คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : chapter 6 : Why I feel? (100%)
Chapter 6 : Why I feel?
\
“เอ้าชน!!”
เสียงดังครึกครื้นดังมาจากที่นั่งฝั่งขวาของร้าน ตามที่สัญญาเอาไว้ว่าถ้าเซฮุนชนะการประกวดเดือนคณะซูโฮจะพาไปเลี้ยง หลังจากที่พาไปร้านอาหารที่มีแต่อาหารดีๆ ต่อด้วยร้านของหวานชื่อดังแถวมหาวิทยาลัย ตอนนี้ก็มาจบที่ร้านนั่งดื่ม ชนแก้วกันนิดหน่อยเพื่อความสนุกสนาน
วันนี้พี่ซูโฮคงหมดเงินไปเยอะเพราะเลี้ยงแต่ร้านแพงๆ แล้วก็ไม่ต้องพูดถึงเรื่องราคา เพราะเป็นราคาที่แบคฮยอนไม่คิดว่าจะมีปัญญาจ่ายตลอดชีวิตนี้ของเขา แถมเขายังใจปล้ำให้ชวนเพื่อนๆมาได้ ตอนแรกทั้งแบคฮยอนและเซฮุนก็เกรงใจ แต่พี่ซูโฮบอกอยากว่าให้น้องๆมีความสุข แบคฮยอนเลยชวนคยองซูกับจงแดมาด้วย ส่วนเซฮุนชวนจงอินกับแทมิน คิดไปคิดมาก็รู้สึกไม่ดีที่สั่งนู้นสั่งนี่ที่อยากกินมาเยอะแยะโดยไม่สนใจเงินในกระเป๋าพี่ซูโฮ แต่พี่เขายิ้มกว้างแล้วบอกว่า ‘เต็มที่เลย ไม่ต้องเกรงใจ’ ก็เลยจัดเต็มกันทุกคน ตอนนี้เหลือเพียงคยองซู จงแด แบคฮยอน เซฮุนและพี่ซูโฮ ส่วนจงอินกับแทมินขอตัวกลับไปก่อนแล้ว
“แบคฮยอนอย่าดื่มเยอะสิ เดี๋ยวก็เมาหรอก” พี่ซูโฮดึงแขนเล็กเพื่อห้ามเมื่อเห็นว่าแบคฮยอนดื่มไปแล้วเกินครึ่งแก้ว
“นานๆทีนะครับ แหะๆๆ”
“หยุดเลยมึงอ่ะ เวลาเมาเมาอย่างกับหมา กูขี้เกียจมานั่งดูแล” จงแดมองตาขวางใส่คนตัวเล็กที่เริ่มมีอาการมึนๆนิดๆ
“มึงนี่ดื่มไม่ดูลิมิตตัวเองเลยนะ” คยองซูยื่นมือไปแย่งแก้วมาจากมือเล็ก แบคฮยอนทำจมูกย่นใส่เพื่อนตาโตแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะคยองซูแม่งโหดมาก “กลับได้แล้ว เดี๋ยวกูไปส่ง”
“ไม่เอา กูขออยู่ต่ออีกซักหน่อยนะ”
“รายงานจะทำมั้ย? ส่งมะรืนนี้นะ!!” คยองซูถลึงตาใส่
“มึงทำไปเลย เดี๋ยวกูจัดพรุ่งนี้วันเดียวก็เสร็จ” แบคฮยอนยักคิ้วกวนๆใส่เพื่อนสนิทสองคน
“….”
“ให้กูอยู่นะ นะๆๆๆ” แบคฮยอนตาปริบๆใส่คนตาโต คยองซูหันไปมองหน้าจงแดเพื่อขอความคิดเห็น
“แล้วมึงจะกลับยังไง ใครจะดูแลมึง” จงแดพูด เขาเป็นห่วงเพื่อนตัวแสบของเขา เวลาเมานี่ใช่เล่น งอแง ก่อเรื่องสารพัด เขายังเอาไม่อยู่เลยต้องให้คยองซูเป็นคนจัดการทุกครั้ง
“เดี๋ยวพี่ไปส่งเอง ไม่ต้องห่วงนะ เขาอยากอยู่ก็ให้เขาอยู่เถอะ” ซูโฮเอ่ยบอกเพื่อให้เพื่อนๆสบายใจว่าเขาจะดูแลน้องรหัสเอง
“โอเคครับพี่ งั้นพวกผมขอตัวกลับก่อน ขอบคุณที่เลี้ยงพวกเราในวันนี้นะครับ” คยองซูกับจงแดโค้งให้พี่ซูโฮ ซูโฮก็ยิ้มบางๆตอบกลับไป
“กูไปนะมึง พี่ไปนะเซฮุน” จงแดตบบ่าคนตัวเล็กก่อนจะหันไปโบกมือให้เซฮุน คนตัวสูงก้มหัวให้รุ่นพี่เล็กน้อยเพื่อเป็นการลา
“อื้ม” แบคฮยอนตอบรับก่อนจะปัดมือไล่เพื่อนไปด้วยท่าทางกวนๆ
“อยู่ต่อได้แต่ห้ามกินเยอะนะรู้มั้ย ตัวเริ่มแดงแล้วเนี่ย” ซูโฮเตือนน้องรหัส เขาก็พอรู้อยู่ว่าแบคฮยอนดื่มได้ไม่ค่อยเยอะ
“ค้าบบบบ”
เวลาผ่านไปแบคฮยอนกลับไม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ เขาดื่มเยอะมากจนตอนนี้เริ่มพูดไม่รู้เรื่อง ซูโฮกับเซฮุนเองก็เอาคนตัวเล็กไม่อยู่ เผลอๆก็คว้าแก้วกระดกเข้าไป ห้ามก็ไม่ฟัง
“พี่ว่าเรากลับกันเถอะ แบคฮยอนไม่ไหวแล้วล่ะ” ซูโฮหันไปบอกเซฮุน “เดี๋ยวเราช่วยพี่พาแบคฮยอนขึ้นรถหน่อยนะ”
“ได้ครับ”
Rrrrrrrrrrrrr!!!!
ก่อนที่ซูโฮกับเซฮุนจะช่วยกันประคองพี่คนกลางของสายรหัสที่เมาไม่ได้สติขึ้นรถ โทรศัพท์ของซูโฮก็ดังขึ้น
“ฮัลโหล”
“….”
“ห๊ะ!! จริงเหรอ? อือ ได้ๆเดี๋ยวฉันตามไป รอแปบหนึ่งนะ” ซูโฮวางสายโทรศัพท์ก่อนจะหันมองหน้าน้องรหัส “เซฮุน พี่คงไปส่งพวกนายไม่ได้แล้วอ่ะ เพื่อนพี่โดนรถชน นายช่วยไปส่งแบคฮยอนทีได้มั้ย?”
“อ....อ่อ ได้ครับ” ตอบตกลงไปแบบงงๆ
“งั้นพี่ฝากด้วยนะ พี่ต้องรีบไปแล้ว”
“โอเคครับ”
ฝากฝังกันเสร็จซูโฮก็รีบออกไปจากร้านทันทีโดยไม่ลืมที่จะแวะไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์หน้าร้าน เซฮุนมองพี่รหัสตัวแสบในสภาพเมาอย่างกับหมาเหมือนอย่างที่พี่จงแดบอกไว้จริงๆ คนตัวสูงส่ายหน้าเล็กน้อย เขาจะทำอย่างไรกับคนตรงหน้าดีนะ
“เดินดีๆหน่อยสิครับ”
“งื้อออ”
เซฮุนพยุงคนที่เมาไม่ได้สติออกมาจากร้าน หลังจากฉุดกระชากลากถูอยู่นานกว่าจะพาคนตัวเล็กออกมาได้
“พี่แบค!!” เซฮุนเรียกชื่ออีกคนเสียงดังเมื่ออีกคนเดินสะเปะสะปะจะเดินเซไปตกท่อระบายน้ำ ดีที่เขาคว้าเอาไว้ได้ทันไม่งั้นคงได้เห็นลูกหมาตกท่อไปแล้ว คนตัวสูงถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาอยากรู้เหลือเกินว่าพี่คยองซูเอาพี่รหัสตัวแสบอยู่ได้ยังไง
“เซฮุ๊นนนน”
“….”
“เซฮุ่นนน” แบคฮยอนพยายามเรียกชื่อน้องรหัสที่เดินประคองอยู่ข้างๆ มือเล็กเอื้อมไปดึงคอเสื้อของอีกคนแล้วกระตุกถี่ๆเพื่อเรียกร้องความสนใจ
“อย่าดึงสิครับ!!” เซฮุนดึงมือเล็กออกจากคอเสื้อของเขา
“อืออ เรากาลังจาปายหนายยย”
นั่นสินะ เรากำลังจะไปไหน?
เซฮุนเพิ่งฉุกคิดได้ว่าเขาไม่รู้จักหอพักของคนตัวเล็ก เขาตั้งใจจะพากลับท่าเดียวไม่ได้คิดถึงตรงนี้เลย
“พี่แบค หอพักพี่อยู่ที่ไหน?”
“หือออ จั๊ก? อ่ออ จักรยานจอดอยู่หอแน่ะ”
“ไม่ใช่!! ผมถามว่าหอพักพี่อยู่ไหน?”
“นายพูดอารายอ่ะ พูดไม่ลู้เลื่องเลย นายเมาใช่ม้ายห๊าาา!!!!”
“พี่นั่นแหละเมาอ่ะ ผมถามว่าหอพี่อยู่ไหนผมจะได้ไปส่ง”
“อ๋อ หอเหรอ?”
“ใช่ครับ”
“หอพี่ชื่อ...”
“….”
“ชื่อก....”
ตายห่าละ!!
เซฮุนกุมขมับพร้อมถอนหายใจออกมา เดินอยู่ดีๆคนตัวเล็กก็ทิ้งหัวซบลงกับบ่าของเขาแล้วหลับไปเสียดื้อๆยังไม่ทันได้ตอบคำถามของเขาเลย
“พี่...”
“….”
“พี่ครับ”
คนตัวสูงเรียกชื่ออีกคนที่ตอนนี้หลับใหลเข้าสู่นิทราไปแล้วเรียกยังไงก็ไม่ตื่น เซฮุนถอนหายใจดังๆออกมาอีกรอบ เขาพาคนตัวเล็กไปนั่งที่พื้นหน้าร้านกาแฟร้านหนึ่งให้หัวพิงกับเสาก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาพี่ซูโฮ ไม่นานพี่รหัสก็รับสาย
(ฮัลโหล)
“พี่ซูโฮครับ พี่รู้จักหอพี่แบคมั้ยครับ?”
(หืมม พี่ไม่รู้หรอก แบคฮยอนย้ายหอใหม่เมื่อปีที่แล้วอ่ะ พี่ก็ยังไม่เคยถามเลย ทำไมนายไม่ถามแบคฮยอนล่ะ)
“เขาเมาจนหลับไปแล้วล่ะครับ”
(อ่าวจริงเหรอ? ทำไงดีล่ะ?)
“ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวผมลองโทรหาเพื่อนพี่เขาดู ขอโทษที่โทรมารบกวนนะครับ” เซฮุนรีบวางสายเมื่อได้ยินเสียงจากปลายสายเหมือนว่าซูโฮกำลังยุ่งๆ คนตัวสูงเปิดกระเป๋าอีกคนเพื่อหาโทรศัพท์มือถือ ถ้าโทรหาพี่คยองซูหรือพี่จงแดก็จะรู้หอพักคนตัวเล็กแน่ๆ
ใส่รหัส...
เวรละ!!
ตั้งรหัสไว้ทำบ้าอะไรวะเนี่ย?! เขาถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นครั้งที่เท่าไหร่ของวันนี้ เซฮุนมองพี่รหัสตัวแสบที่หลับลึกและไม่มีท่าทีว่าจะตื่นมาคุยกับเขา คนตัวสูงส่ายหน้าเบาๆก่อนจะหยิบโทรศัพท์ของเขาขึ้นมาอีกครั้ง ตอนนี้หนทางสุดท้ายที่เหลืออยู่คือโทรหาไอ้จงอิน
“ไอ้จงอิน มึงมีเบอร์พี่คยองซูป่าววะ?”
(ไม่มีวะ ยังไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นอ่ะ ทำไมวะ?)
“เปล่า ถามเฉยๆ”
(อย่าบอกนะว่ามึงคิดจะมาจีบพี่เขาอ่ะ ไม่ได้นะเว้ย!!)
“เออไอ้บ้า กูไม่จีบหรอก ยกให้มึงไปเลย เอาไปเลย” เซฮุนเบะปากใส่เพื่อนสนิทที่มาหึงอะไรไม่เข้าท่าตอนนี้
(เออดี)
“เห้ยย!! แค่นี้ก่อนนะเว้ย” เซฮุนรีบวางสายจงอินเมื่อหันไปเห็นคนที่ควรจะหลับพิงเสาลงไปนอนราบอยู่ที่พื้น เขารีบดึงคนตัวเล็กขึ้นมานั่ง ถอนหายใจครั้งที่สองแสนสี่ก่อนจะตัดสินใจพยุงร่างพี่รหัสตัวแสบออกไปจากตรงนั้น
เมื่อไม่รู้ว่าหอพักแบคฮยอนอยู่ไหน ทางเดียวในตอนนี้ก็คงหนีไม่พ้น
ห้องของเขา...
เซฮุนพยุงแบคฮยอนเข้าห้องก่อนจะปล่อยลงบนเตียงนอนแล้วถอดรองเท้าออกให้ เขาปาดเหงื่อออกเล็กน้อย กว่าจะพยุงมาจนถึงหอนี่แทบตาย ตัวหนักเป็นบ้า ตื่นมาต้องบอกให้ไปลดน้ำหนักบ้างซะแล้ว
“งื้ออ น้ำ” คนเมาที่เพิ่งได้สติเรียกหาน้ำ พอตื่นมาก็กระหายน้ำขึ้นมาทันที
“….”
“หิว น้ำ” คนตัวเล็กร้องเรียกหาน้ำอีกครั้ง เซฮุนวางรองเท้าไว้บนชั้นวางก่อนจะเดินไปที่ตู้เย็นแล้วเทน้ำใส่แก้ว
“นี่ครับ” เซฮุนดึงคนตัวเล็กขึ้นมาแล้วประคองไว้เพื่อให้ดื่มน้ำได้สะดวก
“แอว้ก!!”
บ้าเอ้ย !!!!
เซฮุนสบถในใจกับตัวเองที่อยู่ๆพี่รหัสก็อาเจียนออกมาใส่เสื้อของเขาเต็มๆ พออาเจียนเสร็จก็ทิ้งตัวลงไปนอนต่อแบบไม่รู้เรื่องรู้ราวทั้งทียังไม่ได้ดื่มน้ำ เซฮุนนิ่งไปซักพัก หลับตาครู่หนึ่งเพื่อตั้งสติ สิ่งที่เขาควรทำตอนนี้คือรีบเปลี่ยนเสื้อทั้งเขาแล้วก็คนที่นอนอยู่ เซฮุนวางแก้วลงก่อนจะลุกไปถอดเสื้อแล้วแช่น้ำเอาไว้ จากนั้นก็เดินกลับมาถอดเสื้อพี่รหัสที่เอาแต่นอนโดยไม่รู้ว่าสร้างความลำบากเอาไว้มากแค่ไหน
คนตัวสูงเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกะละมังใบเล็กๆกับผ้าหนึ่งผืน เขาวางมันลงข้างๆเตียงก่อนจะใช้ผ้าชุบน้ำแล้วบิดพอหมาดๆเพื่อเช็ดหน้าเช็ดตาให้พี่รหัส
เหมือนมีมนต์สะกดเขาเอาไว้ เซฮุนจ้องใบหน้าน่ารักที่แม้แต่ตอนเมาก็ยังน่ารักไม่เปลี่ยน ใบหน้าที่เห่อแดงเพราฤทธิ์แอลกอฮอล์ ดวงตาเล็กๆ จมูกน้อยๆ และริมฝีปากบางๆสีชมพูนั่น ทำให้เขาโน้มใบหน้าลงไปใกล้ใบหน้าของอีกคน
“หือ กลิ่นเหล้าแรงมาก” คนตัวสูงถอยใบหน้าออกมาก่อนจะบ่นเบาๆ บอกตรงๆว่าอารมณ์เขาสะดุดไปเพราะกลิ่นแอลกอฮอล์ที่ฟุ้งออกมาจากตัวของแบคฮยอน คนตัวสูงส่ายหน้าเบาๆก่อนลงมือเช็ดตัวให้พี่รหัสอีกครั้ง เขาซับผ้าไปที่ใบหน้าคนตัวเล็กอย่างแผ่วเบาก่อนจะเลื่อนลงมาที่ลำคอขาว
Rrrrrrrrrrrrrr!!
เสียงโทรศัพท์ของแบคฮยอนดังขึ้น คนตัวสูงวางผ้าขนหนูลง แขนยาวเอื้อมมือไปคว้ากระเป๋าคนตัวเล็กมาแล้วถือวิสาสะล้วงเข้าไปก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วอ่านชื่อผู้ที่โทรเข้า
‘พี่ชานยอล’
ยอมรับว่าตอนนี้เขากำลังเบะปากใส่หน้าจอโทรศัพท์อยู่ ถ้าเป็นคนอื่นโทรมาเขาอาจจะรับสายให้ แต่ถ้าเป็นคนนี้เขาก็ไม่อยากจะเสวนาด้วย เซฮุนใช้นิ้วปัดหน้าจอโทรศัพท์เพื่อตัดสายทิ้งก่อนจะปิดเครื่องไปเลยจะได้ไม่ต้องโทรมาอีก เห็นแล้วหงุดหงิด
แสงแดดอ่อนๆยามเช้าไม่สามารถทำให้คนที่หลับอยู่ตื่นขึ้นมาได้ แต่กลิ่นหอมของอาหารเช้าที่ลอยมาเตะจมูกทำให้คนตัวเล็กต้องลุกขึ้นมาจากเตียง แบคฮยอนทำจมูกฟุดฟิดก่อนจะบิดขี้เกียจแล้วลืมตาขึ้นเต็มดวง แปลกที่วันนี้อาการเมาค้างไม่หนักเท่าครั้งก่อนๆ ตอนนี้ก็แค่มึนๆนิดๆเท่านั้น คนตัวเล็กสะบัดหัวแรงๆหนึ่งทีก่อนจะก้าวขาลงมาจากเตียง
หืม?
แบคฮยอนก้มลงไปมองเสื้อผ้าตัวโคร่งที่เขาใส่อยู่ เสื้อยืดสีขาวตัวยาวที่คลุมเกือบจะถึงเข่ากับกางเกงขาสั้นที่ใส่แล้วกลายเป็นกางเกงขายาว
คำถามมากมายผุดขึ้นเต็มหัวของเขา เขามาอยู่ที่นี่อีกแล้ว แต่คราวนี้เขาจำอะไรไม่ได้เลย เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง แบคฮยอนทำหน้างงเล็กน้อย กวาดสายตาไปทั่วห้องก่อนจะได้คำตอบเมื่อหันไปเห็นคนตัวสูงที่กำลังทำอาหารเช้าอยู่ คนตัวเล็กค่อยๆย่องเข้าไปหาน้องรหัสจากทางด้านหลังก่อนจะชะโงกหน้าดูว่าคนตัวสูงทำอะไร
“หูยยย น่ากินจัง” แบคฮยอนมองจานที่วางอยู่ข้างๆ ในจานมีทั้งไส้กรอก ไข่ดาวแล้วก็แฮม มีแต่ของน่ากินทั้งนั้นเลย แบคฮยอนยื่นมือไปหวังจะหยิบใส่ปากซักชิ้นสองชิ้นแต่ถูกมือหนาคว้าเอาไว้เสียก่อน
“ล้างมือก่อนครับ”
“กินเลยไม่ได้เหรอ?” แบคฮยอนทำปากยื่นใส่น้องรหัส ทำไมจะต้องเรื่องมากด้วยก็ไม่รู้ ปกติเขาไม่เห็นจะต้องคิดเรื่องพวกนี้เลย
“ไปนั่งรอเถอะเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว” เซฮุนสะบัดหน้าไปที่โต๊ะอาหารเป็นเชิงสั่งให้พี่รหัสหยุดก่อกวนแล้วไปนั่งรอแต่โดยดี แบคฮยอนพยักหน้าหงึกๆก่อนจะเดินไปนั่งตามที่บอก ไม่นานเซฮุนก็ถือจานมาวางที่โต๊ะ พร้อมทั้งขนมปังปิ้งกับนมร้อน
“กินได้แล้วใช่มะ?” คนตัวเล็กถามอย่างตื่นเต้น มีแต่ของน่ากินๆทั้งนั้น เขาหิว อยากกินจะแย่อยู่แล้ว เซฮุนพยักหน้าเบาๆให้ก่อนที่แบคฮยอนจะจิ้มไส้กรอกเข้าปากทีเดียวสี่ชิ้น เซฮุนหัวเราะออกมาเบาๆอย่างห้ามไม่ได้เมื่อเห็นท่าทางการกินอย่างมีความสุขของพี่รหัส
“ค่อยๆกินก็ได้ เดี๋ยวก็ติดคอหรอก” เซฮุนพูดเพราะเห็นพี่รหัสยัดอาหารใส่ปากจนเต็มกระพุ้งแก้มทั้งสองข้าง อยากจะด่าว่าตะกละแต่ก็น่ารักเกินกว่าจะด่าลง
“อร่อยอ่ะ นายทำพวกนี้กินเองทุกวันเลยเหรอ?”
“ไม่ทุกวันหรอก บางวันก็ออกไปกินข้างนอกบ้างอ่ะ”
“อ๋อออ เอ้อว่าแต่พี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงอ่ะ?” แบคฮยอนถามทั้งที่อาหารยังเต็มปากอยู่
“นี่จำไม่ได้จริงๆเหรอ?” แบคฮยอนส่ายหน้าพรืด เขาจำอะไรไม่ได้เลย ภาพสุดท้ายที่อยู่ในหัวคือนั่งอยู่ที่ร้านกับพี่ซูโฮ เขาจำได้แค่นั้นจริงๆ
“เมื่อวานพี่ซูโฮติดธุระ ผมเลยพาพี่กลับหอ แต่พี่ดันหลับไปซะก่อน ผมไม่รู้จักหอพี่ก็เลยพามาหอตัวเอง”
“อ๋ออออ” แบคฮยอนลากเสียงยาว “แล้วเมื่อคืนนายนอนที่ไหน?”
“ก็ฟุบบนโต๊ะเอา”
“ขอโทษนะ นายเลยต้องลำบากเลยแทนที่จะได้นอนดีๆ” แบคฮยอนก้มหน้าทำหน้าตาสำนึกผิด เซฮุนเห็นก็อดยิ้มขำไม่ได้
“มันไม่ได้ลำบากขนาดนั้นหรอก” จริงๆก็ลำบากอยู่ไม่น้อย ก็คนตัวเล็กเล่นก่อปัญหามากมายไว้ซะขนาดนั้น แต่เซฮุนเลือกที่จะไม่พูดเพราะเขาคิดว่าไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องพูดมันออกไป แบคฮยอนได้ยินอย่างนั้นก็ยิ้มกว้างแล้วตักอาหารเข้าปากอย่างมีความสุข ทั้งสองคนกินไปคุยไปซักพักใหญ่ก่อนที่เซฮุนจะรวบช้อนไว้ตรงกลางเพื่อบ่งบอกว่ากินเสร็จแล้ว
“อิ่มแล้ว ผมจะไปอาบน้ำ พี่ล้างจานด้วยนะครับ” เซฮุนพูดขึ้นก่อนจะลุกออกจากเก้าอี้แล้วเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัว
“เดี๋ยวสิ!! ทำไมนายไม่ล้างล่ะ”
“เพราะผมกินเสร็จก่อน พี่กินเสร็จคนสุดท้าย คนสุดท้ายก็ต้องล้างจาน”
“ไหงงั้นอ่ะ พี่เป็นพี่นายนะ นายเป็นน้องก็ต้องล้างสิ มาใช้พี่ได้ไง” คนตัวเล็กโวยวายไม่เลิก ยังไงเขาก็จะเถียงจนสุดใจถ้าหากเซฮุนไม่มีเหตุผลดีๆให้กับเขา
“อยู่บ้านท่านอย่างนิ่งดูดาย เคยได้ยินมั้ยครับ?” คนตัวสูงยักคิ้วกวนๆสองทีใส่พี่รหัสก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป ปล่อยให้แบคฮยอนยืนอ้าปากเพราะเถียงไม่ทันอยู่ตรงนั้น คนตัวเล็กขยับปากล้อเลียนแบบไม่มีเสียงก่อนจะจบด้วยการแลบลิ้นใส่คนที่อยู่ในห้องน้ำแล้วนั่งลงกินอาหารต่อ
หลังจากที่ฝึกซ้อมกันมาเดือนกว่าๆก็ถึงเวลาที่จะต้องคัดเลือกสมาชิกทีมฟุตบอลที่จะพาไปแข่งขัน โดยคนที่เป็นผู้คัดเลือกก็คือปาร์คชานยอลผู้เป็นกัปตันทีม ทุกๆปีจะมีการคัดเลือกสมาชิกใหม่แทนสมาชิกปีสี่ที่จบไป ดังนั้นจากเด็กปีหนึ่ง 34 คน จึงคัดให้เหลือแค่ 5 คน กับตัวสำรองอีก 5 คน เซฮุนกับจงอินได้รับการเลือกให้เข้าเป็นหนึ่งในสมาชิกตัวจริง โดยเซฮุนเป็นฝ่ายกองหน้า ส่วนจงอินเป็นผู้รักษาประตู น่าเสียดายที่แทมินถอนตัวไปก่อนหน้านั้นเพราะตอนซ้อมเกิดบาดเจ็บที่ขาทำให้ไม่สามารถลงเล่นได้
อีกสองอาทิตย์ก็จะถึงวันแข่งขันแล้ว ดังนั้นทุกคนจึงต้องฝึกซ้อมให้มากเพื่อเอาชัยชนะแชมป์สมัยที่สามมาให้ได้
“เป็นไงบ้าง?”
เด็กหนุ่มตัวสูงเงยหน้าขึ้นไปมองเจ้าของเสียงเล็กที่ยื่นขวดน้ำเย็นมาให้เขา เขารับมันมาแล้วเปิดดื่มก่อนที่คนตัวเล็กจะนั่งลงข้างๆเขา
“ก็ดี”
“ก็ดีเหรอ? มันต้องมีมากกว่านั้นสิ เช่น สนุกดี มีความสุข หรือว่าเหนื่อยน่ะ” คนตัวเล็กหันไปมองใบหน้าหล่อของน้องรหัส เขาต้องการคำตอบที่มากกว่าการตอบเออออไปตามบทสนทนาหรือคำตอบที่ฟังแล้วรู้สึกว่าคุยอยู่กับคนไม่ใช่ต้นไม้หรือเสาไฟฟ้า
“ก็...มีความสุข มั้ง? โอ๊ะ!!” คนตัวสูงร้องตกใจเล็กน้อยเมื่อมือเล็กแปะผ้าเย็นลงบนใบหน้าของเขา เขาหยิบมันออกแล้วหันไปมองอีกคนที่ยิ้มแป้นจนตาหยี เซฮุนหลุดหัวเราะออกมาเบาๆแล้วใช้ผ้าเย็นซับหน้าตัวเอง
“ดูผู้หญิงพวกนั้นสิ เขามาหานายแน่ะ” แบคฮยอนชี้ไปที่พวกเด็กผู้หญิงกลุ่มใหญ่ที่นั่งอยู่บนสแตนด์เชียร์ มีทั้งสาวเล็กสาวใหญ่สาวเทียมก็มี ผู้หญิงพวกนั้นไม่ได้มาด้วยกันแต่ที่มานั่งตรงนี้ก็เพื่อมาดูอาหารตาดีๆอย่างเซฮุน ตั้งแต่ที่เขาได้ตำแหน่งเดือนคณะก็มีสาวๆตามติดแจไปทุกที่อย่างกับเหาฉลาม
“แล้วไง?”
“แต่ก่อนพวกผู้หญิงนั้นก็มาดูพี่ชานยอลกัน แต่ตอนนี้หันมาสนใจนายกันหมดแล้ว เนื้อหอมเหมือนกันนะเนี่ยย” แบคฮยอนยิ้มแซวพร้อมเหล่ตามองน้องรหัสที่กำลังทำหน้าไม่ถูกเมื่อโดนแซวเรื่องพวกนี้
“เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ”
“ฮั่นแน่ะ เขินอ่ะดิ หูแดงเลยอ่ะ” แบคฮยอนชี้ไปที่หูของคนตัวสูง เซฮุนยกมือขึ้นจับหูตัวเองก่อนจะทำหน้าตาเลิ่กลั่กจนแบคฮยอนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเมื่อเห็นท่าทางตลกๆนั่น น้องรหัสเขาเป็นพวกปากไม่ตรงกับใจ แสดงออกตรงข้ามกับที่คิด เขินก็บอกว่าเขินสิ ต้องทำหน้านิ่งกลบเกลื่อนทำไมก็ไม่รู้ เห็นแบบนี้แล้วมันน่าแกล้งน้อยซะที่ไหน เดี๋ยวจะแกล้งซะให้เข็ดเลยคอยดู
“นี่”
“หื้มม?”
“ชอบกินไส้กรอกเหรอ?” เซฮุนถามพี่รหัสโดยที่สายตายังคงมองตรงไปข้างหน้า
“นายรู้ได้ไงอ่ะ? นั่นของโปรดพี่เลยนะ พี่เคยไปบอกนายตอนไหน?” คนตัวเล็กหันไปมองหน้าน้องรหัส เขาจำได้ว่าไม่พูดเรื่องนี้กับคนตัวสูง
“เปล๊า เดาเอา” เซฮุนแกล้งเสมองไปทางอื่นพลางนึกถึงคืนนั้นที่พี่รหัสมานอนที่ห้องของเขา
“งืออออ”
“....”
“ไส้กรอก”
“....”
“แม่ครับ....ผมอยากกินไส้กรอก”
“....”
“แง่มๆๆ อาหย่อยจัง งืมม”
เขาถึงต้องออกไปซื้อไส้กรอกมาทอดให้กินเป็นอาหารเช้าไง
“ผมไปซ้อมต่อแล้วนะ”
“เดี๋ยวสิ!! นายยังไม่ได้บอกเลยนะว่าไปรู้มาได้ยังไง” เซฮุนลุกขึ้นยืนก่อนจะถูกคนตัวเล็กเรียกเอาไว้เพราะยังไม่ได้ตอบคำถามเมื่อครู่ คนตัวสูงหันมาสบตากับพี่รหัสที่ทำหน้าอยากรู้ จะบอกดีมั้ยนะว่าวันนั้นนอนละเมอออกมาจนเขารู้ว่าชอบกินไส้กรอก
“ไม่....บอก” เซฮุนยิ้มกวนๆใส่พี่รหัสก่อนจะเดินกลับเข้าไปในสนามปล่อยให้คนตัวเล็กนั่งทำหน้างงอยู่ตรงนั้น
เสียงจังหวะกลองที่สนุกสนานและเสียงจากผู้คนบนสแตนด์เชียร์ดังไปทั่วสนามกีฬามหาวิทยาลัย โดยมหาวิทยาลัยที่เป็นแชมป์ปีที่แล้วจะต้องเป็นเจ้าภาพในการจัดงานปีถัดไป การที่ได้เป็นเจ้าภาพนั้นไม่ได้ดีอย่างที่คิด อาจจะดีในด้านที่มีผู้คนมาเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยเป็นจำนวนมาก ได้โปรโมทคณะและมหาวิทยาลัย แต่ก็ต้องเสียเวลาเสียแรงในการจัดงาน สองปีแล้วที่มหาวิทยาลัยนี้ได้เป็นเจ้าภาพและนี่ก็เป็นปีสามที่ประธานชมรมอย่างปาร์คชานยอลจะต้องเหนื่อย เขาต้องจัดการทุกอย่างตั้งแต่สากกระเบือยันเรือหางยาว วิ่งวุ่นไปทุกที่ ยอมรับว่าเขารู้สึกเหนื่อยเอามากๆ แต่ที่ยังมีกำลังใจอยู่ได้เพราะคนข้างๆเขาในตอนนี้
“แบค ไม่ต้องยกหรอก เดี๋ยวพี่ยกเอง” ชานยอลพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กกำลังจะก้มลงยกแพ็คน้ำผลไม้
“แบคอยากช่วยนี่น่า ให้แบคช่วยพี่ชานยอลนะครับ”
“แต่มันหนักนะ เดี๋ยวแขนหักหรอก”
“โหหหห ดูถูกกันจังเลย ถึงแขนแบคจะเล็กแต่ก็แรงเยอะนะบอกเลย” แบคฮยอนทำท่าเบ่งกล้ามให้พี่ชานยอลดู ชานยอลหัวเราะออกมาเบาๆด้วยความเอ็นดูก่อนจะชี้ไปที่กลุ่มนักฟุตบอลที่นั่งรวมกันอยู่ข้างสนาม
“เป็นผู้จัดการทีมก็ไปดูแลนักกีฬาไป เรื่องนี้ให้พวกสวัสดิการเขามาดูเถอะ”
“เป็นนักกีฬาก็ไปนั่งรอแข่งสิครับ มาทำงานทำไม” แบคฮยอนเถียงกลับด้วยใบหน้ากวนๆ พี่ชานยอลควรที่จะไปนั่งเฉยๆเพื่อเตรียมตัวแข่ง ไม่ใช่มายกของขนของอะไรแบบนี้
“แต่พี่เป็นประธานชมรมด้วยนะครับ จะให้พี่ไปนั่งเฉยๆได้ยังไง”
“แบคก็เป็นผู้จัดการทีม จะปล่อยให้นักกีฬามายกของอยู่คนเดียวได้ยังไง” คนตัวเล็กยังคงสบตาสู้กับรุ่นพี่และไม่มีทีท่าว่าจะยอมจนกว่าพี่ชานยอลจะยอมให้ช่วย
“งั้นก็ตามใจ อย่ามาบ่นปวดแขนก็แล้วกัน” ชานยอลถอนหายใจเบาๆ เขายอมคนตัวเล็กแล้ว
“เด็กดื้อ” ชานยอลกระซิบที่ข้างหูแบคฮยอนเบาๆก่อนจะเดินไป เล่นทำเอาหูขาวๆของคนตัวเล็กแดงเป็นแถบไปเลย แบคฮยอนยังคงยืนเขินอยู่ตรงนั้นก่อนจะได้สติรีบยกแพ็คน้ำผลไม้เดินตามพี่ชานยอลออกไป
“มองไรวะ?!” จงอินดีดนิ้วใส่หน้าเซฮุนเมื่อเห็นว่าเพื่อนสนิทเหม่อมองอะไรนานแล้ว
“เปล่า” เซฮุนหันหน้ากลับมาก่อนจะก้มหน้าเล่นโทรศัพท์มือถือ
“มองคนจีบกันเดี๋ยวก็อิจฉาตาร้อนหรอก” แทมินพูดขึ้นก่อนจะยกน้ำขึ้นดื่ม
“จีบกัน? เขาไม่ได้เป็นแฟนกันเหรอวะ?” จงอินทำหน้างงมองหน้าเซฮุนกับแทมินสลับไปสลับมา
“มึงอ่ะตกข่าว เขาเม้าส์กันให้แซด ว่าสองคนนี่เขาไม่ได้เป็นแฟนกันหรอก ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน”
“จริงอ่อ? แปลกว่ะ” จงอินขมวดคิ้ว
“จริงๆมึงเป็นน้องรหัสพี่เขามึงน่าจะรู้อะไรบ้างมั้ยวะ?” แทมินหันไปถามคนตัวสูง เป็นน้องรหัสประสาอะไรไม่รู้เรื่องพี่รหัสเลยซักนิด
“กูไม่สนใจเรื่องแบบนั้นหรอก”
“แต่พวกกูสนใจ ไปสืบมาให้หน่อยดิ”
“ไม่ใช่เรื่องของกู” เซฮุนพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกไป
“อะไรของมันวะ?” แทมินหันไปถามจงอิน
“ไม่รู้ ท้องผูกมั้ง” จงอินไหวไหล่เล็กน้อย บางทีเขาก็ตามอารมณ์เพื่อนตัวสูงไม่ทันเหมือนกัน
การแข่งวันนี้เป็นการแข่งในรอบแรก มีมหาวิทยาลัยสิบแห่งที่มาเข้าร่วมแข่งในปีนี้ดังนั้นจึงมีการแข่งขันทั้งหมดห้าคู่ก่อนที่จะไปแข่งกันอีกทีเพื่อหาผู้ชนะ งานเริ่มตั้งแต่เช้าจนตอนนี้ถึงการแข่งขันช่วงครึ่งหลังของคู่สุดท้าย เหลือเวลาเพียงสิบนาทีเท่านั้นก่อนจะจบเกมส์ คะแนนเสมอกันอยู่ที่สองต่อสอง ทั้งสองฝ่ายพยายามจะทำประตูภายในสิบนาทีนี้เพื่อที่จะได้เข้ารอบชิงชนะเลิศ
“ฟังนะ เหลือแค่สิบนาทีเท่านั้น พวกเราต้องรีบทำประตู” ชานยอลพูดกับลูกทีมทุกคน
“ครับ!!”
“ตอนนี้เราจะใช้วิธีบุกเข้าไปหาฝั่งนั้นแล้วยิงประตูให้ได้โดยเร็วที่สุด แทฮยอง เซฮุน พี่ฝากด้วยนะ ส่วนจงอิน อย่าให้พวกนั้นยิงประตูได้นะ ป้องกันประตูเราให้ดีที่สุดล่ะ”
“ครับผม!! ผมจะทุ่มสุดตัวเลยครับ!!” จงอินตอบรับรุ่นพี่อย่างแข็งขัน
“ดีมาก เอาล่ะ ทุกคนสู้ๆนะ” ทุกคนรวมพลังกันครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินกลับเข้าไปในสนาม ผู้คนบนสแตนด์ต่างส่งเสียงเพื่อให้กำลังใจทีมที่ตัวเองเชียร์ ทุกคนเดินไปประจำที่ก่อนกรรมการจะส่งสัญญาณให้เริ่มเกมส์อีกครั้ง ชานยอล เซฮุนและแทฮยองพยายามที่จะบุกเข้าไปในแดนฝ่ายตรงข้าม เช่นเดียวกับอีกฝ่ายที่พยายามบุกเข้ามาเหมือนกัน
“เห้ยจงอินกันเอาไว้นะเว้ย!!” แทมินส่งเสียงดังเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายตั้งท่าจะใช้พลังแข้งที่มีทั้งหมดเตะลูกฟุตบอลเข้าประตู
“ไม่นะ!!”
เสียงเชียร์เงียบลงทั้งสนามก่อนจะเฮ้ดังขึ้นอีกครั้งเมื่อจงอินสามารถคว้าลูกบอลเอาไว้ได้ คนผิวเข้มกระโจนตัวออกไปสุดชีวิตเพื่อรับลูกบอล
“โอ้ยยย ไอ้ดำบ้า ใจหายหมด!!” คยองซูถอนหายใจอย่างโล่งอก
“เห้ยไอ้คยอง เด็กคนนี้ป่ะที่เป็นกิ๊กใหม่มึงอ่ะ เจ๋งเหมือนกันนี่หว่า” จงแดหันไปแซวเพื่อนตาโต
“กิ๊กบ้ากิ๊กบออะไร พี่น้องกันเฉยๆ”
“หยั่มมา กูรู้ทุกอย่างหมดแล้ว เล่ามาซะดีๆ” จงแดใช้บ่ากระแทกเพื่อนพร้อมทำหน้ากวนๆใส่
“นี่ อย่าล้อเพื่อนสิ เพื่อนเขินหมดแล้วเห็นมั้ย” มินซอกทำท่าทีเหมือนจะห้ามจงแดให้เลิกล้อเพื่อนแต่ตัวเองกลับล้อเสียเอง
“เขินบ้าอะไรล่ะ” คยองซูตีหน้านิ่งทำเป็นไม่สนใจ
“เห้ยๆ บุกฝั่งนู้นแล้วว่ะ!!” จงแดสะกิดเพื่อนๆที่นั่งอยู่ขอบสนามให้ดูนาทีระทึกในตอนนี้ ชานยอลบุกเข้าไปในแดนฝ่ายตรงข้ามแล้วส่งบอลให้แทฮยองที่อยู่ด้านซ้าย ชานยอลส่งสัญญาณให้เซฮุนวิ่งขึ้นไปเพื่อรับลูกบอลจากแทฮยอง เซฮุนพยักหน้ารับคำสั่งก่อนจะวิ่งขึ้นหน้าไป ฝ่ายตรงข้ามพยายามจะขัดขวางคนตัวสูงไม่ให้วิ่งไปรับลูกบอล เด็กหนุ่มสองคนกางแขนกันเซฮุนอย่างสุดความสามารถ ชานยอลเห็นว่าเซฮุนโดนฝ่ายตรงข้ามสกัดอยู่จึงขึ้นหน้าไปก่อนเพื่อรับช่วงต่อจากแทฮยอง
“ซ....เซฮุน” ไม่ใช่แค่แบคฮยอนที่กำลังอึ้ง แต่ทุกคนในสนามต่างส่งเสียงด้วยความตื่นเต้นเมื่อเด็กหนุ่มที่ใส่เสื้อหมายเลขเก้าสิบสี่สไลด์ตัวลอดผ่านช่วงขาฝ่ายตรงข้ามก่อนจะลุกขึ้นแล้ววิ่งไปข้างหน้า ชานยอลที่กำลังเลี้ยงลูกบอลพอเห็นเซฮุนวิ่งนำขึ้นมาจึงส่งลูกบอลให้ คนตัวสูงรับลูกบอลมาก่อนจะวิ่งมาถึงแดนหน้าสุดของฝ่ายตรงข้าม ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ตรงโซนหน้าเลย มีเพียงเขากับผู้รักษาประตูเท่านั้น ฝ่ายตรงข้ามที่อยู่ด้านหลังกำลังวิ่งขึ้นมาเพื่อที่จะขัดขวาง เซฮุนไม่มีเวลาแล้วถ้าเขาไม่รีบยิงประตู
ปี๊ดดดดดดด!!!!!!
เสียงนกหวีดเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าจบเกมส์ดังขึ้นพร้อมกับเสียงเชียร์ที่ดังลั่นไปทั่วสนามเมื่อโอเซฮุนยิงประตูได้ทันเวลาพอดี
“เยสส สุดยอด” จงอินปรบมือรัวๆก่อนจะวิ่งไปหาเซฮุน เหมือนที่เห็นกันได้ทั่วไปในหนังหรือในละคร ตอนนี้คนตัวสูงถูกสมาชิกในทีมยกให้ลอยขึ้นไปแล้วจับโยนเหมือนบูชายันจนพอใจก่อนจะถูกปล่อยลงพื้น แก๊งค์ที่นั่งเชียร์อยู่ข้างสนามจึงวิ่งเข้าไปหา
“ไม่ผิดหวังเลยที่ฝากประตูไว้กับนาย ขอบใจนะ” ชานยอลเดินตรงเข้ามาหาเซฮุน
“ขอบคุณครับ” เซฮุนโค้งให้ชานยอลเล็กน้อย ชานยอลจึงตบบ่ารุ่นน้องสองทีพร้อมยิ้มบางๆให้ก่อนจะเดินไปหาผู้ที่มาแสดงความยินดีคนอื่นๆ แบคฮยอนเดินตรงเข้าไปหาน้องรหัสก่อนจะจับมืออีกคนชูขึ้นเหนือหัวแล้วยิ้มกว้างจนตาหยี
“เก่งที่สุดไปเลย นายทำได้แล้วนะ” แบคฮยอนเขย่ามืออีกคนพร้อมกระโดดดีใจอย่างกับเป็นคนยิงประตูได้ซะเอง เซฮุนมองคนที่กำลังกระโดดโลดเต้นเป็นลิงเป็นข้างอยู่ตรงหน้า เขามองใบหน้าน่ารักที่กำลังดีใจกับชัยชนะจนเผลอยิ้มกว้างออกมาไม่รู้ตัว เซฮุนเผลอจ้องใบหน้าพี่รหัสอยู่อย่างนั้นจนแบคฮยอนรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ
“เอ่อ....ขอโทษ....ดีใจไปหน่อยอ่ะ” แบคฮยอนปล่อยมือหนาก่อนจะยิ้มแหยๆแก้เขิน เขารู้ว่าคนตัวสูงขี้รำคาญคงจะไม่ชอบให้วุ่นวายมากเกินไป พอเซฮุนได้สติก็แกล้งทำเป็นกระแอมแล้วเสมองไปทางอื่นก่อนจะได้ยินเสียงเรียกของเพื่อนสนิท
“เห้ยเจ๋งไปเลยเพื่อน สุดยอดดด!!” แทมินวิ่งเข้ามาตบไหล่เพื่อนตัวสูงแล้วยิ้มแป้นด้วยความดีใจ แบคฮยอนเห็นอย่างนั้นจึงปล่อยให้น้องๆแสดงความยินดีกันแล้วก็เพิ่งนึกได้ว่าคนที่เขาควรจะไปหาคือพี่ชานยอล แบคฮยอนมองหาพี่ชานยอลก่อนเดินเข้าไปหาแล้วสะกิดเบาๆที่ต้นแขนแกร่ง
“ยินดีกับชัยชนะในรอบแรกครับ”
“ขอบคุณนะ” ชานยอลยิ้มบางๆให้คนตัวเล็ก
“พี่เก่งมากๆเลยนะครับ” แบคฮยอนยกนิ้วโป้งให้พี่ชานยอลก่อนจะยิ้มกว้าง
“ไม่เก่งหรอก ปีนี้โดนเด็กมันแย่งซีน เอาประตูสำคัญไปเฉยเลย” ชานยอลยู่หน้าทำท่าทางน้อยใจนิดๆ แบคฮยอนหัวเราะออกมาเบาๆกับท่าทางของชานยอล อายุก็เยอะแล้วยังจะทำตัวเป็นเด็กอีก
“ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยนี่ครับ พี่ทำประตูสำคัญมาตั้งหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้ยกให้เด็กเถอะ”
“งั้นเหรอ” ชานยอลหัวเราะเบาๆ
“ยังไงพี่ก็เก่งที่สุดสำหรับแบคเสมอ” ชานยอลมองเจ้าของใบหน้าจิ้มลิ้มที่เริ่มจะมีอาการหน้าแดงหลังจากเป็นคนพูดประโยคนั้นออกมาเอง
“….”
“บ...แบคไปเก็บของดีกว่า” พูดจบก็รีบเดินลิ่วๆไป ชานยอลมองคนตัวเล็กที่เดินเข้าไปในอาคารจนลับตา นี่คือหนึ่งกำลังใจที่ทำให้เขาสู้มาจนถึงตอนนี้ ไม่มีคนตัวเล็กก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง
หลังจากจับมือกับฝ่ายตรงข้ามเพื่อมิตรสัมพันธ์อันดีต่อกันแล้ว ชานยอลก็เรียกสมาชิกชมรมทุกคนถ่ายรูปเพื่อเป็นที่ระลึกก่อนจะนัดให้วันพรุ่งนี้มาให้พร้อมเพรียงกันที่ชมรมเวลาห้าโมงเย็นเพราะมีเรื่องจะแจ้งให้ทราบ วันรุ่งขึ้นทุกคนจึงมารวมกันที่ชมรมเพื่อรับคำชี้แจงจากประธาน บางกลุ่มก็ไปเดาะฟุตบอลเล่นรอเวลา ส่วนบางกลุ่มก็จับเข่าคุยกันถึงเรื่องการแข่งเมื่อวานนี้
“ไหล่เขียวเลยอ่ะ”
“เจ็บมากด้วยครับ” จงอินถลกแขนเสื้อให้คยองซูดูรอยฟกช้ำที่เกิดจากการกระแทกเพราะพุ่งสุดตัวไปรับลูกบอลของฝ่ายตรงข้ามเมื่อวานนี้
“เอายาหม่องทานะเดี๋ยวก็หาย เป็นนักฟุตบอลก็ต้องมีรอยแบบนี้แหละถึงจะเก่ง” คยองซูพูดพร้อมกับยิ้มบางๆให้ เขาไม่อยากจะสนิทชิดเชื้อกับหมอนี่มาก เดี๋ยวเจ้านี่ได้ใจคิดว่าเขามีใจให้ อีกอย่างเพื่อนก็จะล้อด้วย
“ทุกคนมารวมกันทางนี้ครับ” เสียงประธานชมรมดังขึ้นเพื่อเรียกสมาชิกให้ไปรวมกันที่สนาม เด็กปีหนึ่งต่างทยอยกันเข้าไปนั่งอย่างเป็นระเบียบ ส่วนรุ่นพี่ก็ยืนอยู่ด้านหน้า
“มาครบแล้วนะครับ งั้นพี่จะขอพูดเลยนะ เมื่อวานนี้ขอขอบคุณทุกคนจริงๆที่ช่วยกันทำให้เราได้ชัยชนะ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายสวัสดิการ ฝ่ายเชียร์ ฝ่ายอุปกรณ์หรือแม้แต่นักกีฬาก็ตาม ทุกคนสุดยอดที่สุดเลยครับ” ทุกคนปรบมือพร้อมส่งเสียงโห่ร้องด้วยความดีใจดังลั่นไปทั่วสนาม
“เมื่อวานนี้มีบุคคลหนึ่งที่ทำประตูสำคัญให้กับทีมเรา ทำให้ทีมเราได้ชัยชนะมาในรอบแรก ปรบมือให้โอเซฮุนด้วยครับ” ชานยอลผายมือให้เซฮุนยืนขึ้น คนตัวสูงยืนขึ้นอย่างงงๆก่อนจะยิ้มบางๆแล้วเกาท้ายทอยแก้เขิน จงอินกับแทมินปรบมือเสียงดังกว่าใครเพื่อนพร้อมทำท่าทางคล้ายๆจะบอกว่า ‘คนนี้เพื่อนผม’
“ที่พี่เรียกทุกคนมารวมกันในวันนี้ก็เพื่อจะแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับการแข่งในรอบชิงชนะเลิศ เราจะแข่งรอบชิงในอีกสามอาทิตย์ข้างหน้าขอให้ทุกคนตั้งใจฝึกซ้อมให้มากขึ้นกว่านี้นะครับ”
“ครับ!!” ทุกคนขานตอบอย่างแข็งขัน
“และเพื่อเป็นการเพิ่มกำลังใจให้กับทุกคน”
“…”
“ชมรมของเราจะไปเที่ยวทะเลกันครับ”
“นายจะไปทริปทะเลมั้ย?” แบคฮยอนถามน้องรหัสที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาอยากให้เซฮุนไปเพราะทริปของชมรมสนุกมาก มีกิจกรรมให้ทำ มีเกมให้เล่น ได้ไปทุกที่ตามใจชอบ แต่ที่เด็ดกว่านั้นคือควักกระเป๋าจ่ายค่าที่พักแค่ครึ่งเดียวเท่านั้นเพราะอีกครึ่งชมรมใช้เงินสนับสนุนที่ได้มาจากมหาวิทยาลัยออกให้ ปีที่แล้วไปเที่ยวน้ำตกแต่ปีนี้ไปทะเล คนตัวเล็กคิดว่ามันจะต้องสนุกมากกว่าเดิมแน่ๆ
“ไปมั้ง” เซฮุนทำน้ำเสียงไม่มั่นใจ เขายังไม่ได้คิดเลยว่าจะไปหรือไม่
“ไปเถอะ มันสนุกมากเลยนะ ไม่ไปนายจะพลาดมาก” แบคฮยอนคุยโม้ถึงการไปเที่ยวน้ำตกเมื่อปีที่แล้วให้น้องรหัสฟังอย่างออกรสชาติ เซฮุนก็ได้แต่นั่งฟังคนตัวเล็กพูดจ้อยๆไปเรื่อยๆ แต่แปลกที่เขาไม่รู้สึกรำคาญมันเลยซักนิด
“ไปนะ”
“….”
“นะๆๆๆ” แบคฮยอนหันมาทำตาปริบๆใส่น้องรหัส เขาอยากให้เซฮุนไปจริงๆนะ
“อืม ไปก็ได้”
“จริงนะ สัญญา” แบคฮยอนยื่นนิ้วก้อยไปตรงหน้าเซฮุน
“ต้องเกี่ยวก้อยด้วยเหรอ?” คนตัวสูงขมวดคิ้วเล็กน้อย แค่ตอบว่าจะไปต้องถึงขนาดเกี่ยวก้อยสัญญากันเลยเหรอ
“ต้องสิ เดี๋ยวนายขี้โกง”
“….”
“เร็วสิ!!” คนตัวเล็กกระดิกนิ้วก้อยใส่หน้าคนตัวสูงรัวๆ เซฮุนมองนิ้วก้อยเล็กๆนั่นก่อนที่เขาจะยื่นนิ้วก้อยออกไปโดยไม่รู้ตัว แบคฮยอนรีบคว้านิ้วก้อยของอีกคนไว้ก่อนจะเขย่าเบาๆเป็นเชิงว่า ‘ตกลงกันแล้วนะ’ คนตัวเล็กยิ้มกว้างด้วยความดีใจ เขาเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อของน้องรหัสก่อนจะเผลอไปสบตาเข้าพอดี
ทำไมรู้สึกแปลกๆนะ...
แบคฮยอนไม่รู้ว่าเกิดอะไรผิดปกติกับตัวเขา ช่วงนี้เวลาอยู่ใกล้น้องรหัสจะต้องรู้สึกแปลกๆ เมื่อวานก็เป็น วันนี้ก็เป็น
คนตัวเล็กรีบถอนนิ้วก้อยออกเพราะเขารู้สึกแปล๊บๆที่นิ้วเหมือนโดนอะไรช็อต
“น....นายสัญญาแล้วนะ”
“อืม” เซฮุนพยักหน้าเบาๆให้พี่รหัสก่อนที่อีกคนจะขอตัวไปหาเพื่อนแล้วรีบเดินดุ่มๆไป คนตัวสูงจับนิ้วก้อยของตัวเองแล้วลูบมันเบาๆ ไม่ใช่แค่แบคฮยอนที่รู้สึกแปลกๆ
เขาก็รู้สึกเหมือนกัน...
Talk : มาต่อแล้วนะฮับ เนื้อเรื่องแชปเตอร์หน้าไปทัลเลจะเข้มข้นขึ้นแล้ว ติดตามกันให้ดีล่าาาา แชปหน้ามีเฮแน่นอน อิอิ
สำหรับเรื่องของพี่ชันยอลกับนุ้งแบคนั้น เขาแอบชอบกันมาเป็นปีๆเขาก็ต้องกุ๊กกิ๊กกันเป็นธรรมดา ส่วนเด็กฮุนเพิ่งเจอกันเดือนกว่าๆเอ๊งงงง มาทีหลังก็ต้องทัมใจ5555555 รับประกันว่าฉากหวานๆของพี่รหัสน้องรหัสจะคุ้มค่ากับการรอคอยแน่นวลลล
เม้นให้เค้ากันเย้อะๆๆๆๆๆๆน้าาา เค้าจะได้ฟิตๆ คิคิ :)
ขอบคุณค่าาาา
@Auaum_CB
ความคิดเห็น