ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เอาไงดีเกิดใหม่เป็นเจ้าหญิงแห่งบริทาเนีย

    ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่ 10 การเป็นดยุคมันไม่ง่ายเลยจริงๆ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 265
      4
      15 มี.ค. 60

    "ในที่สุดก็มาถึงวันนี้แล้วซินะ..."

    "ใช่แล้วค่ะ ท่านทาเนีย ในที่สุดวันนี้ก็มาถึงแล้วนะค่ะ"เสียงๆหนึ่งดังขึ้นมาพูดโต้ตอบกับผม ก่อนที่ ผมจะลุกออกจากเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องสำอาง

    "เอาหล่ะ... เซเบอร์นำคนไปเฝ้าทางเข้าปราสาทไว้ ส่วนซิกฟรีสกับเอลซ่าพวกเธอตามฉันมาติดๆเลยนะ"

    "ได้ค่ะ ท่านทาเนีย"

    "แต่ว่า จะให้ท่านทาเนียเป็นดยุคแล้วไปปกครองเมืองบอร์ตัสเซียกับทาอูนี้มันก็... อีกเรื่องนึงเลยนะค่ะ"เมื่อ เอลซ่าพูดจบผมก็ระเคาะระคายกับคำพูดของเธอขึ้นมาตงิดๆ มันก็จริงอยู่ที่ว่า บอร์ตัสเซียนั้นผมเคยไปมาแล้วครั้งนึงและได้สัญญากับเจ้านั้นเอาไว้... ถึงจะไม่ได้เห็นหน้าของหมอนั้น แต่เสียงนั้นผมก็ยังจำได้อยู่ ถึงเวลาจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน แต่มีอย่างนึงที่ไม่เปลี่ยนนั้นคือโทนเสียง

    "เอาหล่ะ... ช่วยเอาผ้าคลุมที่สั่งทำพิเศษมาคุมให้ทีซิ เอลซ่า"

    "ได้เลยค่ะ ท่านทาเนีย นี้ค่ะ"เมื่อเอลซ่าพุดจบ เธอก็เอาผ้าคลุมที่สั่งทำพิเศษสำหรับ อาร์สดยุคโดยเฉพาะมาสวมให้ผมใส่ ผ้าคลุมสีน้ำเงินพร้อมกับสัญลักษ์เหมือนกับของภาคีอัศวินดำกลางหลังผ้าคลุม

    "เอาหล่ะ... พวกเราไปกันได้แล้ว"

    "ได้เลยค่ะ แต่ว่าเรื่องเมืองที่ท่านทาเนียได้ปกครองอยู่น่ะค่ะ"

    "หืม~ มันทำไมงั้นหรอ? ที่นั้นก็เป็นแค่เมืองท่าเองไม่ใช่หรอ?"

    "ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะค่ะ... แต่จริงๆแล้วเมืองบอร์ตัสเซียเมื่อก่อนไม่ใช่เมืองท่าค่ะ แต่เป็นเมืองทางการทหารค่ะ"เมื่อเอลซ่าพูดจบผมก็เข้าใจในทันที แต่ว่าการที่มันกลายมาเป็นเมืองท่าสำคัญของบริทาเนียก็เพราะว่าอาณาเขตพื้นที่จริงๆนั้นเสียให้แก่อาณาจักรเดียโบลไปเมื่อ 8 ปีที่แล้วหรือก็คือการกบฏทำให้เสียดินแดนนั้นเอง

    "ถึงเรื่องมันจะเป็นแบบนั้นแต่พวกเราก็ยังมี ทาอูที่เป็นเมืองติดทะเลไม่ใช่หรอ แถมเมืองนั้นยังเป็นเมืองด้านการทหารอีกด้วยกองเรือรบก็ย้ายไปอยู่ที่นั้นกันหมดแล้วด้วย"ผมพูดไปเดินไปตามทางเดินกับเอลซ่าและซิกฟรีส ก่อนที่ผมจะเดินมาหยุดที่หน้าประตูห้องโถงใหญ่

    "ท่านทาเนียได้โปรดรออีกซักนิดจะได้ไหมครับ"

    "หืม~? ทำไมกันหล่ะ นี้มันได้เวลาแล้วไม่ใช่รึไงกันหล่ะ?"

    "เอ่อ~ จะว่าไงดีหล่ะครับ พอดีณีฏายังร่างไม่เสร็จน่ะครับ"

    "ห๊ะ!!! ณีฏายังร่างไม่เสร็จอีกงั้นหรอ!? นี้มันก็ 2 ปีแล้วนะตั้งแต่ที่ท่าพี่อลิสประกาศไปน่ะ ณีฏามันน่าจะเสร็จได้ตั้งนานแล้วไม่ใช่รึ!?"ผมพูดตะคอกทหารคนนั้นในทันที ก่อนที่จะเอามือผลักประตูเข้าไปในห้องโถงทันที โดยที่ไม่รีรอะไรเลย

    "ท่านพี่ค่ะ ได้โปรดดำเนินการต่อไปเลยดีกว่านะค่ะ!!"

    "สะ... สามห้าว!!! ถึงท่านจะเป็นเจ้าหญิงแต่กระทำการแบบนี้มันก้ไม่เหมาะที่จะเป็นดยุคนะ!!!"

    "หืม~? เจ้าหมายความว่ายังไง ตั้งแต่ที่ท่านพี่อลิสประกาศออกไป มันก็ 2 ปีแล้วนะ!!! แต่ว่า ณีฏาที่ว่านั้นยังไม่เสร็จ นี้มันหมายความว่าไงกัน จะว่าเป็นความสะเพร่าหรือจะให้เรียกว่าไม่ยอมรับการตัดสินใจของท่านพี่อลิสกันหล่ะฮะ!!! ข้าขอถาม ผู้ใดเป็นผุ้ที่เขียนณีฏาในทุกๆสิ่งที่กษัตริอลิสต้องการฮะ!!!"เมื่อผมพูดจบก็ไม่มีใครพูดต่อเลยแม้แต่คนเดียว เหมือนกับว่าพวกที่ต้องการจะเถียงและไม่ยอมรับเรื่องที่ผมจะได้เป็นอาร์สดยุค แต่ลืมไปแล้วรึไงว่า กษัตริตรัสแล้วไม่คืนคำเด็ดขาด

    "พวกเจ้าก็รู้กันอยู่แก่ใจแล้วไม่ใช่รึไงว่า กษัตริเมื่อตรัสแล้วจะไม่คืนคำเด็ดขาดน่ะ!!!"

    "พอได้แล้วทาเนีย!!! เจ้าเป็นฝ่ายชนะแล้วหล่ะหลังจากนี้เราจะทำพิธีแต่งตั้งให้ทาเนีย น้องสาวเราเป็น อาร์สดยุคแห่งบอร์ตัสเซียและให้พระนามใหม่ว่า ทาเนเรีย อาร์ส บริทาเนีย"เมื่อพี่อลิสพูดจบ พี่อลิสก็เรียกให้ผมเดินเข้าไปใกล้ๆพี่อลิสพร้อมกับผู้ติดตามทั้ง 2 คนได้แก่ ซิกฟรีสและเอลซ่า

    "ด้วยนามแห่งข้ากษัตริแห่งบริทาเนีย ด้วยนามใหม่ที่ข้ามอบให้เจ้า พร้อมทั้งประกายแสงทั้ง 7 ด้วยเลือดขอลูกหลานแห่งบริาทเนีย ข้าขอแต่งตั้งเจ้าให้เป็นอาร์สดยุคแห่งบอร์ตัสเซีย"

    "ข้าในนามใหม่ ทาเนเรีย อาร์ส บริทาเนีย ข้าขอน้อมรับพระนามใหม่และตำแหน่ง อาร์สดยุคไว้ ณ ยังที่แห่งนี้"เมื่อผมพูดจบแล้วผมก็รับเอาดาบในมือของพี่อลิสไว้ในมือก่อนที่จะเก็บมันเข้าไปในฝักดาบที่ผมเตรียมสเอาไว้และลุกขึ้นมาจากพื้น

    "ซิกฟรีสในนามของกษัตริอลิสผู้นี้ ข้าขอแต่งตั้งเจ้าให้เป็น Knight of Four หนึ่งใน Knight of Row"

    "ตามบัญชาของท่านค่ะ องค์กษัตริแห่งข้า ท่านอลิส"เมื่อพูดจบแล้วซิกฟรีสก็ลุกขึ้นตามผม ก่อนที่พี่อลิสจะมอบตำแหน่งให้กับเอลซ่าอีกคนหนึ่ง

    "เอลซ่า นับแต่นี้ไปเจ้าจะได้เป็น วิชเค้าต์แห่งทาอูและเจ้าต้องรับคำสั่งจากทาเนเรีย"

    "ข้าขอน้อมรับตำแหน่งและคำสั่งของท่านทั้งสองตราบชีวิตนี้จะหาไหม้"เมื่อเอลซ่าพูดจบแล้ว เธอก็ลุกขึ้นตามมาในทันที

    "ข่าวด่วน!!! ข่าวด่วนขอรับองค์เหนือหัว!!!"

    "หืม~ มีอะไรงั้นหรอ? บอกมาเดี๋ยวนี้"

    "อะ... เอ่อ... ข้าเป็นทหารม้าเร็วนำสารมาส่องให้องค์เหนือหัวขอรับ นี้คือสิ่งที่พวกเราประสบอยู่ครับ!!!"เมื่อทหารคนนั้นพูดจบเขาก็เดินไปหาพี่อลิสด้วยความเหน้ดเหนื่อยก่อนที่จะยื่นเอาจดหมายให้กับเธอ เมื่อได้รับจดหมายมาแล้ว พี่อลิสก็เปิดอ่านเนื้อหาใจความข้างในทันที

    "อะ... อะไรเนี่ย!? พวกอ๊อคแดงกำลังบุกโจมตีคาร์มไลร์เพื่อที่จะขยายดินแดน ถ้าปล่อยไว้แบบนี้แผ่นดินบริทาเนียของพวกเราจะต้องล่มสลายแน่ๆ แต่ก็นั้นหล่ะชั้นต้องการผู้อาสานำทัพหลวง หมื่นสองพันกับอีกห้าร้อยคนไปสมทบที่คาร์มไลร์ก่อนแล้วกองหนุนจากบอร์ตัสเซียอีก หนึ่งหมื่นจะมาสมทบ"

    "..................."

    "ไม่มีใครจะอาสาเลยงั้นรึ!? ตอนนี้แผ่นดินของพวกเรากำลังอยู่ในอันตรายนะ!!!"ท่านพี่พูดมาด้วยความโมโหต่อเหล่าขุนนางและแม่ทัพทั้งหลายที่กลัวกันหัวหดต่ออิทธิลิขของพวกอ็อคแดงพวกนั้น

    "เอ่อ... องค์กษัตริถ้าขอกล่าวอะไรหน่อยได้ไหมขอรับ?"

    "ว่ามาซิ?"

    "ข้าว่า... ท่านควรจะให้องค์หญิง ทาเนเรียไปดีไหมครับ ถึงข้าไม่รู้ว่าท่านทาเนเรียมีความสามารถมากแค่ไหน... แต่ว่าถ้าชนะในศึกนี้หล่ะก็ท่านทาเนเรียก็จะได้ตำแหน่งอาร์สดยุคอย่างเป็นธรรม ว่าไงหล่ะขอรับท่านอลิส"เมื่อพูดจบพี่อลิสก็คุ้นคิดอยู่นานจนพี่อลิสนั้นได้ตัดสินใจเป็นเด็ดขาด

    "ทาเนเรียข้าขอถามเจ้าว่า ศึกนี้ที่ฝ่ายศัตรูมีกำลังถึง 1 แสนเจ้าจะสามารถใช้กองทัพเพียงแค่หยิบมือสู้ได้หรือไม่? ตอบข้ามาตามตรง"

    "เป็นไม่ได้หรอกค่ะ...."

    "หมายความว่ายังไง"พี่อลิสเมื่อผมพูดจบ พี่อลิสก็รู้สึกหงิดหงุดขึ้นมาในทันทีที่ผมตอบไปแบบนั้น ถึงจะพูดว่า... เป็นไปไม่ได้ แต่ว่า

    "แต่ว่าถ้าข้ามีทหารประมาณ 2 หมื่นกว่าข้าสามารถทำมันได้ค่ะ ถึงจะเสี่ยงตายไปหน่อยแต่ข้ามีแผนให้ป้อมปราการคาร์มไลร์ทำค่ะ"

    "แผนนั้นคืออะไรหล่ะ?"

    "ให้ทหารทั้งหมดของคาร์มไลร์ออกไปสู่ถ่วงเวลา ถ้าทำได้ก็ทำลายค่ายของพวกมันให้สิ้นซากก่อนที่ข้าจะไปถึง... แต่ว่าทหารที่ข้าจะคุมหล่ะค่ะ ท่านพี่อลิส?"

    "เอ่อ... เป็นทหารราบและทหารธนูรวมๆก็ประมาณ 1 หมื่น 2 พันกับอีก 5 ร้อยนายน่ะ แล้วที่ทาอูยังมีทหารหรืออยู่อีกประมาณ 1 หมื่น 7 พันกับอีก 5 ร้อยคนน่ะ"เมื่อพี่อลิสพูดจบ ผมก็ลองคิดๆไปมาดู การที่จะตีทัพอ๊อคถึง แสนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้างั้นคงมีแต่ต้องใช้ไอ้นั้นแล้วหล่ะมั้ง...

    "เอลซ่ารับคำสั่งข้า จงขี่ม้าไปยังทาอูให้ทันภายใน 2 วันระดมพลมาให้ได้ 1 หมื่นนายถ้าให้ดีเป็นทหารราบกับทหารม้าและจงเดินทัพไปให้ถึงคาร์มไลร์ภายใน 10 วันถ้ามาช้าแม้แต่วันเดียวป้อมปราการอาจจะแตกแล้วก็ได้"

    "คะ... ค่ะ!!! ข้าจะรีบไปเดี๋ยวนี้หล่ะค่ะ!!!"เมื่อเอลซ่าพูดจบเธอก็วิ่งออกจากท้องพระโรงและเดินทางไปยังทาอูในทันที

    "เอ่อ... ท่านพี่อลิสค่ะ เดินทัพไปที่คาร์มไลร์ระยะทางจากเมืองหลวงไปที่นั้นจะต้องใช้เวลากี่วันค่ะ?"

    "เอ่อ... ถ้าไปตามถนนเส้นหลักก็จะถึงคาร์มไลร์ภายใน 7 วัน แต่ถ้าเดินทางทั้งคืนจะใช้เวลาถึง 3 วัน"ถ้า... เดินทางไปถึงคาร์มไลร์ได้ภายใน 3 วัน เอลซ่าจะต้องเดินทัพไปถึงที่คาร์มไลร์ประมาณ 9 วันถ้าเดินทัพและพักยามคืนไปด้วยแต่ถ้าเอลซ่าเดินทัพทั้งวันทั้งคืนก็จะถึงภายใน 5 วันถ้าเราใช้เวทย์นั้นหล่ะก็จะถ่วงเวลาได้ 5 วันเอลซ่าจะมาถึงภายในอีก 4 วัน แต่ถ้าทั้งคืน 5 วันก็พอแล้ว.... แต่ว่าเพราะงั้นการเดินทัพทั้งวันจึงมีความเสี่ยงตรงที่ทหารจะไม่พร้อมรบ.... แล้ว... ฉันจะทำยังไงกับอีก 4 วันที่เหลือหล่ะ... ถ้างั้น... ก็ไปคิดเอาดาบหน้าหล่ะกัน!!!

    "ท่านพี่ค่ะ ข้าสามารถทำได้ค่ะ และข้าจะตีโต้กลับพวกมันและทำลายพวกมันให้สิ้นซากภายในระยะเวลา 1 ปีค่ะ ถ้าทำไม่ได้ก็เชิยปลดข้าออกจากตำแหน่งดยุคเลยเถอะค่ะ!!!"

    "นะ... นี้เจ้า... กำลังพูดอะไรอยู่น่ะ ทาเนเรียจะทำลายพวกมันภายใน 1 ปี ไม่มีทางซะหรอกนะ"

    "มีทางค่ะ นั้นคือท่านพี่ไอร่าค่ะ"เมื่อฉันพุดจบประโยคทุกๆคนในห้องนั้นต่างก็อึ้งกันไปตามๆกันเพราะสิ่งที่ผมพูด

    ".... ถ้างั้นหล่ะ.... ก็... ทำตามที่เจ้าต้องการเลยน้องข้า และข้าขอสั่งเจ้าทาเนเรียในฐาณะที่ข้าเป็นกษัตริ รับบัญชาจากข้าทาเนเรีย อาร์ช บริทาเนียจงนำกองทัพศักดิ์สิทธิ์แห่งข้าและฟาดฟันเหล่าศัตรูทั้งหมดให้สิ้นด้วยบัญชาจากสวรรค์จงล้างบางเผ่าพันธ์พวกมันซะ"

    "ข้าทาเนเรีย อาร์ช บริทาเนียขอน้อมรับพระบัญชาของท่านองค์กษัตริของข้า"เมื่อพูดจบผมก็คุกเข่าน้อมรับคำสั่งในทันทีก่อนที่จะเดินออกจากห้องโถงในทันทีและเดินไปยังด้านนอกปราสาทที่ๆ เหล่าทหารทั้งหลายของฉันไม่ซิ.... ของผมที่รออยุ่นานแล้ว"

    "เอาหล่ะ.... ทหารผุ้ทรงเกียรติแห่งบริทาเนียทั้งหลายจงฟัง"เมื่อผมพูดขึ้นมา เหล่าทหารที่่กำลังรอผมอยู่ต่างก็ตื่นตัวขึ้นมาและเข้าระเบียบกันอย่างพร้อมเพียงใบหน้าคาตาของพวกเขาต่างไม่ค่อยจะสดชื่นกันซักเท่าไหร่

    "เอาหล่ะ.... ทหารทั้งหลายจงฟัง ข้าได้รับบัญชามาจากองค์กษัตริอลิสให้ข้านำกกองทัพของข้าจำนวน 1 หมื่น 2 พัน 5 ร้อยคนไปเดินทัพไปที่คาร์มไลร์เพื่อไล่พวกอ๊อคกับไป ข้ารู้มาอย่างนึงว่าพวกอ๊อคพวกนั้นลุกลานดินแดนของพวกเรามานานนับ สิบๆไปแล้วแต่ว่าข้าจะทำในสิ่งที่ไม่มีดยุคหรือกษัตริองค์ไหนๆทำมาก่อน นั้นคือพวกเราจะเดินทัพปราบพวกอ๊อคทั้งหมดที่ลุกลานแผ่นดินเกิดของพวกเรา ให้สิ้นซาก!!!"

    "อะ... โอ้!!!! โอ้!!!!"เสียงโห่ร้องดังขึ้นมาพร้อมเพียงกัน.... และดูเหมือนว่าทหารพวกนี้จะพร้อมสำหรับการทำศึกกันแล้วซินะ... เอาหล่ะ...ถ้างั้น

    "เอาหล่ะทหารทั้งหลาย... เดินทัพได้!!!"เมื่อผมพูดจบประโยคกองทัพทั้งหมดก็เดินทัพออกเดินทางไปยังคาร์มไลร์ในทันที



    ส่วนตัว

    หมายเหตุครับ ช่วงนี้ไรต์รู้สึกไม่ค่อยสบายครับเพราะงั้น ไรต์จะค่อยๆอัพทีละตอนหล่ะกันนะ ไม่อยากฝืนตัวเองด้วยน็อค ไปโลกหน้าขึ้นมาแล้วจะเสียใจที่หลังไม่ได้ด้วย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×