เทพปกรณัม กรีก-โรมัน และ สัตว์ในตำนาน

ลำดับตอนที่ #24 : มอยเร (Moirae)

มอยเร (Moirae)

3 เทพีผู้ปั่นด้ายแห่งโชคชะตา



    ชาวกรีกโบราณเชื่อว่ามนุษย์แต่ละมีบางสิ่งที่กำหนดและควบคุมโชคชะตา เพราะหากไม่มีแล้วทำไมมนุษย์ถึงไม่มีอิสระจากความตาย ชาวกรีกจินตนาการว่าโชคชะตาของพวกเขามีเทพเจ้าควบคุมและลิขิตอยู่เบื้องหลัง ซึ่งบ้านเราก็มีแต่เป็นเรื่องของฟ้ากำหนดให้เป็นไปตามกฎแห่งกรรม หรือ ไม่ก็พรหมลิขิต แต่ของชาวกรีกเชื่อว่ามีเทพี 3 พระองค์ ลิขิตโชคชะตาของพวกเราอยู่ นั่นคือ กลุ่มเทพีมอยเร 3 เทพีผู้ปั่นด้ายแห่้งโชคชะตา



กลุ่มเทพีมอยเรทั้งสามเป็นบุตร์ของซุสกับเทพีทีมิสซึ่งกลุ่มเทพีมอยเรรับหน้าที่ภา่ระภายใต้เทพฮาเดสผู้เป็นลุง โดยทำหน้าที่กำหนดชะตาของมนุษย์โดยใช้เส้นด้ายเป็นตัวแทนของชีวิตมนุษย์

เทพีมอนเรทั้งสามได้แก่

  

      1 เทพีโคลโธ มีหน้าที่ปั่นเส้นด้ายแห่งชีวิต (กำเนิดชีวิต)     

      2 เทพีแลกคีลิศ มีหน้าที่เป็นผู้ทอเส้นด้ายแห่งชีวิต (การดำเนินชีวิต)   

      3 เทพีอโทรพอสมีหน้าที่ตัดเส้นด้าย (จุดจบของชีวิต)


กลุ่มเทพีมอยเรถึงจะไม่ได้เป็นเทพเจ้าที่บูชา หรือเป็นที่นับถือ แต่ยังปรากฏในตำนานหลายตอน เช่น สงครามอสูรกายไจแอนท์ที่เทพีกีอาส่งมากำจัดเทพเจ้ารุ่นใหม่ คือ เทพซีอุส ซึ่งเทพีกีอาไปขอร้องไม่ให้กลุ่มเทพีมอยเรตัดเส้นด้ายแห่งชีวิตของกลุ่มอสูรกายไจแอนท์ ถึงจะดูแล้วว่ากลุ่มเทพีมอยเรจะเข้าข้างผู้ร้าย แต่ท่านกลับใจมาเข้าข้างฝ่ายเทพเจ้ารุ่นใหม่ผู้เป็นบิดา โดยการช่วยเทพซีอุสผู้เป็นบิดาจากอสูรกายไทฟอน ที่พระองค์ถูกจับไปและกลุ่มเทพีได้ปรุงเนื้อสัตว์ผสมยาลดพลังให้อสูรกายไทฟอนกินจึงหมดกำลัง และถูกเทพซีอุสปราบลงได้

               เทพีมอยเรยังปรากฏในเทพนิยายกรีก ซึ่งเป็นตอนที่เทพอะพอลโลจำแลงปลอมเป็นมนุษย์โดยเข้าเป็นเด็กเลี้ยงแกะ
และ มารู้จักเป็นคนสนิทของท้าวแอ็ดมีตัส ซึ่งพระองค์กำลังชอบเจ้าหญิงอัลเซสติส ซึ่งพระองค์ปรารถนาจะได้เจ้าหญิงมาเป็นราชินี แต่พระบิดาของเจ้าหญิงคือท้าวพิเรียสไม่ยอมให้เจ้าหญิงออกเรือน จึงประกาศว่าหากใครต้องการจะอภิเษกกับเ้จ้าหญิงต้องนำราชรถเทียมด้วยสิงโตและหมู  ป่ามารับ ซึ่งสิงโตกับหมูป่านั้นเป็นสัตว์ป่าที่ดุร้าย แต่เด็กเลี้ยงแกะกลับช่วยท้าวแอ็ดมีตัสสำเร็จและได้เจ้าหญิงอัสเซสติสมาเป็นพระรา่ชินีได้สำเร็จ แต่ความโชคร้ายมาถึงเมื่อท้าวแอ็ดมีตัสป่วยด้วยโรคประัหลาดและไม่ทางรักษามีเพียงแต่รอเวลาความตายมาเยือนเท่าันั้น เด็กเลี้ยงแกะจึงเดินทางไปยังปรโลกในร่างของเทพอะพอลโลและเข้าวิงวอนต่อกลุ่้มเทพีมอยเรไม่ให้มอยเรตัดเส้นด้ายแห่งชีวิตของแอ็ดมีตัส
เทพมอยเรตอบตกลงแต่ว่าจะต้องมีคนที่ยอมตายแทนแต่คนที่มอยเรกำหนดให้ตายแทนแอ็ดมีตัสก็คืออัลเซสติส
เมื่อแอ็ดมีตัสฟื้นขึ้นมาอัลเซสติสจึงสิ้นลมส่วนผู้ที่ปรากฏตัวขึ้นที่ปราสาทในตอนนั้นเองก็คือทานาทอสเทพแห่งความตายที่มารับวิญญาณ
ของอัสเซสติสแต่ว่า ณ  ตอนนั้นเองวีรบุรุษเฮอร์คิวลีสก็ได้ผ่านมาพบเข้า(บังเอิ๊ญบังเอิญและพอดี๊พอดี)
เฮอร์คิวลิสจึงขัดขวางทานาทอสไม่ให้นำดวงวิญญาณของอัลเซสติสไปซึ่งฝ่ายที่ล่าถอยไปก็คือทานาทอส
อัลเซสติสจึงไม่ตายและได้อยู่กับแอ็ดมีตัสต่อไปส่วนเทพมอยเรก็ยังไม่ตัดเเส้นด้ายเห่งชีวิตของทั้งคู่





และยังมีครั้งหนึ่งเรื่องราวเกิดขึ้นเพราะ เมืองคอรินธ์ที่ซิซีฟัสเป็นผู้ครองมีปัญหาประสบภัยขลาดแคลนน้ำใช้มาก ทั้งในราชสำนัก และ ในบ้านของประชาชนต้องใช้น้ำอย่างประหยัด ทำให้พระราชาซิซีฟัสกังวลมาก วันหนึ่งขณะที่ซิซีฟัสกำลังอยู่บนหอคอย ได้เห็นเทพซูสลักพาตัวเอจิน่าลูกสาวของเทพอะโซปัส เทพแห่งแม่น้ำ ซึ่งวันต่อมาซิซีฟัสได้เจอกับเทพอะโซปัส เทพแห่งแม่น้ำ ที่กำลังตามหาเอจิน่า ลูกสาวของตนอยู่ ซิซีฟัสจึงได้บอกที่อยู่ของเอจิน่าให้เทพอะโซปัส โดยมีข้อแลกเปลี่ยนว่าเทพอะโซปัสจะต้องเนรมิตแหล่งน้ำใหม่ให้เมืองคอรินธ์ ซึ่งเทพอะโซปัสก็ได้เนรมิตบ่อน้ำใหม่ให้โดยการโดยการหยิบก้อนหินก่อนหนึ่ง ขึ้นมาจากดิน และวางลง ทันใดนั้นน้ำก็พุ่งออกมากลายเป็นแหล่งน้ำใหม่ให้ชาวเมืองคอรินธ์ใช้สืบทอดกันต่อมา หลังจากนั้นเทะอะโซปัสจึงไปตามทางที่ซิซีฟัสบอก เทพอะโซปัสพยายามขอร้องเทพซุสให้คืนลูกสาวของเขามา เพราะไม่ต้องการให้เทพีเฮรามเหสีของเทพซุสรู้ ไม่งั้นเอจิน่าจะต้องถูกทารุณจากเฮราโดยแสนสาหัส เทพซุสจึงใช้สายฟ้าโยนไปที่อะโซปัส เทพอะโซปัสจึงรีบกระโดดลงน้ำ ซึ่งต่อมาจะพบถ่านหินอยู่ที่แม่น้ำนั้นอันเกิดจากสายฟ้าของซุสนั้นเอง ซูสสืบเรื่องนี้จนรู้เข้าว่าซิซีฟัสเป็นผู้บอกที่หลบซ่อนของตน กับเอจิน่า เทพซุสจึงส่งเทพทานาทอส เทพแห่งความตายไปรับวิญญานของซิซีฟัส ไปลงโทษที่ขุมนรกทาร์ทารัสแต่ซิซีฟัสได้วางแผนเอาไว้อยู่แล้ว ว่าเทพซุสอาจจะส่งเทพทานาทอสมารับวิญญานของตนไปลงโทษในปรโลก เมื่อทานาทอสมาถึงวังของซิซีฟัส ซิซีฟัสจึงใช้แหคลุมทาทานอส และให้ทหารพาเทพทานาทอสไปขัง เนื่องจากเทพทานาทอสถูกขังทั่วโลกก็ไม่มีความตาย ซึ่งทำให้เทพแอรีส เทพแห่งสงครามโมโหที่ไม่มีใครตายในสงคราม จึงไปช่วยเทพทานาทอสออกมา (บางตำราอ้างว่าเทพซูสเป็นคนสั่งให้แอรีสไปปลดปล่อยเทพทาทานอสออกมา)  เมื่อเทพทานาทอสออกมาได้แล้วทั่วโลกก็กลับมามีความตายอีกครั้ง ทานาทอสจึงพาวิญญานของซิซีฟัสไปปรโลกเพื่อตัดสินกรรมได้ แต่ซิซีฟัสก็ยังมีแผน2มาหลอกเทพเจ้าอีก ก่อนตายเทพซิซีฟัสได้สั่งเสียแก่ภรรยาให้ ห้ามจัดงานพิธีศพ และห้ามวางเหรียญบนปาก เพื่อข้ามแม่น้ำสติกซ์ในยมโลกด้วย  (ชาวกรีกมีความเชื่อว่าแม่น้ำสติกซ์ไหลอยู่รอบยมโลก และมีอาเครอน ผู้แจวเรือข้ามวิญญานไปส่งที่อีกฝั่ง โดยทุกคนก่อนตายจะต้องมีเหรียญ 1 เหรียญ เป็นค่าจ้างให้เครอน เพื่อข้ามแม่น้ำสติกซ์ ไปตัดสินความดีความชอบที่อีกฝั่ง) เมื่อซิซีฟัสไม่มีเหรียญเป็นค่าจ้างให้เครอนผู้แจวเรือ ทำให้ต้องทนความหนาวอยู่ริมแม่น้ำสติกซ์ ทำให้เทพเฮดีส รู้สึกแปลกใจ ว่าเป็นถึงพระราชาทำไม ภรรยาไม่ให้เหรียญ เป็นค้าจ้างข้ามแม่น้ำสติกซ์ เทพฮาเดสจึงให้วิญญานของซิซีฟัส กลับไปเพื่อสั่งเสียแก่นางมีโรพี ซึ่งเป็นภรรยาเสียก่อน เมื่อซิซีฟัสได้ฟื้นอีกครั้ง ก็ไม่ได้ทำตามสัญญาที่จะกลับไปในยมโลก ทำให้เทพทั้ง 2 คือซุส และฮาเดส ต่างโกรธซึ่งทำให้เทพเจ้าอับอายได้ถึงขนาดนี้ ซุสจึงสั่งให้มอยเรตัดเส้นด้ายแห่งชีวิตของซิซีฟัส ทำให้ซิซีฟัส ถึงฆาตตายจริงๆ ซิซีฟัสถุกพาตัวไปยมโลกอีกครั้ง โดยเทพฮาเดสได้ลงโทษให้ซิซีฟัสให้กลิ้งก้อนหินก้อนใหญ่ขึ้นไปบนเขา แล้วกลิ้งลงมาทับเขาอีก และยังถูกบังคับให้กลิ้งหินขึ้นไปอีกเป็นอย่างนี้ไม่มีที่สิ้นสุด