ลำดับตอนที่ #81
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #81 : รู้หรือไม่ "ถ้าเซลล์เม็ดเลือดขาวมากกว่าเม็ดเลือดแดงจะเกิดอะไรขึ้น"
เม็ดเลือดขาวมากกว่าแดง
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักเซลล์เม็ดเลือดกันก่อน
เซลล์เม็ดเลือดขาว เป็นเซลล์ของระบบภูมิคุ้มกันซึ่งคอยป้องกันร่างกายจากทั้งเชื้อก่อโรคและสารแปลกปลอมต่างๆ พบได้ทั่วไปในร่างกาย รวมไปถึงในเลือดและในระบบน้ำเหลือง มีหลายชนิด สร้างที่ไขกระดูก มีอายุ 2-3 วัน
แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ตามหน้าที่ อันแรก ฟาโกไซต์ ทำหน้าที่ทำลายเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอม อีกชนิด ลิมโฟไซต์ ทำหน้าที่สร้าง แอนติบอดี ซึ่งเป็นสารประเภทโปรตีน เพื่อต่อต้านสิ่งแปลกปลอมหรือเชื้อโรค
เซลล์เม็ดเลือดขาวมีสมบัติเฉพาะ คือ เคลื่อนที่ได้แบบอะมีบา แม้เม็ดเลือดขาวส่วนมากจะมีขนาดใหญ่กว่าเม็ดเลือดแดง ก็ยังเคลื่อนที่ผ่านผนังของเส้นเลือดฝอยเข้าสู่น้ำเหลืองไปตามเนื้อเยื้อต่างๆ ได้ นอกจากนี้ ยังเคลื่อนที่เข้าหาหรือเคลื่อนที่หนีสารเคมีหลายชนิดได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สารที่เกิดในตอนที่มีบาดแผลหรือเกิดการบวมอักเสบ
จำนวนเซลล์เม็ดเลือดขาวใช้เป็นข้อบ่งชี้ของโรคและการดำเนินไปของโรค โดยปกติแล้วมีประมาณ 5,000-10,000 เซลล์ต่อลูกบาศก์มิลลิเมตรของเลือด รวมเป็นเซลล์ประมาณ 1% ในเลือดคนปกติ และจะเพิ่มขึ้นเมื่อมีเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย ในเด็กแรกเกิดจะมีเม็ดเลือดขาวมากที่สุด เพราะเด็กภูมิต้านทานต่ำ
ในคนเป็นโรค เช่น ลูคีเมีย หรือ มะเร็งเม็ดเลือดขาว จำนวนของเซลล์เม็ดเลือดขาวจะมีมากกว่าปกติ หรือในภาวะลูโคพีเนีย เซลล์เม็ดเลือดขาวก็จะน้อยกว่าปกติ มีจำนวนน้อยกว่าเซลล์เม็ดเลือดแดงมาก เซลล์เม็ดเลือดแดง สร้างที่ไขกระดูก โดยจะสร้างตลอดเวลาประมาณ 2 ล้านเซลล์ต่อวินาที ทำหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ต่างๆ ทั่วร่างกาย และรับคาร์บอนไดออกไซด์ไปฟอกที่ปอด ลักษณะกลมแบน ตรงกลางบุ๋ม ไม่มีนิวเคลียส มีสีแดงเนื่องจากภายในมีสารฮีโมโกลบิน
ผู้ใหญ่มีเม็ดเลือดแดงอยู่ในร่างกายประมาณ 20-30 ล้านล้านเซลล์ โดยผู้ชายมีประมาณ 5-5.5 ล้านเซลล์ต่อลูกบาศก์มิลลิเมตรเลือด ส่วนผู้หญิงประมาณ 4.5-5 ล้านเซลล์ต่อลูกบาศก์มิลลิเมตรเลือด และคนที่อาศัยอยู่ในเขตที่มีความเข้มข้นของออกซิเจนต่ำ เช่น ในที่สูง ก็อาจมีปริมาณเม็ดเลือดแดงมากกว่านี้ได้ เซลล์เม็ดเลือดแดงมีอายุประมาณ 100-120 วัน หลังจากนั้นจะถูกทำลายที่ตับและม้าม
ถ้าหากพบว่าเซลล์เม็ดเลือดขาวมีมากกว่าเซลล์เม็ดเลือดแดงมากๆ อาจจะเกิดจากการติดเชื้อในร่างกาย หรือในบางกรณีอาจเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว หรือลูคีเมีย สาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด แต่พบว่าปัจจัยทางพันธุกรรม การติดเชื้อไวรัสบางชนิด และการได้รับสารเคมีบางอย่าง เช่น ยาฆ่าแมลง และสารกัมมันตภาพรังสี สามารถทำให้เกิดมะเร็งเม็ดเลือดได้ อาการที่บ่งบอก คือ เลือดจาง ซีด หน้ามืด เวียนศีรษะ เหนื่อยง่าย เลือดออกง่ายบริเวณผิวหนัง เหงือกเป็นจ้ำ ตามตัวอาจพบต่อมน้ำเหลืองโต ติดเชื้อง่าย เป็นไข้บ่อยๆ และยังอาจพบก้อนในท้องเนื่องจากตับ ม้ามโต ด้วย
ลูคีเมียชนิดเฉียบพลันมีการสร้างเม็ดเลือดขาวมากกว่าปกติอย่างรวดเร็ว การสร้างเม็ดเลือดแดงและเกล็ดเลือดในไขกระดูกถูกแย่งที่ไปเกือบหมดทำให้ผู้ป่วยมีอาการซีดลงในระยะเวลาอันสั้น
ที่มา หนังสือพิมพ์ข่าวสด
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักเซลล์เม็ดเลือดกันก่อน
เซลล์เม็ดเลือดขาว เป็นเซลล์ของระบบภูมิคุ้มกันซึ่งคอยป้องกันร่างกายจากทั้งเชื้อก่อโรคและสารแปลกปลอมต่างๆ พบได้ทั่วไปในร่างกาย รวมไปถึงในเลือดและในระบบน้ำเหลือง มีหลายชนิด สร้างที่ไขกระดูก มีอายุ 2-3 วัน
แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ตามหน้าที่ อันแรก ฟาโกไซต์ ทำหน้าที่ทำลายเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอม อีกชนิด ลิมโฟไซต์ ทำหน้าที่สร้าง แอนติบอดี ซึ่งเป็นสารประเภทโปรตีน เพื่อต่อต้านสิ่งแปลกปลอมหรือเชื้อโรค
เซลล์เม็ดเลือดขาวมีสมบัติเฉพาะ คือ เคลื่อนที่ได้แบบอะมีบา แม้เม็ดเลือดขาวส่วนมากจะมีขนาดใหญ่กว่าเม็ดเลือดแดง ก็ยังเคลื่อนที่ผ่านผนังของเส้นเลือดฝอยเข้าสู่น้ำเหลืองไปตามเนื้อเยื้อต่างๆ ได้ นอกจากนี้ ยังเคลื่อนที่เข้าหาหรือเคลื่อนที่หนีสารเคมีหลายชนิดได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สารที่เกิดในตอนที่มีบาดแผลหรือเกิดการบวมอักเสบ
จำนวนเซลล์เม็ดเลือดขาวใช้เป็นข้อบ่งชี้ของโรคและการดำเนินไปของโรค โดยปกติแล้วมีประมาณ 5,000-10,000 เซลล์ต่อลูกบาศก์มิลลิเมตรของเลือด รวมเป็นเซลล์ประมาณ 1% ในเลือดคนปกติ และจะเพิ่มขึ้นเมื่อมีเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย ในเด็กแรกเกิดจะมีเม็ดเลือดขาวมากที่สุด เพราะเด็กภูมิต้านทานต่ำ
ในคนเป็นโรค เช่น ลูคีเมีย หรือ มะเร็งเม็ดเลือดขาว จำนวนของเซลล์เม็ดเลือดขาวจะมีมากกว่าปกติ หรือในภาวะลูโคพีเนีย เซลล์เม็ดเลือดขาวก็จะน้อยกว่าปกติ มีจำนวนน้อยกว่าเซลล์เม็ดเลือดแดงมาก เซลล์เม็ดเลือดแดง สร้างที่ไขกระดูก โดยจะสร้างตลอดเวลาประมาณ 2 ล้านเซลล์ต่อวินาที ทำหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ต่างๆ ทั่วร่างกาย และรับคาร์บอนไดออกไซด์ไปฟอกที่ปอด ลักษณะกลมแบน ตรงกลางบุ๋ม ไม่มีนิวเคลียส มีสีแดงเนื่องจากภายในมีสารฮีโมโกลบิน
ผู้ใหญ่มีเม็ดเลือดแดงอยู่ในร่างกายประมาณ 20-30 ล้านล้านเซลล์ โดยผู้ชายมีประมาณ 5-5.5 ล้านเซลล์ต่อลูกบาศก์มิลลิเมตรเลือด ส่วนผู้หญิงประมาณ 4.5-5 ล้านเซลล์ต่อลูกบาศก์มิลลิเมตรเลือด และคนที่อาศัยอยู่ในเขตที่มีความเข้มข้นของออกซิเจนต่ำ เช่น ในที่สูง ก็อาจมีปริมาณเม็ดเลือดแดงมากกว่านี้ได้ เซลล์เม็ดเลือดแดงมีอายุประมาณ 100-120 วัน หลังจากนั้นจะถูกทำลายที่ตับและม้าม
ถ้าหากพบว่าเซลล์เม็ดเลือดขาวมีมากกว่าเซลล์เม็ดเลือดแดงมากๆ อาจจะเกิดจากการติดเชื้อในร่างกาย หรือในบางกรณีอาจเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว หรือลูคีเมีย สาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด แต่พบว่าปัจจัยทางพันธุกรรม การติดเชื้อไวรัสบางชนิด และการได้รับสารเคมีบางอย่าง เช่น ยาฆ่าแมลง และสารกัมมันตภาพรังสี สามารถทำให้เกิดมะเร็งเม็ดเลือดได้ อาการที่บ่งบอก คือ เลือดจาง ซีด หน้ามืด เวียนศีรษะ เหนื่อยง่าย เลือดออกง่ายบริเวณผิวหนัง เหงือกเป็นจ้ำ ตามตัวอาจพบต่อมน้ำเหลืองโต ติดเชื้อง่าย เป็นไข้บ่อยๆ และยังอาจพบก้อนในท้องเนื่องจากตับ ม้ามโต ด้วย
ลูคีเมียชนิดเฉียบพลันมีการสร้างเม็ดเลือดขาวมากกว่าปกติอย่างรวดเร็ว การสร้างเม็ดเลือดแดงและเกล็ดเลือดในไขกระดูกถูกแย่งที่ไปเกือบหมดทำให้ผู้ป่วยมีอาการซีดลงในระยะเวลาอันสั้น
ที่มา หนังสือพิมพ์ข่าวสด
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น