คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : ช่วงพิเศษ :: นางสาวไทย 4 สมัยในงานเอ็กซ์โปร์70 ที่ประเทศญี่ปุ่น
วันประเทศไทย
ในงาน "เอ็กซ์ โปร์'70" ณ นครโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ.2513
ทางด้านนางแบบที่เป็นผู้นำเสนอแฟชั่นโชว์หรูเลิศอลังการนั้นนำทีมโดย 4 นางสาวไทย 4 สมัย อาภัสรา หงสกุล นางสาวไทย 2507 และนางงามจักรวาล 2508, อภันตรี ประยุทธเสนีย์ นางสาวไทย 2510, แสงเดือน แม้นวงศ์ นางสาวไทย 2511, วารุณี แสงศิรินาวิน นางสาวไทย 2512 นอกจากนั้นยังประกอบไปด้วย ปวีณา หงสกุล, ภัทราวดี มีชูธน และนักศึกษาไทยในญี่ปุ่นอีก 3 คน
การแสดงแฟชั่นโชว์ใน 'วันประเทศไทย' นั้นจัดขึ้นที่บริเวณสนามกีฬากลางแจ้ง ภายใน 'พลาซ่า สเตเดี้ยม' อันใหญ่โตกว้างขวาง สามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 5 หมื่นคน
ในจำนวนผู้ชมที่แออัดอยู่บนอัฒจันทร์นั้น กว่า 300 คนเป็นนักเรียนไทยที่กำลังศึกษาอยู่ ณ ประเทศญี่ปุ่น ต่างก็ถือธงไตรรงค์โบกสะบัดตลอดเวลา
เวลา 10.00 น. กรมหมื่นนราธิปพงษ์ประพันธ์ ผู้แทนส่วนพระองค์ ได้เสด็จไปถึงบริเวณงาน กองดุริยางค์ญี่ปุ่น 100 คน ในชุดสีแดงบรรเลงเพลงชาติไทยสลับกับเพลงชาติญี่ปุ่น พร้อมกันนั้นก็อัญเชิญธงไตรรงค์ขึ้นเสา เป็นสัญญลักษณ์ว่างาน 'วันประเทศไทย' ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว จากนั้นผู้แทนส่วนพระองค์ได้กล่าวคำปราศรัยต่อชาวญี่ปุ่น และชาวต่างประเทศทั้งที่อยู่ ณ พลาซ่า เฟสติวัล แห่งนั้น และยังได้รับการถ่ายทอดสดโดยสถานี เอ็น.เอช.เค ไปยังชาวญี่ปุ่นที่อยู่ทางบ้าน รวมไปถึงสถานีวิทยุ เอ็น.เอช.เค เครือข่ายกระจายเสียงที่ใหญ่ที่สุดยังได้ถ่ายทอดเสียงส่งไปตามสายอีกด้วย ประมาณว่างานครั้งนี้มีชาวญี่ปุ่นกว่า 20 ล้านคนได้รับชมรับฟังกัน นับเป็นงานที่ใหญ่โตเกริกเกียรติงานหนึ่งทีเดียว ซึ่งโดยปรกติแล้วสถานีโทรทัศน์ เอ็น.เอช.เค จะทำการถ่ายทอดเฉพาะรายการที่หรูหราใหญ่โตจริง ๆ เท่านั้น
เสียงวงดุริยางค์ขนาดยักษ์บรรเลงเพลงแบบไทยเดิม สลับเครื่องสายของกรมศิลปากร ดังกระหึ่มสร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่ผู้ชมยิ่งนัก เสียงดนตรีอันไพเราะนั้นเป็นสัญญาณว่าการแสดงแฟชั่นโชว์กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว
นางแบบทยอยออกมาเดินนวยนาดด้วยลีลาสงบเสงี่ยม แต่ก็แฝงเอาไว้ด้วยความมีเสน่ห์และสง่างามตามแบบฉบับของตนเอง อาภัสรา หงสกุล ได้รับการประกาศชื่อจากโฆษกให้ออกมาอวดโฉมเป็นคนสุดท้าย คนทั้งสนามต่างลุกฮือขึ้นมา ตากล้องกว่า 400 คนรัวชัตเตอร์แบบไม่นับ อาภัสรา นี่โด่งดังเหลือเกินในญี่ปุ่น ชาวอาทิตย์อุทัยรู้จักเธอเป็นอย่างดี
และเพราะอาภัสรานี่เองที่ทำให้ 'ศาลาไทย' ในงาน Expo'70 มีความหมาย เป็นที่น่าสนใจแก่ผู้คนจากนานาประเทศที่มาเยือน ทุกคนต่างอยากที่จะมารู้จัก มาขอถ่ายรูปร่วมกับเธอเป็นที่ระลึก
เท่านั้นยังไม่พอ แฟชั่นระดับชาติคณะนี้ได้รับการเชื้อเชิญให้ไปโชว์อีกครั้งในงานราตรีสโมสรที่เกสเฮ้าท์ ผู้เข้าชมล้วนแต่เป็นแขก วี.ไอ.พี หรือบุคคลระดับฑูตานุฑูตเท่านั้น ชุดประจำชาติไทย 10 ชุดที่นำมาโชว์ได้รับความชื่นชมจากแขกผู้มีเกียรติอย่างมาก บางคนถึงกับวิ่งไปติดต่อขอซื้อจากอาจารย์ลำยงค์เลยก็มี อาภัสรา หงสกุล ยังคงเป็นดาวเด่นประจำงานเช่นเคย หลายคนเข้าไปรุมล้อมกล่าวชมความงามของอาภัสราอย่างไม่ขาดปาก
ในวันรุ่งขึ้นต่อมา หนังสือพิมพ์แทบทุกฉบับต่างอุทิศหน้ากระดาษเสนอภาพข่าวการแสดงแฟชั่นโชว์ครั้งนี้กันอย่างเกรียวกราวเป็นประวัติการณ์ หนังสือพิมพ์ 'อาซาฮี' ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นกล่าวว่า "แฟชั่นชุดไทยเป็นแฟชั่นที่สวยงามพิสดารที่สุดอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน"
หนังสือพิมพ์ 'ไมนิจิ' ฉบับภาษาอังกฤษ ลงทุนเปิดทั้งหน้านำเสนอภาพ 4 นางสาวไทย อาภัสรา, อภันตรี, แสงเดือน และวารุณี ยืนประชันโฉมกัน แถมยังวิจารณ์เอาไว้ด้วยว่า "สวยที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา คือแฟชั่นจากไทย" พร้อมทั้งเปิดตัวดีไซเนอร์และนักออกแบบทรงผมจากประเทศไทยให้ได้รู้จักกันนั่นก็คือ ลำยงค์ บุญรัตน์พันธ์ และสุชาดา อรรถวิจิตรจรรยารักษ์
ส่วน 'ฮ่องกง แสตนดาร์ด' ฉบับวันที่ 16 สิงหาคม 2513 เสนอข่าวแฟชั่นโชว์ชุดไทยนี้ถึงครึ่งหน้ากระดาษ และยังชมอีกว่า "แฟชั่นไทยสวยจริง ๆ มีการใช้สีที่ถูกต้อง งดงามมีเสน่ห์ และน่าภาคภูมิใจ"
ทั้งหมดนี้คือความสำเร็จและความภาคภูมิใจที่คณะแฟชั่นจากประเทศไทย ได้ไปสร้างชื่อเสียงเป็นเกียรติประวัติแก่ประเทศชาติ ช่วยให้ 'วันประเทศไทย' มีความหมายอย่างที่ทุกคนไม่คาดคิดมาก่อนเลย ---
ชื่นใจมากเลยค่ะเราอ่านแล้วก็ยิ้มม 555+
-แพร
วา-
ความคิดเห็น