sagime
ดู Blog ทั้งหมด

ฟ้องโรงเรียนมะกันสอดแนมเด็กด้วยแล็บท็อป

เขียนโดย sagime


โรงเรียนชานเมืองรัฐฟิลาเดลเฟียถูกครอบครัวเด็กนักเรียนฟ้องข้อหาละเมิดสิทธิมนุษยชน หลังจากพบว่าโรงเรียนสอดแนมพฤติกรรมเด็กนักเรียนเมื่ออยู่ที่บ้านผ่านกล้องเว็บแคมในคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปซึ่งโรงเรียนเป็นผู้จัดซื้อให้ ย้ำแม้แต่ตำรวจก็ไม่มีสิทธิ์
       
       
คำฟ้องระบุชื่อโรงเรียนนี้ว่า Lower Merion School District หรือ LMSD โดยร้องเรียนว่าการที่โรงเรียนจับตาพฤติกรรมเด็กขณะไม่ได้สวมชุดนักเรียนว่าจะปฏิบัติตัวอย่างไรต่อครอบครัว ด้วยการแอบสอดแนมนั้นเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมาย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนนี้สามารถเปิดการทำงานของเว็บแคมในแล็ปท็อปได้โดยที่นักเรียนไม่รู้และไม่อนุญาต
       
       โจทก์ของคดีคือไมเคิลและฮอลลี ร็อบบินส์ ทั้งสองร้องเรียนต่อศาลว่ากล้องดิจิตอลเหล่านี้ได้บันทึกภาพของนักเรียนและครอบครัวหลายคนโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งยังไม่มีการสอบสวนว่าข้อกล่าวหานี้เป็นความจริงหรือไม่ หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นความจริง โรงเรียนและเจ้าหน้าที่จะมีความผิดกฏหมายรัฐเพนซิลเวเนีย ที่ไม่เปิดช่องให้มีการลักลอบเข้าสู่บ้านเรือนใดก็ตามโดยไม่ได้รับอนุญาตทั้งทางกายภาพและทางระบบดิจิตอล แม้แต่ตำรวจก็ไม่ได้รับข้อยกเว้น
       
       ทอม ฮาลเปริน นักเรียนปีที่ 2 วัย 15 ปีของโรงเรียนนี้ระบุว่า เด็กนักเรียนหลายคนรู้ทันและเริ่มติดเทปกาวลงบนเว็บแคมและไมโครโฟนในแล็ปท็อปแล้ว อย่างไรก็ตาม โฆษกของโรงเรียนยังไม่ยอมรับว่าได้ดำเนินมาตรการสอดแนมพฤติกรรมนักเรียนผ่านเว็บแคมจริงหรือไม่ ระบุเพียงว่าโรงเรียนมีนโยบายรักษาความเป็นส่วนตัวของนักเรียนอย่างจริงจัง
       
       ครอบครัวร็อบบินส์ระบุว่าได้ทราบเรื่องการมีอยู่ของกล้องสอดแนมเมื่อลินดี้ แมตสโค ผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่โรงเรียน Harriton High School บอกกับลูกชายของครอบครัวว่า เจ้าหน้าที่โรงเรียนทราบการประพฤติและพฤติกรรมไม่เหมาะสมที่บ้าน แต่ไม่มีการระบุรายละเอียดว่าพฤติกรรมนั้นคืออะไรในคำฟ้อง โดยในคำฟ้องระบุว่า ผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่รายนี้ได้ยืนยันกับไมเคิล ร็อบบินส์ ในภายหลังว่าว่าโรงเรียนสามารถสั่งเปิดเว็บแคมในคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปของนักเรียนจากทางไกลได้จริง
       
       ในคำฟ้องระบุให้โรงเรียนออกมาแถลงความชัดเจนสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นว่าแล็ปท็อปของโรงเรียนซึ่งถูกจัดส่งให้แก่นักเรียนราว 2,300 รายที่ศึกษาอยู่ในโรงเรียนมัธยมในเครือจำนวน 2 แห่ง นั้นเป็นช่องทางสอดแนมจริงหรือไม่ ซึ่งหากจริงก็ควรหยุดเนื่องจากเป็นการกระทำที่เข้าข่ายบุกรุกบ้านของผู้ปกครองด้วย
       
       
จริงอยู่ ที่พฤติกรรมในบ้านสะท้อนตัวตนแท้จริงของนักเรียน ซึ่งจะทำให้โรงเรียนสามารถรับรู้ปัญหาและแก้ไขนิสัยของนักเรียนได้ดีที่สุด แต่นี่คือบทเรียนสำคัญที่ชี้ว่าแม้เทคโนโลยีจะมีประโยชน์สักเพียงใด หากไม่มีการไตร่ตรองให้รอบคอบแล้วก็มีแต่เสียและเสีย ซึ่งนักเรียนอย่างฮาลเปรินมองว่า หน้าที่ของโรงเรียนก็ควรหยุดอยู่ที่โรงเรียน ไม่ควรมายุ่มย่ามเรื่องในครอบครัว
       
       ยังไม่มีความคืบหน้าคดีความในขณะนี้

ที่มา ASTV ผู้จัดการออนไลน์

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น