[Naruto] By Your Side
ยามเมื่อฝันร้ายกลายเป็นจริง คุเรไนสูญเสียคนสำคัญที่เป็นดั่งดวงใจไป อาซึมะจากหล่อนไปแล้วชั่วนิรันดร์ เธอถูกปล่อยทิ้งให้โดดเดี่ยว เผชิญโลกกว้างด้วยตัวคนเดียวโดยไร้ใครข้างกาย จริงละหรือ?
ผู้เข้าชมรวม
2,305
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
By Your Side
ยามเมื่อฝันร้ายกลายเป็นจริง คุเรไนสูญเสียคนสำคัญที่เป็นดั่งดวงใจไป อาซึมะจากหล่อนไปแล้วชั่วนิรันดร์ เธอถูกปล่อยทิ้งให้โดดเดี่ยว เผชิญโลกกว้างด้วยตัวคนเดียวโดยไร้ใครข้างกาย จริงละหรือ?
ธารน้ำ..ตา:
เรื่องสั้นเรียบๆแต่แอบแฝงไว้ซึ่งความหมาย
จะบอกว่าเป็นคู่อาซึมะกับคุเรไนเลยก็ไม่ค่อยถูกทีเดียว
น้ำเล่าผ่านตัวชิกะมารุเสียส่วนใหญ่
Azuma .. Kurenai
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
By Your Side
หญิงสาวผมสีดำไสวยาวลูบไล้หน้าท้องที่นับวันยิ่งใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆผ่านชุดคลุมท้องสีฟ้าอ่อน หวังจะสัมผัสให้ถึงชีวิตน้อยๆที่ยังไม่ทันได้ลืมตาดูโลกในครรภ์ของหล่อนเองเพื่อปลอบประโลมใจ ใจที่เจ็บปวดและร้าวรวดซึ่งทำท่าจะแตกสลาย...
‘คุณจากไปแล้วจริงๆละหรือ’
หล่อนหวังเหลือเกินที่จะได้ยินเสียงห้าวนุ่มรักใคร่ของเขาตอบกลับมาที่หล่อนผ่านสายลมแห่งเสียงกระซิบ บอกหล่อนว่าเขาจะไม่มีวันจากหล่อนไปไหน เขาจะอยู่เคียงข้างหล่อน โอบกอดหล่อนไว้ไม่ห่างในขณะที่เฝ้ามองดูลูกของพวกเขาเติบโตขึ้น ส่วนตัวพวกเขาก็จะแก่ตัวลงและละจากโลกไปในยามชรา
แล้วความรู้สึกนั้นก็กลับย้อนคืนมาทิ่มแทงใจที่อ่อนล้าของหล่อนเอง
ไม่มีเสียงใดเลยที่สะท้อนกลับมา..
จะมีก็แต่เพียงเสียงลมหวีดหวิวดังแผ่วพลิ้วกรีดผ่านใบไม้ติดกิ่ง และยอดหญ้าที่เอียงลู่
เด็กหนุ่มยืนอยู่หลังต้นไม้นั้น มองภาพของภรรยารักของครูที่ครั้งหนึ่งเคยทำหน้าที่เป็นมากกว่าแค่ครู เขาเป็นพ่อ เป็นพี่ชาย และเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่ง แต่บัดนี้กลับเป็นได้เพียงความทรงจำ
หล่อนลูบมือสัมผัสท้องที่โอบอุ้มความรักและความหวังสุดท้ายของหล่อน สายตาเหม่อลอยออกไปด้านนอกของชานบ้าน แววตาเต็มไปด้วยความเศร้าสร้อย เหนือสิ่งอื่นใดคือความโหยหา
ซึ่งมันหาได้ต่างจากเขาไม่
ชิกะมารุก้าวออกจากที่กำบังและก้าวช้าๆไปที่ประตูรั้ว เขาไม่อยากจะกดออดให้เสียเวลาในเมื่อเจ้าของบ้านยืนพิงประตูที่เปิดอ้าอยู่เช่นนั้น แต่ก็ไม่กล้าพอที่จะตระโกนเรียก และในเมื่อรั้วก็ไม่ได้สูงมากไปกว่าต้นขา เขาจึงตัดสินใจที่จะปีนข้ามไปเสียเฉยๆ หล่อนจะไม่ด่าเขา ไม่มีทางด่าเขา เหมือนที่สามีหล่อนไม่เคยทำ
คุเรไนเพิ่งสังเกตเห็นเด็กหนุ่มผมดำยาวเมื่อเขาย่างกายเข้ามาใกล้ เขาหอบถุงพะรุงพะรังเต็มสองมือมาอย่างทุกครั้งที่มาเยี่ยม ในถุงเหล่านั้นเต็มไปด้วยอาหารและผลไม้หรืออะไรก็ตามที่มีประโยชน์ต่อตัวหล่อนและทารกน้อยในครรภ์
หล่อนยิ้มต้อนรับเขาอบอุ่น “ว่ายังไงชิกะมารุ”
“ก็น่าเบื่อเหมือนเดิมครับ” เด็กหนุ่มถอดรองเท้าก่อนจะปีนขึ้นมาบนบ้านแล้วเดินผ่านหล่อนเข้าไปวางถุงทั้งหลายไว้บนโต๊ะให้เบามือที่สุด “แล้วครูละฮ่ะ”
หล่อนยิ้มหม่นหมองก่อนจะนั่งลงบนโซฟาอย่างทุลักทุเลโดยมีเขาช่วยพยุง “ถ้าบอกว่าดีขึ้นแล้วเธอจะเชื่อฉันไหมนะ”
เขาเลี่ยงที่จะไม่ตอบโดยการนั่งลงตรงฝั่งตรงข้ามและคว้าถุงขึ้นมาจากโต๊ะทีละถุง “ยัยอิโนะฝากยาบำรุงมาให้ครูนะครับ หล่อนกำชับกำชับหนาให้ผมเอามันมาให้ครูให้ได้ อย่าลืมทานด้วยนะฮะ ส่วนสองถุงนี้เป็นของโจจิ เขาฝากผลไม้สองสามชนิดมา คิดว่าคงมีประโยชน์ อ่อ แล้วพวกสามเกรอแสนน่าเบื่อบอกว่าจะมาเยี่ยมครูช่วงเย็นๆหลังจากเสร็จภารกิจด้วย”
หล่อนหัวเราะขันๆกับชื่อเล่นของกลุ่มลูกศิษย์ของตนที่ชิกะมารุตั้งให้ “ฉันหวังว่าพวกเขาคงจะไม่น่าเบื่อจนเกินไปหรอกนะ”
เด็กหนุ่มพยักหน้าน้อยๆ “ครูไม่ต้องกลัวหรอกครับ กลุ่มที่น่าเบื่อที่สุดยังไงก็ต้องเป็นกลุ่มผมอยู่แล้ว”
หญิงสาวยิ้มรับ ยังจำคำพูดเปี่ยมล้นไปด้วยความภาคภูมิใจของสามีรัก, อาซึมะได้ขึ้นใจราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน
‘เพราะรู้ไปเสียหมดจึงทำให้กลายเป็นความจำเจ เพราะเข้าใจว่าสิ่งใดจะเกิดมันจึงเป็นเพียงความน่าเบื่อไร้รสชาติ หรือกระทั่งแม้จะเป็นเหตุการณ์น่าตื่นเต้นที่ไม่รู้ว่าอะไรรอเขาอยู่ก็ตาม เด็กคนนั้นก็จะเหมาเอาความรู้สึกอึดอัดยามไม่อาจคาดการณ์อะไรได้เป็นความน่ารำคาญเสีย ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่ต้องการมัน’
อาซึมะยิ้มบางเมื่อเหลียวไปมองบนท้องฟ้า เมฆขาวเคลื่อนตัวช้าออกห่าง ‘หมอนั่นนะ หลังรักความน่าเบื่อรอบตัวอย่างถอนตัวไม่ขึ้นเชียว’
ถึงจะได้ฟังเรื่องของชิกะมารุผ่านปากอาซึมะมากเพียงใด หล่อนก็ไม่อาจรู้จักชิกะมารุได้มากอย่างอาซึมะผู้ซึ่งเป็นครูได้ หรืออาจจะบอกว่าแทบไม่รู้จักกันเลยก็ไม่ผิดอะไร แต่น่าแปลกที่เด็กไม่คุ้นเคยกลับผันตัวมาเป็นแรงใจสำคัญของหล่อนยามเมื่อขาดหัวหน้าครอบครัวไป หล่อนจึงเริ่มเข้าใจ อาซึมะรักและภาคภูมิใจศิษย์คนนี้เพราะเหตุใด
เมื่อมีใครที่ต้องปกป้องดูแล คนๆนั้นจะแข็งแกร่งขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
หล่อนซาบซึ้งในน้ำใจของชิกะมารุและไม่รู้ว่าจะขอบคุณอย่างไรให้มากพอที่จะตอบแทนน้ำใจนั้น ไม่เพียงชิกะมารุที่คอยปลอบโยนหล่อนทั้งๆที่ตัวเองก็ปวดร้าวไม่แพ้กัน อิโนะ โจจิ และลูกศิษย์ที่รักของหล่อนอย่างคิบะ ชิโนะ ฮินาตะเองก็เช่นกัน ทุกคนฉุดดึงและประคองหล่อนจากเหวลึกที่มืดมิดให้กลับมายืนหยัดมั่นคงได้อีกครั้ง
แม้ความสูญเสียนั้นจะผลักหล่อนให้ซวนเซอยู่บ่อยครั้งก็ตามที
“ครูกินแอ๊บเปิ้ลไหมครับ ผมจะปลอกให้” เด็กหนุ่มผุดตัวจะลุกแต่หากหล่อนคว้าจับแขนไว้ได้ทัน
“ไม่เป็นไรจ๊ะ ให้ฉันทำเองเถอะ” เขาทำท่าจะปฏิเสธ หล่อนยิ้ม “ที่เธอทำให้ฉันก็มากพอจนขอบคุณไม่ไหวอยู่แล้ว เรื่องเล็กๆน้อยๆก็ให้ฉันทำเองเถอะ” เขาจึงสงบลง
ชิกะมารุนิ่งมองคุเรไนคว้าถุงใส่แอ๊บเปิ้ลและออกจากห้องนั่งเล่นไปที่ห้องครัวด้านหลังอย่างเงียบๆ อีกไม่ถึงเดือนก็จะครบกำหนดคลอดแล้ว ลูกของครู... เขาคลี่ยิ้มอย่างอ่อนโยนเมื่อนึกถึงทารกน้อยที่กำลังจะลืมตามองโลกในไม่ช้า ยังมีอีกหลายเรื่องที่เขาต้องจัดการ อย่างไรเสียเดือนนี้เขาคงไม่ว่างนัก เขาจำต้องทำภารกิจแทนอิโนะและอาจจะฮินาตะด้วย เพราะหล่อนและฮินาตะจะผลัดกันมานอนเป็นเพื่อนครูคุเรไน เขาต้องทำให้แน่ใจว่าเมื่อเวลานั้นมาถึง เธอจะต้องปลอดภัย ทั้งแม่และลูก
สายตาของเขาอ้อยอิ่งอยู่ที่รูปภาพเหนือชั้นหนังสือ พวกเขาและครูอาซึมะกำลังยิ้มเจิดจ้าสดใส หากเขารู้ว่ารอยยิ้มนั้นจะไม่มีวันส่งย้อนกลับมาอีกแล้วในความเป็นจริง หากเขารู้ล่วงหน้า... เขาจะเก็บบันทึกภาพแห่งความทรงจำใส่กรอบเสีย จะไม่ยอมปล่อยให้มันเลือนลายจางหายไปตามกาลเวลาอย่างแน่นอน
อีกรูปหนึ่งถูกจัดใส่กรอบเหมือนกัน เป็นรูปของทีม 8 และครูคุเรไน บรรยากาศต่างกันเล็กน้อยกับกลุ่มของเขาในเรื่องความสนุกสนานและความโกลาหล ซึ่งอย่างหลังค่อนข้างจะเกิดบ่อยกับพวกเขาทีเดียว นอกจากสองรูปนี้แล้วยังมีอีกรูปที่จัดวางไว้บนนั้นเช่นกัน รูปของคู่สามีภรรยาเจ้าของบ้านวางอยู่ระหว่างกลาง เว้นช่องว่างระหว่างสองรูปด้านข้างอย่างสมดุล ในรูป ครูอาซึมะมีความสุขมากไม่ต่างจากหญิงสาวด้านข้าง ครูคุเรไน มือของเขาโอบแน่นอยู่ที่เอวหล่อนอย่างรักใคร่และหวนแหน
แล้วครูก็ทิ้งหล่อนไป ทอดทิ้งพวกเราทั้งหมด
เขารู้สึกอยากจะสูบบุหรี่ขึ้นมาฉับพลันเหมือนทุกๆครั้งที่คิดถึงครู การแก้แค้นที่เขาทำลงไปเป็นแค่การระบายอารมณ์อย่างเด็กๆ มันไม่ช่วยลบล้างความจริงใดเลย ไม่กระทั่งความรู้สึกสูญเสีย ฮิดันชดใช้ในสิ่งที่ทำไว้แล้ว และเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากโทษครูที่ทอดทิ้งพวกเขาไว้เบื้องหลังเช่นนี้ แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าหาใช่ความผิดของครูไม่ แต่ความรู้สึกเอ่อล้นของเขาก็ต้องการใครสักคนมารับผิดชอบ ซึ่งท้ายที่สุดเขาโยนมันให้กับเด็กที่ยังไม่คลอดคนนั้น
ไม่ใช่ความแค้น
แต่เป็นความรัก
กระดานหมากรุกถูกยกมาวางไว้บนโต๊ะนั่งเล่นอีกฟากหนึ่งของห้องตั้งแต่เมื่อใดเขาไม่รู้ แต่ตัวหมากยังวางอยู่ไม่ได้เก็บ ชิกะมารุเดินเข้าไปมองใกล้ๆและพบว่ามันเป็นเกมเดียวกันกับที่เขาและครูอาซึมะเล่นค้างเอาไว้ก่อนที่จะไปทำภารกิจ
‘กลับมาค่อยเล่นต่อแล้วกันนะ’
แต่ครูก็ไม่กลับมา
“ฉันคิดว่าฉันจะไม่เก็บมันหรอกรู้ไหม” เสียงหวานเอ่ยจากด้านหลัง คุเรไนส่งยิ้มให้เขาก่อนจะวางจานผลไม้บนโต๊ะ “มันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนว่าเขายังอยู่ตรงนั้นและนั่งโขกหมากรุกกับเธอทุกครั้งที่มอง เกมมันยังไม่จบ”
เขาทอดสายตามองแผ่นกระดานโดยไม่เอ่ยวาจาใดๆทั้งสิ้น หญิงสาวมองแผ่นหลังนั้นพรางลูบท้องเบาๆ “ถ้าเขาโตขึ้น เธอจะสอนเขาไหม หมากรุกนะ”
ชิกะมารุหันกลับมามองท้องของหล่อน “ทุกอย่าง ผมจะสอนเขาทุกอย่าง” แล้วเขาจึงค่อยเหลียวกลับมามองกระดานอีกครั้ง “แล้วเขาจะสะสางเกมนี้ให้จบแทนพ่อของเขาด้วย”
หล่อนยิ้ม “ฉันเชื่อว่าเธอจะเป็นครูที่ดี อาซึมะคงมีความสุขถ้ารู้ว่าเธอจะเป็นครูของลูกเขา”
เขาละสายตาจากกระดานหมากรุกและกำลังจะเดินกลับมานั่งที่โซฟาอีกครั้งแต่ก็ได้ยินเสียงออดหน้าบ้านดังขึ้นพอดี “สงสัยสามคนนั้นคงมาแล้ว ผมจะไปเปิดประตูนะครับ”
“รบกวนด้วยนะจ๊ะ”
ว่าแล้วเขาจึงเดินผ่านประตูสองบานที่เลื่อนเปิดจนกว้าง ใส่รองเท้าแล้วตรงออกไปที่ประตูรั้ว ทั้งคิบะ ชิโนะและฮินาตะยืนอยู่ที่ตรงนั้นและไม่ปิดบังร่องรอยความสงสัย
“ยังไม่กลับอีกเหรอนายนะ”
เขามุ้ยหน้ากับน้ำเสียงไล่นิดๆของคิบะ “เพิ่งมา”
“อยู่นานแบบนี้ฉันชักไม่ไว้ใจนายแล้วสิ=O=+”
“=___=^พูดมากน่ารำคาญ จะเข้ามาก็รีบเข้ามา”
“อะไรวะ-___-^^ ทำอย่างกับบ้านตัวเอง” คิบะบ่นกระปอดกระแปดแต่ก็เดินตามหลังชิโนะเข้ามาในท้ายที่สุด
ฮินาตะที่รั้งท้ายยกถุงบางอย่างขึ้นมาในระดับสายตา หล่อนยิ้มอย่างสุภาพ “เราคิดว่าจะมาทำบาบิคิวกันคะ ซื้อของมาเยอะแยะเลย อยู่ทานด้วยกันนะจ๊ะชิกะมารุคุง^__^”
เขาพยักหน้า “ขอบใจ”
หล่อนยิ้มแล้วเดินเข้าประตูบ้าน(จริงๆ)ตามหลังสองคนแรกไป ชิกะมารุกรอกตา เห็นทีว่าคงจะมีแต่เขาที่มารยาททรามเดินตัดสนามแล้วปีนเข้าบ้านคนอื่นทางชานบ้านสินะ ก็ช่วยไม่ได้นี่นา ปกติแล้วครูอาซึมะกับเขาก็มักจะหมกตัวกันแค่ส่วนนั้น เขาเลยคุ้นเคยและเอนเอียงไปทางนั้นมากกว่า
ตอนที่ฮินาตะและครูคุเรไนยกถาดบาบิคิวออกมา เขาและชิโนะก็เตรียมเตาย่างที่สนามหญ้าหน้าชานบ้านเสร็จพอดีโดยที่มีอากามารุหมาตัวโตวิ่งวนคอยรบกวนอยู่ไม่ห่าง ถ้าไม่เห็นแก่คิบะที่คอยเสียบบาบิคิวใส่ไม้อยู่ในครัวอย่างตั้งอกตั้งใจแล้วละก็ เขาสาบานได้ว่าจะจับไอ้หมาน่าเบื่อนี่ย่างเสียให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไป
“หนุ่มๆไปนั่งรอตรงนู้นเลยจ๊ะ เดี๋ยวเราทำเอง” ครูคุเรไนว่าพรางชี้ไปที่ชาน เขากับชิโนะมองหน้ากันแต่ก็ยอมไปนั่งโดยดี ให้ครูได้ขยับตัวบ้างก็ดีเหมือนกัน
“เน่=[ ]=^ ทำไมพวกนายถึงมานั่งอู้อยู่ตรงนี้วะ!” คิบะที่ยกถาดบาบิคิวมาเต็มสองมือชะโงกหน้ามาไล่เขาจากด้านหลัง
“ครูให้เขาพักเองแหละจ๊ะ คิบะเอาถาดมาให้ครูแล้วไปนั่งพักได้เหมือนกัน”
“ถ้าอย่างงั้นก็แล้วไป” คิบะว่าก่อนจะบึ้งขึงเอาเท้าเขี่ยเขาแทน “ออกไปให้พ้นทางเซ่-[ ]-!!”
“นายนี่โหวกเหวกโวยวายเหมือนเจ้านารูโตะเข้าทุกวัน-O-” เขาถอนหายใจแรงๆทีนึง “น่าเบื่อ”
คิบะถลึงตามองค้อน “แกก็เบื่อไปซะทุกอย่างนั่นแหละ” แล้วจึงเดินไปช่วยครูคุเรไนและฮินาตะ
“ว๊ากกกก! หอมจังเลย>__<”
พวกเขาหันควับไปทางรั้ว เจ้าของเสียงคุ้นเคยไม่ใช่ใครอื่นนอกจากโจจิ เพื่อนตัวโตของเขามาพร้อมกับอิโนะ เด็กสาวที่นับวันยิ่งทำตัวเหมือนยายแก่...
“สวัสดีคะครูคุเรไน^O^ มากันเยอะแยะเชียว”
“หอม หอม หอม~ บาบิคิวใช่ไหม ใช่ไหม>[ ]<!!”
“ว๊ายยย อย่าปีนรั้วเข้าบ้านสิยะ! นายเนี้ยน้า~!” อิโนะถอนหายใจหน่ายๆเพราะโจจิข้ามมายังอีกฟากและยืนชิดเตาเรียบร้อยแล้ว
“อ้าว โคโนฮะมารุหนีอะไรมาจ๊ะ” เขาหันไปมองอิโนะที่ยืนอยู่ประตูรั้วโดยมีโคโนฮะมารุยืนแอบซ่อนอยู่ข้างหลังหวังให้หล่อนเป็นเกาะกำบัง
“แฮ่กๆ ยะ ยัยแก่บ้าเลือดกำลังตามมา!”
“ใครนะ??”
“อ๊ากกกกก ซากุระจ๊างงงงงงง~~TT[ ]TT!!!!!” ยังไม่ทันที่โคโนฮะมารุจะได้ตอบ เจ้านารูโตะจอมโวยวายก็วิ่งฉิวผ่านสองคนนั้นเข้ามาในสนามหญ้าด้วยใบหน้าตื่นตระหนกสุดขีด มันกระโดดขึ้นมาแทรกกลางอยู่ระหว่างเขาและชิโนะและล็อกแขนพวกเขาไว้แน่น
“ช่วยฉันด้วยชิกะมารุ ชิโนะTOT/”
“หยุดนาย๊าพวกบ้า>[ ]<^^^~!!!!” ตามมาด้วยเสียงแปดหลอดของเด็กสาวผมสีชมพูหวาน ซากุระทำท่าจะกระโดดข้ามรั้วมาด้วยซ้ำหากไม่เหลือบมาเห็นพวกเราทั้งหมดเสียก่อน หล่อนยิ้มอายๆแล้ววางเท้าลงบนพื้นตามเดิม
“สวัสดีคะครูคุเรไน^___^;”
“สวัสดีจ๊ะ^___^;;;”
แล้วซากุระก็เข้ามาสมทบอีกคน
คิบะอ้าปากน้อยๆและทำท่าอยากจะร้องไห้เมื่อพบว่าปาร์ตี้บาบิคิวเล็กๆของเขาไม่ได้เล็กอีกต่อไป หมอนั่นกระทืบเท้าอย่างไม่พอใจแล้วจึงรี่มาลากชิโนะไปช่วยเสียบบาบิคิวเพิ่มที่ครัวโดยมีนารูโตะที่พยายามอยู่ให้ห่างซากุระมากที่สุดอาสาไปช่วยอีกแรง ซากุระใช้แรงมหาศาลของหล่อนกระชากโจจิหลุดออกจากข้างเตาได้ในท้ายที่สุด และยังฝากฝังเขาให้จับหมอนั่นไว้ดีๆไม่ให้เข้ามาวุ่นวายย่องไปแอบกินอีก ทำอย่างกับว่าเขาสามารถดึงรั้งหมอนี่ไว้ได้อย่างนั้นแหละ ส่วนโคโนฮะมารุหลังจากโดนซากุระเขกหัวไปสองสามทีก็เริ่มสงบปากสงบคำและหันมานั่งเล่นกับอากามารุที่ข้างเขาแทน
ชิกะมารุยิ้มบางไปกับภาพความสุขที่เห็นเบื้องหน้า สะดุดอยู่ที่ใบหน้าเปื้อนยิ้มของครูคุเรไนและหน้าท้องนูน เขาหายใจลึกยาวและเงยหน้ามองท้องฟ้าที่กำลังเปลี่ยนสี
‘ครูไม่ต้องห่วงนะครับ แม้ครูจะไม่อยู่ตรงนี้ แต่ผมให้สัญญาว่าเด็กคนนั้นจะเกิดมาในแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความรักความอบอุ่น ถึงจะไม่เทียบเท่ากับที่ครูจะให้เขา แต่เชื่อผมเถอะ เขาจะเติบโตเป็นคนดีและมีความสุขที่สุดคนหนึ่งอย่างแน่นอน’
สายลมพลิ้วแผ่วโชนมาสัมผัสผิวเนื้ออย่างอ่อนโยน นำพามาซึ่งเสียงกระซิบนุ่มเบาแต่หากเขากลับได้ยินชัดเจน
‘ขอบคุณนะชิกะมารุ’
ผลงานอื่นๆ ของ ธารน้ำ..ตา ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ธารน้ำ..ตา
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ความคิดเห็น