ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Sherlock You Sherlock Me | เกมส์ปริศนา ล่านิรนาม { Fic BBC ♟ Sherlock Holmes x OC }

    ลำดับตอนที่ #12 : Sherlock 11 : A psychopath ᴱᴺᴳ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 875
      41
      12 มิ.ย. 61



    Sherlock YOU
    Sherlock ME

    - 11 -
    A psychopath
    โรคจิต








    I




    หกเดือนที่แล้ว ...

     

    " เร็วๆ เข้าเถอะน่า ฉันมีเรื่องอื่นต้องทำอีกเป็นแสนเรื่องเลยนะ " เชอร์ล็อกกล่าว

    " เรียบร้อยแล้วครับ คุณโฮล์มส์ " เจ้าหน้าที่หนุ่มในเครื่องแบบของศูนย์วิจัยโผล่หน้าผ่านกรอบประตูเพื่อแจ้งข่าวให้กับไมครอฟท์ได้รับทราบ

    " ขอบใจมาก " ไมครอฟท์ตอบ แล้วหันไปสบตาเชอร์ล็อก

    ทั้งสองนั่งอยู่ในห้องพักของศูนย์วิจัยและเขตกักกันนักโทษพิเศษ เชอร์รินฟอร์ด เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเชอร์ล็อกได้รับการติดต่อจาก ไมครอฟท์ โฮล์มส์ ผู้เป็นพี่ชายว่ามีเรื่องต้องการให้ช่วยซึ่งจริงๆ แล้วของตัวเขาเองก็ไม่ได้อยากจะให้ความช่วยเหลือสักเท่าไรนัก ถ้าไม่ติดเพียงว่าสถานที่ตั้งของศูนย์วิจัยนั้นดันเป็นที่เดียวกับเขตคุมขังของ ยูรัส โฮล์มส์ [1] พี่สาวผู้มีความผิดปกติทางด้านจิตใจของเขา

    " เขาจะนำทางไป " ไมครอฟท์กล่าว

    เชอร์ล็อกดันตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินตามหลังเจ้าหน้าที่ออกจากห้องรับรองแขก

    " เชอร์ล็อก " ไมครอฟท์เรียก ก่อนที่เจ้าของชื่อจะเดินพ้นกรอบประตู

    ชายหนุ่มจึงหันหลังกลับไปมองยังพี่ชายที่ไม่ค่อยจะได้ความ ทว่าใบหน้าของไมครอฟท์นิ่งงัน ดวงตาฉายแววหวาดหวั่นลึกๆ ให้ได้เห็น

    " ระวังด้วย "

    " มีอะไรจะบอกอีกไหม? " เขาถามเสียงเรียบ

    เมื่อเห็นอีกฝ่ายส่ายหน้าจึงหันกลับไปยังประตูและเริ่มออกเดินอีกครั้ง --- เชอร์ล็อกมองสำรวจไปรอบๆ ระหว่างการเดินนำทางของเจ้าหน้าที่ เส้นทางนี้นำพาไปสู่ห้องขังอันซับซ้อนและมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนาหลายต่อหลายชั้นจนแทบจินตนาการไม่ออกเลยว่าจะมีใครสามารถเข้ามาหรือหลบหนีออกไปจากที่นี่ได้โดยไม่ได้ใช้วิธีที่พวกเขากำลังใช้อยู่ในตอนนี้

    เสียงร้องเท้าบู๊ทดังกึกก้องไปทั่วทางเดินแม้จะมีไฟส่องสว่างแต่เสียงที่ดังยิ่งปลุกความวังเวงให้ตื่นตัว แม้รอบข้างจะไม่มีอะไรแต่บรรยากาศก็สร้างความอึดอัดใจให้เพิ่มมากขึ้นตามเวลาอีกทั้งความสงสัยใคร่รู้อัดแน่นอยู่ในจนอยากจะทำอะไรสักสิ่งเพื่อที่จะได้ไม่ต้องใส่ใจมัน

    " เด็กนั่นสำคัญมากเหรอ " เชอร์ล็อกถามเจ้าหน้าหนุ่มเบื้องหน้าพลางมองเพดานที่มีกล้องหลายสิบตัวติดตั้งอยู่ตลอดทางเดิน

    " ผมไม่ได้รับอนุญาตให้พูดเรื่องนี้ครับ " เจ้าหน้าที่ตอบเสียงเรียบโดยไม่ได้หันหน้ามาหาแต่อย่างใด

    ทุกอย่างล้วนเป็นความลับ --- แม้กระทั่งไมครอฟท์ก็ยังแทบไม่ปริปากเกี่ยวกับคดีนี้ เชอร์ล็อกรู้เพียงว่า มีนักโทษพิเศษคนหนึ่งต้องการพบเขาเป็นการส่วนตัวหากจะด้วยเรื่องอะไรนั้นเขาเองก็ยังมิอาจรู้ได้

    " ด้านในนะครับ ผมมาส่งได้เท่านี้ " เจ้าหน้าที่บอกก่อนจะทาบบัตรประจำตัวแตะกับเครื่องแล้วกดรหัสเพื่อเปิดประตู เชอร์ล็อกพยักหน้ารับพลางหันไปยังบานประตูเหล็กสีเงินเงาวับซึ่งนอกจากจะสะท้อนเงาของเขามันยังทำให้เห็นสีหน้าหวาดหวั่นของเจ้าที่หนุ่มอีกด้วย บานประตูดีดตัวออกจากกรอบแทบจะพร้อมกับเสียงลมอัดดังฟู่จากระบบไฮดรอลิค เบื้องหลังการคุ้มกันอันแน่นหนาคือห้องโล่งสีขาวที่ไร้ของตกแต่งมีเพียงเตียงและสิ่งจำเป็น ทว่าห้องเล็กๆ นั้นกลับล้อมรอบด้วยกระจกใหญ่โตดูไม่ต่างอะไรจากกรงแก้ว

    เชอร์ล็อกหยุดยืนที่หน้าประตูและจ้องมอง

    ภายในกรงแก้วที่ไม่ต่างอะไรกับห้องขังของยูรัส แต่มีสิ่งเดียวที่บอกกับเขาได้ว่ามันไม่ใช่ห้องขังของยูรัส

    เด็กหนุ่มร่างสูงโปร่งยืนสงบนิ่งด้วยท่าทีสุภาพอ่อนน้อม เขาสวมเสื้อผ้าสีขาวกางขายาวและเสื้อแขนยาวปกปิดผิวพรรณแทบมิดชิด --- ระยะห่างราว 5 เมตรจากบานประตูไปจนถึงผนังกระจกของห้องขังยังพอเห็นใบหน้ายิ้มแย้มของเด็กหนุ่มได้ เรือนผมสีบลอนด์ขาวดูจะเป็นสิ่งสะดุดตาพิเศษ เมื่อเขาก้าวเท้าเข้าไปในห้องกักกันสีขาวบานประตูเหล็กก็ปิดลง เชอร์ล็อกเหลือบมันเพียงครู่หนึ่งก็หันกลับไปมองยังเด็กหนุ่มผู้อยู่เบื้องหลังกำแพงกระจก

    " ไง " เชอร์ล็อกเอ่ยทักทาย สองเท้าก้าวย่างเข้าไปหยุดยืนอยู่ที่กลางห้อง ทว่ายังทิ้งกระยะห่างจากกำแพงห้องขังราวๆ สองเมตร --- ยิ่งเข้าใกล้เท่าไรก็ยิ่งมองเห็นใบหน้าได้ชัดเจน เด็กหนุ่มนั้นมีดวงตาสีฟ้าสว่างสดใส รูปร่างหน้าตาจัดว่าดูดีเป็นอย่างมาก

    " สวัสดีครับ คุณเชอร์ล็อก โฮล์มส์ ผมยินดีและขอบคุณอย่างยิ่งกับการมาของคุณ " เด็กหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงสุภาพชวนฟัง กริยาท่าทางก็ดูนุ่มนวลราวกับผู้รากมากดีแถมผิวพรรณที่ถึงแม้จะถูกปิดบังก็ยังดูรู้ได้ว่ามีน้ำมีนวลสะดุดตา

    " เด็กดีเหรอ ? " เชอร์ล็อกตั้งคำถามเป็นเชิงเย้าแหย่ สองมือของเขาเลื่อนไปจับกันอย่างหลวมๆ ด้านหลังและสายตาจับจ้องเด็กหนุ่มผู้ถูกคุมขัง ราวว่าเขากำลังพยายามอ่านทุกอิริยาบถที่เด็กหนุ่มคนนั้นอาจจะแสดงออกมา

    " ผมเองอยากจะเป็นเช่นนั้นเหลือเกินครับ " นัยน์ตาสีฟ้าซีดฉายแววหม่นหมองจนรู้สึกได้

    " ก็เป็นเสียสิ "

    " เกรงว่าจะไม่ได้ครับ " เด็กหนุ่มตอบก่อนรอยยิ้มจางบนใบหน้าจะเลือนหาย นัยน์ตาเศร้าสร้อยเปลี่ยนเป็นโศกลึกและแผ่ขยายความรู้สึกจนสัมผัสได้ในอากาศ

    " ทำไมล่ะ " เชอร์ล็อกเอ่ยถาม เขารู้สึกถึงบางสิ่งในแววตาคู่นั้น บางสิ่งที่ซับซ้อน สับสน และสิ่งเหล่านั้นแม้จะมองเห็นได้ด้วยสายตาอันเฉียบคมแต่กลับไม่อาจเข้าใจสิ่งที่อยู่เบื้องหลังของมันได้

    " เพราะผมมักทำให้คนกลายเป็นบ้า --- ผมทำให้พวกเขาเจ็บปวด " เด็กหนุ่มตอบ ดวงตาสีฟ้าสุกใสยิ่งหม่นหมองราวกับกำลังจมลงในทะเลแห่งความเศร้าไม่สิ้นสุด

    " ทำไมล่ะ "

    " ผมเองก็อยากรู้เหลือเกินครับ คุณพอจะบอกผมได้ไหมว่าเพราะอะไร " เด็กหนุ่มกล่าวเชิงด้วยคำถามก่อนค่อยๆ ขยับก้าวเข้ามาใกล้กับบานกระจกของห้องขัง เขาจับจ้องเชอร์ล็อกไม่วางตา ทั้งสีหน้าแววตาและวาจาที่กำลังเอ่ยบ่งบอกให้เห็นว่าเขาทั้งต้องการและโหยหาความช่วยเหลือมากมายเพียงใด

    " อืม.. ไม่ "

    " ผมคิดว่าคุณฉลาด... " หลังได้รับคำตอบไร้เยื่อใย เขาหลุบสายตาลงมองพื้น

    " ฉันฉลาด " เชอร์ล็อกตอบทันควัน เขาไม่เคยยอมให้ใครเยาะหยั่นสติปัญญาของเขา

    " คุณขยับเข้ามาใกล้กว่านี้ได้ไหมครับ ? " เด็กหนุ่มร้องขอ สองเท้าของเขาขยับเข้าใกล้จนชิดผนังแก้วของห้องขัง ก่อนจะแตะมือลงบนบานกระจกนิรภัย ดวงตายังคงสบไม่หยุดหย่อน

    อัจฉริยะหนุ่มเห็นและได้ยินดังนั้น เขาสัมผัสได้ถึงความวิงวอนในแววตาอ่อนเยาว์ สองเท้าของเขาจึงขยับเข้าไปใกล้กับกระจกห้องขังอย่างง่ายดายไร้ข้อกังขา ระยะห่างถดถอยจนเหลือเพียงความหนาของกระจกที่กั้นขวางจนสามารถมองเห็นแม้เพียงเสี้ยวอารมณ์เล็กๆ ที่เกิดขึ้นในแววตา --- แม้เพียงเสี้ยววินาที

    " ผมไม่ได้สัมผัสใครเลยมานานมากแล้ว ไม่มีใครอยากเข้าใกล้ผม พวกเขาหวาดกลัวผม... "

    เด็กหนุ่มกล่าว

    ดวงตาโศกเศร้าราวจะร้องไห้ ทว่าไม่มีน้ำตาแม้สักหยด เขาวางมือลงบนบานกระจกห้องขังและมองออกไปภายนอกคล้ายว่าโหยหาอิสรภาพมาทั้งชีวิต ทว่าเพียงครู่เดียวสายตาเลื่อนลอยนั้นก็วกกลับมาจับจ้องยังเชอร์ล็อกอีกครั้ง

    " ทำไมพวกเขาถึงกลัวเธอ? "

    " พวกเขาบอกว่า เขาจะกลายเป็นบ้าเมื่อเข้าใกล้ผม " เด็กหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา ใบหน้าหลุบต่ำ ก้มลงจ้องมองพื้น แม้จะไม่เห็นแววตา แต่การกระทำเหล่านั้นยิ่งรังแต่จะถ่วงความรู้สึกของเชอร์ล็อกให้จมดิ่ง

    " แล้วจริงไหม "

    " จริงเสมอครับ " คำตอบอ้อยอิ่งเคล้าไปกับรอยยิ้มอันแสนเศร้า ทว่าสุภาพเหลือเกิน เขาเงยหน้าขึ้นเผชิญกับเชอร์ล็อกอีกครั้ง เหมือนจะแสดงให้รู้ว่าเขากำลังเผชิญหน้ากับคำตอบของตน เพียงแต่ว่าในตาคู่นั้นไม่สามารถซุกซ่อนความพ่ายแพ้ ที่แพ้ให้แก่ความเจ็บช้ำในความเป็นจริงได้เลย

    " นั่นแหละครับผมถึงได้ --- อยากให้คุณเข้ามาใกล้ผมมากกว่านี้ " เด็กหนุ่มกล่าวด้วยแววตาสับสนระคนเศร้า ทุกอย่างบ่งบอกได้ด้วยมิใช่จากวาจา แต่เป็นการกระทำสีหน้า และท่าที ---

    เขาต้องการความช่วยเหลืออย่างแท้จริง

    " ทำไมถึงเป็นฉัน ? " 

    " เพราะคุณฉลาดครับ คุณอาจจะไม่เป็นบ้าถ้าคุยกับผม ใช่ไหม ? "

    " ไม่หรอก แล้วนั่นเป็นเหตุผลที่เธอเรียกฉันมาที่นี่เหรอ "

    " ใช่ครับ และไม่ใช่ "

    " งั้นมีอะไรอีก ? "

    " ชื่อของผมคือ ลูวิค ออกัสตัส แม็กนูสเซน "

    " ... "

    หลังคำแนะนำตัวของเด็กหนุ่ม เชอร์ล็อกเงียบราวเป็นใบ้ ภาพของ ชาล์ ออกัสตัส แม็กนุสเซน [2] ฉายทับซ้อนกับภาพของเด็กหนุ่มเบื้องหน้า ดวงตาโศกเศร้าหรือแม้แต่วาจาสุภาพจนไม่อาจจินตนาการได้ว่าเหตุใดเขาจึงถูกคุมขังเช่นนี้ ลมหายใจของอัจฉริยะหนุ่มถึงคราวติดขัด คล้ายบางสิ่งบางอย่างทุบลงบนจิตสำนึกของเขา เลือดในร่างกายฉีดพล่านจนหัวใจรู้สึกร้อนรุ่ม

    " คุณฆ่าพ่อของผมใช่ไหมครับ " เด็กหนุ่มนาม ลูวิค เอ่ยถาม ดวงตาบริสุทธิ์ฉายแววหม่นหมอง

    " .... ใช่  " เขาตอบ อย่างยากเย็นนัก

    " เขาได้พูดอะไรหรือเปล่าครับ ก่อนที่เขาจะตาย " ลูวิคตั้งคำถามอีกครั้ง เชอร์ล็อกมองเข้าไปในดวงตาคู่นั้น จิตสำนึกของเขากำลังถูกเชือดเฉือนสะบั้น

    " ... ฉัน   จำไม่ได้ " น้ำเสียงเชอร์ล็อกเหือดหายไปในบางถ้อยคำ เขาไม่อาจหลีกหนีไปจากสิ่งที่ตนเคยกระทำเอาไว้ได้ ถึงแม้จะไม่มีน้ำตาสักหยดบนใบหน้าของเด็กหนุ่ม ทว่าเขากลับสามารถมองเห็นทุกความเจ็บปวด และระทมให้ในดวงตาคู่นั้น

    " นอกจากพ่อ ก็ไม่มีใครรักผมอีกแล้ว... " ลูวิคกล่าว

    " ฉัน --- ฉันขอโทษ "

    " ไม่ครับ ไม่ต้อง --- ผมรู้ว่าคุณไม่ได้ทำอะไรผิดเลย เขาสมควรตาย --- ก็เหมือนกับผมนั่นแหละ "

    เขานิ่งอึ้งก่อนเด็กหนุ่มจะพูดต่อ

    " คุณช่วยอะไรผมหน่อยได้ไหมครับ ? "

    " อะไรล่ะ ? "

    " ครับ --- ผมไม่ได้คุยกับใครเลยมาสักพักแล้ว ผมเกือบลืมไปแล้วว่าจะต้องเปล่งเสียงพูดยังไง --- จะเป็นไปได้ไหมครับ ถ้าเราจะนั่งดื่มกาแฟด้วยกันสักครั้ง "

     


    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    * หมายเหตุ : สำหรับนักอ่านที่ไม่เคยดูซีรีย์ หรือจำชื่อตัวละครไม่ได้ *

    [1] Sherlock BBC เนื้อหาใน Seasons 4 ยูรัส โฮล์มส์ คือลูกสาวคนเดียวของตะกูลโฮล์มส์ มีศักดิ์เป็นน้องสาวของ เชอร์ล็อก และ ไมครอฟท์ โฮล์มส์ ซึ่ง ยูรัส มีความผิดปกติทางจิต แต่เป็นอัจฉริยะไม่ต่างจากโฮล์มส์ เธอจึงต้องถูกคุมขังในสถานที่กักกันพิเศษ เชอร์รินฟอร์ด


    ยูรัส โฮล์มส์ 


    [2] Sherlock BBC เนื้อหาใน Seasons 3 ชาล์ ออกัสตัส แม็กนุสเซน ได้ถูก เชอร์ล็อก โฮล์มส์ สังหารที่บ้านพักส่วนตัวของเขา (ชาล์) ด้วยเหตุผลจำเป็นบางอย่าง


    ชาล์ ออกัสตัส แม็กนุสเซน

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------






    II



    " เชอร์ล็อก " เสียงคริสตินเรียก เธอหอบข้าวของพะรุงพะรังและพยายามหาที่วางข้าวของในมือหลังจากการออกไปช้อปปิ้งวัตถุดิบสำหรับอาหารเช้า ดูเหมือนว่าเชอร์ล็อกจะเผลอหลับไป

    หลังเสียงเรียกเชอร์ล็อกเด้งศีรษระขึ้นจากการฟุบหลับ ดวงตาเบิกโพรงมองไปบนโต๊ะตรงหน้า เมื่อได้สติเขาคว้าหนังสือสีแดงเข้าหาตัว ดวงตาที่ไม่รู้ว่าตื่นหรือเพียงแค่ละเมอเริ่มลนลานมองไปยังหน้าหนังสือที่เปิดอ้า

    " --- เชอร์ล็อก " คริสตินเรียกอีกครั้งเมื่อเห็นท่าทีพิลึก 

    " มาร์ติน คูเบิร์ก ! " เชอร์ล็อกตะโกน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองที่คริสติน เขาหอบหายใจหนัก หน้าตาตื่นราวกับเพิ่งฟื้นขึ้นมาจากฝันร้ายก็ไม่ปาน

    คริสตินผงะถอยห่างจากโต๊ะของเชอร์ล็อก เธอกอดถุงขนมปังฝรั่งเศษที่เกือบจะร่วงลงพื้นอยู่รอมร่อ

    " คริสติน --- "

    ทั้งสองสบตากัน ต่างคนต่างเงียบและสีหน้าประหวั่นกันทั้งสองฝ่าย

    " --- ขนมปังไหม " เธอถามขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ หรือเป็นไปได้ว่าเธอไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร

    หลังการตกใจตื่นหรือฟื้นจากการละเมอของเชอร์ล็อก เขาก็ถูกคริสตินไล่ให้ไปอาบน้ำ ในขณะเดียวกันเธอช่วยคุณนายฮัดสันทำอาหารเช้าอยู่ในครัว เมื่อถึงเวลาอาหารเช้า เชอร์ล็อกยังคงถือหนังสือสีแดงเดินงัวเงีย วนไปมาอยู่ภายในห้องพัก ถึงแม้ว่าอาหารจะถูกตระเตรียมเรียบร้อยแล้วก็ตาม

    " เชอร์ล็อก นั่งลงได้แล้วน่า " คริสตินกล่าว

    " ไม่เป็นไรหรอกจ้ะคริสติน เขาเป็นแบบนั้นตลอดนั่นแหละ " คุณนายฮัดสันกล่าวพลางตักขนมปังอบหอมกรุ่นใส่จานให้กับคริสติน

    " เชื่อเลยค่ะ --- ฉันเห็นใจคุณมากๆ ที่ต้องรับมือกับเขาทุกวัน " คริสตินกล่าว

    " ฉันก็ไม่อยากจะพูดว่าชินแล้วหรอกนะ " คุณนายฮัดสันกล่าวพร้อมรอยยิ้มแหยๆ

    " ถ้าไม่รีบมากินมันจะไม่อร่อยนะ เดี๋ยวชีสเย็นชืดหมดพอดี " คริสตินว่าพลางหันมองตามเชอร์ล็อกที่ยังไม่ยอมหยุดเดินเสียที ในมือของเขายังคงถือหนังสือสีแดงของ ซาลีน่า โจนส์ ดวงตาจับจ้อง สองเท้าเดินรุกรี้รุกลน บางครั้งเขาเตะข้าวของที่วางอยู่บนพื้นจนกระเด็นโดยบังเอิญ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจจะเก็บมันไว้ที่เดิมแต่อย่างไร

    " ตามใจละกัน " เธอพูดอย่างเสียมิได้ ก่อนจะเริ่มลงมือทานอาหารเช้าไปพร้อมๆ กับคุณนายฮัดสัน


    .....

    ............

    เมื่อมือเช้าจบลง คล้อยเข้าช่วงสายจอห์นก็กลับมาช่วยเชอร์ล็อกทำงานสืบสวนเหมือนปกติ คริสตินแทบจะโผตัวเข้าไปกอดจอห์นในทันทีที่เขาเปิดประตูเข้ามาในห้อง ราวกับว่าจอห์นคือพระผู้ทรงโปรด ทำนองนั้น

    " แล้วอาการเป็นไงบ้างคะ " คริสตินเอ่ยถามในขณะรินน้ำชาส่งให้กับจอห์น

    " ดีขึ้นมากแล้ว ขอบคุณครับ " จอห์นกล่าว รับถ้วยชาจากเธอ

    ทุกอย่างคล้ายจะเปลี่ยนไปและขัดหูขัดตาเชอร์ล็อกอยู่ไม่น้อย จอห์นนั่งที่โซฟาตัวเดิมทว่ามีบางอย่างที่ไม่เหมือนเดิม อย่างเช่น มีหญิงสาวคนหนึ่งกำลังต้อนรับด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน หนำซ้ำยังชงชาให้เสียอย่างกับว่าจอห์นเป็นแขก ไม่ใช่ผู้อาศัย

    เชอร์ล็อกนอนเหยียดเต็มโซฟาตัวยาวที่ประจำของเขา หนังสือสีแดงกางวางทับปิดใบหน้าจนดูไม่ออกว่าเจ้าตัวกำลังหลับหรือแค่นอนลืมตามองความมืดภายในหนังสือกันแน่

    " เรื่องไปถึงไหนแล้วล่ะ เชอร์ล็อก " จอห์นเอ่ยถามหลังจิบชา

    " สี่คน " เชอร์ล็อกตอบ และเป็นการยืนยันว่าเขาไม่ได้กำลังหลับ

    " หมายความว่าอย่างไรสี่คน "

    " สี่คน " เขายังคงตอบเหมือนเดิม ด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่ายยิ่งกว่าเดิม และไม่มีวี่แววจะขยับตัวแม้แต่น้อย

    จอห์นนิ่วหน้าหันมองไปยังคริสตินเสียแทน เธอจึงวางชุดน้ำชาลงบนโต๊ะและเดินไปยังเชอร์ล็อกก่อนจะหยิบหนังสือสีแดงออกจากใบหน้าของเขา เจ้าหนุ่มอัจฉริยะลุกพรวดขึ้นราวจะไล่คว้าหนังสือคืนก็ไม่ปาน

    " เฮ้ ! " เชอร์ล็อกแหวเสียดังลั่น

    " ฉันจะอธิบายที่เหลือเองค่ะ คุณไม่ได้นอนมากี่วันแล้วเนี่ย ฉันคิดว่าคุณควรพักผ่อนเสียหน่อยนะ " คริสตินกล่าว ยื่นหนังสือออกไปไกลตัวเพื่อไม่ใช้เชอร์ล็อกคว้ามันได้โดยง่าย

    " ยุ่งน่า ! " เจ้าตัวยังคงกระฟัดกระเฟียด

    " เดี๋ยวๆ นี่นายเอาอีกแล้วเหรอ " จอห์นเอ่ยถามด้วยหน้าตาบึ้งตึง

    " อะไรหรือคะ " คริสตินหันมองยังจอห์น

    " ป่าวสักหน่อย " เชอร์ล็อกชิงตอบก่อนที่จอห์นจะได้พูดอะไร

    " แน่ใจนะ ฉันควรโทรหามอลลี่ไหม " จอห์นถาม

    " ฉันกินแค่กาแฟเท่านั้น ให้ตายสิ่ ! " เจ้าหนุ่มอัจฉริยะตอบด้วยท่าทีหัวเสีย เขาลุกขึ้นจากโซฟาและคว้าเอาหนังสือสีแดงออกจากมือของคริสติน แทบจะเป็นการกระชากคืนเสียด้วยซ้ำ

    " เชอร์ล็อก --- " คริสตินเพียงแค่เรียกชื่อของเขาและเธอไม่พูดอะไรต่อ ทว่าฟังดูก็รู้ว่าเธอไม่พอใจเรื่องอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ของเขา

    " คริสตินไม่ใช่ฉันนะเชอร์ล็อก นายจะทำหัวเสียใส่เธอไม่ได้ " จอห์นว่า

    " ก็เพราะว่าเธอไม่ใช่น่ะสิ " เชอร์ล็อกตอบก่อนจะเดินชนเธอเสียจนกระเด็น

    " เฮ้ เชอร์ล็อก ! " จอห์นตะโกนว่า

    ทว่าเชอร์ล็อกไม่ได้สนใจจะฟัง เขาเดินหายเข้าไปในครัวราวกับไม่ได้ยินเสียงเรียกใดๆ ทั้งสิ้น คริสตินนั่งลงบนโซฟาของเชอร์ล็อกพลางถอนหายใจยาวเหยียด

    " ขอโทษแทนเขาด้วยแล้วกัน " จอห์นบอก

    " ไม่เป็นไรค่ะ --- ว่าแต่เรื่องคดี ตอนนี้มีเหยื่อทั้งหมด 4 รายแล้วค่ะ แต่โชคยังดีที่เหยื่อรายที่ 4 ไม่ตาย ฉันคิดว่าเกร็กน่าจะได้ตัวเขาไปแล้ว " คริสตินกล่าว

    จากนั้นเธอเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้จอห์นฟัง ในขณะที่การเล่าดำเนินไปอย่างเรียบง่าย เชอร์ล็อกเดินออกจากครัวพร้อมขนมปังอบในมือ ที่ใต้วงแขนของเขายังคงหนีบหนังสือสีแดงเอาไว้

    " ใครทำขนมปังเนี่ย " เชอร์ล็อกด้วยหน้าตาเหยเก

    " ฉันเองแหละ " คริสตินตอบและหยุดเล่าสิิ่งที่เธอกำลังเล่า

    " ไม่ได้เรื่องเลย " พ่อหนุ่มอัจฉริยะกล่าว

    คริสตินหันขวับไปยังเชอร์ล็อก เธอนิ่วหน้าเหมือนจะโกรธก็ไม่ปาน ในขณะเดียวกันจอห์นก็มีสีหน้าที่ไม่ต่างจากเธอเท่าไรนัก หลังพูดจบเชอร์ล็อกยกขนมปังขึ้นกัดและแสดงสีหน้าไม่พอใจในรสชาติของมันอย่างเห็นได้ชัด

    " เพราะว่ามันเย็นชืดหมดแล้วต่างหาก ! " คริสตินตวาด

    " นั่นแหละ ไม่ได้เรื่องเลย "

    " นั่นมันเป็นความผิดฉันเหรอ ตอนที่ฉันเรียกให้มากิน คุณไม่ลุกมาเองนี่ " เธอพูดอย่างเสียมิได้

    " งั้นก็ความผิดชีส กับขนมปัง " เขาตอบ

    " ความผิดคุณนั่นแหละค่ะ ! " เธอตวาดอีกครั้ง อย่างอดไม่ได้

    เชอร์ล็อกยัดก้อนขนมปังที่เหลือเข้าปากและกลืนลงคออย่างลวกๆ ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟาข้างคริสติน หรืออันที่จริงมันคือโซฟาของเขาตั้งแต่ทีแรก แต่เธอดันนั่งผิดที่ผิดทางไปหน่อย เชอร์ล็อกวางหนังสือสีแดงลงบนโต๊ะก่อนจะกางให้จอห์นและคริสตินดู

    " ฉันคิดมาทั้งคืน " เชอร์ล็อกกล่าว

    จอห์นลุกขึ้นจากโซฟาและเดินอ้อมโต๊ะมานั่งที่โซฟาเดียวกับเชอร์ล็อกเพื่อจะมองหน้าหนังสือได้ชัดเจนขึ้น ในหน้ากระดาษเต็มไปด้วยรายชื่อและตำแหน่งงานสารพัด พวกเขาจ้องมองก่อนที่เชอร์ล็อกจะพลิกหน้าถัดไป


    NAME LISTS

    Christiaan Greeley, Ronald Huygens, John Boleslawski, William Ricci, Peter Billingsley,
    Matteo Ricci, Iris Taylor, Charles Boleslawski, Richard Bassett, Clifford D. Paine, Thomas J. Cabanne,
    Christy Gray, George Civita, Levi Blair, Schmitt H. Debus, Kurt Harrison, Frank Clavius,
    Christopher D. Borman, Nicolas Cannon, Danny E. Zucchi, Francesco Craven, Wes Grimaldi, Salina Jones, Roger G. Clayton, Jack Boscovich, Tod D. Child, Abigail Browning, Woody Ivens, Joris  Allen, Emmit Brown, Delmer Hill, Maximilian Daves, Martin Kuburg, Helen H. DuVernay, Ava Hunt, Roy Erskine, Chester Andersson, Steve Mcmanus, Christopher Avary, Roger Scheiner, Jane Amiel, Stephen Cruise, Jon Arden, Warren Berlin, Marc Beatty, Roberto Brocka, Mark B. Mcmillan, Lino Benigni, Danny E. Bondarchuk, Fyodor Buday, Stuart D. Guzmán, Patricio Gillard,


    " รายชื่อพวกนี้คือคนที่เกี่ยวข้องกับการทำหนังสือ " เชอร์ล็อกกล่าว

    " พวกนี้คือคนที่เป็นเหยื่อใช่ไหมคะ " คริสตินเอ่ยถามพลางชี้มือไปยังชื่อที่ถูกขีดเส้นใต้เอาไว้ เชอร์ล็อกเหลือบมองที่เธอครู่หนึ่งก็พยักหน้า

    " ให้ตายสิ่ --- แล้วใครจะเป็นคนต่อไป หรือมันกะจะฆ่าทุกคนเลยเหรอ " จอห์นถาม

    " ไม่ใช่หรอก ฆาตกรทิ้งข้อความไว้บนศพ หรือถ้าพูดให้ถูกคือไว้บนตัวเหยื่อ เพราะมีเหยื่อทีไม่ตายอยู่ด้วย มันแค่ต้องการจะส่งสารท้าทายเท่านั้น " เชอร์ล็อกตอบ

    " ฉันไม่คิดแบบนั้นนะคะ " คริสตินกล่าว

    สองหนุ่มละสายตาจากหน้ากระดาษและมองไปยังเธอเสียแทน คริสตินหลุบสายตาลงคล้ายว่าเธอไม่อยากจะสบตาพวกเขา

    " ฉันเกือบฆ่าเหยื่อรายที่สี่ --- พวกคุณอาจไม่รู้ แต่ฉันรู้ตัวเอง ฉันเกือบฆ่าเขาแล้วจริงๆ " เธอบอก

    " ไม่หรอกคริสติน คุณแค่ป้องกันตัวเท่านั้น แถมยังช่วยชีวิตเชอร์ล็อกด้วย " จอห์นกล่าว

    " เดี๋ยวสิ ฉันต่างหากช่วยชีวิตเธอ " เชอร์ล็อกสวนทันควัน ใบหน้ายุ่งเหยิงพอๆ กับทรงผมของเขา

    " เธอช่วยนาย เชอร์ล็อก อย่าอีโก้จัดนักจะได้ไหม "

    " ฉันช่วยชีวิตเธอ เพราะว่าเธอไม่มีหู ให้ตายสิ่ ! " เชอร์ล็อกกระฟัดกระเฟียด

    " --- ฉันหมายถึงว่า " คริสตินพูดแทรกขึ้นระหว่างการทะเลาะกันของทั้งสองคน

    " ฆาตกรต้องการเขียนข้อความลงบนศพของเหยื่อ ไม่ใช่บนร่างเหยื่อ ฉันรู้ว่านี่มันอาจจะฟังดูโหดร้ายเกินไป แต่ฉันคิดว่าเขาจงใจให้ฉันเป็นคนฆ่าเหยื่อ --- หรือไม่ก็คุณ --- เชอร์ล็อก " เธอกล่าว

    หลังคำพูดของเธอ ทุกอย่างกลับเงียบสนิท พวกเขาไม่รู้ว่าควรจะแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้อย่างไร

    " เออ --- ยังไงก็เหอะ " ในที่สุดเชอร์ล็อกก็พูดขึ้น " ตอนนี้เหยื่อสี่รายก็มีข้อความทุกราย เรียงตามนี้ "

    หลังพูดจบเขาพลิกหนังสือหน้าถัดไป ภายในเป็นกระดาษที่ถูกติดลงไปใหม่ อาจเป็นฝีมือเชอร์ล็อกที่ต้องการหน้าว่างเพื่อจดรายละเอียดหรือข้อมูลต่างๆ ของตัวเอง


    Martin Kuburg : Sherlock

    Iris Taylor : I'm 231

    Sallina Jones : Have fun ?

    Stephen Cruise : Here

    Sherlock, I'm 231. Have fun ? Here


    " พระเจ้าช่วย " จอห์นกล่าวด้วยเสียงแผ่วลม

    " เดี๋ยวก็รู้ว่าใครที่ช่วย " เชอร์ล็อกบอก เหลือบตามองเพดาน

    " มันยังไม่จบประโยคใช่ไหม แปลว่าจะมีคนตายอีก " คริสตินพูดแทรก

    " ใช่ ต่อไปก็คือ ใครล่ะคนต่อไป " เชอร์ล็อกเอ่ยถามพลางกวาดสายตามองไปยังรายชื่อที่เรียงต่อกันเป็นพรืดมากกว่าห้าสิบรายชื่อ ทั้งจอห์นและคริสตินต่างก็เงียบตามๆ กันไป

    ในขณะที่พวกเขาราวจะระดมความคิด เสียงประตูห้องก็ถูกเคาะ และคุณนายฮัดสันก็เปิดประตูเข้ามา

    " มีแขกมาหาแน่ะ " คุณนายฮัดสันกล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

    เธอเบี่ยงตัวหลบจากประตู และวัยรุ่นชายคนหนึ่งก็แทรกตัวผ่านบานประตูเข้ามาภายในห้อง เขาปลายสายตามองยังคุณนายฮัดสัน เป็นสายตาที่ชวนหลงไหลอยู่ไม่น้อย มิหนำซ้ำพ่อหนุ่มก็รูปหล่อเสียจนยากที่จะละสายตาออกจากใบหน้าของเขาได้

    " ขอบคุณมากครับ คุณผู้หญิง " เด็กหนุ่มกล่าว

    " ด้วยความยินดีจ้ะพ่อหนุ่ม " คุณนายฮัดสันตอบรับอย่างอิ่มอกอิ่มใจ

    เด็กหนุ่มยิ้มรับพลางหันมองในห้อง ร่างสูงโปร่งของเขาใกล้เคียงกับเชอร์ล็อก เพียงแต่ผอมบางและตัวเล็กกว่า ผมสีบอนด์ขาวสว่างทว่าขับผิวพรรณให้ดูผุดผาด ริมฝีปากและดวงตาก็ล้วนเป็นสิ่งดึงดูอย่างน่าพิศวง

    " เชิญออกไปได้แล้วคุณนายฮัดสัน " เชอร์ล็อกกล่าวเสียงแข็ง เขาจ้องมองยังเด็กหนุ่มด้วยดวงตาเกรี้ยวโกรธ

    " แหม ไปก็ได้ " คุณนายฮัดสันกล่าวด้วยใบหน้ายุ่งเหยิง เธอเดินออกจากประตูและเหลือบมองเด็กหนุ่มด้วยสายตาคล้ายจะอาลัยก็ไม่ปาน หลังบานประตูปิดลง เด็กหนุ่มหันกลับมองยังเชอร์ล็อกครู่หนึ่งก็เลื่อนสายตาไปยังคริสติน ในขณะเดียวกัน จอห์นหันมองเชอร์ล็อกราวกับว่าเขาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้เห็น

    " นายออกมาได้ยังไง " เชอร์ล็อกถาม

    เด็กหนุ่มยังคงจับจ้องที่คริสตินโดยไม่ปริปาก ครู่หนึ่งเขาก็เผยรอยยิ้มเป็นมิตรออกมา คริสตินสบสายตาของเขาก่อนจะหลุบลงมองพื้นเพราะว่าเธอรู้สึกอึดอัดหรืออาจเป็นความเขินอาย

    " คุณสวยจังครับ " เด็กหนุ่มกล่าว คริสตินเงยหน้าขึ้นมองด้วยความประหลาดใจเล็กๆ

    " หยุด --- ลูวิค " เชอร์ล็อกบอกด้วยเสียงแข็งกร้าว

    เด็กหนุ่มนามลูวิคปลายสายตาไปยังเชอร์ล็อกครู่หนึ่งก็เลื่อนมองไปยังจอห์น ใบหน้าของจอห์นแสดงออกชัดเจนว่าเขาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น ลูวิคส่งยิ้มทักทายให้กับจอห์น เป็นรอยยิ้มนุ่มนวนแสนสุภาพ

    " ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยครับ แค่ทักทายเท่านั้น และผมคิดถึงพวกคุณมากจริงๆ " ลูวิคกล่าว

    " ฉัน --- ฉันคิดว่าฉันจะชวนคริสตินออกไปเดินเล่นข้างนอกเสียหน่อย " จอห์นกล่าว

    " เป็นความคิดที่ดี " เชอร์ล็อกสมทบ

    " ชื่อคริสตินหรือครับ " ลูวิคเอ่ยถาม จับจ้องไปยังคริสติน

    เธอพยักหน้ารับ และได้แต่คาดเดาสถานการณ์ไปเรื่อยๆ จอห์นดูเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่เชอร์ล็อกมีทีท่าระแวงระวังมิหนำซ้ำ ทั้งน้ำเสียงและแววตาของเขาก็ดูจะอยู่ในภาวะเครียดเสียจนทำให้บรรยากาศทุกอย่างดูอึดอัดไปหมด

    " เธอคงเป็น ลูวิค ? " คริสตินเอ่ยถาม

    เชอร์ล็อกหันมองที่เธอและค้ลายเขาจะดุด่าเธอด้วยสายตา

    " ครับ --- คุณเป็นเพื่อนของเชอร์ล็อก โฮล์มส์เหรอ "

    " เปล่าค่ะ ฉันเป็นลูกค้าของเขา "

    " หุบปากได้แล้ว " เชอร์ล็อกว่า พลางจ้องหน้าของเธอเขม็ง

    คริสตินหยุดพูด เธอไม่ได้ตั้งคำถามใดๆ เพราะสถานการณ์ดูตึงเครียดอย่างน่าประหลาด ลูวิคเดินเข้ามาในห้องด้วยท่าทีสุภาพ เขานั่งลงบนเก้าอี้สำหรับแขกและเริ่มกวาดสายตามองทุกคน แต่สุดท้ายแล้วดวงตาสีฟ้าคู่นั้นก็หยุดลงที่คริสตินอีกครั้ง

    " คุณเชอร์ล็อก โฮล์มส์ ถ้าต้องการให้คุณช่วยไขคดีให้ ผมต้องใช้เงินเท่าไหร่ครับ " ลูวิคถาม

    " ฉันไม่รับทำคดีให้นักโทษหรอกนะ " เชอร์ล็อกตอบ

    " ตอนนี้ผมเป็นอิสระแล้ว อย่างที่ผมเคยพูดเอาไว้ครับ คุณโฮล์มส์ "

    " เชอร์ล็อก ฉันไม่อยากจะอยู่ที่นี่นะ " จอห์นเอี้ยวตัวหาเชอร์ล็อกและกล่าวอย่างกระซิบ สีหน้าของเขายิ่งทวีคูณความกังวลขึ้อีก " ครั้งสุดท้ายที่ฉันฟังหมอนั่นพูดฉันต้องไปพบจิตแพทย์เป็นเดือนๆ ฉันเข็ดแล้วเข้าใจไหม " หลังจอห์นพูดจบเชอร์ล็อกหันกลับไปมองยังลูวิคอีกครั้ง ---

    " นายออกมาได้ยังไง แล้วออกมาทำไม " เชอร์ล็อกถาม

    " เริ่มสนใจแล้วเหรอครับ ทั้งๆ ที่ผมก็เรียกร้องความสนใจของคุณมานานแล้วแท้ๆ "

    " ลูวิค --- "

    เด็กหนุ่มปลายยิ้มลึกลับก่อนจะประสานมือพนมและแตะที่ริมฝีปาก พฤติกรรมเหล่านั้นเหมือนสิ่งที่เชอร์ล็อกมักทำอยู่บ่อยๆ ให้ความรู้สึกชินตาทว่าขัดแย้งไปในเวลาเดียวกัน

    " มีคนพาผมออกมา คุณก็รู้ว่าพวกเขายอมตายได้เพื่อผม "

    " ใคร " เชอร์ล็อกถาม

    " ถ้าต้องพูดทั้งหมดผมคิดว่าคุณคงต้องหาสมุดมาจด หรือไม่ก็ --- " ลูวิคพูดพร้อมรอยยิ้มเหมือนเด็กแรกรุ่น มองดูสดใสไรพิษสง ทว่าให้ความรู้สึกสุภาพอ่อนน้อมไปในเวลาเดียวกัน --- ช่างขัดกับคำพูดที่หลุดออกจากริมฝีปากเหล่านั้นเสียจริง " คุณเคยสงสัยบ้างไหมครับเชอร์ล็อก ว่าผมสมควรถูกขังจริงๆ หรือ  ผู้คนมากมายล้วนชอบในตัวผม แม้กระทั่งคุณก็ชอบผม แล้วมีเหตุผลอะไรที่ทำให้ผมสมควรถูกขังอยู่ในนั้น หรือคุณจะบอกว่าพวกเขารวมไปถึงคุณชอบคนชั่วๆ อย่างนั้นหรือครับ "

    " ลูวิค --- นายฆ่าคนตาย " เชอร์ล็อกกล่าวน้ำเสียงเย็นเยียบไม่น้อยไปกว่าแววตา

    " คุณก็ฆ่า พ่อ ของผมเหมือนกัน ! "

    เสียงตะโกนลั่นเสียจนแตกพร่าดังออกจากริมฝีปากของเด็กหนุ่ม คล้ายว่าเขาถูกผลักเข้าสู่ห้วงอารมณ์ของความโกรธจนสติแตกในเสี้ยววินาที ดวงตาเบิกกว้างริมฝีปากสั่นระริกจ่อมจมสู่แรงอาฆาต มิหนำซ้ำดวงตาคู่นั้นแดงเรื่อคล้ายว่าเขาจะร้องไห้อยู่รอมร่อ

    " ถ้าอย่างนั้นคุณก็ควรไปอยู่กับผม --- อยู่ด้วยกัน " น้ำเสียงของเขาอ่อนลงอย่างทันใด แววตาโกรธเกรี้ยวแปรเปลี่ยนเป็นเว้าวอนหรืออาจเป็นความโศกเศร้าที่ไม่อาจอธิบายได้ " คุณเคยรู้สึกเหงาไหมครับ " ลูวิคถาม

    " ฉันขอโทษเรื่องพ่อของนายด้วย แต่เขาทำให้คนเดือดร้อนจำนวนมาก "

    " เหมือนผม ใช่ครับผมรู้ดี " ลูวิคพูดแทรกในขณะที่จอห์นยังไม่ทันจะพูดได้จบประโยคดี " และคุณควรระวังด้วยครับ จอห์น วัตสัน เพราะคนจำนวนมากที่คุณพูดถึงนั้นมีจุดประสงค์เดียวคือคุณต้องการพูดว่า แมรี่ วัตสัน "

    " เขาตั้งใจเล่นงานเรา ! " จอห์นพูดโพล่ง

    " ครับ ถูกต้องแล้ว แต่ทำไม่สำเร็จเพราะถูกฆ่าเสียก่อนใช่ไหมครับ --- " ลูวิคกล่าวด้วยท่าทีสุขุมใจเย็น " คุณจะพูดอย่างไรก็ได้ เพราะคนที่ตายแล้วคือคนที่พูดไม่ได้ --- น่าเศร้าเหลือเกินที่มีคนอีกไม่น้อยเป็นแบบคุณ นึกออกไหมครับ คุณฆ่าแล้วล้างมือให้ตัวเอง และแบกหน้าบอกโลกใบนี้ว่าคุณบริสุทธ์ "

    หลังจากนั้นทุกอย่างจ่อมจมสู่ความเงียบงัน ในแววตาของเชอร์ล็อกแม้จะสงบนิ่งเพียงใด แต่ยังแฝงไปด้วยความรู้สึกบางอย่าง --- ความรู้สึกที่พยายามจะหลบหนีจากอดีตของตนเอง

    " เราทุกคนก็เหมือนกันทั้งนั้น ผมสามารถให้อภัยและอยู่กับมันได้ เพราะว่าผมเข้าใจมันดีทุกอย่าง " เสียงของลูวิคแผ่วเบาในความเงียบสงัด

    จอห์นวางมือลงบนไหล่ของเชอร์ล็อกราวจะเป็นการปลอบใจ หากแต่มันคงไม่ช่วยอะไรเลยเพราะเชอร์ล็อกยังคงเงียบใบ้และเอาแต่จ้องไปยังลูวิคด้วยใบหน้านิ่งงัน

    " ถ้าอย่างนั้นคุณต้องการอะไรคะ " คริสตินถาม มองตรงไปยังลูวิค

    เด็กหนุมปลายสายตามองยังเธอแทบจะทันที ครู่เดียวรอยยิ้มสดใสก็ปรากฎบนใบหน้าราวกับว่าเขาไม่เคยมีความเศร้าในชีวิต ดวงตาระทมกลับกลายเป็นกระกายสดใสในทันตา

    " ก็เหมือนกับคนอื่นครับ ผมมีคดีที่อยากจะปรึกษา " ลูวิคตอบด้วยน้ำเสียงและท่าทีสุภาพ

    " คดีอะไรหรือคะ "

    " คุณดูเป็นคนใจดีนะครับ ผมไม่อยากที่จะ --- "

    " พอได้แล้วลูวิค ! " จอห์นกล่าวแทบจะเป็นตะคอก

    เชอร์ล็อกยกมือขึ้นปรามจอห์น แต่สายตายังคงจับจ้องที่ลูวิค ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดอะไรแม้สักคำ แต่ท่าทีก็บอกได้ว่าเขาพร้อมแล้วที่จะฟังในสิ่งที่ลูวิคกำลังจะพูด

    " ผมได้รับความช่วยเหลือจากชายคนหนึ่ง และตอนนี้เราเป็นเพื่อนกัน " ลูวิคเริ่มเล่า

    " แต่นายถูกขังเดี่ยว จะมีเพื่อได้ยังไง " จอห์นถาม

    " นั่นแหละครับ ทำไมเขาเข้าถึงตัวผมได้ --- ผม --- รู้สึก --- มีชีวิตชีวา ทั้งที่ก่อนหน้านั้นผมเหมือนคนที่ตายไปแล้ว คุณรู้ไหมครับ เพียงการพบกันครั้งเดียว ผมรู้สึกมีชีวิตอีกครั้งและมันทำให้ผม --- โหยหาอิสรภาพ " ลูวิคกล่าว ดวงตาของเขาเป็นประกาย

    " เขาเป็นใครคะ " คริสตินเอ่ยถาม

    ลูวิคหันมองยังคริสตินจากนั้นเผยรอยยิ้มลุ่มลึก

    " --- จิม มอริอาร์ตี้ "

    คำตอบของเขา ราวจะสะเทือนทุกความรู้สึกภายในห้องนั้น








    III


    " นี่มันไม่เข้าท่าเลยนะ จิมมี่ตายไปแล้ว ฉันไปงานศพของเขาด้วย ! " คริสตินกล่าว

    " คุณแน่ใจหรือครับ --- " ลูวิคถาม

    " นายเจอหมอนั่นครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ " เชอร์ล็อกชิงถามขึ้นก่อนที่จะมีใครพูดขัด

    " เมื่อคืน "

    " คุณโกหก ! " คริสตินตะโกนลั่น

    " คุณคือแฟนเก่าของเขาใช่ไหมครับ ผมเคยได้ยินเขาพูดถึงอยู่บ่อยๆ " ลูวิคเอ่ยถาม

    เมื่อจอห์นได้ฟังดังนั้นก็นิ่วหน้ามองไปยังเชอร์ล็อกและคริสติน --- ไม่มีใครเคยรู้เรื่องนี้นอกเสียจากเชอร์ล็อก และแน่นอน นอกเสียงจากเธอ และ จิม มอริอาร์ตี้

    คริสตินขบริมฝีปากแน่น ดวงตาของเธอคลอด้วยน้ำตา และแฝงไปด้วยความหวาดหวั่น มือไม้สั่นระริก เธอกำชายกระโปรงเสียแน่นจนเนื้อผ้ายับเป็นร่องลึก

    " จริงเหรอ " จอห์นกระซิบถามเชอร์ล็อกด้วยใบหน้ายุ่งเหยิง และเขาพยักหน้ารับเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

    " ยังมีอีกหลายเรื่องครับ ที่เขาไม่ได้บอกคุณ " ลูวิคกล่าวลอยๆ

    " พระเจ้า ฉันไปงานพของเขา ฉันเห็นศพของเขา และฉันรู้ว่าเขาตายแล้วแน่ๆ ! " คริสตินตะโกนอีกครั้ง

    " คริสติน --- " เชอร์ล็อกปราม

    " มันเป็นไปไม่ได้นะเชอร์ล็อก ! ฉันเห็นศพเขา ฉันเห็นศพเขา คุณเข้าใจไหม ! "

    " เข้าใจ เพราะฉันเห็นตอนที่กระสุนพุ่งทะลุกะโหลกของเขาในระยะไม่เกินสามฟุต " เชอร์ล็อกตอบ ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าของเขาเรียบเฉยจนไม่อาจรู้ได้ว่าเขากำลังคิดหรือรู้สึกเช่นไร

    " มิน่าล่ะเขาถึงได้บ่นคิดถึงคุณมากขนาดนี้ " ลูวิคกล่าว

    เชอร์ล็อกเงยหน้าขึ้นมอง ทว่าดวงตาของเขาคล้ายมองเห็นภาพภายในสมองของตนเองเสียมากกว่า ร่างสูงโปร่งของพ่อหนุ่มอัจฉริยะนิ่งงัน ดวงตาจรดไปยังใบหน้าสงบนิ่งของลูวิค เพียวเสี้ยววินาทีเชอร์ล็อกราวจะคิดอะไรขึ้นมาได้อย่างสายฟ้าฟาด เขาโผตัวไปหยิบหนังสือสีแดงของ ซาลีน่า โจนส์ ที่กางอยู่บนโต๊ะ และจ้องมองมันด้วยท่าทีร้อนรน เพียงครู่เดียวเชอร์ล็อกเงยหน้าขึ้นจากหน้าหนังสือ เขาหอบหายใจเข้าปากลนลานคล้ายว่าเขาเพิ่งเจอเรื่องมหัศจรรย์หรือไม่ก็พบขุมทรัพทย์มีค่ามหาศาล


    " ฉันรู้แล้ว ! ฉันรู้ว่าคนต่อไปคือใคร ! "

    เชอร์ล็อกตะโกนลั่น





    : Quoited :

    " น่าเศร้าเหลือเกินที่มีคนอีกไม่น้อยเป็นแบบคุณ นึกออกไหมครับ
    คุณฆ่าแล้วล้างมือให้ตัวเอง และแบกหน้าบอกโลกใบนี้ว่าคุณบริสุทธ์ "

    - ลูวิค


    อิ้งภาคนี้แนะนำให้อ่านนะคะ เพราะจะมีความแปลออกมาต่างกับภาษาไทยเล็กน้อย

    --------------------------------------------------------------------------

    [ ข อ ง แ ถ ม ]

    ส เ ก็ ต ซี น เ ป็ น ภ า ษ า อั ง ก ฤ ษ น ะ ค ะ


      

    Sketch 


      

    #1


    “ Hey.” Sherlock said while he walking in the white room.

    “ Good after noon Mr.Sherlock Holmes. I’m pleased and thank for your coming.” The boy said with gently voice. Sherlock staring at him, teenager boy who have a beautiful face mysterious light blue eyes. His actions look so gentle and kind at the first time he speak he got all attention.

    “ a good boy?.” Sherlock questions and keep starting like he was reading his actions.

    “ I really want to be, sir.” The boy said.

    “ just be.“

    “ I’m afraid that I cannot, sir.“ The boy said. His eyes seems a little spread sadness around.

    “ Why?.” Sherlock questions again. He can feel something in those eyes. Something intricate. Something complicated. and everything he can read just inexplicable.

    “ because I always driving people crazy —- I hurt them.” The boy answered. His voice sounds gloomily at the moment. his eyes deep down the sadness.

    “ Why ?.” Sherlock keep questions. He can’t look away from those eyes.

    “ I really want to know,too. Can you tell me? ” The boy asks. He step closer to the safety mirrors wall he keep looking at Sherlock’s eyes while he questions like he really need him to help. The boy seems get lost in someway.

    “ Ummm — No.” Sherlock answered.

    “ I think you’re clever.“ The boy said look down the floor.

    “ I am.” Sherlock answered immediately.

    “ Can you come closer, Please?.” The boy asking. he moving to touch the glass and keep eyes contact. Sherlock can see a little begging in young man eyes. Then he step and get closer.

    “ I didn’t touch people for long time —- No one get close to me they afraid of me.” The boy said. His eyes about to cry with no tears. He put his hand on the glass wall and keep looking out side like he want to be free. In a half second he caught the eyes contract again.

    “ Why do people afraid of you ?.“ Sherlock questions.

    “ They said they losing their mind when they get close to me.“ He answered lower his voice and lower his face. Every actions just weigh Sherlock feels down.

    “ They did lose themselves ?.“ Sherlock questions.

    “ Always, sir. “ The boy said with a gently sad smile. He face up but he acts like he hate to face it. Sherlock been in silence. The boy can show what he feel like and everything so clearly that he know himself he can be harm to people. then he surrender to be cages.

    “ so i —- need you — to come close to me." The boy said. Face up and looking at him like he really need help.

    “ why me ?.”

    “ because you’re clever, you may not losing your mind to me, do you ?.“

    “ No, and this is all your reason ?.”

    “ Yes, sir and No.”

    “ What more than that ? ”

    “ My name is — Luvic — Augustus — Magnussen.“

    After introducing, Sherlock got caught by something in his breathing. There is something impact to his cells and veins running fast till the heart feels burned.

    “ You kill my father, didn’t you ?.” The boy named Luvic questions with sadly innocence eyes.

    “ ---- I did.“ He answered. Stunned.

    “ Did He said anything before he dead ?.” Luvic questions again.

    “ ---- I can’t remember...” His voice a bit shaking. even he didn’t sees any drop of tears but he can sees every pain and sorrow in those eyes.

    “ No one love me but him.” Luvic said. He down his face like he don’t want anybody to see the weak he have.

    “I —- I’m sorry.”

    “ No, sir. I know you did nothing wrong. He deserve to die — just like me.”

    The answering impact to the heart. Sherlock can’t escape from what he have done.

    “ Can you help me something, please ?.” Luvic said and move a half step back. his hand leave the glass wall but keep eyes contact with Sherlock.

    “ Something ?.“ Sherlock questions.

    “ Yes,sir. I haven’t talk with anybody for a while. I almost forgot how to speak —- So can you please have a coffee with me once ?.“





    #3


    " Somebody gets me out, you know that people pleased to die for me "

    " Who ? " Sherlock questions

    " If i have to talking about the names you could note it in a books or --- " Luvic said and give him a smile " don't you ever questions for a once if i am right to be cages ?. People always like me they love me and you are, too. Then what's a reasons i should to be cages ? Umm or you gonna tell me people including you love the way bad people do ? "

    " Luvic --- you kill people. " Sherlock said with a coldest voice.

    " And you kill my father ! "

    He shouting, the voice break and his lips were shaking like a crazy he pulled down to the heatedness sadness irritation and everything just driving him insane for a second.

    He about to cry but at lest he doesn't.

    " You should be cages like me --- you should be with me. " Luvic said lower his voice. his eyes fight away the irritation and left just the sadness that never left his eyes

    " do you ever feel alone ? " Luvic questions.

    " I'm sorry about your father, I really i'm sorry. But your father damage so many people "

    " Just like me --- yeah i know that. " Luvic said before John can finished his sentence. and be careful Mr. John Watson because 'many people' that you claim about is especially specific Ms. Marry Watson "

    " He gonna hurt us ! " John shouting.

    " Yes sir, you're right but he failed because he was killed." Livic said so calmly and gently.  " You can say whatever you want to say, --- bless my darkness, there is so many people like you. You kill and you wash your hands then you pretend that you are very white, pure and clean. "

    Then everything drown in to silence.

    Sherlock's eyes seems feel noting but the deep inside his eyes feel everything. He can't escape from something inside everything outside and nothing another side,

    He lose himself somewhere far away inside himself. 

    Something

    Everything

    Then nothing

    And the past can't be fixed like the heart broken.

    Never be the same.

    " We are all the same way. I can forgive i can live like this because i completely understand. "

    Luvic said in a slightly voice like he really understand everything.





    : Quoited :

    " bless my darkness, there is so many people like you.
    You kill and you wash your hands then you pretend that you are very white, pure and clean. "

    - Luvic



    H a s h
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×