ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {SS2} [EXO] My Baby พี่รหัสของผม | HUNBAEK

    ลำดับตอนที่ #22 : [SS2] chapter 3 : loneliness (100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 657
      32
      1 ก.พ. 63


    ? cactus


            Chapter 3 : loneliness


                   



                กริ๊งงงงงง!!!

     



    “….”

     



    กริ๊งงงงงง!!!

     



    ฟลุ่บ...

     



    เสียงนาฬิกาปลุกในตอนเช้าดังระงมไปทั่วห้องนอน มือเล็กเอื้อมไปปิดต้นเหตุของเสียงดังก่อนจะโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่มหนา ร่างเล็กเด้งขึ้นมาจากเตียงแล้วบิดไล่ความขี้เกียจออกไปจากตัว วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่ต้องตื่นเช้าไปทำงาน แต่แตกต่างไปจากเดิมตรงที่

     



    ไม่มีคนตัวสูงคอยปลุกเขาอีกแล้ว....

     



    ขาเรียวก้าวลงจากเตียงก่อนจะเดินตรงไปยังห้องน้ำทันที ต่อไปนี้เขาจะมัวมานอนขี้เซาไม่ได้อีกแล้ว เพราะฉะนั้นมันคงจะถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องตื่นได้ด้วยตัวเองสักที


    ร่างเล็กยืนมองตัวเองในกระจกห้องน้ำ สภาพตอนนี้ดูไม่จืดจริงๆ หน้าตายับยู่ยี่ผมเผ้ายุ่งเหยิงไปหมด แบคฮยอนวักน้ำขึ้นก่อนจะถูใบหน้าไปมาให้สร่างจากความง่วง จัดการอาบน้ำแต่งตัวจนเสร็จแล้วจึงเก็บของเดินลงไปยังชั้นล่างของบ้าน


    แบคฮยอนวางของที่หอบพะรุงพะรังไว้ที่โซฟาก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นขนมปังทาแยมกับนมที่วางอยู่บนโต๊ะอาหาร ขาเรียวเดินตรงดิ่งไปที่โต๊ะทันทีแล้วหยิบกระดาษโพสอิทที่แปะอยู่ข้างๆขึ้นมาอ่าน

     



    ผมไปทำงานแล้วนะครับ นี่คือมื้อเช้าของพี่ที่ผมเตรียมไว้ให้ กินให้อร่อยนะครับ

     



    อ่อแล้วก็.....อย่านั่งกินจนเพลินนะครับ ไปทำงานสายไม่รู้ด้วยน้าาา

     



    อ่านถึงประโยคนี้รอยยิ้มบางๆก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหวานทันที เซฮุนดูแลเขาอย่างดีมาตลอด แม้ในเวลาเช่นนี้.....คนตัวสูงก็ยังคงนึกถึงเขาเสมอ


    แบคฮยอนหยิบขนมปังใส่ปากก่อนจะกัดมันลงไปหนึ่งคำแล้วอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอีกครั้ง มันก็แค่ขนมปังปิ้งทาแยมธรรมดาทั่วไปนี่แหละ แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้รู้สึกว่ามันอร่อยมากมายถึงขนาดนี้

     



    วันนี้ถึงแม้จะไม่มีคนตัวสูงไปทำงานกับเขาแล้ว แต่ก็เหมือนมีนั่นแหละนะ....

     

     

     

     

     

     

     

     

    #ficพี่รหัสของผม

     

     

     

     

     

     

     

     

    ไม่นานนัก.....แบคฮยอนก็เดินทางมาถึงที่ทำงานโดยมีคุณโชเฟอร์แท็กซี่เป็นคนขับรถมาส่ง เขาไม่ได้รู้สึกว่าการที่เขามาด้วยตัวเองมันไม่ได้ลำบากอะไรสักเท่าไหร่ แต่มันแย่ตรงที่เขาเคยมีคนตัวสูงอยู่ใกล้ๆตลอดเวลา


    ทุกวันจะต้องมาทำงานพร้อมกัน กินอาหารกลางวันด้วยกัน แล้วก็กลับบ้านพร้อมกัน แต่ว่าตอนนี้......แม้แต่ตื่นนอนก็ยังไม่ได้เจอหน้ากัน ตอนนอนเขาก็หลับไปก่อนเพราะอีกคนกลับมาดึกกว่า ต้องกินข้าวคนเดียว อยู่บ้านคนเดียว

     



    ให้ตายเถอะ......มันเป็นอารมณ์ที่เขาไม่ชอบเอาเสียเลย

     



    แบคฮยอนเดินมาถึงที่โต๊ะทำงานก่อนจะวางของต่างๆลง เขานั่งลงแล้วแอบถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ตอนนี้เขาแทบไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรเลยสักนิด ความเหงาเนี่ย.....มันคงจะฆ่าคนได้จริงๆสินะ


    อ้าว! แบคฮยอนระหว่างที่คนตัวเล็กกำลังเหม่อใจลอยอยู่นั้น เสียงซึลกิเพื่อนร่วมงานสาวที่เดินตามเข้ามาก็เอ่ยทักขึ้น


    หวัดดี...แบคฮยอนเอ่ยทักไปตามมารยาท


    ทำไมวันนี้มาแท็กซี่ล่ะ แล้วแฟนเธอล่ะไปไหน วันนี้ลาเหรอ?” เจ้าหล่อนถามด้วยความอยากรู้ตามประสาสาวช่างพูด


    วันนี้ไม่มา แล้ววันต่อๆไปก็จะไม่มาด้วย


    อ้าว!!” หญิงสาวอุทานออกมาเสียงดัง หมายความว่าไง? ที่ว่าจะไม่มาแล้วน่ะ


    “….”


    นี่เล่าหน่อย!” ซึลกิเขย่าแขนแบคฮยอนเพื่อคาดคั้นเอาคำตอบ คนตัวเล็กเงยหน้ามองเพื่อนร่วมงานเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจออกมา


    ลาออกแล้ว


    ห๊ะ! ลาออก!! ลาออกทำไม?!” พอได้ยินคำว่า ลาออกจากปากแบคฮยอนต่อมเผือกของเธอก็ทำงานขึ้นมาทันที


    ไปทำธุจกิจโรงแรมครอบครัวน่ะเสียงเล็กเอ่ยเบาๆก่อนจะก้มหน้าไม่สบตากับคนที่กำลังสนทนาอยู่


    อ๋าาา อย่างนี้นี่เองซึลกิส่งเสียงอย่างออกรสชาติแล้วเขาก็ทิ้งนายไปอ่ะนะ?” จบประโยคนั้นของหญิงสาวก็ทำเอาแบคฮยอนนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ


    “….”


    เขาไม่ได้ทิ้งฉันสักหน่อย เขาแค่ไปทำงานที่อื่น....แบคฮยอนตอบออกมาเบาๆ


    ให้ตายเถอะ! นายนี่มันอ่อนต่อโลกเหลือเกินนะหญิงสาวส่ายหน้าใส่คู่สนทนา


    ไอ้เรื่องแบบนี้มันเห็นได้บ่อยๆจะตาย ให้ฉันเดานะ นี่คงจะไม่ค่อยได้เจอกันด้วยล่ะสิท่า


    “….” แบคฮยอนนิ่งเงียบไป


              ไม่ตอบแปลว่าใช่ล่ะสิ!”


    “….”


    นี่ฉันจะบอกอะไรให้นะ ผู้ชายน่ะเป็นประเภทที่ปล่อยให้อยู่ไกลหูไกลตาไม่ได้


    “….”


    พอไปเจออะไรใหม่ๆ พวกผู้ชายก็มักจะออกนอกลู่นอกทางเสมอซึลกิขยับขึ้นนั่งบนโต๊ะก่อนจะพูดต่ออย่างสนุกปาก แล้วยิ่งถ้าทำงานบริษัทอย่างนี้ด้วยนะ ถ้าไปเจอเลขาสวยๆล่ะก็......โดนงาบไปแน่จะบอกให้ ในละครก็เห็นออกจะบ่อยไป


    แต่นี่มันไม่ใช่ละครแบคฮยอนเริ่มหมดความอดทน เอาตรงๆถึงแม้ว่าเขาจะมีคิดไอ้เรื่องแบบนี้อยู่บ้าง แต่ก็ไม่คิดหรอกว่ามันจะเกิดขึ้นจริง ชีวิตจริงไม่ใช่ละคร แล้วอีกอย่างเขาก็เชื่อ....

     



    เชื่อว่าคนตัวสูงจะไม่มีวันนอกใจเขาไปทำเรื่องอย่างนั้นเด็ดขาด

     



    บางทีชีวิตมันก็ยิ่งกว่าละครอีกนะแก....


    “….”


    ระวังไว้หน่อยก็ดีพูดจบหญิงสาวก็เดินจากไป ทิ้งให้แบคฮยอนนั่งจมอยู่กับความรู้สึกแย่ๆ ถึงแม้ว่าเขาจะไว้ใจคนตัวสูงมากแค่ไหนก็ตาม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า....

     



    คำพูดเมื่อครู่นี้มันมีผลกระทบกับเขามากเหมือนกัน

     

     

     

     

     

     

     

     

    #ficพี่รหัสของผม

     

     

     

     

     

     

     

     

    ก๊อกๆๆๆ.....

     



    คุณเซฮุนคะ


    เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนที่เลขาสาวจะเปิดประตูเข้ามา คนตัวสูงละสายตาจากกองเอกสารมากมายบนโต๊ะแล้วเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวเล็กน้อย


    ท่านประธานเรียกพบที่ห้องค่ะ


    “อ่า.....ได้ครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้” จบประโยคเซฮุนก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะทิ้งงานที่กองพะเนินเป็นภูเขาเอาไว้แล้วเดินตรงดิ่งไปยังห้องประธานทันที เมื่อถึงหน้าห้องเซฮุนก็เคาะประตูสองสามครั้งตามมารยาทก่อนจะเปิดเข้าไป


    มาแล้วครับท่านประธาน…” เซฮุนเอ่ยด้วยคำพูดอย่างเป็นทางการ ถึงแม้คนที่เขาเรียกว่าประธานจะเป็นพ่อของเขา แต่ที่นี่คือที่ทำงาน.....เขาต้องให้เกียรติตำแหน่งของพ่อและปฏิบัติตามสิ่งที่ควรปฏิบัติโดยไม่มีข้อยกเว้น


    เป็นกันเองเถอะนะ ตรงนี้มีแค่เรา...เมื่อได้ยินเสียงลูกชาย คนเป็นพ่อก็หันหน้ามาหาก่อนจะยิ้มทักทายบางๆอย่างอารมณ์ดี


    ทำงานเป็นยังไงบ้างล่ะ?” เขาเอ่ยถามลูกชายเกี่ยวกับเรื่องการทำงาน เพราะนี่ก็เข้าวันที่สี่แล้วที่เซฮุนเริ่มต้นทำงานที่นี่


    ก็มีที่ยากอยู่บ้างครับ แต่ก็ได้คุณยูฮียอลคอยให้คำปรึกษาเซฮุนตอบ


    อืม ค่อยๆเรียนรู้ไปเถอะนะ เดี๋ยวก็จะเป็นเอง คนเป็นพ่อเอ่ยแล้วยิ้มบางๆเล็กน้อย เขาเข้าใจดีว่ามันยาก ขนาดเขาเองยังต้องใช้เวลาเกือบจะทั้งชีวิตกว่าจะก้าวมาอยู่ ณ จุดนี้ ยิ่งเจ้าลูกชายของเขาไม่ได้ร่ำเรียนด้านบริหารมาเลยสักนิด ก็คงไม่แปลกอะไรถ้างานมันจะยังไม่เข้าทีเข้าทาง


    ที่พ่อเรียกแกมาก็ไม่มีอะไรหรอกนะ เพียงแต่มีคนๆหนึ่งที่อยากให้แกได้พบ


    ใครเหรอครับ?” คนตัวสูงถามด้วยความอยากรู้


    ให้ตายสิ! นี่แกเข้ามาไม่ได้สังเกตอะไรเลยงั้นเหรอ?” คนเป็นพ่ออมยิ้มก่อนจะส่งสายตาไปยังโซฟาด้านข้างที่คนเป็นลูกชายไม่ทันได้สังเกต


    เซฮุนหันมองตามสายตาของพ่อไปยังโซฟาก่อนจะพบกับบุคคลหนึ่งที่ไม่ได้เจอะเจอกันมานาน และไม่คิดว่าจะได้มาเจอกัน...


    “….”


    เจนนี่...




    30%

    #ficพี่รหัสของผม



     ·      แนะนำตัวละครใหม่ไฉไลกว่าเดิม

     

     เจนนี่ คิม

     




    [ต่อ]



    เจนนี่...


    เสียงเข้มเอ่ยชื่ออีกคนออกมาเบาๆอย่างไม่เชื่อสายตา.....ว่าคนที่ไม่ได้พบเจอกันมาสิบปีจะมาปรากฏอยู่ตรงหน้า สายตาคมไล่มองหญิงสาวในชุดเรียบง่ายแต่ดูหรู ผมดำยาวสวยจนถึงกลางหลัง ใบหน้าหวานก็ไม่ต่างอะไรกับเมื่อสิบปีที่แล้ว แต่รูปร่างของเธอกลับเปลี่ยนไป เธอดูโตขึ้นมาก.....เธอดูสาวและสวยขึ้นเมื่อเทียบกับเด็กสาววัยละอ่อนเมื่อคราวนั้น


    หญิงสาวมองเซฮุนและยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้าไปหาคนตัวสูงทันที


    ไฮเธอเอ่ยทักทายด้วยคำสั้นๆที่เข้าใจได้ง่าย ก่อนที่เธอจะวางมือสวยลงบนไหล่กว้าง แล้วเขย่งปลายเท้าประทับริมฝีปากที่แก้มคนตัวสูงเบาๆ

     



    จุ๊บ

     



    เซฮุนรีบดันตัวเธอออกทันทีด้วยความตกใจ เขาจ้องหน้าเธอด้วยสีหน้าคาดโทษเล็กน้อยให้กับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมนี้


    ทำแบบนี้ไม่ได้นะครับเสียงเข้มเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ ทำเอาใบหน้าสวยของหญิงสาวง้ำงอลงไปทันที


    เอาหน่า....อย่าว่าน้องเลยโอยองจุนพูดขึ้น น้องไปเรียนเมืองนอกมา ก็คงติดวัฒนธรรมฝรั่งเขาเขาเอ่ยกับลูกชายอย่างไม่คิดมาก


    แต่ที่นี่เกาหลีนะครับ ไม่ใช่เมืองนอก...เซฮุนพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆแล้วมองหน้าหงอยๆของหญิงสาว จริงๆเขาก็ไม่อยากจะว่าอะไร แต่พฤติกรรมที่เธอทำเมื่อครู่นี้มันไม่เหมาะสมจริงๆ แล้วอีกอย่าง.....เขาก็ไม่ชอบให้ใครมาทำแบบนี้กับเขาด้วย


    หน่าา….น้องกลับมาทั้งทีทำไมพูดจาแบบนี้ล่ะ ดูน้องสิ น้องโตแล้วดูเป็นยังไงบ้าง?” คนเป็นพ่อหันไปถามความเห็นจากลูกชาย


    โตแล้วก็.....สวยดีครับเซฮุนตอบไปตามที่ควรจะตอบ


    พี่เซฮุนก็หล่อขึ้นมากเหมือนกันนะคะหญิงสาวเอ่ยเบาๆก่อนจะยกยิ้มนิดๆ


    แน่นอน ลูกชายลุงโตมาก็ต้องหล่อเหมือนลุงสิ ฮ่าาๆๆๆคนเป็นผู้ใหญ่หัวเราะร่วนอย่างมีความสุข เอาเถอะ อย่ามัวแต่ยืนคุยกันอยู่อย่างนี้เลยนะ


    “….”


    หนูเจนนี่รีบกลับรึเปล่า ไปทานอาหารเที่ยงด้วยกันก่อนมั้ย?”

     

     

     

     

     

     

     

     

    #ficพี่รหัสของผม

     

     

     

     

     

     

     

     

    มื้อเที่ยงนี้ไม่ต้องไปไหนไกล เพราะในโรงแรมแห่งนี้มีห้องอาหารต่างๆเตรียมรับรองไว้พร้อมอยู่แล้ว ตอนนี้พ่อลูกกับอีกหนึ่งหญิงสาวนั่งกันพร้อมแล้ว โดยมีอาหารฝรั่งเศสอยู่เต็มไปหมด

     



    เหตุก็เพราะคนเป็นลุงกลัวหลานสาวที่ไปอยู่ฝรั่งเศสมาเสียนานจะไม่ถูกปากกับอาหารเกาหลี....

     



    ลุงก็ไม่รู้ว่ามันจะอร่อยเหมือนต้นตำรับหรือเปล่าน่ะนะ แต่ก็คิดว่าหนูเจนนี่น่าจะทานได้บ้าง


    ไม่หรอกค่ะ ทำได้อร่อยมากๆ รสชาติดีพอๆกับที่นั่นเลยหญิงสาวเอ่ยบอกคนเป็นลุง แต่จริงๆคุณลุงพาเจนนี่ไปกินอะไรง่ายๆก็ได้นะคะ เจนนี่คิดถึงอาหารเกาหลีจะแย่


    ฮ่าาๆๆ อย่างนั้นเหรอๆโอยองจุนหัวเราะร่วน งั้นเอาไว้วันหลังลุงกับเจ้าเซฮุนจะพาหนูไปกินร้านอร่อยๆนะ


    บทสนทนาบนโต๊ะอาหารมีเพียงคนเป็นลุงกับหลานสาวที่คุยกันเท่านั้น ส่วนอีกคนยังคงนั่งกินอยู่เงียบๆโดยจ้องมองแต่โทรศัพท์มือถือ เขารู้สึกเป็นห่วงว่าใครบางคนจะไม่ตื่นไปทำงาน โทรหาก็ไม่รับ ข้อความก็ส่งไปหาตั้งแต่เช้าจนตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับข้อความตอบกลับเลย


    ถ้าหนูเจนนี่อยากจะไปเที่ยวไหน ก็ให้เจ้าเซฮุนพาไปดีมั้ยล่ะ?”


    “ได้เหรอคะ เจนนี่เอ่ยถามเบาๆก่อนจะเงยหน้าขึ้นเหล่มองคนตัวสูงเล็กน้อย จะเป็นการรบกวนพี่เซฮุนหรือเปล่า?”


    “ได้สิ! ไม่รบกวนหรอก จริงมั้ยเซฮุน?”


    “….”


    เซฮุน


    “….”


    นี่! เซฮุน!!คนเป็นพ่อเรียกลูกชายเสียงดังเหมือนเห็นว่าลูกชายสนใจแต่โทรศัพท์ ไม่สนใจบทสนทนาในโต๊ะอาหารเลยแม้แต่น้อย


    ค...ครับ


    ไอ้ลูกคนนี้นิ ไม่มีใครเคยสอนหรือยังไงว่าเวลาร่วมโต๊ะอาหารมันควรจะวางโทรศัพท์ลงก่อนโอยองจุนเอ็ดลูกชายนิดๆ


    ขอโทษครับพอโดนว่าแบบนั้น คนตัวสูงก็เอ่ยขอโทษที่เสียมารยาท ก่อนล็อคจอโทรศัพท์แล้วเงยหน้าขึ้นมา คนเป็นพ่อส่ายหน้าให้ลูกชายเล็กน้อยก่อนจะหันไปชวนหญิงสาวคุยต่อ


    แล้วนี่เป็นไงมาไงถึงได้กลับมาเกาหลีล่ะหนูเจนสิ้นสุดประโยคคำถาม หญิงสาวก็นิ่งไปในทันที ทำให้คนร่วมโต๊ะรับรู้ได้ถึงบรรยากาศที่เริ่มไม่ค่อยจะดี ใบหน้าสวยของเธอสลดลงไปอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่เธอวางช้อนส้อมลงแล้วเงยหน้าขึ้นพูด


    คุณพ่อ....


    “….”


    ตอนนี้คุณพ่อป่วยหนักมากเลยค่ะ...หญิงสาวเอ่ยเบาๆเสียงสั่นเครือเล็กน้อยก่อนจะกำมือแน่น


    ป่วยเหรอ? เป็นอะไรทำไมลุงไม่รู้เลยยองจุนเอ่ยถามเบาๆอย่างตกใจ รวมถึงเซฮุนด้วยที่ก็ตกใจไม่แพ้กัน


    เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายแล้วค่ะ...เจนนี่เอ่ยเสียงสั่น ทำให้สองพ่อลูกถึงกับพูดไม่ออก


    ทำไมถึงไม่มีใครบอกลุงเลยล่ะ?!” ยองจุนถามหลานสาว ทำไมเขาถึงไม่รู้ว่าเพื่อนสนิทของเขากำลังป่วยอยู่ ทำไมถึงมารู้เอาป่านนี้


    ไม่แปลกที่คุณลุงกับพี่เซฮุนจะไม่รู้หรอกค่ะ...”


    “….”


    เพราะแม้แต่เจนก็เพิ่งมารู้ไม่นานเหมือนกัน


    สองพ่อลูกตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน โดยเฉพาะโอยองจุน.... พ่อของเจนนี่ถือว่าเป็นเพื่อนที่เขาสนิทที่สุด ทำธุรกิจโรงแรมมาด้วยกัน เวลามีปัญหาอะไรก็เกื้อหนุนกันมาตลอด แล้วเหตุใดที่เขาไม่รู้ว่าเพื่อนกำลังลำบาก


    ส่วนคนตัวสูงเองก็ตกใจมาก แล้วยิ่งตกใจเข้าอีกที่คนเป็นลูกอย่างเจนนี่ก็เพิ่งมารู้เช่นเดียวกัน


    คุณพ่อไม่บอกใครเลย....เจนนี่เว้นจังหวะพูดไป จนกระทั่งท่านไม่ไหว”


    บรรยากาศตอนนี้ทำให้มื้อกลางวันดูกร่อยลงไปทันที ไม่มีใครจับช้อนส้อมอีกเลยหลังจากนั้น โต๊ะอาหารในตอนนี้เงียบเกินไปจนคนเป็นผู้ใหญ่ต้องเอ่ยปากพูดก่อน


    ถ้ายังไงลุงจะขอไปเยี่ยมพ่อหนูเจนสักหน่อยนะ ถ้าลำบากหรือขาดเหลืออะไร บอกลุงเลย ลุงพร้อมจะช่วย”


    ขอบคุณมากค่ะคุณลุง... หญิงสาวเอ่ยเบาๆก่อนจะถอนหายใจออกมา ตอนนี้เธอดูน่าสงสารเอาเสียมากๆจนเซฮุนอดสงสารไม่ได้


    ไม่เป็นไรนะครับ....ไม่ต้องคิดมากนะ เสียงเข้มเอ่ยออกไปเพื่อให้กำลังใจ และหวังว่ามันจะพอช่วยให้เธอรู้สึกดีขึ้นได้บ้าง หญิงสาวพยักหน้าเล็กน้อย เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะค่อยๆปรับอารมณ์ตัวเอง เพราะถึงเธอจะเสียใจมากแค่ไหน เธอก็ไม่ควรทำให้คนอื่นรู้สึกแย่ไปด้วย เพราะฉะนั้น....ถึงแม้มันจะยากลำบากสักแค่ไหน เธอก็จะต้องเข้มแข็งและผ่านทุกอย่างไปให้ได้ด้วยตัวของเธอเอง

     

     

     

     

     

     

     

     

    #ficพี่รหัสของผม

     

     

     

     

     

     

     

     

    หนูเจนนี่จะกลับเองแน่เหรอ ให้เจ้าเซฮุนไปส่งมั้ย?” โอยองจุนถามขี้นระหว่างที่ทั้งสามคนกำลังเดินออกจากห้องอาหาร


    ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เจนกลับเองก็ได้ เจนนี่ส่งยิ้มบางๆให้คุณลุง อีกอย่าง....กลัวจะรบกวนพี่เซฮุนด้วยน่ะค่ะ


    โธ่เอ้ย....รบกวนอะไรกัน เจ้านี่มันก็ว่างๆอยู่ แค่ไปส่งหนูเจนมันไม่รบกวนอะไรเลย จริงมั้ยเซฮุน?


    ค....ครับ คนตัวสูงตอบนิ่งๆ


    ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ตอนมาเจนนี่ก็มาเอง กลับเองแค่นี้สบายมากค่ะ”


    อ่าา....เอาอย่างนั้นเหรอ?” ยองจุนไม่อยากจะเซ้าซี้หญิงสาว ในเมื่อเธอยืนยันว่าจะกลับเอง เขาก็ไม่อยากขัดอะไร


    เซฮุนไปส่งน้องขึ้นแท็กซี่หน่อยสิ คนเป็นพ่อเอ่ยบอกลูกชาย


    ครับพ่อ

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    ระหว่างการยืนรอรถนั้น....ก็ไม่มีบทสนทนาอะไรเกิดขึ้นเลยสักนิด มันเงียบเสียจนหญิงสาวทนไม่ไหว คนตัวสูงไม่ชวนเธอคุยเลยแม้แต่น้อย ทำให้เธอต้องเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อน


    ไม่ต้องรอเป็นเพื่อนเจนก็ได้นะคะ พี่เซฮุนกลับไปทำงานเถอะ เธอก็พูดไปอย่างนั้น แต่ใจจริงก็ไม่ได้อยากจะยืนรอรถอยู่คนเดียวแบบที่พูด


    ไม่เป็นไรหรอกครับ พี่จะอยู่เป็นเพื่อนเอง คนตัวสูงเอ่ยนิ่งๆโดยที่สายตายังคงมองตรงไปด้านหน้า


    ดูพี่เซฮุนเป็นคนเงียบขึ้นนะคะ เมื่อก่อนก็ดูจะช่างพูดมากกว่านี้ เธอรู้สึกว่ามันแตกต่างไปจากเมื่อก่อนจริงๆ พี่ชายโอเซฮุนที่เธอรู้จักเมื่อสิบปีที่แล้ว ดูไม่เป็นคนเคร่งขรึมอะไรขนาดนี้


    ก็แค่โตขึ้นน่ะ เซฮุนยังถามคำตอบคำจนหญิงสาวรู้สึกหงุดหงิด เธอเองก็เข้าใจว่าการที่ไม่ได้พบเจอกันมานาน ก็อาจจะทำให้ไม่สนิทสนมกับเหมือนเมื่อก่อน แต่เธอก็อุตส่าห์ชวนคุยแล้ว ทำไมอีกคนถึงมีปฏิกิริยาโต้ตอบแบบนี้อยู่อีก และไม่ใช่แค่ตอนนี้...

     



    แต่เธอรู้สึกตั้งแต่แว๊บแรกที่เจอกันแล้ว

     



    Rrrrrrrrrrrrr!!!!!!



     

    ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์มือถือของคนตัวสูงก็ดังขึ้นมา เขาหยิบมันออกมาจากกระเป๋ากางเกงก่อนจะยิ้มเล็กน้อยเมื่อได้เห็นชื่อคนโทรเข้า


    ฮัลโหลครับ


    (ว่าไงงงง) ทันทีที่รับสาย เสียงใสๆก็ดังลอดผ่านหูโทรศัพท์ออกมา


    ทำไมไม่รับสายผมเลยครับ ข้อความก็ไม่ตอบ” เซฮุนเอ่ยอย่างน้อยใจเล็กน้อย


    (ขอโทษนะ พอดีงานยุ่งมากเลยเพิ่งจะได้พักเที่ยงเนี่ยย)


    แล้วได้ทานข้าวหรือยังครับ?”


    (ทานแล้ว นายล่ะ?)


    “ผมทานแล้วครับ


    (อือ งั้นเหรอ....) เสียงเล็กเอ่ยก่อนจะเงียบไป


    (คิดถึงนายจัง)


    “….”


    (ไม่ได้ค่อยได้เจอกันเลย....) เสียงเล็กอ่อยลงไปเมื่อความคิดถึงเข้าครอบงำหัวใจ เขาคิดถึงคนตัวสูงจริงๆนะ ถึงจะได้คุยแชทคุยโทรศัพท์กันอยู่บ่อยๆ แต่มันก็ไม่เหมือนกับการที่ได้อยู่ด้วยกัน


    ผมก็เหมือนกันครับ


    (ว่าอะไรนะ?)


    ผมก็เหมือนกัน...


    (อะไรเหมือนกัน?) ปลายสายเอ่ยถามเชิงแกล้ง


    ก็....คิดถึงเหมือนกัน สุดท้ายเซฮุนก็พูดมันออกมา แต่เขาจะพูดดังไปไม่ได้ เพราะตอนนี้มีหญิงสาวยืนอยู่ข้างๆเขา


    (ไม่ค่อยได้ยินเลย สัญญาณไม่ดี)


    ผมพูดรอบเดียว จะไม่พูดแล้ว คนตัวสูงพูดกลบเกลื่อนความเขิน


    (ใจร้ายย)


    งั้นแค่นี้ก่อนนะครับ ตั้งใจทำงานนะ


    (อืมม รักนะ) คำพูดหวานๆทำให้เซฮุนถึงกับหน้าแดง


    เหมือนกันครับ


    (อะไรที่เหมือนกันล่ะ?)


    แค่นี้นะครับ”

     



    ตื๊ดดดดดๆๆๆๆ



     

    สุดท้ายโทรศัพท์ก็ถูกตัดสาย แต่ถึงบทสนทนาจะจบลงไปแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าหล่อก็ยังคงไม่หมดไป


    เหตุก็เพราะเสียงหวานๆของคนปลายสายเมื่อครู่นี้.... ทำให้เขายิ้มกว้างออกมาไม่รู้ตัว


    คุยกับใครคะอารมณ์ดีเชียว ราวกับสายลมที่พัดผ่านไป ไม่มีคำตอบใดให้กับคำถามเมื่อครู่นี้ คนตัวสูงไม่อยากจะพูดให้มันมากความ เพราะว่ามันไม่ใช่เรื่องที่หญิงสาวจำเป็นต้องรู้เลยสักนิด


    “รถมาแล้วครับ ไม่ช้ารถแท็กซี่ก็เข้ามาจอดเทียบที่หน้าโรงแรม เซฮุนทำหน้าที่สุภาพบุรุษที่ดีโดยการเปิดประตูรถให้หญิงสาวเข้าไป


    เจอกันนะครับ ไว้พี่กับพ่อจะไปเยี่ยมคุณลุง คนตัวสูงเอ่ยลา


    แน่นอนค่ะ เราต้องได้เจอกันอีกบ่อยๆแน่


    “….”


    ไปนะคะ หญิงสาวยิ้มให้คนตัวสูงเล็กน้อยก่อนจะปิดประตูรถ แล้วรถก็ออกไปจากตรงนั้น


    เซฮุนยืนมองรถขับออกไปจนลับตาพลางถอนหายใจออกมาเบาๆ ขายาวเดินกลับเข้าไปโรงแรมก่อนจะไปสะสางงานที่ยังค้างต่อไป

     

     

     

     

     

     

     

     

    #ficพี่รหัสของผม

     

     

     

     

     

     

     

     

    ตอนนี้ก็เป็นช่วงเย็นของวันแล้ว หลังจากเลิกงานแบคฮยอนกับคยองซูก็จะต้องไปเรียนทำอาหารเหมือนเช่นเคย หลังจากที่ได้ร่ำเรียนมาหลายวัน แบคฮยอนก็เพิ่งรู้ว่าจริงๆแล้วมันก็ไม่ได้ยาก แต่มันโคตรรรรรยากกกก!!!!


    วันนี้เราจะทำเมนูลูกเต๋ากัน คริสเอ่ยกับนักเรียนทั้งสองคน ก่อนที่นักเรียนโข่งทั้งสองคนจะทำหน้างงกับความหมายของเมนูลูกเต๋า


    เมนูลูกเต๋าก็คือเมนูที่ส่วนผสมทุกอย่างในจานจะมีลักษณะเป็นลูกเต๋าทั้งหมด นักเรียนทำหน้าอ๋อทันทีเมื่ออาจารย์บอกความหมายให้ฟัง


    ซึ่งที่พี่จะพาทำวันนี้ก็คือมักโรนี ร่างสูงหยิบถุงเส้นมักโรนีขึ้นมา จริงๆมันไม่ได้ยากหรอก มันอยากตรงหั่นลูกเต๋านี่ล่ะ”


    แบคฮยอนถึงกับร้องหู้ยเพราะเขาไม่ถนัดเรื่องหั่นๆเอาเสียเลย แล้วไอ้แผลเก่าที่เคยโดนก็ยังไม่หาย วันนี้จะได้แผลใหม่อีกแล้วเหรอ???


    งั้นเรามาเริ่มทำกันเลยนะ! คริสเอ่ยอย่างแข็งขันก่อนจะจัดแจงหน้าที่ให้แต่ละคน โดยให้คยองซูไปลวกเส้นมักโรนี แล้วให้แบคฮยอนเป็นคนหั่นผัก เขาเองก็ไม่ได้อยากจะแกล้งแบคฮยอนหรอกนะ

     



    แต่เพราะแบคฮยอนอ่อนเรื่อยหั่นๆมาก เขาเลยต้องจัดให้หนักหน่อย

     



    ต้มเส้นแค่ห้านาทีก็พอนะ เพราะถ้าน้อยกว่านั้นมันจะยังไม่นิ่ม ถ้าต้มเกินมันก็จะเละ”


    คร้าบๆ คยองซูตอบรับคำสั่งของท่านอาจารย์


    อ่ะ!


    ทันใดนั้นก็มีเสียงร้องตกใจดังขึ้นก่อนที่แครอทชิ้นเบ้อเริ่มเทิ่มจะกระเด็นลอยมาตกที่พื้นกลางห้องครัว


    อ๋าาาา แบคฮยอนถอนหายใจหนักออกมา เมื่อหันไปเห็นแครอทนอนเกลื่อนอยู่เต็มพื้นและกระเด็นไปตรงนู้นบ้างตรงนี้บ้างทั่วไปหมด


    แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นคนอย่างแบคฮยอนก็ไม่เคยรู้จักคำว่ายอมแพ้ มือเล็กยังคงลงมีดอย่างต่อเนื่อง เสียงมีดกระทบเขียงดังฉับๆไปทั่วห้อง แล้วยิ่งแครอทมันแข็ง.....นั่นก็ยิ่งทำให้การหั่นลำบากขึ้นไปอีก

     



    ไม่แน่ว่าต่อไปแทนที่จะเป็นแครอทกระเด็น อาจจะเป็นนิ้วเขากระเด็นไปแทนก็เป็นได้

     



    หั่นแบบนี้ไม่ได้นะ ระวังมันจะสับนิ้วเอาไม่รู้ตัว เสียงเข้มเอ่ยก่อนจะเดินเข้าไปดูลูกศิษย์ตัวเล็ก “แล้วพี่บอกว่ายังไง ให้หั่นเป็นลูกเต๋าไม่ใช่เหรอ หั่นแบบนี้มันก็ได้เป็นวงกลมน่ะสิ


    จ...จริงด้วยครับ แบคฮยอนยิ้มแห้งใส่อาจารย์ เขาลืมนึกไปเลยว่ามันต้องหั่นเป็นลูกเต๋า


    แต่ว่ามันแข็งมากเลย


    “….”


    แบคก็เลยไม่รู้จะหั่นยังไง....


    เสียงเล็กเอ่ยเบาๆก่อนจะทำถ้าท่ารู้สึกผิด ซึ่งนั่นมันทำให้คริสถึงกับหลุดขำออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ทำไมต้องทำท่าทางแบบนั้นด้วย เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อยนี่นา...


    มานี่เดี๋ยวพี่จะสอน ร่างสูงหยิบมีดขึ้นมาสาธิตให้คนตัวเล็กดู ก่อนอื่นเราหั่นครึ่งมันก่อน แล้วหลังจากนั้นก็หั่นครึ่งแนวยาวอีกที”


    ทีนี้เราก็หั่นข้างๆออกให้รูปร่างมันเป็นท่อนสี่เหลี่ยมแบบนี้ แบคฮยอนมองคนตัวสูงหั่นอย่างตั้งใจ


    ไหนลองทำดูซิ คนตัวเล็กลองทำตามวิธีที่คริสสอนเมื่อครู่อย่างเก้ๆกังๆ ถึงมันจะดูง่ายขึ้น แต่มันก็ยังยากสำหรับเขาอยู่ดี


    ไม่ใช่แบบนั้น... เสียงเข้มเอ่ยขึ้นเบาๆก่อนจะอ้อมแขนไปด้านหลังแล้วจับมือคนตัวเล็กเอาไว้


    เวลาเราหั่นเราต้องวางมีดลงใกล้นิ้วเราก่อนแล้วค่อยสไลด์หั่น ไม่อย่างนั้นอาจจะเผลอบาดนิ้วเอาได้นะ”


    แบคฮยอนในตอนนี้ตัวหดเล็กลงเหลือตัวเท่าเมี่ยง เมื่อต้องอยู่ในอ้อมแขนชายอื่นที่ไม่ใช่โอเซฮุน

     



    และเขาจะไม่รู้สึกอะไรเลย....ถ้าไม่ได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆออกมาจากตัวพี่เขา

     



    แบคฮยอนไม่ได้คิดอะไร แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าใจเต้นหน่อยๆ อยู่ในอ้อมแขนผู้ชายหล่อๆแบบนี้ใครไม่รู้สึกก็เป็นแม่ชีแล้ว!


    ในขณะที่คนตัวเล็กกำลังยืนตัวแข็งเพราะเขินอยู่นั้น เขาไม่รู้เลยว่ามีอีกคนหนึ่งที่รู้สึกอะไรแบบเดียวกันอยู่

     



    หอม....

     



    กลิ่นแชมพูกับกลิ่นโลชั่นลอยขึ้นมาตีจมูกของร่างสูงเข้าเต็มๆ อีกทั้งมือที่เขากำลังจับอยู่ก็ยังเล็กแล้วก็นุ่มเอาเสียมากๆ

     



    จะพูดยังไงดีล่ะ....ตอนนี้เขาน่ะแทบไม่มีสติเหลืออยู่เลยด้วยซ้ำ



     

    แค่กกๆๆๆๆ!!!


    เสียงไอค่อกแค่กของคยองซูดังขึ้นขัดสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ คริสเหล่มองทางต้นเสียงเล็กน้อย แต่ก็ละความสนใจกลับมาที่คนข้างๆต่อ


    แค่กกๆๆๆ!! ค่อกกกๆๆๆ!!! คราวนี้คยองซูไอดังขึ้นกว่าเดิมจนทั้งคริสและแบคฮยอนหันไปมอง


    เป็นอะไร?” คริสขมวดคิ้วถาม


    มันคันคออ่ะครับ แค่กๆ คยองซูแกล้งทำเป็นไอก่อนจะเหล่มองคริสด้วยสายตาเชิวรู้แกว

     



    Rrrrrrrrrr!!!!



     

    จู่ๆเสียงโทรศัพท์มือถือของคนตัวเล็กก็ดังขึ้น คนตัวเล็กจึงต้องเขยิบออกมาจากวงแขนอีกคนเพื่อรับโทรศัพท์


    ว่าไงงง เสียงใสเอ่ยกับปลายสาย ใช้เสียงสองพูดแบบนี้คงไม่ต้องบอกใช่มั้ยว่าปลายสายคือใคร


    (ทำอะไรอยู่ครับ?) 


    เรียนทำอาหารอยู่น่ะ


    (แล้วเรียนถึงกี่โมง กลับยังไงครับ) ปลายสายเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง


    น่าจะประมาณสามทุ่มน่ะ แล้วก็คยองซูไปส่งไม่ต้องเป็นห่วงหรอก คนตัวเล็กอมยิ้มบางๆ


    นายกลับช้าอีกแล้วใช่มั้ยล่ะ?” แบคฮยอนถามด้วยน้ำเสียงน้อยใจเล็กน้อย เขาก็ถามไปงั้นแหละ ถ้าวันไหนคนตัวสูงกลับเร็วสิแปลก


    (ใช่ครับ ถ้าพี่ง่วงก็นอนก่อนเลยนะ ไม่ต้องรอผม)


    ใครจะรอนายกัน! ใช่แล้ว ขืนรอก็ได้ง่วงตายกันพอดี


    (คิดถึงนะครับ) พอได้ยินคำหวานๆจากที่กำลังงอนๆอยู่มันก็หายไปในทันที


    เหมือนกันน~”


    (อะไรเหมือนกันครับ) ปลายสายถามประโยคเดียวกับที่คนตัวเล็กพูดเมื่อกลางวัน เป็นการเอาคืนโทษฐานที่ทำให้เขาเขิน


    ไม่คุยกับนายแล้ว แค่นี้นะ! แบคฮยอนตัดสายไปทันทีอย่างไม่รีรอ เพราะถ้าขืนเขาต่อล้อต่อเถียงกับคนปลายสายต่อไป มีหวังเขาโดนเล่นงานจนอ่วมแน่

     



    จะหลอกให้เขาพูดเหรอ.....ไม่มีทางเสียหรอก!!

     

     

     

     

     

     

     

     

    #ficพี่รหัสของผม

     

     

     

     

     

     

     

     

    นี่ก็เป็นเวลาดึกแล้ว ออดี้สีดำเข้าเทียบจอดในโรงรถก่อนที่ขายาวจะก้าวลงมาแล้วเดินตรงเข้าไปในบ้าน ตอนนี้ในบ้านมืดหมดเพราะคนตัวเล็กปิดไฟนอนไปแล้ว


    ขายาวเดินเข้าไปในห้องนอนก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดโคมไฟบนหัวเตียง สายตาคมจ้องมองคนที่กำลังนอนหลับอยู่ ใบหน้าน่ารักยังคงน่ามองอยู่เสมอแม้กระทั่งในยามหลับใหล


    งื้ออออ~~” เซฮุนหลุดขำออกมาเมื่อคนที่กำลังนอนละเมอส่งเสียงงืมงำๆ มือหนาดึงผ้าห่มที่อยู่ปลายเท้าขึ้นมาห่มให้ร่างเล็กก่อนจะปัดปอยผมที่ปรกใบหน้าหวานออกอย่างทะนุถนอม


    เขาอยากจะมีเวลาอยู่กับคนตัวเล็กให้มากกว่านี้อีกสักหน่อย อยากกินข้าว อยากนั่งคุย อยากเข้านอนพร้อมกันเหมือนอย่างที่เคยทำ แต่ตัวเขาในตอนนี้กลับทำแบบนั้นไม่ได้


    เขาเองก็เหงาและคิดถึงอีกคนไม่แพ้กัน แต่เขายังคงต้องทำเพื่ออนาคต เพื่อวันข้างหน้าที่ดีกว่านี้

     



    แต่เขาสัญญา.....เมื่อสักวันหนึ่งถ้าเขามีพร้อมทุกอย่างแล้ว



     

    เขาจะทุ่มทั้งเวลาและชีวิตที่เหลืออยู่ให้คนตัวเล็กเพียงคนเดียวอย่างแน่นอน

     

     




    #ficพี่รหัสของผม

    @Auaum_CB

    @lovebaeky



    Talk: (@1 มี.ค 2019)
    > กลับมาแล้วค่าทุกคนน หายไปหนึ่งปีเต็มๆสำหรับฟิคเรื่องนี้ ขอบคุณคนที่ยังรอการกลับมาของไรท์อยู่นะคะ (กราบงามๆสามที~~)


    > ตอนนี้เอาไปแค่ 30% ก่อนน้าาาา ช่วงนี้ไรท์อยู่ในช่วงเปลี่ยนของชีวิต เพิ่งเรียนจบและเพิ่งได้เริ่มงาน บางวันก็ทำโอทีจนถึงหนึ่งทุ่ม กลับไปก็เหนื่อยแล้วว 555555 อาจจะมาต่อช้าหน่อยนะคะ แต่ยังคงยืนยันคำเดิมว่าจะไม่ทิ้งรีดเดอร์ไว้กลางทางแน่นอน ยังไงก็จะพาทุกคนไปถึงตอนจบให้ได้ค่าา (ปิ๊งๆๆๆ ><)


    บ่นอะไรก็ไม่รู้ยาวมากเลยยย แงงง ยังไงก็คอมเม้นเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยน้าา ขอบคุณค่าาา ^_^


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×