Fic Baramos ฟิคบารามอส ตอนเจ้าหญิงนิทรา
แต่เรื่องที่พวกเจ้ายกเฟลิโอน่าให้กับคาโล...ข้า-ยอม-ไม่-ได้ !!อะ... หรือว่าที่เขาลือกันว่าท่านเป็นเลสเบี้ยนก็... กรี้ด!! ไม่ใช่ย่ะ! ข้าเป็นไบเซ็กซ์ชัวล์ตังหาก!!
ผู้เข้าชมรวม
2,902
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
เจ้าหญิงนิทราจากวอลดีส์นีย์จะเป็นอย่างไร
เมื่อมี
เจ้าหญิงปากหมา
เจ้าชายหื่นเงียบ
พระราชากลัวราชินี
นางฟ้าอารมณ์เสีย
และ
แม่มดเป็นไบ!!
ปล.1.ฟิคบารามอสนี้ เกิดจากความรั่วเพราะว่างจัดของคนเขียน
อาจส่งผลกระทบต่อเนื้อหาได้
เชิญติชมได้ตามสบาย
ปล.2. ขอคอมเมนต์ด้วยค่ะ
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Fic Baramos : เจ้าหญิงนิทรา
++ เดมอส ++
ในวันที่อากาศแจ่มใส ลมพัดเย็นสบาย ได้เกิดเรื่องน่ายินดีขึ้นในพระราชวังหลวงเดมอส ราชินีอลิเซีย สุดที่รัก(?)ของจ้าวปีศาจเอวิเดสได้ให้กำเนิดธิดาหน้าตาน่ารัก ที่มีผมสีน้ำตาลไหม้และนัยน์ตาสีน้ำตาล ซึ่งคือองค์หญิงแห่งเดมอส
ในงานน่ายินดีนี้ได้มีการรับเชิญแขกมาร่วมเลี้ยงฉลองให้กับธิดาคนแรกของจ้าวปีศาจ(และคาดว่าน่าจะมีคนต่อๆไป)จำนวนมาก ซึ่งรวมถึงกษัตริย์ ราชินี และเจ้าชายแห่งคาโนวาลด้วย
“พวกข้ายินดีด้วยนะ อลิเซีย เอวิเดส” คาเรเนียกล่าว อลิเซียยิ้มให้ก่อนจะหันไปมองเจ้าชายแห่งคาโนวาลวัยสองขวบที่ตอนนี้ไปยืนข้างๆเตียงของเจ้าหญิงแห่งเดมอสเรียบร้อยแล้ว
“จริงสิ ลูกเจ้าชื่ออะไรหรือ” ราชินีแห่งคาโนวาลถาม
“เฟลิโอน่า... เฟลิโอน่า เกรเดเวล” จ้าวปีศาจตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ด้วยความดีใจที่มีลูกสาวหน้าเหมือนแม่เด๊ะ
“...หวังว่า...เจ้าจะยังไม่ลืมสัญญาใช่ไหม เอวิเดส” เสียงเยือกเย็นของกษัตริย์บาโรดังขึ้น ทำให้หน้าตาที่บานเป็นกระด้งของจ้าวปีศาจหุบลงในทันใด
“สัญญาอะไรค่ะบาโร/เอวิเดส” ราชินีทั้งสองถามพร้อมกัน
“ก...ก็...ไม่มีอะไร แค่บาโรกับข้าเล่นหมากรุกกัน ถ้าข้าชนะ คาโนวาลเจ้าเปิดตลาดการค้าเสรีกับเรา แต่ถ้าแพ้ เราต้องให้เจ้าหญิงแห่งเดมอส หมั้นกับคาโล” เอวิเดสตอบอ้อมแอ้ม
หมดกัน... มาดจ้าวปีศาจ
“แล้วท่านก็แพ้” อลิเซียเอ่ยเสียงเย็น “ใช่ไหมค่ะ”
“อะ...อ่า...จ๊ะ” สิ้นเสียงตอบ มือเรียวบางแต่เปี่ยมไปด้วยพลังของราชินีอลิเซียถูกยกขึ้นบิดหูของจ้าวปีศาจผู้เป็นสามีเต็มแรง!!
“เอาชีวิตของลูกเป็นของแลกเปลี่ยนหรอคะเอวิเดส!”
“โอ้ย!! ข้าขอโทษ ปล่อยข้าก่อนเถอะ~~” เอวิเดสร้องโหยหวน เป็นที่รู้กันว่าจ้าวปีศาจ กลัวเมีย!
“อลิเซีย ที่พูดถึงน่ะหมายถึงให้หมั้นกันไปก่อน อนาคตเป็นยังไงคอยดูอีกที” บาโรรีบชี้แจงก่อนที่จ้าวปีศาจจะถูกทารุณกรรมโดยภรรยาไปมากกว่านี้
“อืม ข้าก็ไม่ได้ไม่ชอบคาโลหรอก แต่ข้าไม่อยากให้ลูกถูกจับคลุมถุงชนเหมือนกับข้า” ราชินีแห่งเดมอสว่าพลางปล่อยมือจะหูที่กลายเป็นสีแดงแปร๊ด
“บัดนี้ถึงพิธีให้พรแก่องค์หญิงเฟลิโอน่า สามนางฟ้ามาถึงแล้ว~~~” สิ้นเสียงเจ้าโคมุสตัวจ้อยประกาศ นางฟ้าทั้งสามก็กระโดด (?) ลงมาบนพื้นอย่างสวยงามก่อนที่จะยืนโพสท่านางแบบ
“อันนางฟ้าทั้งสามองค์ได้แก่ นางฟ้ามาทิลด้าผู้แข็งแกร่ง นางฟ้าเรนอนผู้อ่อนโยน และนางฟ้าแองเจลีน่าผู้เหี้ยมโหด...”
/โป้ก!/
“เหี้ยมโหดอะไรกันยะ ห้ะ!!” นางฟ้าแองจี้แว้ดพร้อมเหวี่ยงคทาต่างไม้เบสบอลฟาดโคมุสจนกระเด็นออกไปนอกหน้าต่าง
...แต่พอนึกได้ว่าแขกทั้งงานอยู่ล้อมรอบ...
“เออ...เหี้ยมโหดอะไรกันคะ ข้านางฟ้าแองเจลีน่าแห่งความเมตตาค่ะ” นางฟ้าแองจี้หันมาพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ผิดกับเมื่อครู่ราวแม่ชีเทเรซากับฮิตเลอร์ ท่ามกลางใบหน้าอันตกตะลึงของแขกทั้งงาน
‘ง่ะ เนียนเกินไปแล้ว!?’
“อ...เออ แองจี้ เจ้าต้องให้พรแก่องค์หญิงเฟลิโอน่าไม่ใช่หรือ” นางฟ้าเรนอนกล่าวอย่างนุ่มนวลมากที่สุดเพื่อไม่ให้ไปกระเทือนเส้นอารมณ์อันเปราะบางของนางฟ้าแห่งความเมตตา ที่เมื่อขาดจะกลายเป็นเทพธิดาแห่งความอำมหิต
“อืม ข้าเองก็ยังไม่คิดเลยนะว่าจะให้พรอะไรดี งั้น...” แองจี้ว่าพลางเดินไปยังเตียงของเฟลิโอน่า “ด้วยอำนาจของข้า แองเจลีน่า โรมานอฟ นางฟ้าแห่งความเมตตา ขอให้เจ้าหญิงเฟลิโอน่ามีสุขภาพพลานมัยที่แข็งแรง โอม...เพี้ยง !”
นางฟ้าแองจี้ร่ายคาถาแล้วเอาคทาเคาะหัวของเฟลิโอน่าเบาๆ เพื่อให้พร แต่ปรากฏว่า...
/แง้ แง้ แง้/
ดูเหมือนการเคาะหัวเบาๆ(แต่ดังโป๊ก)จะแรงไปสำหรับเด็กทารก - -*
นางฟ้าเรนอนก้าวออกมาเพื่อจะให้พร “โอมมะลึกกึ้กกึ๋ย ด้วยอำนาจของข้า เรนอน ธีน็อต นางฟ้าแห่งความอ่อนโยน ขอให้เจ้าหญิงเฟลิโอน่ามีรูปโฉมที่งดงาม”
กล่าวจบ ก็มีแสงสีชมพูจางๆเข้ามาล้อมรอบตัวทารกน้อยก่อนจะค่อยๆจางหายไป และทันใดนั้น!!
/ปัง!/
เสียงเปิดประตูดังลั่นพร้อมกับลมพายุที่โหมกระหน่ำเข้ามาอย่างแรงเสียจนผมที่สู้อุตส่าห์เซตมาอย่างดีของนางฟ้าแห่งความเมตตายุ่งเสียจนไม่เหลือเค้าเดิม
กระแสลมค่อยๆสงบลง แต่จิตสังหารของนางฟ้าแถวนี้ไม่สงบตาม นัยน์ตาสีฟ้าใสกราดไปทั่วเพื่อหาตัวการ
“นังแม่มดเอฟีน่า!!” แองจี้วีน คทาในมือถูกยกขึ้นชี้หน้า “บังอาจ ! ทำผมข้าเสียทรงหมด!”
ร่างของนางพญาแม่มดเอฟีน่าย่างกรายเข้ามา เจ้าตัวปรายตาไปมองยังนางฟ้าแองจี้เล็กน้อยก่อนที่จะ เมิน ไม่สนใจ
“ไม่มีจดหมายเชิญถึงข้า ข้ายังไม่ว่า...” เอฟีน่าเอ่ยขึ้น “แต่เรื่องที่พวกเจ้ายกเฟลิโอน่าให้กับคาโล...ข้า-ยอม-ไม่-ได้ !!”
0_0”เฮือก!! หรือว่า! แม่มดจะเป็น...!?
“อะ... หรือว่าที่เขาลือกันว่าท่านเป็นเลสเบี้ยนก็...” จ้าวปีศาจเอ่ยตะกุกตะกัก
“กรี้ด!! ไม่ใช่ย่ะ! ข้าเป็นไบเซ็กซ์ชัวล์ตังหาก!!”
=[]=” ยิ่งกว่าเดิมอีก!!
“ท่านแม่มด ท่านต้องการอะไร” บาโรถาม
“หึ...ต้องการอะไร...” เอฟีน่าเหยียดยิ้ม “ก็ต้องการลูกเจ้าทั้งสองไปเป็นประไหมสุหรี(มเหสี)ซ้ายขวาของข้าน่ะสิ !!”
O[]O”!!
“เอฟีน่า สนมในฮาเร็มเจ้าก็มีเยอะอยู่แล้ว ทำไมเจ้าไม่เลือกให้เป็นประไหมสุหรีเจ้าสักสองคนล่ะ” นางฟ้าเรนอนว่า
“ก็แต่ละคนมันไม่มีใครเหมาะสมกับตำแหน่งนี้ซักคน”
“แล้วโรเวณ อาเธอร์ วิเวียน ลูคัส ลอร์เรนล่ะ พวกเขายังไม่ดีพออีกหรอ ทำไมต้องมาเอาลูกพวกข้าด้วย”อลิเซียเอ่ยด้วยน้ำเสียงเว้าวอน “อย่าเอาลูกของพวกข้าไปเลย”
“โรเวนน่ะเจ้าเล่ห์เกินไป อาเธอร์ก็ถึกเกิน วิเวียนก็อินโนเซนส์เว่อร์ แถมข้ายังจับไปอีกว่า โรเวนกับวิเวียนลอบเป็นกิ้กกัน ส่วนคู่หูตัวแอลก็เป็นได้แค่มะเดหวีของข้าเท่านั้น”แม่มดบ่น “ก็มีแต่ลูกพวกเจ้า เฟลิโอน่ากับคาโลนี่แหละ ที่เหมาะสมกับตำแหน่งประไหมสุหรีอันสูงศักดิ์ของข้า”
“หากภายในวันเกิดอายุครบสิบหกปีของเจ้าหญิงเฟลิโอน่า ข้ายังไม่เห็นเด็กน้อยทั้งสองอยู่ในปราสาทข้าล่ะก็...องค์หญิงเฟลิโอน่าจะต้องตาย โฮะๆๆ” แม่มดเอฟีน่าหัวเราะร่า
“นังแม่มดโรคจิต ทหาร!จับมัน!!” เอวิเดสตะโกนสั่ง ทหารหลายสิบนายวิ่งเข้ามา
“เข้ามาสิ เดี๋ยวแม่จับเข้าฮาเร็มให้หมดเลย” ว่าแล้วพลันมีหมอกสีดำพุ่งออกจากตัวแม่มดเอฟีน่าไปล้อมรอบคอของทหารทั้งสิบและกลายเป็นปลอกคอพร้อมโซ่ที่ปลายอยู่ที่มือของนางแม่มด ก่อนทั้งคนทั้งแม่มดจะหายไป
อลิเซียทรุดตัวลงร้องไห้ด้วยความรันทดใจที่ลูกสาวคนแรกจะต้องไปเป็นประไหมสุหรีให้กับนางแม่มดวิปริตโลลิค่อน
“อย่าเพิ่งเศร้าไปเลยองค์ราชินี นางฟ้ามาทิลด้ายังไม่ได้ให้พร อาจมีทางแก้ก็ได้”เสียงหวานๆของเรนอนปลอบใจทำให้ราชินีแห่งเดมอสมีความหวังขึ้น
มาทิลด้าเดินไปยังเตียงของเจ้าหญิงน้อยแล้ววางคทาลงก่อนจะชักดาบเรียวสวยขึ้นมาทาบหน้าผากของเฟลิโอน่า! สร้างความตกใจแก่ราชาแห่งเดมอสและแขกที่มาร่วมงานอย่างยิ่ง
ก็ภาพที่เห็นมันเหมือนนางฟ้ากำลังจะเชือดคอทารกอยู่น่ะสิ!
“น...นั่นท่านจะทำอะไรเฟลิโอน่า” ราชาแห่งเดมอสร้องเสียงหลง
“ข้ากำลังจะให้พรเพื่อลดอำนาจคำสาปไง” มาทิลด้าตอบเสียงเย็น
“ล...แล้วทำไมท่านไม่ใช้คทาล่ะ”เอวิเดสซักต่อ ทำนางฟ้าแห่งความแข็งแกร่งชักรำคาญ
“ปัดโธ่! ก็เห็นอำนาจของนังแม่มัดวิปริตไหมล่ะว่ามันเยอะขนาดไหน ถ้าข้าไม่ใช้ดาบที่ข้าถนัดแล้วมันจะมีอำนาจไปต่อกรกับคำสาปนั่นไหม!!” นางฟ้าผมดำกระชากเสียง “แล้วอย่าถามอะไรเซ้าซี้อีกล่ะ”
“อ...อืม”เอวิเดสพยักหน้า ในใจก็คิดว่า
‘นี่มันบ้าอะไรวะเนี่ย... นางฟ้าก็โคตรดุ แม่มดก็วิปริต’
เรนอนดูเหมือนจะรู้ความคิด จึงเดินมากระซิบว่า “พอดีวันนี้มาทิลด้าเพิ่งทะเลาะกับเทวดาปราชญ์ชาเบรียนที่ต้องไปทำหน้าที่ที่เอเดน ข้อหาไม่ยอมติดต่อกลับนานเกินยี่สิบสี่ชั่วโมงมาค่ะ เธอกลัวว่าเทวดาชาเบรียนจะแอบมีกิ้ก ปกติจะไม่อารมณ์เสียขนาดนี้หรอกค่ะ”
เอือก!! ไม่ยักรู้ว่านางฟ้าจะหึงโหดขนาดนี้
“เพื่อให้อำนาจคำสาปลดลงมากที่สุด ดาบข้าต้องสัมผัสเลือดของเฟลิโอน่าเล็กน้อย คงไม่ว่าอะไรนะ” ไม่รอฟังคำตอบ มาทิลด้าร่ายเวทย์ต่อในทันที ดาบเรียวกรีดเข้าไปบริเวณใต้ตาซ้ายของเฟลิโอน่าจนเกิดเป็นแผลเล็กน้อย “ด้วยอำนาจแห่งข้า มาทิลด้า ซิลเวอร์ นางฟ้าแห่งความแข็งแกร่ง ของต่อกรอำนาจคำสาปแม่มดเอฟีน่า ให้เจ้าหญิงเฟลิโอน่าเพียงแค่สลบไปเท่านั้น และจะตื่นขึ้นเมื่อไปรับจุมพิตแห่งรัก”
แม้คำสาปจะลดอำนาจลงไปแล้ว แต่เพื่อความปลอดภัยสามนางฟ้า(?) จึงต้องนำเฟลิโอน่าออกจากวังไปอาศัยแบบสามัญชนธรรมดาเพื่อตบตาแม่มดและเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น เฟริน เดอเบอโรว์
++ 15ชาติ เอ้ย! 15ปีกับอีก364วันผ่านไป ++
เฟลิโอน่าหรือเฟรินก็เติบโตขึ้นเป็นสาวสวย แต่ปากหมาไปเสียฉิบ! สร้างความหนักใจแก่สามนางฟ้าในฐานะน้าอย่างมาก
“เฟริน!!” เสียงใสแว้ดๆขึ้น ซึ่งจะเป็นเสียงใครไปไม่ได้นอกจากแอจี้ เฟรินหันไปมองด้วยความตกใจ
แต่ไม่ทันการเพราะ “สาก” คู่ใจของน้าสาวประเคนเข้าให้ที่หัว
/โป๊ก!/
“โดดเรียนเต้นลีลาศอีกแล้วใช่ไหม !!”
“โอ้ย...เจ็บ...ก็มันน่าเบื่อนี่ เต้นอะไรไม่รู้หมุนไปหมุนมาอยู่ได้ เวียนหัวจะตาย” เฟรินบ่นพลางคลำหัวป่อยๆ
“ต้องให้บอกกี่ครั้งห้ะ ว่าเราน่ะเป็นเจ้าหญิง หัดรู้จักการเข้าสังคมซะมั่งสิ”แองจี้ดุ
“เจ้าหญงเจ้าหญิงอะไรกัน ข้าไม่เอาหรอก ต้องมานั่งสง่างามบนหอคอยงาช้าง น่าเบื่อจะตาย ว่าแต่ป้าน่ะแหละ ขี้บ่นขนาดนี้ มิน่า ลุงครี้ดถึงแอบไปมีกิ้ก”
“กรี้ดดดด!! เฟริน! อย่าอยู่เลย” ว่าแล้วแองจี้ก็คว้าสากวิ่งไล่เคาะหัวเฟรินอย่าบ้าคลั่ง
“นี่พวกเจ้าสองคนทำอะไรกันห้ะ!” เสียงตวาดทรงพลังมาจากเบื้องล่าง
เจ้าแม่นางฟ้ามาทิลด้ายืนเท้าเอวมือขวาถือปังตออันโต “แองจี้! เธอเอาสากไปอีกแล้วใช่ไหม เอาลงมาเดี๋ยวนี้เลยนะ! ไม่งั้นอดจกข้าวเหนียวส้มตำ”
สิ้นเสียงแองจี้จึงจำใจต้องเดินลงมาเพราะห่วงกิน สากในมือถูกขว้างไปยังเรนอนที่รับไว้ได้ทันท่วงที เฟรินเดินลงมาด้วยท่าทางหิวๆตั้งท่าจะจกข้าวเหนียว
“เดี๋ยวเฟริน ก่อนกินไปซื้อแอปเปิ้ลให้น้าก่อน” มาทิลด้าว่า
“ง่ะ กินก่อนไม่ได้หรอ...”
มาทิลด้ายิ้มก่อนจะควงปังตออันโตด้วยมือข้างเดียวและ “จงใจ” ทำตก
/ฉึก!!/
ปลายมีดฉีดหน้าเฟรินไปเพียงสามเซนต์ก่อนจะทะลุโต๊ะลงไปจนเกือบทำให้เท้าขององค์หญิงแห่งเดมอสเป็นรู
“จะไปไหมจ๊ะ” เสียงหวานเย็นเอ่ย
“ปะ ไป ไปแล้วค่า...” ว่าแล้วเจ้าตัวดีก็รีบวิ่งออกไปทันที
หญิงสาวผมสีน้ำตาลไหม้เดินหาร้านแอปเปิ้ลในตลาด สักพักเจ้าตัวก็เดินออกจากร้านแห่งหนึ่งพลางถือถุงใส่แอปเปิ้ลหลายสิบลูก ระหว่างทางจากตลาดถึงหมู่บ้านเฟรินกัดแอปเปิ้ลกินอย่างเอร็ดอร่อยจนไม่ได้ดูทาง ทันใดนั้น
/โครม!!/
เฟรินชนกับอะไรบางอย่างจนล้มลงไปกองกับพื้นหญ้ง แอปเปิ้ลที่อุตส่าห์หิ้วมาหล่นกระจาย
ใครฟร่ะ~~~ โธ่...แอปเปิ้ลฉ้าน~~~
เฟรินเงยหน้ามองหาต้นเหตุ นัยน์ตาสีเปลือกไม้สบกับนัยน์ตาสีฟ้าใสของใครบางคนที่เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน
คาโลยื่นมือไปฉุดเฟริน(เฮ้ย)ให้ลุกขึ้น ก่อนจะเดินจากไปอย่างไม่แยแส!! เรียกอารมณ์เดือดจากเฟรินได้อย่างดี
“ชนแล้วไม่คิดจะช่วยหรอ ไอน้ำแข็งแห้ง !! มาช่วยเก็บเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
คาโลหันกลับมา “ถ้าจำไม่ผิดเจ้าเป็นฝ่ายชนข้าก่อนไม่ใช่หรือ”
“เออนั่นแหละ มาช่วยข้าเก็บเดี๋ยวนี้เลยนะ”
ทำไมเจ้าชายอย่างตรูต้องมาทำอย่างนี้ด้วยฟร่ะ! คาโลถอนหายใจเฮือกแล้วก้มลงไปช่วยเก็บแต่โดยดีเพราะขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับเฟริน
“หึ ช่วยท่านเฟรินตั้งแต่แรกก็หมดเรื่องแล้ว...” เฟรินว่าพลางหย่อนแอปเปิ้ลลูกสุดท้ายลงในถุง “เจ้ามาจากไหนน่ะ ไม่เคยเห็นหน้า”
เจ้าชายแห่งคาโนวาลขมวดคิ้ว ไม่เชื่อว่าจะมีคนไม่รู้จักเขา ทั้งๆที่ปกติไปไหนก็ลำบากเพราะพวกผู้หญิงคอยแต่จะกรี้ดกร้าดจนน่ารำคาญ (โห...แอบหลงตัวเองนะเนี่ย) แต่เอาเถอะ
“คาโนวาล” เขาตอบ
“แล้วมาที่นี่ทำไม หรือว่ามาหาเพื่อน แต่ไม่หรอกมั้ง น้ำแข็งแห้งขี้เก็กอย่างเจ้าคงจะไม่ค่อยมีเพื่อนหรอก...เฮ้ย!! ” เฟรินร้องลั้น เมื่ออยู่ๆไอน้ำแข็งแห้งก็คว้าข้อมือเธอกดลงกับพื้นหญ้าโดยที่เจ้าตัวคร่อมอยู่ข้างบน หรือที่เรียกสั้นๆง่ายๆว่า “จับกด”
“เฮ้ย นั่นจะทำอะไรน่ะ” เจ้าตัวยุ่งโวยวายพลางดิ้นขลุกขลั่ก
“สั่งสอน...” ว่าแล้วเจ้าตัวก็ประกบปากกับเฟรินอย่างรวดเร็ว “ว่าคนที่บังอาจมาปากดีกับข้าแล้วจะโนยังไง” คาโลว่าต่อ เฟรินหน้าแดงแปร็ดขณะที่คนตัวโตกว่ายิ้มอย่างพอใจพลางลุกขึ้นยืน
“ข้าชื่อคาโล แล้วจำไว้ให้ดีล่ะ เฟลิโอน่า เกรเดเวล”
เฟรินไม่รู้จะทำยังไงเพราะทั้งเขิน ทั้งตกใจ มือขวาจึงฉวยถุงแอเปิ้ลแล้ววิ่งกลับหมู่บ้านไปอย่างรวดเร็ว
คาโลหันไปมองหญิงสาวที่วิ่งเร็วจี๋กลับหมู่บ้านไปอย่างรวดเร็วด้วยสายตาหมองหม่นผิดจากเมื่อครู่ลิบลับคล้ายกับอาลัยอาวรณ์อะไรบางอย่าง
‘นี่คง...เป็นครั้งสุดท้ายที่เราเจอกัน น้องหญิง...’
++วันรุ่งขึ้น(หรือวันเกิดเจ้าหญิงนั่นเอง)++
เฟรินถูกลากขึ้นจากเตียงแต่เช้าเพื่อแต่งตัวเตรียมกลับเข้าวังด้วยอาการงัวเงียสุดขีดชนิดแอบหลับในห้องน้ำ (เพราะนอนไม่ครบ12ชั่วโมง กร๊ากกก) จนเจ้าป้าแองจี้ทนไม่ไหวจึงต้องอาบน้ำให้ซึ่งกว่าจะสะอาดก็ปาเข้าไปเกือบชั่วโมงเพราะเฟรินซกมกจัด - -“ (เจ้าหญิงเมืองไหนวะเนี่ย)
เฟรินมองตัวเองในกระจกเมื่อถูกจับแต่งตัวเสร็จ น้ำตาใสๆก็ไหลจากดวงตาสีเปลือกไม้ด้วยความตื้นตันใจที่ได้กลับวังไปเจอบุพการีที่รักยิ่งของตน...ซะที่ไหนล่ะ!! ก็ดูชุดที่ใส่อยู่สิ ชุดกระโปรงยาวถึงข้อเท้าฟูฟองไปด้วยลูกไม้และอะไรอีกต่างๆนานา บวกกับรองเท้าส้นสูงที่น้าเรนอนบอกไม่สูงมากมายแค่สามนิ้วเอ๊งงง และยิ่งกว่านั้น ไอชุดนั่นมันก็มีอยู่มากมายทำไม๊...ทำไม
ต้องหยิบสีชมพูมาให้ตรูด้วยฟร้าาาาาา~~~~
เจ้าหญิงเมืองไหนเค้าแต่งตัวกันแบบนี้เนี่ย~~โฮก~~~~~
ขณะที่เฟรินกำลังร้องไห้ให้กับความอุบาทว์ของตัวเองอยู่นั้น เรนอนผู้ไม่รู้อะไรเล้ย...คิดว่าเฟรินกำลังตกใจว่าทำไมตัวเองดูดีขึ้นมาก(เค้าอนาจตัวเองมากกว่าเว้ยยย) จึงหยิบโรลม้วนผมไฟฟ้าขึ้นมา
อ๊ากกก จะทำอะไรกับผมฉ้านนน ฉันไม่อยากมีผมหลอดแบบมารีย์ อังตัวเนต น้า~~ ไม่อ๊าววววว~~
แองจี้ที่เห็นแววตาเอสโอเอสขอความช่วยเหลือจากเฟริน บวกกับความสงสารและสมเพท(?)นิดๆจึงเอ่ยปาก
“เรนอน ฉันว่าพอเถอะ ก่อนมันจะดูอัคลี่[ugly] ไปมากกว่านี้”
“อ้าวหรอคะ แต่เรนอนว่า...”
“น้าเรนอนฮะ พอเถอะ แค่นี้ก็สวย(อนาจ)พอแล้วฮะ เดี๋ยวเราจะไปสาย” เฟรินขอร้องแล้วพยายามเปลี่ยนเรื่อง “แล้วน้ามาทิลด้าล่ะฮะ”
“มาทิลด้ามีนัดน่ะเลยมาไม่ได้” เรนอนว่าพลางม้วนสายโรลไฟฟ้าเก็บ
พอแต่ตัวเสร็จ สองนางฟ้ากับอีกหนึ่งเจ้าหญิงก็ขึ้นเกวียนไปยังเมืองหลวงเดมอส
“แอปเปิ้ลไหมจ้ะ แอปเปิ้ล แอปเปิ้ลอร่อยๆจ้า” เสียงยายแก่คนหนึ่งหิ้วตะกร้าร้องขายแอปเปิ้ลเรียกความสนใจจากเฟรินผู้ตื่นแต่เช้าและถูกแต่งตัวยันเที่ยงโดยไม่กินอะไรเลยได้อย่างดี
“ขอสามลูกจ้ะยาย”
ยายแก่ๆเดินมาใกล้ๆเกวียนแล้วส่งแอปเปิ้ลให้เฟรินสามลูก เฟรินจ่ายเงินก่อนหยิบส่วนของตัวเองหนึ่งลูกแล้วส่งให้แองจี้กับเรนอน
รสหวานๆกรอบๆของแอปเปิ้ลกระจายไปทั่วปาก ทั้งสามทานแอปเปิ้ลอย่างเอร็ดอร่อยโดยไม่รู้ถึงภัยร้ายที่มากับแอปเปิ้ล สักพักสามสาวก็สลบลงไป
ใช่แล้ว...ยายแก่ที่ขายแอปเปิ้ลนั่นก็คือแม่มดเอฟีน่านั่นเอง
เอ๊ะ ตกลงมันเรื่องเจ้าหญิงนิทราหรือสโนวไวท์กันแน่หว่า...เออ...ช่างมันเถอะ
แม่มดเอฟีน่าหัวเราะร่า เจ้าตัวทำการแปลงร่างตัวเองให้กลายเป็นสาวเหมือนเดิม
“ฮ่าๆ สมน้ำหน้า ยัยนางฟ้าหน้าโง่ ขอพาเฟลิโอน่าไปเป็นประไหมสุหรีฝ่ายซ้ายของข้าก่อนล่ะ” ว่าแล้วเอฟีน่าก็จัดแจงอุ้มเฟรินขึ้นมา “อึ้บ...ตัวหนักนะเนี่ย แต่ช่างเถอะ”
++ปราสาทแม่มด++
หลังจากจัดการพาเฟลิโอน่าไปพักในห้องประไหมสุหรีฝ่ายซ้ายเรียบร้อยแล้ว นางพญาเอฟีน่าจึงเดินไปยังห้องประไหมสุหรีฝ่ายขวาของตนที่อยู่อีกหอคอยนึง
เอฟีน่าเปิดประตูเข้าไปในห้อง คาโลยืนหันหลังมองออกไปนอกหน้าต่าง
“เจ้านี่ช่าง...น่ารัก...ไม่นึกว่าเจ้าจะมาหาข้าด้วยตัวเอง” เอฟีน่าเอ่ยยิ้มๆ
“อย่าเข้าใจผิด” เสียงเย็นเอ่ยขึ้น “เรามาเพราะต้องการช่วยเฟลิโอน่าเท่านั้น หาได้เสน่ห์หาท่านไม่”
เอฟีน่าขึงตาใส่อย่างไม่พอใจ
“เพราะถึงภายนอกท่านจะสวยงาม แต่ท่านไม่ใช่นางฟ้า ดังนั้นตัวจริงท่านตอนนี้ก็เป็นแค่ยายแก่ๆคนนึงเท่านั้น !”
“กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!! เจ้า! ว่าฆ่าแก่งั้นหรอ ถึงเจ้าจะเป็นว่าที่ประไหมสุหรีของข้า ข้าก็ไม่เอาไว้หรอก” แม่มดร้องลั่นพลางสั่งให้โซ่ที่ติดอยู่กับพนังห้องมารัดแขนขาของว่าที่ประไหมสุหรีฝ่ายขวา (อย่าเรียกฉันอย่างนั้นได้ไหมวะ:คาโล)
“อ๋อ...นอกจากวิปริตเป็นไบแล้วยังซาดิสม์มาโซคิสม์อีกใช่ไหม ถึงได้เตรียมโซ่ไว้เยอะขนาดนี้” คาโลว่า
“เออสิ! แล้วจะทำไม ! แล้วจำไว้ก็ด้วยนะ คาโล ว่าคำว่าแก่-เป็น-คำ-ต้อง-ห้าม-สำ-หรับ-ข้า” ว่าจบเอฟีน่าก็เดินออกจากห้องไป
“เจ้าชายคาโล” เสียงหวานๆเอ่ยขึ้น นัยน์ตาสีฟ้าเบือนไปพบกับหญิงสาวสามคน คาโลรู้ทันทีว่านั่นคือ สามนางฟ้า ที่ดูแต่เฟรินอยู่ถึงสภาพจะไม่เหมือนก็เถอะ
สภาพสามนางฟ้าในตอนนี้ สองในสามคนท่าทางสะลึมละลือเหมือนเพิ่งตื่นนอน โดยมีนางฟ้าผมดำที่ทำหน้ายักษ์อยู่ข้างหลัง
“พวกเจ้า...แค่ดูแลเฟลิโอน่าแค่นี้...ทำไม่ได้ รู้ไหมห้ะ !! ว่าข้าต้องถ่อลงมาช่วยพวกเจ้าทั้งๆที่ข้ามีนัดดินเนอร์กับชาเบรียน!!”
มาทิลด้าแว้ด ขณะที่แองจี้กับเรนอนไม่อยู่ในสภาพที่จะฟังได้แล้ว
“ง่า...ขอโทษนะมาทิลด้า...แต่ข้ายืนต่อไปไม่ไหวแล้ว...คร่อก” ว่าแล้วนางฟ้าแองจี้ก็สลบลงไปกับพื้นก่อนจะตามด้วยเรนอนอีกคน
ท่านลุงเอวิเดสคิดถูกรึเปล่าเนี่ยที่ให้สามนางฟ้ามาดูแลเฟริน...คาโลคิด
มาทิลด้ากลอกตาไปมาด้วยความหงุดหงิด “เจ้าน่ะ คาโลใช่ไหม รู้อยู่นะว่าข้ากำลังรีบ ข้าจะให้พลังเวทน้ำแข็งแก่เจ้า แล้วจะไปช่วยเฟลิโอน่าหรือจะไปไหนก็ไป ข้าไปล่ะ”
เฮ้ย!!! ไหงงี้อะ
ไม่ทันคาโลจะได้พูดอะไร มาทิลด้าก็หายตัวไปเสียแล้ว
เอาวะ !ลุยก็ลุย
คาโลจึงโซ่ที่พันรอบข้อมือข้อเท้าออกสุดแรงจนมันขาดออก(แรงควายนะเนี่ย) เขาวิ่งลงจากหอคอยเพื่อไปยังหอคอยที่ขังเฟลิโอน่าไว้
แต่เหมือนแม่มดจะรู้ นางจึงเสกเถาวัลย์จำนวนมากเพื่อขัดขวางคาโลแต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากคาโลใช้วิชาตัวเบาและกังฟูที่อุตส่าห์ไปร่ำเรียนมากับพระอาจารย์ที่วัดเส้าหลิน(เฮ้ย มั่วแล้ว)มาจัดการเสียนี่
ในที่สุดแม่มดเอฟีน่าจึงต้องใช้ท่าไม้ตาย
“โอม...บิดๆ เบี้ยวๆ ขอแปลงร่างเป็น...ม้านิลมังกร!!”
=[]=”
คาโลเกิดอาการอึ้งแดก ไม่ใช่ที่แม่มดแปลงร่างเป็นม้านิลมังกร แต่ม้านิลมังกรตัวสีแดงนี่สิ พันธุ์ไหนวะเนี่ย!
ก็ในพระอภัยมณีมันไม่ใช่สีนี้ไม่ใช่หรอ!!!
นังคนเขียนแกจะมั่วไปถึงไหน!
ระหว่างที่คาโลกำลังเถียงกับคนเขียนอยู่นั้น ลูกไฟลูกเท่าแตงโมถูกสาดเฉียดหัวเจ้าชายแห่งคาโนวาลไปไม่ถึงสามเซนต์ ทำซะผมสีเงินสวยของเจ้าชายเกือบไหม้
คาโลเห็นท่าไม่ดีรีบเผด็จศึกทันที
“วีสกาย่า”
พายุหิมะขนาดใหญ่ซัดเข้าไปที่แม่มดเอฟีน่าในร่างม้านิลมังกรสีแดงแปร๊ดทันที น้ำแข็งจำนวนมากค่อยเกาะที่ตัวของม้านิลมังกรเรื่อยๆจนคลุมหมดทั้งตัวจนมันแข็งตายในทันที
.
.
.
.
...แล้ว...เขาจะเอาม้านิลมังกรแช่แข็งไปไว้ไหนดีล่ะเนี่ย ? คาโลคิดพลางเกาหัว
...เอาไปไว้ที่พิพิธภัณฑ์คาโนวาลละกัน น่าจะเรียกนักท่องเที่ยวได้โข...
เมื่อได้ข้อสรุป(จากความงก) คาโลจึงเดินไปยังหอคอยฝั่งซ้ายที่ขังเฟลิโอน่าไว้
เขาเปิดประตูห้องแล้วเดินไปยังร่างบางที่นอนอยู่บนเตียง คาโลจูบไปที่ริมฝีปากของเฟลิโอน่าอย่างอ่อนโยน หญิงสาวลืมตาตื่นขึ้นมา แต่ชายหนุ่มยังคงทำไม่รู้ไม่ชี้จูบต่อไปจนเฟลิโอน่าสลบไปอีกรอบเพราะขาดอากาศหายใจ
++จบ (เถอะ) ++
ตอบคอมเม้นค่า
annaaa
มาอ่านรายแรกเลย เอาแบบแปลกๆหรอ เอ...แบบไหนหว่า(ก็ที่แต่งมันไม่แปลกอีกหรอ -[]-)
Yoshida Akira
เจ็บไหมคะเนี่ย555+ มือไหมหัดรั่วค่า
yuechan
ขอบคุณค่า
~bLaCk PinKz~
ขอบคุณค่า ส่วนแต่งต่อนี่วางเรื่องไว้บ้างแล้วค่ะ แต่ต้องนานหน่อยนะคะเพราะตอนนี้กำลังเรียนพิเศษค่ะ
kame_as
ตอนจบมันไม่หื่นหน่อยอะ มันหื่นตั้งแต่กลางเรื่องแล้วคาเมะ555+
ส่วนเรื่องต่อไป เหอๆๆ
ปล.ฉันไม่ใช่ป้าโรคจิตนะย้า~~~
วรกัญญา
ขอบคุณค่า
clatoria
ได้ข่าวว่า...ในฮาเร็มเอฟีน่ายังมีสมาชิกอีกมาก สมาชิกคนล่าสุด...ริชาร์ดวัยหนุ่ม(มายก็อด!!)
DrEaM lAnD~*
ขอบคุณค่า อยากบอกว่าตอนแต่งคนแต่งแอบเมาจัด เพราะนั่งหน้าจอนานหกชั่วโมงรวด
หว่ายว้ายยย ยยยย
พาวว์เวอร์พัฟ รู้สึกจะไม่ได้ดูมานานแล้วนะเนี่ย
ส่วนกิ้กของโรเวณ...อืม...ข้าน้อยผิดไปแล้ว อาเธอร์จริงๆด้วย
ส่วนเรื่องวาย...ไม่โปรจริงๆค่ะ
ปล.ขอบคุณทุกๆเม้นต์นะคะ
ปลล.ฟิคต่อไปกำหนดตัวละครแล้วค่ะ อยู่ในช่วงเอามายำ ติดตามด้วยนะคะ
ผลงานอื่นๆ ของ Aireena ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Aireena
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ความคิดเห็น