เราลองมานั่งพิจารณาดูว่า ไอ้ไขมันที่เพิ่มพูนส่วนหนึ่งมาจากนิสัยของเรานี้เอง นิสัยที่กล่าวถึงเราลองมาสังเกตนิสัยการกินของเรากันเถอะ
1. กินข้าวเร็ว
– การกินข้าวเร็วมาก แทบจะไม่เสียเวลาเคี้ยว กินแล้วกลืน คนอื่นยังกินอยู่ เราก็เรียบร้อยแล้วจานแรก ทำไงละคราวนี้ ก็ไปเบิ้ลจานสองสิ เขาว่ากินข้าวเร็วกระเพาะยัง ไม่ทันรับรู้ถึงความรู้สึกอิ่มเลย ดังนั้นค่อยๆกิน ไม่ได้จะรีบไปไหน จะให้ดี ก็ทานน้ำเยอะหน่อย จะได้อิ่มไวๆ
2. ดูโทรทัศน์ไป กินไป
– นี้ก็เป็นสาเหตุใหญ่อีก เวลาดูกีฬา ถ้าจะให้สนุกต้อง โค๊กกับเลย์ค่ะถึงจะเชียร์กีฬาสนุก แล้วเจ้า 2 ตัวนี้ ต่างก็แคลอรีสูงทั้งคู่เลย ปาเข้าไปไม่ต่ำกว่า 500 แคลอรี นี้เฉพาะอาหารว่างนะค่ะ แล้วที่กินเป็นอาหารหลักละ ไปแล้วเท่าไร ไม่อ้วนให้มันรู้ไป ของพวกนี้ เรียกว่า กินแล้วไม่ค่อยคำนึง เพราะกินไปเรื่อยๆมาเรียงๆ หมด ก็ไปเอามากินอีก ลองเปลี่ยนใหม่ ได้ไหมว่า เชียร์กีฬาไป กินผลไม้ไป เป็นการเชียร์กีฬาเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง อ้อ ส่วนเครื่องดื่ม น้ำเปล่าค่ะ
3. เสียดายของ
– ก็ได้รับการสั่งสอนมาตั้งแต่เด็กค่ะว่า กินข้าวจะต้องกินให้หมดจานอย่าเหลือ ทิ้งไว้ สงสารชาวนาที่ปลูกข้าว เต็มไปด้วยความยากลำบากกว่าจะได้ข้าวมาเม็ดหนึ่งพอเรากิน แม้จะอิ่มแล้วแต่ก็ต้องกินให้หมด เฮ้อ บางทีนะดิฉันว่าลดความสงสารชาวนาลงหน่อย สงสารตัวเรา มากขึ้นพออิ่ม ก็คือ อิ่ม ไม่ต้องรับผิดชอบต่อสังคมขนาดต้องกินให้หมดบางทีเห็นน้องๆกินเหลือ ยังไปช่วยเหลือเอามากินอีกให้หมด ต้องมาเสียเงินสำหรับลดน้ำหนักมากกว่าอีก
4. เครียดแล้วกิน
– อันนี้ดิฉันว่าเป็นโรคจิตแบบหนึ่งเลยนะ ประเภทประมาณว่าประชด อะไร ไม่พอใจ เครียด ก็เอาอาหารเป็นที่ระบาย กินเอากินเอา อย่างอกหัก แทนที่จะกินข้าวไม่ลง ไม่เลย บอกตัวเองว่า กินเข้าไป กินเข้าไป กินมันให้ท้องแตกตายไปเลย สุดท้ายไม่ตายค่ะ แต่มานั่งกลุ้มใจกับน้ำหนักที่เพิ่มพูนขึ้น
5. ให้รางวัลโดยการกิน
– นี้ก็เป็นนิสัยหนึ่งที่ชอบนัก เวลาเราดีใจ หรือทำอะไรประสบความสำเร็จ ต้องมีการนัดฉลองกันหน่อย กินฉลองสอบได้ กินฉลองได้ลูกค้าใหม่ กินฉลองวันเกิด กินฉลองวันเข้าพรรษา กินฉลองมันได้ทุกวัน ลองเปลี่ยนวิธีการให้รางวัลเป็นแบบของขวัญ หรือไปเที่ยว หรืออะไรก็ได้ ที่ไม่ต้องมาโยงกับการกิน ดีไหม
6. กินอาหารคาว ต้องตามด้วยของหวาน
– ไม่รู้ทำไมต้องเป็นสูตรแบบนี้ เหมือนตอนอยู่โรงเรียนจำได้ว่า พอกินข้าวเที่ยงเสร็จ จะต้องตามด้วยของหวาน พวกกล้วยบวดชี บวดฟักทอง ถั่วดำ และอีกสารพัด กินแบบนี้มาอย่างต่อเนื่อง ลองเปลี่ยนของหวานเป็นผลไม้ดีกว่า แอปเปิ้ล ฝรั่ง แตงโม และอีกเยอะแยะค่ะ
7. ต้องเอาให้คุ้ม
– ไปกินบุปเฟ่ต์ กินเท่าไรก็ได้ อย่างนี้ต้องกินให้เยอะๆ เอาให้คุ้ม ตักพูนจาน กินจนหมด อิ่มแล้ว แต่ยังไม่คุ้ม ไปตักเอามากินอีก นี้ถ้าไม่เกรงใจ จะเอาใส่ถุงพลาสติกกลับบ้านอีกนะนี้นะ อย่างบุปเฟ่ต์ของร้านไดโดมอน ชอบเป็นชีวิตและจิตใจ กินเข้าไป กินเข้าไป พอหันกลับมา เอ๊ะทำไมจานเนื้อจะท่วมมิดเราแล้วนะนี้พอๆ เลิกนิสัยแบบนี้เถอะ ไม่ต้องเอาให้คุ้มนักหรอก สงสารร้านเขาบ้าง ไม่ใช่กินให้คุ้มแล้วแบบนี้ เป็นการกินให้ร้านเขาเจ๊งมากกว่า
8. ยอมแพ้อะไรง่ายๆ
– คือ หลายครั้งที่เข้าโปรแกรมลดน้ำหนัก พอมันไม่ค่อยลด ก็ท้อใจ หันกลับไปกินมากเหมือนเดิม แถมยังยอมรับอย่างน่าสลดว่า ความอ้วนยังไงก็ต้องอยู่ติดตัวคู่กับเราไปทั้งชีวิตแน่ๆ อย่าค่ะ อย่าไปเชื่อยังงั้นสิ สู้ๆเข้าไป สู้เข้าไป มันลดได้สิ ยอมแพ้วันนี้ก็ต้องแพ้ มันไปตลอดกาล แต่หากสู้ เราก็ยังมีหวังเอาชนะได้ค่ะ
9. ออกกำลังกายแล้วกินเยอะขึ้น
– เป็นกันหลายคนจริงไหม คิดแต่ว่า เวลาออกกำลังกาย เราก็ใช้พลังงานไปเยอะแล้วนะ ให้รางวัลหน่อย กินเยอะขึ้นกว่าเดิม อ้วนค่ะ ที่ออกไปคืนมาหมด เรียกว่าเป็นพวกออกสลึง กินบาท น่าเสียดายจริงๆ หลายคนคิดว่า เอ๊ะ การออกกำลังกายทำให้ กินเยอะขึ้นหรือเปล่า ตอบเลยว่า ไม่จริงค่ะ ที่กินเยอะ เป็นเรื่องของจิตใจเรามากกว่า ยกตัวอย่าง หากออกกำลังกายโดยการวิ่ง 1 ชั่วโมง อย่างมากก็ประมาณ 600 แคลอรี จำนวนเท่านี้ หากกินเลย์กับโค๊ก มันก็เกิน 600 แคลอรีแล้วละค่ะ
ที่มา http://www.goosiam.com/Health/html/0006602.html
ที่มา http://www.goosiam.com/Health/html/0006602.html
ความคิดเห็น