ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {SS2} [EXO] My Baby พี่รหัสของผม | HUNBAEK

    ลำดับตอนที่ #16 : chapter 14 : My baby (The end)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.31K
      16
      22 ต.ค. 61

    \
    CR.SQW
    CR.SQW
     

     

    Chapter 14 : My baby


     


     

     

    มหาวิทยาลัยในวันนี้คึกคักกว่าทุกวันเพราะวันนี้เป็นวันแข่งขันฟุตบอลประจำปีรอบชิงชนะเลิศ ครั้งนี้เซฮุนมีกำลังใจมากกว่าครั้งไหนๆเพราะมีคนตัวเล็กอยู่ข้างๆคอยส่งน้ำซับเหงื่อให้ตลอดเวลา ถึงจะเหนื่อยแค่ไหนเขาก็สู้สุดใจ

     

    ในวันนี้แบคฮยอนเลือกที่จะเล่าเรื่องทั้งหมดให้จงแดกับคยองซูฟัง ทั้งสองคนดูตกใจมากที่คนตัวเล็กตัดสินใจแบบนั้น แต่ในเมื่อคนตัวเล็กตัดสินใจไปแล้ว ถ้าเพื่อนเขาเห็นว่าดีพวกเขาก็ไม่มีปัญหาอะไร

     

    ตอนนี้แบคฮยอนนั่งอยู่ที่ขอบสนาม เขาทอดสายตามองไปยังสแตนด์เชียร์อีกฝั่ง มองดูชานยอลเดินยกของไปมา เขาอยากจะลุกไปช่วยพี่ชานยอลใจจะขาด แต่ใจหนึ่งก็สั่งห้ามตัวเองไว้ เขาไม่ควรจะไปยุ่งกับคนตัวสูง เขาควรจะตัดขาดกับอีกคนไปซะและไม่ควรมีเยื่อใยอะไรต่อกันอีก แต่มันก็เป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะมองคนที่เคยรักสุดหัวใจให้กลายเป็นคนอื่น แบคฮยอนถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะหันไปหาคยองซูที่นั่งอยู่ข้างๆแล้วเอ่ยเรียกเบาๆ

     

    มึง

     

    หื้ม?”

     

    มึงไปช่วยพี่ชานยอลหน่อยได้มั้ย? กูไม่อยากให้เขาทำงานอยู่คนเดียวอ่ะ พาจงอินไปช่วยด้วยก็ดี

     

    มึงไหวป่ะเนี่ย คิดดีแล้วจริงๆเหรอวะมันอาจจะเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบก็ได้ จริงๆมึง-- ”

     

    กูคิดดีแล้ว

     

    แบคฮยอนมั่นใจในการตัดสินใจของเขา แต่เขาคงต้องขอเวลาปรับตัวอีกสักหน่อย แค่ขอเวลาให้เขาสักนิด

     

    ไปช่วยพี่เขาหน่อยเถอะนะ กูขอร้อง

     

    เออ ไม่ต้องทำหน้าเป็นหมาหงอยขนาดนั้นก็ได้ เดี๋ยวกูไปช่วยเอง มึงนั่งอยู่นี่แหละ อย่าคิดมาก คยองซูตบบ่าเพื่อนสนิทก่อนจะยิ้มบางๆให้แล้วเดินไป แบคฮยอนสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะผ่อนลมออกมา เรื่องนี้มันไม่ง่ายเลยจริงๆ ไม่มาอยู่จุดเดียวกับเขาในตอนนี้คงไม่เข้าหรอกว่ามันรู้สึกอย่างไร

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ปกติจะต้องมีน้ำเย็นๆกับรอยยิ้มน่ารักๆคอยให้กำลังใจอยู่ใกล้ๆ แต่วันนี้ข้างกายของเขากลับไม่มีใครอีกคนยืนอยู่ตรงนี้ ชานยอลรับน้ำเย็นจากคยองซูก่อนจะมานั่งพักที่ขอบสนาม การแข่งในวันนี้ดูจะง่ายไปกว่าทุกครั้ง ครึ่งแรกผ่านไปด้วยคะแนน 4-0 โดยฝ่ายเราเป็นผู้นำและไม่มีท่าทีว่าฝ่ายตรงข้ามจะสามารถทำประตูตีตื้นได้เลย

     

    ชานยอลไม่ได้อยากจะมองภาพพวกนั้นให้มันปวดหัวใจเล่น แต่สายตาของเขาก็ชอบไปหยุดอยู่ที่คนตัวเล็กทุกครั้ง เขาต้องเห็นภาพที่ไม่อยากจะเห็นซ้ำแล้วซ้ำเล่าทั้งที่จริงๆแล้วคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นควรจะเป็นเขา

     

    เขาไม่ใช่คนที่อ่อนแอแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้สึกเสียศูนย์ในชีวิตอยู่ไม่น้อย ชานยอลสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะลุกขึ้นแล้วเรียกรวมลูกทีมเพื่อแจ้งแผนในช่วงครึ่งหลัง  เขายังคุยเรื่องงานกับเซฮุนเหมือนเดิม ถึงแม้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานจะทำให้เขาไม่อยากจะมองหน้ารุ่นน้องสักเท่าไหร่ก็ตาม แต่เขาก็แยกแยะระหว่างเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว เขาเป็นรุ่นพี่ เป็นกัปตันทีมและมีหน้าที่นำทีมไปสู้ชัยชนะในวันนี้

     

    หลังจากที่แจ้งแผนเสร็จแล้วทุกคนก็เดินกลับเข้าไปในสนามเมื่อหมดเวลาพัก ทุกคนยืนประจำที่ก่อนนกหวีดซึ่งเป็นสัญญาณเริ่มเกมส์จะดังขึ้น ทันทีที่เริ่มเกมส์ฝ่ายตรงข้ามก็ใช้วิธีต่อบอลสั้นๆอย่างรวดเร็วเพื่อจู่โจมเข้ามาจนลูกบอลทะลุขึ้นมาที่หน้าประตู ศูนย์หน้าฝ่ายตรงข้ามเห็นว่าไม่มีใครขวางจึงได้โอกาสยิงประตูทันที ลูกบอลพุ่งเข้าหาประตูด้วยความเร็วท่ามกลางความตื่นเต้นของกองเชียร์ แต่คิมจงอินเห็นลูกบอลแล้ว

     

     

     

    และเขาจะไม่ปล่อยให้ลูกบอลฝ่ายตรงข้ามเข้ามาหยามในเขตของเขาเด็ดขาด

     

     

     

    เด็กหนุ่มผิวเข้มใช้แรงที่มีทั้งหมดโม่งลูกบอลออกไปจากประตูก่อนที่ลูกบอลจะลอยออกไปตกตรงหน้าแทฮยอง แทฮยองได้จังหวะจึงเตะลูกสวนขึ้นไปทันที เขาเลี้ยงลูกหลบหลีกฝ่ายตรงข้ามขึ้นมาเรื่อยๆจนลูกบอลหลุดมาที่กองหน้า ในตอนนี้แทฮยองกำลังโดนฝ่ายตรงข้ามรุมอยู่ พวกนั้นล้อมเขาเป็นวงกลมเพื่อไม่ให้เขาส่งลูกบอลได้ แทฮยองกำลังตกอยู่ในสถานการณ์แย่ เขาหันมองซ้ายขวาเล็กน้อยก่อนจะเห็นชานยอลและเซฮุนวิ่งขนาบข้างกันมา พอเห็นอย่างนั้นเขาจึงตัดสินใจเตะลูกบอลเต็มแรงให้ลอยข้ามหัวฝ่ายตรงข้ามก่อนที่ลูกบอลจะไปตกอยู่กลางสนาม

     

    เมื่อลูกบอลถูกส่งมายังกลางสนาม เด็กหนุ่มทั้งสองที่อยู่ขนาบซ้ายขวาจึงวิ่งเข้ามารับลูกพร้อมกัน ต่างฝ่ายต่างก็คิดว่าตัวเองมีโอกาสที่จะยิงประตูได้มากกว่าอีกคน แต่สิ่งที่ทั้งสองคนคิดกลับผิดคาด

     

     

     

    !!!

     

     

     

    ทันทีที่ทั้งคู่วิ่งเข้ามารับลูกพร้อมกัน ขาของทั้งคู่ก็ปะทะกันเข้าอย่างจัง ขาซ้ายของชานยอลเตะไปโดนขาข้างขวาของเซฮุนอย่างเต็มแรง ทำให้ทั้งคู่เสียหลักล้มไปกลางสนามท่ามกลางความตกใจของบรรดาผู้ชม

     

     

     

    ปี๊ดดดดดดดดด!!!!!”

     

     

     

    กรรมการเป่านกหวีดเพื่อยุติการแข่งขันทันทีก่อนที่ฝ่ายพยาบาลจะรีบวิ่งเข้าไปดูอาการเด็กหนุ่มทั้งสอง แบคฮยอนเห็นอย่างนั้นก็ตกใจมาก คนตัวเล็กรีบลุกขึ้นยืนทันทีก่อนจะวิ่งเข้าไปในสนามแต่กลับถูกคยองซูดึงเอาไว้เสียก่อน

     

    ไอ้แบค มึงอยู่นี่เถอะ เข้าไปก็เกะกะเขาเปล่าๆ

     

    แต่มึง.... แบคฮยอนเสียงสั่นและดวงตาเริ่มมีน้ำใสๆคลอเต็มไปหมด เขาเป็นห่วงทั้งสองคน เขาจะไปดูให้เห็นกับตาว่าทั้งสองคนไม่เป็นอะไร

     

    มึงใจเย็นๆนะ สองคนนั้นไม่เป็นอะไรหรอก

     

    แต่--

     

    มึงตั้งสติก่อน ปล่อยให้ฝ่ายพยาบาลเขาจัดการเถอะนะ” คยองซูดึงคนตัวเล็กเข้ามาตบหลังปลอบ เขารู้ว่าแบคฮยอนร้อนใจแต่เข้าไปมุงตอนนี้ก็ช่วยอะไรไม่ได้ เขาจึงกดไหล่เพื่อนสนิทให้นั่งสงบสติอารมณ์แล้วปล่อยให้ฝ่ายพยาบาลหามทั้งสองคนออกไปจากสนาม

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    การแข่งขันยุติลงโดยคยองซูไปเจรจากับฝ่ายตรงข้าม เนื่องจากตัวนำของฝ่ายเราเจ็บไปถึงสองคนจึงไม่สามารถแข่งต่อได้อีก ซึ่งฝ่ายนั้นก็ยอมตกลงให้ยุติการแข่งขัน อาจจะเป็นเพราะอีกฝ่ายโดนนำคะแนนไปเยอะจนพวกเขาเองก็คงอยากจะเริ่มการแข่งใหม่เหมือนกัน

     

    หลังจากที่ชานยอลและเซฮุนถูกส่งไปที่โรงพยาบาล หมอก็ได้ตรวจและทำการรักษาเรียบร้อย โดยมีสาวๆตามติดมากำลังใจถึงที่โรงพยาบาล ชานยอลแขนข้างซ้ายซ้นจนต้องใส่เฝือก ส่วนเซฮุนขาข้างขวาหักเลยต้องนอนค้างที่โรงพยาบาล

     

    หมอบอกว่านายยังเดินไปไหนมาไหนไม่ได้ เพราะฉะนั้นนายต้องลาเรียนแล้วอยู่ที่นี่จนกว่าจะหาย แบคฮยอนนั่งลงข้างๆเตียงคนไข้

     

    แต่ผมเบื่ออ่ะ

     

    เดี๋ยวพี่จะมาอยู่เพื่อนไง ดีมั้ย?” พอได้ยินอย่างนั้นเซฮุนจึงยิ้มกว้างจนหน้าบาน

     

    เซฮุน เดี๋ยวพี่ขอตัวไปข้างนอกแป๊บหนึ่งนะ

     

    ไปไหนครับ?”

     

    เอ่อคือ... แบคฮยอนตอบเสียงตะกุกตะกัก

     

    “....”

     

    ไปหาพี่ชานยอล…” แบคฮยอนไม่อยากโกหก เขาคิดว่ามันจะดีกว่าถ้าบอกเซฮุนไปตรงๆ

     

    พี่จะไปหาเขาทำไม พี่ดูสิ เขาจงใจทำให้ผมเป็นแบบนี้นะ!!” เซฮุนเถียงเพราะเขาไม่อยากให้คนตัวเล็กไป

     

    ดูพูดเข้า พี่ชานยอลเขาไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อย

     

    พี่อยู่ข้างเขาหรือข้างผมอ่ะ

     

    เซฮุนอย่างี่เง่าสิ พี่เขาก็เจ็บตัวไม่น้อย ไม่มีใครอย่าให้เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นหรอก

     

    “....”

     

    ขอพี่ไปคุยกับเขาแป๊บหนึ่งนะ

     

    “....”

     

    นะ

     

    แค่แป๊บเดียวนะครับ เซฮุนพูดขึ้นก่อนจะเสมองไปทางอื่น

     

    น่ารักมากกก เดี๋ยวพี่มานะ แบคฮยอนดึงแก้มน้องรหัสก่อนจะยิ้มกว้างใส่แล้วเดินออกไปจากห้อง ขาเรียวมุ่งตรงไปยังห้องฉุกเฉินก่อนจะเจออีกคนนั่งอยู่หน้าห้อง แบคฮยอนสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะตั้งสติแล้วเดินเข้าไปหาอีกคน

     

    พี่ชานยอล เสียงเล็กเอ่ยเรียกอีกคนเบาๆก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆ

     

    อ่าว แบคฮยอน

     

    พี่เป็นยังไงบ้างครับ?” แบคฮยอนเอ่ยถามก่อนจะเหลือบมองแขนซ้ายของอีกคนที่ใส่เฝือกอยู่

     

    ไม่เป็นอะไรมากหรอก เดี๋ยวก็คงกลับแล้ว แขนซ้นนิดเดียวไกลหัวใจ ชานยอลยิ้มบางๆให้คนตัวเล็กก่อนจะหลบตาแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ เขาไม่รู้จะพูดอะไรกับคนตัวเล็กดี ตอนนี้มันเหมือนมีอะไรบางอย่างมาคั่นกลางระหว่างเรา และอะไรบางอย่างที่ว่านั่นมันกำลังเล่นงานเขาจนรู้สึกจุกและอึดอัดไปหมด

     

    แบคอยากคุยกับพี่…”

     

    “....”

     

    อยากจะขอโทษพี่ด้วย แบคฮยอนก้มหน้าก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เขากำลังรวบรวมความกล้าเพื่อที่จะพูดทุกอย่างออกมา เขาอยากจะปรับความเข้าใจกับพี่ชานยอล

     

    แบคชอบพี่พี่ก็คงรู้

     

    “....”

     

    แล้วแบคเองก็รู้....ว่าพี่ก็ชอบแบคเหมือนกัน

     

    “....”

     

    แต่สิ่งที่แบคกังวลมาตลอดคือความไม่ชัดเจน

     

    “....”

     

    แบคไม่รู้ว่าจริงๆแล้วพี่รักแบคมั้ย จริงๆแล้วเราเป็นอะไรกัน

     

    “....”

     

    ทำอะไรได้บ้าง ทำอะไรไม่ได้บ้าง จะสำคัญตัวได้มากแค่ไหน

     

    “....”

     

    จะหึงพี่ได้มั้ย งอนพี่ได้หรือเปล่า

     

    “....”

     

    มันไม่รู้อะไรสักอย่างเลย” คนตัวเล็กก้มหน้าหลบตา เขาไม่กล้าสบตากับอีกคนเพราะกลัวว่าน้ำตามันจะไหลออกมา

     

    แบคชอบพี่มาก แล้วก็รอว่าสักวันพี่จะทำอะไรๆให้มันชัดเจนสักที

     

    “....”

     

    แต่ผ่านมาหนึ่งปีพี่ก็ไม่พูด แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นสบตากับคนที่เคยรักสุดหัวใจ เสียงเล็กเริ่มสั่นเล็กน้อยและเริ่มมีน้ำใสๆคลอเต็มดวงตาเรียวสวย

     

    “....”

     

    แบครอแล้วรอเล่า จนวันที่หัวใจมันเริ่มอ่อนล้า

     

    “....”

     

    แบคได้เปิดใจรับคนใหม่ไปแล้ว น้ำตาสีใสไหลลงอาบแก้มทั้งสองข้าง ยิ่งสบตากับคนตรงหน้าก็ยิ่งทำให้น้ำตาไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ความรู้สึกในตอนนี้มันเกินกว่าที่เขาจะรับไหว เขาเองก็รู้สึกแย่ที่เรื่องของเขากับพี่ชานยอลมันต้องจบลงไปแบบนี้ แต่ในเมื่อเรื่องทุกอย่างมันดำเนินมาจนถึงตอนนี้ เขาได้ตัดสินใจที่จะก้าวเดินไปข้างหน้าแล้ว เขาจะไม่มีวันถอยหลังกลับไปอีก

     

    เข้าใจแล้ว พี่ผิดเองที่ไม่ยอมทำอะไรให้มันชัดเจนสินะ ชานยอลที่นั่งเงียบมานานพูดขึ้น เรื่องนี้จะโทษใครไม่ได้นอกจากตัวเขาเอง เขาไม่คิดจะยืนยันความสัมพันธ์กับคนตัวเล็กจนทำให้เขาต้องสูญเสียสิ่งที่รักไป

     

     

     

    มันผิดที่เขาเอง

     

     

     

    ทุกอย่าง....มันเป็นเพราะเขา

     

     

     

    พี่ไม่ได้ผิดนะครับ มันผิดที่แบคต่างหาก” แบคฮยอนพยายามจะพูดออกมาอย่างยากลำบาก

     

    แบคผิดเองที่อดทนรอพี่ไม่ได้” เขาไม่สามารถกลั้นน้ำตาได้เลยแม้แต่นิด น้ำตาสีใสยังคงไหลออกมาจากดวงตาคู่สวยไม่หยุด เขาคิดว่าทุกอย่างมันเป็นความผิดของเขา ใจเขาไม่หนักแน่นพอ

     

    พี่แค่คิดว่ามันจะดีกว่าถ้าเราทั้งสองคนได้ศึกษากันและกันให้มันดีกว่านี้

     

    ฮึ่ก

     

    แต่มันคงจะช้าเกินไป” ชานยอลเงยหน้าขึ้นสบตากับคนตรงหน้า เขาไม่ชอบเลยเวลาที่เห็นน้ำตาของคนตัวเล็ก เขาอยากจะดึงอีกคนเข้ามากอดปลอบแล้วลูบหัวทุยเบาๆเหมือนอย่างที่เคยทำ แต่ในตอนนี้แค่จะยื่นมือไปเช็ดน้ำตาออกให้ก็ยังไม่กล้า

     

     

     

    ตอนนี้เขาไม่มีสิทธิ์ในตัวแบคฮยอนอีกต่อไปแล้ว

     

     

     

    แบค....ฮึ่ก” แบคฮยอนพยายามจะหยุดร้องเพื่อพูดความในใจออกมา แบคไม่อยากให้พี่โกรธเกลียดแบค

     

    ไม่แบคฮยอน พี่ไม่โกรธเราเลย” ชานยอลส่งยิ้มบางๆให้อีกคน เขาไม่โกรธคนตัวเล็กเลยแม้แต่น้อย กลับกันเขานึกโกรธตัวเองด้วยซ้ำที่รักษาคนตัวเล็กเอาไว้ไม่ได้

     

     แบคอยากให้เราเป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน....ฮึ่ก....ไม่อยากให้เรามึนตึงใส่กันนะ คนตัวเล็กยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาบนแก้มทั้งสองข้างก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อเรียกสติ

     

    แบคก็รู้ว่ามันไม่ง่าย

     

    “....”

     

    แต่พี่จะพยายามนะ ชานยอลยิ้มบางๆเพื่อให้อีกคนสบายใจทั้งที่ในใจเขาเองก็รู้

     

     

     

    ว่าเขาคงจะมองอีกคนเป็นพี่น้องกันอย่างเดิมไม่ได้

     

     

     

    แบคก็จะพยายามเหมือนกัน เรามาพยายามด้วยกันนะครับ ได้ยินอย่างนั้นแบคฮยอนก็สบายใจขึ้น เขายิ้มกว้างใส่คนตัวสูงก่อนจะยื่นนิ้วก้อยออกไปเพื่อขอคำสัญญาจากอีกคน ชานยอลก้มลงมองนิ้วก้อยเล็กๆที่ยื่นมาตรงหน้าก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ

     

     

     

    ถ้าคนตัวเล็กอยากได้คำสัญญา....เขาจะสัญญาให้ก็ได้

     

     

     

    ชานยอลค่อยๆยื่นนิ้วไปเกี่ยวก้อยกับอีกคนก่อนจะอมยิ้มออกมาบางๆ แค่นี้เขาดีใจมากแล้วที่อย่างน้อยเราก็จบกันไปโดยที่ยังมีความรู้สึกดีๆต่อกัน สิ่งที่คนตัวเล็กขอมันไม่ง่ายสำหรับเขาเลยสักนิด แต่เขาเชื่อว่าสักวันหนึ่งเวลาจะช่วยเยียวยาจิตใจของเขา

     

     

     

    เวลาจะทำให้ทุกๆอย่างมันดีขึ้นเอง

     

     

     

    เขาเชื่ออย่างนั้น....

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    กลับมาแล้ว

     

    แบคฮยอนเปิดประตูเข้าไปก่อนจะพบอีกคนนั่งอยู่ที่โซฟา ยิ่งไปกว่านั้นคือนั่งหน้าบูดเป็นตูดเลย

     

    หมอบอกห้ามเดินนะ ทำไมไม่นอนอยู่บนเตียงล่ะ

     

    “....”

     

    แบคฮยอนหันมองอีกคนเมื่อเห็นว่าไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก

     

    ทำไมเงียบ เป็นอะไร?”

     

    ไหนว่าจะไปแป๊บเดียว เซฮุนพูดขึ้นเสียงนิ่งๆโดยที่ไม่หันไปมองอีกคน

     

    ก็....ไปไม่นานเอง

     

    นานมากกกกกก!!!” เซฮุนหันมองใบหน้าน่ารักของอีกคน ก็ไหนว่าจะไปแป๊บเดียว เล่นไปซะนานจนเขาหงุดหงิด ไม่รู้ว่าไปคุยอะไรกันตั้งนานสองนาน

     

    โอ๋~ งอนเหรอ?”

     

    “....”

     

    อย่างอนสิ ก็กลับมาแล้วนี่ไง แบคฮยอนยื่นหน้าเข้าไปใกล้อีกคนก่อนจะซบใบหน้าลงกับไหล่กว้าง

     

    งอนแบบนี้ระวังหน้าจะแก่น้าาา แบคฮยอนจิ้มนิ้วลงบนหว่างคิ้วของน้องรหัสแต่อีกคนกลับขมวดคิ้วหนักยิ่งกว่าเดิม

     

    “....

     

    ต้องง้อยังไงถึงจะหายโกรธ หื้ม?”

     

    ก็พี่-- อื้มมม

     

    คำพูดน้อยใจที่กำลังจะเอ่ยออกมาต้องถูกกลืนลงไปเมื่อร่างเล็กลุกขึ้นนั่งคร่อมบนตักก่อนจะประกบริมฝีปาก เขาจูบเม้มริมฝีปากหนาทั้งบนและล่างอย่างเอาใจก่อนจะแทรกลิ้นเรียวเข้าไปในโพรงปากของอีกคน

     

    อื้มม เซฮุนก็คือเซฮุน ตกใจได้ไม่นานก็จูบตอบกลับอีกฝ่ายก่อนจะตะหวัดลิ้นหนาเพื่อชิมความหอมหวานจากอีกคน จูบกันอย่างนั้นจนพอใจก่อนที่แบคฮยอนจะถอนริมฝีปากออกมาแล้วสบตากับน้องรหัสในระยะใกล้

     

    มีอารมณ์เหรอเด็กลามก คนตัวเล็กจิ้มนิ้วลงบนหน้าผากกว้างอย่างรู้แกวเมื่อรู้สึกได้ถึงอะไรแข็งๆที่ดันก้นของเขาอยู่

     

    “....”

     

    จะช่วยนายดีมั้ยนะ?” แบคฮยอนแกล้งขยับสะโพกถูไถกับกางเกงคนตัวสูงพร้อมส่งสายตาเจ้าเล่ห์

     

     

     

    สายตา....ที่เซฮุนไม่สามารถควบคุมสติได้อีกต่อไป

     

     

     

    ถ้าพี่ช่วย ผมจะหายงอนก็ได้

     

     

     

     

    C U T

    ไปค่าาาาาา อย่ารอช้า ลิ้งค์อยู่ในไบโอทวิต @Auaum_CB น้าาาาา ไปโล้ดดดด

     

    50%

     

     

     



    ป้อนหน่อยครับ


    แบคฮยอนจ้องใบหน้าหล่อของน้องรหัสที่ตอนนี้นั่งยืดขาอยู่บนเตียงคนไข้ เมื่อวานหลังจากที่ง้ออีกคนจนเสร็จ เขาก็ต้องอยู่ค้างคืนที่โรงพยาบาลเป็นเพื่อนคนตัวสูงเพราะอีกคนบอกว่ามันเหงา แปลกที่เดี๋ยวจะนอนไม่หลับ เขาเลยจำเป็นต้องอยู่ แค่นั้นยังไม่พอ มีการชวนเขาให้ขึ้นมานอนบนเตียงด้วยกันอีก อ้างว่าไม่อยากให้เขานอนที่โซฟาเดี๋ยวจะเมื่อยหลัง เขาเลยดีดตะเหม่งไปหนึ่งทีโทษฐานขี้อ้อนจนเกินงาม ตอนนี้ก็เหมือนกัน เขาอุตส่าห์ออกไปซื้อโจ๊กร้อนๆมาให้เพราะเห็นบ่นว่าข้าวโรงพยาบาลไม่อร่อย แต่ดูตอนนี้สิ นั่งงอมืองอเท้าเหมือนเด็กรอแม่ป้อนข้าว อย่างนี้มันใช่เหรอ?


    มือก็ใช้ได้นี่ ทำไมไม่กินเอง เขาค่อนข้างจะชอบที่พักหลังมานี้คนตัวสูงทำตัวน่ารักขึ้นมาก ทั้งอ้อนทั้งปากหวาน แต่นี่มันเกินไปหน่อยไง อ้อนเก่งจนน่าหมั่นไส้


    กินเองก็ได้ครับ แต่อยากให้พี่ป้อนมากกว่า


    เหอะ


    น้าาา


    “....”


    นะครับ


    ใบหน้าที่เคยแสดงออกว่ารำคาญทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ ตอนนี้กำลังออดอ้อนกระพริบตาถี่เพื่อขอความรักจากอีกคน แบคฮยอนไม่เคยคิดเลยว่าน้องรหัสเขาจะเป็นแบบนี้ ถ้าไม่เจอกับตัวให้ตายยังไงก็ไม่มีทางเชื่อ


    นายนี่มัน... ถึงจะมองอีกคนด้วยสายตาคาดโทษแต่สุดท้ายก็ต้องยอมใจอ่อนอยู่ดี คนตัวเล็กนั่งลงข้างเตียงก่อนจะตักโจ๊กขึ้นมาเป่าให้หายร้อนแล้วยื่นให้น้องรหัส เซฮุนอ้าปากงับช้อนก่อนจะมองใบหน้าหวานแล้วอมยิ้มเล็กน้อย ข้าวเช้าวันนี้อร่อยกว่าทุกวัน

     



    คงจะไม่ต้องบอกใช่มั้ยว่าเพราะอะไร?

     



    พอกินข้าวเสร็จก็ต่อด้วยแอปเปิ้ลหนึ่งลูกแล้วก็ไม่พ้นแบคฮยอนเป็นคนปอก คนตัวเล็กเพิ่งจะรู้ว่าเจ้าเด็กนี่มันร้ายนัก แถมเอาแต่ใจมากเสียด้วย


    เดี๋ยวเลิกเรียนจะมาหานะ


    รีบกลับมานะครับ...คิดถึง...


    แหวะ แบคฮยอนทำท่าอาเจียนใส่อีกคน เดี๋ยวนี้ชักจะเอาใหญ่แล้ว ปากหวานจนนึกอยากจะให้มดกัดปากให้บวมไปเลย


    พอออกจากโรงพยาบาลแบคฮยอนก็มุ่งตรงไปที่หอเพื่ออาบน้ำแต่งตัวแล้วเดินทางไปมหาวิทยาลัย ไม่นานก็ถึงห้องเรียน คนตัวเล็กเดินเข้าไปในห้องก่อนจะนั่งลงตรงที่ว่างข้างๆคยองซูกับจงแด ทั้งสองคนเหล่มองแบคฮยอนเล็กน้อยก่อนที่คนตาโตจะตบไหล่คนตัวเล็กเบาๆ


    เห้ย!! สุขสันต์วันเกิดเว้ยย คยองซูพูดด้วยน้ำเสียงกับใบหน้านิ่งๆก่อนจะค่อยๆเผยรอยยิ้มออกมาบางๆ


    สุขสันต์วันชิงหมาเกิด เอ้ย สุขสันต์วันเกิดนะไอ้แบคฮยอนนน!!!” จงแดเดินเข้ามาก่อนจะยีหัวคนตัวเล็กให้ยุ่งๆด้วยความหมั่นเขี้ยว


    เห้ย ลืมไปเลยอ่ะ พวกมึงจำได้ไงเนี่ย?” แบคฮยอนมองหน้าเพื่อนสนิทสองคนสลับกันไปมา ขนาดเขายังลืมเลย เจ้าเพื่อนพวกนี้จำได้ยังไงกันนะ


    วันเกิดเพื่อนสุดที่รักทำไมพวกกูจะจำไม่ได้วะห้ะ จงแดหยิกแก้มกลมแรงๆอย่างหมั่นเขี้ยวจนมันย้วยติดมือออกมา ไม่เหมือนมึงหรอกวันเกิดตัวเองก็จำไม่ได้


    ช่วงนี้ยุ่งๆอ่ะ เลยลืมไปเลย แบคฮยอนตีหน้าผากตัวเองเบาๆ ทำไมเขาถึงลืมวันเกิดตัวเองได้นะ บ้าจริง


    เลิกเรียนไปหาอะไรกินกัน เดี๋ยวพวกกูเลี้ยงเอง คยองซูหันหน้ามาชวนแบคฮยอน ปีที่แล้วก็เป็นอย่างนี้ ไปกินอาหารต่อด้วยของหวานล้างปากแล้วก็ไปดื่มกรึ๊บๆให้เมากันไปข้างหนึ่ง


    ไม่อ่ะ ขอโทษนะ วันนี้ไม่ว่าง แบคฮยอนปฏิเสธคำชวนของเพื่อนทั้งสอง เพราะเขานัดน้องรหัสเอาไว้แล้ว


    ไปไหนวะ? ปกติมึงจะต้องไม่พลาดของกินอ่ะ โดยเฉพาะของฟรี จงแดขมวดคิ้วแปลกใจที่แบคฮยอนสนใจอย่างอื่นมากกว่าของกิน


    นัดเซฮุนเอาไว้แล้วอ่ะ


    อ๋ออออ นัดผัว เอ้ย!! นัดแฟนนี่เอง


    ไอ้จงแด!!” แบคฮยอนเขกโหนกเพื่อนสนิทแรงๆไปหนึ่งทีโทษฐานพูดจาปากหมา


    ก็มันจริงอ่ะ เดี๋ยวนี้เป็นอะไรกันไปหมด นี่ก็หลงเด็กเดือน นั่นก็หลงเด็กดำ ถามจริง เด็กน้อยมันมีอะไรน่าตื่นเต้นเหรอวะ?” จงแดชี้หน้าแบคฮยอนกับคยองซูสลับกันไป ไอ้เพื่อนพวกนี้นี่ยังไงกัน เป็นคนดีๆไม่ชอบ ชอบเป็นโคแก่


    แล้วถ้ากูถามมึงกลับว่าคนแก่มีอะไรดีมึงจะตอบว่าอะไร?” คยองซูถลึงตาใส่จงแดก่อนจะถามคำถามที่จงแดเองก็ตอบไม่ได้ว่าทำไมถึงชอบคนอายุมากกว่าแบบมินซอก

     

     

     

     

     

     



     

     

     

     


     

     

    ตอนนี้ชานยอลนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ริมสระน้ำ สายตาคมกำลังทอดมองพระอาทิตย์ที่กำลังจะตกดิน ความรู้สึกของเขาตอนนี้มันก็ไม่ต่างอะไรกับพระอาทิตย์เลยสักนิด ส่องแสงเจิดจ้าได้แค่ช่วงเวลาหนึ่ง แต่อีกสักพักก็จะถึงเวลาที่ต้องตกลงไป ตลอดเวลาที่ผ่านมาชานยอลไม่เคยมองใครเลยนอกจากแบคฮยอน ในใจของเขามีแต่แบคฮยอน การที่ต้องสูญเสียคนตัวเล็กไปก็เหมือนหัวใจเขาถูกทำลายไปด้วย



     

    พัง....ไม่มีชิ้นดี

     



    เห้อออ...


    ชานยอลหลับตาลงก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เรื่องนี้จะไปโทษใครไม่ได้เลย เขาต้องโทษตัวเองที่จับมือคนตัวเล็กไว้ไม่แน่นพอ


    ชานยอล


    เสียงเล็กร้องเรียกชื่อเขาดังขึ้นมาก่อนที่เขาจะลืมตาแล้วพบอี้ชิงยืนอยู่ตรงหน้า อี้ชิงส่งยิ้มบางๆทักทายก่อนจะนั่งลงข้างๆอีกคน


    แขนเป็นยังไงบ้าง?” อี้ชิงถามไถ่อาการคนตัวสูง เมื่อวานเขาเองก็ตกใจไม่น้อยเลยที่เห็นเหตุการณ์ในสนาม เขาเป็นห่วงคนตัวสูงแทบตาย


    ไม่เป็นอะไรมากหรอก ไกลหัวใจจะตาย ชานยอลยิ้มกว้างให้อีกคนก่อนจะสังเกตว่าสีหน้าอีกคนไม่ค่อยดี


    มานั่งเล่นเหมือนกันเหรอ? ชานยอลเอ่ยถามคนตัวเล็ก เขาไม่คิดว่าเวลานี้จะมีใครมานั่งดูพระอาทิตย์ตกด้วยความสิ้นหวังแบบเขา


    เปล่า....เราตั้งใจมาหาชานยอล อี้ชิงเงียบไปก่อนจะล้วงกระเป๋าแล้วหยิบของชิ้นหนึ่งออกมา


    เราให้... อี้ชิงยื่นโหลคุ๊กกี้ให้คนตัวสูงพร้อมกับจดหมายน้อยหนึ่งใบ คุ๊กกี้ช็อกโกแลตชิพในโหลแก้วที่ผูกโบว์สีแดงสวยงามเป็นของชิ้นสุดท้ายจากอี้ชิง


    อาทิตย์หน้าเราจะกลับจีนแล้วนะ


           “….”


    บอกตามตรงว่าชานยอลเองก็ใจหายเหมือนกันที่ได้ยินแบบนั้น ถึงเขากับอี้ชิงจะเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นานแต่อี้ชิงก็เป็นเพื่อนที่ดีของเขาคนหนึ่ง เขารู้สึกใจหายแปลกๆที่จะไม่ได้เจอเพื่อนคนนี้อีกแล้ว


    ทำไมรีบกลับล่ะ ยังไม่จบเทอมเลย ชานยอลถามเสียงแผ่ว


    พ่อเราป่วยน่ะ แล้วไม่มีใครดูแล เราเลยขอทางโครงการกลับก่อน อี้ชิงตอบกลับก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับคนตรงหน้า


    นี่เป็นของชิ้นสุดท้ายที่เราจะให้ชานยอลแล้วนะ


           “….”


    เพราะฉะนั้น...


           “….”


    ชานยอลต้องกินให้หมด ห้ามเหลือเลย


           “….”


    แล้วก็ต้องนึกถึงกันด้วยนะ อี้ชิงส่งยิ้มบางๆให้คนตัวสูง ของชิ้นนี้เขาตั้งใจทำมันมากกว่าครั้งไหนๆ ทำด้วยรอยยิ้ม ทำด้วยน้ำตาแห่งความคิดถึง

     



    ทำด้วยความรัก...

     



    เราจะลืมอี้ชิงได้ยังไง


           “….”


    ขอบคุณสำหรับของทุกอย่างเลยนะ


           “….”


    อันนี้ก็เหมือนกัน เราจะกินให้หมดไม่ให้เหลือเลย ชานยอลยิ้มกว้างให้อีกคน พอคิดว่ามันเป็นของชิ้นสุดท้ายก็รู้สึกใจหายบอกไม่ถูก


    ขอให้เดินทางปลอดภัย โชคดีนะ...


           “….”


    เพื่อน...


    คำสุดท้ายมันทำให้อี้ชิงแทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เขาไม่ได้เสียใจที่อีกคนมองเขาเป็นแค่เพื่อน แต่เขากำลังเสียใจที่ต่อจากนี้เขาจะเป็นแค่คนในความทรงจำของชานยอลเท่านั้น เขาจะไม่มีโอกาสได้ทำอะไรให้อีกคนกินอีกต่อไปแล้ว นานวันไปชานยอลอาจจะลืมเขา แต่เขาจะไม่มีวันลืมอีกคนแน่นอน


    งั้นเราไปแล้วนะ อี้ชิงโบกมือให้คนตัวสูงเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะจดจำใบหน้าของคนที่เขารักสุดหัวใจ ชานยอลยิ้มบางๆแล้วโบกมือให้ก่อนที่อี้ชิงจะหันหลังเดินจากไป ชานยอลมองตามแผ่นหลังของอี้ชิงก่อนจะก้มลงมองโหลคุ๊กกี้ในมือแล้วตัดสินใจเปิดจดหมายน้อยซองสีชมพูอ่านทันที

     



    ถึง....ชานยอล


    หวัดดี เราอี้ชิงนะ เราดีใจที่ชานยอลเปิดจดหมายของเราอ่าน เราไม่มีอะไรจะพูดมากมายหรอก ที่ผ่านมาขอบคุณมากนะที่เป็นเพื่อนที่ดีกับเรามาตลอด ต่อไปไม่มีชานยอลเราคงจะเหงา คุ๊กกี้ชานยอลต้องกินให้หมดนะ แล้วก็ห้ามลืมเราด้วย เราจะคิดถึงชานยอลเสมอ

     



    ชานยอลเงยหน้าขึ้นมองแผ่นหลังคนตัวเล็กที่เดินจากไปไกลแล้วพอสมควรด้วยความรู้สึกหลากหลายก่อนจะก้มลงอ่านข้อความสุดท้ายในจดหมาย

     



    ชานยอลอาจจะยังไม่รู้ แต่เรามีสิ่งหนึ่งที่อยากจะบอก แต่ไม่มีโอกาสได้บอกสักที

     



     “….”

     



    เราชอบชานยอลนะ... ขอบคุณสำหรับมิตรภาพดีๆที่มีให้ ขอบคุณจริงๆ


    หวังว่าเราจะได้เจอกันอีก :)


    จางอี้ชิง...

     



    ประโยคสุดท้ายในจดหมายทำให้ชานยอลรู้สึกหัวใจหล่นวูบลงไป เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าอีกคนชอบเขา ทำไมเขามันโง่ที่ไม่รู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาอีกคนมีใจให้ เขามันคนซื่อบื้อ

     



    อี้ชิง!!!

     



    ชานยอลตะโกนเรียกคนตัวเล็กจากอีกฝั่งหนึ่งของสระน้ำ ไม่รู้ว่าคนตัวเล็กจะได้ยินม้้ย แต่เขาอยากที่จะบอกให้อีกคนได้รู้

     



    ว่าเขาได้รับหัวใจของอีกคนแล้ว...

     



    อี้ชิงหันมาตามเสียงเรียกแล้วยิ้มบางๆให้อีกคนก่อนจะทำหน้าเหรอหราเพราะได้ยินเสียงอีกคนไม่ค่อยถนัด



    เราอ่านจดหมายแล้วนะ!!

     

    “….”


    น้ำใจของอี้ชิงเรารับเอาไว้แล้ว!!


    “….”


    ขอบคุณมากนะ!!!


     

    สิ้นเสียงตะโกนของชานยอล อี้ชิงก็ไม่สามารถกลั้นน้ำตาได้อีกต่อไป น้ำตาสีใสหยดลงมาอาบแก้มทั้งสองข้างก่อนจะยิ้มบางๆด้วยความดีใจ ที่เขาต้องการมันก็แค่นี้ แค่คนตัวสูงยอมรับน้ำใจของเขาไว้เท่านั้น เขาต้องการแค่นี้จริงๆ ความสุขของเขาคือการที่ได้เห็นอีกคน ได้มองอีกคนอยู่ห่างๆ ได้แค่เพื่อน

     



    มันก็ดีมากแล้วจริงๆ...

     


     

     

     

     

     


     

     

     

     


     

     

    แบคฮยอนนัดน้องรหัสเอาไว้หกโมงเย็น แต่ตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มแล้ว สาเหตุของการสายในครั้งนี้ก็คือไอ้พวกเพื่อนที่ลากเขาไปกินเลี้ยง ทั้งที่เขาบอกว่าจะไม่ไปแล้วแท้ๆแต่พวกเพื่อนก็ยังคะยั้นคะยอจนได้ บอกว่าไปกินแป๊บหนึ่งก็ล่อไปสองชั่วโมง พอดูเวลาอีกทีก็สองทุ่มแล้ว ป่านนี้เจ้าเด็กขี้อ้อนคงจะรอแย่แล้ว


    ขาเรียวเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นจนแทบจะวิ่ง สองมือหิ้วอาหารโปรดของอีกคนแล้วตั้งหน้าตั้งตาวิ่งเข้าไปในโรงพยาบาลจนถึงหน้าห้อง คนตัวเล็กหยุดหอบหายใจเล็กน้อย เคาะประตูสามทีตามมารยาทก่อนจะเปิดเข้าไป น่าแปลกที่ในห้องมืดสนิทไปหมดจนมองไม่เห็นสิ่งรอบข้างเลย คนตัวสูงไปไหน ทำไมไม่อยู่ในห้อง


    มือเล็กข้างที่ว่างคลำหาสวิตซ์ไฟ แต่ยังไม่ทันจะได้กดสวิตซ์แสงสีเหลืองก็ปรากฏขึ้นในความมืดทีละดวงสองดวง

     



    แฮปปี้เบิร์ทเดย์ทูยู

     



    แฮปปี้เบิร์ทเดย์ทูยู...แฮปปี้เบิร์ทเดย์...แฮปปี้เบิร์ทเดย์...

     



    “….”

     



    แฮปปี้เบิร์ทเดย์ทูยู....

     



    เสียงเป็ดๆที่ร้องเพลงวันเกิดเมื่อครู่นี้ที่ไม่ได้มีความไพเราะเลยสักนิดแต่เป็นเสียงที่ฟังแล้วรู้สึกดีจนไม่สามารถหุบยิ้มได้เลย แบคฮยอนกดเปิดสวิตซ์ไฟเพื่อเพิ่มแสงสว่างภายในห้องก่อนที่ดอกกุหลาบสีขาวแสนสวยจะปรากฏสู่ตา 


    ดอกกุหลาบสีขาวห้าร้อยดอกถูกจัดวางเต็มห้อง กลิ่นหอมของมันทำให้แบคฮยอนรู้สึกดีจนอยากจะหันไปถามคนที่นั่งอยู่บนเตียงว่ารู้ได้ยังไงว่าเขาชอบดอกกุหลาบสีขาว


    แบคฮยอนมานี่ เสียงเข้มร้องเรียกอีกคนที่ยังคงยืนอึ้งกิมกี่อยู่หน้าห้อง แบคฮยอนได้สติจึงปิดประตูก่อนจะเดินเข้าไปหาอีกคนแล้วนั่งลงบนเตียงข้างๆ


    ทำไมไม่เรียกพี่ เรียกแบคฮยอนเฉยๆได้ไง


    ก็ไม่อยากเป็นพี่น้องแล้ว อยากเป็นอย่างอื่นมากกว่า


    จะอ้วก แบคฮยอนตีหน้าผากกว้างไปหนึ่งทีโทษฐานทำตัวน่ารักเกินไป


    อยู่มืดๆแบบนี้นานแค่ไหนแล้วคนตัวเล็กหันหน้าไปสบตากับน้องรหัส ถ้าคนตัวสูงจะทำเซอร์ไพรส์แสดงว่าจะต้องปิดไฟแล้วนั่งอยู่ที่มืดๆแบบนี้มาตลอดสองชั่วโมงเพื่อรอให้เขามาเปิดประตู คิดแล้วก็น่าสงสาร


    แล้วพี่คิดว่าผมรออยู่แบบนี้นานแค่ไหนล่ะครับ นัดกันไว้หกโมง แต่มาสองทุ่มเอาจริงๆคือเขาไม่ได้ปิดไฟรออยู่ในห้องสองชั่วโมงหรอก เขาก็แค่ให้ไอ้เพื่อนดำดูต้นทางให้ ถึงจะแอบหงุดหงิดนิดๆที่คนตัวเล็กมาสายทำให้ผิดแผน แต่ก็ต้องขอบคุณจงอินกับแทมินที่อุตส่าห์ไปซื้อพวกของทำเซอร์ไพรส์มาให้ ถ้าไม่มีไอ้พวกนี้เขาคงจะแย่


    ขอโทษ ก็เพื่อนรั้งเอาไว้อ่ะ ไม่ได้ตั้งใจจะผิดนัดนายเลยนะแบคฮยอนดึงแก้มน้องรหัสก่อนจะทำหน้าอ้อนเพื่อไม่ให้อีกคนงอแง


    พี่ต้องให้รางวัลความอดทนกับผมด้วยเซฮุนพูดก่อนจะยื่นแก้มอมลมให้อีกคน แต่กลับถูกดีดจนต้องลูบแก้มป้อยๆ


    สมน้ำหน้าแบคฮยอนหัวเราะออกมาเมื่อเห็นน้องรหัสยู่หน้าเหมือนเด็กไม่ได้ดั่งใจ มือเล็กหยิบดอกกุหลาบขึ้นมาหนึ่งดอก ก้มลงสูดดมความหอมของมันก่อนจะหลับตาลงแล้วอมยิ้มบางๆ


    พี่ครับ


    หื้ม?”


    สุขสันต์วันเกิดนะ เซฮุนจ้องใบหน้าหวานที่เริ่มจะขึ้นสีเพราะเขินที่ถูกเซอร์ไพรส์ 


    รู้ได้ไงว่าวันนี้วันเกิดพี่?”


    พี่คยองซูบอก


    แล้วรู้ได้ไงว่าพี่ชอบดอกกุหลาบสีขาว?”


    พี่จงแดบอก


    แล้วเค้กสตรอว์เบอร์รี่…”


    พี่จงแดก็บอก


    สรุปคือไม่รู้อะไรเลยสินะ แบคฮยอนบีบจมูกโด่งของอีกคนด้วยความหมั่นเขี้ยวก่อนจะหัวเราะเบาๆ


    แต่พี่ก็ชอบ?”


    ก็ต้องชอบอยู่แล้ว


    งั้นอธิษฐานแล้วก็เป่าเค้กสิครับ แบคฮยอนพยักหน้าเบาๆก่อนที่มือเล็กทั้งสองจะยกขึ้นกุมไว้ระดับอกแล้วก้มหน้าหลับตาอธิษฐาน เซฮุนจ้องมองใบหน้าน่ารักที่หลับตาอธิษฐานอย่างตั้งใจแล้วก็อมยิ้มออกมาบางๆ

     



    น่ารัก

     



    ไม่มีคำไหนจะบรรยายความเป็นแบคฮยอนได้ดีไปกว่า น่ารัก อีกแล้ว

     



    ปากเล็กเป่าลมลงไปบนเค้กจนเทียนทั้งหมดดับลงก่อนจะตบมือแปะๆเหมือนเด็กชอบใจที่ได้ของเล่น


    พี่อธิษฐานว่าอะไร?”


    ไม่บอก บอกก็ไม่เป็นจริงนะสิแบคฮยอนแลบลิ้นใส่น้องรหัสก่อนจะหันมาให้ความสนใจกับเค้กสตรอว์เบอร์รี่ตรงหน้า สตรอว์เบอร์รี่สีแดงสดกับครีมสีขาว ทั้งหมดนี่เป็นของบยอนแบคฮยอนคนเดียวสินะ แค่คิดก็น้ำลายไหลแล้ว


    ดอกกุหลาบเยอะดีเนอะ หมดไปเท่าไหร่เนี่ย?” แบคฮยอนละสายตาจากเค้กสตรอว์เบอร์รี่ก่อนจะหันไปมองหน้าน้องรหัส


    หลายตังค์อยู่ครับ


    รวยเนอะ


    เพื่อพี่ แค่นี้เล็กน้อยแบคฮยอนเบะปากใส่น้องรหัส แต่ละคำที่พูดออกมานี่เลี่ยนจนแทบจะสำลัก จริงๆเขาอยากให้เซฮุนเบาๆลงหน่อย แบคฮยอนไม่อยากให้มันเป็นแค่ช่วงโปรโมชั่น ไม่อยากให้หวือหวามากเกินไป แค่เสมอต้นเสมอปลายก็พอแล้ว


    ไปเอาคำพูดพวกนี้มาจากไหน?”


    คิดเองครับ


    นายเนี่ยนะ?” แบคฮยอนเลิกคิ้วใส่คนตัวสูง เขาสงสัยเหลือเกินว่าทำไมอีกคนถึงเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้ แต่ก่อนทำหน้าเหมือนเบื่อโลกอยู่ตลอดเวลา ดูตอนนี้สิ ยิ้มง่ายหัวเราะง่ายเหมือนคนเมากัญชา เคยมีอะไรพอดีกับเขาบ้างมั้ย?


    ของสำหรับพี่ยังไม่หมดนะ


    หื้ม มีอีกเหรอ?”


    มีของขวัญวันเกิด แต่อยู่นอกระเบียง พี่ต้องเดินไปเอาเองเซฮุนชี้นิ้วไปที่ระเบียงห้อง


    หมายความว่าพี่ต้องเดินไปเอามาเอง?”


    ก็ถ้าผมเดินได้ผมก็เอามาถวายพี่ถึงที่แล้วมันน่ารักขึ้นก็จริง แต่คำพูดคำจาบางคำก็ยังกวนตีนอยู่ สมกับเป็นโอเซฮุนจริงๆ แบคฮยอนลุกขึ้นเดินตรงไปที่ระเบียงก่อนจะเลื่อนกระจกแล้วออกไปดูของขวัญชิ้นพิเศษที่อีกคนเตรียมไว้ให้


    ทันทีที่เปิดประตูระเบียงออกไป ตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลตัวใหญ่ก็ปรากฏอยู่ตรงหน้า ที่คอของมันผูกโบว์เอาไว้แล้วมีการ์ดแขวนอยู่หนึ่งใบ ในนั้นมีข้อความเขียนว่า

     



    สุขสันต์วันเกิด พี่รหัสของผม

     



    มันก็ไม่ใช่คำหวานอะไรสักนิดแต่มันก็ทำให้คนอ่านยิ้มเขินออกมาไม่รู้ตัว  คนตัวเล็กอุ้มตุ๊กตาหมีเข้ามาในห้องก่อนจะวางลงข้างๆเตียงแล้วกระโดดขึ้นไปนั่งข้างๆน้องรหัสเช่นเดิม


    จำได้ด้วยว่าพี่อยากได้แบคฮยอนจำได้ว่าตอนที่ไปดูหนัง เขาเคยบอกว่าอยากได้เจ้าหมีตัวนี้ แต่ติดตรงที่ว่าเขาไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อมัน คิดไปคิดมาก็อยากจะตีอีกคนให้สำนึกว่าเงินแต่ละบาทมันหาได้ยาก แค่หมีตัวนี้ก็ราคาตั้งเท่าไหร่แล้ว ไหนจะเค้ก ไหนจะดอกกุหลาบห้าร้อยดอกนั่นอีก ให้ตายเถอะ ทำไมเจ้าเด็กนี่ต้องทำเพื่อเขาขนาดนี้นะ


    เรื่องของพี่ผมจำได้หมดแหละครับ


    เด็กบ้าแค่นี้เขาก็ไม่รู้จะตอบแทนกลับยังไงแล้ว ทั้งจำนวนเงินมหาศาลพวกนั้นกับความรักความใส่ใจที่อีกคนมีให้ เขารู้สึกว่ามันมากไปแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาชอบมันเอามากๆ

     



    ขอบคุณนะ

     



    จุ๊บ

     



    ริมฝีปากบางประทับลงบนแก้มของอีกคนเบาๆก่อนจะก้มหน้ายิ้มเขิน คนตัวสูงอึ้งเล็กน้อยเพราะโดนขโมยหอมแก้มโดยไม่ทันตั้งตัว เขาหันมองใบหน้าน่ารักที่เอาแต่ก้มหน้าเขิน


    ให้รางวัลแค่นี้เองเหรอครับ?”


    แล้วจะเอาเท่าไหร่ล่ะคนตัวเล็กยังคงก้มหน้าไม่เงยขึ้นสบตากับอีกคน


    ผมให้ไปเท่าไหร่ พี่ก็ควรจะให้คืนเท่านั้น


    “….”


    จริงมั้ยครับ?” เสียงเข้มกระซิบข้างหูอย่างแผ่วเบาให้ได้ยินเพียงแค่สองคน แก้มกลมเริ่มขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อและลามไปจนถึงใบหู มือเล็กทั้งสองข้างกำแน่นเพราะจมูกโด่งของอีกคนเริ่มอยู่ไม่สุข คนตัวสูงลากปลายจมูกวนไปวนมาบริเวณแก้มขาวเนียนก่อนจะลากลงมาที่ลำคอขาว แบคฮยอนหลับตาแน่นเมื่อลมหายใจอุ่นๆของอีกคนรดต้นคอของเขาอยู่


    พี่ครับ


    เสียงเรียกของอีกคนทำให้แบคฮยอนได้สติ ดวงตาเรียวลืมตาขึ้นก่อนที่แหวนสีเงินวงสวยจะปรากฏอยู่ตรงหน้าของเขา แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นมองอีกคนด้วยความรู้สึกหลากหลาย เขาไม่รู้ว่าตอนนี้เขาควรรู้สึกอะไรก่อนดี


    เป็นแฟนกันนะครับเสียงคนตัวสูงแผ่วเบาเหลือเกินแต่แบคฮยอนกลับได้ยินชัดเจนทุกถ้อยคำ แก้มแดงที่แดงอยู่แล้วก็ยิ่งแดงขึ้นไปอีก คนตัวเล็กเลียริมฝีปากตัวเองที่ตอนนี้มันเริ่มจะแห้งผากเพราะความตื่นเต้น


    แล้วที่ผ่านมาไม่ได้เป็นหรือไงเล่า..” คนตัวเล็กถามเสียงแผ่วด้วยความเขิน


    ก็เป็น แต่พี่ชอบคิดมาก ผมก็เลยอยากทำอะไรๆให้มันชัดเจน


    นี่ก็--


    พี่คยองซูบอกเมื่อวานตอนที่แบคฮยอนไปหาชานยอล คยองซูกับจงแดมาหาคนตัวสูงที่ห้องเพื่อถามไถ่อาการบาดเจ็บก่อนจะบอกอะไรหลายๆอย่างให้เขารู้ รวมถึงเรื่องที่แบคฮยอนคิดมากอยู่ในตอนนี้ด้วย


    ไอ้เพื่อนพวกนี้...แบคฮยอนบ่นเบาๆกับตัวเอง กลับไปเขาจะต้องไปเฉ่งไอ้เพื่อนสองตัวสักหน่อย โทษฐานที่บอกข้อมูลจนหมดเปลือก


    ตกลงเป็นแฟนกันนะครับเซฮุนจ้องใบหน้าน่ารักที่แกล้งหันมองไปทางอื่นเพราะความเขิน


    ก็เป็นดิเสียงเล็กตอบตกลงก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อรวบรวมสติ


    งั้นเอามือมาเซฮุนจับมือเล็กมาก่อนจะสวมแหวนสีเงินวงสวยที่นิ้วนางข้างขวาของพี่รหัส อะไรๆก็ดูง่ายไปหมดเพราะพี่จงแดบอกไซส์แหวนให้เรียบร้อยแล้ว คงจะไม่แปลกที่จะใส่นิ้วของคนตัวเล็กได้พอดี


    ผมจองไว้แล้วนะ เรียนจบจะให้พ่อมาขอ


    บ้า!!” แบคฮยอนตีแขนน้องรหัสไปหนึ่งทีโทษฐานที่ทำให้เขาเขินจนไม่รู้ว่าแก้มแดงไปไหนต่อไหนแล้ว


    เป็นแฟนกันแล้วนะ เลิกคิดมากได้แล้ว


    อื้มมแบคฮยอนอมยิ้มบางๆก่อนจะก้มลงมองแหวนที่อยู่บนนิ้วนางข้างขวาของตัวเอง คนตัวสูงเสียเงินไปเท่าไหร่กับการทำเซอร์ไพรส์เขาในครั้งนี้นะ ลองคิดเล่นๆว่าถ้าเจ้าเด็กนี่ไม่เจ็บขาคงจะเหมาเรือยอร์ชพาเขาไปล่องแม่น้ำชมดาวชมดวงจันทร์บนดาดฟ้าเรือแน่ๆ


    ผมขอรางวัลทำดีของแฟนหน่อยสิครับ ไม่รอให้อีกคนตอบตกลง มือหนาก็คว้าใบหน้าหวานของอีกคนเข้ามารับจูบ คนตัวสูงจูบเม้มริมฝีปากบนและล่างอย่างเอาใจก่อนจะแทรกลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปากของอีกคน ลิ้นร้อนตะหวัดหยอกล้อกับลิ้นของอีกคนอย่างชอบใจ แบคฮยอนยอมรับว่าตอนนี้เขารู้สึกดีเอามากๆ รู้สึกดีจนต้องจูบตอบอีกคนกลับไป


    อื้อออเสียงเล็กร้องประท้วงเพื่อขออากาศหายใจ หลังจากที่จูบกันแบบไม่มีใครยอมใคร แต่สุดท้ายแบคฮยอนก็ต้องยอมเซฮุนอยู่ดี


    หายใจไม่ทันแล้วเสียงเล็กแผ่วเบาหอบหายใจถี่รัว ใบหน้าหวานก็แดงก่ำ เซฮุนไม่รู้เลยสักนิดว่าใบหน้าแดงๆนั่นเกิดจากการหายใจไม่ทันหรือเกิดจากความเขินกันแน่


    คนตัวสูงจรดหน้าผากกับอีกคนก่อนจะอมยิ้มบางๆออกมา เขาสบตากับคนที่เป็นดั่งหัวใจของเขา ต่อจากนี้เขาจะดูแลรักษาคนตัวเล็กให้ดีที่สุด เขาจะจับมือคนตัวเล็กให้แน่น และจะไม่มีวันปล่อยมือเด็ดขาด


    ผมรักพี่นะ


    อื้ออ


    บอกรักผมบ้างสิเซฮุนจ้องใบหน้าน่ารักของอีกคนแล้วรอฟังคำบางคำอย่างตั้งใจ แบคฮยอนเงยหน้าสบตากับน้องรหัสก่อนจะเป็นฝ่ายทนสายตาเจ้าเล่ห์นั่นไม่ไหวเสียเอง


    รักนะ


    อะไรนะครับ ไม่ได้ยินเลยเซฮุนเอียงหูเข้าไปใกล้อีกคนเพราะเสียงของอีกคนเบาเหลือเกิน เขาก็ไม่ได้จะแกล้งให้พูดหลายๆรอบแต่เขาไม่ได้ยินจริงๆนี่นา


    รักนะ


    อีกทีสิครับ ผมฟังไม่ถนัด


    พี่...รัก...นาย...รักๆๆๆ...ได้ยินชัดมั้ย?” แบคฮยอนมองหน้าคนขี้แกล้งที่ชอบทำให้เขาเขินอยู่เรื่อย


    ชัดแล้วเซฮุนยิ้มกว้างอย่างพอใจ


    เอาอีกมั้ย?” แบคฮยอนไม่ได้ถามประชด แต่ถ้าคนตัวสูงต้องการเขาก็จะพูด แล้วก็จะพูดไปเรื่อยๆจนกว่าอีกคนจะพอใจ


    พี่ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ได้พูดหรอกครับ


    “….”


    เพราะผมจะขอฟังอีกเรื่อยๆ...เซฮุนยื่นหน้าเข้าไปใกล้พี่รหัสหวังจะหอมแก้มขาวให้ชื่นใจแต่ก็ถูกมือเล็กยันเอาไว้แล้วผลักออก


    ปากหวานให้มันน้อยๆหน่อย


    ปากหวานแล้วชอบมั้ยล่ะครับ?”


    ก....ก็ชอบ


    ถ้าชอบงั้นชิมอีกดีมั้ย?”


    ไม่ใช่ปากหวานแบบนั้น-- อื้อออริมฝีปากบางถูกครอบครองอีกครั้งโดยไม่ทันตั้งตัว ลิ้นร้อนแทรกเข้าไปเพื่อควานหาความหวานจากอีกคน เขาไม่สามารถละจากริมฝีปากบางนี้ได้เลยแม้แต่นิด มันเป็นเหมือนยาเสพติดที่ทำให้เขาติดจนถอนตัวไม่ขึ้น เช่นเดียวกับแบคฮยอน จูบอ่อนโยนที่เขาได้รับจากอีกคนมันทำให้เขาหลงใหล ไม่ว่าจะเป็นจูบครั้งไหน มันก็ทำให้เขาตัวอ่อนยวบจนแทบละลาย


    บทจูบร้อนแรงสลับกับอ่อนโยนที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลยังคงดำเนินต่อไป จนใครบางคนอาจจะลืมไปแล้วว่าวันนี้มาเพื่อฉลองวันเกิด

     



    ดอกกุหลาบ ตุ๊กตาหมี เค้กสตรอว์เบอร์รี่อะไร ไม่มีใครสนใจแล้ว...

     


     

     

     

     

     

    -----  The End  -----


     

    จบแล้ว แต่จบแบบไม่บริบูรณ์ เพราะมีสเปเชี่ยลต่ออีกสองตอน

    ใครอยากอ่านยกมือขึ้นเร๊ววววว คิคิ

     

     

     


     

    @Auaum_CB


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×