เคล็ดลับนักเขียนและรายละเอียดสำนักพิมพ์

ลำดับตอนที่ #61 : เทคนิคการเขียนนิยาย (ครึ่งแรก)

คุณเคยเขียนเกี่ยวกับนิยายหรือไม่
เมื่อคุณเขียน คุณก็มักประสบปัญหาเรื่องกับการแต่งต่อไปนี้

1. น้ำเน่า พระเอกเจอกับนางเอกแบบเฉียด ๆ
2. มุขฝืด เติมน้ำมันหล่อลื่นแล้วยังฝืดอีก
3. งานไม่เดิน เพราะไม่รู้จะแต่งต่อไงดี
4. เพรียบพร้อมไปด้วยสมองอันชาญฉลาด ในการสร้างสรรค์นิยาย แต่กลับไม่มีคนอ่าน

ถึงเวลาแล้วครับที่คุณจะปรับปรุงนิยายของคุณเสียที
แล้วคุณจะรู้สึกว่า นิยายของคุณน่าอ่านยิ่งขึ้น
แล้วคุณจะทำอย่างไรให้นิยายของคุณน่าอ่านยิ่งขึ้น
และอีกทั้งคุณนำนิยายของคุณไปประยุกต์ในการทำเกมได้เหมาะสม

ดังนั้น ผมจึงจัดกระทู้นี้เป็นสร้างนิยาย
เพื่อนำไปประยุกต์ใช้กับเกมนะครับ

บทที่ 1
ก้าวสู่เป็นเจ้าของนิยาย


นิยายในความหมายของคุณคืออะไร ?....
สำหรับหลายคนคงคิดไปหลาย ๆ แง่ แต่ในส่วนตัวของกระผมแล้ว นิยายก็คือห้องการแสดงละครห้องหนึ่ง
มีตัวพระ ตัวนาง ตัวอิจฉา และตัวประกอบมากมายที่แสดงอยู่ในห้องของคุณ

ง่าย ๆ เลยการที่จะก้าวสู่เป็นเจ้าของนิยาย
ให้คุณสมมติห้องเป็นห้องหนึ่ง มีเพดาน มีฝาผนัง และมีพื้น
ในห้องของคุณนั้นประกอบไปด้วยอะไรบ้าง
โต๊ะ เก้าอี้ เตียงนอน คอมพิวเตอร์ หรืออื่น ๆ หลายอย่างที่คุณจัดใส่ลงไปในห้องของคุณทำให้ดูดีงามยิ่ง

คราวนี้เมื่อองคัตถุพร้อมแล้ว เหลือเหล่านักแสดงของคุณ
ตัวแสดงของคุณเป็นแบบใด ?............
เท่ห์ สมาร์ท หล่อเพอร์เฟ็ต ตามัน ผมสีดำ
หรือ เตี้ย อ้วน ผิวคล้ำ

เมื่อทุกอย่างประกอบอย่างลงตัวแล้ว
ยังคงขาดสิ่งหนึ่ง นั้นก็คือการดำเนินการของตัวละคร
นี่คือหัวใจหลักในการสร้างนิยายเลยทีเพียว
จะให้การดำเนินการของตัวละครเป็นไปในรูปแบบใด ก็เพียงแต่คุณเขียนลงไป
เพราะในขณะนี้คุณคือพระเจ้าที่สร้างสรรค์และกำหนดชีวิตของเหล่าตัวละครในห้องนี้แล้ว

ยกตัวอย่างนะครับ
ห้อง -> ภายในห้องนั่งเล่นประดับไปด้วยโซฟา โต๊ะรับแขก แจกัน รูปภาพ เฟอร์นิเจอร์ อื่น ๆ
ตัวแสดง -> เพื่อนบ้าน , พระเอก
การดำเนินการของตัวละคร -> พระเอกออกไปต้อนรับเพื่อนที่แวะเข้ามาเยี่ยมบ้าน

ส่วนนี้คือ การก้าวเป็นเจ้าของนิยาย
ส่วนในการเขียนบทจะกล่าวในภายหลัง



บทที่ 2
ความรู้เบื้องต้นในการเขียนบทให้แจ่มแจ้ง


ภายในบทนี้ ขอคุยยาวนะครับ
การเขียนบทของตัวละครนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก
ฉะนั้น การเขียนบทจึงต้องระมัดระวัง ระมัดระวังอย่างไรหรือครับ นั่นก็คือ

1) ภาษาถูกต้อง
เรื่องนี้อยากจะขอย้ำเป็นอย่างยิ่งเลย ในการใช้ภาษา โดยเฉพาะเรื่องการใช้ภาษาวิบัติ
ซึ่งเป็นภาษาแสลงที่เข้าใจเฉพาะหมู่วัยรุ่น หรือกลุ่มคน แต่อย่าลืม คิดให้กระจ่างแจ่มแจ้งอีกครั้งหนึ่งว่า
เราสร้างนิยายเพื่อใคร เพื่อวัยรุ่นเท่านั้นหรอกหรือ? หรือเพียงแค่กลุ่มชนบางกลุ่มเท่านั้น

2) เทคนิกที่ดีอยู่ที่ประสบการณ์
เทคนิกอะไรนะหรือครับ ? เทคนิกนี้เรียกว่า เทคนิกที่ไม่มีตำราเรียน คุณไม่จำเป็นใช้คำให้เลิศเลอเพอร์เฟ็ค
ประการใด เพราะนี่คือนิยาย นิยายไม่มีขอบเขตที่ตายตัวเหมือนกลอนหรอกครับ คุณคิดอะไรคุณเขียนไปคร่าว ๆ ก่อน
หลังจากนั้นจึงค่อยศึกษาการเขียนนิยาย จากนักเขียนนิยายท่านอื่น และมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม คุณจะทำให้
นิยายาของคุณงามยิ่งขึ้น

3) เจอซอยตัน หรือผูกปมเชือกแล้วแก้ไม่ได้
นักเขียนทุกคนประสบงานนี้เป็นจำนวนมาก เพราะไม่รู้จะแก้หาทางออกอย่างใด หรือบางท่านยิ่งแก้แล้วเชือกยิ่งพันกัน
แน่นขึ้น เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ยอมรับครับ ส่วนมากที่จะเจอซอยตันในการเขียนนิยายก็คือ นิยายจบกลางคันแล้ว ไม่รู้ว่าจะ
สรรหาเหตุการอย่างใดมานำเสนอต่ออีก ยกตัวอย่างว่า พระเอกช่วยเหลือนางเอกทุกครั้ง จนไม่รู้ว่าจะช่วยเหลืออย่างใดดีแล้ว
ทุกอย่างเราเขียนไปหมด หากขืนเราเขียนต่อไป ยิ่งทำให้นิยายกลายเป็นน้ำเน่ายิ่งขึ้น
วิธีแก้ง่าย หลับไปสักครู่ หรือหยุดงานเขียนชั่วคราว เพราะหากคุณยิ่งเขียนเท่าไรคุณก็ยิ่งกังวล ทำให้งานเขียนไม่ดียิ่งขึ้น
เรื่องนี้ขอแนะนำการการสร้างเกมด้วยนะครับ เพราะบางครั้งบางคราวเราคิดเหตุการณ์ต่อไปไม่ออก ขอให้หยุดพักผ่อนบ้าง
แต่อย่าดองนานจนลืมนะครับ

4) ยิ่งเขียนยิ่งน้ำเน่า
คำว่าน้ำเน่า เป็นภาษาแสลง ที่บ่งบอกถึงว่า นิยายของคุณเริ่มไม่น่าสนใจ เพราะวกไปวกมาซ้ำ ๆ ที่ขีดเส้นใต้
ก็เพราะว่า นี่คือสาเหตุของปัญหาที่ทำให้เกิดน้ำเน่ามากที่สุด ผมขอแนะนำว่า อะไรที่ซ้ำ ๆ ให้ตัดออก

ยกตัวอย่าง
วันที่ 1 พระเอกพบนางเอก
วันที่ 2 นางเอกพบพระเอก
วันที่ 3 พระเอกชอบนางเอก
วันที่ 4 พระเอกทำให้นางเอกสนใจ
วันที่ 5 พระเอกช่วยเหลือนางเอก
....
...
..
.
วันสุดท้าย พระเอกรักนางเอก

เป็นไงล่ะครับ ตัวอย่างที่ยกมา วกไปวกมา จะดูเหมือนว่า เราสรุปได้ว่าตอนสุดท้ายพระเอกนางเอกก็ได้รัก
และแล้วนิยายเรื่องนี้ก็จบ ...............
นี่คือนิยายน้ำเน่าบทหนึ่งที่อยากเสนอแนะ

วิธีแก้ปัญหาอาการน้ำเน่าของนิยายคืออะไร
เรื่องนี้ผมเองก็ไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องน้ำเน่าของนิยายได้ นิยายทั่วไปมีหลักในการจบ เพียง 4 แบบคือ
1) สุดท้ายจึงลงเอยกัน
2) หักมุมสุดขั้ว
3) จบแบบปริศนา ให้คุณผู้ชมทาย
4) จบแบบไม่รู้ความ

วิธีการแก้ง่ายก็คือ พยายามที่จะออกนอกกะลา
ซึ่งจะกล่าวในข้อถัดไป

5) พยายามจะออกนอกกะลา
ข้อนี้ไม่ได้หมายความว่าผมจะให้คุณเป็นกบนะครับ
แต่ในที่นี้คือ ขอให้คุณสร้างสรรค์นิยายของคุณให้แตกต่างจากงานของคนอื่น
พยายามที่จะแปลกแหวกแนว นักเขียนหลายท่านได้รับความนิยมจากงานเขียน
อันเนื่องมาจากการเขียนให้แปลกกว่านักเขียนคนอื่น
ยกตัวเช่น แฮรี่พอตเตอร์ , ลอร์ดออฟเดอะลิงค์ , เดอะ ไวท์โรด ฯลฯ


//////////////////////////////////////////////

ปล. อยากฝากบอกไว้ว่า
กระทู้นี้ตั้งขึ้นเพื่อพัฒนาในการเขียนเกมจากนิยายของตนเอง
เพื่อให้เกมของคุณดียิ่งขึ้น

หากได้รับความสนใจ ผมเองจะขอเขียนต่อ
หรือ ถ้าหากผมเขียนแล้ว อาจจะดูมั่ว ก็ติติงมาได้นะครับ

บทต่อไป ผมขอเสนอเกี่ยวกับ การเริ่มต้นนิยาย
บทนี้อยากฝากให้คุณช่วยคิดนิยายสั้น ๆ ของคุณหนึ่งเรื่อง
เรื่องใดก็ได้ หากสนใจหรืออยากถาม ให้ติดต่อมาทางบอร์ดนี้ได้เสมอ
แล้วกระผมจะตอบ

///////////////////////////////////////////////



บทที่ 3
เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง


คุณจะเริ่มต้นนิยายอย่างไร
นี่คือประเด็นสำคัญที่จะเขียนนิยาย
เคยได้ยินคำกล่าวไหมที่ว่า
" เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง "

นั้นก็เพราะ ถ้าเราปฏิบัติและทำดี
อาจจะมีโอกาสสำเร็จเป็นอย่างสูง
เช่นกัน ถ้าเราเริ่มต้นการเขียนนิยายดี
จะทำให้มีคนมาสนใจนิยายเรามากขึ้น

แต่ปัญหามันก็คือว่า เราจะสร้างนิยายได้อย่างไรกัน
จุดมุ่งหมายแรกที่เราจะสร้างนิยายคือ
ชื่อนิยายที่เราสร้างสรรค์ผลงาน

" รักเธอหมดหัวใจ "
" แม้นเลือกเกิดได้ ฉันจะเป็นนางฟ้า"
" คนหน้ารักอย่างเธอ จะปล่อยได้ไง"
นี่คือชื่อเรื่องที่นำมายกตัวอย่างให้เห็นกัน
ลองคิดดูสิว่า ชื่อเรื่องนิยายที่กระผมยกตัวอย่างมาเหล่านี้
คุณคิดว่า นิยายจะออกไปทางไหนมากกว่ากัน

แน่นอนละครับ คุณอยากที่เขียนนิยายให้มีคนมาสนใจในผลงานของเรา
แต่อย่าลืมครับว่า ชื่อเรื่องเปรียบเสมือนรั้วบ้านของเรา
ยังไงนะหรือครับ
ก็หมายความว่า ถ้ารั้วของงาม คนมักจะชมและสนใจบ้านของเรา
เช่นกัน ก็เหมือนกับนิยายนะครับ
ผมลองยกตัวอย่างชื่อนิยายที่แปลกอยู่ชื่อ

" ผู้ชายมาจากดาวอังคาร"
คุณลองคิดดูสิว่า ผู้ชายมาได้อย่างไร
นี่คือปัญหาที่ผู้เขียนให้ผู้อ่านคิด และสนใจที่จะติดตามผลงาน
ว่า ทำไมผู้ชายมาจากดาวอังคาร
คุณลองคิดดูสิว่า นิยายนี้ออกไปทางแนวไหน
คุณคงคิดไม่ออกใช่ไหมครับ ถ้าไม่อ่านนิยายภายใน

หรือชื่อหัวข้อหนึ่งในหนังสือ Action Today นะครับ
หัวข้อชื่อว่า "สายน้ำไม่ไหลกลับ"
ผมอ่านตอนแรกเหมือนกับว่า คงจะเป็นเรื่องน้ำ ๆ หรือไม่ก็เรื่องเกี่ยวกับธรรมชาติ
แต่ที่ไหนได้ละครับ มันเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับการลบไฟล์ขยะ
ถ้าเราลบไปแล้ว จะกู้คืนกลับมาไม่ได้ เหมือนกับสายน้ำไม่ไหลกลับนั้นเอง

หรือเพลงของเพลงบางเพลง อย่างเช่นเพลง "ปริญญาใจ"
เป็นถ้อยคำที่กะทัดรัด แต่ให้ความหมายยาว

แต่ปัญหาของเรา ไม่ได้อยู่ที่หัวข้อ หรือชื่อหนังสือของเขา
ปัญหาของเราก็คือ ชื่อเรื่อง ชื่อนิยาย จะตั้งอย่างไรดี

คนส่วนใหญ่จะมีแนวทางในการตั้งชื่อนิยายอยู่ 2 แนวก็คือ
1) ตั้งชื่อนิยายแล้วเขียนไปตามชื่อเรื่อง
2) เขียนพล๊อตเรื่องนิยายก่อน และค่อยคิดชื่อนิยาย
2 ข้อนี้ขึ้นอยู่กับคุณที่จะเลือกใช้ ว่าคุณจะเลือกใช้แบบใด

และปัญหาต่อไปก็คือ จะสร้างคำอย่างไรให้น่าสนใจที่สุด
ขอบอกง่าย ๆ เลยนะครับว่า เขียนอะไรก็ได้ที่มันเป็นหัวใจหลักของนิยาย

ดังเช่น
" ฉันจะรักเธอหมดหัวใจ แม้นชีวิตนี้มีอุปสรรคขวางทางอยู่
แม้นเราจะอยู่ไกลคนละขอบฟ้า แต่ก็ยังเป็นขอบฟ้าเดียวกัน
แม้นอยู่ไกลคนละประเทศ แต่รักของฉันจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง"

เมื่อเขียนหัวใจหลักได้แล้ว ครั้นต่อไป จะตัดประโยคที่เป็นขยะออกไป
ในที่นี้ผมขอตัดคำว่า
" ฉันจะรักเธอหมดหัวใจ แม้นชีวิตนี้มีอุปสรคขวางทางอยู่ " เพราะประโยคไม่งาม ผู้อ่านนึกเรื่องได้
" แม้นอยู่ไกลคนละประเทศ" ประโยคนี้รู้สึกเหมือนว่า คล้ายกับนิยายรักข้ามชาติ
" แต่รักของฉันไม่มีวันเปลี่ยนแปลง" ประโยคนี้รักมาก ผู้อ่านคิดว่า เรื่องรักอีกแล้ว
ก็เหลือเพียงแต่ แม้นเราจะอยู่ไกลคนละขอบฟ้า แต่ก็ยังเป็นของฟ้าเดียวกัน

ต่อไปถึงตาเขียนชื่อเรื่องแล้ว
คุณลองหาเศษกระดาษหนึ่งแผ่น แล้วหาชื่อเรื่องที่เหมาะสม
และเกี่ยวข้องกับหัวใจสำคัญของนิยาย
ที่สำคัญประการหนึ่ง ชื่อเรื่องสั้นกะทัดรัด แต่ให้ได้ใจความด้วย
ดังเช่น
" รักเธอเท่าฟ้า"
" ขอบฟ้ามิอาจขวางรัก"
" ขอบฟ้าเดียวกัน "
" ขอบฟ้ารัก "
" หัวใจฉันอยู่ปลายฟ้า"
" รักกลางขอบฟ้า"

เมื่อหาชื่อเรื่องได้แล้ว คราวนี้ลองตัดแต่ละชื่อเรื่องที่เราไม่ชอบออกไป
ทีละชื่อ จนเหลือชื่อเดียว แต่มีไม่น้อยที่เจอทางตัด เป็นคนสองจิตสองใจ
แบบรักพี่เสียดายน้อง อย่างช่น
" ขอบฟ้ามิอาจขวางรัก"
" หัวใจฉันอยู่ปลายฟ้า"
เมื่อคิดดูแล้ว เออชื่อเรื่องดีนี่หว่า
คุณลองคิดดูสิว่า ถ้าเลือกใช้ชื่อเรื่องนี้ จะมีโอกาสเท่าไรที่ผู้อ่านชอบ

สำหรับผม ผมคิดว่า "หัวใจฉันอยู่ที่ปลายฟ้า" เป็นชื่อเรื่องที่ดีที่สุด
ลองคิดดูสิว่า ถ้าหัวใจอยู่ที่ปลายฟ้าจริง แล้วเราคงมีตายแย่เหรอ

นี่อาจเป็นสิ่งที่ยากไป แต่ผมมีเทคนิคดี ๆ ที่ตั้ง นั้นคือ
1) ประสบการณ์
2) ความรู้การใช้คำ
3) คำสั้น กะทัดรัด กินใจ ลึกซึ้ง
4) แปลก และสร้างสรรค์

บทนี้ขอรวมไปถึงการตั้งชื่อเกมเลยนะครับ
ส่วนใหญ่ คนไทยมักจะตั้งชื่อเกมเป็นภาษาอังกฤษ
เพื่อที่จะทำให้เกมดูเท่ห์ และสากลมากยิ่งขึ้น
แต่อย่าลืมสิครับ เราทำเพื่อใคร
ถ้าเด็กประถมที่ต้องการอยากเล่นเกม แต่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับ
ภาษาอังกฤษ แล้วเขาจะอ่านได้อย่างไร
ถ้าคุณอยากจะตั้งชื่อเป็นภาษาอังกฤษ ผมอยากฝากไว้ว่า
ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้น ควรตั้งชื่อเป็นภาษาไทย จะทำให้ดูดียิ่งขึ้น
อย่างเช่น

ฝันรักที่ปลายฟ้า : SkyLove
หัวใจไม่ได้มีแค่รัก : The Heart & Love



บทที่ 4
เรียนรู้เกี่ยวกับการเริ่มต้นเขียนนิยาย


คนส่วนใหญ่มักจะมีปัญหาเกี่ยวกับการเขียนเริ่มต้นนิยาย
จะเขียนอย่างไรดี เพื่อให้คุณผู้อ่านสนใจและอยากติดตามต่อไป

ง่ายมาก
คุณลองคิดเพียงแค่ว่า ถ้าคุณหลงรักผู้หญิง ผู้ชายคนหนึ่ง
คุณจะพูด และทำตัวอย่างไรเพื่อโน้มน้าวใจให้ผู้หญิงชอบคุณมากที่สุด
หรือคุณจะเอ่ยปากพูดไปเลยว่า ผมรักคุณมานานแล้ว

หรืออย่างเช่น
คุณเป็นตำรวจจะช่วยเหลือคนฆ่าตัวตาย
คุณจะพูดอย่างไร ให้เขายอมเลิกฆ่าตัวตาย

นี่เพียงแค่เหตุการณ์สนมติเล่น ๆ ขึ้นนะครับ
แต่ปัญหาของเราก็คือจะขึ้นต้นหัวนิยายอย่างไรดี
ผมขอยกตัวอย่างกระทู้หนึ่ง ของท่านนกไฟก็แล้วกัน

หยุด! อย่าขยับ!
ผมขอเอาRAM64ของผมจี้คอคุณไว้ก่อน เพราะผมต้องการจะถามคำถามหนึ่งข้อ(นอกเหนือจากโพลล์)ว่า...
"The RPG เป็นสิ่งที่ดูน่าเวียนหัวสำหรับคุณใช่หรือไม่?"

นี่คือคำที่เขียนขึ้นต้นได้ดี
อ่านครั้งแรก เหมือนกับว่าท่านนกไฟจะมาปล้นบอร์ดของเราไปจริง ๆ
แต่พออ่านในบรรทัดที่ 3 จึงพอรู้ว่า อ๋อเป็นเรื่องเกี่ยวกับ The RPG นั้นเอง

หรือกระทู้นกไฟ ( อีกแล้ว )

นาทีแรกที่ฉันก้าวเข้ามายังที่แห่งนี้ เป็นเพียงmemberที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่คนหนึ่ง
เอ๊ะ? เขาทำอะไรกัน? ผู้คนดูสนุกสนานกันดีนะ?
มาจากกระทู้เรื่อง ใบไม้เก่า

หรือบทความบทหนึ่งจากเรื่องหนึ่งที่ผมจำไม่ได้

แม่ของผมตายวันที่ใบของต้นทองกวางร่วงหล่น

นี่คือการเขียนขึ้นต้นนิยายของนักเรียน
ซึ่งเขียนเป็นความนัยว่า
แม่ของผมตายเมื่อวันที่ใบของต้นทองกวางร่วงหล่น
ซึ่งอยากให้ท่านผู้อ่านคิดอีกครั้งหนึ่งว่า ฤดูใดที่ใบไม้ร่วงหล่น

กลับมาเข้าเรื่องกันต่อเลยนะครับ
ปัญหาของเราอยู่ที่ว่า จะสร้างคำอย่างไรให้สะกิดใจคุณผู้อ่านมากที่สุด

ครูภาษาไทยของผมย้ำเสมอเลยว่า
ถ้าจะเขียนเกริ่น อย่าพยายามเข้าเนื้อเรื่องสำคัญมากที่สุด
อย่างเช่น ถ้าจะเขียนถึงพระคุณแม่ อย่าใช้คำที่มีคำว่าแม่ขึ้นต้น
ลองหาประโยคอื่นที่สื่อถึงทุกอย่างที่เกี่ยวกับพระคุณของสิ่งอื่น
แล้วผลลัพธ์สุดท้ายให้ตกลงที่คำว่า พระคุณแม่ยิ่งใหญ่กว่าสิ่งใด

เช่นกัน ถ้าเรานำเอามาประยุกต์มาใช้ ก็จะเกิดผลดีไม่น้อย
อย่างเช่น ถ้านิยายของเรื่องเกี่ยวกับ "ธรรมชาติสวยงาม"
อาจจะขึ้นต้นด้วยว่า
" แม้นมีผู้หญิงสวยสักครึ่งหนึ่งของโลก มิได้งามเท่ากับธรรมชาติ"
นี่เป็นเพียงคำขึ้นต้นสั้น ๆ แต่ให้ใจความว่า
ธรรมชาติสวยกว่าผู้หญิงที่งามเลิศเลอ

ลองมาประยุกต์เกี่ยวกับเกมบ้างละครับ
อย่างเช่น เกมหนึ่งจำชื่อไม่ได้
แต่ขึ้นต้นด้วยคำว่า
" ทุกคืนผมมักจะนอนหลับฝัน
ผมฝันร้ายเช่นนี้ซ้ำ ๆ
ผมอยู่กลางดงไฟ ในมือผมถือดาบเล่มใหญ่
เบื้องหน้าของผม คือบุรุษผู้หนึ่งสวมผ้าคลุมกำลังจะเข้ามาทำร้าย....."
ผมขอบอกตามตรงเลยนะครับ
ว่า ฝันครั้งนี้เราสามารถที่จะรู้แล้วว่า เราต้องสู้กับคนชั่วร้ายคนหนึ่งไม่ช้า

แต่ถ้าขึ้นต้นอย่างเช่น
" ท่ามกลางกองเพลิงที่ร้อนระอุ บุรุษร่างกายผู้น่าเกรงขาม
ถือดาบเล่มใหญ่พร้อมจะฟาดฟันทุกสิ่ง เบื้องหน้าของเขาคือ
บุรุษลึกลับสวมเสื้อคลุมสีดำ เขากระโจนเข้ามาและสู้กันอย่างดุเดือด"
" เอ๊ะ เราฝันไปหรือเนี่ย" บ่อยครั้งที่ผมอยู่เช่นนี้
ลองคิดดูสิว่า ถ้าไม่เขียนบรรทัดสุดท้าย
ผู้อ่านจะรู้ไหมว่า นี่คือความฝัน

และมีเทคนิคอย่างหนึ่งนะครับ ซึ่งแม่ของผมใช้เป็นประจำ
คือ ขึ้นต้นด้วยคำพูดของตัวละครของใครก็ได้
อย่างเช่น ถ้านิยายเกี่ยวกับ "การประดิษฐ์จรวด"

" พี่...ไปถึงไหนแล้ว"
ท่ามกลางความเหนื่อยและอากาศเร่าร้อนเช่นนี้ เหล่าคนในโรงงานผม
ต้องคอยเช็ดเหงื่ออยู่เสมอ เพราะผมมีความฝันที่ยิ่งที่ประดิษฐ์โครงการบ้า ๆ
แบบนี้ขึ้นมา ทำให้พวกเราต้องเดือดร้อนเสมอ

ลองคิดดูสิว่า ถ้าผมไม่อธิบาย
คุณก็คงจะคิดไปว่า สงสัยเป็นเรื่องเกี่ยวกับการท่องเที่ยว
แต่ที่ไหนได้ เป็นเกี่ยวกับเรื่องการประดิษฐ์งาน

แต่อย่างไรก็ตาม
มีเทคนิกดี ๆ มากมายที่ขึ้นต้นด้วยการประทับ
หากคุณเรียน อ่าน และเขียน จนชำนาญแล้ว
ผมรับรองเลยครับว่า คุณจะเขียนขึ้นต้นนิยายได้ดีแน่นอน

/////////////////////////////////////////////////