คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Heart to Heart chp.03 : Unforgettable
Heart to Heart chp.03 : Unforgettable
Writer : RioNa'
______________________________________________________________________________
'ยองแซงอยู่ที่นี่นะ พอดีมีงานน่ะ เดี๋ยวจะโทรเข้ามือถือนะ'
ประโยคสุดท้ายของคิมฮยอนจุงที่พูดรัวๆทิ้งท้ายใส่คนแก้มป่องที่นั่งเอ๋อเลียไอศกรีมในมือหลังจากที่เจ้าตัวได้รับโทรศัพท์จากว่าที่ท่านประทานบริษัทที่ตนสังกัดอยู่ให้เข้าพบโดยด่วน
ยองแซงมองไล่หลังชายหนุ่มผมทองตาปริบๆ ถึงแม้ร่างสูงจะทิ้งบัตรเครดิตกับโทรศัพท์มือถือที่ไม่มีแม้แต่เบอร์โทรศัพท์ของเจ้าของเครื่องคนเก่าทิ้งไว้ให้ก็ตาม แต่ในเมื่อเท้าของเขายังเหยียบแผ่นดินประเทศเกาหลีได้ไม่ครบวันดีแล้วจะให้คนตัวเล็กเดินไปไหนกันเล่า??
ตั้งแต่เก้าโมงเช้าของวันนี้ที่ร่างบางโดนฮยอนจุงลากไปโน่นไปนี่ตั้งแต่มหาวิทยาลัยเพราะมีเรื่องมากมายที่ต้องไปจัดการให้เรียบร้อย พอประมานบ่ายโมงกว่าๆก็โดนลากไปซ้อมเปียโนตามที่หม่อมแม่ของคุณหนูสั่งมาอย่างจริงจังซะยิ่งกว่าเรื่องเรียน ผ่านไปกว่าสองชั่วโมงฮอยองแซงก็ถูกเอามาปล่อยไว้ที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังอยู่คนเดียว
ตอนนี้คนน่ารักกำลังคิดว่าตัวเองเหมือนสัตว์เลี้ยงถูกทิ้ง
"นายทำอย่างนี้กับชั้นได้ยังไงคิมฮยอนจุง" ยองแซงขมวดคิ้วมุ่นพลางพึมพำใส่โทรศัพท์มือถือที่ตอนนี้ตนเป็นเจ้าของหลังจากที่ไปขู่กรรโชกเอามาจากฮยอนจุงเมื่อเช้า นิ้วเล็กๆกดจิ้มๆดูออฟชั่นต่างๆในเครื่องก่อนจะหยุดลงกับที่บันทึกเบอร์ โทรศัพท์ของผู้อื่น
"เบอร์เควิ่นก็ไม่มี แย่ที่สุด" ร่างเล็กขมวดคิ้วก่อนจะเก็บเจ้าก้อนพลังงานซึ่งไม่มีประโยชน์อะไรในตอนนี้เข้ากระเป๋ากางเกงแล้วหันมาให้ความสนใจกับไอศกรีมโคนรสวานิลลาต่อ
บัดนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าเรื่องกิน หิวจะแย่อยู่แล้ว!!
"เฮ้~ ทำไมทำหน้าบูดอย่างงั้นล่ะเพื่อนยาก" เสียงทักทายอย่างเริงร่าของทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลปาร์คผู้มีอิทธิพลในวงการเพลงเกาหลีดังขึ้นชวนให้เจ้าของใบหน้ารูปสลักอยากจะกระโดดเข้าไปก้านคอใส่เจ้าคนที่นั่งเต๊ะอยู่บนเก้าอี้ผู้บริหารที่เพิ่งกดวางสายจากโทรศัพท์มือถือไป
'ถ้าไม่ติดตรงที่ว่าฐานะเป็นเจ้านายกับลูกน้องในตอนนี้หรอกนะ'
"มีอะไรก็พูดกันมาเลยดีกว่าคุณปาร์ค จองมิน..." ฮยอนจุงพยายามสงบสติอารมณ์และบังคับน้ำเสียงของตัวเองให้ขรึมที่สุดเท่าที่จะทำได้
"แหมๆๆ ไม่ต้องซีเรียสขนาดนั้นหรอกน่า... เรียกว่าจองมินก็ได้นะเพื่อนรัก" คุณชายปาร์คกระตุกยิ้มน้อยๆ ชวนให้คุณเพื่อนสนิทตรงหน้าเริ่มเส้นกระตุกอยากชักเท้าขึ้นมาประเคนใส่หน้า ซักทีสองที
คิมฮยอนจุงจะไม่รู้สึกอยากฆ่าเพื่อนเท่าตอนนี้เลยถ้าเขาที่อุตส่าห์รีบร้อนผละออกมาจากยองแซงเพื่อเข้ามาที่บริษัททั้งๆที่ตนเอง ขอลางานไว้แล้ว เพราะเห็นว่าจองมินลงทุนโทรมาเองในเวลาทำงาน เจ้าตัวก็เลยคิดว่าคงมีเรื่องด่วนจริงๆ เพราะไม่อย่างงั้นเจ้านี่ก็ต้องให้เลขาโทรมาให้แทนอยู่แล้ว
เพียงแต่ว่าเขาลืมคิดไปว่าปาร์ค จองมินไม่เหมือนชาวบ้าน...
และ ภาพที่เขาเห็นก็คือ'มัน'กำลังจิ๊จ๊ะคุยโทรศัพท์อยู่กับคนรักตัวเองเสียงอ่อนเสียงหวาน แถมยังมีหน้ามาบอกให้เขารอตัวเองคุยให้เสร็จก่อนแล้วค่อยมาว่ากันเรื่องธุระ ยิ่งเห็นก็ยิ่งคันไม้คันมืออยากเข้าไปตบเฉดกบาลมันซักทีสองที นี่เหรองานด่วน! ให้มาฟังแกนั่งคุยโทรศัพท์ม่อใส่เด็กอายุสิบแปด!!
"บอกมาว่าจะเอางานอะไรประเคนใส่หัวเพื่อนรักแกอีก ถ้าจำไม่ผิดวันนี้ชั้นขอลาหยุด" ฮยอนจุงเปิดประเด็นด้วยภาษาที่สุภาพที่สุดเท่าที่จะมีสติพูดได้แล้ว
"อ้อ... นายก็รู้ว่าเดือนหน้าเราจะมีการเปิดตัวนักร้องคนใหม่" จองมินหันไปให้ความสนใจกับแฟ้มตราม้าเป็นตั้งบนโต๊ะทำงาน นิ้วเรียวไล่ไปตามสันที่เขียนหัวข้องานไว้ก่อนจะดึงออกมาเปิดดูเล่มหนึ่ง
"แล้วยังไง" คนผมทองกอดอกแล้วถามเสียงเหี้ยม ฝ่ายคู่สนทนาก็ยิ้มกว้างมากขึ้น
"มันมีปัญหาตรงที่ว่านักร้องคนนี้ย้ายมาหลายค่ายแล้วน่ะนะ ด้วยความที่ว่าเจ้าตัวเป็นคนเรื่องมากไปซักหน่อยทำให้เราไม่สามารถหาผู้จัดการส่วนตัวได้นี่สิ" พูดไปเรื่อยพลางออกแรงโยนแฟ้มในมือไปอีกฝากหนึ่งของโต๊ะทำงาน หากแต่ตอนนี้ฮยอนจุงยังไม่ใส่ใจที่จะเปิดดู
"ไว้พรุ่งนี้ฉันจะหาคนมาให้ วันนี้มีธุระ ไปล่ะนะ" ร่างสูงปฎิเสธพร้อมกับทำท่าจะเดินออกไป หากแต่ประโยคต่อไปทำให้เขาต้องหยุดแล้วหันมามองเจ้านาย
"เดี๋ยวก่อนสิเพื่อนรัก"
"ชั้นไม่ได้สั่งให้นายหาคนมาให้ แต่คำสั่งของชั้นต่อจากนี้คือให้นายมาเป็นผู้จัดการของนักร้องคนนี้ต่างหากคิมฮยอนจุง"
ปาร์คจองมินกระตุกยิ้มซักโซใส่อย่างสะใจ ก่อนจะเดินเข้าไปหาเพื่อนสนิทที่ยืนอึ้งกับคำสั่งที่ได้รับพร้อมกับยัดเจ้า แฟ้มตราม้าสีดำเล่มนั้นใส่มือของอีกฝ่ายแล้วพูดทิ้งท้าย
"เริ่มงานใหม่ของนายมะรืนนี้ ขอให้โชคดีละกันนะ เงินเดือนดีปลายปีโบนัสเพียบ อ้อๆๆ ไม่ต้องมาโวยวายใส่ชั้น คนที่สั่งชั้นลงมาอีกทีน่ะคุณปู่โน่น มีปัญหาอะไรก็ไปหาท่านที่บ้านชั้นละกันนะ" ผู้บริหารหนุ่มเดินออกไปจากห้องด้วยท่าทีสบายๆพร้อมกับยิ้มโปรยเสน่ห์ให้กับ สาวๆในออฟฟิศที่วันๆคอยแต่ชะเง้อมองหัวหน้าตัวเองกับการนั่งเม้าท์ให้เปลืองเบี้ยเลี้ยงบริษัท
ผู้บริหารหนุ่มทิ้งให้คนหน้าตาดียืนอยู่ในห้องคนเดียว...
และ..
"อ๊ากกกกกกกกกก!!!!" ฮยอนจุงนึกอยากทึ้งผมตัวเองตาย ตั้งแต่เกิดมาเขาเคยนึกใจดีอยากดูแลคนอื่นนอกจากยองแซงด้วยเหรอ?? แล้วทำไมเขาต้องกลายมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวของนักร้องที่ต้องยุ่งไม่แพ้ตัว ศิลปินที่รับผิดชอบ และต่อจากนี้ไปเขาต้องดูแลคนตั้งสองคนพร้อมๆกันไปเลยใช่ไหม??
"ปัดโธ่โว้ย!!" ฮยอนจุงตะโกนออกมาอย่างหัวเสีย
'ไอ้คุณจองมิน ต้องเป็นแกแน่ๆเลยที่บอกประธานว่าจะให้ชั้นทำงานนี้ เมื่อวานก็เพิ่งบอกไปแท้ๆว่าต้องดูแลลูกของคนรู้จักให้ ไม่น่าไปบอกมันเลยว้อยยยย แกล้งอะไรไม่แกล้งนะไอ้เพื่อนเวร!!!' คำสบถก่นด่ามากมายดังขึ้นในใจของชายหนุ่มที่ยังคงยืนอยู่ในห้อง ความคิดมากมายประดังประเดเข้ามาในสมอง หากแต่ไม่มีเรื่องไหนให้กังวลเท่าเรื่องใหญ่ที่สุดในชีวิตของฮยอนจุง
ฮอยองแซงจะคิดยังไง
ยองแซงจะทำหน้ายังไงถ้าเขาบอกเรื่องนี้ให้เจ้าตัวรู้
ยองแซงจะโกรธเขาเหมือนเมื่อวานอีกรึเปล่าถ้าเขากลับบ้านช้า
ที่สำคัญที่สุด... ยองแซงจะเกลียดเขาอย่างที่เคยเกลียดไหม
หากเป็นเช่นนั้น... ถ้าถูกคนที่รักเกลียดอีกครั้ง เขาจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไรกันเล่า??
คิดได้แค่นั้นร่างสูงก็นึกขึ้นมาได้ว่าทิ้งให้คนตัวเล็กอยู่คนเดียวนานแล้ว ชายหนุ่มรีบเก็บสีหน้าอันเคร่งเครียดไว้ก่อนจะหันก้าวเดินออกไปจากห้องผู้บริหารของบริษัท
ดวงตาเรียวรีกวาดมองหนังสือเล่มหนาที่ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบอยู่บนชั้น ไม้สูงกว่าสองเมตร คิ้วเรียวขมวดมุ่นเมื่อยืนหามาตั้งนานยังไม่เจอหนังสือเล่มไหนถูกตาต้องใจเสียที แต่แล้วริมฝีปากอิ่มก็วาดรอยยิ้มสดใสขึ้นมาเมื่อเจอหนังสือที่ตนตามหา หนังสือโน้ตเปียโนปกสวยถูกจัดวางอยู่ท่ามกลางหนังสือเกี่ยวกับเปียโนมากมาย หากแต่เจ้าเล่มที่เขาอยากได้เป็นเล่มสุดท้ายของกองพอดี สงสัยว่าถ้าไม่ซื้อมันวันนี้คงต้องรอไปอีกนาน
"นั่นไง" คนตัวเล็กพูดกับตัวเองพร้อมรอยยิ้ม แต่ในจังหวะที่กำลังเอื้อมมือจะหยิบมันลงมาหนังสือเล่มนั้นก็ถูกใครบางคนหยิบตัดหน้าไปอย่างรวดเร็ว
"อ๊ะ..." ยองแซงเผลอร้องออกมาแต่ก็ต้องรีบยกมือขึ้นปิดปากเพราะที่นี่เป็นร้านหนังสือ แค่เสียงเพียงเสียงเดียวเมื่อกี้ก็แทบจะเป็นจุดสนใจของคนทั้งร้านได้อยู่ แล้วชายหนุ่มที่ตัดหน้ายองแซงไปหันมามองคนตัวเล็กช้าๆ
ราวกับเวลาที่หยุดลงเมื่อสิบปีก่อนได้เดินอีกครั้ง แม้จะผ่านไปนานเท่าใดแต่ใบหน้าของผู้เป็นรักแรกยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำสมัยเด็กของคยูจง ร่างสูงมองใบหน้าตื่นตกใจของคนตัวเล็กก่อนจะพึมพำออกมา เบาๆ
"ยองแซงเหรอ.." เสียงทุ้มเอ่ยถามอย่างมีความหวังหรือมันจะใช่.. ที่ไกลแสนไกลที่รักแรกของเขาเคยบอกอาจจะเป็นโซล
"เอ่อ... " ร่างเล็กเริ่มอึกอัก มองหน้าของคนที่เขาคิดว่าเป็นพนักงานร้านหนังสือร้านนี้พลางคิด ก็เขาจำได้ว่านอกจากเควิ่น นิโคล แล้วก็ฮยอนจุงแล้วที่เกาหลีเขาก็ไม่เคยรู้จักใครอีกนะ
"นายใช่ไหมยองแซง" คยูจงถามซ้ำพร้อมกับมือหนาที่วาดจับข้อมือเล็กของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว
"ขอโทษนะฮะ.. คือผมไม่รู้จักคุณ" ยองแซงปฎิเสธพร้อมกับส่ายหน้าเร็วๆ ดวงตาเรียวรีนั้นฉายแววตกใจปนหวาดกลัวอยู่ไม่น้อย
"เอ่อ ขอโทษครับ ผมคงจำผิด" เมื่อชายหนุ่มเห็นว่าป่วยการจะถามอะไรต่อ อีกฝ่ายเองก็ดูเหมือนจะกลัวเขาอยู่ คยูจงจึงปล่อยมือที่จับข้อมือเล็กนั้นไว้ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ
"คุณอยากได้เล่มนี้เหรอ" เขาพูดพร้อมกับยกมันขึ้นมา คนตัวเล็กพยักหน้าหงึกหงัก
"เชิญเลยครับ" พูดพลางยื่นมันให้กับยองแซงที่อ้าปากจะค้านแต่ก็ต้องหุบลง
"เอ่อ.. ขอบคุณฮะ ขอตัวก่อนนะ" เมื่อรับมาได้ก็รีบโค้งขอบคุณแล้วรีบจ้ำจากไป โดยมีสายตาของร่างสูงมองตามหลังอย่างไม่วายจะสงสัยในตัวของเขา
เหนื่อยจัง= = เม้นท์ๆด้วยนะึคะ
มีแต่เรื่องแย่ๆ....
ความคิดเห็น