คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : [SS2] chapter 1 : Happiness (100%)
? cactus
Chapter 1 : Happiness
‘แต่งงานกันนะครับ’
‘บ....บ้า....ล้อเล่นป่ะเนี่ย’
‘ไม่เล่นครับ จริงจัง’
‘จะแต่งยังไง....เราเป็นผู้ชายนะ’
‘ผมไม่สนใจว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง’
‘….’
‘แล้วก็ไม่สนว่าใครจะว่ายังไงด้วย’
‘….’
‘ผมรู้แค่ว่าผมรักพี่ แล้วก็ต้องการจะอยู่กับพี่ไปตลอดชีวิต’
‘….’
‘บยอนแบคฮยอนจะไว้ใจให้โอเซฮุนคนนี้ดูแลชีวิตที่เหลืออยู่ของคุณมั้ยครับ?’
คำสัญญาที่เคยให้กันวันนั้น....
‘สัญญาว่าจะดูแลกันตลอดชีวิตแล้วนะ ห้ามผิดสัญญาด้วย’
‘สัญญาครับ โอเซฮุนคนนี้จะรักและดูแลบยอนแบคฮยอนไปจนวันตายเลย’
ไม่จำเป็นต้องมีคำหวานๆอะไรทั้งนั้น...
แค่รักและดูแลกันตลอดไปก็พอ…
.
.
.
.
.
.
เปลือกตาบางขยับเล็กน้อยเมื่อแสงแดดยามเช้าจากหน้าต่างสาดส่องเข้ามา
สองมือขยี้ตาอย่างงัวเงียก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้นเต็มดวง
อากาศในวันนี้เย็นสบายจนเขาแทบจะไม่อยากลุกออกจากเตียง ร่างเล็กบิดขี้เกียจนิดๆเพื่อไล่ความเมื่อยออกไปจากตัวก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบๆห้อง
คนตัวสูงไปไหนอีกแล้ว? ทำไมชอบทิ้งให้เขานอนอยู่คนเดียวนะ!
เมื่อไม่เห็นอีกคนอยู่ในห้องร่างเล็กก็มุดตัวออกจากผ้าห่มนุ่มนิ่มก่อนจะลุกออกจากเตียง
ขาเรียวก้าวเดินลงจากชั้นสอง
สายตาสอดส่องหาอีกคนพลางสูดจมูกฟุดฟิดเมื่อได้กลิ่นหอมของอาหารโปรด
แบคฮยอนหันมองซ้ายมองขวาก่อนที่สายตาเรียวจะหันไปเห็นอีกคนกำลังทำอาหารเช้าอยู่
คนตัวเล็กค่อยๆย่องเข้าไปใกล้ไม่ให้แฟนหนุ่มรู้ตัวก่อนจะสวมกอดอีกคนจากข้างหลัง
ใบหน้าหวานแนบซุกกับแผ่นหลังกว้างของคนรักอย่างออดอ้อนแล้วอมยิ้มออกมาบางๆ
“ตื่นแล้วเหรอครับ?”
เซฮุนหันมองคนด้านหลังเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยทักทาย
“อื้อ
พอตื่นมาไม่เห็นนายก็เดินลงมาตามเลย คิดถึง” พูดจบก็กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นอีก
เซฮุนเห็นอีกคนอ้อนหนักก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู
คนตัวเล็กชอบทำตัวน่ารักแบบนี้ตลอด จะไม่ให้เขารักได้ยังไง
“ทำอะไรอยู่?”
“ซักผ้ามั้งครับ”
“อย่ากวน นี่ถามดีๆนะ”
แบคฮยอนผละอีกคนออกอย่างหมดอารมณ์ก่อนจะยู่หน้าใส่
ก็เห็นอยู่ว่าทำอาหาร ยังจะตอบว่าซักผ้าอีก เซฮุนนะเซฮุน
นี่ถ้าไม่รักจะโบกให้คว่ำเลย
“ล้อเล่นคร้าบบบ”
คนตัวสูงหันหน้าเข้าหาอีกคนก่อนจะยิ้มกว้างหน้าระรื่นใส่อีกคนอย่างอารมณ์ดี
“ผมกำลังทำซุปเต้าเจี้ยว”
“ไม่--”
“ไม่ใส่แตงกวาครับ”
เซฮุนจ้องใบหน้าน่ารักก่อนจะอมยิ้มออกมาเล็กน้อย เขารู้ว่าอีกคนไม่ชอบแตงกวา
เพราะฉะนั้นบ้านนี้จะเป็นเขตปลอดแตงกวาแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ เขาไม่ใช่คนตามใจแฟนนะ
เขาแค่ไม่อยากให้แฟนหงุดหงิดเวลาเห็นมัน
“น่ารัก รู้ใจไปหมด”
แบคฮยอนบีบจมูกโด่งของอีกคนอย่างหมั่นเขี้ยว คนตัวสูงนึกถึงเขาตลอด
เซฮุนไม่เคยปล่อยให้บนโต๊ะอาหารมีแตงกวาเลยแม้แต่ชิ้นเดียว
จากที่เคยชอบก็ต้องเลิกกินเพราะคนตัวเล็กไม่ชอบมัน
“หอมจัง” คนตัวเล็กสูดดมความหอมของซุปก่อนจะเงยหน้ามองอีกคน “มีอะไรให้ช่วยมั้ย?”
“ไม่ต้องช่วยหรอกครับ
นั่งรอดีกว่านะ”
“ไม่เอาอ่ะ
พี่อยากช่วยนายบ้าง” เขาพูดจริงๆนะ ถึงเขาจะทำอาหารไม่เป็นแต่เขาก็อยากจะช่วยอีกคนหยิบจับอะไรบ้าง
อย่างน้อยก็รู้สึกว่าได้ทำอะไร ไม่ใช่ให้อีกคนดูแลเขาอยู่ฝ่ายเดียว
“นะ เซฮุนน้าาา”
“….”
“น้าาาา”
แพ้อีกแล้ว เซฮุนแพ้ให้ลูกไม้ตื้นๆกับใบหน้าน่ารักอีกแล้ว
เขาถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะพยักหน้าตกลง
“งั้นพี่เอาผักที่อยู่ในตะกร้าไปล้างให้ผมหน่อย”
เซฮุนพูดพลางชี้ไปที่ตะกร้าผักแถวๆอ่างล้างจาน
“โอเค ได้เลย!!” แบคฮยอนตอบรับอย่างแข็งขันแล้วยิ้มกว้างให้อีกคนก่อนจะเดินไปหยิบผักมาล้างตามคำสั่ง
มือเล็กหยิบผักขึ้นมาก่อนจะเปิดน้ำล้างพลางฮัมเพลงโปรดเบาๆอย่างอารมณ์ดี วันหยุดสุดสัปดาห์นี่มันดีจริงๆ
ไม่จำเป็นต้องออกไปเที่ยวนอกบ้านให้วุ่นวาย
แค่ได้อยู่บ้านกับคนตัวสูงแค่นี้ก็มีความสุขแล้ว
หลังจากล้างผักเสร็จมือเล็กก็ปิดน้ำก่อนจะหันมองแฟนตัวสูงที่กำลังยุ่งอยู่กับการทำอาหาร
จริงๆแล้วเขาอยากจะช่วยคนตัวสูงทำอะไรอีกสักหน่อย
นั่นสิ...แล้วเขาจะทำอะไรได้บ้างล่ะ?
คนตัวเล็กขมวดคิ้วใช้ความคิดเล็กน้อยก่อนจะก้มลงมองผักในมือตัวเอง
หั่นผักไง ใช่แล้ว....เขาจะต้องหั่นผัก!!
คิดได้อย่างนั้นแบคฮยอนก็วางตะกร้าผักลงก่อนจะเดินไปหยิบเขียงกับมีด
เอาจริงๆเขาไม่เคยหั่นพวกผักอะไรนี่เลยนะ แต่วันนี้เขาอยากจะทำให้คนตัวสูงเห็นแล้วอึ้งไปเลย
คนตัวสูงจะต้องชื่นชมเขาแน่ๆ
‘เอ...แล้วจะต้องหั่นเล็กหรือหั่นใหญ่’
‘จะหั่นตรงๆหรือหั่นเอียงๆดีนะ’
คนตัวเล็กพืมพำกับตัวเองในใจเล็กน้อย
ด้วยความที่เขาไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลยไม่ค่อยมีความมั่นใจที่จะทำมัน แบคฮยอนใช้ความคิดอยู่สักพักหนึ่งก่อนจะตัดสินใจลงมีด
ตอนนี้เขาเริ่มรับรู้ได้ถึงความสุขของการทำอาหารแล้ว มิน่าล่ะ
คนตัวสูงถึงชอบทำอาหารให้เขากิน เพราะมันรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจแบบนี้นี่เอง
แล้วมันจะดีแค่ไหนนะ
ถ้าเขาสามารถทำอาหารให้อีกคนกินบ้าง…
“โอ้ย! เจ็บ!!” ด้วยความที่เพลิดเพลินกับการหั่นจนเกินไปทำให้คนตัวเล็กไม่ทันระวัง
คมมีดบาดไปที่นิ้วชี้ข้างซ้าย รู้สึกเจ็บจี๊ดๆจนต้องร้องออกมา
“เป็นอะไรครับ?!”
เซฮุนหันมองคนตัวเล็กทันทีก่อนจะรีบเข้าไปดูอาการ
พอเห็นอีกคนโดนมีดบาดจนเลือดออกก็ใจไม่ดี ที่เขาไม่อยากให้คนตัวเล็กทำอาหารก็เพราะแบบนี้
เพราะคนตัวเล็กไม่ค่อยระวัง ชอบทำอะไรให้เขาเป็นห่วงอยู่เรื่อย
“ผมบอกแล้วไงว่าให้ล้างผักอย่างเดียว
แล้วพี่หั่นทำไม?” เซฮุนเอ็ดเสียงเข้มพร้อมมองคนอายุมากกว่าด้วยสายตาคาดโทษ
เขาไม่ได้อยากจะดุเลย แต่มันก็เป็นเพราะอีกคนไม่ยอมเชื่อฟังเขา
“ขอโทษ...” พอถูกดุใบหน้าน่ารักก็งอลงทันที เขาเองก็ไม่คิดว่าจะโดนมีดบาด
เขาแค่อยากช่วยคนตัวสูงทำอะไรบ้างแค่นั้นเอง
“อาาา...ผมไม่ว่าแล้ว”
เซฮุนถอนหายใจออกมาเบาๆ พอเห็นใบหน้าหงอยๆเขาก็อดใจอ่อนไม่ได้
เขาลากอีกคนมานั่งที่โต๊ะก่อนจะเดินไปหยิบกล่องยามาเพื่อทำแผลให้
“ทีหลังผมไม่ให้ทำแล้วนะครับ”
เสียงเข้มเอ่ยอย่างดุดันก่อนจะใช้สำลีซับเลือดออกให้
“โห นายอย่าดุนักสิ อ๊าาา!! เจ็บๆ เบาๆหน่อย” แบคฮยอนร้องเสียงดังเมื่อคนตัวสูงใส่ยาไปที่แผล
“ขนาดดุพี่ยังไม่ฟังเลย”
“….”
“คนดื้อ” ประโยคสุดท้ายเหมือนจะดุแต่ฟังแล้วรู้สึกชอบแบบบอกไม่ถูก
แบคฮยอนมองแฟนหนุ่มที่ก้มหน้าทำแผลให้เขาอย่างตั้งใจก่อนจะอมยิ้มเล็กน้อย
เขาไม่ได้ชอบโดนดุ แต่การที่อีกคนดุมันทำให้เขารู้ว่าอีกคนเป็นห่วงเขามากแค่ไหน
“ตัวเอง…”
“ครับ”
“เค้าอยากเรียนทำอาหาร” เซฮุนเงยหน้ามองคนอายุมากกว่าที่จู่ๆก็บอกว่าอยากจะเรียนทำอาหาร
แถมสรรพนามเค้ากับตัวเองนั่นอีก จะมาไม้ไหนล่ะคราวนี้
“จะเรียนทำไม ก็มีผมทำให้กินอยู่แล้ว”
“ก็เค้าอยากทำอาหารให้สามีกินบ้างนี่” นั่น
ปากหวานอีก เซฮุนขมวดคิ้วก่อนจะจ้องมองใบหน้าอีกคนที่ตอนนี้น่ารักเป็นพิเศษ
“เมื่อกี้พี่เรียกผมว่าอะไรนะ?” เขาสบตากับอีกคนก่อนจะเอ่ยถามประโยคเมื่อครู่
เมื่อกี้เขาได้ยินคำแปลกๆอะไรไม่รู้ ได้ยินไม่ค่อยชัดเท่าไหร่
“เรียกว่า....”
“….”
“สามี...”
แบคฮยอนก้มหน้ายิ้มเขินเล็กน้อย
เอาจริงๆเขาก็รู้สึกกระดากปากอยู่ไม่น้อย เขาเป็นผู้ชายแต่ต้องเรียกอีกคนว่าสามี
มันก็ตลกดี
พอเห็นอย่างนั้นเซฮุนก็หลุดหัวเราะออกมาเบาๆ
ตั้งแต่ตกลงปรงใจแต่งงานกันมา นี่เป็นครั้งแรกที่คนตัวเล็กเรียกเขาว่าสามี
ฟังแล้วมันรู้สึกจักจี้หน่อยๆ
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารู้สึกดีเอามากๆที่ได้ยินแบบนั้น
“คุณภรรยาไม่ต้องไปเรียนให้มันยุ่งยากหรอก”
“….”
“นั่งสวยๆ เดี๋ยวคุณสามีจะทำให้กินเองนะครับ”
“บ้า!!” มือเล็กฟาดลงที่ต้นแขนแกร่งเบาๆ
เขาแค่พูดเล่นๆเองแต่กลับโดนอีกคนพูดใส่จนรู้สึกเขิน ทำไมชอบทำให้เขาเขินอยู่เรื่อยเลยนะ
โอเซฮุนคนบ้า!!
“นั่งรอเฉยๆเลยนะครับ ผมไม่ให้ทำอะไรแล้ว”
“ง่ะ” ได้ยินอย่างนั้นแบคฮยอนจึงต้องยอมนั่งอยู่เฉยๆแล้วปล่อยให้อีกคนทำอาหารต่อไป
รอได้ไม่นานอาหารก็พร้อมรับประทาน หน้าตาน่ากินเหมือนคนทำไม่มีผิด แบคฮยอนสูดดมความหอมก่อนจะเงยหน้ามองแฟนหนุ่ม
“กินเลยนะ” พออีกคนพยักหน้าอนุญาตคนตัวเล็กก็ไม่รอช้า
มือเล็กตักซุปขึ้นมาเป่าเล็กน้อยให้หายร้อนก่อนจะชิมความอร่อย
“เป็นไงครับ?”
“เซฮุนทำก็ต้องอร่อยอยู่แล้ว” แบคฮยอนเคี้ยวตุ้ยๆเต็มแก้มทั้งสองข้างก่อนจะส่งยิ้มตาหยีให้อีกคน
ทุกอย่างที่เซฮุนทำอร่อยหมดเลย ไม่เคยมีอะไรที่ไม่อร่อย
“อร่อยก็กินเยอะๆนะครับ” เซฮุนตักหมูทอดใส่จานคนตัวเล็กแล้วอมยิ้มออกมาบางๆ
เขาเห็นอีกคนมีความสุข เขาก็มีความสุข
ถ้าคนตัวเล็กชอบ เขาก็ดีใจ...
หลังจากกินข้าวเสร็จทั้งสองคนก็ช่วยกันล้างจาน ตอนแรกแบคฮยอนจะล้างให้ แต่เซฮุนไม่ยอมให้ล้างเพราะนิ้วของอีกคนเป็นแผลอยู่ เขาไม่อยากให้แผลโดนน้ำ เถียงกันไปเถียงกันมาสุดท้ายแบคฮยอนก็ทำได้แค่ยืนให้กำลังใจแฟนหนุ่มอยู่ข้างๆ
“วันนี้ออกไปไหนกันมั้ย?”
“พี่อยากไปไหนล่ะครับ?” เซฮุนหันมองคนตัวเล็กนิดหน่อยก่อนจะหันไปสนใจจานตรงหน้าต่อ
“อยากไปสวนสัตว์ ไปสวนสัตว์กันนะ” แบคฮยอนทำหน้าออดอ้อนใส่แฟนตัวสูง
“ไปก็ได้ครับ แต่พี่ต้องเดินระวังๆหน่อยนะ”
“หื้ม ทำไมอ่ะ?” แบคฮยอนขมวดคิ้วถามอีกคน
“ก็ถ้าเดินหลงไปแถวๆกรงลิง เดี๋ยวจะแยกไม่ออกว่าไหนลิงไหนพี่แบคฮยอน”
“เซฮุน!!”
“อ๊าาา!! เจ็บครับ!!” เซฮุนร้องออกมาเพราะอีกคนลงเขี้ยวที่ต้นแขนของเขาจนจมเขี้ยว
คนตัวเล็กจ้องใบหน้าหล่ออย่างเอาเรื่องก่อนจะตีแข่นแกร่งไปอีกหนึ่งที
มาว่าเขาเป็นลิงก็ต้องโดนแบบนี้แหละ!!
“สมน้ำหน้า!!” พูดจบก็แลบลิ้นใส่อีกคนอย่างหมั่นไส้
“นี่แฟนหรือลูกหมาเนี่ย กัดเจ็บจัง”
“ย๊าาาา!!” มือเล็กเขย่าแฟนหนุ่มจนตัวโยกไปมาด้วยความโมโห
มาว่าเขาเป็นลิงแล้วยังว่าเขาเป็นลูกหมาอีก เซฮุนก็เซฮุนเถอะ วันนี้ไม่ตายดีแน่
“โอ้ยพี่!! ผมล้างจานอยู่ครับ!!” เซฮุนร้องห้ามอีกคนให้หยุดก่อนที่จานในมือจะลื่นตกแตก
เขามองใบหน้าหวานที่กำลังง้ำงอเพราะถูกล้อก่อนจะอมยิ้มบางๆออกมา
“ล้อเล่นเอง งอนเหรอครับ?”
“....”
“อาา....ผมขอโทษ”
“….”
“ผมให้ตีเลย ตีจนกว่าพี่จะพอใจ”
“….”
“หายงอนน้าาา นะครับ”
‘จุ๊บ’
“อื้อ!!” แบคฮยอนหันมองแฟนตัวสูงที่ขโมยหอมแก้มเขาแบบไม่ทันตั้งตัว
“ฉวยโอกาส!!”
“เอ้า!! หอมแก้มแฟนนี่เรียกฉวยโอกาสเหรอครับ?”
เซฮุนจ้องใบหน้าหวานที่เริ่มขึ้นสีเพราะความเขิน
“ผมให้หอมแก้มผมคืนเลย ดีมั้ย?” คนตัวสูงเอียงใบหน้าพร้อมยื่นแก้มใส่อีกคนก่อนจะทำแก้มอมลม
เห็นแล้วมันน่าดีดเสียให้เจ็บ
“ถ้าพี่ไม่หอมผม ผมจะหอมพี่แทนนะ” ไม่พูดเปล่าใบหน้าหล่อก้มลงขโมยหอมแก้มนุ่มนิ่มอีกครั้ง
“อื้อ!! พอแล้ว แก้มช้ำหมดแล้ว” เสียงเล็กพูดออกมาด้วยความเขินอาย
ถึงจะพูดไปอย่างนั้นแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาชอบเวลาคนตัวสูงหอมแก้มเขา
เขาอยากจะให้อีกคนหอมมันบ่อยๆด้วยซ้ำ
Rrrrrrrrrrrrrrr!!!!
เสียงโทรศัพท์มือถือคนตัวสูงที่วางอยู่บนโต๊ะดังขึ้นขัดจังหวะคนกำลังหวาน
เซฮุนหันมองต้นเหตุของเสียงเล็กน้อยก่อนจะล้างมือเดินไปหยิบโทรศัพท์แล้วกดรับสายทันที
“ครับพ่อ” พอได้ยินชื่อคู่สนทนาแบคฮยอนก็หันมองแฟนหนุ่มแล้วฟังบทสนทนาอย่างตั้งใจ
“วันนี้เหรอครับ?” เซฮุนเหล่มองแบคฮยอนเล็กน้อย
เขากำลังจะปฏิเสธว่าวันนี้ไม่ว่างเพราะนัดอีกคนไปเที่ยวแล้ว แต่คนตัวเล็กส่ายหน้าเป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไร
“อา....ได้ครับพ่อ....แล้วเจอกันนะครับ” พอพูดคุยกันจบคนตัวสูงก็วางสายโทรศัพท์ก่อนจะหันมองอีกคนแล้วทำสีหน้าเศร้า
“พ่อชวนไปกินข้าวครับ”
“อื้ม ได้ยินแล้วล่ะ”
“ขอโทษนะครับ อดไปสวนสัตว์เลย”
“ไม่เป็นไรหรอก” แบคฮยอนส่ายหน้าแล้วอมยิ้มบางๆก่อนจะเดินเข้าไปใกล้แฟนตัวสูง
“พ่อนายคงจะคิดถึงเลยอยากเจอ นายก็ไม่ได้กลับบ้านนานแล้วนี่”
“มันก็ใช่…”
“อีกอย่างนะ ไปเที่ยวกันไปเมื่อไหร่ก็ได้”
“….”
“ไปเจอหน้าพ่อบ้าง พ่อจะได้หายคิดถึง” มือเล็กโอบใบหน้าหล่อของแฟนหนุ่มก่อนจะยิ้มกว้างเพื่อให้อีกคนสบายใจว่าเขาไม่ได้คิดมากเรื่องนี้เลย
“ขอบคุณที่เข้าใจนะครับ” เซฮุนจับมือเล็กที่โอบใบหน้าของเขามาจับไว้แน่นแล้วก้มลงจูบที่หลังมือเบาๆ
ถึงแบคฮยอนจะเหมือนเด็กน้อยที่ต้องคอยดูแลอยู่ตลอด แต่บางทีแบคฮยอนก็มีความเป็นผู้ใหญ่และโตกว่าทางด้านความคิด
คนตัวเล็กมีเหตุผลแล้วก็คอยรับฟังเขาเสมอ
“ไว้วันหลังค่อยไปกันนะครับ”
“อื้อ” แบคฮยอนยิ้มบางๆให้แฟนตัวสูงก่อนจะนึกอะไรบางอย่างออก
“เซฮุน พี่ว่าพี่จะไปหาคยองซูสักหน่อยอ่ะ ไม่ได้เจอมันนานแล้ว” เขาเพิ่งนึกได้ว่าเขากับคยองซูไม่ได้นัดเจอกันมานานมากแล้ว
ไหนๆวันนี้ก็ไม่ได้ไปเที่ยวกับคนตัวสูงแล้ว ก็ได้โอกาสนัดเจอไอ้เพื่อนตาโตสักหน่อย
“ได้สิครับ แต่อย่ากลับดึกนะ ผมเป็นห่วง”
“ได้เลย พี่จะกลับเข้าบ้านก่อนสองทุ่ม โอเคมั้ย?” แบคฮยอนหยิกแก้มแฟนหนุ่มเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว
คำพูดพวกนี้ไม่รู้คนตัวสูงไปจดจำมันมาจากที่ไหน นับวันจะยิ่งปากหวานมากขึ้นๆ แบบนี้เขาจะไปไหนรอด
ณ
ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ที่ถูกประดับตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์แนววินเทจและดอกไม้นานาชนิด
มีเสียงเพลงสบายๆเปิดคลอเบาๆภายในร้าน
เป็นที่ที่เหมาะที่สุดสำหรับการนัดเจอใครบางคนในยามบ่ายแก่ๆ
คาปูชิโน่กับลาเต้เย็นถูกเสิร์ฟลงบนโต๊ะก่อนที่คนสองคนจะยกแก้วขึ้นดื่ม
ร้านนี้เป็นร้านโปรดของคนสามคนสมัยที่ยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย
การที่ได้กลับมาที่นี่อีกครั้งก็เหมือนได้มารำลึกความหลังครั้งยังวัยรุ่น
“ไง”
“ไงอะไร?”
“ฮันนีมูนไง
เป็นยังไงไม่เห็นเล่าให้ฟังเลย” แบคฮยอนจ้องหน้าเพื่อนตาโตที่ทำเป็นนิ่งเมื่อพูดถึงเรื่องชีวิตหลังแต่งงาน
“ก็ไม่มีอะไร”
“โกหก!!
หวานขนาดไหนเล่ามาเดี๋ยวนี้!!”
“....”
“จงอินงานดีมั้ยวะ?”
“ทำไมเสือกเรื่องกูจังเลยห๊ะ?!!” คยองซูตบโต๊ะเสียงดังก่อนจะจ้องหน้าเพื่อนตัวแสบเขม็ง
“โห่ นานๆเจอกันที
พูดจาดีๆหน่อยไม่ได้หรือไงวะ?” แบคฮยอนส่ายหน้าใส่เพื่อนสนิท
นี่คิดถึงนะเนี่ยเลยนัดมาเจอ ไม่คิดจะพูดด้วยถ้อยคำหวานหูกันหน่อยเหรอ
“แบบนี้แหละ พูดเพราะๆมันกระดากปากอ่ะ”
“เหอะ” คนตัวเล็กเค้นหัวเราะออกมาก่อนจะเบะปากใส่เพื่อนตาโต
ถึงช่วงนี้จะไม่ค่อยได้เจอกันแต่เขาก็รู้สึกว่าความสนิทของเขากับคยองซูไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย
กลับกันมันยิ่งจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆด้วยซ้ำ
“แล้วเป็นไงมาไง
จู่ๆนัดออกมาเนี่ย คิดถึงกูเหรอ?”
“จะว่าคิดถึงก็ได้อ่ะ วันนี้เป็นวันหยุด
อีกอย่างเซฮุนก็ไม่อยู่บ้านด้วย”
“อ๋อ ผัวไม่ว่างเลยอยากเจอเพื่อนว่างั้น” คยองซูเค้นหัวเราะออกมาก่อนจะก้มลงดื่มคาปูชิโน่
“เอ้า! ไอ้เวรนี่ ก็คิดถึงมึงนั่นแหละ
คิดถึงไอ้จงแดด้วย” เขาพูดจริงๆนะ เกือบจะปีหนึ่งแล้วที่เขาไม่ได้พบเจอกับเพื่อนสองคนนี้เลย
พอเรียนจบต่างคนต่างก็มีเส้นทางเป็นของตัวเอง งานก็ยุ่ง เรื่องปวดหัวก็มาก
จริงอยู่ที่เขามีเซฮุน แต่อยู่กับแฟนมันก็ไม่เหมือนอยู่กับเพื่อน
“อย่ามาสร้างภาพ มีอะไรก็พูดๆมา”
“โห่ อะไรวะ! รู้ไต๋ตลอดเลยอ่ะ!!” แบคฮยอนยู่หน้าใส่เพื่อนตาโต ไอ้เพื่อนคนนี้มันรู้ใจไปหมด
สมกับที่เป็นเพื่อนสนิทจริงๆ
“คนอย่างมึงดูง่ายจะตาย ไม่มีอะไรไม่นัดกูออกมาหรอก วันๆมึงมีแต่เซฮุน
เซฮุน เซฮุนนนนน” นั่น! แขวะกันอีก
แบคฮยอนไม่อยากจะเถียงเพราะที่คนตาโตพูดมันก็เป็นเรื่องจริง แต่คนตาโตใช่ย่อยอ่ะ
ชีวิตก็มีแต่จงอิน จงอิน จงอินเหมือนกันนั่นแหละ!
“อ่าว หน้างอเป็นตูดหมาเลย แซวนิดเดียวเอง”
“ก็มึงนั่นแหละ!!”
“อาๆ กูไม่พูดละ ตกลงมึงมีอะไร ไหนเล่าซิ” พอคยองซูเปิดโอกาสให้พูด
คนตัวเล็กก็เข้าสู่โหมดจริงจังทันที เขาจ้องหน้าเพื่อนสนิทก่อนจะเอ่ยปากออกมา
“มึง....คือกูอยากเรียนทำอาหารอ่ะ”
คนที่กำลังดื่มแทบจะพ่นคาปูชิโน่ออกมาเมื่อได้ยินว่าอีกคนอยากจะเรียกทำอาหาร
เขาหูฟาดไปหรือเปล่า เอ๊ะ....หรือว่าเขาหูแว่ว
“เมื่อกี้มึงว่าไงนะ?”
“กูบอกว่าอยากเรียกทำอาหาร”
“เดี๋ยวๆ นี่มึงคิดไงวะ?” คยองซูมองหน้าเพื่อนสนิทด้วยสายตาไม่เชื่อ
ไอ้เพื่อนคนนี้มันขี้เกียจตัวเป็นขน ขนาดจะลุกไปต้มมาม่ามันยังขี้เกียจเลย
แล้วนี่นึกไงจะเรียนทำอาหาร บ้าไปแล้ว!!
“กูแค่รู้สึกว่า....อยากจะทำอะไรสักอย่างให้เซฮุนบ้าง”
“….”
“เขาดูแลกูมาเยอะแล้ว”
“….”
“อย่างน้อยเขาจะได้ภูมิใจบ้างที่มีกูเป็นแฟน”
คยองซูจ้องมองเพื่อนสนิทที่สีหน้าและแววตาต่างไปจากทุกที
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นแบคฮยอนดูจริงจังมากขนาดนี้
“จริงๆกูก็พอจะรู้จักคนที่จะสอนมึงทำอาหารได้นะ”
“จริงดิ!!” แบคฮยอนส่งเสียงตื่นเต้นเมื่อได้ยินอย่างนั้น
“เขาเป็นใครเหรอ?”
“เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องกูเอง เขาจบมัธยมที่นี้ แล้วก็ไปเรียนต่อฝรั่งเศส
พอจบมาก็เป็นเชฟที่นั้นเลย ตอนนี้เขากลับบ้านมาพักร้อนอ่ะ”
“โห!! ให้กูเรียนกับเชฟฝรั่งเศสเลยเหรอ?”
แบคฮยอนทำตาโตเมื่อได้ยินประวัติของว่าที่อาจารย์ “จะไหวเหรอวะ?”
“เอ้า!! ตกลงมึงจะเรียนหรือไม่เรียนเนี่ย” คยองซูถลึงตาใส่คนตัวเล็ก เมื่อกี้ก็บอกอยู่หยกๆว่าอยากจะเรียน
พอเจอเชฟจากฝรั่งเศสเข้าหน่อย ต่อมขี้ขลาดก็ทำงานขึ้นมาทันที
“อาๆๆ เรียนก็ได้ ตกลงกูจะเรียน” แบคฮยอนตัดสินใจแล้ว
เรื่องนี้เขาจริงจังมากและเขาจะไม่ปล่อยให้มันเป็นเพียงแค่ความคิด
งานนี้ถึงจะลำบากสักหน่อย แต่สิ่งที่จะได้กลับมามันก็คุ้มค่าอยู่ ไม่ไหวก็ต้องไหว
“โทรหาพี่เขาให้กูหน่อยดิ?”
“อ...เอาตอนนี้เลยเหรอ?” คยองซูจ้องหน้าคนตัวเล็กอย่างงงๆ
บทจะใจร้อนก็จะเอาซะเดี๋ยวนั้น เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาก่อนจะกดโทรออก
ถือสายได้ไม่นานคนทางปลายสายก็รับ
“ฮัลโหลพี่คริส” คยองซูเอ่ยทักทายคนปลายสาย
“คืองี้ครับ พอดีเพื่อนผมอยากจะเรียนทำอาหาร ผมก็เลยแนะนำพี่ไป
พี่พอจะมีเวลาว่างช่วยสอนเพื่อนผมหน่อยได้มั้ย?”
“….”
“อา...ขอบคุณพี่มากเลยนะครับ แล้วจะเริ่มเรียนได้เมื่อไหร่ครับ?”
“….”
“อาทิตย์หน้าเหรอครับ?” คยองซูถามคนปลายสายก่อนจะเงยหน้ามองเพื่อนสนิทเป็นเชิงถาม
แบคฮยอนจึงชูนิ้วโอเคไป
“งั้นเป็นอาทิตย์หน้านะครับ ขอบคุณมากๆเลยนะครับพี่” คยองซูวางสายโทรศัพท์ก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อยให้เพื่อนสนิท
“ตกลงพี่ให้เริ่มเรียนอาทิตย์หน้าได้”
“เห้ย ขอบคุณมึงมากนะเว้ย” แบคฮยอนยิ้มกว้างก่อนจะจับมือคยองซูด้วยความดีใจ
“แล้วมึงไปเรียนคนเดียวได้เหรอวะ?”
“ใครบอกกูจะไปเรียนคนเดียว”
“….” แบคฮยอนจ้องหน้าเพื่อนสนิทก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง
“ไปกับมึงไง”
“ห๊ะ!!”
ออดี้สีดำเข้าจอดเทียบที่โรงรถบ้านหรูหลังใหญ่ก่อนที่ขายาวจะก้าวเดินลงมา
เกือบปีแล้วที่เขาไม่ได้กลับมาที่นี่เลย อะไรต่อมิอะไรก็เปลี่ยนแปลงไปเยอะ ชิงช้าที่เขาเคยนั่งเล่นสมัยยังเป็นเด็กตอนนี้ก็ผุผังไปตามเวลาจนถูกแทนที่ด้วยเหล่าดอกไม้นานาชนิด
ร่างสูงยืนมองภาพความทรงจำในวัยเด็กก่อนจะอมยิ้มออกมาบางๆ
การที่ได้กลับมาที่นี่ก็ดีไม่น้อย เขาก็คิดถึงมันมากเหมือนกัน
เซฮุนยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลาเล็กน้อยก่อนที่ขายาวจะก้าวเดินเข้าไปในบ้าน
“คุณผู้ชายคะ
คุณหนูมาแล้วค่ะ” เสียงหญิงวัยกลางคนดังขึ้นทันทีที่เขาก้าวเข้าไปในตัวบ้าน ใบหน้ายิ้มแย้มเอ่ยทักทายคนตัวสูงก่อนจะวิ่งเข้ามาจับมือคุณหนูผู้เป็นที่รัก
“ป้าครับ ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะ เลิกเรียกผมว่าคุณหนูได้แล้วครับ” เซฮุนพูดก่อนจะยิ้มบางๆให้ป้ายูจอง
ป้ายูจองเป็นแม่บ้านมาตั้งแต่คนตัวสูงยังไม่เกิดด้วยซ้ำ
พอแม่คนตัวสูงเสียไปตอนหกขวบ ก็ได้ป้ายูจองคอยดูแลทุกอย่างจนเหมือนเป็นแม่คนที่สอง
ด้วยความที่เธอไม่มีลูกด้วย เธอจึงเอ็นดูคุณหนูเหมือนลูกเหมือนหลาน
“คุณหนูก็ยังเป็นคุณหนูของป้าเหมือนเดิมนั่นแหละค่ะ”
ป้ายูจองยิ้มก่อนจะลูบใบหน้าหล่อเหลาด้วยความเอ็นดู
ถึงคุณหนูของเธอจะโตเป็นหนุ่มหล่อแล้ว แต่สำหรับเธอ
คุณหนูก็ยังเป็นเด็กตัวเล็กๆที่เธอเคยอุ้มอยู่เสมอ
“คุณหนูสบายดีนะคะ?”
“ผมสบายดี ป้าล่ะครับ?”
“ป้าไม่สบายเลยค่ะ คิดถึงคุณหนูมากกกก”
ป้ายูจองยิ้มกว้างจนตาหยีก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าจวนจะถึงเวลามื้อเย็นแล้ว
“ไปหาคุณผู้ชายกันดีกว่าค่ะ คุณผู้ชายรออยู่นานแล้ว”
ป้ายูจองเอ่ยขึ้นก่อนจะจูงมือคนตัวสูงไปที่โต๊ะอาหาร
“มาแล้วเหรอ?” เสียงเข้มของผู้ชายอายุประมาณห้าสิบต้นๆกล่าวขึ้น
สายตานิ่งๆกับน้ำเสียงเคร่งขรึมที่ใครต่อใครต้องเกรงกลัว
แต่เซฮุนกลับรู้สึกปลอดภัยเวลาได้ยินมัน
เขาโค้งทำความเคารพพ่อผู้ให้กำเนิดเล็กน้อยก่อนจะนั่งลงตรงที่นั่งประจำ
“สายหนึ่งนาที”
“ขอโทษครับพ่อ”
เซฮุนมองใบหน้าเคร่งขรึมของพ่อก่อนที่ทั้งสองคนหลุดหัวเราะออกมาพร้อมกัน
เป็นพ่อลูกกันมาทำไมเขาจะไม่รู้ว่าที่โหดๆอยู่นั่นแกล้งทำทั้งนั้น
พ่อก็เหมือนกับพ่อทั่วๆไป ดุด่าว่ากล่าวตามประสาพ่อ แต่ถ้าอยู่ในกรอบ
รู้จักหน้าที่ รู้จักรับผิดชอบ พ่อก็ไม่ใช่คนดุอะไร แค่ทำเป็นเข้มมม!!
“กินข้าวดีกว่า พ่อหิวแล้ว” คนเป็นพ่อส่งยิ้มให้ลูกชายนิดๆก่อนจะลงมือรับประทานอาหาร “วันนี้พ่อสั่งให้ป้ายูจองทำแต่อาหารที่แกชอบทั้งนั้นเลยนะ
นานๆทีจะได้กลับมา กินเยอะๆล่ะ”
“ครับ” เซฮุนยิ้มบางๆให้คนเป็นพ่อก่อนจะเริ่มมื้อเย็นของวันนี้
ฝีมือป้ายูจองยังอร่อยไม่เคยเปลี่ยน ที่เขาทำอาหารอร่อยก็เพราะได้ป้ายูจองนี่แหละเป็นคนสอน
“แกเป็นยังไงบ้าง บ้านช่องเรียบร้อยดีมั้ย?”
คนเป็นพ่อเอ่ยถามความเป็นอยู่ของลูกชาย
“ก็เรื่อยๆครับพ่อ
บ้านก็เรียบร้อยดีครับ”
“แล้วปกติแกหาข้าวกินที่ไหน
ทำกินเองหรือว่าซื้อล่ะ?”
“ส่วนใหญ่ผมจะทำกินเอง
แต่ถ้าวันไหนไม่ค่อยว่างก็จะซื้อเข้ามากิน”
“อื้ม ทำงานหนักแล้วยังจะทำกินเองอีก
เอางี้มั้ยให้ป้ายูจองไปอยู่ด้วย เขาจะได้ช่วยดูแลความสะดวกสบายให้แกได้” คนเป็นพ่อเสนอความคิด จริงๆเขาอยากจะให้มีใครสักคนไปดูแลเซฮุนสักหน่อย
บางทีเขาก็เป็นห่วงการกินการอยู่ของลูกชาย กลัวว่าจะไม่สะดวกสบาย
“ใช่ค่ะ
ป้าไปอยู่ดูแลคุณหนูได้นะคะ” ป้ายูจองช่วยเสริม
“ไม่เอาดีกว่าครับ ผมโตแล้วนะ
ดูแลตัวเองได้ แล้วก็...ถ้าป้าไปแล้วใครจะอยู่ดูแลพ่อล่ะครับ” เซฮุนรู้ว่าพ่อเป็นห่วงแล้วก็หวังดี แต่กลับกันเขาก็เป็นห่วงพ่อเหมือนกัน
เขาไม่ได้อยู่บ้านดูแลพ่ออย่างน้อยก็มีคนคอยช่วยเป็นหูเป็นตาให้
“บ้านหลังก็ใหญ่อยู่คนเดียวไม่เหงาแย่เหรอคะคุณหนู?”
ป้ายูจองเอ่ยถาม ซึ่งเซฮุนก็ได้แต่ส่ายหน้าก่อนจะส่งยิ้มบางๆให้
ถามมาได้ว่าเหงามั้ย มีลูกหมาให้นอนกอดทุกคืนจะเหงาได้ยังไง จริงมั้ย?
“อา...ตามใจแกแล้วกัน” พอเห็นว่าลูกชายยืนยันจะเอาแบบนั้นเขาก็ไม่อยากจะเซ้าซี้ “แล้วที่ทำงานแกเป็นยังไงบ้างล่ะ?”
“เพื่อนร่วมงานก็ดีครับพ่อ
ไม่อึดอัดใจอะไร” คนตัวสูงตอบก่อนจะตักกับข้าวใส่จานให้พ่อ
“เซฮุน พ่อพูดจริงๆนะ
พ่ออยากให้แกมาทำงานกับพ่อ”
“….” คนเป็นพ่อจ้องใบหน้าลูกชายด้วยสายตาจริงจังไปกว่าทุกครั้ง
เขาเคยพูดเรื่องนี้กับคนตัวสูงหลายครั้งแล้ว แต่คนตัวสูงก็ยังไม่เคยให้คำตอบอะไรกับเขาเลย
“ผมเรียนจบวิศวะนะครับพ่อ
ผมทำงานบริหารไม่เป็นหรอกครับ”
“แกก็ไปเรียนต่อบริหารสิ
แล้วก็ค่อยๆฝึกฝนไป มีคนเก่งๆหลายคนจะคอยสอนแกอยู่แล้ว
พ่อเชื่อว่าแกจะเป็นนักบริหารที่ดีได้แน่” คนเป็นพ่อยิ้มบางๆพร้อมส่งสายตาเป็นเชิงบอกลูกชายว่า
เขาเชื่อมั่นและไว้ใจในตัวลูก
“แกทำงานเป็นวิศวะก็เป็นลูกน้องเขาอยู่ร่ำไป
งานก็หนัก เงินก็ได้ไม่คุ้มค่าเหนื่อย”
“….”
“พ่อปูทางมาให้แกหมดแล้ว
แค่แกมาสานต่อมันให้เสร็จก็พอ”
“แต่พ่อครับ--”
“พ่อมีลูกชายคนเดียว”
“….”
“ประธานบริษัทคนต่อไปพ่อก็อยากจะให้เป็นแก…”
ตอนนี้เป็นเวลาดึกมากแล้ว
บ้านเมืองที่เคยเซ็งแซ่ก็เงียบสงัด ผู้คนต่างพากันหลับใหลกันจนหมด
แต่ยังมีหนึ่งคนที่ยังไม่นอน คนตัวเล็กเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จก่อนจะมานั่งจุ้มปุ๊กอยู่บนเตียงเพื่อคุยโทรศัพท์กับคนที่เพิ่งเจอเมื่อกลางวัน
(ทำไมกูต้องไปเรียนทำอาหารกับมึงด้วยวะ?)
“นี่มึงจะบ่นไปถึงไหน! มึงบ่นมาตั้งแต่ที่ร้านแล้วนะ”
(ก็กูข้องใจอ่ะ! มึงจะไปเรียนทำอาหารให้ผัวกิน
ละมันเกี่ยวอะไรกับกู!!)
“เกี่ยวสิ เกี่ยวตรงมึงเป็นเพื่อนกู
แล้วอีกอย่างผลพลอยได้ก็คือมึงได้เรียนไปทำให้จงอินกินด้วยไง”
(….)
“เป็นไง เข้าท่าใช่มั้ยล่ะ?”
(เออๆ ที่มึงพูดมามันก็ดี กูไปเรียนเป็นเพื่อนมึงก็ได้)
“ดีมาก!!
ต้องอย่างนี้สิเพื่อน” คนตัวเล็กยิ้มกว้างอย่างมีความสุข
พอคิดว่าสักวันจะได้ทำอาหารให้คนตัวสูงกินก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
เขาอยากจะข้ามเวลาไปตอนนั้นเลย ตอนที่คนตัวสูงชิมแล้วชมว่าเขาเก่งที่สุดน่ะ
(กูไปนอนก่อนนะ ดึกแล้วอ่ะ)
“โอเค ฝันดีนะ แล้วเจอกัน” ล่ำลากันเสร็จคนตัวเล็กก็กดวางสายโทรศัพท์ก่อนจะดูเวลาเล็กน้อย
นี่ก็ดึกแล้วนะ ทำไมคนตัวสูงยังไม่กลับมาอีก
แบคฮยอนทั้งคิดถึง ทั้งเป็นห่วง อยากจะโทรไปถามว่าเมื่อไหร่จะกลับ
แต่ครั้นจะโทรไปก็กลัวว่าจะไปรบกวนเวลาพ่อกับลูก
อีกอย่างเขาก็ไม่อยากทำตัวจู้จี้น่ารำคาญเหมือนพวกผู้หญิงที่คอยโทรจิกสามีให้กลับบ้าน
[นอนก่อนน้าาา รีบกลับมาล่ะ
เค้าคิดถึง >3<]
คนตัวเล็กกดส่งข้อความไปก่อนจะยิ้มเขินใส่โทรศัพท์
ถ้าคนตัวสูงได้อ่านข้อความนี้เขาจะต้องรีบกลับมาแน่นอน
แบคฮยอนกดปิดหน้าจอโทรศัพท์แล้ววางมันไว้บนหัวเตียงก่อนจะล้มตัวลงนอน
มือเล็กดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มจนถึงคอก่อนจะหลับตาลงแล้วเข้าสู่ห้วงนิทรา
ขายาวก้าวเดินท่ามกลางความมืดจากชั้นล่างขึ้นมายังชั้นสอง
นานๆทีจะได้กลับบ้านวันนี้ก็เลยอยู่คุยกันนานหน่อย พอได้รับข้อความว่า ‘คิดถึง’ เขาก็เลยรีบขอตัวกลับมาเพราะทนคิดถึงอีกคนไม่ไหวเหมือนกัน
มือหนาค่อยๆเปิดประตูห้องนอนก่อนจะพบร่างเล็กน่ารักนอนขดตัวอยู่บนเตียง
มือหนาค่อยๆวางของลงบนหัวเตียงอย่างเบาๆเพราะกลัวว่าจะเสียงดังแล้วทำให้อีกคนตื่น
ก่อนจะหยิบผ้าขนหนูแล้วเข้าไปอาบน้ำ
ใช้เวลาไม่นานร่างสูงก็อาบน้ำเสร็จ เขาเดินออกมาจากห้องน้ำพลางมองคนตัวเล็กที่นอนขดตัวอยู่บนเตียง ม้วนผ้าห่มขนาดนี้ นี่คนหรือดักแด้กันแน่เนี่ยยย เซฮุนหลุดหัวเราะออกมาเบาๆด้วยความเอ็นดูก่อนจะค่อยแทรกตัวลงนอนข้างๆแล้วสวมกอดอีกคนให้หายคิดถึง
“หือออ” คนตัวเล็กส่งเสียงร้องงัวเงียเล็กน้อยก่อนจะหันมองอีกคนในความมืด
“กลับมาแล้วเหรอ?”
“ผมทำพี่ตื่นเหรอ? ขอโทษนะครับ” เซฮุนใช้มือเขี่ยผมหน้าม้าที่ปรกใบหน้าหวานออกก่อนจะอมยิ้มบางๆ
“กลับดึกจังง”
“พี่นอนต่อเถอะ ไม่ต้องตื่นมาคุยกับผมหรอก” เซฮุนเอ่ยเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กทำท่าขยี้ตาเพื่อให้สร่างจากความง่วง
“ไม่เอา พี่อยากคุยกับนาย” คนตัวเล็กเลื่อนตัวขึ้นเล็กน้อยก่อนจะจ้องมองใบหน้าหล่อในความมืด
ขนาดมืดๆยังหล่อเลย แฟนใครก็ไม่รู้เนอะ
“ใครก็ไม่รู้ส่งข้อความมาบอกว่าคิดถึงผม”
“เค้าเองงง”
“คิดถึงผมเหรอครับ?”
“คิดถึงมากกกกกกกก!!” แบคฮยอนลากเสียงยาวก่อนจะซุกเข้าไปในอ้อมแขนอบอุ่นของอีกคน
“ผมก็คิดถึงพี่เหมือนกัน” เซฮุนก้มลงจูบหน้าผากแคบของคนตัวเล็กเบาๆแล้วก็อดไม่ได้ที่จะหอมแก้มซ้ายแก้มขวาแล้วก็ปากตะมุตะมินั่น
“อื้อออ!! พอได้แล้วน่า
ง่วงนอนแล้ว!!”
“ไหนใครบอกอยากจะคุยกับผม
อยู่คุยกันก่อนสิครับ” พูดจบก็ก้มลงหอมแก้มนุ่มนิ่มอีกรอบด้วยความหมั่นเขี้ยว
คนอะไรน่ารักตลอดเวลาจนอยากจะจับฟัดเสียให้ช้ำ
“ไม่เอา จะนอนแล้วว!!” แบคฮยอนผลักร่างสูงออกก่อนจะหันหลังหนีแต่กลับถูกอีกคนคว้าตัวไว้แล้วขึ้นคร่อมเสียก่อน
“เซฮุน!!”
“ยังไม่หายคิดถึงเลยครับ” สิ้นเสียงเข้มคนตัวสูงก็ก้มลงประกบริมฝีปากบางทันที เขาคิดถึงคนตัวเล็ก คิดถึงสัมผัสนุ่มนิ่ม
คิดถึงริมฝีปากรสหวาน
“อื้ออออ” คนตัวเล็กส่งเสียงเล็กน้อยเมื่อลิ้นร้อนแทรกเข้ามาในโพรงปาก
ลิ้นหนาตะหวัดไปมาไล่ชิมความหอมหวานที่โหยหามาตลอดทั้งวัน
จูบอยู่อย่างนั้นจนพอใจก่อนจะถอนริมฝีปากออกแล้วสบตากับคนใต้ร่าง
“พี่ครับ ผมอยาก....”
“….”
เซฮุนพูดขึ้นก่อนจะเว้นจังหวะหยุดไป แบคฮยอนสบตากับอีกคนในความมืดแล้วรอลุ้นว่าอีกคนจะพูดอะไร
แต่อีกคนกลับลุกออกจากตัวเขาแล้วนอนแผ่ลงไปเสียอย่างนั้น
“ช่างเถอะ พี่นอนเถอะครับ
ได้เวลานอนแล้วนะ”
“อ้าว…” แบคฮยอนหันข้างจ้องมองหน้าอีกคนด้วยความสงสัย
อยู่ดีๆก็หยุดไป ทิ้งกันกลางอากาศแบบนี้ก็ได้เหรอ?
“นายไม่...”
“อะไรครับ?”
“ก็....”
“ก็มันดึกแล้ว พี่ควรนอนได้แล้ว”
“….”
“พี่ง่วงไม่ใช่เหรอครับ?” พูดได้ยินอย่างนั้นแบคฮยอนถึงกับตาสว่างขึ้นมา
เขาลุกขึ้นนั่งก่อนจะจ้องใบหน้าหล่อในความมืด
“ไม่ง่วงแล้ว ตอนนี้ตาสว่างมากเลย”
“….”
“ไม่ง่วงจริงๆนะ” แบคฮยอนยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นเพื่อให้คนตัวสูงสานต่อเรื่องเมื่อครู่ ไม่รู้ว่าที่จริงแล้วตกลงใครกันแน่ที่ต้องการ
อาจจะเป็นแบคฮยอนเองก็ได้
“พี่-- อื้มมม” ยังไม่ทันจะได้พูดออกไป
ร่างหนาก็ถูกอีกคนขึ้นคร่อมก่อนที่ประกบริมฝีปากลงไป
แบคฮยอนดูดดึงริมฝีปากบนและล่างอย่างเอาใจ ตอนแรกเขาอาจจะง่วงก็จริง
แต่ไม่ใช่สำหรับตอนนี้ ถ้าคนตัวสูงต้องการ เขาก็จะสนองใจ
คนตัวเล็กยังคงบดเบียดริมฝีปากลงไปก่อนที่มือเล็กจะค่อยๆถกเสื้อยืดตัวใหญ่ขึ้นแล้วสอดมือเล็กเข้าไป
พรึ่บบบ!!
ร่างเล็กถูกดันให้นอนลงไปกับเตียงอีกครั้งก่อนที่อีกคนจะขึ้นคร่อมทันที
คนตัวสูงสบตากับคนใต้ร่างที่เต็มไปด้วยความต้องการไม่แพ้กัน
“ผมให้โอกาสพี่นอนแล้วนะครับ”
“อื้ออออ”
“ถ้าพี่ยังยืนยันแบบนี้ พี่อาจจะต้องนอนดึก หรือไม่ก็...”
“….”
“อาจจะไม่ได้นอน...” เซฮุนจ้องใบหน้าน่ารักด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ ที่เขาพูดนี่เขาไม่ได้ขู่นะ
คนอย่างโอเซฮุนพูดจริงทำจริงตลอดอยู่แล้ว
“ก็ไม่ได้อยากจะนอนสักหน่อย”
“จะเอาแบบนี้จริงๆใช่มั้ยครับ?”
“….”
“แล้วพี่จะเสียใจที่มาท้าผม”
สิ้นสุดเสียงเข้มคนตัวสูงก็ไม่ปล่อยให้เป็นแค่คำขู่อีกต่อไป
ใบหน้าหล่อก้มลงซุกไซร้ซอกคอขาวอย่างคนหิวกระหายก่อนจะสอดมือเขาไปในเสื้อเชิ้ตตัวบาง
คืนนี้เขาจะต้องจัดการลงโทษให้หนักๆ ต่อไปคนตัวเล็กจะได้รู้ว่า
ถ้าง่วงให้รีบนอน
C U T
จริงๆแล้วเนื้อหาซีซั่นสองในแชปแรกก็ไม่ได้มีสาระอะไรมาก สาระอยู่ตรงนี้ต่างหาก
ไม่รู้ว่ารีดเดอร์จะชอบอ่านมั้ย แต่ไรท์เตอร์ชอบเขียนมาก 555555555555555555555555555555555
#ficพี่รหัสของผม
@Auaum_CB
ความคิดเห็น