คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #75 : ความสับสน II
หลังจากงงกับเหตุการณ์ทีเกิดขึ้นกับตัวเองอยู่พักใหญ่ เสียงประตู้ห้องน้ำที่เปิดขึ้นพร้อมกับเสียงพูดคุยของคนสองคนที่เข้ามา ทำให้เคนโด้ได้สติ
พอหันไปดูผู้เข้ามาทำธุระในห้องน้ำก็ต้องเซ็งหนักขึ้นไปอีก โทรุกับไคโต้นั้นเอง เด็กหนุ่มกรอกตาอย่างเบื่อหน่ายเดินเลี้ยงหนีจากผู้เข้ามาใหม่ทั้งสอง แต่ต้องชะงักเท้าเพราะเสียงทักจากคนที่ไม่อยากเจอ
“นายเข้ามาทำอะไรในนี้วะ” โทระถามเหตุเพราะด้วยสภาพเสื้อผ้ายับย่น ผมเผ้ายุ่งเหยิง และริมฝีปากที่แดงช้ำนั้นเอง
“ไม่รู้ว่าพวกนายชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน” เคนโด้ตอบกับแล้วรีบจัดเสื้อผ้าก่อนจะเดินออกไปทันที
“แม่สาวพริตตี้นั้น ร้อนแรงขนาดนั้นเลยเหรอวะ!” โทรุตะโกนไล่หลังพร้อมเสียงหัวเราะกวนประสาท
เคนโด้กลับเข้าไปในงานรีบกล่าวลาเจ้าของงานแล้วขอตัวกลับบ้านโดยเร็ว แต่แม่สาวที่นัวเนียกับเคนโด้หันมาเห็นเข้า ก็รีบตามออกมาด้านนอก
“เดี๋ยวสิคะ ทำไมรีบกลับ” หญิงสาววิ่งเข้ามายื้อแขนเคนโด้ไว้
“พอดีฉันไม่ค่อยสบาย ขอโทษด้วยแล้วกันที่นัดไว้คงต้อง ขอเบอร์ของเธอไว้ก็แล้วกัน” เคนโด้ยิ้มหวานให้ หญิงสาวจึงมีสีหน้าดีขึ้น
“งั้นแบบนี้ก็ได้คะ” หญิงสาวก็ก้าวเข้ามาเบียดชิด จนหน้าอกที่ใหญ่โตแนบกับแผ่นอกของเคนโด้ เขย่งเท้ากระซิบเบอร์โทรศัพท์กับชายหนุ่ม ก่อนที่จะถูกรั้งเอวเพื่อรับจุมพิตปลอบใจจากเคนโด้ไปหนึ่งครั้งเพื่อลาจาก
“ไว้เจอกันนะคะ” เมื่อทั้งคู่แยกจากกันหญิงสาวก็กระซิบอ้อน แล้วผละจากวิ่งกับเข้างานไปทำหน้าที่ตนเองต่อไป
เคนโด้ยื่นยิ้มส่งจนสาวน้อยกลับเข้าไปในงาน โดยยังไม่รู้ว่าต่อไปชะตากรรมของตัวเองจะต้องดิ่งลงเหวขนาดไหน
ดวงตาวาวโรจน์ของใครคนหนึ่ง ที่ตามดูพฤติกรรมของเคนโด้ตลอด มองจ้องเด็กหนุ่มอย่างเอาเรื่อง ขาที่กำลังจะก้าวเข้าหาหมายจะทำการลงโทษอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เจ้าตัวชะงักไว้ก่อน เหมือนนึกอะไรบางอย่างได้
รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมผุดขึ้นที่ริมฝีปากได้นั้น ใบหน้านิ่งจนจับความรู้สึกได้ยากจนใครที่ได้เห็น ต้องเผลอจินตนาการถึงทะเลอันสงบก่อนเกิดคลื่นไต้ฝุ่นครั้งใหญ่แน่ๆ
“ฉันเตือนนายแล้วแต่นายไม่เชื่อเองนะ แล้วอย่าหาว่าฉันใจร้ายก็แล้วกัน” น้ำเสียงเย็นเยียบแฝงไว้ด้วยอารมณ์มหาศาลกล่าวลอยๆ โดยที่คนจะโดนเล่นงานหารู้เรื่องอะไรเลยสักนิด
เคนโด้เสยผมที่ปรกหน้าขึ้น แล้วก้าวเท้าไปยังรถยนต์ของตัวเอง แม้ว่าวันนี้ตัวเองจะเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันไว้หลายอย่าง แต่ก็ไม่คิดจะเก็บมันมาคิดให้รกสมอง เพราะว่าเขาควรกลับไปเตรียมตัวรับมือกับงานวันต่อไปจะดีกว่า
รถยนต์สีดำแล่นออกไปจากบริเวณลานจอดรถของแขกที่เข้ามาในงานแล้ว ชิเมซุที่ยืนแอบอยู่มุมหนึ่งจึงก้าวท้าวออกจากความมืด มือใหญ่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมากดหมายเลขหนึ่งอย่างชำนาญ
“สวัสดีครับท่านโอยะบุน...ผมมีเรื่องอยากรบกวนท่านหน่อยครับ”
“................”
“ครับพรุ้งนี้ผมจะเข้าไปพบท่านครับ”
“..............”
“ต้องขออภัยที่โทรมารบกวนยามดึกอย่างนี้ครับ ผมจะขอแก้ตัวเอาของชอบของท่านไปฝากนะครับ”
“............”
“ไม่ใช้เรื่องใหญ่โตอะไรหรอกครับ”
“...........”
“ก็แค่ อยากให้ท่านช่วยยืมตัวเด็กท่าทางหน่วยก้านดีคนหนึ่งให้หน่อยเท่านั้นครับ”
“...........”
“โคมารุ เคนโด้ครับ”
“..........”
“ไว้พรุ้งนี้ผมจะเล่ารายละเอียดให้ฟังแล้วกันครับ ขออภัยที่โทรมารบกวนอีกครั้งครับ สวัสดีครับ” เมื่อจบกานสนทนา เครื่องมือสื่อสารอันจ้อยก็ถูกเก็บลงกระเป๋าไป
ร่างสูงเดินกลับเข้าไปในงาน แม้ว่าตอนนี้จะไม่ได้สนในสิ่งเร้าใจตรงหน้าแม้แต่น้อย เพราะหัวสมองกำลังนึกถึงเรื่องที่จะทำวันรุ้งขึ้นก็ตาม แต่ก็ต้องรักษามารยาททางสังคมไว้ก่อน
“พ่อหายไปไหนมาครับ” ไคโต้ถามบิดาที่กลับเข้ามานั่งร่วมโต๊ะ
“ฉันก็เดินดูอะไรไปเรื่อยเปื่อย”
“แต่ผมว่าลุงหายไปสองสามพักนะครับ” โทรุที่ยกแก้วเหล้ากระดกดื่มกล่าวเสริม
“ก็ไปหาอะไรทำแก้เซ็ง” ชิเมซุเลยสนองความอยากรู้อยากเห็นของหลานชายให้ อยากรู้หนักขึ้นไปอีก
“หวังว่าเรื่องที่ทำคงไม่ตรงกับเจ้านี้หรอกนะครับ” โทรุยังคุยต่อ
“ทำไมเจ้าไคโต้มันมีอะไร” ชิเมซุหันไปมองหน้าลูกชาย
“ก็คิดหาวิธีจีบ...เด็กนั้นไงครับ” โทรุชีนิ้วไปยังเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่เดินตามพ่อไม่ห่าง รูปร่างบอบบางน่าถนอม รวมทั้งหน้าตาหวานหยดนั้นด้วย
“ถ้าคิดจะเล่นๆ ฉันว่าอย่าดีกว่าเด็กนั้นท่าทางจะเป็นเด็กดี แต่ถ้าจะจริงจังก็นึกถึงฐานะตัวเองด้วย” ชิเมซุกล่าวเตือนลูกชาย แล้วยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มบ้าง
“แล้วพ่อหละครับ เรื่องแก้เซ็งของพ่อมันจริงจังหรือแค่แก้เซ็งอย่างที่พูด” ผู้เป็นบุตรย้อนถาม
“แล้วสักวันแกก็จะรู้เอง” ชิเมซุตอบแค่นั้น แล้วก็ให้ความสนในกับการดื่มกินต่อไป
.............
...................
..............................
เมื่อยามเช้ามาเยือน ชิเมซุก็ดำเนินการงานที่ทำค้างไว้ตั้งแต่เมื่อคืน เริ่มตั้งแต่การเข้าพบ โอยะบุนฮิโตะโอะ พร้อมด้วยสาเกรสเลิศ และฟุโตมากิเจ้าอร่อย
“อรุณสวัสดิ์ครับท่านโอยะบุน” ชิเมซุค้อมศีรษะอย่างนอบน้อม ให้ชายผู้เป็นนายใหญ่ของสมาพันธ์เขตคันไซ
“เช่นกัน...ชิเมซุ ดูท่าเรื่องที่คุยกันเมื่อคืนจะสำคัญมากสินะ ถึงได้รีบมาแต่เช้า แถมลงทุนหิ้วของชอบของฉันมาให้ด้วยแบบนี้” ชายสูงวัยกว่ากล่าวอย่างอารมณ์ดี
“ผมโกหกไป ท่านก็คงจับได้อยู่ดี...เฮ้ออ” เสียงถอนหายในเสแสร้งเสริมท้ายประโยค
“งั้นก็ลองโกหกดูสิเพื่อฉันจะเชื่อ” สีหน้าใจดียังไม่จางหายไปจากใบหน้า
“ผมกำลังเดือดร้อนครับกำลังโดนตามล่าอย่างหนัก อยากได้คนที่ไว้ใจได้เดินทางเป็นเพื่อนหลบเรื่องวุ่นวายสักพัก ท่านคิดว่าจะช่วยยืมตัวเด็กหน่วยก้านดีให้ผมสักคนจะได้หรือเปล่าครับ” ชิเมซุเริ่มเล่าเรื่องโกหกสุดห่วยให้โอยะบุนฟัง
“แล้วทำไม...ไม่ให้ลูกชายหรือหลานชายไปด้วยหละจะพ่วงสาวๆไปด้วยสักสองสามคนก็ได้ หรือจะให้ดีไปหาใหม่เอาที่นู้นก็ได้ ดันไปอยากได้ลูกคนเดียวของโคมารุเสียแบบนี้ฉันก็ลำบากแย่” แม้ปากจะบอกว่าลำบากแต่สีหน้านั้นตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง
“คงต้องรบกวนท่านโอยะบุนแล้ว ผมเองก็จะพยามไกล่เกลี่ย เรื่องพื้นทีที่ทับซ้อนของเราด้วยไปในตัวจะได้ไม่เสียเวลาครับ” ใบหน้าเย็นชาที่คนอื่นได้เห็นมาโดยตลอดเวลานี้กับเต็มไปด้วยความเจ้าเลห์ร้ายกาจอย่างเหลือเชื่อ
“เธอเนี้ยน๊า จริงๆเลยอายุก็ไม่น้อยแล้วยังเอาแต่ใจอยู่ได้ ถ้าแม่เจ้าไคโต้ยังอยู่คงปวดหัวกับเธอน่าดู” ชายสูงวัยยกมือกุมขมับอย่างหลอกลวง
“ถ้าคนนั้นไม่ต้องห่วงหรอกครับ ต่อให้ยังอยู่ก็คงจะยิ่งส่งเสริมหรือไม่ก็ไล้ผมให้ไปซ่ะตั้งแต่เอยปากแล้วครับขานั้น” ชิเมซุยิ้มกับท่าทางของโอยะบุน
“เฮ้ออ...ฉันควรจะดีใจใช้หรือเปล่าที่แม่เจ้าไคโต้ชิงเสียไปก่อน”
“เขานะเป็นผู้หญิงที่วิเศษมากครับ เข้าใจผมทุกอย่างแม้ว่าเราจะมีเวลาอยู่ด้วยกันน้อยเหลือเกิน”
“แต่ดูเหมือนครั้งนี้เธอจะไปถูกใจเอากับคนที่ไม่เข้าใจเธอเลยนะ”
“บางครั้งคนเราก็ต้องการสิ่งแปลกใหม่ครับ”
“แล้วนี้ถ้าพ่อเขารู้จะเป็นอย่างไง”
“ก็อย่าให้รู้ก็สิ้นเรื่องครับ”
“คนหนุ่มเดี๋ยวนี้เอาแต่ใจกันจริงๆ”
“ผมคงต้องขอให้ท่านช่วยเห็นใจผมด้วยครับ”
“แบบนี้ฉันก็กลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดไปด้วยสิ”
“ไม่หรอกครับ เพราะผมโกหกท่านโอยะบุน ท่านเองก็ถูกหลอกด้วยเช่นกัน”
“แค่เล่นๆแบบที่ผ่านมาหรือเปล่า”
“ไม่ครับ ผมจริงจัง”
“แต่เท่าที่เห็น นายเอาแต่เล่นตั้งแต่สมัยเจ้าหนูนั้นยังเป็นนักเรียนอยู่”
“ก็ตอนนั้นเขาพึ่งเสียแม่ไป แถมยังเป็นนักเรียน ท่านเองก็รู้ว่าผมเป็นคนแบบไหนขืนรีบร้อนเอาแต่ใจตั้งแต่ตอนนั้นคงไม่ดีแน่ครับ”
“ชิเมซุน๊า ชิเมซุ สงสารเจ้าเด็กนั้นหน่อยก็แล้วกัน เขาเองก็ลำบากมามากไหนจะพ่อที่ไม่ค่อยสนใจไหนจะแม่เลี้ยง”
“แต่บางทีเด็กดื้อแบบเนี้ย ก็ต้องใช้ไม้แข็งกันบ้าง”
“เอาเถอะ เอาเถอะฉันไม่เถียงด้วยแล้ว จะทำอะไรก็ตามใจแล้วอย่ามาเสียใจทีหลังก็แล้วกันฉันเตือนแล้ว ถ้าถูกเด็กนั้นเกลียดขึ้นมาอย่ามาเมาให้เห็นก็แล้วกัน ฉันจะได้เรียกให้ลูกกับหลานชายมาสมน้ำหน้าให้ถ้าเป็นแบบนั้น”
“ขอบพระคุณมากครับท่านโอยะบุน” ชิเมซุค้อมศีรษะให้อีกครั้ง
“เอาเป็นว่าพรุ้งนี้เจ้าหนูนั้น จะไปที่อิวะเตะตามที่นายมาโกหกฉันก็แล้วกัน” โอยะบุนรับคำเนือยๆ
รอยยิ้มกว้างบนใบหน้าของชิเมซุ เรียกอารมณ์เหนื่อยใจให้กับโอยะบุนยิ่งขึ้นไปอีก ชักเป็นห่วงเจ้าเด็กเคนโด้เสียแล้วสิ ต้องไปอยู่กับเจ้าคนอารมณ์ไม่คงที่อย่างนี้ จะช้ำตายก่อนจะรู้จักความรักหรือเปล่า.............
เขียนตอนนี้แล้วหลงรักโอยะบุนฮิโตะโอะ แล้วสิคนอะไรเข้าใจชีวิตดีจริงๆ แถมใจดีสุดๆ เพราะแบบนี้ไง ถึงผลิตลูกสาวมาดเท่ห์ออกมา อยากได้แฟนแบบนี้บ้างจังงงง~ (แค่แฟนปรกติยังหาไม่ได้เลยตรูเพ้อเจ้อที่สุดนัง Big)
ท่านเจ๊mama ขอไปหาอุปกรณ์อีกตอนน๊าแล้วตอนต่อไปจะได้เดินเครื่องเต็มที่ค๊า
ท่านMeAwKiM คือว่าดูจะชอบป๋าตอนพิเศษมากเลยนะคะ เอาเป็นว่าจะพยามให้ออกมาดีที่สุดก็แล้วกันค๊า
ท่านmeiarchan ขอโทษด้วยคะ TwT คือว่า... Big ตกเรื่องวรรณยุกต์อย่างแรง ไม่เอกไม้โทรผันเสียงไม่ถูกสอบที่ไรแดงเถือกทุกที ต้องรบกวนท่านmeiarchan ช่วยดูต่อไปด้วยคะ (มันยังไม่คิดจะปรับปรุง) ส่วนคำว่าพยามกับพยายาม Big ขอโทษด้วยอีกครั้งคะจำได้ว่าเคยเตือนแล้วครั้งหนึ่งเท่าที่จำได้ แต่น่าจะเป็นเพราะติดเรื่องภาษาพูดกับภาษาเขียนแน่ๆเลย (เหมือนแก้ตัวเลยอะ) ครั้งต่อไปจะไม่ลืมแล้วค๊า
ท่านRedDevil with BlackMagic ก๊ากกกกกกก ชอบหนุ่มๆแนบตบจูบก็ไม่บอกกันแต่แรกค๊า ส่วนเรื่องนิสัยมันเป็นอีกตัวอย่างคะของลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น พ่อลุงเป็นแบบไหนลูกหลานก็ไม่ต่างค๊า
ความคิดเห็น