เมื่อผมเกิดใหม่ในโลกคู่ขนาน+แฟนตาซีพร้อมกับพลังสุดโกง

ลำดับตอนที่ #7 : สงครามระหว่างตระกูล1

หลังจากที่ผ่านเรื่องราวยุ่งยากมา เบนก็มาเรียนตามปกติในตอนเช้าก่อนจะทักทาย

ฟรอเซ่ หลุยน์ โบ๊ท และแคลร์

"ดีจ้าเบน"จอย

จอยเป็นคนสุดท้ายที่กล่าวทักทายก่อนจะเดินเข้าห้องเรียน ซึ่งเบนที่เห็นภาพแบบนี้มันก็ทำให้เขานึกถึงในช่วงวัยเด็กที่จากมานานแสนนานก่อนที่ก็อตซิลล่า จะพรากทุกสิ่งทุกอย่างไปจากเขาทั้งหมด

"หวังว่าคงจะไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นเหมือนเดิมอีกครั้งหรอกมั้ง

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

นะ.....

กริ๊งๆ

"เอาล่ะนักเรียน เที่ยงแล้วไปพักกินข้าวได้เลย อีกเดี๋ยวค่อยกลับมาเรียนต่อนะ"ครู

เวลาพักเที่ยง ครูได้สั่งให้นักเรียนพักไปกินข้าว และเมื่อหัวหน้าห้องกล่าวขอบคุณเสร็จและนักเรียนในห้องก็กำลังจะไปกินข้าว จู่ๆ โทรทัศน์เวทย์มนต์ก็เปิดขึ้นอัตโนมัติและตัดภาพไปที่สำนักข่าวกำลังรายงานอะไรบางอย่างจนทำให้นักเรียนภายในห้องทั้งหมดต่างก็หันมามองข่าวในโทรทัศน์

"ข่าวด่วนค่ะ! ตอนนี้ตระกูลใหญ่ของเมืองแห่งนี้ได้ประกาศสงครามใส่กันค่ะ ขอให้ประชาชนบ้านใกล้เรือนเคียงที่อยู่ใกล้ตรงบริเวณจุดเกิดเหตุขอให้รีบทำการอพยพโดยด่วนค่ะ!"

นักข่าวสาวเผ่าอมนุษย์สัตว์ได้ประกาศข่าวด้วยท่าทางที่ร้อนลน ซึ่งแน่นอนว่ามันได้สร้างความงุนงงให้กับเบนเป็นอย่างมากเกี่ยวกับสถานการณ์ภายในโลกแห่งนี้

"นี่มันเรื่องอะไรกัน? แค่การประกาศสงครามของ2ตระกูลก็ถึงกับทำให้ต้องอพยพคนเลยเหรอหรือมันเป็นเรื่องปกติของคนที่โลกนี้หรือไงกัน?"เบน

เบนได้แต่เก็บความสงสัยไว้ก่อนจะดูข่าวในโทรทัศน์เวทย์มนต์ต่อ

"สถานการณ์ในตอนนี้ ทั้งสองตระกูลได้เตรียมหาจอมเวทย์จำนวน2คน นักเวทย์ชั้นสูงจำนวนถึง10คน นักเวทย์ขั้นกลางจำนวน30คนค่ะ อันเนื่องมาจากความขัดแย้งในเรื่องการบุกของมอนเตอร์ในช่วง15ปีก่อนหน้านี้ และมีข่าวลือว่าตระกูลสิงห์ครามมีส่วนในการทำให้มอนเตอร์บุกเข้ามาจนทำให้ประชาชนในเมืองถูกเข่นฆ่าเป็นจำนวนมากเนื่องจากมีหลักฐานจากตระกูล พยัคสมิงค์ที่ให้การแก่รัฐบาลในตอนนั้้นค่ะ" (ตอนนี้อัปเดตระดับพลังเวทย์เข้ามาแล้วนะ)

"เดี๋ยวนะ! สิงห์ครามกับพยัคสมิงค์

งั้นเหรอ!!"เบน

เมื่อนักข่าวพูดถึงชื่อตระกูลสิงห์ครามกับพยัคสมิงค์ แน่นอนว่ามันทำให้เบนนึกถึงเรื่องราวในชาติก่อน ในปี2025ช่วงที่มีข่าวเกี่ยวกับตระกูลสิงครามได้ลักลอบขนไวรัสโคโรน่าเข้ามาในตัวเมืองกรุงเทพและได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นจนทำให้มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก และตอนนั้นตระกูลพยัคสมิงค์ก็ได้ให้ความช่วยเหลือแก่คนที่ได้รับผลกระทบรวมถึงออกเงินทุนเร่งด่วนในการสั่งซื้อยาต้านไวรัสโคโรน่ามา ซึ่งตระกูลพยัคสิงห์นั้นเป็นตระกูลของพ่อสมิงค์ เพื่อนสนิทของเบนนั่นเอง

"ไม่จริงน่า! ชั้นลืมไปได้ยังไงกันไอ้เรื่องพวกนี้"เบน

เบนที่ตอนนี้อยู่ในท่าทางตื่นตระหนก ทางด้านของฟรอเซ่ที่เห็นเบนมีอาการลุกลี้ลุกลนจึงได้เข้าไปถามเบน

"เบนเป็นอะไรไปเหรอ? ท่าทางดูไม่สบายนะ"ฟรอเซ่

เบนที่ได้ยินฟรอเซ่ถามถึงตัวเอง จึงได้ตอบแบบเลี่ยงๆไปเพื่อไม่ให้ฟรอเซ่เป็นห่วง

"ม-ไม่เป็นไรหรอก แค่รู้สึกเวียนหัวนิดหน่อยน่ะ พักแปลเดียวก็หายแล้ว"เบน

"งั้นก็แล้วไป นายไปนอนที่ห้องพยาบาลก่อนก็แล้วกันเดี๋ยวชั้นบอกครูให้เอง"ฟรอเซ่

"ข-ขอบใจนะ"เบน

เมื่อเบนเห็นว่าฟรอเซ่ได้เดินจากไป เขาก็รีบไปในที่ลับตาคนก่อนจะเรียกชุด

พาวเวอร์สูทออกมา

"เท่าที่ชั้นจำได้ ตอนที่ตระกูลพยัคสมิงค์ประกาศสงครามกับสิงห์คราม ตอนนั้นไม่ได้เป็นการยกพวกตีกันแต่อย่างใด แต่เป็นการทำสงครามกันในรูปแบบทางธุรกิจแน่นอนว่าสิงห์ครามได้ส่งนักฆ่ามาเป็นจำนวนมากเพื่อปลิดชีพคนในตระกูลพยัคสิงห์ แต่เท่าที่จำได้คนที่ตายในตอนนั้นก็คือ น้องสาวของสมิงค์!!!"เบน

เบนได้นึกถึงช่วงเวลาที่เพื่อนสนิทของตัวเองบางครั้งมักจะชอบหลบคน และไปนั่งที่มุมมืด เพื่อโทษตัวเองที่ไม่สามารถปกป้องคนในครอบครัวได้ เบนที่ตอนนั้นได้แต่ยืนมองแต่ก็ไม่สามารถปลอบเพื่อนตัวเองในยามเศร้า

"ในชาตินี้ชั้นจะช่วยนายเอง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมาเจอโศกนาฎกรรมแบบนี้อีก!"เบน

ว่าแล้วเบนก็เปิดโหมดพรางตัวทันทีก่อนจะใช้fly bord airบินไป

______________________________________

ตอนต่อไป สงครามระหว่างตระกูล2

ไรท์:2-3ตอนมานี้จะสั้นหน่อยเด้อ เนื่องจากก่อนปิดเทอมไรท์ต้องมานั่งเคลียร์เอกสารรายงานส่งจาร์ยน่ะครับ

(⁠╯⁠°⁠□⁠°⁠）⁠╯⁠︵⁠ ⁠┻⁠━⁠┻