คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #112 : 112. "อย่าริอ่านทำเสแสร้ง!"
"บอกเรามาคำเดียว ตอนนี้เย่หลิงใช่อยู่กับเจ้าหรือไม่!?"
"ทรงหมายความว่าอย่างไรหรือพ่ะย่ะค่ะ?" โม่อี้เซียวมุ่นคิ้วถามพลางขยับตัวลุกขึ้นอย่างยากลำบาก "เหตุใดคุณหนูเย่หลิงจึงต้องอยู่กับกระหม่อมด้วย? มิใช่ว่าคุณหนูหายตัวไปตั้งแต่ตอนเกิดเรื่องขึ้นที่หอ...?"
"อย่าริอ่านทำเสแสร้ง!" จ้าวฝูหมิงส่งเสียงห้วนใส่ "เรารู้ดีพอๆกับที่หลายๆคนรู้นั่นล่ะว่าเจ้ามีวรยุทธ เจ้าได้รับการสั่งสอนมาจากอาจารย์ชั้นยอดที่ท่านลุงโม่คัดสรรมาไม่ต่างจากเชื้อพระวงศ์คนอื่นๆของสกุล แล้วทำไมต้องแกล้งแสดงว่าตนถูกพวกโจรทำร้ายจนบาดเจ็บด้วย!?"
"ทรงเข้าพระทัยผิดแล้วพ่ะย่ะค่ะ"
โม่อี้เซียวในสภาพเสื้อคลุมขาดวิ่นที่มือข้างหนึ่งยังกุมบาดแผลเลือดไหลบนไหล่ไว้แน่นกล่าวด้วยน้ำเสียงขมขื่น
"แม้กระหม่อมจะเคยร่ำเรียนวรยุทธมาบ้างก็จริง... แต่สรรพวิชาใดๆก็ตามที่รู้แล้วหากมิได้ฝึกปรือให้เชี่ยวชาญอยู่เสมอก็เปรียบเสมือนมีดที่มิเคยพบเจอหินลับซึ่งยากที่จะคมได้ แล้วกระหม่อมที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยการอาศัยงานศิลปะโบราณเป็นหลักจะชำนาญเท่าโจรป่าที่ออกหากินด้วยการปล้นฆ่าผู้คนเป็นนิจได้อย่างไรกัน อย่าว่าแต่พวกนั้นยังมีกันตั้งมากมาย..วันที่เกิดเหตุนั้นท่านอ๋องก็ทรงเห็นอยู่แล้วมิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะว่ากระหม่อมได้รับบาดเจ็บสาหัสเพียงใด"
"ที่เราเห็นมีเพียงคราบเลือดบนตัวของเจ้าเท่านั้นหรอกโม่อี้เซียว แต่จริงๆแล้วเป็นเยี่ยงไรใครจะรู้ได้!? ตอนนั้นคนของเจ้าก็ดูจะรีบร้อนพาเจ้าออกไปเหลือเกินนี่!" จ้าวฝูหมิงบอกด้วยเสียงห้วนไม่เปลี่ยนก่อนจะขยับกระบี่ชี้ตรงไปยังตำแหน่งหัวใจของอีกฝ่าย "รีบบอกมา! เจ้าพาเย่หลิงไปใช่หรือไม่!?"
"ท่านอ๋อง..กระหม่อมหาได้..."
"คนของเจ้านำวัตถุโบราณหลายชิ้นไปขายให้อู๋สี่..เจ้าของร้านตั๋วแลกเงินที่บ้างานศิลปะพวกนั้น! ทั้งยังยอมขายแบบขาดทุนเกินครึ่งเกือบทุกครั้งก่อนจะไปแลกซื้อยาที่เฉิงเจียง! ทว่าโสมที่ซื้อไปจากร้านแห่งนั้นต่อให้มีราคาแพงแค่ไหนก็ไม่มีทางใช้เงินหลายพันตำลึงทองแลกมาแน่ๆ! อีกทั้งโสมล้ำค่าส่วนหนึ่งที่ใช้รักษาเจ้าก็ถูกส่งมาจากเสด็จพี่อยู่แล้วมิใช่หรือ!?"
ยิ่งเอ่ยคำเสียงของจ้าวฝูหมิงก็ยิ่งเยียบเย็นลงกว่าเดิม ขณะที่ตัวเขาก็ค่อยๆก้าวเข้าไปใกล้โม่อี้เซียวมากขึ้นทุกที
"อย่าว่าแต่ตัวยาในคลังของเฉิงเจียงที่ลดลงผิดปกติตามบันทึกของเสมียนที่นั่นก็มีแต่เกสรดอกไม้ 5 ชนิดทั้งสิ้น! ไหนเจ้าบอกเรามาสิ! เรื่องนี้มันหมายความว่าอย่างไรกัน!?"
"ท่านอ๋อง..เพราะเหตุการณ์ที่หอศิลปะทำให้กระหม่อมมีปัญหาจริงๆจึงต้องยอมขายชิ้นงานไปในราคาถูกกว่ามูลค่าเดิมของมัน แต่ที่คนของกระหม่อมไปซื้อยานั้นหาได้เกี่ยวกับการหายตัวไปของคุณหนู..."
"ยังจะโป้ปดเราอีกงั้นรึ?" จ้าวฝูหมิงผลักมือไปข้างหน้าจนเริ่มเกิดหยดเลือดแดงฉานไหลมาตามปลายกระบี่ ก่อนที่เขาจะส่งเสียงต่ำแฝงจิตสังหารออกมาอีกครั้ง "แล้วคนของเจ้าจะซื้อเบญจเกสรกลับไปเพื่ออะไรกันถ้าเย่หลิงมิได้อยู่ที่นั่น!? ในเมื่อเกสรพวกนั้นล้วนใช้สำหรับบำรุงร่างกายของสตรีที่ตั้งครรภ์ทั้งสิ้น!"
"ตั้งครรภ์อย่างนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ? นี่ทรงหมายความว่าคุณหนู..."
"เย่หลิงกำลังตั้งครรภ์ลูกของเราอยู่! เจ้าให้ติงเชาเข้าไปยังเรือนที่พักของตนแทบทุกวันมีหรือจะไม่รู้! และถ้าเจ้ายังไม่อยากให้สายสกุลโม่ต้องสิ้นสุดลงที่ตัวเองล่ะก็จงรีบปล่อยนางซะ!"
"ท่านอ๋อง..." ใบหน้าโม่อี้เซียวเริ่มกระตุกสั่นขณะพยายามสะกดกลั้นความเจ็บปวดที่ได้รับ "ต่อให้พระองค์ทรงสังหารกระหม่อมเสียตั้งแต่ตอนนี้..กระหม่อมก็มิอาจทำตามพระประสงค์ได้หรอกพ่ะย่ะค่ะ เพราะคุณหนูเย่หลิงมิได้อยู่..อึ้ก!"
"ฝูหมิง! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!"
เสียงตวาดด้วยความตระหนกระคนฉุนเฉียวดังลั่นขึ้น..เป็นจังหวะเดียวกับที่จ้าวจื่อหานเข้ามาผลักพระอนุชาออกไปจนสุดแรง ถึงอย่างนั้น..คมกระบี่ก็ได้แทงลึกเข้ามาที่หน้าอกด้านซ้ายของโม่อี้เซียวแล้วหลายหุน และตอนนี้เลือดสดๆก็เริ่มทะลักไหลออกมาปะปนกับคราบเลือดเก่าบนพื้นดินจนแดงเถือกไปทั่ว ขณะที่ใบหน้าของอดีตเชื้อพระวงศ์หนุ่มกลับซีดเซียวไร้สีเลือดลงทุกที
"ท่านซุน!"
"พ่ะย่ะค่ะ!"
เสียงตอบรับดังขึ้นทันควันขณะร่างสูงวัยที่ยังกระฉับกระเฉงของซุนเว่ยหมินรีบเข้ามาตรวจดูอาการของโม่อี้เซียวอย่างรวดเร็ว ในเวลาเดียวกันนั้นเอง..ซือหม่าอี้และองครักษ์จำนวนหนึ่งก็เข้ามาถึงและเริ่มกระจายกำลังรายล้อมพื้นที่โดยรอบเอาไว้
"เคราะห์ดีที่บริเวณนี้ใกล้กับตำหนักเก่าในพระราชวังเดิมจึงไม่ใคร่มีผู้คนสัญจรไปมานัก ส่วนบางคนที่มีท่าทีว่าจะผ่านเข้ามาก็ถูกคนของเรากันออกไปหมดแล้วเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ" ซือหม่าอี้เอ่ยรายงานด้วยท่าทีเคร่งขรึมขณะชำเลืองดูใบหน้าที่ยังดุดันไม่เลิกของจ้าวฝูหมิงอย่างกังวล
"อืม" จ้าวจื่อหานพยักหน้ารับก่อนจะหันไปถามซุนเว่ยหมินอย่างร้อนใจเมื่อเห็นสภาพอเนจอนาถของโม่อี้เซียวที่เกิดขึ้นจากฝีมือของพระอนุชาชัดตา "ท่านซุน..เขาเป็นอย่างไรบ้าง?"
"บาดแผลค่อนข้างลึกแต่ยังมิกระทบจุดสำคัญเสียทีเดียว..นอกจากมีเลือดออกมากแล้วก็นับว่ายังปลอดภัยดีอยู่พ่ะย่ะค่ะ"
"เขาต้องปลอดภัยแน่นอนอยู่แล้วล่ะพ่ะย่ะค่ะเสด็จพี่..อย่างน้อยก็จนกว่าหม่อมฉันจะรู้ว่าเย่หลิงอยู่ที่ไหนกันแน่!?" จ้าวฝูหมิงส่งเสียงห้วนมาในฉับพลัน
"ยังจะกล้าพูดอีก! เจ้าคิดจะทำอะไร!? ลืมไปแล้วหรือว่าเขามีป้ายทองรักษ์ชีวิตของปฐมกษัตริย์อยู่!?"
"แล้วอย่างไรเล่าพ่ะย่ะค่ะ?" จ้าวฝูหมิงย้อนถามด้วยน้ำเสียงดื้อดึง "ถ้าฆ่าเขาตายแล้วหม่อมฉันได้เย่หลิงคืนมาก็นับว่าคุ้มที่สุดแล้ว"
"แล้วเย่หลิงกับลูกของเจ้าที่ยังมิได้เกิดมาก็จะต้องตกตายตามไปด้วยเพราะต้องโทษประหารตามสวามีที่บังอาจฝืนราชโองการที่ให้ไว้ชีวิตคนตระกูลโม่อย่างนั้นน่ะหรือ!?"
"เสด็จพี่!"
"เจ้าจะวู่วามไปถึงไหนกัน!?"
จ้าวจื่อหานยังคงตำหนิพระอนุชาด้วยเสียงกร้าว แต่แล้วน้ำเสียงแหบแห้งเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
"ไท่จื่อ..อย่าได้กริ้วท่านอ๋องเลยพ่ะย่ะค่ะ..."
โม่อี้เซียวเอ่ยขึ้นเบาๆ ตอนนี้เขาถูกสององครักษ์ช่วยกันประคองไว้ขณะที่ซุนเว่ยหมินกำลังรักษาบาดแผลเก่าบริเวณด้านหลังให้ ใบหน้าคมสันยังคงขาวซีดหากก็พอเห็นได้ว่าดีขึ้นกว่าก่อนหน้านี้อยู่มาก
"เป็นเพราะท่านอ๋องมิทรงทราบว่าภายในเรือนพักของกระหม่อมมีคนป่วยอยู่อีกคนจริงๆจึงได้เข้าพระทัยผิดไป... หลิงเอ๋อร์พ่ะย่ะค่ะ..นางมีชื่อว่าหลิงเอ๋อร์..เป็นคนรักของกระหม่อมเอง"
"เจ้าว่าอย่างไรนะ!?" จ้าวจื่อหานถามอย่างตกใจขณะที่จ้าวฝูหมิงก็พุ่งปราดเข้ามาใกล้โม่อี้เซียวอีกครั้งด้วยสีหน้าทะมึนมืดราวกับพญายม
ความคิดเห็น