ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SS501 Fiction :- Heart to Heart [Re-Up!!]

    ลำดับตอนที่ #5 : Heart to Heart chp.05 : New comer II

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 519
      1
      28 ก.พ. 53


    Heart to Heart chp.05 : New comer II
    Writer : RioNa

    ______________________________________________________________________



                  รถคันหรูจอดเทียบกับบันไดทางขึ้นหอประชุมมหาวิทยาลัยศิลปะชื่อดังในความดูแลของค่ายเพลงยักษ์ใหญ่พร้อมกับร่างเล็กที่ก้าวออกมานั้นเรียกความสนใจของผู้ คนแถวนั้นให้เหลียวกลับมาดูเป็นตาเดียว ในขณะที่นักศึกษาหญิงบางคนที่รู้เรื่องของเหล่าผู้บริหารก็เริ่มจะกรี๊ดกร๊าดขึ้นมาเมื่อเห็นและจำได้ว่ารถสีดำคันนี้เป็นของใคร


                  เสียงซุบซิบเริ่มดังขึ้นเมื่อเด็กหนุ่มผมดำที่ไม่มีใครเคยเห็นหน้าออกมายืนเต็มตัว เพราะถึงขนาดมีรถมาส่งถึงในตัวมหาลัยขนาดนี้แล้วก็คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก เครือญาติหรือสมาชิกของตระกูลปาร์คผู้เป็นเจ้าของบริษัทเพลงDSP Entertainment หรือไม่อย่างนั้นก็คงเป็นพวกผู้บริหารระดับสูงซักคน


    แล้วก็เป็นไปตามคาดเมื่อ'เด็กใหม่'ก้มลงไปคุยกับคนในรถ ดูแล้วสนิทสนมกันอย่างเห็นได้ชัด บรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ผู้หูผีซึ่งได้ยินชื่อของผู้สนทนาก็ยิ่งแน่ใจและเริ่ม ชะเง้อมองจนดูเป็นภาพที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก แต่ขณะนี้คนในรถกลับไม่ได้สนใจอะไรนอกจากคนแก้มป่องซึ่งออกมายืนนอกรถแล้วคุยกับตน


                  "ฮอ ยองแซง โต แล้วนะคิม ฮยอนจุง" ยองแซงพูดชัดถ้อยชัดคำใส่คนที่สั่งโน่นสั่งนี่ราวกับเขาเป็นเด็กอนุบาล ใช่สิ คนมันเตี้ยแล้วผิดตรงไหน หน้าเด็กแล้วผิดตรงไหนห๊ะ


                  "ครับๆ เอาเป็นว่าจะกลับบ้านเมื่อไหร่ก็โทรมาบอกนะ" คนที่อยู่ในรถพูดยิ้มๆ


                  "อื้อ รีบไปทำงานเถอะ เดี๋ยวก็สายหรอก บ๊ายบาย" ยองแซงรีบตัดบทเมื่อเห็นเกาหลีมุง เจ้าตัวเองก็อายเหมือนกัน ทั้งที่เป็นผู้ชายแท้ๆก็ต้องมีรถมาส่งถึงที่ จริงๆก็ไม่ได้อยากเล่นเส้นเล่นสายอะไรซักหน่อยนี่


                  แล้วเจอกันนะ" พูดจบก็เลื่อนกระจกปิดก่อนจะขับรถออกไป ส่วนคนตัวเล็กก็รีบเดินพร้อมกับหนังสือเรียนที่ถือมาด้วยขึ้นหอประชุมที่อยู่ชั้นสองของตึก ยองแซงยังไม่อยากเจอคนมากๆในวันเปิดเรียนอย่างนี้ เขาไม่ชอบเอาซะเลย




                  บรรยากาศในหอประชุมที่ยังไม่เริ่มงานปฐมนิเทศเต็มไปด้วยความวุ่นวายของส่วนหน้าเวทีซึ่งมีรุ่นพี่เดินไปเดินมาเพื่อเตรียมงานขั้นสุดท้ายให้เรียบร้อย ส่วนหลังของหอประชุมเป็นพวกเด็กนักเรียนปีหนึ่งที่กล้าๆกลัวๆและยังทำ ตัวไม่ถูกซึ่งพากันถอยกรูดไปอยู่ตรงนั้น บางคนก็อยู่คนเดียว บางคนก็มากันเป็นกลุ่มสามถึงสี่คน


    ยองแซงกระพริบตาปริบๆ ทั้งๆที่คิดว่าตัวเองมาช้าจนพิธีเริ่มไปแล้ว แต่ที่ไหนได้กลับเป็นคนในกลุ่ม ที่มาเร็วกว่าชาวบ้านแล้วทำตัวไม่ถูกซะเอง  


                  "แย่ชะมัด" คนตัวเล็กบ่นพึมพำก่อนจะเดินไปหาที่นั่งที่อยู่หลังๆแล้วนั่งลงไม่ห่างจากเด็กปีหนึ่งกลุ่มใหญ่ตรงนั้น


    ไม่นานนักรุ่นพี่ที่รับหน้าที่มาช่วยงานในวันนี้ก็เริ่มเดินมาต้อนพวกเขาให้ไปนั่งหน้าๆกันซะหมด จากตอนแรกที่กระจายกันนั่งก็โดนจับมาอยู่รวมกันซะแล้ว ร่างบางหันซ้ายหันขวาก่อนจะรู้สึกเสียววูบขึ้นมาเมื่อหันไปเห็นรุ่นพี่ ผู้หญิงคนนึงใส่แว่นหนาเตอะจ้องตนอยู่ และดูท่าว่าจะจ้องมานานแล้วด้วย


                  "นายก็โดนเหรอ" สำเนียงภาษาเกาหลีต่างถิ่นเรียกให้ยองแซงหันไปหาต้นทางของเสียงซึ่งนั่งอยู่ข้างๆเขาเอง


                  "อ่า...หะ" คนโดนทักพยักหน้า


                  "ตอนนายหันไปเห็นเค้านี่ท่านายตกใจตลกมากเลยอะ" คนทักหัวเราะคิกคัก แต่ก็หยุดลงเมื่อยองแซงยังคงทำหน้าเอ๋อ


                  "ชั้นชื่ออเล็กซานเดอร์ เรียกว่าอเล็กซ์หรือซานเดอร์ก็ได้ ชั้นมาจากมาเก๊าน่ะ แล้วนายล่ะ"


                  "ฮอ ยองแซง มาจากอเมริกา แคลิฟอร์เนีย ยินดีที่ได้รู้จัก" คนตัวเล็กตอบ


    เงียบกันไปพักหนึ่ง


                  "คุณ.. ก็โดนเหรอ" ยองแซงถามทำลายความเงียบขึ้น พยายามสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนใหม่


                  "เปล่า เพื่อนชั้นโดน ใช่มั้ยคยูจง" อเล็กซานเดอร์หันไปหาอีกคน




                  ขายาวของร่างสูงซึ่งเพิ่งมาถึงบริษัทของตนนั้นก้าวเร็วๆผ่านพนักงานที่โค้งตัวรับผู้บริหารหนุ่มไปยังทางรอลิฟท์เพื่อขึ้นไปยังห้องของรองประธานเพื่อรับคำสั่ง  แต่แล้วคิม ฮยอนจุงก็ต้องหยุดการเคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้นพร้อมกับมองหญิงสาวที่หยุดอยู่ตรงหน้า


                  "ไม่คิดเลยว่าจะมาเจอพี่ที่นี่นะคะ พี่ฮยอนจุง" หญิงสาววัยแรกรุ่นผมน้ำตาลแดงในชุดฮันบกสีชมพูอ่อนขยับยิ้มพร้อมกับเอ่ยทักอย่างเป็นมิตร  หากแต่ว่าสายตาที่มองสบกับเขานั้นไม่แสดงออกถึงความสดใสอย่างที่เธอควรจะเป็นเลยแม้แต่น้อย 


    มีเพียงสายตาที่แสดงถึงความรังเกียจสุดขั้วหัวใจนั้นมองมา
    สายตาที่ทำให้ฮยอนจุงหวนนึกถึงความผิดที่ตนไม่อาจได้รับการอภัย


                  "สวัสดี นิโคล" ร่างสูงตอบกลับไป


                  "พี่ทำงานที่นี่สินะคะ  น่าแปลกนะ ฉันก็อยู่กับดีเอสพีมานานฉันไม่เคยเห็นพี่เลย" ชองนิโคลเอ่ยถาม ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนนั้นมองตรงมายังเขาอย่างท้าทาย


                  "เธอเป็นดารานี่  พี่เป็นเบื้องหลัง อีกอย่างเธอก็ไม่ค่อยได้เข้ามาที่บริษัท ไม่แปลกหรอกที่เราจะไม่เคยเห็นหน้ากัน แล้วนี่ใส่ชุดฮันบกจะไปทำอะไรต่อล่ะ"


                  "วันนี้คุณตาคุณยายมาที่บ้านน่ะค่ะ แล้วพี่ก็คงไม่ว่างนัก ไว้มีโอกาสค่อยคุยกันวันหลังนะคะ" สาวน้อยตัดบทเมื่อหันไปเห็นนาฬิกาที่บอกเวลาอันสมควรแล้ว แถมผู้จัดการส่วนตัวที่ยืนอยู่ข้างหลังก็ทำปากบุ้ยใบ้เป็นเชิงเตือน


                  "อืม ไปเถอะ แล้วเจอกันนะ" ฮยอนจุงฝืนยิ้มรับ นิโคลก้มศีรษะให้ผู้บริหารหนุ่มช้าๆแล้วยิ้มอีกครั้งก่อนจะพูดกับชายหนุ่ม


                  "หวังว่าแซงกี้เพื่อนรักของนิโคลจะสบายดีนะคะ  พี่ต้องดูแลเค้าให้ดีๆอย่างที่พูดไว้ด้วยล่ะ"


                  "ไม่ต้องเป็นห่วง อย่างน้อยพี่ก็เป็นคนพูดแล้วไม่คืนคำ" ฮยอนจุงตอบกลับขณะที่สาวเท้าเดินผ่านหญิงสาวไป


                  "ให้มันได้อย่างนั้นก็แล้วกัน... ฉันยังไม่ลืมสิ่งที่พี่ทำกับแซงกี้ลงไปหรอกนะ" เด็กสาวลูกครึ่งเกาหลีอเมริกันหยุดยืนมองแผ่นหลังของชายหนุ่มพร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงและสายตาอันเย็นชา


    อย่างไรก็ตาม
    การเชื่อใจผู้ชายที่ชื่อคิมฮยอนจุงเป็นสิ่งที่ชองนิโคลไม่เคยทำ
    มือเล็กของหญิงสาวหยิบโทรศัพท์มือถือดีไซน์หรูของตนขึ้นมาแล้วกดต่อสายไปยังเพื่อนสนิทอีกคนทันที


                  'Kevin'

     




    หลังจากเดินออกมาจากลิฟท์ฮยอนจุงส่ายหัวไล่เหตุการณ์เมื่อครู่นี้ออกจากสมองก่อนจะออกแรงผลักประตูห้องรองประธานบริษัทเข้าไป


                  "วันนี้นายเข้ามาสายนะเนี่ย ประหลาดใจจัง" ปาร์คจองมินที่นั่งอยู่หลังโต๊ะรองประธานเอ่ยทักชายหนุ่มที่เพิ่งเดินเข้ามา ในห้องของตน


                  "พอดีมีเรื่องนิดหน่อย แล้ว'เด็กใหม่'ล่ะ?" แน่นอนว่า'เด็กใหม่'ที่เขาพูดถึงก็คือคิมฮยองจุนนักร้องใหม่ของค่ายที่เขายังไม่เห็นทั้งๆที่ถึงเวลานัดแล้ว


                  "ผมอยู่นี่ คุณนั่นแหละที่มาช้า คุณผู้จัดการ" เสียงหยิ่งๆดังขึ้นจากร่างที่นั่งอยู่บนโซฟามุมหนึ่งของห้อง คนผิวขาวที่มากับน้องชายฝาแฝดจ้องหน้าฮยอนจุงอย่างกับจะหาเรื่องแล้วมีหรือที่เขาจะยอม ของแบบนี้มันก็ต้องจ้องกลับสิ


                  "เฮ้ๆ อย่าเพิ่งทะเลาะกัน ฮยอนจุงเมื่อกี้ฉันอธิบายรายละเอียดเรื่องบริษัทของเราไปคร่าวๆแล้วนะ นายพาเค้าลงไปที่ห้องอัดเสียงหน่อยสิ จะได้เลือกเพลงที่ใช้เปิดตัว" จองมินรีบปรามทัพเมื่อเห็นว่าบรรยากาศชักจะไม่ดี  เขาคิดผิดรึเปล่านะที่ยุคุณปู่ให้โยนงานนี้มาให้เพื่อนสนิท


                  "เชิญครับคุณฮยองจุน" คนผมทองบอกเชิงประชดพร้อมกับผายมือไปยังประตูห้อง


                  "ขอบคุณนะครับคุณฮยอนจุง" นักร้องใหม่ของค่ายลุกพรวดขึ้นพร้อมกับน้องชายฝาแฝดที่ลุกขึ้นตามแต่จองมินก็หยุดเอาไว้ก่อน 


    นี่คิบอมกะจะตามพี่ชายไปทุกที่เลยสินะเนี่ย
    คิดแล้วชายปาร์คก็เครียดเล็กน้อยถึงปานกลาง


                  "คิบอมอยู่นี่นั่นแหละ อยู่คุยกันก่อนสิ" จองมินฉีกยิ้มหวานให้คนผิวขาวจัดที่มองพี่ชายสลับกับเขา


                  "ไม่เป็นไรหรอกบอม เดี๋ยวพี่มานะ" ฮยองจุนยิ้มรับพร้อมกับลูบหัวน้องชายแล้วหันไปฝากฝังไว้กับรองประธานซึ่งนั่งยิ้มอยู่กับโต๊ะ


                  "ฝากน้องผมด้วยนะครับคุณปาร์ค" เมื่อคนที่ไว้ใจได้พยักหน้ารับฮยองจุนก็เดินออกไปตามที่ผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่ผายมือให้ จองมินโบกมือหยอยๆให้เพื่อนสนิทที่หันมาทำหน้าบอกบุญไม่รับแล้วเดินออกไปอีกคน


    เงียบกันไปนาน และสิ่งที่คิบอมสนใจก็มีเพียงแต่ปลาทองในตู้ปลาขนาดใหญ่ ชายหนุ่มผิวแทนจึงเดินวางมือไว้บนไหล่ของร่างบางก่อนเอ่ยถาม


                  "หิวมั้ย อยากกินอะไรรึเปล่า" 


                  "ผมไม่อยากกิน.. และกรุณาอย่าแตะต้องตัวผมด้วย" คิบอมปฏิเสธเสียงเย็นและไม่แม้แต่จะหันหน้ามามองคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรักเลยแม้แต่น้อย  ร่างสูงขยับยิ้มนิดๆก่อนจะผละออกไปตามคำบอกก่อนจะพูดกับร่างบาง


                   "แสดงละครเก่งเหลือเกินนะ คิมคิบอม แม้กระทั่งตอนคุยโทรศัพท์.. "


                  "ขอบคุณที่ชม งั้นผมก็จะแสดงต่อไปเรื่อยๆ คุณก็ทำตามสัญญาด้วยล่ะ" เจ้าของผิวขาวจัดนั้นตอบกลับมา


                  "นายก็เหมือนกัน เย็นนี้ก็เริ่มได้แล้วมั้ง" ชายหนุ่มบอกพร้อมกับเคาะนิ้วลงกับโต๊ะเป็นจังหวะ


                  "ผมรู้แล้ว  งานของผมน่ะง่ายๆ แต่คุณต้องระวังไว้หน่อยนะ ครอบครัวผมน่ะศัตรูเยอะ แล้วถ้ามันเกิดอะไรขึ้นกับพี่ชายผมทุกอย่างก็ต้องจบ" คิมคิบอมหันมาสบตากับชายหนุ่มช้าๆ 


                  "รวมทั้งบทบาทจอมปลอมของเราสองคนด้วย" ปาร์คจองมินกระตุกยิ้มรับคำพูดของอีกฝ่าย


                  "ก็เพราะอย่างนี้ไงล่ะ ชั้นถึงได้ให้ฮยอนจุงดูแลพี่ชายนาย"


    ********************************************************

    บิงคึล บิงคึล บิง~คึล

    เห็นเอ็มวีใหม่ของยูคิสยังจ๊าา น่าเสียดายที่ซอปปี้ไม่มีท่อนร้องเป็นของตัวเองเลยT^T
    แต่เพลงนี้น้องโฮได้ท่อนแล้วนะ คิคิ


    ********************************************************


    คิม คยูจง.. (ตัวจริงพี่แกบอกว่ากำลังพยายามทำความคุ้นเคยกับน้องหมาอยู่ ที่บ้านก็เลยมีตุ๊กตา้น้องหมาเอามาออกรายการอยู่ตัวนึง)



                 คยูจงมีอดีตยึดติดอยู่กับรักแรกสมัยประถม  ถึงแม้จะได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันไม่นานแต่เขาก็ซื่อสัตย์กับรักครั้งนั้นไม่เปลี่ยนแปลง


    ฮอ ยองแซง.. (ยัมๆของเค้า รูปหัวทองน่ารักเป็นบ้าเลยอะ><)



                  ยองแซงเป็นเด็กหนุ่มที่กลับมาเหยียบแผ่นดินแม่เป็นครั้งแรก ตลอดเวลาเขามีแต่ความทรงจำที่ว่าตัวเองนั้นเกิด เติบโตและอาศัยอยู่กับแม่ซึ่งเป็นนักเปียโนชื่อดังอยู่ที่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ทว่าตั้งแต่เขามาที่เกาหลี ยองแซงกลับมีความรู้ึสึกแปลกๆที่บอกใครไม่่ได้


    คิม ฮยอนจุง.. (เอารูปเฮียตอนเอฟโฟมาแปะเลย 55)



                 ฮยอนจุงอยู่ในฐานะเปรียบเสมือนพี่ชายและเพื่อนคนหนึ่งของยองแซง เขาเป็นลูกเลี้ยงของแม่ยองแซง จากบทเรียนที่ได้รับเมื่อหลายปีก่อนทำให้เป็นคนพูดคำไหนคำนั้น ฮยอนจุงรู้ัจักกับจองมินที่อเมริกาและถูกชวนให้กลับมาทำงานด้วยกันที่เกาหลี


    คิม ฮยองจุน.. (น้องน้อยมักเนกับบทศิลปินเดี่ยว เรื่องนี้ไม่ใช่แค่พี่้น้องกับคิบอม แต่เป็นฝาแฝดมาเลยทีเดียว)



                  ฮยองจุน ไอดอลหนุ่มผู้วนเวียนอยู่ในวงการบันเทิงมาตั้งแต่จำความได้ แต่ตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับสังกัดเก่าเมื่อสามปีที่แล้วถึงจะมีผลงานโด่งดังมากมายแต่ก็ไม่ได้รับความสุขเท่าที่ควรจากการที่โดนต้นสังกัดเอาเปรียบ เมื่อคิมคิบอมผู้น้องเห็นดังนั้นและอดรนทนไม่ได้จึงวางแผนกับปาร์คจองมินจับฮยองจุนย้ายค่ายทันที




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×