ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฎีการักจากพระชายาบ้านนอก

    ลำดับตอนที่ #86 : 86. หลิวฉานเหยา! อย่าให้มันมากเกินไปนะ!

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.73K
      483
      26 พ.ย. 63

    "ไท่จื่อเฟย..หรือว่าพระองค์ทรงจัดงานนี้ขึ้นเพื่อหาคนใหม่มาช่วยดูแลพี่หญิงกันเพคะ?"

    "อี๋เอ๋อร์!"

    เสียงดุดันจากปากของจ้าวฝูหมิงดังขึ้นทันทีที่หม่าชิงอี๋กล่าวจบประโยค ขณะที่สองมือของเขากำแน่นขึ้นอย่างมิอาจกลั้น ดวงตาข้นทั้งคู่หันไปทางหลิวฉานเหยาคล้ายอยากจะเอ่ยอะไรที่รุนแรงออกมา..หากก็กลับนิ่งเฉยไป ก่อนจะส่งเสียงออกมาอีกครั้ง "อย่าได้เอ่ยอะไรเหลวไหล!"

    "ชายารักของเจ้าก็มิได้พูดจาเหลวไหลหรอกนะฝูหมิง เราเองก็ตั้งใจเช่นนั้นจริงๆนั่นล่ะ"

    "เหยาเอ๋อร์!"

    "ไท่จื่อเฟย! หม่อมฉันไม่..."

    "เจ้าไม่ต้องรีบร้อนปฏิเสธเราในตอนนี้หรอกเย่หลิง..." หลิวฉานเหยากึ่งท้วงกึ่งแนะนำด้วยรอยยิ้มกว้างเมื่อได้ยินเสียงจากพระสวามีและน้องสาวคนงามเอ่ยเรียกตนออกมาพร้อมๆกัน น่าเสียดายที่เจ้าทึ่มบางคนยังคงสงวนท่าทีเสียจนดูน่าหมั่นไส้! "พูดกันตามตรง... อย่าว่าแต่ฝูหมิงที่จำต้องยอมแต่งงานกับเจ้า 'โดยมิได้ผูกสมัครรักใคร่เลย ตัวเจ้าเอง..ตอนที่มีราชโองการจากเสด็จพ่อไปถึงเมืองเจียงให้มาเข้าพิธีกับท่านอ๋องเจ็ดผู้ยิ่งใหญ่นี่น่ะ..เจ้าก็มิได้มีทางเลือกอะไรเลยเหมือนกันมิใช่หรือ?"

    หลิวฉานเหยาหยิบยกเอาวาจา 'โดยมิได้ผูกสมัครรักใคร่' ที่จ้าวฝูหมิงเคยประกาศไว้กลางท้องพระโรงมาเอ่ยย้อนด้วยสีหน้าเหยียดเยาะนิดๆ

    "เหยาเอ๋อร์..."

    "จื่อหาน..พระองค์ยังจะต้องเกรงใจอะไรใครกันอีกเล่า? ไหนๆชีวิตแต่งงานของฝูหมิงและเย่หลิงก็ต้องจบลงแน่แล้วมิใช่หรือ? ตอนนี้น้องชายของท่านก็มีทั้งภรรยาที่เขาผูกสมัครรักใคร่และกำลังจะมีทายาทด้วยกันอีก..แล้วเหตุใดเย่หลิงน้องสาวของเราจะมีความสุขกับเขาบ้างมิได้กัน? ท่านเองก็เคยบอกนี่นาว่าจะสนับสนุนทุกอย่างให้เย่หลิงได้มีชีวิตที่ดีต่อไปให้ได้ ก็นี่ไงเล่าโอกาสที่ว่านั่น!"

    "แต่ว่า..."

    คราวนี้จ้าวจื่อหานถึงกับเอ่ยอะไรไม่ออกไปเลยจริงๆ ใช่! เขาเคยกล่าวไว้เช่นนั้น แต่ทว่า..นั่นหมายความว่าเขาจะช่วยดูแลน้องสะใภ้ให้ดีในระหว่างที่ฝูหมิงยังมิอาจเปิดเผยความจริงได้ต่างหาก! มิได้หมายถึงการหาบุรุษคนใหม่ให้น้องสะใภ้เช่นนี้เลยสักนิด!

    "ไม่มีแต่หรอกจื่อหาน" หลิวฉานเหยาขัดขึ้น "พระองค์ไม่คิดบ้างหรือเพคะว่าหลังจากผ่านเรื่องร้ายๆคนเลวๆมา..อย่างน้อยนี่ก็เป็นโอกาสดีที่น้องสาวของเราจะได้รู้จักกับใครที่ใหม่ๆและดีๆเสียบ้าง!?"

    "หลิวฉานเหยา! อย่าให้มันมากเกินไปนะ!"

    จ้าวฝูหมิงถลึงตาข้นพลางส่งเสียงห้วนใส่สหายแต่วัยเยาว์อย่างยั้งไม่อยู่ ใครที่ได้เห็นได้ฟังคงคิดว่าเขากำลังโกรธที่นางเอ่ยราวกับสบประมาทว่าเขาไม่ดีเช่นนั้น! แต่เปล่าเลย... ที่เขาทั้งโกรธทั้งโมโหมากกว่าอะไรทั้งหมดก็คือเรื่องที่สหายบ้านางนี้บังอาจคิดนัดหมายให้บุรุษอื่นมาพบปะกับเย่หลิงของเขาต่างหาก!

    "อะไรกันล่ะที่เจ้าเรียกว่ามาก!?" หลิงฉานเหยาโต้กลับทันควัน "นี่น้องสาวของเรา..เราอยากจะหาโอกาสให้นางได้เจอคนดีๆน่ะผิดด้วยหรือ!?"

    "เจ้า!"

    "เหยาเอ๋อร์..พอเถอะ เจ้าไม่เห็นหรือว่าเย่หลิงดูไม่สบายใจถึงเพียงนั้น..." จ้าวจื่อหานบอกขณะมุ่นคิ้วขึ้นอีกกับความวุ่นวายตรงหน้า หลิวฉานเหยาจึงได้มีท่าทีอ่อนลงบ้าง

    "เย่หลิง... เจ้าอย่าโกรธเราเลยนะ ที่ส่งเทียบเชิญนั่นออกไปก็เพราะเราหวังดีกับเจ้าหรอก..."

    "........"

    "ไท่จื่อเฟยเพคะ..ขอประทานอภัยที่หม่อมฉันบังอาจทูลถาม" ในขณะที่หวางเย่หลิงตอบกลับมาด้วยความเงียบงัน หม่าชิงอี๋ที่เอ่ยเปิดประเด็นเรื่องนี้ขึ้นเป็นคนแรกก็พูดออกมาอีกครั้ง "ตามที่ได้ยินเมื่อครู่..เหมือนนางกำนัลผู้นั้นจะกล่าวเพียงว่าคุณชายทั้งสามตอบรับคำเชิญของพระองค์เท่านั้น มิทราบว่าพวกเขารู้หรือไม่เพคะว่าเทียบเชิญครั้งนี้มีเป้าหมายให้พวกเขาได้พบกับ..เอ่อ..กับแม่นางหวาง?"

    "แม่นางหวางอะไรกัน!? เจ้าพูดผิดไปอีกแล้วล่ะพระชายารอง!" จ้าวจื่อหานขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจขณะกล่าวแทรกขึ้นก่อนที่ไท่จื่อเฟยของตนจะทันได้ตอบคำถาม "เมื่อวานฝูหมิงเพียงแต่ทูลขอปลดเย่หลิง และแม้ว่าเสด็จพ่อของเราจะรับสั่งอนุญาตแล้วก็จริง แต่ก็ยังมิได้มีราชโองการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ ดังนั้นตอนนี้เย่หลิงก็ยังคงมีฐานะเป็นหวางเฟยของน้องเรา..มีทั้งศักดิ์และสิทธิ์อยู่เช่นเดิมมิเปลี่ยน!"

    "ขอ..ขอโปรดประทานอภัยเพคะไท่จื่อ หม่อมฉันพูดผิดไปเองเพคะ"

    หม่าชิงอี๋รีบลุกขึ้นยอบกายคำนับพลางเอ่ยขอโทษอย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินพระสุรเสียงห้วนขององค์ไท่จื่อที่มิค่อยปรากฏให้ใครเห็นบ่อยนัก ก่อนจะหันมองไปทางจ้าวฝูหมิงที่ยังคงนั่งนิ่งขึงอยู่ราวกับต้องการอ้อนวอนให้เขาช่วยเอ่ยคำแทนให้

    "เสด็จพี่..." ใบหน้าของจ้าวฝูหมิงกระตุกไปคราหนึ่งกับกิริยาที่เห็น บ้าที่สุด! เขาเกือบจะตวาดออกไปเสียแล้ว..หากเมื่อคิดถึงส่วนรวมก็จำต้องฝืนใจส่งเสียงออกมาอีกครั้ง "ทรงอภัยให้กับอี๋เอ๋อร์ด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ เมื่อกี้ฉานเหยาของพระองค์ก็บอกมาแล้วเหมือนกันมิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะว่าให้เปลี่ยนคำเรียกขานของ..หวางเย่หลิงผู้นั้น..."

    'หวางเย่หลิงผู้นั้น' อย่างนั้นหรือ...?

    เจ็บเหลือเกิน...

    หวางเย่หลิงที่นั่งอยู่อย่างเงียบๆหลุบตาลงต่ำกว่าเดิมเมื่อได้ฟังถ้อยคำเรียกขานตนเองอย่างห่างเหินของอีกฝ่าย... แทบไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาจะเป็นคนคนเดียวกับบุรุษที่เฝ้าตระกองกอดและจุมพิตนางอย่างอ่อนโยนผู้นั้น หรือบางที..ความทรงจำของค่ำคืนอันหวานชื่นที่นางเผลอคิดถึงอยู่บ่อยๆนั่นอาจจะมิใช่ความจริง..แต่เป็นแค่ความฝันของนางเพียงคนเดียวก็เป็นได้... ส่วนเด็กที่อยู่ในท้องของนางยามนี้..ก็คงเป็นของขวัญที่สวรรค์ส่งมาปลอบประโลมใจให้กับสตรีไร้ค่าที่กำลังถูกสามีทอดทิ้งผู้นี้กระมัง?
    "เย่หลิง! เย่หลิง! เจ้าเป็นอะไรไปหรือเปล่า!?"

    เสียงของหลิวฉานเหยาเอ่ยถามขึ้นอย่างร้อนใจเมื่อเห็นน้องสาวคนงามข้างกายตนเงียบไปเสียเฉยๆ

    "เพคะ!?"

    หวางเย่หลิงสะดุ้งขึ้นนิดหนึ่ง ดวงตาคู่งามยังคงเหม่อลอยคล้ายคนที่เพิ่งตื่นจากภวังค์ ใบหน้าเล็กเงยขึ้นมองหลิวฉานเหยาที่นั่งอยู่ข้างๆโดยมิได้สังเกตเลยว่าบุรุษผู้หนึ่งกำลังลอบชำเลืองดูอาการของนางอยู่อย่างเคร่งเครียดและเป็นห่วงมากแค่ไหน

    "เย่หลิง..เป็นอะไรไปรึ?" จ้าวจื่อหานที่รู้ในความกังวลของอนุชาตนเป็นอย่างดีรีบถามแทน "เราเรียกหมอหลวงมาตรวจให้ดีหรือไม่!?"

    "ไม่ต้องหรอกเพคะ... หม่อมฉันสบายดี..มิได้เป็นอะไร..." หวางเย่หลิงตอบเสียงเบาขณะฝืนยิ้มออกมาทั้งที่ใจยังวูบโหวงไม่สร่าง

    "เฮ้อ! งั้นก็ดีแล้วล่ะ..เราเห็นเจ้าเงียบไปอย่างนั้น..คิดว่าเป็นอะไรไปแล้วเสียอีก" หลิวฉานเหยาบอกหลังจากถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างโล่งอก แต่สตรีอีกนางกลับมิได้สนใจว่าใครจะเป็นอะไรไปนอกจากร้อนรนที่จะฟังอีกเรื่องมากกว่า

    "พี่หญิง... เมื่อครู่นี้ไท่จื่อเฟยตรัสถามความสมัครใจของพระองค์นะเพคะ" หม่าชิงอี๋รีบส่งเสียงแหลมขึ้นราวกับเกรงว่าทุกคนจะลืมเลือนเรื่องที่กำลังสนทนากันไปเสียก่อน

    "ความสมัครใจ?" หวางเย่หลิงพึมพำเบาๆก่อนจะมองไปที่เหยาไท่จื่อเฟยอีกครั้งอย่างยังไม่เข้าใจ

    "ก็มีคนแถวนี้..." หลิวฉานเหยาเอ่ยพลางตวัดสายตาค้อนใส่จ้าวจื่อหานไปครั้งหนึ่ง "เขาเกรงว่าเราจะบังคับให้เจ้าไปเจอกับคุณชายทั้งสามนั่นน่ะสิ ทั้งๆที่เราก็บอกแล้วว่ามิใช่ เราถึงต้องถามดูก่อนว่าเจ้ายินดีไปพบปะกับเขาเป็นเพื่อนเราหรือไม่? ก็แค่พบหน้า ดื่มชา รับของว่างแล้วก็สนทนากันไม่กี่คำ..."

    "หม่อมฉัน..."

    "พี่หญิงเพคะ... รับปากไท่จื่อเฟยเถิดเพคะ... อย่างน้อยหม่อมฉันกับท่านอ๋องก็จะได้สบายใจขึ้นว่าเราสองคนมิได้ทำให้ทรงเดือดร้อนเพราะเรื่องเมื่อวาน..." หม่าชิงอี๋พยายามเอ่ยคำด้วยสีหน้าสำนึกผิดสุดชีวิต "อีกอย่าง แม้ว่าตอนนี้พระองค์จะยังทรงใช้ฐานะเดิมอยู่ดังที่ไท่จื่อรับสั่ง แต่หลังจากนี้แล้วจะทรงทำเช่นไรเล่าเพคะ? คำโบราณว่าไว้ว่าสตรีจะได้ดีก็ด้วยมีสามีที่ดี.. พี่หญิงยังทรงอ่อนเยาว์แล้วก็งดงามถึงเพียงนี้ก็ยิ่งสมควรต้องมีคนคอยดูแลปกป้องนะเพคะ ได้ข่าวมาว่าคุณชายทั้งสามนั่นก็มีหน้าตาท่าทางดูดีไม่น้อย... หม่อมฉันเห็นด้วยกับความคิดของไท่จื่อเฟยว่าพระองค์ควรจะเปิดโอกาสให้ตนเองได้พบคนอื่นๆบ้าง อย่างน้อยก็ได้พูดคุยคลายเหงากันฉันมิตรสหายทั่วไป ท่านอ๋องก็ทรงดำริเยี่ยงนั้นเช่นกัน..ใช่หรือไม่เพคะ?"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×