คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #111 : เรื่องของเรื่อง IV ครบ 100% แล้วคะ
ใบหน้าได้รูปภายใต้กรอบแว่น ทำให้ใบหน้าของหญิงสาวดูเป็นคนจริงจังขึ้นมาทันที อีกทั้งท่าทางที่ดูจริงจังผิดกับเวลาที่อยู่ภายนอกห้องทำงาน ราวกับเป็นคนละคน
“คุณมุซุเมะ (แปลว่าลูกสาวคะ) ดูเหมือนว่าตัวอ่อนแข็งแรงดีคะ” หญิงสาวที่อยู่ในชุดกราวสีขาวเข้ามาพร้อมกับแฟ้ม กล่าวรายงานด้วยสีหน้าแช่มชื่น
“ขอบคุณมากคะ ในที่สุดก็สำเร็จสักทีดิฉันกลัวแทบแย่คิดว่าจะไม่ได้เรื่องเสียแล้ว” หญิงสาวหันไปยิ้มให้ผู้ช่วยเป็นการขอบคุณ
นิ้วเรียวหยิบโทรศัพท์มือถือคู่กายขึ้นมากด เพี่อติดต่อกับคนที่ยินดีกับข่าวนี้มากที่สุด
“ดีจ๊ะ สุดหล่อ” เธอทักทายปลายสายด้วยความสนิทสนม
[สวัสดีด้วยเหมือนกันครับ ถึงโรงพยาบาลแล้วเหรอครับคุณป้า] เสียงของไคโต้ทักทายกลับมาด้วยความคุ้นเคยเช่นเดียวกัน
“ฉันเป็นแค่น้าแกยะ พูดจาหยาบคายแบบนี้เดี๋ยวแม่ก็ปล่อยให้พ่อแกมีลูกเพิ่มได้คนเดียวเสียเลย” มุซุเมะดันแว่นขึ้นมาคาดผมแทน มือเรียวนำแฟ้มขึ้นมาอ่านข้อมูลที่ชวนให้ดีด้วยรอยยิ้ม
[พูดแบบนี้แสดงว่าสำเร็จแล้วสิครับ] ไคโต้มีน้ำเสียงร่าเริงอย่างปิดไม่มิด
“ก็แน่สิยะ มือชั้นนี้แล้วมีเหรอจะพลาดฉันนะเป็นหมอสูติเดี่ยวมือหนึ่งของโรงพยาบาลเลยนะ” หญิงสาวได้โอกาสจึงประกาศออกมาด้วยความภูมิใจ
[แล้วจริงหรือเปล่าครับว่าผู้ชายก็สามารถท้องได้] ไคโต้ถามถึงสิ่งที่ต้องการอยากรู้มากที่สุดออกไป
“ในทางทฤษฎีดีนะได้ นายเคยได้ยินการตั้งครรภ์นอกมดลูกหรือเปล่า” มุซุเมะใช้นิ้วเคาะบนแฟ้มขณะรอคำตอบ
[เคยครับ...แต่ดูเหมือนมันเป็นอันตรายมากไม่ใช่เหรอครับ หากเกิดกรณีแบบนั้นขึ้น] น้ำเสียงของไคโต้เริ่มมีริ้วรอยของความกังวล
“นั้นเป็นเพราะผู้ตั้งท้องนั้นไม่รู้ตัว และก็ไม่ได้อยู่ในความดูแลของแพทย์ แล้วถ้าหากอยากให้ผู้ชายตั้งท้องบางที บางทีเท่านั้นนะ ก็มีความเป็นไปได้” ใบหน้าของมุซุเมะมีรอยยิ้มจางๆ
[แล้วมันจะสามารถเป็นจริงได้เมื่อไหร่ครับ] ปลายสายถามด้วยความตื่นเต้น
“คงจะอีกนานนะพ่อหลานชาย เพราะทุกอย่างยังเป็นแค่การคาดเดาบนหน้ากระดาษ และการวิจัยภายในศูนย์การวิจัยเท่านั้น ขนาดพ่อของเธอยากมีน้องให้เธอยังต้องใช้ไข่ของผู้หญิงและน้ำเชื้อของผู้ชายอยู่จ๊ะตอนนี้” หญิงสาวดึงเอาความหวังอันเรื่องรองคืนมาอย่างเลือดเย็น
[แล้วน้าจะบอกผมทำไมในเมื่อมันยังเป็นไปไม่ได้] เสียงพ่นลมหายใจอย่างเบื่อหน่ายของไคโต้ทำเอาหญิงสายกระตุกยิ้มที่มุมปากด้วยความสนุกสนาน
“ก็เธอถามฉันเองนะจ๊ะพ่อหลานชาย เอาเป็นว่าบอกพ่อเธอด้วยแล้วกันว่าตัวอ่อนแข็งแรงดี อ้อ!บอกเขาด้วยว่าคะเสะบริจากแค่ไข่นะไม่ได้รับอุ้มท้องให้แต่ฉันก็หาแม่อุ้มบุญไว้ให้แล้ว พ่อเธอกับแม่เลี้ยงเธอพร้อมเมื่อไหร่ก็เข้ามาพบฉันได้ทุกเมื่อ หมุดธุระฉันแล้วแค่นี้แล้วกัน” หญิงสาวกล่าวตัดบทแล้ววางสาย จงใจไม่บอกเรื่องที่เธอเห็นสามหนุ่มที่งานเลี้ยงเมื่อครู่
“ดูท่าว่าหนูยูยะของเจ้าไคโต้ดูจะงอนอยู่ไม่น้อย น่าสนุกจริงๆ สร้างความร้าวฉานเป็นงานของเราจริงๆ” ร้อยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนในหน้าอีกครั้ง ท่าทางงานนี้คงมีเรื่องสนุกแน่ๆ หลังจากต้องมานั่งทำงานให้พี่เขยของตัวเองอยู่ร่วมเดือน
“ฉันทำอะไรนายไม่ได้ ก็ขอเล่นงานลูกชายนายแทนแล้วกันนะไอ้คุณพี่เขย อยากจิกหัวฉันกลับมาใช้งานดีนัก แต่ว่าที่เห็นดูเหมือนว่า...หนูเคนก็อยู่ด้วย อื่ม...งานนี้ต้องมันส์แน่ๆ” ดวงตาของหญิงสาวมีประกายความสนุกจนน่ากลัว...
0000000
หลังจากใช้ความพยายามอยู่นานสองนาน สามหนุ่มที่แอบมางานเลี้ยงก็หลบเลี้ยงที่จะพบกับคุโรดะทั้งสามได้สำเร็จเสียที เสียงลมหายใจระบายออกมาอย่างโล่งอกของเคนโด้ทำให้ยูยะสลดลง
“ขอโทษนะครับที่ทำให้ลำบาก” เด็กหนุ่มก้มหน้าลงกำมือแน่นจนเล็บมนจิกเข้าที่ผ่ามือจนรู้สึกเจ็บ
“ไม่ใช่แบบนั้นเสียหน่อย อย่าคิดมากสิ ฉันไม่ได้สำบากเลยสักนิด กลับรู้สึกสนุกมากกว่า นานแล้วนะที่ฉันไม่ได้ออกมาแบบนี้” มือเรียวของเคนโด้กุมมือเล็กขึ้นมาไว้อย่างถนอม เมื่อรู้สึกถึงแรงกำมืออันแน่นนั้นจึงใช้มือของตนเองลูบเบาๆ เป็นการปลอบใจ
“จริงด้วยสนุกจะตาย ได้เจอพี่สาวสองคนนั่น เป็นแปลกจริงๆเลยนะครับ” มากิเข้ามากอดน้องชายและพยายามพูดให้น้องของตนเองคลายความกังวลลง
“ครับแต่...”ปลายเสียงขาดห้วงด้วยความไม่แน่ใจ
“แต่อะไรเหรอยูยะ” มากิเปลี่ยนจากกอดมาจับแก้มน้องชายแทน
“ยูยะไม่อยากกลับไปนอนที่โรงแรม แต่อยากไป...บ้านคุณเคนโด้ไดหรือเปล่าครับ” ดวงตาหวานซึ้งช้อนขึ้นมองอย่างวอนขอ เล่นทำแบบนี้เคนโด้จะเอาความกล้าที่ไหนมาปฏิเสธเทวดาตัวน้อยที่กำลังแสนเศร้าได้ล่ะ
“บ้านของฉันนะเหรอ...หมายถึงที่โตเกียว” เคนโด้ลองถามดูเพื่อความแน่ใจ แม้ในใจจะมีคำตอบอยู่แล้วว่าบ้านที่หมายถึง คงเป็นบ้านที่ไหนสักแห่งในอิวาเตะแน่นอน
“ที่อิวาเตะนี่แหละครับ” ยูยะกล่าวเบาๆ แต่บาดลึกในจิตใจของเคนโดยิ่งนัก ก็เล่นส่งดวงตาใสแจ๋วแบบนั้นมา ต่อให้ถูกชิเมซุฆ่าตายเขาก็มั่นใจว่าต้องช่วยเทวดาแสนเศร้าคนนี้ให้ได้
“ได้สิ เพื่อยูยะกับมากิฉันทำได้อยู่แล้ว” ชายหนุ่มพูดกับตัวเองคล้ายสะกดจิต
“ว่าไงนะครับ” มากิที่ได้ยินร้องถามขึ้นเพราะได้ยินไม่ถนัดนัก ใบหน้าน่ารักขมวดคิ้วสงสัยยิ่งทำให้น่าเอ็นดูเข้าไปใหญ่
“ฉันบอกว่าตกลง งั้นเรารีบไปกันเถอะดึกมากแล้ว” ชายหนุ่มยกมือบีบจมูดโด่งรั้นตามนิสัยเจ้าตัวบีบด้วยความเอ็นดู ก่อนจะพากันออกไปจากบริเวณงานเลี้ยง แต่ก่อนที่ทั้งสามจะออกไปพ้นบริเวณก็ถูกใครคนหนึ่งเข้ามาขวางเสียก่อน
“สวัสดีครับคุณเคนโด้ ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งครับ” น้ำเสียงทักทายราวกับคนรู้จักกันมานาน สร้างความไม่พอใจให้กับมากิ
“คุณคนหน้าด้านที่ร้านไอติม เรื่องอะไรมาเรียกชื่อคุณเคนโด้ซ่ะสนิทสนม เป็นแค่คนที่เคยเจอกันครั้งเดียว ต้องเรียกนามสกุลสิ เจ้าคนไร้มารยาท” มากิยืดตัวขึ้นหวังให้ความสูงเพิ่มขึ้นมาสักเซ็นสองเซ็นเพื่อที่จะทำท่าปกป้องเคนโด้ให้ได้อีกสักนิด
ทั้งยูยะและคนโด้มองมากิด้วยสายตาเอ็นดูโธ่เจ้าตัวเล็กไม่ต้องพยายามขนาดนั้นก็ได้
“ยินดีที่ได้เจอกันอีกครั้งครับ แต่ว่าพวกผมมีธุระต้องขอตัวก่อน” ชายหนุ่มรีบขอตัว แล้วดันหลังเด็กหนุ่มทั้งสองเพื่อที่จะหนีจากฮิโตะให้เร็วที่สุด ทั้งสามพากันขึ้นรถTaxiที่บริกรของโรงแรมเรียกให้อย่างรวดเร็ว
“น่าสนใจ ยิ่งหนีเก่งๆแบบนี้ยิ่งน่าสนใจ” ฮิโตะยิ้มให้กับเด็กหนุ่มทั้งสามด้วยแววตาแฝงความหมาย
พอพ้นสายตาของฮิโตะ เคนโด้ถึงกับถอนหายใจด้วยความโล่งอก รู้สึกอึดอัดกับสายตาที่ใช้มองตนเองยิ่งนัก
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” ยูยะที่สังเกตเห็นยกมือขึ้นแตะหน้าผากของชายหนุ่ม ด้วยท่าทางของการวัดไข้
“เปล่า แค่รู้สึกแปลกๆกับสายตาของคุณฮิโตะเท่านั้น” เคนโด้ยิ้มให้เด็กหนุ่มที่ลดมือลง
“ผมก็ไม่ชอบผู้ชายคนนั้นเหมือนกัน เวลามองคุณเคนโด้งี้นะผมรู้สึกเหมือนกับว่าเขาลวนลามคุณอยู่เลยฮะ” มากิเอนกายลงมานอนหนุนตักของชายหนุ่ม ยูยะเห็นมากิทำแบบนั้นก็ทำตาม
ชายวัยกลางคนที่ทำหน้าที่ขับรถTaxi มองทั้งสามผ่านกระจกหลังพอเป็นภาพนั้นแล้วถึงกับยิ้มออกมา
“พวกคุณหนูสองคนนี่น่ารักนะครับ อ้อนแบบนี้พี่ชายแบบคุณต้องรักทั้งคู่มากแน่ๆ ยิ่งหน้าตาน่ารักด้วยแล้วคงหวงน่าดู ว่าแต่เราจะไปไหนกันเหรอครับ” ชายวัยกลางคนถามถึงที่หมายปลายทาง
“ไปฟาร์ม Koiwai ครับ” เด็กหนุ่มตอบยิ้มๆ ยังดีนะท่ามองเขาว่าเป็นพี่ชาย ถ้ามองว่าเป็นแม่ของเจ้าสองหน่อนี้คงแย่
“ได้ครับ อืม...หลับกันแล้วนะครับทั้งคู่เลยมองดีๆก็เหมือนแม่ลูกมากกว่าพี่ชายอีกนะครับ” เคนโด้ถึงกับเหงื่อตก ไม่น่าคิดเลยเรา = =”
ใช้เวลาไม่ถึงยี่สิบนานที ก็ถึงที่หมาย ฟาร์ม Koiwai (เป็นบริษัทชื่อดัง ก่อตั้งมาเป็นร้อยปี ผลิตอาหารและเครื่องดื่มที่เกี่ยวกับฟาร์มโคนมมากมาย เดี๋ยวนี้มีพวกน้ำผลไม้ด้วย มีขายตามร้านสะดวกซื้อและซุปเปอร์มาเก็ตทั่วไป แค่ยืมชื่อเขามาใช้คะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันนะคะ) ที่เด็กหนุ่มตัดสินใจเลือกที่นี้เป็นที่พักเพราะหากกลับไปพักที่บ้านของตนเอง หรือโรงแรมในเครือคงต้องถูกตามเจอแน่ๆ
ชายหนุ่มมองสองพี่น้องอย่างเอ็นดู และในที่สุดก็ต้องตัดใจปลุกเจ้าสองหน่อที่กำลังหลับสบายเพื่อเข้าจองบ้านพัก มากิที่งัวเงียตื่นขึ้นมาออกอาการงอแงเล็กน้อยด้วยการเปลี่ยนจากหนุนตัก มาซบไหล่แล้วนอนต่อ ผิดกับน้องชายที่ยอมตื่นแต่โดยดี
“ที่นี้เป็นกิจการที่บ้านคุณเคนโด้เหรอครับ” ยูยะที่ตาสว่างแล้วมองโดยรอบด้วยความสนใจ
“เปล่าหรอก ที่นี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับฉันเลย ที่ต้องพามาที่นี้เพราะฉันคิดว่าเธอคงไม่อยากเจอหน้าเจ้าไคโต้ตอนนี้แน่ๆ และถ้าพากันไปที่บ้านพักของฉัน แน่นอนว่าต้องถูกเจอตัวภายในคืนนี้แน่นอน” เคนโด้จูงมือสองพี่น้องเข้าไปติดต่อเรื่องที่พัก แม้จะเป็นเวลาดึกมากแล้วเพราะเป็นช่วง Low Season ทำให้ไม่มีปัญหาในการจองบ้านพักแบบฉุกเฉินเช่นนี้
พนักงานเดินนำทั้งสามไปยังบ้านพักหลังหนึ่ง บริเวณนั้นร่มรื่นและสวยงาม ด้วยธรรมชาติอย่างแท้จริง ทั้งสามย้ายตนเองเข้าไปยังห้องพักชุดสูทถูกแทนที่ ด้วยชุดยูกะตะของโรงแรม สามหนุ่มพากันอาบน้ำและพักผ่อนเพื่อจบคืนวันอันวุ่นวายของวันนี้
0000000
ห้องพักของพวกเขาว่างเปล่า ไร้วี่แววของคนที่ทั้งสามรีบกลับมาหา ข้าวของทุกอย่างอยู่ครบ สิ่งที่หายไปมีเพียงชุดสูทเท่านั้น ดวงตาคมกล้าของชิเมซุหรี่ลงอย่างหงุดหงิด
“เจ้าพวกนั้นหายไปไหน” ชายหนุ่มมองหน้าลูกและหลานชายที่อยู่ในอารมณ์ไม่ต่างกัน
“ก็ไปด้วยกันแล้วพวกผมจะรู้ได้ไง” โทรุตอบด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์เช่นกัน
“ฉันว่ามันแปลกๆ” ไคโต้กล่าวขึ้น มองห้องนอนของยูยะที่หลงเหลือเพียงกลิ่นกายของคนรักของพวกเขาเท่านั้น
“แปลกยังไง” ชิเมซุยกมือขึ้นกอดอกและถามด้วยความอยากรู้
“สังเกตบ้างหรือเปล่าว่ายูยะดูซึมๆ แล้วสองคนนั้นก็มีอาการแปลกๆ อย่างมากิที่ดูจะพยศมากขึ้น เคนโด้เองก็ห่วงสองคนนั่นอย่างออกนอกหน้า” ไคโต้วิเคราะห์จากอาการของเด็กหนุ่มทั้งสามคน
“แล้วอะไรทำให้เป็นแบบนั้น” โทรุเริ่มเห็นด้วย จริงอยู่ที่มากินั้นอาจดื้อไปหน่อย แต่การที่ไม่ยอมให้เขากอดจนถึงขั้นไล่ให้ไปนอนกับไคโต้นี่ก็น่าคิด
ไม่ทันที่ทั้งสามจะสงสัยได้นาน เสียงโทรศัพท์ของโทรุก็กรีดร้องลั่นห้อง ยิ่งเมื่อเห็นชื่อที่ปรากฏทำให้ชายหนุ่มถึงกับขมวดคิ้ว
“เบอร์ส่วนตัว...ไม่โชว์เบอร์งั้นเหรอ” ชายหนุ่มพึมพำ
“สวัสดีครับ” เมื่อสงสัยก็ต้องทำให้หายสงสัย
[คุณโทรุ บอกมาเดี๋ยวนี้เลยนะคะ ว่าแม่สาวที่อยู่กับไคโต้นั่นเป็นใคร แถมยังบังอาจทำให้ยูยะน้อยของเราร้องไห้ได้] เสียงโวยสนั่นของนักข่าวสาว(?) ดังออกมาจนสองคนที่ยืนอยู่ห่างพอสมควรยังได้ยิน
“จ...ใจเย็นครับ ผู้หญิงที่ไหน แล้วอยู่กับไคโต้เมื่อไหร่” โทรุตัดสินใจเอามือถือออกห่างจากใบหู ก่อนที่เสียงของสองสาวจะทำให้เขาหูหนวกเสียก่อน
[ก็แม่สาวสบึ้มแต่กวนโอ๊ย ที่งานเลี้ยงวันนี้ไงค๊า เราสองคนขอโวยหน่อยเถอะ อุตส่าห์เข้าไปถามดีๆแล้ว แต่แม่คุณดันไม่ยอมบอกว่าเป็นใคร รู้หรือเปล่าคะว่าเราสองคนกำลังจะป่วยเพราะต่อมเจือกอักเสบแล้วค๊า] สองสาวยังโหยหวนได้สยดสยองเหมือนเดิม
“คุณหมายถึงคุณน้ามุซุเมะ เหรอครับ” โทรุลองถามเพื่อความมั่นใจอีกครั้ง
[ไม่รู้คะ ว่าจะเมะ จะเคะ หรือจะเสะ รู้แต่ว่าเห็นยื่นสวีทวิดวิ้วกันที่หน้าห้องจัดเลี้ยงนั่นแหละคะ] สองสาวยังคงความโวยแตกไว้ได้ดีเยี่ยม
ปัญหาโลกแตกของทั้งสามได้รับคำตอบในที่สุด โทรุตวัดสายตามามองลุงของเขาด้วยอารมณ์ว่า ‘เพราะลุงนั่นแหละเรื่องถึงได้ยุ่งแบบนี้’
“คืออย่างนี้นะครับ คุณมุซุเมะเป็นญาติของเราเองครับ ถ้าจะนับญาติให้ถูกต้องเธอเป็นน้าสาวของพวกเรา เอาเป็นว่าเธอเป็นน้องสาวของแม่เจ้าไคโต้ที่เสียไปแล้ว และเธอเป็นหมอสูติ ส่วนรายละเอียดเอา...”
[บอกมาให้หมดเดียวนี้ ถ้าไม่อยากให้พวกเรา จะเอาสามหนุ่มไปซ่อน] เสียงโหวกเหวกตอบกลับมาก่อนที่โทรุจะพูดจบ
“โธ่โว้ย เอาเป็นว่าลุงชิเมซุอยากมีลูกอีกคนเลยเรียกน้าสาวให้มาเป็นหมอส่วนตัวไงเล่า” โทรุตะโกนตอบอย่างเหลืออด
[ก็แค่นั้น ทำเป็นยึกยักกันอยู่ได้ อ้อแล้วรีบไปจัดการเคลียร์กับพ่อสามหนูน้อยด้วยละ] เสียงปลายทางตอบมาอย่างพอใจ (ตรงจัดการเคลียร์ใครจะอ่านเป็น จัดการกดอย่างท่านmeiarchan ก็ได้นะคะ คือว่าชอบคะมุกนี้ขอขโมยเลยแล้วกันค๊า)
“แล้วคุณสองคนพอจะรู้หรือเปล่า ว่าพวกเขาอยู่ไหนตอนนี้” ชายหนุ่มถามถึงคนรักทันทีที่สองสาวดูจะอารมณ์ดีขึ้น
[หนีออกจากบ้านล่ะสิท่า เป็นฉันก็ทำแบบนั้นเหมือนกัน อื่ม...จะให้เดานะคงไปหาที่พักในอิวาเตะเนี้ยแหละเพราะดึกมากแล้ว อ้อ! ถ้าคิดจะตามหานนะขอแนะนำให้ลองหาที่พักที่ไม่ได้อยู่ในเครือของพวกคุณดูแล้วกัน เอาล่ะสวัสดีราตรีสวัสดิ์แล้วกันนะคะ คืนนี้นอนหลับแล้วบาย] สองสาวแสบพอได้ในสิ่งที่ต้องการก็ถีบหัวส่งทันที แล้วหันมากรี๊ดกร๊าดใส่กัน ว่าเรียบร้อย
สามชายหนุ่มแห่งตะกูลคุโรดะหันมามองหน้ากัน
“เป็นไงพ่ออยากสร้างความประหลาดใจให้เจ้าเคนโด้ ดันกลายเป็นพวกเราที่ประหลาดใจแทน” ไคโต้สายหัวอย่างเซ็งสุดชีวิต
“แกต่างหากทำอีท่าไหนยูยะถึงได้เข้าใจผิด แล้วพาเอาคนของฉันหนีหายไปด้วย” ผู้เป็นพ่อย้อนกลับอย่างไม่ยอมเช่นกัน
“เรื่องนั้นค่อยว่ากันทีหลังเถอะ ว่าแต่พวกเรารีบไปตามหาเจ้าสามคนนั่นก่อนดีกว่า” โทรุเตือนสติพ่อลูกที่ทำท่าฮึ่มฮั่มใส่กันก่อนที่จะยุ่งยากไปกว่านี้
“ได้ แต่คืนนี้คงต้องหากันเองก่อนหากเช้าไม่ได้เรื่องค่อยลากคอพวกลูกน้องออกมาช่วยแล้วกัน” ชิเมซุกล่าวพลางรูดเนคไทออก แล้วก้าวออกจากห้องเป็นสัญญาณของการเริ่มตามหาคนรักทั้งสามคน
ครบแล้วค๊า พักนี้ทำไมถึงอัพครบร้อยไม่ได้เสียที เฮ้ยยไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันคะ เอาไว้คงต้องหนีเที่ยวกับบ้างแล้วเพื่ออาการจะดีขึ้น ^^ (ไม่เกี่ยวกันแล้วหาเรื่ออู่มากกว่า)
ท่านk_roro นั่นสิฮิโตะจำทำอะไรน๊า เพราะ Big ก็ยังไม่รู้เหมือนกันค๊า
ท่านMeAwKiM เรียหนักเหรอค๊า เอาใจช่วยแล้วกันคะ ส่วนเรื่องผู้ชายท้องนั้นเคยเจองานวิจัยชิ้นหนึ่งคะ แล้วจะลองหามาให้อ่านกัน เป็นคนละอันกับเรื่องที่หญิงแปลงเพศแล้วท้องนะคะ เป็นงานที่บอกว่ามีความเป็นไปได้ที่ผู้ชายสามารถตั้งท้องอาศัยหลักการเดียวกันกับการท้องนอกมดลูก แต่ยังอยู่ในขึ้นตอนการวิจัยคะ แต่ในเรื่องสามหนุ่มจะตั้งท้องเองนั้น...ไม่บอกหรอกรออ่านนะค๊า
ท่านเจ๊mama คือว่ารอตอนลงโทษเลยเหรอค๊า (แต่Big ก็อยากให้ถึงเร็วๆ เหมืนกัน) รอหน่อยแล้วกันค๊า ไว้สมองไหลกว่านี้รับรอง...ว่าแต่รับรองอะไรดีเอ่ย
ท่านคุณน้องเฟย์ พี่Big ไม่ได้เค้นสมองเยอะหรอกคะ T^T เพราะไม่ค่อยมีให้เค้นเท่าไหร่ ส่วนการกลับมาของฮิโตะ ก็ตามคำของไงค๊า
ท่านรัติกาลที่ว่างปล่าว ที่บอกว่าน่ารักนะ หมายถึง Big หรือเปล่าค๊า
ท่านแม่เจ้าโว๊ย ใช่แล้วคะ ก็เล่นน่ารักกันแบบนี้ใครเห็นก็อยากแกล้งทั้งนั้นแหละค๊า
ความคิดเห็น