ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Ç๐ĸ๐ℓαdα

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 4 - จุดเริ่มต้นของความหวัง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 59
      0
      17 มี.ค. 54


    4
    จุดเริ่มต้นของความหวัง




    ลืมตาขึ้นมาในความมืด.. มองไม่เห็นอะไร ..ไม่ได้ยินอะไร
    ได้ยินเพียงแต่เสียงอันเล็กน้อยนั่น ...
    เสียงบางอย่างกระทบกับพื้น 
    ' เปาะแปะ เปาะแปะ '
    กลิ่นบางอย่างลอยเข้ามากระทบกับจมูก
    มันสดชื่น ชุ่มชื่น ราวกับ ..

    กลิ่นของสายฝน

    ซ่า ... วิ้ว ...
    เสียงสายฝนที่กระหน่ำตกลงและเสียงใบไม้ปลิวว่อนไปทั่วทำให้บรรยากาศรอบด้านดูน่ากลัว ฝูงชนประมาณเกือบสิบคนเดินย่ำพื้นที่เปียกชุ่มไปมา ทว่าสายตาของทั้งหมดกลับสะดุดกับร่างของเด็กตัวน้อยคนหนึ่งเข้า
    “หนูเป็นใครน่ะ มาตากฝนอะไรอยู่ตรงนี้” หญิงสาวร่างท้วมคนหนึ่งเอ่ยพลางยื่นมาไปให้เด็กคนนั้นจับ
    “ผม... ตื่นขึ้นก็เป็นแบบนี้แล้วล่ะฮะ จำอะไรไม่ได้หรอกฮะ” เขาตอบตามความเป็นจริง .. ในความเป็นจริงแล้วหน้าตาของเขาดูเหมือนผู้หญิงมากกว่าผู้ชายเสียซะอีก แต่ด้วยการพูดจึงทำให้รู้ได้ว่านี่คือเด็กผู้ชาย
    “อืม.. งั้นหนูตามเรามานี่นะ หนูมีชื่อหรือยัง ไม่มีสินะ” คุณป้าคนนั้นพูดเองเออเองหมดทั้งๆที่เด็กยังไม่ได้ตอบ แต่เด็กคนนั้นก็ยังคงเดินตามคณะนั้นไป
    “พวกเราเจอหนูตอนวันฝนตก ฤดูใบไม้ผลินี่นะ งั้นเราตั้งชื่อให้หนูว่า ‘เรนนี่ ฟอลล์’ ละกันนะจ๊ะ” คุณป้าอีกคนช่วยเสนอขึ้นมา แล้วจึงหัวเราะกับคุณป้าคนแรกด้วยความสนุกสนานตามประสาคุณป้า
    เขาเดินตามคณะคุณป้ากลุ่มนั้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงบ้านหลังใหญ่หลังหนึ่ง ซึ่งดูๆแล้วน่าจะเป็นบ้านของหัวหน้าหมู่บ้าน เรนนี่เดินตามคุณป้าทั้งหมดเข้าไป
    “สวัสดีค่ะ หัวหน้าหมู่บ้าน” ทั้งหมดเอ่ยเป็นเสียงเดียวกัน โดยปล่อยให้เรนนี่ยืนงงอยู่คนเดียว และหัวหน้าหมู่บ้านนั้นก็สังเกตเห็นเรนนี่พอดี
    “หืม เด็กนั่นคือใครกันน่ะ” เขาเพ่งเล็งมาที่เรนนี่ทันที คุณป้าคนหนึ่งจึงตอบให้
    “อ๋อ เรนนี่ ฟอลล์ ค่ะ แกเป็นเด็กที่เราเจอขณะเดินทางมาที่นี่ รู้สึกว่าแกจะโดนทิ้งและจำอะไรไม่ได้เลยนะคะ” หัวหน้าหมู่บ้านสะดุดกึกกับประโยคสุดท้ายที่ว่า โดนทิ้งและจำอะไรไม่ได้ ทันที หลังจากนั้นเขาและพวกเธอก็คุยกันตามธุระ แต่กอนที่คณะคุณป้าจะแยกย้ายกันกลับไป หัวหน้าหมู่บ้านก็เรียกไว้ก่อน
    “พวกเจ้ามีที่ให้เรนนี่อยู่ไหม” ทุกคนต่างมองหน้ากันทันที เพราะบ้านของพวกเธอส่วนใหญ่เป็นบ้านที่จำกัดเพียงสมาชิกครอบครัวเท่านั้น เมื่อหัวหน้าหมู่บ้านเห็นว่าไม่มีใครมีที่ให้เรนนี่อาศัยจึงเอ่ยขึ้น
    “งั้นต่อไปนี้ ให้เรนนี่อาศัยในบ้านข้าละกันนะ เอ้า ทุกคนกลับบ้านได้” เพียงเท่านั้นคุณป้าต่างก็โบกมืออำลาเรนนี่และแยกย้ายกันทันที
    วันเวลาผ่านไป เรนนี่เติบโตขึ้นเป็นเด็กร่าเริงสดใส โดยที่ไม่ยอมตัดผมสีบลอนด์ยาวที่รัดเป็นทวินเทลนั่นเสียทีจนดูเป็นเด็กผู้หญิงเสมอ จุดด้อยของเรนนี่มีเพียงอย่างเดียว(ล่ะมั้ง) ก็คือ.. เขาตัวเตี้ย.. แต่ถึงกระนั้นเรนนี่ก็ยังไม่ใส่ใจอยู่ดี
    เรนนี่มักจะเปิดดูม้วนแผนที่ไปยังเกาะมหัศจรรย์ที่ติดกับตัวตั้งแต่แรกมาเสมอและคุยกับหัวหน้าหมู่บ้านหรือผู้ปกครองของตนว่าเมื่อตนอายุครบสิบสามกับอีกหกเดือน ตนจะขอออกเดินทางไปยังเกาะแห่งนี้ และหัวหน้าหมู่บ้านก็ไม่คัดค้านแต่อย่างใด
    พรุ่งนี้จะเป็นวันออกเดินทางของเรนนี่ เขารีบเก็บของให้เรียบร้อย มีคุณป้าที่เป็นคณะในวันที่เขาถูกเก็บมาเลี้ยงจำนวนมาก มามอบของที่ระรึกให้กับเรนนี่ ราวกับว่าเขาจะไม่ได้กลับมาที่นี่อีกสักครั้งนักแหละ
    “เฮ้อ พวกคุณป้านี่เว่อร์กันจังเลยแฮะ” ว่าแล้วเจ้าตัวก็เกลือกกลิ้งไปมาบนเตียงเหมือนคนว่างมาก แล้วมองดูของที่กองไว้บนโต๊ะซึ่งเป็นของขวัญจากคุณป้าตั้งแต่ขนมยันเสื้อผ้า นอกจากของพวกนั้นยังมีแผนที่ไว้อยู่ เรนนี่จ้องมันสักพัก
    “รอก่อนนะ เจ้าเกาะมหัศจรรย์ แล้วข้าจะไปหาพรุ่งนี้แล้ว !”
    แต่แปลกที่เขาไม่ได้อยู่ที่นี่มานานแสนนานเหมือนหัวหน้าหมู่บ้าน แต่เรนนี่ก็คิดว่าที่นี่เป็นเสมือนบ้านของตนแท้ๆ
    ถ้าหากเขาไปเขาคงจะคิดถึงเตียงนุ่มนิ่มนี้ คิดถึงห้องน้ำที่เคยมีจิ้งจกแล่บออกมาจากกระจก คิดถึงโต๊ะวางของที่รกไปด้วยซากขนม คิดถึงต้นไม้ที่ขึ้นไปปีนแกว่งเล่นทุกวันเป็นแน่แท้
    แต่เขาก็ไม่อยากคิดมาก เขาเป็นผู้ชายและไม่อยากจะอยู่แต่ที่นี่อย่างเดียว เขาอยากจะออกไปสำรวจในที่อื่นๆบ้าง
    เมื่อคิดเพลินๆไปดังนั้นสักพัก ก็เริ่มง่วงและคล้อยหลับไปในที่สุด
    ...
    “ลาก่อนนะคร้าบ หัวหน้าหมู่บ้าน คุณป้า” เรนนี่โบกมืออำลาคนทั้งหมดก่อนจะวิ่งรี่ไปตามทางเดินตามประสาเด็กร่าเริง คุณป้าบางคนถึงกับร้องไห้ทีเดียวเชียว เมื่อคิดว่าจะไม่ได้เห็นเด็กชายร่าเริงคนนี้อีก พวกเขาทำได้เพียงแต่หวังว่า ..เด็กคนนี้จะได้พบกับสิ่งที่เขาใฝ่ฝัน ..และ "ความจริง" นั่นเสียที


    .
    .
    .
    "ฮืมมม.."
    เรนนี่นั่งอยู่บนโขดหินโขดใหญ่ พินิจพิจารณาบางสิ่งบางอย่างอยู่เงียบๆ
    'บางสิ่งบางอย่าง' นั้นก็คือผมของเขานั่นเอง
    มันจะไม่เป็นปัญหาอะไรเลย ถ้าผมของเขาไม่เกิดไปติดกับซอกหินตอนที่กำลังกระโดดลงบนก้อนหินเพื่อข้ามลำธารไปอีกฝั่ง
    บางทีผมของเขาก็คงจะยาวเกินไปจริงๆ
    "ฮืมมมมมมมม..." เรนนี่ส่งเสียงออกมาอีกรอบ ลากยาวขึ้นและเสียงเข้มขึ้นบ่งบอกว่ากำลังพิจารณาอย่างหนัก
    "เห้อะ.. เอาไงเอากันว้ะ !" เด็กชายตะโกนออกมาพร้อมลุกขึ้นยืน แต่เนื่องจากพอยืนขึ้นปุ้ป ผมที่ติดซอกหินอยู่ก็ฉุดเขาลงมา ซ้ำร้ายยังหล่นจากโขดหินตกลงไปในลำธารตื้นๆนั่นอีก
    ยังไงเขาก็เป็นผู้ชาย ไม่ควรจะไว้ผมยาวมาตั้งแต่แรกแล้วล่ะนะ.. ก็ดูทรงผมของพวกเด็กผู้ชายในหมู่บ้านที่โดนพวกป้านั่นตัดสิ บรึ่ยย น่ากลัวจะตาย ! เขาก็เลยไม่กล้าตัดผม แล้วก็ติดไว้ผมยาวมาจนถึงตอนนี้
    เรนนี่หยิบมีดผกอันเล็กออกมาจากกระเป๋า แล้วตัดยางรัดผมทั้งสองข้างออก ผมทั้งสองข้างสยายออก เด็กชายคว้าผมมากำนึง หลับตาปี๋ แล้วใช้มีดหั่นมันออกไปด้วยความรวดเร็ว ทั้งสองข้างพร้อมๆกัน
    เด็กชายก้มหน้ามองตัวเองในลำธารแล้วแทบจะช็อค เขาไม่เคยตัดผมสั้นขนาดนี้มาก่อน ! ความคิดแรกที่โผล่ขึ้นมาในหัวสมองของเขาคือ..
    'เบาหัวเป็นบ้า!'
    และเนื่องจากผมเขาตอนนี้เป็นทรงบ๊อบอย่างสมบูรณ์แบบ เขาจึงใช้มีดตัดๆเล็มๆมั่วๆไปตามสัญชาติญาณ จัดพอให้มันเป็นทรง แล้วจึงยิ้มอย่างภูมิใจเมื่อเห็นผลงานตัวเองผ่านเงาสะท้อนในน้ำ
    "เรานี่ก็ตัดผมได้ไม่เลวเหมือนกันแฮะ !"
    และสิ่งที่เรนนี่ค้นพบหลังจากนั้นได้ไม่นานคือ นอกเหนือจากการตัดผมสั้นจะทำให้เขาดูเป็นผู้ชายมากขึ้น(?) ยังทำให้ใบหน้าหวานน่ารักแบบผู้หญิงกลายเป็นโชตะแบบชิบหายวายวอดซะนั่น !
    แต่ยังไงเสียนั่นก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญ !!
    เมื่ออุปสรรคในการเดินทางเล็กๆน้อยหมดไป เด็กน้อยก็เดินทางต่อ

    พร้อมกับ "ความหวัง" ในการตามหา...




    ' เกาะลึกลับมหัศจรรย์ '

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×