คุณกำลังมีนิสัยขี้วีนอยู่หรือเปล่า... นิสัยเหล่านี้อาจส่งผลเสียต่อชีวิตคุณได้ ไม่ใช่แค่เสียใจ แต่จะส่งไปถึงหน้าที่การงาน หน้าตาในสังคมได้ บอกลานิสัยขี้วีนซะเถอะค่ะ...
รำพึงขออภัย
คนเรามักเกิดอาการขัดเขินหรืออาย ในการที่จะพูดคำว่า "ขอโทษ" ทันที หลังจากอาละวาดไปแล้ว ทั้งๆที่คำๆนี้ควรเป็นคำแรกที่พูดหลังจากคุณก่อเหตุสะเทือนขวัญไป secretจึงขอแนะนำวิธีกล่าวคำ "ขอโทษ"ให้คล่อง ด้วยการซ้อมพูดหน้ากระจกบ่อยๆ เพราะมันจะทำให้เราสามารถเปล่งคำๆนี้ออกมาได้ง่ายขึ้นในสถานการณ์จริง
แต่อย่าลืมว่าการพูด "ขอโทษ"บ่อยๆโดยไม่ปรับปรุงตัวเองไปด้วย อาจทำให้คำๆนี้กลายเป็นคำที่ไร้ค่าได้นะจ๊ะ
ปิดทวารรับสื่อ
ยุคนี้การเสนอภาพรุนแรง โดยเฉพาะภาพดาราวีน-เหวี่ยง-กรี๊ด กลายเป็นเรื่องธรรมดาของละครทุกช่อง ซึ่งการที่เรารับชมบ่อยๆนั้น ทำให้เกิดความเคยชินและรู้สึกว่าการวีนหรือเหวี่ยง เป็นเรื่องธรรมดาที่มนุษย์ทุกคนเขาทำกัน... เพราะฉะนั้นใครไม่อยากเป็นนางร้ายตัวจริง(ไม่อิงละคร) กรุณาลดการเปิดรับสื่อรุนแรงด่วน ...ทราบแล้วเปลี่ยน!
เฟ้นหายอดสหาย
การคบเพื่อนที่มักมีพฤติกรรมร้ายๆเช่นเดียวกันกับคุณ ไม่ได้ช่วยกู้ภาพลักษณ์ของคุณให้ดีขึ้นได้เลย ทั้งยังอาจทำให้อารมณ์เดือดของคุณพุ่งสูงมากกว่าเดิม ...การหาเพื่อนที่ดี รักสงบ และมีเหตุผลมากพอที่จะทำให้คุณยอมรับได้ เป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยเบรคอารมณ์ ‘ปรอทแตก"ของคุณได้
ฉะนั้นอย่ารอช้า รีบเปิดตาและเปิดใจมองหาเพื่อนดีๆที่มีอยู่รอบตัว...ช้าหมด อดไม่รู้ด้วย...
ทำลายปราณวีน
ทุกครั้งที่โมโห ให้หยุดด่าทอ ลดเสียงและใช้เหตุผลในการพุดคุย เพราะเมื่อใดที่คุณระบายอารมณ์แบบ ‘จัดหนัก" กับคนรอบข้างไปแล้ว ตัวคุณเองอาจรู้สึกดีขึ้น ทว่าเมื่อเปิดตาเปิดใจมองไปรอบตัว คุณจะเห็นว่า คนอื่นไม่ได้รู้สึกเช่นเดียวกับคุณ คำพูดที่คุณพูดเพื่อทำร้ายคนอื่นอย่างสะใจ อาจกลายเป็นชนวนใหญ่ที่จะทำให้เกิดละครดราม่าในชีวิตจริงได้ ...เพราะฉะนั้น ทุกครั้งที่โกรธจัดๆ ลองคิดถึงผลเสียที่จะตามมา รับรองว่า ความโกรธจะหายวับไปกับตา
สละพิโรธร้อยลี้
โยนความคิด "เมื่อเราวีน เราจะได้ทุกอย่างที่ต้องการ" ทิ้งลงขยะซะ!...คนที่มีนิสัยขี้วีนอยู่เป็นประจำมักคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่ สามารถควบคุมคนอื่น หรือเรียกร้องสิ่งที่ตัวเองต้องการมาไว้ในมือได้อย่างง่ายดาย ด้วยการ ‘วีน"หรือ ‘เหวี่ยง"... แต่สิ่งที่คุณไม่รู้เลย คือ เบื้องหลังของพฤติกรรมแสดงอำนาจแห่งชัยชนะนี้ คือความเกลียดชังของคนรอบข้างที่พร้อมจะแทงข้างหลังของคุณ ดังนั้นหากไม่อยากถูกแทงข้างหลัง ทะลุถึงหัวใจ ก็รีบเก็บอารมณ์วีนเข้ากรุด่วน !
รำพึงขออภัย
คนเรามักเกิดอาการขัดเขินหรืออาย ในการที่จะพูดคำว่า "ขอโทษ" ทันที หลังจากอาละวาดไปแล้ว ทั้งๆที่คำๆนี้ควรเป็นคำแรกที่พูดหลังจากคุณก่อเหตุสะเทือนขวัญไป secretจึงขอแนะนำวิธีกล่าวคำ "ขอโทษ"ให้คล่อง ด้วยการซ้อมพูดหน้ากระจกบ่อยๆ เพราะมันจะทำให้เราสามารถเปล่งคำๆนี้ออกมาได้ง่ายขึ้นในสถานการณ์จริง
แต่อย่าลืมว่าการพูด "ขอโทษ"บ่อยๆโดยไม่ปรับปรุงตัวเองไปด้วย อาจทำให้คำๆนี้กลายเป็นคำที่ไร้ค่าได้นะจ๊ะ
ปิดทวารรับสื่อ
ยุคนี้การเสนอภาพรุนแรง โดยเฉพาะภาพดาราวีน-เหวี่ยง-กรี๊ด กลายเป็นเรื่องธรรมดาของละครทุกช่อง ซึ่งการที่เรารับชมบ่อยๆนั้น ทำให้เกิดความเคยชินและรู้สึกว่าการวีนหรือเหวี่ยง เป็นเรื่องธรรมดาที่มนุษย์ทุกคนเขาทำกัน... เพราะฉะนั้นใครไม่อยากเป็นนางร้ายตัวจริง(ไม่อิงละคร) กรุณาลดการเปิดรับสื่อรุนแรงด่วน ...ทราบแล้วเปลี่ยน!
เฟ้นหายอดสหาย
การคบเพื่อนที่มักมีพฤติกรรมร้ายๆเช่นเดียวกันกับคุณ ไม่ได้ช่วยกู้ภาพลักษณ์ของคุณให้ดีขึ้นได้เลย ทั้งยังอาจทำให้อารมณ์เดือดของคุณพุ่งสูงมากกว่าเดิม ...การหาเพื่อนที่ดี รักสงบ และมีเหตุผลมากพอที่จะทำให้คุณยอมรับได้ เป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยเบรคอารมณ์ ‘ปรอทแตก"ของคุณได้
ฉะนั้นอย่ารอช้า รีบเปิดตาและเปิดใจมองหาเพื่อนดีๆที่มีอยู่รอบตัว...ช้าหมด อดไม่รู้ด้วย...
ทำลายปราณวีน
ทุกครั้งที่โมโห ให้หยุดด่าทอ ลดเสียงและใช้เหตุผลในการพุดคุย เพราะเมื่อใดที่คุณระบายอารมณ์แบบ ‘จัดหนัก" กับคนรอบข้างไปแล้ว ตัวคุณเองอาจรู้สึกดีขึ้น ทว่าเมื่อเปิดตาเปิดใจมองไปรอบตัว คุณจะเห็นว่า คนอื่นไม่ได้รู้สึกเช่นเดียวกับคุณ คำพูดที่คุณพูดเพื่อทำร้ายคนอื่นอย่างสะใจ อาจกลายเป็นชนวนใหญ่ที่จะทำให้เกิดละครดราม่าในชีวิตจริงได้ ...เพราะฉะนั้น ทุกครั้งที่โกรธจัดๆ ลองคิดถึงผลเสียที่จะตามมา รับรองว่า ความโกรธจะหายวับไปกับตา
สละพิโรธร้อยลี้
โยนความคิด "เมื่อเราวีน เราจะได้ทุกอย่างที่ต้องการ" ทิ้งลงขยะซะ!...คนที่มีนิสัยขี้วีนอยู่เป็นประจำมักคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่ สามารถควบคุมคนอื่น หรือเรียกร้องสิ่งที่ตัวเองต้องการมาไว้ในมือได้อย่างง่ายดาย ด้วยการ ‘วีน"หรือ ‘เหวี่ยง"... แต่สิ่งที่คุณไม่รู้เลย คือ เบื้องหลังของพฤติกรรมแสดงอำนาจแห่งชัยชนะนี้ คือความเกลียดชังของคนรอบข้างที่พร้อมจะแทงข้างหลังของคุณ ดังนั้นหากไม่อยากถูกแทงข้างหลัง ทะลุถึงหัวใจ ก็รีบเก็บอารมณ์วีนเข้ากรุด่วน !
ความเครียดทะยานฟ้า
บางครั้งเมื่อคนเราจัดเก็บความเครียดไว้ในตัวมากๆ แม้เพียงถูกกระทบเพียงครั้งเดียว ก็อาจก่อให้เกิดการระเบิดอารมณ์อย่างรุนแรงได้ ดังนั้นพยายามคลายเครียดเป็นระยะๆ เพื่อไม่ให้มีขยะอารมณ์มาหมักหมมอยู่ในใจ โดยการออกกำลังกาย นั่งสมาธิ ไปปฏิบัติธรรมตามที่ต่างๆ ระบายความเครียดให้เพื่อนที่ไว้ใจฟัง ทำงานบ้าน หรือทำงานอดิเรกที่ชอบๆ ฯลฯ เพียงเท่านั้น ไฟที่ลุกโชนในใจก็จะมอดไหม้ไปในเวลาไม่นานเกินรอ...
ถอยทัพ
คนที่รักการ ‘วีน"มักมีลักษณะ "แพ้ไม่เป็น" ยามเมื่อใครมาสบประมาทตัวตน ผลงาน สิ่งที่ชอบหรือดับความคาดหวังของตัวเอง อารมณ์จะเริ่มร้อนขึ้นจนต้องระบายออกมา เพื่อสู้กับอีกฝ่ายให้ชนะให้จงได้ หรือให้รู้ดำรู้แดงกันไปข้าง
การรู้จักถอย ยอมแพ้และปล่อยวาง ไม่ได้แปลว่าคุณเป็นคนป๊อด หรือขี้แพ้ แต่เป็นการเอาชนะสิ่งที่ชนะได้ยากที่สุด คือตัวเอง... เราขอบอกว่าทันทีที่ทำ บ่าที่เคยแบกอีโก้และตัวตนของคุณไว้จะโปร่ง โล่งและเบาสบายขึ้นทันตาเห็นเลยเทียว
สกัดจุดโกรธ
ยามใดที่อารมณ์เริ่มประทุ ให้ลอง ‘หยุด" ...หยุดกาย วาจา ใจ ไว้ซะ อย่าได้ทำ พูด หรือคิดอะไรในเวลานั้น วิธีที่ดีที่สุดในการหยุดอารมณ์เดือดให้ทันท่วงทีนั้น ต้องอาศัยการฝึกสติอยู่เป็นประจำ เพื่อให้เรารู้เท่าทันอารมณ์ที่เกิดขึ้น ณ ขณะนั้น ก่อนที่จะแสดงท่าทางและคำพูดไม่ดีออกไป ซึ่งจะก่อให้เกิดผลเสียได้...แต่หากมั่นใจว่าหยุดอารมณ์ที่เกิดขึ้นตอนนั้นไม่ทันแน่ๆ ขอแนะนำให้หนีออกจากจุดเกิดเหตุมาตั้งหลักเสียก่อนเป็นยอดดี...
วิชาตัวเบา
เชื่อว่าทุกคนยามโกรธคงอยากจะชกใบหน้า-กรี๊ดดังๆ-วีนแรงๆ หรือขว้างปาสิ่งของเพื่อระบายอารมณ์ใส่ฝั่งตรงข้ามจนข้าวทุกอย่างเสียหาย แต่จะดีกว่าไหม หากเราระบายอารมณ์ด้วยวิธีอื่นที่สร้างสรรค์กว่า เช่น ยามใดที่หัวใจถูกเผาด้วยไฟ ลองเปิดคอมพิวเตอร์แล้วพิมพ์ทุกอย่างที่รู้สึก ณ ตอนนั้นออกไป ใส่อารมณ์ทั้งหมดลงไปในตัวหนังสือ รูปที่วาด หรือถักโครเชย์ด้วยความเร็วสูงสุดตามอารมณ์ที่ปรี๊ดด...ขึ้นมา แล้วคุณจะพบว่า อยู่ดีๆใจก็เบาได้แบบไม่รู้ตัว!
จอมยุทธปราบมาร
การที่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้บ่อยๆ อาจมีปัจจัยมาจากหลายอย่าง เช่น สภาพแวดล้อมรอบตัว เรื่องราวในอดีต ฮอร์โมนในร่างกายฯลฯ ซึ่งเป็นสิ่งนอกเหนือความสามารถที่เราจะช่วยเหลือตัวเองได้ ดังนั้นอย่าอายที่จะอาศัยมืออาชีพมาช่วยขจัดปัญหาเหล่านี้ให้หมดไป
หากคนรอบตัวบอกว่าคุณโกรธง่ายผิดปกติ ลองปรึกษาจิตแพทย์ หรือแพทย์เฉพาะทางดู อาจค้นพบสาเหตุที่แท้จริงได้ หรือหากไม่อยากเสียสตางค์ การไปฝึกให้รู้เท่าทันตัวเอง ด้วยการปฏิบัติธรรมกับครูบาอาจารย์มืออาชีพ ก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลว
ที่มา http://forums.goosiam.com/html/0025551.html
บางครั้งเมื่อคนเราจัดเก็บความเครียดไว้ในตัวมากๆ แม้เพียงถูกกระทบเพียงครั้งเดียว ก็อาจก่อให้เกิดการระเบิดอารมณ์อย่างรุนแรงได้ ดังนั้นพยายามคลายเครียดเป็นระยะๆ เพื่อไม่ให้มีขยะอารมณ์มาหมักหมมอยู่ในใจ โดยการออกกำลังกาย นั่งสมาธิ ไปปฏิบัติธรรมตามที่ต่างๆ ระบายความเครียดให้เพื่อนที่ไว้ใจฟัง ทำงานบ้าน หรือทำงานอดิเรกที่ชอบๆ ฯลฯ เพียงเท่านั้น ไฟที่ลุกโชนในใจก็จะมอดไหม้ไปในเวลาไม่นานเกินรอ...
ถอยทัพ
คนที่รักการ ‘วีน"มักมีลักษณะ "แพ้ไม่เป็น" ยามเมื่อใครมาสบประมาทตัวตน ผลงาน สิ่งที่ชอบหรือดับความคาดหวังของตัวเอง อารมณ์จะเริ่มร้อนขึ้นจนต้องระบายออกมา เพื่อสู้กับอีกฝ่ายให้ชนะให้จงได้ หรือให้รู้ดำรู้แดงกันไปข้าง
การรู้จักถอย ยอมแพ้และปล่อยวาง ไม่ได้แปลว่าคุณเป็นคนป๊อด หรือขี้แพ้ แต่เป็นการเอาชนะสิ่งที่ชนะได้ยากที่สุด คือตัวเอง... เราขอบอกว่าทันทีที่ทำ บ่าที่เคยแบกอีโก้และตัวตนของคุณไว้จะโปร่ง โล่งและเบาสบายขึ้นทันตาเห็นเลยเทียว
สกัดจุดโกรธ
ยามใดที่อารมณ์เริ่มประทุ ให้ลอง ‘หยุด" ...หยุดกาย วาจา ใจ ไว้ซะ อย่าได้ทำ พูด หรือคิดอะไรในเวลานั้น วิธีที่ดีที่สุดในการหยุดอารมณ์เดือดให้ทันท่วงทีนั้น ต้องอาศัยการฝึกสติอยู่เป็นประจำ เพื่อให้เรารู้เท่าทันอารมณ์ที่เกิดขึ้น ณ ขณะนั้น ก่อนที่จะแสดงท่าทางและคำพูดไม่ดีออกไป ซึ่งจะก่อให้เกิดผลเสียได้...แต่หากมั่นใจว่าหยุดอารมณ์ที่เกิดขึ้นตอนนั้นไม่ทันแน่ๆ ขอแนะนำให้หนีออกจากจุดเกิดเหตุมาตั้งหลักเสียก่อนเป็นยอดดี...
วิชาตัวเบา
เชื่อว่าทุกคนยามโกรธคงอยากจะชกใบหน้า-กรี๊ดดังๆ-วีนแรงๆ หรือขว้างปาสิ่งของเพื่อระบายอารมณ์ใส่ฝั่งตรงข้ามจนข้าวทุกอย่างเสียหาย แต่จะดีกว่าไหม หากเราระบายอารมณ์ด้วยวิธีอื่นที่สร้างสรรค์กว่า เช่น ยามใดที่หัวใจถูกเผาด้วยไฟ ลองเปิดคอมพิวเตอร์แล้วพิมพ์ทุกอย่างที่รู้สึก ณ ตอนนั้นออกไป ใส่อารมณ์ทั้งหมดลงไปในตัวหนังสือ รูปที่วาด หรือถักโครเชย์ด้วยความเร็วสูงสุดตามอารมณ์ที่ปรี๊ดด...ขึ้นมา แล้วคุณจะพบว่า อยู่ดีๆใจก็เบาได้แบบไม่รู้ตัว!
จอมยุทธปราบมาร
การที่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้บ่อยๆ อาจมีปัจจัยมาจากหลายอย่าง เช่น สภาพแวดล้อมรอบตัว เรื่องราวในอดีต ฮอร์โมนในร่างกายฯลฯ ซึ่งเป็นสิ่งนอกเหนือความสามารถที่เราจะช่วยเหลือตัวเองได้ ดังนั้นอย่าอายที่จะอาศัยมืออาชีพมาช่วยขจัดปัญหาเหล่านี้ให้หมดไป
หากคนรอบตัวบอกว่าคุณโกรธง่ายผิดปกติ ลองปรึกษาจิตแพทย์ หรือแพทย์เฉพาะทางดู อาจค้นพบสาเหตุที่แท้จริงได้ หรือหากไม่อยากเสียสตางค์ การไปฝึกให้รู้เท่าทันตัวเอง ด้วยการปฏิบัติธรรมกับครูบาอาจารย์มืออาชีพ ก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลว
ที่มา http://forums.goosiam.com/html/0025551.html
ความคิดเห็น