คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #121 : ตอนพิเศษร้อนๆค้า แอบมาแปะแล้วจากไป
สายฝนในเดือนสินหาคมเทกระหน่ำราวกับไม่มีที่สิ้นสุด เด็กหนุ่มใบหน้าเรียบนิ่งดวงตาเศร้าโศก นั่งอ่านหนังสือเงียบๆ ริมหน้าต่างห้องหนังสือภายในบ้าน
“คุณหนูครับ คุณผู้ชายให้มาเรียนว่าคืนนี้ ให้อยู่ต้อนรับท่านเจ้าบ้านคุโรดะที่จะมาทานอาหารที่นี่คืนนี้ด้วยนะครับ เออ...และนายท่านให้กระผมกำชับกับคุณหนูว่า อย่ามีธุระห้ามออกไปไหนครับ” คัดโคพ่อบ้านวัยล่วงเลยเลขห้าเข้ามารายงาน และในท่อนท้ายประโยคแสดงความอึดอัดในคำสั่งที่ได้รับมาอย่างเห็นได้ชัด
เด็กหนุ่มกระทำเพียงเลื่อนสายตาที่แสดงความสนใจในตัวหนังสือมาสบตากับพ่อบ้านเท่านั้น ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธกับคำสั่งแต่อย่างได้ และดูเหมือนพ่อบ้านก็จะรับรู้ถึงอาการที่นายน้อยตนเองแสดงออกมาจึงขอตัวออกไปจากห้อง
ดวงตาคู่สวยที่โศกซึ้งคลอหน่วยด้วยน้ำตา ริมฝีปากบางขบกันแน่น บ่งบอกถึงความกดดันที่เจ้าตัวพยายามเก็บไว้
“จะตามหลอกหลอนกันไปถึงไหน” น้ำเสียงเรียบนิ่งแต่แฝงไว้ด้วยความขื่นขมกระซิบเพียงแผ่วเบา ก่อนจะปิดหนังสือที่อ่านอยู่ลงเบาๆ และก้าวออกไปจากห้องหนังสือ
“วันนี้ช่วยทำตัวเป็นลูกที่ดีหน่อยนะ” เสียงหญิงสาวดังขึ้นด้านหลังขณะที่เด็กหนุ่มปิดประตูห้องหนังสือ เตรียมกลับไปยังห้องตนเอง
“งั้นคุณก็ช่วยทำตัวเป็นภรรยาที่ดีหน่อยแล้วกันนะครับ” เด็กหนุ่มตอบกลับทันควัน
“หึ” เสียงหัวเราะที่ดันขึ้นจมูกแสดงท่าทางเย้ยหยันเต็มที่ “เรื่องนั้นแน่นอนอยู่แล้ว แต่หวังว่าเธอ คุณเคนโด้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตระกูลโคมารุ คงไม่แสดงมารยาทต่ำๆ ต่อหน้าแขกคนสำคัญของพ่อเธออีกก็แล้วกัน” มิโดริที่มีตำแหน่งเป็นแม่เลี้ยงของเด็กหนุ่มกล่าวเสียงเหยียด
“นั่นมันเรื่องของผม” เด็กหนุ่มตอบสั้นๆ แล้วเดินจากไม่ไม่สนท่าทีฮึดฮัดขัดใจของหญิงสาว
ท่ามกลางโต๊ะอาหารเลิศหรู แต่ดูเหมือนเด็กหนุ่มจะไม่ค่อยเจริญอาหารเท่าใดนัก เพราะอึดอัดกับสายตาที่ดูเหมือนจะมองทะลุเข้าไปถึงหัวใจได้ของชายที่เลือกที่นั่งตรงข้ามกับตนเอง เด็กหนุ่มรับรู้ได้ถึงสายตาที่คอยจับจ้องเขาไปเสียทุกการเคลื่อนไหว แล้วไหนจะสายตาคอยจับผิดของแม่เลี้ยงของตนเองอีก ทำให้อาหารมื้อนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่มื้อที่ดีสำหรับเขาเท่าไหร่นัก
“เคนโด้ ไม่หิวหรือไง ทานได้นิดเดียวเอง” บิดาที่ไม่รับรู้ถึงแรงกดดันที่เด็กหนุ่มได้รับกล่าวอย่างอารมณ์ดี
“ครับ คือ...ผมยังไม่ค่อยหิวเท่าไหร่” เด็กหนุ่มตอบกับไปด้วยรอยยิ้ม แต่หางตากลับเห็นรอยยิ้มมุมปากจากชายที่แสนจะเลือดเย็นที่นั่งตรงข้ามกับเขา
“เคนโด้คงไม่ค่อยชอบอาหารแบบตะวันออกสินะครับ คงชอบอาหารญี่ปุ่นมากกว่า เวลาได้ทานทีไรดูสีหน้าจะอิ่มเอมกว่านี้” น้ำเสียงเย็นเยียบกล่าวแทรกบทสนทนาของพ่อลูก จากชายผู้เป็นแขกของบ้าน
“จริงๆ ด้วยสินะ ไม่รู้มาก่อนว่าคุณชิเมซุก็สังเกตเห็นด้วย โดยเฉพาะซุบเต้าหู้นะ เจ้าเคนโด้จะชื่นชอบเป็นพิเศษ” ผู้เป็นพ่อกล่าวตอบอย่างอารมณ์ดี
“เหรอครับ บังเอิญจริงๆ ผมเองก็ชอบเหมือนกัน” สายตาคมจ้องมองใบหน้าขาวนวนอย่างคุกคาม อย่างไม่คิดจะปิดบังแถมยังลามเลียไปยังริมฝีปากบางที่ชายหนุ่มจำได้ดีถึงความหอมหวาน
“พ่อจำผิดแล้ว ผมไม่ได้ชอบซุบเต้าหู้เสียหน่อย” ดวงตาคู่สวยที่เคลือบย้อมไปด้วยความเศร้าสร้อยตวัดมองค้อนแขกของพ่ออย่างห้ามใจไม่อยู่ และนั่นก็อยู่ในสายตามิโดริโดยตลอด
“เคนโด้รักษามารยาทหน่อยสิ” เสียงแดกดันดังขึ้นทันทีที่มีโอกาส
“ขอโทษครับ ผมคิดว่าไม่ได้ทำอะไรเสียมารยาทนะครับ ผมไม่ได้ชอบซุบเต้าหู้จริงๆ นะครับ” เด็กหนุ่มยักไหร่ตอบอย่างไม่สนใจที่ถูกต่อว่า
“เอาน่าจะชอบหรือไม่ชอบไม่ใช่เรื่องสำคัญ เอาเป็นว่าเรื่องที่เราคุยค้างไว้เมื่อตอนกลางวัน ตกลงคุณชิเมซุเห็นด้วยกับแนวคิดทางเราหรือเปล่าครับ คือ...ผมบอกขอบอกตามตรงว่าเป็นห่วงเรื่องนี้จริงๆ” บิดาของเด็กหนุ่มห้ามการต่อล้อต่อเถียงของบุตรชายและแม่เลี้ยงด้วยการเปลี่ยนเรื่อง
“ผมเห็นด้วยอยู่แล้วครับ แต่ว่า...เรื่องสำคัญขนาดนี้ผมอยากไปดูสถานที่ด้วยตาตัวเองหน่อยครับก่อนที่จะตกลงเซ็นสัญญาร่วมกัน แต่คุณเองก็ไม่ว่างสินะครับ” บทสนทนานั้นทำเอาเด็กหนุ่มรู้สึกเหมือนหอยเซลผัดน้ำมันมะกอกที่กำลังกลืนลงไปอยู่นั้นติดคอขึ้นมาเสียเฉยๆ
“เรื่องนั้นผมคิดไว้แล้วถึงได้สั่งให้เจ้าเคนโด้อยู่ทานอาหารด้วยนะครับ เอาเป็นว่าไม่ต้องอ้อมค้อม เคนโด้จะพาคุณไปดูสถานทีที่จะขยายโรงแรมของพวกเราที่อิวาเตะ” เจ้าบ้านโคมารุฉีกยิ้มกว้าง แต่ชายหนุ่มที่เป็นแขกของบ้านกลับยิ้มอย่างเยือกเย็น และทำเอาเด็กหนุ่มรู้สึกหนาวไปถึงสันหลัง
“แต่...”
“ไม่มีแต่ นี่เป็นคำสั่งแล้วก็อย่าลืมรับรองคุณชิเมซุให้ดีอย่างให้มีปัญหา” ผู้เป็นพ่อสั่งด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด เด็กหนุ่มได้แต่กลืนคำคัดค้านลงคอแล้วรับคำสั่ง
“ครับ” ดวงตาคู่สวยเจือความเศร้าหลุบต่ำลง เพื่อหลบสายตาคมที่จ้องมองมาที่ตนเองทราบความหมายเป็นอย่างดี....
วันแห่งการเดินทางก็มาถึง แต่สายฝนยังคงโปรยปรายไม่หยุด เด็กหนุ่มกังวลใจเล็กน้อย เพราะสถานทีที่จะไปดูนั้นยังคงเป็นป่าเสียส่วนใหญ่ หากเกิดปัญหาขึ้นมาคงติดต่อกับทางโตเกียวลำบากน่าดู แถมยังต้องเดินทางไปกับคนที่เขาไม่อยากเจอเป็นที่สุด
รถยนต์สีดำเข้ามาจอดที่บริเวณหน้าตึก โดยที่ไม่มีใครลงมา เด็กหนุ่มได้แต่ถอนใจแล้วก้าวขึ้นไปยังด้านหลัง
“ใครให้นายไปนั่งตรงนั้นฉันไม่ได้เป็นคนขับรถให้นายเสียหน่อย” น้ำเสียงเย็นเยียบดังขึ้น ทำเอาเด็กหนุ่มถึงกับสะดุ้ง ก่อนจะเก็บอาการตกใจแล้วปิดประตูรถ เปลี่ยนไปเปิดประตูรถแล้วนั่งข้างคนขับแทน
“ขอโทษครับ ผมไม่ทราบว่าคุณจะเป็นคนขับเอง คิดว่าให้คนขับขับให้” เด็กหนุ่มกล่าวโดยไม่คิดจะมองหน้าคนที่นั่งข้างๆ
“ไม่คิดว่านายจะไร้สมองขนาดนี้ ฝนตกกระหน่ำแบบนี้จะไว้ใจให้ใครขับรถให้ได้ ต้องขับด้วยตัวเองอยู่แล้ว” ฟันขาวขบลงบนริมฝีปากล่างทันทีที่ได้ยินคำแดกดัน
“ครับ” รับปากสั่นๆ แล้วหันหน้าออกไปด้านข้างพยายามดื่มด่ำกับวิวนอกรถทั้งๆที่ฝนยังคงกระหน่ำไม่ขาดสาย
ใช้เวลาร่วมสองชั่วโมงกว่าจะเดินทางไปถึงโรงแรมที่เป็นจุดหมาย แถมห้องพั่กที่เตรียมไว้รับรองทั้งคู่คือห้องที่เด็กหนุ่มไม่ปรารถนาทีจะเข้าพักเลยสักนิด เพราะเป็นห้องแห่งความทรงจำอันโหดร้ายที่เขาวิ่งหนีมากว่าหกเดือน
“ขอเพิ่มเป็นอีกห้อง” เคนโด้ไม่ลังเลที่จะบอกพนักงาน
“เรื่องมากพักห้องเดียวกันนะดีแล้ว ห้องอื่นจะได้ให้ลูกค้าเข้าพักได้ ไม่รู้จักคิด” ชิเมซุตำหนิเด็กหนุ่มต่อหน้าพนักงาน ทำเอาเจ้าตัวส่งสายตาอาฆาตให้ทันที แต่ใช่ว่าชายหนุ่มจะจนใจ กลับหันไปสั่งการให้พนักงานทำตามความต้องการของตนเอง แล้วลากเด็กหนุ่มไปยังห้องพักโดยที่เคนโด้เองไม่สามารถต่อด้านได้เลย
*************************************************************************
ตอนพิเศษร้อนๆจ้า หายศีรษะไปนานเลยอย่างที่บอกห้องใหม่ยังไม่เรียบร้อยต้องเดินหน้าทำเอกสารอีกเพียบ แถมงานที่เคยรับมาทำที่บ้านตอนนี้ก็มีแต่ปัญหา ทำให้ต้องมองหาที่อื่นใหม่ไม่งั้นไม่มีเงินมาทำห้องแน่นอน แค่มุ้งลวดเหล็กดัดก็...แทบตายแย้วววววว เอาว่ะเพื่อที่ซุกหัวนอนดีกว่าเช่าหอจ่ายไปทุกเดือนแต่ก็ไม่เป็นของเราสักที หากผ่านช่วงนี้ไปได้ส่งเดือนละสองพันห้ายังถูกกว่าเช่าเขาเยอะ
ความคิดเห็น