ความจริงที่สายเกินไป - ความจริงที่สายเกินไป นิยาย ความจริงที่สายเกินไป : Dek-D.com - Writer

    ความจริงที่สายเกินไป

    ติ๊กต่อกๆ เวลาเดินไปเรื่อยๆ แต่ละคนต่างทำหน้าที่ของตัว แต่บางสิ่งเกิดขึ้นขณะที่เข็มนาฬิกาหมุนไป และสิ่งนั้นไม่สามารถเรียกคืนให้กลับมาได้

    ผู้เข้าชมรวม

    736

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    736

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    2
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  17 พ.ค. 52 / 19:59 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ



       

      ความจริงที่สายเกินไป

       

                  ติ๊กต่อกๆ ...

                      เวลายังคงหมุนเวียนไปเรื่อยๆ กับแต่ละคนที่กำลังทำหน้าที่ของตัวเองอยู่

                      ติ๊กต่อกๆ ...

                      เวลาจ๋า ทำไมถึงผ่านไปไวนักล่ะ ยังมีอีกหลายเรื่องที่ฉันยังไม่ได้ทำ

                      ติ๊กต่อกๆ ...

                      เดี๋ยวนะ...ช่วยหยุดเดินก่อนได้ไหม เดินตามไม่ไหวแล้ว มันเหนื่อยเหลือเกิน

                      เอ๋... อะไรนะ

                      เวลาไม่ไหลย้อนกลับเหรอ

                      เจ้าเวลา เธอต้องการบอกว่า ให้ฉันทำใจอย่างนั้นเหรอ ... ?

       

                      ชั้นมัธยมศึกษาปีที่สอง

       

                  มีการจัดห้องเรียนขึ้นใหม่ ฉันไม่ได้อยู่กับเพื่อนในห้องเดิมๆ ที่เคยอยู่แล้ว แต่ได้เจอเพื่อนที่หลากหลายมากขึ้น หล่อมากขึ้นด้วยมั้ยนะ ... อันนั้นคงไม่เกี่ยวกับการเรียนซักเท่าไหร่

                      ฉันมีเพื่อนสนิทใหม่สองคน พวกเราสนิทกันไวมาก จนฉันยังรู้สึกแปลกๆ เลยว่า เราเคยเจอกันมาก่อนไหมนะ แล้วฉันก็หัวเราะกับตัวเอง จะเป็นไปได้ยังไง ก็พึ่งรู้จักกันตอนมอสองนี่นา

                      ไม่ได้อยากจะเกริ่นถึงเรื่องอดีตตอนมอสองเท่าไหร่หรอก แต่ต้องการจะสื่อถึงคนคนนึง

                      ผู้ชายคนหนึ่ง ที่เขาเป็นมากกว่ารัก

                 

                  มีวันนึง ฉันกำลังจะเดินออกจากห้องเรียน เพื่อย้ายคาบไปเรียนห้องอื่น ใครเป็นคนคิดระบบนี้กัน น่าจะให้เป็นอาจารย์เดินสอนพวกเรามากกว่าสิ นักเรียนเสียเงินมาเรียนนะ

                      ล้อเล่นน่ะ ฉันชอบการย้ายห้องเรียน เพราะมันช่างเบียดเบียนเวลาเรียนดีเหลือเกิน

                      น็อตชอบคนนี้

                  ผู้ชายคนหนึ่งชี้มาที่ฉัน ขณะกำลังเดินออกจากห้อง

                      เอ๋ มีใครชอบฉันเหรอ สมควรจะดิ้นลงไปที่พื้น บิดเป็นเกลียวดีมั้ย

                      ผู้ชายที่ชื่อน็อต เขาเป็นชายตัวเล็กๆ ตอนนี้เขาเตี้ยกว่าฉันอีก ฉันสูงประมาณหนึ่งร้อยหกสิบสอง แสดงว่าเขาต้องสูงไม่ถึงน่ะสิ แต่หน้าตาเขาน่ารักมากเลย ตาตี่ๆ หน้าขาวๆ แต่ไม่มาก จมูกโด่ง และที่สำคัญ เขาชอบสวมหมวกมาโรงเรียนด้วย

                      ตอนนั้น ฉันยังไม่รู้จักเขา ไม่เคยคุยเลย

                      เราแค่เดินผ่านกัน และส่งยิ้มให้กันเพียงนิดเดียวเท่านั้น

                     

                      มีวันนึง เพื่อนกลุ่มเขามาแซวเรื่องเขากับฉัน ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เป็นอะไรกันเลย แต่ก็อย่างว่าล่ะนะ ผู้ชายคงจะชอบแซว แต่ตอนนั้นเป็นบ้าอะไรไม่รู้ ฉันกลับเขินแล้วพูดกลับไปว่า

                      เขาเตี้ยกว่าจันทร์อีก

                  ตอนนั้นเขาเงียบไปเลยล่ะ อา... ฉันพูดอะไรออกไปนะ ทำร้ายเขามากรึเปล่า

                      พวกเราคุยกันน้อยมาก จนแทบจะนับคำได้ น้อยเกินไป จนฉันเริ่มลังเลว่า เขาชอบฉันเหรอ

                  และฉันก็ยังไม่อยากมีแฟนด้วย ตัวฉันพึ่งมอสองเองนะ จะรักใครเป็นได้ยังไง รักจะอยู่ยั่งยืนเหรอ ปัญหาต่างๆ ที่ฉันถามตัวเองเรื่อยมา

                      และเขาก็เป็นหนุ่มป๊อบมากด้วย จนฉันคิดว่า มันไกลเกินเอื้อมรึเปล่า

                      แต่แกก็น่ารักนะเว้ยจันทร์

                  สองเพื่อนสนิทจะยืนยันแบบนี้มาตลอด แต่เพื่อนกันเองย่อมเข้าข้างกันเองใช่มั้ย

                      เขาจะชอบแอบมองฉันตลอด และส่ายหัวเหมือนเด็กตัวเล็กๆ เวลาเขินอายที่เพื่อนแซว เขาที่เป็นคนนิ่งๆ เงียบๆ แสดงความรู้สึกด้วยคำพูดไม่ค่อยเก่ง

                  แต่บางครั้งเขาก็แสดงด้วยการกระทำ

                      เช่น ซื้อของมาฝากบ้าง ช่วยฉันในคาบเรียนพละ เอาลูกอมมาให้ในวันวาเลนไทน์ แม้มันจะเป็นสิ่งเล็กน้อย แต่ฉันก็ประทับใจ

                      แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์บ้าๆ ขึ้นมาจนได้ เรียกได้ว่า เป็นเหตุการณ์ไม่คาดฝันเลยล่ะ

                      ไม่รู้เพื่อนคนไหน ดันไปพูดปล่อยข่าวว่า

                      จันทร์มีแฟนแล้ว

                      แค่คำคำหนึ่งเท่านั้น เปลี่ยนผู้ชายคนนึงไปเหมือนกับแค่พลิกฝ่ามือ

                      เริ่มตั้งแต่ เขาห่างจากฉันเรื่อยๆ แล้วล่ะ เขาไม่ค่อยแอบมองฉัน ไม่เขินเพราะไม่มีเพื่อนแซวแล้ว ปกติก็เงียบอยู่แล้ว ก็ยิ่งไม่ค่อยคุยมากขึ้น

                      และที่แปลกมากกว่านั้นคือ เขาเองก็คบกับผู้หญิงที่มาจีบเขาก่อนไปเสียแล้ว

                      ตอนแรกฉันที่รอเขามาถาม เพื่อที่จะได้อธิบายถึงเรื่องจริง กลับต้องทำเป็นเฉยชา แกล้งทำเป็นไม่รับรู้อะไร

                      น้อยใจเขาที่สุด ทำไมถึงไม่ถามซักคำล่ะว่า ฉันมีแฟนแล้วจริงๆ เหรอ ถามอะไรก็ได้ที่มันจะแสดงได้ว่า เขายังดิ้นรนที่จะชอบฉันอยู่

                      ทำไมเขาถึงยอมแพ้ไปง่ายๆ แบบนี้นะ

                      ไม่เป็นไร ฉันแค่ชอบเขา ยังไม่ได้รัก ดีแล้วที่ไปจากกันได้ เป็นแค่เพื่อนคงมากพอ เพราะผู้ชายขี้ขลาดคือสิ่งที่ฉันไม่ชอบเอาเสียเลย

                     

                      ชั้นมัธยมศึกษาปีที่สาม

       

                      น็อตเลิกกับแฟนแล้ว จะว่าดีใจก็ดีใจ แต่อีกใจนึงก็แอบคิดว่า เขาจะเสียใจรึเปล่า แต่คงไม่หรอกมั้ง เพราะดูแล้วฝ่ายผู้หญิงจะเสียใจมากกว่า

                      น็อตตัวสูงขึ้นมากเลยล่ะ จนฉันกลายเป็นยายเตี้ยสำหรับเขาไปแล้ว

                      เพื่อนของฉันคนนึงหิ้วของขวัญมาแต่ไกล กล่องใหญ่เบ้อเริ่มเลย เธอจะให้ใครนะ และมันก็เป็นเรื่องที่ทำให้ฉันรู้สึกแย่อีกครั้ง ที่ของขวัญกล่องนั้นไปอยู่ในมือน็อตในเวลาต่อมา

                      อ๋อเพื่อนฉันชอบเขานี่เอง

                      ฉันพยายามข่มใจว่า ฉันกับน็อตคงไม่มีสิทธิ์เป็นอะไรกันหรอกมั้ง เพราะมีคนมาชอบเขาเยอะแยะ ทั้งสวย ทั้งน่ารัก ทำอะไรให้เขามากมาย

                  และฉันได้ข้อห้ามให้ตัวเองใหม่แล้วล่ะ นั่นก็คือ เพื่อนฉันชอบเขานะ ฉันจะทำร้ายเพื่อนได้ลงเหรอ

                      ใช่...ฉันเลือกเพื่อน และพยายามทำตัวให้เป็นปกติทุกอย่าง

                      เมื่อเวลาผ่านไปหลายเดือน...ฉันกับน็อตก็กลับมาคุยกันเหมือนเพื่อน เขาคงไม่ได้ชอบฉันแล้ว ฉันล่ะ ชอบเขาอยู่บ้างรึเปล่านะ

                      ชอบอยู่ และชอบมากด้วย จนคิดว่านี่แหละคือรัก

                      เด็กผู้หญิงคนหนึ่งเรียนรู้เรื่องรักแล้วล่ะ แต่ทำไมมันถึงมีน้ำตาบ่อยจังนะ เพราะมันไม่ใช่รักที่ดีเหรอ หรือเพราะมันไม่ใช่รักที่ควรคู่กัน

                     

                      ชั้นมัธยมศึกษาปีที่หก

       

                      จะจบชั้นมอหกแล้ว เศร้าเป็นบ้า ไม่อยากจากเพื่อนๆ เลย แต่ทว่า...ทุกคนย่อมมีทางเดินของตัวเอง และคงไม่มีใครที่จะมีทางเดินที่เหมือนกัน

                      พวกฉันนั่งอยู่ที่เก้าอี้ยาว มาถ่ายรูปหนังสือรุ่นน่ะ ฉันกับน็อตอยู่คนละห้องมาตั้งแต่มอสี่ สามปีที่ไม่ได้อยู่ห้องเดียวกัน กลายเป็นความชินไปเสียแล้ว แต่อย่างน้อยก็ยังเคยอยู่ห้องเดียวกันต้องสองปีนะ คิดถึงจัง คิกคิก

                      พวกกลุ่มน็อตมานั่งด้วยล่ะ ฉันอายจังเลย พวกเขาจะมานั่งดูทำไมนะ แต่ไม่เป็นไร ทำตัวธรรมชาติเข้าไว้

                  เหมือนกับเป็นภาพช้า ที่เพื่อนคนนึงของเขาชี้มาที่ฉัน และพูดประโยคที่เหมือนเดิมไม่ผิดเพี้ยนว่า

                      น็อตชอบคนนี้

                  ตอนนั้นได้แต่ตะลึง และทำอะไรไม่ถูก พอถ่ายหนังสือรุ่นเสร็จแล้ว มีเพื่อนหลายคนมาแซว ฉันก็เลือกที่จะปฏิเสธอย่างเดียว ที่ทำไปเพราะแค่ปากแข็งและเขินเท่านั้น

                      แต่นั่นอาจจะเป็นการกระทำที่ผิดพลาดที่สุด ของผู้หญิงอายุสิบแปดคนหนึ่ง

       

                      มหาลัย ปีหนึ่ง

       

                      ตอนแรกนึกว่า ความห่างจะทำให้ลืมกัน ฉันจะต้องดีขึ้นมากแน่ๆ ถ้าไม่มีเขา เขาไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ นานๆ ถึงจะออนเอมเอสเอ็นที และพวกเราก็แค่ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบธรรมดา

                      อยู่ดีๆ วันนึง มีผู้ชายมาสารภาพรักกับฉัน แล้วถามว่า ฉันชอบใครเหรอ

                      น่าแปลก... วูบแรก...คนที่ฉันคิดถึงคือ หน้าของน็อตลอยเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มกว้างจนเห็นเขี้ยว

                      ใช่...ฉันยังคงชอบเขาอยู่

                      ทำไมเราถึงไม่ได้รักกันนะ ทั้งที่คนสองคนที่รักกันสมควรจะอยู่ด้วยกันไม่ใช่เหรอ

                      นั่นก็เพราะอาการบ้าๆ ที่เรียกว่าปากแข็งของฉันยังไงล่ะ

                      จะทำอย่างไรดี จะช้าไปไหม หากจะบอกว่า ฉันคนนี้มีเขาตลอดเวลา

                     

                      แต่แล้วก็ไม่สายเกินไป เมื่อเขากลับมาจากต่างประเทศ ฉันเลยลองชวนเขาไปเที่ยวดู หลายคนอาจคิดว่า การทำแบบนี้เป็นเรื่องน่าเกลียด แต่เขาทำให้ฉันมากเหลือเกินแล้ว คงไม่แปลกอะไร หากฉันจะเลิกปากแข็งเสียที

                      เทศกาลคริสมาสต์...25 ธันวาคม

                      แม้จะไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันในวันคริสมาสต์อีฟก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็มีวันนี้ ให้ฉันนั่งเฉยๆ อยู่ที่ไหนก็ได้ หากมีเขาอยู่เคียงข้าง

                      ต้นไม้สีเขียวขนาดใหญ่ ถูกแขวนไปด้วงดวงดาว และกล่องของขวัญมากมาย มีลุงแต่งชุดซานต้าใจดีมาคอยแจกลูกอมด้วย

                      พวกเราแลกเปลี่ยนเรื่องราวตลอดระยะเวลาเกือบหนึ่งปีที่ไม่เคยคุยกัน

                      อากาศหนาวจังนะ เขาจะหนาวบ้างมั้ย ... แต่ฉันหนาวจนสั่นไปหมด ไม่ค่อยได้ออกมาข้างนอกดึกๆ เท่าไหร่ เลยไม่รู้ว่า มันจะหนาวขนาดนี้

                      น็อตเอื้อมมือมาจับมือฉันไว้

                      เราจับมือกันแล้วนะ จะไม่ปล่อยตลอดกาล

                  คำพูดน่ารักๆ กับค่ำคืนที่แสนโรแมนติค ใต้ต้นคริสมาสต์ พร้อมกับลุงซานต้าในชุดสีแดงใกล้ๆ และที่สำคัญที่สุดคือ

                      เป็นคำพูดที่คนที่ฉันรักเอ่ยออกมา

                      ฉันบีบมือเขาแน่น หากฉันเลือกที่จะปล่อยให้อดีตเดินผ่าน ไม่บอกว่า รู้สึกยังไง เรื่องทั้งหมดจะเป็นแบบนี้มั้ยนะ      

                  ความสุขคือแบบนี้เองสินะ ความรู้สึกที่ว่า อยากหยุดเวลาเอาไว้ตลอดไป ไม่อยากให้เขาไปจากฉัน

                      อีกแค่สองอาทิตย์ น็อตก็ต้องกลับไปเรียนต่อที่ต่างประเทศแล้ว ฉันจะร้องไห้ไหมนะ หากไม่มีเขา คงจะมีร้องบ้าง แต่ต้องร้องเพราะความสุขที่ได้รอ...แน่นอน

                      แต่ก็มีความสุขได้ไม่นาน...

                      เมื่อวันดีคืนดี เขาบอกกับฉันว่า

                      น็อตมีบางสิ่งอยากบอกจันทร์

                  ใจฉันกระตุกวูบ รับรู้ได้ลึกๆ ว่า ต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน

                      น็อตคุยกับผู้หญิงคนนึงอยู่ และกลัวเขาจะเข้าใจผิด หากยังคุยกับจันทร์อยู่แบบนี้

                  เหรอ...แล้วฉันล่ะ ที่ผ่านมา ฉันเป็นได้แค่ความเข้าใจผิดของเขาแค่นั้นเหรอ ตอนนั้นฉันไม่เจ็บปวดใจหรือเป็นอะไรแม้แต่น้อย รู้สึกแค่ว่า หัวสมองมันโล่งไปหมด ชาจนไม่รู้สึกอะไร

                      อาการแบบนี้มันหนักกว่าเจ็บรึเปล่า

                      ฉันไม่มีโอกาสแม้แต่จะเจอเขาครั้งสุดท้าย เขาต้องไปเรียนต่อแล้ว แต่ฉันก็ไม่ได้ไปส่ง เพราะนั่นคือสิ่งที่เขาต้องการ เขากลัวผู้หญิงคนนั้นจะเข้าใจผิดใช่ไหม

                      ถ้างั้นฉันก็ไม่ไป... ฉันจะไม่มีทางทำร้ายเขาเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยขนาดไหนก็ตาม

                     

                      วันนี้เขาต้องขึ้นเครื่องแล้ว ฉันนั่งเอามือจิ้มนาฬิกาปลุกเรือนจิ๋วไปเรื่อยๆ ทำไมกันนะ...เวลาถึงเดินผ่านไปช้าเหลือเกิน หลายครั้งที่เผลอตัวลุกไปหยิบเสื้อโค้ทมาใส่ แต่ก็ต้องถอดออก ฉันจะไปหาเขาไม่ได้นะ ท่องไว้สิ

                      เมื่อเข็มนาฬิกาทั้งสั้นและยาวตีไปที่เลขเก้าสองครั้ง เวลาสามทุ่มสี่สิบห้านาที...เขาคงขึ้นเครื่องไปแล้ว

                      ไหนว่าเราจับมือกันแล้วจะไม่ปล่อยตลอดกาลไง

                      ทำไมถึงหายไปง่ายๆ แบบนี้ล่ะ

                      ค่ำคืนนี้ไม่เหลืออะไร นอกจากหยดน้ำตาที่ไหลลงมาไม่ขาดสายเท่านั้น เพื่อนที่ดีที่สุดของเราสินะ ... แต่ทำไมเขาต้องสอนให้ฉันร้องไห้เป็นด้วย สอนฉันทำไม

                      ฉันไม่ต้องการ...

                      แปลกมาก ที่ฉันไม่รู้สึกโกรธหรือเกลียดเขาเลย แค่อวยพรในใจเบาๆ ว่า มีความสุขนะ และขอให้ผู้หญิงคนนั้นดูแลเขาดีๆ และรักเขามากๆ อย่าทำให้เขาเจ็บช้ำก็พอแล้ว

                     

                      แต่เรื่องทั้งหมดที่เขาบอกฉันคือ เรื่องโกหกที่แต่งให้ผู้หญิงคนหนึ่ง...

                      และฉันรับรู้เรื่องจริงทั้งหมดจากปลายสายในโทรศัพท์ เพื่อนกลุ่มเขาที่รู้เรื่องนี้เพียงไม่กี่คน และได้กำชับนักหนาว่า ห้ามบอกเรื่องนี้กับจันทร์

                      เรื่องนี้ทนไม่ไหวจริงๆ ว่ะ จันทร์...แกสมควรรู้เรื่องจริงได้แล้ว

                  เรื่องอะไรกัน...

                      จำแบงค์ได้ใช่มั้ย

                      ฉันพยักหน้าช้าๆ กับโทรศัพท์ แบงค์กลุ่มเพื่อนของน็อตนี่นา ทำไมจะจำไม่ได้ล่ะ

                      ความจริงแล้วน็อตไม่ได้มีคนใหม่

                  อะไรนะ

                  แบงค์มันชอบแก จันทร์...แล้วน็อตก็ไปรู้เข้า ถึงแม้ปากแบงค์มันจะปฏิเสธก็ตาม แต่แกก็พอรู้ใช่ไหมว่า ในกลุ่มเรื่องตอแหล ไอ่แบงค์มันอ่อนหัดสุดแล้ว

                  ฉันกลืนน้ำลายลงคอช้าๆ เรื่องทั้งหมดเป็นแบบนี้เองเหรอ

                      ฉันก็ไม่อยากบอกแกหรอก แต่เห็นน็อตที่สนามบินแล้ว พูดตามตรง สงสารมันจริงๆ ว่ะ มันนั่งละห้อย มีหยดน้ำตาไหลออกมา มันมีตัวเลือกสองข้อ และมันก็เลือก...

                  อือ เขาเลือกแบงค์ ฉันเข้าใจ

                  ในเวลานี้เหมือนกับอดีตที่ฉันเคยเลือกเพื่อนคนนั้นแทนเขา มันเหมือนเกินไปจนน่าตกใจ แม้ในเวลานี้ ฉันอยากให้เขาเลือกฉันมากกว่าเพื่อนก็ตาม แต่ฉันเคยทำแบบนั้นไปที คงไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไร

                  ตอนนั้นเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ฉันห่างไปเพราะอะไร บางทีฉันอาจจะโชคดีกว่าที่อย่างน้อยยังได้รู้เรื่องที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ที่ชื่อว่า ความจริง

                      ขอร้องอะไรอย่างนึง อย่าเกลียดแบงค์นะ

                  ฉันจะเกลียดเขาได้อย่างไร นั่นคือคนที่น็อตรักนะ

                      อือ ตอนนี้ฉันหวังว่า ให้แบงค์มันเลิกชอบแกไวๆ เท่านั้นแหละ

                  ไม่เป็นไรหรอก

                  ฉันพอเข้าใจความรู้สึกของคนที่แอบรักอยู่บ้าง และพอจะรู้ว่า มันนานมากกว่าจะจางหาย และไม่รู้ว่า ความรักของพวกเราสองคนที่ก่อตัวขึ้น จะจางหายไปก่อนรึเปล่า

                      งั้นต่อไปนี้ เล่าเรื่องของน็อตให้ฟังบ้างนานๆ ทีแล้วกันนะ เพราะฉันคงไม่ได้คุยกับเขาแบบเดิม

                      อือได้

                  ฉันขอตัววางโทรศัพท์ ก่อนจะล้มลงไปที่เตียง ขาทั้งสองข้างไร้เรี่ยวแรง บาดแผลในใจมันเยอะเหลือเกิน จนร่างกายมันรู้สึกอ่อนล้าไปหมด

                      วันนี้ขอเป็นวันที่ฉันจะร้องไห้เป็นวันสุดท้าย เพรานายคงไม่อยากให้ฉันเป็นแบบนี้หรอกใช่มั้ย

                      ฉันดีใจนะที่นายตัดสินใจเลือกเพื่อน

       

                      หนึ่งปีต่อมา...วันคริสมาสต์...25 ธันวาคม

                  เขายังคงเรียนต่ออยู่ที่เมืองนอก ฉันโทรไปหาเขา ถึงแม้เวลาจะไม่ตรงกัน แต่ที่นั่นก็ยังคงเป็นวันเดียวกับที่นี่อยู่

                      ฮัลโหล

                  เสียงนายยังไม่เปลี่ยนเลยนะ แต่ไม่รู้ว่าความรักของนายจะเปลี่ยนไปมั้ย แต่แบงค์ยังรักฉันอยู่ งั้นเราคงไม่ได้อยู่ด้วยกันสินะ

                      สุขสันต์วันคริสมาสต์นะน็อต

                  คำพูดสั้นๆ ฉันไม่รู้จะคุยอะไรต่อแล้ว อยากจะถามอะไรต่างๆ มากมาย แต่กลับพูดไม่ออก และเลือกที่จะวางโทรศัพท์ ปลายสายถูกตัดทิ้งแล้ว

                  ถ้าหากฉันรู้ว่า ตอนนั้นต้องการอะไร บางทีฉันกับเขาอาจจะคบกัน ก่อนที่แบงค์จะมาชอบฉันก็ได้นะ

                      ฉันแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องราวทั้งหมดที่เขาโหก เพราะเคยบอกแล้วว่า จะทำทุกอย่างเพื่อเขา และนั่นคือสิ่งที่เขาต้องการ

                      ไม่รู้ว่าจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกมั้ย แต่นั่นคือสิ่งที่ฉันจะทำ และจะไม่ผิดหวังในอนาคตแน่นอน

                  ติ๊กต่อกๆ ...

                      เอ๋... อะไรนะ นี่ผ่านมาเจ็ดปีแล้วหรือ ทำไมฉันรู้สึกเหมือนมันพึ่งผ่านมาเมื่อวานเองล่ะ อาจเป็นเพราะเขาจะอยู่ในความทรงจำของผู้หญิงคนหนึ่งชั่วนิจนิรันดร์

                      จันทร์รักน็อตนะ...

                      บ๊ายบายเวลาที่ย้อนไม่ได้ และลาก่อนนะ คนรักของฉัน

       

                     

                     

                 

                     

       

       

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×