ลำดับตอนที่ #33
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #33 : ตอนที่31 จมพื้นรัวๆ
“นี่มัน…อะไรกัน”
เบื้องหน้าของเขาคือทุ่งหญ้าที่ลุกไหม้ ควันไฟลอยไปทั่วพร้อมกับกลิ่นสาปของซากศพมอนสเตอร์จำนวนมากเกลื่อนกลาดไปทั่ว
ตัวของเขาเพียงเข้าไปในมิติพิศวงหนึ่งวันเท่านั้น แต่ทันทีที่ออกมาจากทุ่งเขียวขจีกลับกลายเป็นทะเลเพลิงฟุ้งไปด้วยกลิ่นเลือดแทน
“ต้องรีบไปเมือง”
เอ็นริววิ่งย้อนเส้นทางขบวนเดินทางคุ้มกันของเขาทันที จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคงคิดได้เพียงอย่างเดียวว่าจอมมารเริ่มการรุกรานแล้วเป็นแน่
เหล่านักผจญภัยเมื่อออกมาก็มีปฏิกิริยาไม่ต่างจากเขารีบรวมกลุ่มวางแผนแบ่งออกเป็นสองทีมเพื่อแยกกันไปดูคนละเมืองทัน
เอ็นริววิ่งด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ในใจภาวนาถึงคนเพียงคนเดียว เครื่องรางของเขามันยังทำงานอยู่ เพราะงั้นจึงวางใจได้แม้จะไม่มากเท่าเห็นกับตาว่าตัวเธอปลอดภัย
เสียงรบราฆ่าฟันดังกึกก้องไปทั่วเพียงแค่มาถึงประตูเมือง สิ่งที่เห็นคืออสูรกายและปีศาจมากหน้าหลายตากำลังต่อสู้กับเหล่าทหารของอาณาจักร
บ้านเมืองลุกเป็นไฟเพราะเวทมนต์ที่ถูกใช้ออกมามากมาย เอ็นริวเลือกเมินเรื่องพวกนี้ทันที ตัวเขาพุ่งตัวไปยังทิศของรูนอคาเดเมียที่อยู่อีกฟากทันที
เพราะแถวนี้ไม่มีร่องรอยของนักเรียนที่นั่น แปลได้ว่าอาจกำลังรับศึกอื่นอยู่ก็ได้ ตัวเขาเลยไม่ลังเลแม้จะเห็นคนใกล้พ่ายแก่อสูรตรงหน้า
เพราะมันไม่ใช่เรื่องของเขา คนที่เขาไม่แคร์คือคนที่ไม่สมควรเสียเวลาปกป้องเป็นที่สุด
“Wind walk X”
เวทมนต์สนับสนุนเพิ่มความเร็วระดับสูงแต่เขาดัดแปลงมันด้วยเพื่อความรวดเร็วในการเดินทางครั้งนี้ สายลมหมุนวนรอบตัวเขาราวกับเป็นบอลลมแรงสูงที่หากผู้ใดแตะต้องสายลมจะถูกฉีกกระชากเป็นชิ้นๆราวเศษขยะ
เอ็นริวเลี่ยงเส้นทางธรรมดา เขากระโดดและพุ่งตัวไปตามหลังคาบ้านเรือนอย่างคล่องแคลวว่องไวประดุจหนึ่งแสงแวบผ่าน พริบตาตัวเขามาถึงเป้าหมายแล้ว
สถาบันกำลังลุกเป็นไฟโหมกระหน่ำ กลิ่นเลือดฟุ้งกระจายยิ่งกว่าที่อื่นราวกับทั้งสถาบันกลายเป็นทะเลเลือด ตัวเขาพุ่งผ่านพวกน่ารำคาญอย่างง่ายดาย
เพราะพวกที่พุ่งเข้ามาล้วนถูกฉีกกระชากโดยสายลมแห่งความเกรี้ยวกราดของเขา พวกมันไม่มีวันเข้าถึงตัวเขา..ไม่มีวันแม้แต่น้อย
“ข้าคือขุนพลปีศาจนามว่าเค..”
ฉับ ตุบ
เพียงพริบตาที่เขาเห็นว่าเบื้องหน้าของมันคือเฮเลน ตัวเขาหยุดวิ่ง เปลี่ยนทิศ พุ่งเข้าไป สับเศียรของมันที่ให้ความรู้สึกราวตัดน้ำหล่นลงพื้นดังตุบ
“เจ้าสังหารขุนพลปีศ..”
โครม!!
ยังไม่ทันตัวเขาจะไดตั้งตัวปีศาจตัวใหม่ก็โผล่ออกมา มันสวมชุดเกราะสีดำทั้งตัว ในมือถือดาบสองคมสลักไว้ด้วยลวดลายน่าพิศวง
แต่อนิจจาเอ็นริวหาได้สนใจ จับหัวของมันที่สวมหมวกเกราะแข็งๆกดกระแทกจมลงกับพื้นอย่างแรงทั้งที่ยังไม่ทันได้พูดจบเหมือนตัวก่อนหน้า
“แกบังอาจ…”
โครม!!!
“แกกล้า…”
โครม!!!
“พะพอ..”
โครม!!!! นิ่งเงียบ-
เมื่อไม่เห็นว่าเจ้าตัวน่ารำคาญจะลุกขึ้นมาอีก เอ็นริวจึงหันไปหาสาวขี้เซาผู้กำลังสับสนกับเหตุการณ์ฉุกละหุกที่เกิดขึ้น
“เก่งมากที่อยู่ได้โดยไม่มีฉัน คุณคนขี้เซา”
เบื้องหน้าของเขาคือทุ่งหญ้าที่ลุกไหม้ ควันไฟลอยไปทั่วพร้อมกับกลิ่นสาปของซากศพมอนสเตอร์จำนวนมากเกลื่อนกลาดไปทั่ว
ตัวของเขาเพียงเข้าไปในมิติพิศวงหนึ่งวันเท่านั้น แต่ทันทีที่ออกมาจากทุ่งเขียวขจีกลับกลายเป็นทะเลเพลิงฟุ้งไปด้วยกลิ่นเลือดแทน
“ต้องรีบไปเมือง”
เอ็นริววิ่งย้อนเส้นทางขบวนเดินทางคุ้มกันของเขาทันที จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคงคิดได้เพียงอย่างเดียวว่าจอมมารเริ่มการรุกรานแล้วเป็นแน่
เหล่านักผจญภัยเมื่อออกมาก็มีปฏิกิริยาไม่ต่างจากเขารีบรวมกลุ่มวางแผนแบ่งออกเป็นสองทีมเพื่อแยกกันไปดูคนละเมืองทัน
เอ็นริววิ่งด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ในใจภาวนาถึงคนเพียงคนเดียว เครื่องรางของเขามันยังทำงานอยู่ เพราะงั้นจึงวางใจได้แม้จะไม่มากเท่าเห็นกับตาว่าตัวเธอปลอดภัย
เสียงรบราฆ่าฟันดังกึกก้องไปทั่วเพียงแค่มาถึงประตูเมือง สิ่งที่เห็นคืออสูรกายและปีศาจมากหน้าหลายตากำลังต่อสู้กับเหล่าทหารของอาณาจักร
บ้านเมืองลุกเป็นไฟเพราะเวทมนต์ที่ถูกใช้ออกมามากมาย เอ็นริวเลือกเมินเรื่องพวกนี้ทันที ตัวเขาพุ่งตัวไปยังทิศของรูนอคาเดเมียที่อยู่อีกฟากทันที
เพราะแถวนี้ไม่มีร่องรอยของนักเรียนที่นั่น แปลได้ว่าอาจกำลังรับศึกอื่นอยู่ก็ได้ ตัวเขาเลยไม่ลังเลแม้จะเห็นคนใกล้พ่ายแก่อสูรตรงหน้า
เพราะมันไม่ใช่เรื่องของเขา คนที่เขาไม่แคร์คือคนที่ไม่สมควรเสียเวลาปกป้องเป็นที่สุด
“Wind walk X”
เวทมนต์สนับสนุนเพิ่มความเร็วระดับสูงแต่เขาดัดแปลงมันด้วยเพื่อความรวดเร็วในการเดินทางครั้งนี้ สายลมหมุนวนรอบตัวเขาราวกับเป็นบอลลมแรงสูงที่หากผู้ใดแตะต้องสายลมจะถูกฉีกกระชากเป็นชิ้นๆราวเศษขยะ
เอ็นริวเลี่ยงเส้นทางธรรมดา เขากระโดดและพุ่งตัวไปตามหลังคาบ้านเรือนอย่างคล่องแคลวว่องไวประดุจหนึ่งแสงแวบผ่าน พริบตาตัวเขามาถึงเป้าหมายแล้ว
สถาบันกำลังลุกเป็นไฟโหมกระหน่ำ กลิ่นเลือดฟุ้งกระจายยิ่งกว่าที่อื่นราวกับทั้งสถาบันกลายเป็นทะเลเลือด ตัวเขาพุ่งผ่านพวกน่ารำคาญอย่างง่ายดาย
เพราะพวกที่พุ่งเข้ามาล้วนถูกฉีกกระชากโดยสายลมแห่งความเกรี้ยวกราดของเขา พวกมันไม่มีวันเข้าถึงตัวเขา..ไม่มีวันแม้แต่น้อย
“ข้าคือขุนพลปีศาจนามว่าเค..”
ฉับ ตุบ
เพียงพริบตาที่เขาเห็นว่าเบื้องหน้าของมันคือเฮเลน ตัวเขาหยุดวิ่ง เปลี่ยนทิศ พุ่งเข้าไป สับเศียรของมันที่ให้ความรู้สึกราวตัดน้ำหล่นลงพื้นดังตุบ
“เจ้าสังหารขุนพลปีศ..”
โครม!!
ยังไม่ทันตัวเขาจะไดตั้งตัวปีศาจตัวใหม่ก็โผล่ออกมา มันสวมชุดเกราะสีดำทั้งตัว ในมือถือดาบสองคมสลักไว้ด้วยลวดลายน่าพิศวง
แต่อนิจจาเอ็นริวหาได้สนใจ จับหัวของมันที่สวมหมวกเกราะแข็งๆกดกระแทกจมลงกับพื้นอย่างแรงทั้งที่ยังไม่ทันได้พูดจบเหมือนตัวก่อนหน้า
“แกบังอาจ…”
โครม!!!
“แกกล้า…”
โครม!!!
“พะพอ..”
โครม!!!! นิ่งเงียบ-
เมื่อไม่เห็นว่าเจ้าตัวน่ารำคาญจะลุกขึ้นมาอีก เอ็นริวจึงหันไปหาสาวขี้เซาผู้กำลังสับสนกับเหตุการณ์ฉุกละหุกที่เกิดขึ้น
“เก่งมากที่อยู่ได้โดยไม่มีฉัน คุณคนขี้เซา”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น