ดวงตาเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญมาก การดูแลรักษาดวงตาให้มีสุขภาพดี และทำให้มีการมองเห็นที่ชัดเจน จะช่วยทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น ดังนั้น...ดวงตาควรได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง โดยมีวิธีง่ายๆ
ถ้ารู้สึกว่าตาแห้ง...ให้กะพริบตาถี่ๆ เพราะตาแห้งเกิดจากการกะพริบตาน้อย หากเราใช้เวลาอยู่กับคอมพิวเตอร์ หรือใช้สายตาเพ่งมากเกินไป บางครั้งการกะพริบตาจะน้อยลงโดยที่เราไม่รู้ตัว และทำให้กล้ามเนื้อตาล้า และตาแห้งได้ พยายามใช้กฎ 20-20-20 คือ ทุก 20 นาที มองไปไกล 20 ฟุต ประมาณ 20 วินาที เพื่อเป็นการพักสายตา และป้องกันสายตาล้า ปวดตาได้
หากมีอาการตาล้า หรือปวดตา หาสำลีชุบน้ำมาวางขณะหลับตา จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและลดอาการล้าของสายตาได้ดี ปรับความสว่างของห้องทำงานให้เหมาะสม ไม่ควรทำงานในที่ที่มีแสงจ้าเกินไป รวมถึงปรับแสงหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสมด้วยเช่นกัน จัดวางคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม โดยให้มีระยะห่างประมาณ 50-70 เซนติเมตร และปรับระดับจอภาพให้พอดี ไม่ควรให้อยู่สูงหรือต่ำ หากต้องใช้สายตาสำหรับการอ่านหนังสือนานๆ ระยะการอ่านหนังสือที่ดีไม่ควรใกล้กว่า 40 ซม.
ถ้ารู้สึกว่าตาแห้ง...ให้กะพริบตาถี่ๆ เพราะตาแห้งเกิดจากการกะพริบตาน้อย หากเราใช้เวลาอยู่กับคอมพิวเตอร์ หรือใช้สายตาเพ่งมากเกินไป บางครั้งการกะพริบตาจะน้อยลงโดยที่เราไม่รู้ตัว และทำให้กล้ามเนื้อตาล้า และตาแห้งได้ พยายามใช้กฎ 20-20-20 คือ ทุก 20 นาที มองไปไกล 20 ฟุต ประมาณ 20 วินาที เพื่อเป็นการพักสายตา และป้องกันสายตาล้า ปวดตาได้
หากมีอาการตาล้า หรือปวดตา หาสำลีชุบน้ำมาวางขณะหลับตา จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและลดอาการล้าของสายตาได้ดี ปรับความสว่างของห้องทำงานให้เหมาะสม ไม่ควรทำงานในที่ที่มีแสงจ้าเกินไป รวมถึงปรับแสงหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสมด้วยเช่นกัน จัดวางคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม โดยให้มีระยะห่างประมาณ 50-70 เซนติเมตร และปรับระดับจอภาพให้พอดี ไม่ควรให้อยู่สูงหรือต่ำ หากต้องใช้สายตาสำหรับการอ่านหนังสือนานๆ ระยะการอ่านหนังสือที่ดีไม่ควรใกล้กว่า 40 ซม.
พักสายตาบ่อยๆ หากเป็นไปได้ควรพักสายตาทุกๆ 1 ชั่วโมง โดยการมองออกไปด้านนอก หรือมองต้นไม้เขียวๆ ก็จะช่วยให้รู้สึกสบายตามากยิ่งขึ้น สวมแว่นกันแดดทุกครั้งในที่ที่มีแสงจ้า เพื่อป้องกันแสง UV ช่วยป้องกันการเกิดโรคตาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ต้อลม ต้อเนื้อ กระจกตาเป็นฝ้า ต้อกระจก จอประสาทตาเสื่อม แว่นกันแดดที่ดีควรกันแสง UV-A และ UV-B อย่างน้อย 99-100 เปอร์เซ็นต์ และกันแสงทั่วไปได้อย่างน้อย 75-90 เปอร์เซ็นต์ ควรตรวจสุขภาพตาเป็นประจำทุกๆ ปี โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป หากมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับดวงตา จะได้รักษาได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ดื่มน้ำให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย เพราะนอกจากจะทำให้ผิวพรรณชุ่มชื้นแล้ว ยังช่วยให้ผิวรอบดวงตาดูสดใสอีกด้วย
เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อดวงตา เช่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ผักใบเขียว แครอท ช่วยลดอันตรายจากสารต้านอนุมูลอิสระในแสงแดดที่มีส่วนในการทำลายจอประสาทตา อีกทั้งช่วยให้สายตาสามารถทำงานในที่มืดได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่พบว่า การรับประทานอาหารที่มี Omega-3 สูง เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ก็จะสามารถช่วยบำรุงสายตาได้เช่นกัน พักผ่อนให้เพียงพอ เพราะการพักผ่อนเป็นการพักสายตาที่ดี หากอดนอนจะทำให้ดวงตาดูหมองคล้ำ และหลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหน้าเพราะจะทำให้เกิดริ้วรอยได้
ที่มาข้อมูล...Laser Vision International LASIK Center
Credit ไทยรัฐออนไลน์
ความคิดเห็น