เวลาหญิง/ชายตัดสินใจจะชอบหรือรักใครสักคน (หรือหลายคนก็ได้ถ้าอยากทำให้ชีวิตตัวเองยุ่งเหยิงละก็) คนเรามักคิดก่อนที่จะรักกันทั้งนั้น ซึ่งตรงนี้ขึ้นอยู่กับช่วงอายุด้วย แบบว่า ถ้าอายุยังน้อย หรือเป็นเด็กๆ หากจะรักจะชอบใคร คงไม่คิดมาก จะชอบก็ชอบ จะรักก็รักเลย เป็นป๊อปปี้เลิฟ รักใสๆ หัวใจคิกขุ
แต่ถ้าผ่านช่วงวัยรุ่นวุ่นรักไปแล้ว และเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ วัยทำงาน วัยสร้างเนื้อสร้างตัว ตอนนี้แหละ ถ้าจะรักใคร หรือคบใครคงต้องมีบ้างน่า ที่จะคิดถึงปัจจัยต่างๆ โดยเฉพาะผู้หญิง มักถูกมองว่าเป็นฝ่ายที่คิดเยอะ เมื่อว่ากันในเรื่องของความรัก แต่อันที่จริง ผู้หญิงคิดเยอะ ไม่ใช่ตรงความรักเท่าไหร่นักหรอก หล่อนจะคิดเยอะ คิดให้ถี่ถ้วนและคิดให้รอบคอบก็ต่อเมื่อต้องเลือกใครมาเป็นคู่ครองหรือคู่ชีวิตมากกว่า เพราะอยากรักยาว รักไกล และรักกันไปนานๆ ไม่ใช่รักประเดี๋ยวประด๋าวหรือรักเผื่อเลือก
ดังนั้นผู้หญิงจึงต้องใช้สมองไตร่ตรองหลายอย่าง ไม่ใช่แค่เรื่องความเหมาะสม (ไม่ว่าจะเป็นอายุ, ฐานะหรือหน้าที่การงาน) อย่างเดียว แต่ยังมองไกลไปถึงทัศนคติและการมองโลกในด้านต่างๆของคนที่เธอจะเลือกมาเป็นคู่ชีวิตด้วย
หากพูดจาภาษาเดียวกัน คุยกันรู้เรื่อง และรักหนูจริง ไม่ส่อแววว่าจะทิ้งกันง่ายๆ
ก็นี่ละใช่เลย ถามว่า แล้วผู้ชายเวลารักใคร เขาใช้ความคิดบ้างหรือเปล่า? แหมถามอะไรอย่างนั้น ก็ต้องคิดสิจ๊ะ เขาก็คิดพอเป็นพิธี...เอ้ย...คิดหลายอย่างก่อนจะเลือกคู่เช่นกัน เช่นคิดว่า ถ้ามีสาว 2 แบบให้เลือก จะจีบผู้หญิงที่สวยหรือเซ็กซี่ก่อนกันดีน้า แหมนี่ก็พูดเล่น แต่ส่วนลึกของผู้ชายบางคนอาจคิดอย่างนี้ก็ได้ ใครจะไปรู้!
งั้นเรามาดูกันดีกว่าว่า ในสมองของหนุ่มโสดนั้น คิดถึงเรื่องอะไรกันบ้าง? เขาคิดเรื่องสัปดน, ลามก หรือคิดถึงแต่งาน งาน และงานเท่านั้นกันแน่? มามะ มาไขข้อข้องใจกัน เริ่มจาก...
1.ผู้ชายคิดว่า ผู้หญิงที่มีเสน่ห์คือผู้หญิงที่รู้จักยิ้มให้ผู้อื่นน่ะสิ “รอยยิ้มของสาวๆสามารถเอาชนะใจชายได้ เสมอ” หลักการข้อนี้เป็นที่ยอมรับกันอยู่แล้ว หากชายจะสะดุดตาสะดุดใจผู้หญิงสักคน เชื่อได้เลยว่าเธอคนนั้นต้องเป็นผู้หญิงที่ยิ้มง่ายและไม่ใช่สาวยิ้มยากแน่นอน เพราะผู้ชายจะตีความหมายรอยยิ้มของสาวๆว่า เธอเป็นคนอารมณ์ดี
และพร้อมที่จะเปิดรับคนใหม่ๆเข้ามาในชีวิต
อย่างไรก็ตาม มีความแตกต่างกันระหว่าง ยิ้มแบบเชิญชวนให้ผู้ชายเข้าไปจีบ กับยิ้มอย่างจริงใจนะ คือถ้ายิ้มแบบเชิญชวน สายตาของผู้หญิงคนนั้นจะจ้องจิกไปที่ผู้ชายคนที่เธอหมายปอง ตรงข้ามถ้ายิ้มอย่างร่าเริง ไม่จำเป็นต้องมองไปที่เพศตรงข้าม แค่ยิ้มให้กับเพื่อนพ้อง ยิ้มให้กับพนักงานขายในร้านที่เธอเข้าไปซื้อของ หนุ่มๆ (ที่แม้ตอนนั้นจะเป็นเพียงคนนอกกลุ่ม) ก็รับรู้ได้แล้วว่าสาวที่ยิ้มง่ายผู้นี้มีความน่ารักมากแค่ไหน
2. ผู้ชายคิดว่า ผู้หญิงไม่ควรหมดหวังกับการเสาะหาแฟน ถ้าสาวคนไหน
ชอบบ่นกับเพื่อนฝูงในก๊วนเดียวกันอยู่เรื่อยว่า หาคนมาเป็นแฟนด้วยยากจัง เนี่ยจนป่านนี้อายุขึ้นเลข 3 แล้ว ยังไม่เจอคนดีๆที่จะมาเป็นแฟนกันสักที โถๆๆ ทางด้านผู้ชายจึงอยากบอกคุณผู้หญิงที่คิดว่าตัวเองยังไม่เจอใครที่ถูกใจสักที ว่า ความจริงแล้ว ผู้ชายดีๆน่ะมีอยู่ทั่วไป และการที่สาวบางคนยังไม่มีแฟน อาจเพราะเธอไม่ยอมออกไปสุงสิงสมาคมและเปิดตัวกับโลกภายนอกก็ได้ ดังนั้นถ้าใครอยากมีแฟนก็อย่าเก็บเนื้อเก็บตัว
แต่ออกไปงานปาร์ตี้พบปะผู้คนบ้าง กระนั้น ผู้ชายดีๆที่ว่า คงไม่ได้มีอยู่มากนัก อาจมีเพียง 1 ในร้อยหรือ 1 ในล้าน จึงต้องสแกนกันตามระเบียบ ดังนั้นหากที่ผ่านมาหญิงใดยังไม่เจอหนุ่มที่ดีพอที่จะมาเป็นแฟนกัน ก็อย่าเพิ่งหมดกำลังใจนะตัวเอง
3. ผู้ชายชอบผู้หญิงรูปร่างดี แต่อย่าคิดว่า พวกเขาจะเลือกสาวมาเป็นแฟนที่สัดส่วนของเรือนร่างเชียว! คงต้องพูดแบบนี้ดีกว่าว่า ผู้ชายชอบสาวสวยและหุ่นเพรียวบางแหงอยู่แล้ว แต่คงไม่เลือกคบเพราะเธอหุ่นดีหรือสวยเพียงเท่านั้น ผู้ชายยังคำนึงไปถึงจิตใจด้วย ฉะนั้นสาวร่างอวบก็อย่าเพิ่งน้อยเนื้อต่ำใจ หรือคิดว่าตัวเองมีแต่ปมด้อยไม่มีปมเด่น ขอบอกว่าการมีน้ำใจที่งดงามสำคัญกว่าเป็นไหนๆ งั้นทีนี้ก็รู้แล้วนะว่าจะสร้างปมเด่นเด้งโดนใจเพศตรงข้ามได้อย่างไร พูดนี่ สาวๆก็ไม่ควรปล่อยตัวให้อ้วนเกินไป ขืนบวมเว่อร์ก็ไม่ไหว
4. หากชายชวนหญิงไปเดท แล้วถ้าเธอไม่ไป เขาจะคิดว่า ทำไมหล่อนต้องปฏิเสธด้วยนะ เรื่องนี้ ฝ่ายหญิงย่อมมีเหตุผลสิยะ คิดเล่นๆว่า... ถ้าไม่รู้จักกันมาก่อน แล้วผู้ชายมาชวนผู้หญิงไปเดท แล้วฝ่ายหญิงยอมไปนี่สิ ไม่น่าแปลกใจกว่าเรอะ? เพราะกล้าไปกับคนแปลกหน้านี่ โคตรเสี่ยงเลยนะ อย่างไรก็ตาม ในความคิดของผู้ชายจะคิดแบบนี้ว่า ถ้าเขาชวนสาวที่รู้จักไปเดทแต่เธอไม่ไป หรือหลังจากเดทกันครั้งแรกแล้วเธอไม่สนใจจะเดทกับเขาอีกละก็ ขอร้องละหนุ่มๆอยากให้สาวคนนั้นช่วยบอกทีเถอะว่าเพราะอะไร? อย่าแค่ปฏิเสธหรือทำเฉย โปรดสร้างความกระจ่างให้เขาด้วย
5. ผู้ชายคิดว่า ผู้หญิงพูดมากนั้นไม่น่ารัก ข้อนี้ไม่ต้องอธิบายก็น่าจะรู้ๆกันอยู่ว่า
ผู้ชายไม่ชอบเพศตรงข้ามที่พูดมาก ยิ่งถ้าเรื่องที่หล่อนพูดเป็นการบ่นจ้ำจี้จ้ำไชเขา
หรือซุบซิบนินทาคนอื่น ในเรื่องที่ตัวเองก็ไม่รู้จริง ยิ่งไม่น่ารักเข้าไปใหญ่ กระนั้นพบว่า
ถ้าฝ่ายชายเป็นคนพูดน้อยมักอยากมีแฟนที่พูดเก่งกว่าเขานะ ดังนั้น การ “พูดมาก”
จึงขึ้นอยู่ว่า พูดเรื่องอะไร? ถ้าพูดเพื่อให้คนใกล้ตัวมีความสุข มีกำลังใจ...เป็นใครใครก็ชอบ
6. รู้ไหมว่ามีผู้ชายไม่น้อยที่ไร้เดียงสาเรื่องความรัก เหตุนี้บางคนจึงต้องให้เพื่อนสอนวิธีจีบหญิงให้ แล้วก็หัดขายขนมจีบอย่างผิดๆ ถูกๆมาก่อน ไม่ได้เกิดมาเชี่ยวชาญสนามรักซะหน่อย...ฮั่นแน่ จริงดิ่ แต่รู้เปล่าว่า ผู้หญิงชอบผู้ชายอินโนเซนต์นะ ยิ่งใสซื่อมากเท่าไหร่ เธอก็จะยิ่งรู้สึกว่า เขาคนนั้น...น่ารักอ่ะ
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
ความคิดเห็น