ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฮูหยินใบ้

    ลำดับตอนที่ #12 : 12. "และอย่าได้แทนตัวเองเช่นนั้นกับข้าด้วย! ข้าไม่ต้องการ!"

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 10.73K
      746
      3 ต.ค. 62

    "ฮ่าๆๆๆ..น่าขำนัก..น่าขำจริงๆ! คราวนี้เป็นไรเล่าพี่อิงเอ๋อร์? ท่านก็ตกสวรรค์ลงมาเหมือนกันแล้วสินะ!?" ยังไม่ทันที่เจิ้งหว่านถงจะได้เขียนตอบอันใด เจิ้งอีหรูซึ่งเป็นอิสระจากมารดาที่กำลังเผลอตัวอยู่ก็หัวเราะร่าขณะยื่นหน้าเข้ามาถามผู้เป็นพี่สาวที่น้ำตากำลังคลอตาด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยแกมขบขันในฉับพลัน
    "กรี๊ด! นังเด็กบ้า! ไปให้พ้นหน้าข้าเดี๋ยวนี้นะ!" เจิ้งรั่วอิงที่กำลังจ้องมองแม่ทัพหนุ่มด้วยความเสียใจกรีดเสียงดังลั่นพลางเงื้อมือจะทุบตีน้องสาวในทันใด โชคยังดีที่หวังอี้เหวยปราดเข้ามาคว้ามือนางไว้ได้เสียก่อน
    "เจ้ายังอยากจะขายหน้าไปมากกว่านี้อีกหรือ!?" เสียงดุข้นกระแทกเข้ากลางใจเจิ้งรั่วอิงจนท่าทางราวกับคนเสียสติชะงักงันไปโดยพลัน น่าอับอายยิ่งนัก..น่าอับอายเสียจริงๆ! นางอุตส่าห์พูดความในใจอะไรออกไปตั้งมากมาย... แต่ผลสุดท้าย..เขาก็มิได้มีใจให้นางเลยแม้สักนิด!
    "ท่านแม่..."
    "เจ้าเป็นถึงบุตรสาวเสนาบดี..จะมาร้องไห้คร่ำครวญเช่นนี้ได้อย่างไรกัน!?" หวังอี้เหวยเอ่ยด้วยเสียงดุอีกครั้งก่อนจะหันไปก้มศีรษะให้แม่ทัพหนุ่มนิดหนึ่งเป็นเชิงขออภัย
    "วันนี้อิงเอ๋อร์กับหรูเอ๋อร์ไม่ใคร่สบายนักจึงได้พูดจาอะไรไม่ดีออกไป ขอท่านแม่ทัพอย่าได้ถือสา เราสามแม่ลูกยังมีธุระต้องจัดการคงต้องขอตัวก่อน เชิญท่านสนทนากับถงเอ๋อร์ตามสบายนะเจ้าคะ" เอ่ยคำจบ หวังอี้เหวยก็ปรายตาไปทางเจิ้งหว่านถงนิดหนึ่ง... แน่นอนว่าในแววตาคู่นั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความแค้นเคืองอย่างเห็นได้ชัด เหตุการณ์เมื่อครู่นี้..มีหรือที่เจิ้งหว่านถงผู้นั้นจะไม่รู้! ตนผิดเองที่หลงดีใจเกินไปจนลืมไปว่าบุตรีของฮูหยินเอกผู้นี้มิได้ไร้เดียงสาและเรียบง่ายอย่างท่าทางภายนอกที่นางแสดงออกมาเลยแม้แต่น้อย!
    "แม่รอง..ท่านยังมีเรื่องจะพูดกับข้างั้นหรือเจ้าคะ?" เจิ้งหว่านถงเขียนอักษรแล้วชูขึ้นถามอย่างรวดเร็วจนหวังอี้เหวยเกือบสะดุ้ง ก่อนที่แม่รองผู้มากด้วยประสบการณ์จะยกยิ้มอ่อนโยนให้อีกฝ่ายเมื่อเห็นสายตาบุรุษบางคนมองมา
    "ไม่หรอก..แม่รองแค่เป็นห่วงถงเอ๋อร์ว่าจะเหนื่อยต่างหากเล่า เจ้ายืนนานนักมิใคร่ได้ไม่ใช่หรือ? ถ้ายังไงแม่รองให้สาวใช้มาช่วยพยุงสักคนดีหรือไม่?"
    ในขณะนั้นเอง.. เกาเทียนฉีจึงได้เห็นแววตาเจ็บปวดของอดีตคู่หมายตัวน้อยเป็นครั้งแรก... แม้จะเป็นเพียงแวบเดียวก่อนที่จะเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว..หากความปวดร้าวในดวงตาคู่นั้นก็ฉายชัดจนหัวใจของแม่ทัพหนุ่มคล้ายจะเจ็บแปลบตามไปด้วย... เรื่องอะไรกันนะ? เรื่ิองใดกันที่ทำให้สาวน้อยเจ้าเล่ห์ผู้นี้ต้องเสียใจถึงขนาดนั้น!?
    "มิเป็นไรหรอกเจ้าค่ะ" หากแต่ไม่นาน... เจิ้งหว่านถงที่เก็บซ่อนความในใจไว้อย่างรวดเร็วก็คลี่ยิ้มออกมาอีกครั้ง
    "ที่นี่มีพี่เทียนฉีอยู่แล้วทั้งคน ในเมื่อพี่เทียนฉีมิได้มีใจให้น้องสาวคนไหน ก็แสดงว่าถงเอ๋อร์ก็ยังเป็นคนสำคัญที่สุดอยู่ดี พี่เทียนฉีคงจะไม่ปล่อยให้น้องต้องลำบากหรอกใช่มั้ยเจ้าคะ?" ตัวอักษรถูกเขียนแสดงออกมาเรื่อยๆราวกับสายน้ำ ก่อนที่หัวใจของแม่ทัพหนุ่มจะกระตุกวาบขึ้นในฉับพลันเมื่อเห็นดวงตาหวานฉ่ำที่ชม้ายมองมาด้วยท่าทีออดอ้อนระคนด้วยความขัดเขินอย่างที่นางไม่เคยทำกับเขามาก่อน ในห้องหัวใจของเกาเทียนฉียามนี้ราวกับมีมรสุมลูกเล็กๆกำลังก่อตัว..และพายุในนั้นก็เริ่มพัดโหมกระหน่ำอย่างบ้าคลั่งขึ้นเรื่อยๆจนเขาลืมเลือนที่จะสนใจความเป็นไปรอบข้าง แต่แล้ว...
    "พวกนางไปกันหมดแล้ว ท่านมีอะไรก็รีบว่ามา!" ข้อความบ่งบอกความห่างเหินอย่างชัดเจนถูกยกขึ้นให้อ่าน..ขณะที่ใบหน้าสะคราญที่เพิ่งแย้มยิ้มให้เขาเปลี่ยนเป็นความเรียบเฉยถึงขั้นเย็นชาลงทันใด ดวงตาหยาดเยิ้มก็แปรเป็นขุ่นข้นด้วยความเกลียดชังเช่นเดิมดังที่เคยพบเจอเมื่อคราก่อน เช่นเดิมอย่างนั้นหรือ? นี่นาง..เกลียดเขามาตลอดเลยหรือไร!?
    "ข้ามิได้มีเวลาและความอดทนมากนักหรอกนะ!" เจิ้งหว่านถงชูกระดาษอีกแผ่นขึ้นขณะขยับกายถอยไปพิงโต๊ะตัวใหญ่ที่อยู่ด้านหลังตนด้วยสีหน้าที่แลดูเหนื่อยอ่อนกว่าเดิม
    "ขาของเจ้าเป็นอะไร? เคยได้รับบาดเจ็บมางั้นหรือ?" เกาเทียนฉีเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนโดยไม่รู้ตัว แต่ที่เขาได้รับกลับมาคือมุมปากที่ยกยิ้มอย่างเย้ยหยันและสายตาเจ็บปวดที่เจือด้วยความแค้นใจของสตรีน้อยตรงหน้า
    'ขาข้าเป็นอะไรอย่างนั้นหรือ? เรื่องนี้เจ้าน่าจะรู้ดีที่สุดนี่นะ! เคยได้รับบาดเจ็บมาหรือไม่น่ะรึ? ทุกสิ่งทุกอย่างที่ข้าต้องพบเจอมา..มันคงเกินกว่าคำว่าได้รับบาดเจ็บไปแล้วกระมัง!' แต่เรื่องเหล่านี้..เจิ้งหว่านถงก็เพียงแต่คิดอยู่ในใจด้วยความสมเพชตัวเองเท่านั้น
    "ไม่ต้องสนใจขาของข้า! พูดเรื่องที่ท่านมาวันนี้เถอะ!" เจิ้งหว่านถงรีบเขียนอักษรแล้วชูขึ้น
    "ถงเอ๋อร์..พี่เทียนฉีเคยทำอะไรให้เจ้าเจ็บช้ำหรือไร...? ทำไมเจ้าถึงได้..."
    "อย่าเรียกข้าเช่นนั้น!" เจิ้งหว่านถงส่งข้อความโต้กลับอย่างรวดเร็ว "และอย่าได้แทนตัวเองเช่นนั้นกับข้าด้วย! ข้าไม่ต้องการ!"
    "ถงเอ๋อร์..."
    "ตึง!!"
    "เจ้า!" เกาเทียนฉีขมวดคิ้วยุ่งขึ้นกว่าเดิมเมื่อคำเรียกขานของเขาถูกตอบแทนกลับมาด้วยการที่สตรีตรงหน้าสะบัดมือปัดเก้าอี้ข้างกายนางจนพลิกคว่ำลงไปกับพื้น
    "รีบบอกธุระของท่านมา!" เจิ้งหว่านถงที่มือซ้ายแดงขึ้นทันตาเพราะแรงกระแทกเมื่อครู่ยังเขียนอักษรส่งมาอย่างต่อเนื่อง
    "คุณหนูหว่านถง..มือของเจ้า... ได้! พี่..ข้าจะพูดเดี๋ยวนี้" เกาเทียนฉีรีบเปลี่ยนคำทันทีที่เห็นมือน้อยๆของเจิ้งหว่านถงแตะไปยังเก้าอี้อีกตัวที่เหลืออยู่ ไม่เพียงมือเล็กอันบอบบางของนางจะแดงขึ้นเท่านั้น..แม้แต่ขาที่อยู่ภายใต้ชุดกระโปรงยาวนั่นก็ยังสั่นขึ้นจนเห็นได้ชัด บนใบหน้าเล็กยังปรากฏเม็ดเหงื่อซึมออกมามากขึ้นเรื่อยๆ..คล้ายกับว่านางกำลังเจ็บปวดทรมานกับอะไรสักอย่าง... แต่ทว่า..สายตาที่มองดูเขากลับเต็มไปด้วยความชิงชังถึงที่สุด!
    "ข้าอยากจะกลับมาหมั้นหมายกับเจ้าดังเดิม..เหมือนที่สองตระกูลเคยตกลงกันไว้"
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×