ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Lost Love รักสีจาง..ของคนข้างห้อง

    ลำดับตอนที่ #12 : 12. ความรู้สึกของฉันมันไม่สำคัญ...(2)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 898
      29
      27 ธ.ค. 62

            "คุณทำของหล่นน่ะค่ะ!" ภัคจีราเรียกหญิงสาวร่างบางที่รีบเดินจากไป ขณะจะก้มลงเก็บของชิ้นเล็กที่เจ้าตัวทำหล่นไว้ก็กลับพบว่าของชิ้นนั้นอยู่ในมือไอศูรย์ไปแล้ว

            "ผมจะเอาไปให้เอง ผึ้งไปรอที่รถก่อนแล้วกัน" ชายหนุ่มบอก ไม่สนใจแฟนสาวที่ยืนเม้มปากอย่างขุ่นใจนอกจากรีบเดินตามคนตัวเล็กไปจนถึงลานจอดรถด้านล่าง ที่นั่น...หญิงสาวเปิดประตูกำลังจะก้าวขึ้นรถเมื่อมือใหญ่ของไอศูรย์คว้าต้นแขนเธอไว้ได้ก่อน

             "..........." มินตราหันมาอย่างตกใจ ดวงตาแดงก่ำยังมีน้ำใสๆไหลลงมาไม่ขาดสาย...

             "คุณทำกุญแจหล่นไว้..." ไอศูรย์เสียงพร่าเมื่อเห็นเธอชัดตา"นี่คุณร้องไห้..?"

            "ขอบคุณค่ะ" มินตรารับพวงกุญแจเล็กๆคืนมา แต่ไม่ยอมตอบคำถาม พยายามดึงแขนออกหากก็ไม่เป็นผล

            "ไม่สบายหรือเปล่า?" ชายหนุ่มยกอีกมือขึ้นแตะหน้าผากหญิงสาว "หรือเพราะกลิ่นน้ำหอมนั่น?"

            "ไอคะ!" มินตรายังไม่ทันตอบ ภัคจีราที่เพิ่งเดินมาถึงก็เรียกชายหนุ่มด้วยเสียงค่อนข้างดัง แล้วหยุดยืนมองมือใหญ่ที่ยังกุมต้นแขนอีกฝ่ายไว้ด้วยแววตาแปลกๆ "ไหนว่ามาคืนของไงคะ?"

            "ค่ะ คืนมาแล้ว ขอบคุณอีกครั้งนะคะ" มินตรารีบตัดบท เบี่ยงตัวหนีคนตัวสูงที่ยอมปล่อยมืออย่างจำใจ แต่ดูเหมือนแฟนสาวของเขาจะไม่ยอมจบง่ายๆ

             "คราวนี้ไม่สบายอีกแล้วหรือคะ? ถึงกับร้องไห้เลยทีเดียว" ภัคจีราถามเสียงประชดดุจจะเท้าความไปถึงครั้งแรกที่หน้าห้องของอีกฝ่ายที่ตนพบไอศูรย์ยืนดันประตูห้องของสาวน้อยตรงหน้าคล้ายกับวันนี้

              "ผึ้ง!" น้ำเสียงชายหนุ่มบอกความไม่พอใจเมื่อจับได้ถึงคำถามเจือนัยบางอย่างที่แฟนสาวใช้ ตาคมยังมองจ้องใบหน้าเซียวๆที่เลอะคราบน้ำตานั่นไม่วางตา

             "ฉันเป็นภูมิแพ้น่ะค่ะเลยไม่สบายบ่อย" มินตราพยายามข่มความรู้สึกเสียใจที่ผุดพลุ่งขึ้นมาก่อนจะอธิบายสั้นๆ "ขอตัวนะคะ" หญิงสาวรีบก้าวขึ้นรถปิดประตู ไม่สนใจสองคนด้านนอกอีก แต่ก็ดูเหมือนเจ้าฮอนด้าซีวิคของเธอจะทำฤทธิ์เสียแล้ว..

             เสียงเคาะกระจกด้านข้างดังติดๆกันหลายครั้งเมื่อเห็นมินตรายังนิ่งเงียบจนเจ้าตัวเริ่มหัวเสีย มือขวายกขึ้นเช็ดรอยน้ำตาอย่างลวกๆขณะกดเลื่อนกระจกลงนิดหนึ่งแทนคำถามให้ผู้ชายที่เธอไม่อยากพูดคุยด้วยอีก

             "รถเป็นอะไรไป?" ไอศูรย์ถามเมื่อเห็นหญิงสาวสตาร์ทเครื่องยนต์กับตาแต่กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

             "ไม่เป็นอะไรค่ะ" มินตราตอบส่งๆโดยไม่หันไปมองคนฟังขณะกดโทรศัพท์ส่งข้อความหาที่พึ่งแรกที่นึกออกยามนี้

             "รีบใช่มั้ย? เดี๋ยวผมไปส่ง" คนตัวสูงยังดึงดันด้วยความเป็นห่วงแม้แฟนสาวจะยังยืนหน้าบูดบึ้งอยู่ข้างๆและเขาเองก็เคยตั้งใจว่าจะไม่เข้ามาวุ่นวายกับเธออีกตั้งแต่วันที่ตัดสินใจเลือกภัคจีรา

             "ไม่ต้องหรอกค่ะ ขอบคุณ" มินตราตอบกลับอย่างรวดเร็วพลางกดปิดกระจกลงเหลือเพียงช่องเล็กๆทั้งที่รู้สึกร้อนอบอ้าว ภาวนาให้ที่พึ่งของเธอมาเร็วๆ

              "ไม่คิดว่าไอจะห่วงเพื่อนข้างห้องมากขนาดนี้.." ภัคจีราส่งเสียงประชดแฟนหนุ่ม "แล้วนี่เราต้องรออะไรไปกับหล่อนด้วยหรือไงคะ?"

             "รถเขาเสียไม่เห็นหรือไง!" ไอศูรย์บอกเสียงห้วน เริ่มรู้สึกรำคาญสาวคนรักมากขึ้นทุกที ขณะเดียวกันก็กังวลถึงคนตัวเล็กที่ยังขังตัวอยู่ในรถ แม้จะจอดอยู่ในที่ร่ม แต่ก็ไม่มีแอร์นอกจากช่องกระจกเล็กๆแบบนั้นจะหายใจสะดวกได้ยังไง แถมเมื่อกี้ก็ร้องไห้เพราะอะไรไม่รู้ ไหนจะโรคที่เธอเป็นอยู่อีก คิดไปคิดมาชายหนุ่มก็ยิ่งทนไม่ไหว ตัดสินใจจะเคาะกระจกเรียกอีกครั้ง มินตราก็เปิดประตูออกมาเสียก่อน

             "มินนี่ รอนานไหม!?" หนุ่มหล่อตาสีน้ำทะเลเดินเข้ามาพอดีกับที่มินตราลงจากรถไปหาโดยไม่สนใจหนุ่มอีกคนที่ยืนรอเก้ออยู่

    "รีบไปเถอะแอช เดี๋ยวไม่ทันส่งงาน รถจอดอยู่ไหนล่ะ?" มินตราพูดพลางหันมากดล็อครถแล้วเดินตามหนุ่มหล่อผมยาวไปอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนเรื่องงานจะทำให้เธอลืมใครบางคนแถวนี้ไปเสียแล้ว..

    "น่าสนใจดีนะคะ เพื่อนสาวข้างห้องของไอน่ะ มีฝรั่งรูปหล่อมารับเสียด้วย! ถ้ารู้แต่แรกเราคงไม่ต้องเสียเวลารอหรอกใช่มั้ยคะ!" ภัคจีรายิ้มเยาะแฟนหนุ่มที่ตอนนี้หน้าตาบึ้งตึงดูไม่ได้เอาเสียเลย

    "ไปเถอะ!" ชายหนุ่มบอกสั้นๆ พยายามเก็บงำอารมณ์แปลกๆบางอย่างที่ตนเองยังไม่เข้าใจไว้ภายใน แต่ก็ดูจะไม่ได้ผลนัก..

     

                 -----------------------------------------------------------------

     

    "ผู้ชายคนเมื่อกี้..." แอชเชอร์ที่กำลังขับรถหันมามองเพื่อนสาวข้างๆเป็นเชิงถาม "คนที่ทำให้ยูอยากย้ายคอนโดเหรอ?"

    "อืม..." มินตราตอบรับเบาๆ ไม่อยากพูดถึงเขาคนนั้นอีก

    "แล้วทำให้ร้องไห้วันนี้ด้วยหรือไง?" เพื่อนหนุ่มถามต่อ เมื่อได้คำตอบเป็นการพยักหน้าเล็กๆก็อดถอนใจออกมาอย่างระอาไม่ได้

    "เห็นๆอยู่ว่าเขามีผู้หญิงอยู่ข้างๆอีกคนยังจะร้องไห้ให้เสียเกียรติอีก มอมแมมไปหมดแล้วรู้มั้ย?" แอชเชอร์บ่นพลางหยิบทิชชูทั้งกล่องโยนให้เพื่อนสนิทที่เป็นเหมือนน้องสาวของตนอย่างเซ็งในอารมณ์

    "หยุดพูดถึงเขาสักทีได้มั้ย?" มินตราที่นั่งเช็ดคราบน้ำตาด้วยสีหน้าเศร้าๆบอกเพื่อนหนุ่ม

    "แล้วไอบอกให้ยูเลิกรักเขาได้มั้ยล่ะ!?" หนุ่มผมยาวถามกลับ

    "................"

    "ยูต้องรีบตัดใจนะมินนี่.. ไม่งั้นจะยิ่งเจ็บกว่านี้ เอ..หรือจะให้ไอช่วยจีบผู้หญิงคนนั้นให้ ไหนๆไอก็ว่างอยู่" แอชเชอร์เสนอความเห็นทั้งที่รู้ว่าไม่มีข้อไหนที่เป็นไปได้เลย แต่ก็อยากเบี่ยงประเด็นให้เพื่อนกึ่งน้องสาวคนนี้อารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง

    "ช่างเหอะ! ไม่นานเราก็จะย้ายแล้วนี่" ...แล้วก็จะไม่ได้เจอกันอีก ไม่นานก็จะถึงเวลาบอกลากันตลอดกาลแล้ว..ลูกแมวดื้อของฉัน.. มินตราคิดอย่างเศร้าๆในใจ

    "นั่นสินะ! เอาเวลามาคิดดีกว่าว่าพอยูย้ายมาอยู่คอนโดเดียวกับไอแล้วเราจะจัดปาร์ตี้กันวันไหนดี แล้วต้องเชิญพวกที่กองบ.ก.คนไหนมาบ้าง...." หนุ่มเลือดตะวันตกวางแผนสนุกไปเรื่อยๆโดยมีมินตรานั่งมองออกไปนอกรถด้วยแววตาที่เกือบจะว่างเปล่า...

     

            --------------------------------------------------------------------------

     

    เย็นวันเดียวกัน..

    "เหนียวตัวจะแย่ นึกว่าจะได้ไปแนะนำตัวที่บริษัทใหญ่ ที่ไหนได้ดันไปโรงงานกระจอกๆ ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ผึ้งไม่ไปดีกว่า!" สาวสวยบ่นกะปอดกะแปดเมื่อต้องติดตามไอศูรย์ไปยังที่อโคจรสำหรับเธอ

    "ผมก็บอกผึ้งแล้วว่าไปตามงานให้คุณพ่อ แต่ผึ้งก็ยังยืนยันว่าจะไป" ชายหนุ่มบอกเสียงเรียบขณะสลัดเนคไทออกจากคอเสื้อ เขากับภัคจีราเพิ่งกลับมาถึงคอนโดเมื่อครู่นี้ เป็นการกลับก่อนงานจะเลิกเสียด้วยเพราะหญิงสาวบ่นเรื่องความร้อนกับฝุ่นว่าจะทำให้ผิวเธอเสียอย่างนั้นอย่างนี้จนเขาแทบจะคุยงานต่อไม่ได้เลย แวบหนึ่งที่ไอศูรย์หวนคิดถึงคนตัวเล็กที่เป็นภูมิแพ้สิ่งแปลกปลอมแทบจะทุกชนิดรวมทั้งฝุ่นและความร้อนที่คนส่วนใหญ่ไม่ชอบอยู่แล้ว หากก็ไม่เคยได้ยินมินตราบ่นอย่างที่ภัคจีราเป็นสักครั้ง มีแต่โทษความอ่อนแอของตัวเองแล้วก็นั่งจามน้ำหูน้ำตาไหลไปเรื่อยๆจนเขาเคยตั้งฉายาให้เธอใหม่ว่า 'หนูน้อยจมูกแดง' ด้วยเหตุที่เธอมักจะแพ้นั่นแพ้นี่จนจมูกแดงก่ำอยู่เสมอ 

    'แต่วันนี้เธอร้องไห้...' ไอศูรย์รู้สึกเครียดขึ้นมากะทันหันเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ น่าจะเป็นตอนที่เดินออกจากลิฟต์ไปอย่างเร่งรีบเมื่อตอนสาย แต่เมื่อเขาถามก็กลับบอกว่าไม่มีอะไรเสียอีก ยังมีเจ้าหนุ่มผมทองที่โผล่มารับแล้วเธอก็รีบลงจากรถไปหาโดยไม่หันมามองเขาเลยสักนิด ผู้ชายคนนั้นคือใครกันแน่? สนิทกันมากขนาดไหนถึงได้ส่งข้อความติดต่อกันเดี๋ยวเดียวก็มารับไปนั่งรถคันเดียวกันแล้วอย่างนั้น? ชายหนุ่มคิดวนไปวนมาอย่างกระวนกระวายใจจนกระทั่งได้ยินเสียงเคาะประตูดังถี่ขึ้นเรื่อยๆจึงได้รู้สึกตัวแล้วออกไปเปิดดู และได้พบเด็กชายตัวเล็กหน้าตาคุ้นๆคนหนึ่งยื่นซองจิ๋วๆส่งให้

    "พี่มินฝากไว้ให้ฮะ!"

     


     


     


     


     


     

     

     


     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×