sagime
ดู Blog ทั้งหมด

งานวิจัยฝรั่งย้ำสัจธรรมชีวิต สุขกับปัจจุบันอย่าฝันหวาน

เขียนโดย sagime
 
การฝันกลางวันอาจดูเหมือนทำให้คนเราได้ปลดปล่อย แต่จริงๆ แล้วกลับทำให้ความสุขถดถอย ซึ่งอาจเป็นการตอกย้ำคำพระที่สอนให้คนเราอยู่กับปัจจุบัน


 เอเจนซีส์ - ผลศึกษาจากอเมริการะบุคนที่ใช้เวลาครึ่งหนึ่งฝันกลางวันหรือคิดถึงสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริงตรงหน้า ทำให้จิตใจห่อเหี่ยวไร้สุขมากกว่าจะเกิดความรื่นรมย์กับวิมานในอากาศ
       
       “จิตใจมนุษย์คือจิตใจที่ล่องลอย และจิตใจที่ล่องลอยคือจิตใจที่ไร้สุข” แมทธิว คิลลิงส์เวิร์ธ และแดเนียล กิลเบิร์ต สองนักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐฯ ระบุไว้ในวารสารไซนส์
       
       การศึกษาของนักจิตวิทยาคู่นี้ เป็นการติดตามอาสาสมัคร 2,250 คนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ถึง 85 ปี โดยที่อาสาสมัครเหล่านี้ยินดีที่จะติดต่อกับทางนักวิจัยแบบสุ่มช่วงเวลาผ่านทางแอปพลิเคชั่นของไอโฟน ทั้งนี้ในแต่ละครั้งที่ติดต่อกันทางโทรศัพท์ พวกเขาจะรีบให้คำตอบแก่ชุดคำถามซึ่งตั้งเอาไว้แบบอัตโนมัติ ตัวอย่างของชุดคำถามเหล่านี้มีอาทิ พวกเขากำลังรู้สึกอย่างไรในขณะนั้น, สิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่, และพวกเขามีสมาธิจดจ่ออยู่กับสิ่งที่พวกเขากำลังทำ หรือว่ากำลังคิดไปถึงสิ่งอื่นๆ ถ้าหากพวกเขากำลังคิดล่องลอยไปที่อื่น พวกเขาก็จะได้รับคำถามว่า สิ่งที่คิดอยู่เป็นหัวข้อซึ่งทำให้รู้สึกมีความสุข, เฉยๆ , หรือทำให้รู้สึกไม่มีความสุข
       
       เนื่องจากอาสาสมัครบางคนอัพเดตข้อมูลวันละหลายครั้ง ทำให้นักวิจัยได้คำตอบมากถึง 250,000 คำตอบ
       
       จากการวิเคราะห์คำตอบเหล่านี้ นักจิตวิทยาทั้งสองพบว่า อาสาสมัครใจลอย 46.9% ของระยะเวลาที่ทำการศึกษา
       
       ในชุดคำถามที่ให้อาสาสมัครบรรยายว่าพวกเขากำลังทำอะไรอยู่ พวกเขาสามารถที่จะเลือกตอบได้จากกิจกรรมต่างๆ รวม 22 กิจกรรม เช่น กำลังเดิน, กำลังกิน, กำลังช็อปปิ้ง, กำลังดูทีวี, กำลังเดินทาง, กำลังทำงาน เป็นต้น ปรากฏว่ามีเพียงกิจกรรมเดียวเท่านั้นซึ่งจิตใจของคนเราดูจะมีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่ทำอยู่เป็นอย่างดี ได้แก่ในขณะที่กำลังมีเซ็กส์ โดยที่มีเพียง 10% ของอาสาสมัครเท่านั้นซึ่งรายงานว่าตนกำลังมีเพศสัมพันธ์ แล้วกำลังคิดล่องลอยไปที่อื่น
       
       พิจารณาจากแนวโน้มทั่วๆ ไป อาสาสมัครให้คำตอบว่ามีความสุขที่สุดเมื่อกำลังมีเซ็กส์, กำลังออกกำลังกาย, หรือกำลังพูดคุยสนทนา และจะตอบว่ามีความสุขน้อยที่สุดเมื่อกำลังพักผ่อนหรือกำลังนอนหลับ, กำลังทำงาน, หรือกำลังใช้เครื่องคอมพิวเตอร์อยู่ที่บ้าน
       
       ในกรณีที่พวกเขากำลังคิดล่องลอยอยู่ ปรากฏว่ามี 42.5% กำลังคิดถึงหัวข้อที่ทำให้มีความสุข, 26.5% กำลังคิดถึงหัวข้อที่ทำให้ไม่มีความสุข, และอีก 31% กำลังคิดถึงสิ่งที่ทำให้รู้สึกเฉยๆ
       
       แต่ขณะที่คนซึ่งกำลังคิดล่องลอยถึงสิ่งที่มีความสุข จะมีความสบายอกสบายใจกว่าคนที่กำลังคิดถึงสิ่งซึ่งทำให้ไม่มีความสุข ปรากฏว่าแม้กระทั่งคนที่กำลังจมอยู่กับความคิดที่มีความสุข ก็ยังสบายอกสบายใจน้อยกว่าผู้ที่กำลังมีสมาธิจดจ่ออย่างเต็มที่กับสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่
       
       หรืออีกนัยหนึ่งคือแทนที่จะฝันกลางวันคิดถึงชีวิตที่อาจน่าพอใจมากกว่า เราควรอยู่กับปัจจุบัน
       
       ศาสตราจารย์กิลเบิร์ตสำทับว่า การฝันกลางวันอาจเป็นโหมดการทำงานเริ่มต้นของสมอง และแม้เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้มนุษย์ต่างจากสัตว์ เพราะนำไปสู่การเรียนรู้ การรู้จักเหตุผล และการวางแผน แต่ทักษะนี้ก็นำมาซึ่งต้นทุนด้านอารมณ์ที่คนเราต้องจ่าย

ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9530000161020

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น