คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #74 : ความสับสน I
เคนโด้นั่งรอพ่อของตัวเองอยู่ภายในห้อง ตอนนี้เขาทำสำเร็จแล้วทั้งเรื่องการเรียนและการยอมรับจากบรรดา วากะชู (เด็กๆยากุซ่าภายในกลุ่ม) ตอนนี้เขากำลังจะได้รับตำแหน่ง วากะงาชิระ ผู้ดูแลเหล่าวากะชู แต่ทั้งหมดนี้ก็ยังถูกมองว่าเป็นรองเจ้าโทรุ แถมเรื่องบริหารการเงินก็ยังเป็นรองไคโต้ด้วย
ประตูถูกเปิดออกพร้อมด้วยร่างของบิดาที่เข้ามากับหญิงที่เขาไม่อยากเห็นหน้า มิโดริภรรยาใหม่ของพ่อนั้นเอง ผู้หญิงคนนี้มานั่งอยู่ในตำแหน่งแม่ของเขาแต่จะพูดหรือแสดงกิริยาอะไรออกไปมันก็ไร้ประโยชน์ ขอเพียงรอเวลาเท่านั้น เวลาที่เขาจะได้เป็นผู้ครอบครองแก็งค์โคมารุไว้ทั้งหมดเท่านั้น
“เอาหละ พูดธุระกันเลยก็แล้วกัน ฉันจะประกาศให้ทุกคนและบรรดากลุ่มอื่นๆ ได้รู้ว่าต่อไปนี้แกได้ตำแหน่ง วากะงาชิระอย่างเป็นทางการแล้ว คืนนี้จะมีงานเปิดตัวรถยนต์ใหม่ของนักธุรกิจชื่อดัง แกก็ไปในฐานะตัวแทนฉันเป็นการเปิดตัวด้วย หวังว่าแกคงทำได้นะ” คนเป็นพ่อนั่งลงไม่ดื่มชาที่ถูกนำมาให้รีบกล่าวธุระต่างๆรวดเดียวจบ
“ครับ” ลูกชายเองก็ได้แต่ค้อมศีรษะรับคำบัญชาเท่านั้น
“เสร็จธุระแล้ว ฉันไปก่อนก็แล้วกัน” บิดาลุกออกไปจากห้องแล้วพร้อมกับแม่เลี้ยงของเขา ตั้งแต่จำความได้พ่อแทบจะไม่เคยกอดเขาเลย จนในที่สุดเขาก็เลยไม่ต้องการอ้อมกอดของพ่ออีกต่อไป สิ่งที่เขาต้องการ...แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่รู้...(แต่พวกเราทุกคนที่นี้รู้กันใช้ปะ คิก คิก)
...............
......................
...............................
งานโชว์สินค้าตัวใหม่ของบริษัทรถยนต์หรู อึกกระทึกไปด้วยเสียงดนตรีจะหวะเร้าใจ บรรดาหญิงสาวที่เป็นพริตตี้ ต่างทำหน้าที่แนะนำสินค้าที่ตัวเองได้รับมอบหมายไป ท่ามกลางการแทะโลมของบรรดาเสือสิงห์ กระทิงเปลี่ยว
เคนโด้เดินเข้าไปทักทายบรรดาผู้เป็นเจ้าของงานเป็นอันดับแรก ก่อนจะทำการทักทายคนอื่นๆ ภายในงานลำดับต่อมา รอยยิ้มนักธุระกิจที่ได้รับการสั่งสอนมาทำงานได้ดีเยี่ยม
หญิงสาวคนหนึ่งดูจากการแต่งตัวเธอคงเป็นพริตตี้ของในงานแน่ๆ ส่งรอยยิ้มเชิญชวนมาให้เคนโด้ ชายหนุ่มเองก็ไม่คิดจะปฏิเสธไมตรีครั้งนี้อยู่แล้ว จึงหาจังหวะ แยกตัวออกจากความวุ่นวายภายในงานออกมา รอคอยหญิงสาว
“คุณน่ารักจังคะ ชื่ออะไรเหรอคะ” หญิงสาวคนนั้นก็รับมุกแล้วเดินตามเคนโด้ออกมา แล้วพากันไปคลอเคลียกันมุมหนึ่ง
“เรื่องชื่อมันไม่ได้สำคัญหรอก คืนนี้เราสนุกด้วยกันก็พอ” ใบหน้าของเคนโด้ตอนนี้ฝังอยู่กับหน้าอกหน้าใจอันใหญ่โตเกินตัว
“แหม...แล้วอย่างนี้เวลาแบบนั้นจะให้ฉันเรียกคุณว่าไงคะ” เจ้าหล่อนถามแล้วก็หัวเราะคิกคัก ก่อนจะถูกหยุดเสียงหัวเราะนั้นด้วยริมฝีปากอุ่นของชายหนุ่ม
“ก็เรียกว่าที่รักสิ ฉันเองก็ยังไม่ถามชื่อของเธอเลย” เคนโด้กล่าวหลังจากได้ลิ้มรสริมฝีปากนั้นจนพอใจ
“ก็ได้คะ งั้น...เราเจอกันหลังงานจบ ฉันจะรอด้านหลังนะคะ” ริมฝีปากของทั้งสองประกบกันอีกครั้งเพื่อจากลาทั้งคู่ผละออกจากกันชายหนุ่มผิวปากหวือ
อันที่จริงเขาคงต้องยอมรับกับตัวเองเสียแล้วว่าตนนั้นหน้าตาดีจัด จนสาวๆวิ่งเข้ามาหามากมายตั้งแต่เสียงยังไม่แตกเลยด้วยซ้ำแล้วเขาเองก็มักจะใช้ประโยชน์จากมันเสียด้วย
ที่ผ่านมาเขาเองก็มีทั้งแฟนเป็นตัวเป็นตน และคู่นอนชนิดที่สนุกกันคืนเดียวแล้วก็เลิกกันมากมายจนนับไม่ถ้วน บางคนเข้ามาเพราะคิดว่านั้นเป็นความรักซึ่งเขาเองก็มาอยากทำร้ายผู้หญิงเหล่านี้เลยได้แต่ทำตัวหน้าเบื่อให้พวกเธอเหล่านั้นเลิกลาจากเขาไปเองโดยไม่แตะต้องพวกเธอ....
การกระทำทั้งหมดตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาภายในงานของเคนโด้ นั้นตกอยู่ในสายตาของใครบางคนมาโดยตลอด และเวลานี้ดวงตาคู้นั้นกำลังวาวโรจน์ด้วยอารมณ์เดือดดาลจากการกระทำของเด็กหนุ่ม
ชายหนุ่มกลับเข้ามาในงานอีกครั้งเดินชมรถยนต์รุ่นใหม่ที่ถูกนำมาอวดโฉมมากมาย พร้อมกับรับเครื่องดื่มมาจิบอย่างอารมณ์ดีและด้วยความที่กำลังเพลินกับกันเยี่ยมชมอยู่นั้นก็ชนเข้ากับใครคนหนึ่ง
“ขอโทษครับ!!” เคนโด้รีบขอโทษทันทีที่เกิดกระปะทะแก้วเครื่องดื่มในมือ หกรดเสื้อสูทราคาแพงของคนที่ชนเข้าจนเกิดเป็นวงกว้างพอสมควร
แก้วในมือพูกวางไว้บนเคาเตอร์ที่ใกล้ที่สุด แล้วเจ้าตัวก็รีบจัดการหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าเสื้อขึ้นเช็ดทำความสะอาดให้เป็นการใหญ่ โดยมันทันมองหน้าด้วยซ้ำไปว่าคนคนนั้นเป็นใคร
“ขอโทษจริงๆ นะครับ ผมมันทันระวังชุดคุณเปื้อนหมดเลย ขออนุญาตไปเช็ดในห้องน้ำดีกว่าครับ” เด็กหนุ่มกดผ้าเช็ดหน้าตัวเองลงบนลอยเปื้อนนั้นอีกครั้ง โดยหวังว่ามันจะสะอาดขึ้นอีกหน่อย
“นายนี่ซุ่มซ่ามจริงๆ หรือว่ามัวแต่มองสาวๆอยู่เลยไม่มีตามาดูทาง” น้ำเสียงเย็นเยียบ และความหมายถากถางนั้นคุ้นหูเคนโด้เหลือเกิน จนเจ้าตัวต้องเงยหน้ามามองคนพูด
เพียงแค่สบตาที่จ้องมองมาอยู่ก่อนแล้ว ขนทุกเส้นในกายต่างพากันตั้งตรงโดยพร้อมเพรียง ทำไมถึงซวยอย่างนี้ เสียงในหัวดังขึ้นทันที่ประมวลภาพได้ว่าคนตรงหน้านี้เป็นใคร
“คุณชิเมซุ” เคนโด้กล่าวคล้ายอุทาน
“จะมองอีกนานมั้ย เสื้อฉันไม่ได้ราคาถูกนะจะเช็ดให้ก็รีบๆทำไปสิ” ซิเมซุยกมือขึ้นจับแขนของเคนโด้ก่อนจะลากไปยังห้องน้ำ VIP ด้านหนึ่งของงาน
เคนโด้พยามฝืนแรงฉุดลากนั้นแต่ก็ไม่กล้าสะบัดสะบิ้งมากนัก เพราะอาจตกเป็นเป้าสายตาของคนในงานได้ ในที่สุดก็ต้องเดินตามแรงลากนั้นแต่โดยดี
แต่พอมาถึงหน้าห้องน้ำก็ถูกเหวี่ยงเข้าไปด้านในโดยแรงจนเซ ก่อนจะตามมาด้วยเสียงปิดประตูหนักๆ และการล๊อกจากด้านใน เด็กหนุ่มถึงสะดุ้งเฮือกกับแววตาดุดัน และสีหน้าราวกับจะฉีกเขาเป็นชิ้นๆ เสื้อสูทถูกถอดแล้วเหวี่ยงใส่หน้าอย่างแรง
“จัดการซะสิยืนเซ่ออยู่ได้!” ชิเมซุย่างสามขุมเข้าหาเด็กหนุ่มที่ยังงงงวยอยู่หน้าอ่างล้างหน้า
ใบหน้าดื้อดึงนั้นขมวดคิวเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจคนเจ้าอารมณ์ ทีกำลังหัวฟัดหัวเหวี่ยงเกินความจำเป็น กับแค่เรื่องชุดเปื้อนเล็กน้อย
“ผมจะจัดการให้” รับคำแล้วเอาผ้าเช็ดหน้าในมือกลับไปทำความสะอาดเสื้อที่ถูกเหวี่ยงใส่อีกครั้ง พยายามทำอย่างดีที่สุดจนร่องรอยจางไปมากจนแทบมองไม่เห็น
“ถ้ายังไงก็ส่งไปซักแล้วส่งบิลมาเก็บค่าใช้จ่ายก็ได้ครับ” เคนโด้พยามกล่าวด้วยถ้อยคำและน้ำเสียงสุภาพ อย่างน้อยคนคนนี้ก็มีตำแหน่งหน้าที่การงานและอายุมากกว่าเขา
มือเรียวยื่นส่งคืนให้เจ้าของเสื้ออารมณ์ร้อน เจ้าตัวรับเสื้อไปแต่ไม่ได้คว้าไว้เพียงแค่เสื้อหากแต่แขนของเคนโด้ถูกคว้าไว้ด้วย ก่อนที่เสื้อตัวนั้นจะถูกโยนแหมะบนอ่างล้างหน้า พร้อมกับแรงกระชากมหาศาลจนคนถูกกระทำถึงกับเซถลาเข้าหาอกแกร่งนั้นแบบไม่ทันตั้งตัว
ใบหน้าตื่นตระหนกมองจ้องคนที่อยู่ก็กระทำการอันน่าตกใจด้วยความงุนงงปนสงสัยก่อนที่จะได้เอ่ยปากถามอะไร
ริมฝีปากอุ่นและร้อนแรงไปด้วยโทสะก็ประกบจูบลงมา มันห่างไกลจากคำว่าดื่มดำ มีแต่ความดุดันร้อนแรงเอาแต่ใจ วินาทีนั้นเคนโด้คิดว่านั้นคือการลงโทษ แต่ว่าเรื่องอะไร เป็นเรื่องที่เขาชนคนๆ นี้แล้วทำเสื้อสูทราคาแพงนี้เปื้อนงั้นหรือ
ร่างเพรียวในอ้อมกอดแข็งแรงพยามดิ้นหนีอย่างสุดกำลัง แต่ด้วยเรียวแรงที่ต่างกันทำให้แผ่นอกหนาหนักนั้นไม่สะดุ้งสะเทือนแม้แต่น้อย มือทั้งสองที่พยามจิกถึ้งให้ร่างนั้นออกห่างถูกรวบไพล่หลังไว้โดยงายแค่มือเดียว
เมื่อไม่มือที่จะต่อสู้ฟันคมๆ ก็มายจะทำร้ายปลายลิ้นที่กำลังรุกรานอยู่ในโพรงปากตนเองนั้นทันที แต่พออ้าปากหมายจะงับลงมา ซิเมซุก็เหมือนจะรู้ทันผละออกไปเสียก่อน
“คิดจะกัดหรือไง ยังอ่อนนะเด็กน้อย” มือแกร่งข้างที่ว่างอยู่ถูกยกขึ้นมาปีบคางของเด็กหนุ่มจนเจ็บร้าว ริมฝีปากที่แดงช่ำต้องยอมอ้าออกตามแรงบีบ แล้วคนที่ทำร้ายก็กลับเข้ามาช่วงชิงมันอีกครั้ง
เคนโด้ไม่เข้าใจการกระทำคนตรงหน้าแม้แต่น้อยพยามขัดขืนและต่อสู้อีกครั้งแต่ความเจ็บที่แก้มก็ทำให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความลำบากจนในที่สุดก็ต้องปล่อยให้ร่างสูงกระทำอย่างที่ใจต้องการ
แรงต่อต้านลดลงแล้ว ลมหายใจของเคนโด้ติดขัดไปหมด เพราะร่างสูงช่วงชิงอย่างหนักหน่วง ในที่สุดก็ต้องครางประท้วงในลำคอ มือที่บิดแขนเคนโด้อยู่คลายออก แต่แขนคู่นั้นก็ไร้แรงต่อต้านเสียแล้ว อย่าว่าแต่แขนเลยตอนนี้แข่งขาก็พากันอ่อนแรงไปหมด จนต้องยึดบ่าหนาเป็นที่พึ่ง
แล้วริมฝีปากของเคนโด้ก็ได้รับอิสระ ปากนั้นอันที่จริงอยากจะสรรหาคำด่าต่างๆมามอบให้กับชิเมซุ แต่เท่าที่ทำได้ตอนนี้คืองับอากาศเข้าปอดให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
“นี้คือการลงโทษ” คำพูดสั้นๆ แต่สร้างคำถามมากมายให้เคนโด้ ใบหน้าที่แดงจัดจากทั้งความโกรธความอายและความเหนื่อยหันไปมองคนพูด
“จำเอาไว้” ซิเมซุพูดอีกครั้งและเข้ามารั้งร่างเหนื่อยหอบเข้าสู่อ้อมกอดอีกครั้ง ริมฝีปากที่แนบชิดลงมาใหม่ ครั้งนี้อ่อนโยนยิ่งนัก เด็กหนุ่มผู้สับสนได้แต่ตอบรับสัมผัสครั้งนี้ด้วยความไม่เข้าใจ เรียวลิ้นที่ตวัดเกาะเกี่ยวกันนั้น หวานล้ำอย่างไม่น่าเชื่อ
และเมื่อทั้งคู่ผละออกจากกัน เคนโด้ก็ถูกรั้งให้ซบลงบนอกแกร่งนั้นอย่างอ่อนโยนไม่มีคำพูดไม่มีคำอธิบายอะไรจากร่างสูง สักพักเสียงทุ้มก็กล่าวขึ้น
“อย่าไปทำแบบนั้นกับใครอีก ฉันไม่อนุญาต” แล้วร่างสูงก็คลายอ้อมแขนออกหยิบเสื้อของตัวเองที่หล่นอยู่บนอ่างล้างหน้าแล้วจากไป ทิ้งให้เคนโด้งุนงงและไม่เข้าใจต่อไป..........
ประตูห้องน้ำปิดลงป้ายทำความสะอาดถูกถอดออกแล้วโยนทิ้งแถวๆนั้น เสื้อสูทถูกสวมแล้วจัดให้เข้าที่ ขายาวๆก้าวพาร่างสูงใหญ่ให้กลับเข้ามาในงานเลี้ยง
“นายเป็นของฉัน ถ้านายบังอาจไปจูบกับใครอีกไม่จบแค่นั้นแน่ๆ” ซิเมซุพูดแล้วหันกลับไปมองประตูห้องน้ำอีกครั้ง เด็กหนุ่มที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวยังไม่ออกมาจากที่นั้น
กรี๊ดดดดดด น้ำจิ้มค๊าน้ำจิ้ม ป๋าโรคจิตสุดๆ แค่เห็นหนูเคนไปจุ๊บกับสาวๆป๋าแกก็ของขึ้นเสียแล้ว ถ้าป๋าแกเห็นหนูเคนตอนไปหลงพ่อหนูมากิ ป๋าแกจะปรี๊ดแตกขนาดไหนไม่อยากจะคิดดดดด ขอตัวไปหาโซ่ แส้ กุญแจมือมาบรรณาการป๋าก่อนนะค๊า
ความคิดเห็น