกับงานครีเอทีฟ แน่นอนว่าไม่วันใดก็วันหนึ่งเป็นต้องได้เจอเขา

    -----------------------------------------------------------------------------------------

    “อ้าวกลับมาแล้วเหรอยัยเปรม  เป็นงัยบ้างลูกไปสมัครงาน”  เสียงแหลมเล็กดังออกมาจากในครัว

     “ยังไม่ได้สมัครเลยแม่ คนเยอะ”  เปรมฤดีเดินตามเสียงมา  ร่างกายอันผอมบางของแม่เด่นเป็นสง่าอยู่ที่หน้าเตา เปรมฤดีย่องเข้าไปหา   ก่อนที่จะจี้เอวแม่อย่างนึกสนุก

    “โอยเล่นอะไรเด็กคนนี้  เดี๋ยวแม่ก็หัวใจวายหรอก”  แม่พูดพลางหัวเราะพลาง 

    “ก็เปรมอยากให้แม่หัวเราะนี่น๊า”  เปรมฤดีออดอ้อนก่อนจะเอาคางแหลมๆ ไปเกยที่ไหล่แม่ พลางโยกตัวไปมา 

    “พูดยังกับว่า แม่ไม่เคยหัวเราะอย่างงั้นแหล่ะยัยเปรม”  ผู้เป็นแม่หันหน้ามามองลูกสาวให้ชัดๆ เต็มตา  ก่อนที่จะถือตะหลิวที่อยู่ในมือชี้ไปที่ลูกสาว

     “ถ้ามาอีหรอบออดอ้อนแบบนี้นะ แม่ว่า แกต้องไปสร้างวีรกรรมมาแน่ แกนี่นา  ไปที่ไหนเป็นต้อง----” 

    “หยุดเลยแม่ หยุดเลย” เปรมฤดียกมือขึ้นเหมือนกับตำรวจนักโบกในช่วงเวลาจราจรคับคั่ง

    “ไม่ต้องบ่นได้ไหม เปรมกับแม่ก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอกจริงไหมแม่”   เปรมฤดียักคิ้วหลิ่วตาให้แม่ก่อนจะวิ่งปรูดออกจากครัว  ผู้เป็นแม่ท้าวสะเอว ก่อนที่จะหันมามองผัดผักในกระทะที่กำลังเดือดปุดไม่ต่างอะไรกับอารมณ์ของผู้ทำ

    “ฝากไว้ก่อนเถอะ ยัยลูกตัวดี”  

                เปรมฤดีดึงกระเป๋าสะพายใบเก่งไว้บนเตียงก่อนที่จะทิ้งตัวลงอย่างอ่อนล้า ดวงตากลมโตปรือลงอย่างว่าง่าย  ก่อนจะลืมตาโพลงขึ้นมาอย่างนึกได้

    “ตายละว๊า  ลืมสนิทเลยฉัน”  เปรมฤดีผุดลุกขึ้นจากเตียงอย่างกับติดสปริง ก่อนจะคว้ากระเป๋าคู่ใจวิ่งออกจากห้อง

                เสียงวิ่งตึงๆๆๆ ทำให้ผู้เป็นแม่ร้องขึ้น

    “นั่นแกจะไปไหนยัยเปรม มาไม่ถึงห้านาทีก็จะออกจากบ้านอีกแล้ว แกนี่น๊าเมื่อไหร่จะเป็นผู้หญิงอยู่กับบ้านเฝ้ากับเรือนเหมือนอย่างลูกสาวบ้านอื่นเขาสักที”  นางระวิวรรณ ผู้เป็นมารดาได้แต่บ่นให้กับลูกสาว ตั้งแต่ลูกสาวอกหักเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เธอก็เห็นลูกสาวสนใจแต่เรื่องเรียน เหมือนประหนึ่งว่าการเรียนจะทำให้ลืมความเจ็บปวด  ซึ่งก็ได้ผล เปรมฤดีลืมความเจ็บปวดจนสามารถคว้าเกียรตินิยมอันดับหนึ่งมาให้แม่ได้ชื่นชม

    “แม่ไม่ต้องรอทานข้าวนะ เดี๋ยวเปรมมา  ไม่ต้องห่วง”  เสียงใสๆ  แผ่วลงเรื่อยๆ ตามระยะทางของผู้พูดที่ห่างไกลออกไปทุกที

    “นี่ฉันได้ลูกสาวหรือได้ลูกชายเนี่ย  ถ้าพ่อแกอยู่ แม่คงไม่ต้องกลุ้มใจเรื่องแกหรอกยัยเปรม  นับวันแกยิ่งกล้าแกร่งขึ้น ฉันล่ะกลัวจริงๆ  ว่าจะไม่ได้ลูกเขย”  นางระวิวรรณมองรูปภาพผู้เป็นสามีที่แขวนอยู่ข้างฝาเหมือนกับจะขอความเห็นใจ

                “ใช่แล้ว  ฉันต้องหาแฟนมาให้แก ยัยเปรม” นางระวิวรรณตาลุกวาวและแอบยิ้มอยู่คนเดียวกับแผนหาคู่ให้กับลูกสาวที่กำลังก่อร่างสร้างตัวในมโนนึก  “เสร็จฉันแน่ยัยเปรม” 

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น