เพื่อนข้างหลังกำลังถกเถียงกันเรื่องหลักปรัชญากรีกโบราณพร้อมหนังสือเพลโตหนาเตอะเล่มละสองพันห้า ก็เป็นการเรียนที่คร่ำเคร่งน่านับถือและควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างอยู่หรอกนะ แต่บางที...คอฟฟี่ก็คิดว่า มันช่างแห้งแล้งไร้ความฝันเหลือเกิน คนก็ตายไปกว่าสองพันปีแล้ว ยังขุดกระดูกขึ้นมาเถียงไม่หยุด ไม่คิดฝันอะไรใหม่ๆกันบ้างเลยหรือ... แบบที่ไม่ต้องอ้างอิงตำราฝรั่งด้วยนะ...
ระหว่างที่นั่งขบคิดหาคำที่สัมผัสกัน คอฟฟี่ก็นึกไปว่า บางทีคอฟฟี่อาจจะอยู่ผิดที่ผิดทางล่ะกระมัง ถึงได้รู้สึกโดดเดียววังเวงอย่างนี้...
นอนใต้ฟ้าดาราดารดาษ
นอนนึกวาดวิมานฝันอันแสนหวาน
นอนระลึกนึกถึงฝันในวันวาน
นอนคำนึงถึงกาลที่ผ่านไป
ตื่นขึ้นมาพบกับโลกแห่งความจริง
ตื่นเพื่อทิ้งความฝันอันสดใส
ตื่นแล้วพบความหวังที่หม่นไหม้
ตื่นโดยที่ไม่มีใครอยู่ใกล้ตัว
นอนนึกวาดวิมานฝันอันแสนหวาน
นอนระลึกนึกถึงฝันในวันวาน
นอนคำนึงถึงกาลที่ผ่านไป
ตื่นขึ้นมาพบกับโลกแห่งความจริง
ตื่นเพื่อทิ้งความฝันอันสดใส
ตื่นแล้วพบความหวังที่หม่นไหม้
ตื่นโดยที่ไม่มีใครอยู่ใกล้ตัว
เหงานะ...
ความคิดเห็น
เคจเคยคิดกลอนท่อนหนึ่งไว้นานแล้ว แต่แต่งได้แค่บาทเดียว ไม่ครบบทด้วยซ้ำ เพราะหาท่อนต่อที่โดนๆ ไม่ได้
...แม้มีความมืดรายล้อมอยู่รอบกาย
ยังมีแสงสว่างพร่างพรายที่ในฝัน...
ถ้าคอฟฟี่่ช่วยต่อได้ก็ดีนะ... :)