ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    One more time

    ลำดับตอนที่ #10 : บทที่ 9

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 126
      1
      27 พ.ย. 59

     

    บทที่ 9

     

     

     

     

     

     

    เธอไม่รู้ว่าตัวเองยืนอยู่ที่ตรงนั้นอยู่นานเท่าไหร่ คงนานพอสมควรเพราะตอนที่เธอรู้สึกตัวขาของเธอก็แข็งจนแทบจะขยับไม่ได้แล้วเพราะอากาศหนาว และเข่าของเธอเริ่มปวด มันส่งอาการเจ็บประท้วงทันทีที่เธอขยับตัว เธอคงจะทรุดลงไปกับพื้นแล้วถ้าใกล้นั้นๆไม่มีต้นไม้ เธอใช้เวลาซักพักขยับร่างกายให้อบอุ่นแล้วจึงพยุงร่างตัวเองเข้าไปในเคบินได้สำเร็จ

    อากาศในเคบินเย็นเพราะไม่ได้เปิดเครื่องทำความร้อนแต่ก็น้อยกว่าภายนอก เธอนั่งลงบนเก้าอี้ และนั่งนิ่งอยู่แบบนั้น เธอต้องการเวลาในการคิด เธอเสียเวลาไปมากในการรับรู้การจากไปของเขา และการทำความเข้าใจว่าสายตาสีฟ้าอมเทาคู่นั้นจะไม่หันกลับมาที่เธออีก ภายในเคบินเต็มไปด้วยกลิ่นอายของเขาที่หลงเหลืออยู่ รวมถึงบนตัวเธอ สัมผัสของเขาแทบจะประทับตรึงอยู่ทุกตารางนิ้วบนกายเธอ สัมผัสที่อบอุ่น อ่อนโยนและร้อนแรงของเขาที่ตอนนี้ทำให้เธอเจ็บเสียยิ่งกว่าถูกอาวุธไหนทำร้าย หญิงสาวถอดเสื้อผ้าออก พาร่างเปลือยเปล่าเข้าไปอยู่ใต้สายนำจากฝักบัว เธอรู้ว่าร่างกายของเธอไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว เธอจำได้ดีถึงสัมผัสจากฝ่ามือหยาบกร้านของเขา จำได้ถึงความรู้สึกของผิวเนื้อที่สั่นระริกภายใต้สัมผัสและเรือนกายกำยำใหญ่โตของเขา เธอกัดริมฝีปากเมื่อรู้สึกถึงปฏิกิริยาของร่างกายตัวเองที่เกิดขึ้นเพียงแค่นึกถึงสัมผัสของเขา เธอถูสบู่ สระผม ชำระกลิ่นอายของเขาออกจากร่างกายของตัวเองแม้มันจะช่วยอะไรไม่ได้มากนัก แต่ก็ยังดีกว่าที่เธอจะรู้สึกเหมือนว่าเขายังอยู่ที่นี่ อยู่ข้างกายเธอซึ่งมันไม่เป็นความจริง น้ำเย็นๆทำให้เธอลืมเรื่องนั้น กลิ่นของสบู่กลบกลิ่นของเขา ทำให้เธอรู้สึกว่าภายในที่แห่งนี้มีแค่เธอ ว่างเปล่าและโดดเดี่ยวอย่างแท้จริง สายน้ำจากฝักบัวกลืนไปกับน้ำตาจนแยกไม่ออก

    เธอนั่งอยู่ตรงหน้าเคบินที่เดียวกับที่เธอยืนอยู่ก่อนหน้านี้ ท้าวศอกกับเข่ามองใบพัดเหล็กทั้งสี่ที่พานกเหล็กขึ้นบนท้องฟ้า เส้นผมยาวของเธอปลิวสยายและบางส่วนขึ้นมาปรกใบหน้าของเธอ จนเธอต้องใช้มือรวบมันไว้

    “นึกไม่ถึงว่าต้องใช้เครื่องนี่เร็วขนาดนี้นะคะ”เธอโบกมือทักคนที่เปิดประตูก้าวลงจากฮอคนแรกโดยมีไม้เท้าสีดำนำหน้า เอียนเพียงแค่ยกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งตอบรับการทักทายของเธอ ในขณะที่สายจากลับมองไปด้านหลังของเธอ ซึ่งเธอไม่สงสัยว่าทำไม หญิงสาวยืนขึ้นและหันไปด้านหลังที่เคยเป็นที่ตั้งของเคบิน ตอนนี้กลายเป็นเปลวเพลิงที่กำลังลุกไหม้ เปลวเพลิงสีแดงขยับไหวอย่างรวดเร็วราวกับมีชีวิต ลามเลียทุกสิ่งที่มันสัมผัสให้กลายเป็นเถ้าถ่านแทบไม่มีสิ่งใดที่หนีพ้น

    เธอมองเตียงหลังเล็กหลังเดียวที่แยกออกเป็นสองส่วนเพราะคานไม้ที่ถล่มลงมาทับเพราะขาดเสาที่ค้ำยัน ผ้าปูที่นอนสีขาวถูกย้อมเป็นสีดำอ่างรวดเร็วด้วยเปลวเพลิงและหายไปราวกับว่ามันไม่เคยมีอยู่ ไม่มีสิ่งใดอยู่ตรงนั้น ราวกับที่จริงนั้นไม่เคยมีความทรงจำระหว่างเขากับเธอ ถ้าหากความทรงจำของเธอถูกเผาไปพร้อมกับมันก็คงดีแต่มันไม่มีทางเป็นแบบนั้นเธอรู้มันจะคงอยู่ในความทรงจำของเธอและจะไม่มีวันเลือนหายไปจนกว่าตัวเธอจะหายไปจากโลกนี้

    “ไปกันเถอะค่ะเอียน”อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้หันหลังกลับไปอีก

     

    ฟันกรามซี่ในสุดด้านบนของเธอฝังเครื่องติดตมขนาดเล็กเอาไว้ เธอใช้มันในการส่งสัญญาณถึงเอียนให้เขามารับเธอ เรย์เองก็คงจะคิดไม่ถึงเหมือนกัน เขาคงไม่คิดว่าจะมีเครื่องส่งสัญญาณที่รอดพ้นจากดาวเทียมของเขาได้ ต้องขอบคุณในความมั่นใจในความคิดของเขา ไม่อย่างนั้นเธอคงหนีออกมาจากที่นั่นไม่ได้

    เธอคงไม่ได้เห็นสีหน้าตกตะลึงและการเปลี่ยนแปลงของแววตาประหลาดใจที่กลายเป็นความขุ่นเคืองอัดแน่นในดวงตาคมกริบคู่สวยคู่นั้น ใบหน้าหล่อเหลาที่ช่วงนี้มันยิ้มอยู่บ่อยๆทถมึงทึงเหมือนเมื่อก่อน

    เขายื่นกระดาษแผ่นหนึ่งมาตรงหน้าเธอ ถามเสียงเรียบ “นี่มันอะไร”ที่เต็มไปด้วยความโกรธขึ้ง

    มองแค่ปราดเดียวเธอก็รู้ว่ามันคืออะไรเพราะนั่นเป็นลายมือเธอ กระดาษที่เขาถือ เธอเป็นคนเขียนเอง แล้วทำไมเธอจะจำมันไม่ได้ เขามีวิธีการของเขาเธอก็มีวิธีการของเธอเช่นกันแต่เธอก็รับมันมาจากมือเขา วางคางบนหลังมือชายตามองกระดาษแผ่นนั้น ยับริมฝีปากส่งยิ้มพรายให้ชายหนุ่ม

    “ใช่ ฉันเป็นคนเขียนมันเอง คุณมีปัญหาอะไรกับมันหรือ มิสเตอร์วิสตัน”

    เพราะเธอจงใจยั่วประสาทเขา

     

    ถ้าลิณา แองเจลิน่า เคอร์ติส เป็นเด็กประถมอายุสิบขวบเท่ากับตอนที่เขาเจอเธอครั้งแรก เขาคงจะจับตัวเธอพาดตักแล้วฟาดก้นสั่งสอนเธอ

    แต่เธอไม่ใช่ เธอในตอนนี้ตรงหน้าเขาเป็นสาวเต็มตัว ร่างกายทุกตารางนิ้วของเธอเต็มไปด้วยความเป็นสตรีเพศ ทั้งอ่อนนุ่ม เย้ายวนและหอมหวาน ถึงเขาจะสามารถทำให้เธอนอนพาดตักได้แต่เขาไม่แน่ใจว่าหลังจากนั้นมันจะจบลงแค่การฟาดก้นสวยๆของเธอ ดูสิแค่เขามองปากเล็กที่ยิ้มทดสอบความอดทนของเขา เขากลับคิดถึงรสชาติของเธอที่ปลายลิ้น

    เขาทำบ้าอะไร หญิงสาวก่นด่าชายหนุ่มในใจ ไม่ใช่เพราะเขาโมโหเธอด่าว่าเธอเรื่องการกระทำของเธออย่างที่เธอคิดว่าเขาจะทำ เขาไม่ได้ทำสิ่งที่เธอคิดไว้ สิ่งที่เขาทำคือการใช้มือข้างเดียวกระชากตัวเธอเข้าไปหา ในขณะที่มืออีกข้างตรึงศีรษะเธอไม่ให้หันหนีจากริมฝีปากที่ทาบลงมา

    เธอพยายามขัดขืนเขา ตั้งใจจะกระทุ้งเข่าใส่กลางลำตัวเขา แต่ชายหนุ่มก็ดูจะรู้ทันแทรกขาเข้ามาหว่างขาเรียวบาง มือลากเรื่อยลงมาหยุดที่เอวของเธอ กดแผ่นหลังให้ไม่มีช่องว่างระหว่างตัวเขาและเธอ แนบชิดจนเธอรู้สึกได้ถึงความคึกแข็งร้อนผ่าวที่แนบสนิทอยู่กับหน้าท้องของเธอ กางเกงยีนส์เนื้อนหนาไม่ใช่วยในการปกปิดไม่ให้เธอรับรู้มัน

    ยังไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยด้วยซ้ำที่เขาอยู่ห่างจากเธอ แค่แค่เขาได้กลิ่นหอมหวานจากร่างหายเธอ ไม่สิแค่เห็นหน้าเธอ เขาก็ต้องการเธอซะแล้ว สิ่งที่ยืนยันได้ดีคือความปวดร้าวที่หน้าขาของเขา ทุกสัดส่วนในร่างของเขาร่ำร้องหาสัมผัสของเธอ เขากลืนน้ำลายลงลำคอที่แห้งผาก เพราะการนึกถึงรสชาติของเธอ ทั้งที่ลิ้นของเธอยังอยู่ในปากเขา รสชาติขิงเธอทำให้เขารู้สึกกระหายไม่มีวันพอ เขาควรจะหยุดแค่นี้ ลิณายังไม่ค่อยชินกับเรื่องแบบนี้ และตอนนี้ตัวเธอแทบจะไหลไปกองกับพื้นถ้าเขาไม่พยุงไว้

    มันง่ายที่จะทำให้ร่างงดงามของเธอนอนราบอยู่บนโซฟาหลงจากนั้นแต่ก็มากพอที่จะเรียกคืนสติรับรู้ของเธอกลับมา

    “เรย์ ไม่ หยุดนะ”ลิณาพยายามขัดขืนเขา เธอผลักหน้าเขาไม่ให้ตูบเธอ เขาเลยเปลี่ยนเป้าหมายไปที่หน้าอกของเธอ เขาดูยอดอกของเธอผ่านเสื้อเชิ้ตและชุดชั้นใน

    “อ๊ะ”แผ่นหลังบางแอ่นโค้งเพราะการกระทำของเขา เขาใช้ช่วงจังหวะนั้น ปลดเสื้อและชุดชั้นในเกะกะนั้นออกไป ครางในอกเมื่อเต้าทรวงคู่งามที่มียอดอกสีผลเบอร์รี่สุกงอมนั้นปรากฏต่อสายตาเขา

    ความงดงามของมันสมกับความคิดถึงทำเอาเขาเกือบหลบฐานโคมไฟที่เคยวางอยู่บนโต๊ะในมือของลิณาไม่พ้น

    ชายหนุ่มสบถ แม้เขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บจากอาวุธในมือหญิงสาว  แต่เพราะเขาต้องกระโดดหลบทำให้เขาอยู่ห่างจากเธอ หญิงสาวลุกขึ้นนั่งแล้ว สภาพของเธอตอนนี้ไม่เหลือเค้าหญิงสาวเจ้าระเบียบ เปี่ยมด้วยความมั่นใจที่เขาเห็นเมื่อครู่นี้เลยซักนิด ถึงท่อนล่างของเธอจะอยู่ครบ ขาคู่เรียวที่เขาชอบให้มันโอบรัดสะโพกของเขายังอยู่ในกางเกงสแลคที่ตอนนี้ยับยู่นี่ แต่ท่อนบนของเธอแทบจะเรียกได้ว่ากึ่งเปลือย ชุดชั้นในของเธอถูกเขาโยนไปที่ไหนซักแห่งในห้อง เสื้อเชิ้ตกองอยู่ตรงข้อศอก ริมฝีปากนุ่มแดงช้ำเพราะจูบของขา เส้นผมสีดำยุ่งเหยิงเมื่อไม่มีกิ๊ฟที่เธอใช้เหน็บมันไว้ หญิงสาวตอนนี้ดูเหมือนคนที่พึ่งผ่านการมีเซ็กซ์มาไม่มีผิดและมันเซ็กซี่เป็นบ้า

    “อย่าเข้ามานะ! ไม่งั้นหัวคุณได้เลือดออกแน่”




     

    [Deleted scene]

     

    เธอตื่นก่อนเขาจะลืมตาตื่นในอ้อมแขนของเขา แขนข้างหนึ่งของเขาพาดอยู่บนเอวของเธอตรึงร่างของเธอไว้กับร่างของเขา ทั้งสองนอนเบียดกันบนโซฟาแคบๆ ร่างเธอกว่าครึ่งทาบทับบนตัวเขาเพราะถ้าเขาไม่ทำแบบนี้เธออาจร่วงตกลงไปนอนกับพื้น ศีรษะของเธอแนบอยู่บนอกของเขา อกของเขาตึงแน่นและให้ความรู้สึกอบอุ่น ใต้ผิวหนังเรียบคือกล้ามเนื้อแข็งแรงที่เธอสัมผัสถึงมันได้อย่างชักเจน ทุกครั้งที่เธออยู่ในอ้อมกอดเขายิ่งตอนที่เขาอยู่ในตัวเธอ แผงอกนั่นจะตึงแน่นกล้ามเนื้อทุกมัดขยายกว้างโอบรัดตัวเธอไว้ แนบร่างของเธอกับร่างของเขาไว้ด้วยกันจนไม่เหลือช่องว่าง ทั้งที่ความเจ็บปวดที่ได้รับน่าจะเป็นบทเรียนที่ทำให้เธอรู้ซึ้งว่าไม่ควรใจอ่อนกับเขาแต่แต่เขาบอกเธอว่าต้องการเธอด้วยสายตาคู่นั้น ร่างกายของเธอก็พร้อมจะเดินไปหาเขาแล้ว ถ้าเขาไม่พุ่งเข้ามาหาเธอก่อนคงเป็นเธอที่กระโดดเข้าไปหาเขา

    แม้ส่วนใหญ่ความผิดกว่าครึ่งจะเป็นของเธอแต่มันจะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าไม่เป็นเพราะเขาถ้าเขาไม่ยั่วยวนเธอ อ้อนวอนเธอด้วยน้ำเสียงทุ้มแหบพร่านั่น เธอก็คงไม่หลวมตัวไปกับเขาขนาดนี้ ไม่ว่าเมื่อเขาก็พังทลายเกราะที่เอร้างไว้อย่างง่ายดาย เขาจะหาช่องว่างเล็กๆของมันและค่อยๆแทรกตัวเข้ามาระหว่างช่องนั้นกว่าเธอจะรู้ตัว กำแพงที่เธอก่อไว้ก็เหลือเพียงซากของมัน

    ความโมโหโกรธเสียใจกำมือเธอเป็นหมัดและเหวี่ยงไปที่หน้าอกของคนตรงหน้า แต่ยังไม่ทันที่จะแตะผิวเขาข้อมือของเธอก็ถูกฝ่ามือหนาจับกุมเอาไว้

    “จะทำร้ายร่างกายกันแต่เช้าเลยเหรอ”เขาพูดทั้งที่ยังไม่ลืมตา แขนที่วางอยู่รัดเอวของเธอเข้าหา เขาไถคางสากระคายเพราะหนวดที่เริ่มขึ้นบนขมับของเธอ”

    “คุณมาหาฉันทำไม”

    เขาลืมตาขึ้นข้างหนึ่ง จูบที่ศีรษะของเธอ สูดกลิ่นหอกจากเรือนผมของเธอเข้าปอด “ผมควรจะถามคุณมากกว่าว่าคุณมาที่นี่ได้ยังไง”

    เธอเลิกคิ้ว “หลังจากที่คุณทิ้งฉัน ฉันจะไปอยู่ที่ไหนมันก็เรื่องของฉันไม่ใช่รึไง”แขนของเขารัดเธอไว้แน่นเกินกว่าเธอจะขยับตัวได้

    “ผมไม่ได้ทิ้งคุณ ผมแค่อยากให้คุณอยู่ในที่ปลอดภัย”เคบินนั่นเป็นเคบินลับ มันไม่ปรากฏบนดาวเทียมหรือแผนที่ทางภูมิศาสตร์  แบบใดบนโลก มีแค่เขาที่รู้ทางเข้าออกทั้งหมด บ้านหลังนั้นเขาทำมันขึ้นเองกับมือ เพราะอย่างนั้นเขาถึงวางใจจะให้เธออยู่ในบ้านหลังนั้น เธอจะปลอดภัยเมื่ออยู่ในเคบินนั่น

    “การถูกปล่อยไว้เบื้องหลัง สำหรับฉันมันเรียกว่าการถูกทิ้ง”

    “คุณจะเรียกการกระทำของผมว่าอะไรก็ตามใจคุณ แต่เย็นนี้คุณต้องกลับไปที่เคบิน”

    ไม่ว่าเมื่อไหร่ความคิดของเธอก็ไม่เคยมีความหมายสำหรับเขาเกินไปกว่าคำพูดที่ดังขึ้นแล้วหายไป มีค่าเพียงแค่ให้เขารับฟังเท่านั้น เขาตัดสินใจแทนเธอโดยไม่สนความสมัครใจของเธอเลย แม้เธอจะรู้ดีจากการย้ำความจริงข้อนี้ด้วยการกระทำของเขาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน แต่ทุกครั้งที่เขากลับมาหาเธอ ในซอกมุมเล็กๆของหัวใจที่เธอมองไม่เห็นจะมีความหวังผุดขึ้นเสมอ มันเติบโตขึ้นอย่างเงียบๆโดยที่เธอไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของมันจนกระทั่งมันถูกทำลาย ความเจ็บปวดจึงบอกเธอถึงการมีอยู่ของมัน ไม่เป็นไรถึงเธอจะไม่สามารถห้ามไม่ให้เมล็ดพันธุ์แห่งความหวังเติบโตในใจเธอ แต่เขาจะไม่มีทางได้เห็นมัน

    “ฉันเผาเคบินของคุณไปแล้ว”

    เขาลุกขึ้นนั่งและจ้องเธอ เธอจ้องตาเขากลับ และเขาก็รู้ว่าเธอไม่ได้โกหก อาการอ้าปากค้างของเขาทำให้เธอรู้สึกดีใจที่ตัดสินใจทำแบบนั้น เธอเห็นเขายกมือขึ้นปิดหน้า กระบังลมที่ขยายทำให้เธอรู้ว่าเขากำลังสูดลมหายใจเข้าปอด เธอทายว่าบางทีเขาอาจกำลังนับหนึ่งถึงร้อยในใจหรือบางทีอาจถึงพันเพราะเธอก็พอจะเดาได้คร่าวๆเกี่ยวกับมูลค่าของเคบินหลังนั้น

    ผ่านไปครู่หนึ่งเขาคงพอควบคุมความโกรธของตัวเองได้แล้ว “ช่วงนี้คุณต้องอยู่กับผม ระหว่างที่ผมหาเซฟเฮาส์ให้คุณ”

    “ฉันจะไม่ไปอยู่เซฟเฮาส์”

    เรย์พูดช้าๆ “นี่ไม่ใช่ทางเลือกสำหรับคุณหรอกนะ”

    “ฉันไม่ได้เลือกเพราะฉันก็จะไม่ไปอยู่กับคุณเหมือนกัน”

    เรย์โน้มตัวลงมา “ก็ได้ถ้าคุณอยากเลือกผมก็มีทางเลือกให้คุณสองทาง” แขนข้างหนึ่งของเขาท้าวลงข้างตัวเธอ บ่ากว้างและสะบักไหล่ ไหปลาร้าทำให้เอนึกถึงกำแพงหินแต่แข็งแกร่งกว่า เพราะมันทำให้เธออ่อนแอ ทำให้เธออยากลืมทุกสิ่งอย่างแล้วซุกซบในอกเขา เธอพยายามถอยห่างจากเขาแม้มันจะช่วยอะไรไม่ได้มากเท่าไหร่

    “ระหว่างทำตามที่ผมบอกหรือให้ผมบังคับคุณ”

    เขาเห็นความโกรธความเจ็บปวดที่พาดผ่านสายตาของหญิงสาว แต่เขาไม่สนใจมันเพราะสิ่งที่เขาพูดมันเป็นความจริง เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมรับมัน เธอเป็นเป้าหมายของมันและเขายังไม่รู้ว่าคนที่หมายทำร้ายเธอต้องการอะไรแต่ตราบใดที่เขายังจับตัวมันไม่ได้ เธอจะต้องไม่อยู่ไกลจากสายตาของเขา เธอจะโกรธเขาไม่พูดกับเขาและหลบหน้าเขาอีก แต่เขายินดีหากมันสามารถแลกได้กับความปลอดภัยของเธอ  หัวไหล่บางของหญิงสาวสั่นเทิ้มด้วยความรู้สึกที่เขาคิดว่ามันคงเป็นความโกรธ เขาคิดว่าเธออาจจะโกรธถึงขึ้นเงื้อมือตบเขาแต่เธอไม่ทำ

    “คุณจะบังคับฉันไม่ได้”

    “คุณน่าจะรู้ดีว่าผมทำได้หรือทำไม่ได้”เขาเบือนสายตาไปทางอื่นการยายามไม่มองต่ำไปกว่าหัวไหล่ของหญิงสาวไม่ช่วยอะไร ภาพเส้นผมนุ่มที่เลื่อนตกจากไหล่บางลงมาบนลำคอระหงและ.. เขาคว้ากางเกงยีนส์ที่อยู่บนพื้นขึ้นมาสวม ก่อนที่บางส่วนในร่างกายของเขาจะทำให้บทสนทนาระหว่างเขากับเธอไปไม่ถึงไหน

    “แต่งตัวซะ ผมจะพาคุณไปด้วย”

    “คุณจะพาฉันไปที่ไหนไม่ได้ทั้งนั้น”

    เขาไม่รู้ว่าเธอไปเอามีดสั้นมาจากไหน แต่ตอนนี้มันอยู่ในมือทั้งสองข้างของเธอ เขามองและหันไปทางอื่นเพื่อมองหาเสื้อเชิ๊ตของตัวเอง เขาพบมันกองอยู่ตรงทางเดิน “คุณคิดว่ามีดเล็กๆนั่นจะทำอะไรผมได้งั้นเหรอ”

    “สำหรับคุณมันก็ใช่”เธอรู้อยู่แล้วว่ามีดด้ามเล็กๆคงทำอะไรเขาไม่ได้ “แต่สำหรับฉันมันไม่ใช่”

    คำพูดนั้นทำให้ไขสันหลังของชายหนุ่มที่ยืนหันหลังให้หญิงสาวเย็นเยียบ เขาหันกลับมาแทบจะทันทีและกัดฟันกรอด ให้ตายสิ เขาลืมไปได้ยังไงนะว่าเธอไม่ได้เป็นแค่เด็กหญิงตัวเล็กๆที่ต้องพึ่งพาเขา เวลาที่ผ่านไปสองปีที่เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ เธอคงผ่านอะไรมาไม่ใช่น้อย อย่างน้อยเขาก็ไม่คิดว่าเอียนเคอร์ติสจะเอาตัวเธอเข้าทีมเพียงเพราะเธอเป็นหลานสาว

    เนื้อมีดที่แนบกับข้อมือบางยืนยันความจริงของสิ่งที่เขาคิด

    ในที่สุดเขาก็หันมามองเธอ ฟังเธอ เธอเห็นเพลิงโทสะที่พัดโหมรุนแรงในสายตาของเขา น่าขำที่แค่เพียงการทำให้เขาฟังเธอ เธอถึงกับต้องใช้เลือดเนื้อของตัวเองมาเป็นข้อต่อรอง

    ปากเขาเม้มแน่น “คุณต้องการอะไร”

    “ในเมื่อคุณมีวิธีของคุณฉันก็มีวิธีของฉัน เราต่างคนต่างทำ ไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีก”

    “ไม่!”เรย์ปฏิเสธเสียงห้วนกระด้าง “คุณต้องอยู่กับผม”

    ดวงตาของหญิงสาวตวัดมองเขาอย่างเย็นชา “ฉันต้องอยู่ในคุกที่มีชื่อว่า เซฟเฮาส์”เธอแก้คำพูดของเขาให้ถูกต้อง

    เขากอดอกท่าทางหงุดหงิด “คุณรู้ดีพอๆกับผมว่าทำไม”

    “ฉันดูแลตัวเองได้”

    เขาสบถเมื่อคมมีดกดลงไปบนผิวเนื้อข้อมือของเธอ เมื่อเขาทำท่าจะก้าวเข้าไปแย่งมีดในมือของเธอ ถ้าเธอกดข้อมือลงอีกเพียงนิดเลือดก็จะทะลั่กออกมาจากแขนเล็กๆนั่น ลิณาเลิกคิ้วมองเขา เขารู้ว่าธอเอาจริง ถ้าเขาก้าวเช้าไปใกล้แม้แต่ก้าวเดียว เธอจะไม่ลังเลที่จะลงมีดบนข้อมือตัวเอง

    เธอมองเขาที่ก้าวถอยออกไปอย่างพอใจก่อนแจงสิ่งที่ต้องการ “คุณต้องปล่อยฉันไป  และเราจะไม่พบกันอีก ถ้าคุณตามฉันมา ฉันจะหนีไปและรับรองเลยว่าคุณจะไม่ได้เห็นหน้าฉันอีก”โชคดีที่เสื้อของเธอถูกถอดออกเป็นชิ้นสุดท้ายมันจึงหล่นอยู่ไม่ไกลนัก หญิงสาวรีบหยิบมันขึ้นมาสวม

    เขาไม่ก้าวเข้ามาอีกแต่ก็ไม่ถอยไปไกลกว่านั้น ร่างกำยำของชายหนุ่มยืนปักหลักอยู่ตรงนั้นและเขาจะไม่ถอยไปไหน กลิ่นอายที่แผ่ออกมารอบตัวเขาบอกกับเธอ เรย์สอดนิ้วโป้งข้างหนึ่งในหูกางเกง ท่าทางสบายๆแต่เธอรู้ว่ามันคือกับดักที่รอเธอกระโจนเข้าไป

    “จะหนีผม คุณคิดว่าจะทำได้งั้นเหรอ ลิณา?คุณยังรักผมไม่อย่างนั้นที่ผ่านมาคุณคงไม่ตามมาดูแลผมหรอกจริงไหม” ดวงตาสีฟ้าอมเทาของเขากวาดมองทั่วเรือนร่างของหญิงสาวไปด้วยขณะที่พูด

    ลิณากัดริมฝีปากเธอรู้สึกได้ถึงปฏิกิริยาของร่างกายตัวเองที่เกิดขึ้นเพราะสายตาของเขา เขายังไม่ได้ติดกระดุมเสื้อตอนที่หันมาเธอจึงเห็นแผงอกแกร่งที่ยังมีรอยชื้นเหงื่อจากเหตุการณ์ตามรอยแยกของเสื้อ ยอดอกของเธอแข็งชันบดเบียดกับเนื้อผ้าและมันอยู่ในสายตาของเขาอย่างชัดเจน

    "ถ้างั้นฉันก็จะเลิกรักคุณ”

    ความเคร่งเครียดปรากฏในสายตาคมวูบหนึ่งก่อนจางหายไปอย่างรวดเร็ว “คุณทำไม่ได้หรอก..”

    เธอพูดต่อโดยไม่สนใจว่าชายหนุ่มยังพูดไม่จบ “ฉันจะทำให้ได้ถ้ามันทำให้ฉันหนีไปจากคุณได้ ฉันก็จะทำ”

    ความรักไม่ได้เกิดขึ้นได้ง่ายแต่บางครั้งแค่ชั่วพริบตาก็เกิดขึ้นได้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่ว่าความรักรูปแบบใดก็เหมือนกัน คือมันไม่มีทางเปลี่ยนแปลงไปง่ายๆ เขามั่นใจมาตลอดว่ามันเป็นอย่างนั้นเพราะมันก็เกิดขึ้นกับตัวเขาเอง แต่วันนี้เขากลับไม่แน่ใจเพราะความแน่วแน่ที่อยู่ในดวงตาของเธอ ความกังวลเกิดขึ้นในใจของเขา เขาคิดว่าเธออาจจะทำได้อย่างที่พูด เธออาจจะเลิกรักเขาได้จริงๆ

     

    มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่ความรักของเธอที่มีต่อเขาจะหายไปได้ง่ายๆเพียงแค่บอกว่าจะเลิกรัก เธอคิดว่าเหตุผลที่แท้จริงเป็นเพราะเธอไม่คิดจะทำมัน เธอรักเขามานานเกินไป รักที่มีต่อเขาหยั่งรากลึกในตัวเธอเกินไปกว่าจะถอนออกมา มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของตัวเธอไปแล้ว เพราะอย่างนั้นเธอถึงได้ตัดสินใจทำแบบนั้น เพราะเธอรู้ดีว่าเธอไม่อาจอยู่ห่างจากเขาได้ด้วยกำลังของตัวเธอเพียงลำพัง เธอต้องอาศัยเขา สำหรับเธอการทำร้ายตัวเองนั้นง่ายดายเสียยิ่งกว่าการทำร้ายเขามาก ถึงเขาจะไม่ได้รักเธอแต่เธอรู้ว่าเขาคงไม่ปล่อยให้เธอทำร้ายตัวเอง อย่างน้อยเธอก็เป็นหลานสาวของผู้มีพระคุณของเขา

    ช่วงเวลาที่เธอสบตากับสายตาสีฟ้าอมเทาที่เหมือนท้องทะเลที่ก่อนจะเกิดพายุนั้นไม่กี่นาที แต่เธอรู้สึกเหมือนมันกินเวลานานจนแทบชั่วนิรันดร์ เธอถึงกับสะดุ้งเมื่อเขาขยับตัว

    “เอาอย่างนี้ ผมกับคุณเรามาถอยกันคนล่ะก้าว”

    เขาพูดต่อเมื่อเห็นว่าเธอไม่พูดอะไร “คุณต้องบอกผมทุกวันว่าคุณทำอะไรอยู่ที่ไหน และถ้าคุณจะไปไหนคุณต้องบอกผม ทุกสองวันผมจะมาเช็คว่าคุณอยู่ที่นี่ไหม และผมต้องเจอคุณ”

    “ฉันไม่มีหน้าที่มารายงานตัวกับคุณ”คำพูดของเขาทำให้เธอนึกถึงคำพูดของคุณครูที่พูดกับนักเรียน

    “หรือคุณอยากให้ผมอยู่กับคุณ”

    “คุณ..”

    “ผมถอยให้คุณได้แค่นี้ลิณา”เขากอดอกร่างสูงใหญ่ยืนจังก้าตรงหน้า เขาจะไม่ยอมถอยไปมากกว่านี้

    รายงานตัวทุกวัน เขาทำเหมือนเธอเป็นนักโทษที่อยู่ในช่วงควบคุมความประพฤติ ใจจริงเธออยากปฏิเสธเขา เธอไม่จำเป็นต้องทำตามที่เขาพูด แต่ถ้าเธอทำอย่างนั้น เธอรู้ว่ามันจะเข้าทางเขา เพราะถ้าเขาเอาจริง เธอรู้ว่าเขาทำได้ เขาสามารถกักขังตัวเธอไว้ ในขณะเดียวกันก็ห้ามไม่ให้เธอทำร้ายตัวเองได้ คนฉลาดอย่างเขาใช้เวลาไม่นานก็คงหาทางรับมือเธอได้ ซึ่งเธอปล่อยให้มันเป็นแบบนั้นไม่ได้ ไม่อย่างนั้น เธออาจจะพรากเหมือนครั้งที่แล้วมา และเธอไม่แน่ใจว่าหากมันเกิดขึ้นอีกครั้ง หัวใจของเธอจะทนได้ซักแค่ไหน

    “ตกลง”

    เรย์เลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งด้วยความประหลาดใจ เขาคงไม่คิดว่าเธอจะตอบตกลงง่ายๆ

    “แล้วคุณจะไปได้รึยัง”วันนี้เธอควรอยู่ให้ห่างจากเขาโดยเร็ว กำแพงที่เธอก่อไว้พังทลายไม่เหลือชิ้นดีแล้ว มันต้องใช้เวลาในการซ่อมแซม เธอต้องการเวลา และเธอทำไม่ได้ถ้าเขายังอยู่

    “ยัง”

    เธอขมวดคิ้วบ้างกับคำตอบของเขาที่ขัดกับที่ตกลงกัน เขาเดินตรงมาที่เธอและหยุดยืนเมื่ออยู่ห่างจากเธอไม่ถึงคืบ ไม่ใกล้แต่ก็ไม่ไกลเกินกว่าที่เธอจะรับรู้ไอร้อนที่แผ่ออกมาจากร่างกายของเขา เขายังไม่ได้กลัดกระดุมเสื้อให้เรียบร้อย เนื้อผ้าทิ้งตัวแรบกับช่วงบ่าทรงพลังของเขา รอยแยกของสาบเสื้อคือแผงอกที่เคลือบเป็นเงาด้วยเหงื่อบางๆที่เธอรู้ดีว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง ร่างกายของเธอยังเต็มไปด้วยสัมผัสของเขากลิ่นของเขา การมีอยู่ของเขาไม่ต่างกับการราดน้ำมันลงบนเปลวไฟสำหรับเธอ เธอต้องใช้สติที่มีอยู่ทั้งหมดในการสะกดกลั้นความต้องการที่มีต่อเขาไม่ให้ตัวเองโผเข้าหาเขา แต่เธอรู้ว่าถ้าเขาสัมผัสเธอแม้แต่ปลายนิ้ว ความพยายามของเธอก็จะสูญเปล่าทันที

    เธอสะดุ้งเมื่อเขาโน้มตัวลงมาแต่เขาไม่ได้ทำอะไร สองมือของเขาอยู่ในกระเป๋ากางเกง น้ำเสียงนุ่มแฝงความดุดันกระซิบแนบหูของเธอ “แล้วผมจะกลับมา”

     

    เขาทำตามที่ตกลงกันไว้กับเธอ เขาไม่โผล่หน้ามาหาเธออีก หากไม่ครบสองวันตามที่กำหนดไว้ นอกจากเสียงในโทรศัพท์ เธอไม่คิดว่าเขาจะโทรมาหาเธอทุกวันได้จริงๆ การที่เขาโทรมาเช็คว่าเธออยู่ไหนทุกวันบอกว่าเธอคิดผิด ทั้งที่เมื่อก่อนนี้เขาจะโทรหาเธอแค่สองกรณีคือ หนึ่งเพื่อบอกว่าเขามีภารกิจอาจขาดการติดต่อไปซักพัก สองคือเพื่อบอกว่าเขากลับมาแล้วแต่เขาจะโทรหาเธอด้วยเหตุผลแรกมากกว่า เธอไม่เคยรู้เลยว่าเขาไปไหนอยู่ที่ไหน และจะกลับมาเมื่อไหร่นอกจากจะไปถามจากเอียน

    ทั้งที่ตอนนี้เธอกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกันแต่เขากลับโทรหาเธอมากกว่าเมื่อครั้งที่พวกเขาเป็นแฟนกันเสียอีก

    ลิณาหันมามองหน้าจอคอมพิวเตอร์บนโต๊ะที่เธอนั่งอยู่ หลังจากที่รู้สึกว่าเธอคิดเรื่องของเขามากเกินไปแล้ว ตอนนี้เธอควรให้ความสำคัญกับเรื่องตรงหน้านี้มากกว่า บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่มีแถบบาร์กำลังวิ่งอยู่เต็มไปหมด เธอกำลังสืบหาที่มาของอีเมล์ข่มขู่ เธอพบว่ามันยังคงถูกส่งมาให้เธอ และหยุดไปในช่วงที่เธอไม่อยู่ ช่วงที่เธอถูกเรย์พาตัวไปที่เคบินลับ นั่นตรงกับช่วงที่กล้องวงจรปิดในบ้านของเธอพังและมีคนบุกเข้ามาในบ้านของเธอ นั่นทำให้เธอแน่ใจว่าคนที่บุกเข้ามาและคนที่ส่งอีเมล์คุกคามเธอคือคนๆเดียวกัน ของใช้ของเธอถูกทำลายแต่ว่าไม่มีอะไรหายไป ของใช้อย่างอื่นนอกจากของใช้ส่วนตัวของเธอทุกอย่างล้วนอยู่ในสภาพดี ดูออกว่าไม่ได้ถูกแตะต้องเลยแม้แต่น้อย นั่นยิ่งบ่งบอกชัดเจนว่าคนร้ายมีเป้าหมายคือตัวเธอ ความเกลียดชังของเขาพุ่งมาที่ตัวเธอ และการมีอยู่ของเธอ

    คอมพิวเตอร์ฉายผลของการประมวล หลังจากที่เธอไม่สามารถตามรอบต้นทางที่ส่งอีเมล์มาได้ เธอก็จัดการสร้างโปรแกรมใหม่ขึ้นมา โปรแกรมตัวนี้จะทำให้ระบบที่ส่งอีเมล์มาเข้าใจผิดว่าอีเมล์ของเธอเป็นอีเมล์ที่ไม่มีอยู่จริง และมันจะส่งข้อความแจ้งกลับไปยังต้นทางโดยมีโปรแกรมของเธอตัวนี้ติดไปด้วย มันจะไล่ตามประวัติของอีเมล์ฉบับนั้นขึ้นไปจนถึงโดเมนหลัก มันจะค้นจากประวัติการใช้งานของคนที่ส่งอีเมล์มา อีกฝ่ายใช้โปรแกรมบางอย่างปกปิดตัวตนจากเธอได้ ลักษณะพิเศษแบบนี้คงหาจากประวัติการใช้งานได้ไม่ยาก โปรแกรมของเธอจะจดจำการทำงานนั้นไว้และส่งข้อมูลกลับมาที่เธอ ด้วยเครือข่ายของ CIN   ขอแค่มีการใช้งานลักษณะพิเศษนี้เกิดขึ้นอีกครั้ง เธอจะรู้ทันทีหากมันเกิดขึ้นอีกครั้ง

    เธอพับหน้าจอลงทั้งที่คอมพิวเตอร์ใกล้จะประมวลผลเสร็จแล้ว เพราะร่างสูงที่เดินเข้ามา

    เรย์นั่งลงบนเก้าอี้โซฟาที่อยู่ตรงข้ามกับตะของเธอ ตรงที่เขานั่งเป็นจุดที่มองเห็นบริเวณที่เธออยู่ได้ชัดเจนที่สุด แขนแข็งแรงทั้งสองข้างยกขึ้นกอดอกก่อนที่เขาจะมองเธอ เขาทำเหมือนหลายวันที่ผ่านมา เขาแวะมาหาเธอที่บ้าน เวลาเดิม นั่งลง และใช้ดวงตาคมคู่นั้นจับจ้องเธอ มีบางครั้งที่เขาหยิบแท็บเล็ตหรือโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อคุยงานลูคัส แต่เขาจะไม่พูดกับเธอ เขาไม่แม้แต่จะเอ่ยปากทักทายเธอ หลังจากที่เธอพูดอยู่คนเดียวเป็นเวลาหนึ่งเธอก็เลิกพูด

    เธอลุกขึ้นยืนหยิบถ้วยกาแฟที่ดื่มหมดแล้วเข้าไปในครัว เมื่อผ่านไปหลายวันเอเริ่มชินกับความเงียบที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขา เธอคลายความเครียดลงเมื่อรู้ว่าเขาจะไม่ทำอะไรมากไปกว่าการนั่งจ้องมองเธออยู่ตรงนั้น เธอจะไม่เป็นไร ตราบใดที่เขายังไม่ทำอะไรมันก็จะไม่มีผลอะไรเกิดขึ้นกับเธอ รออีกไม่นานเขาก็จะไป จากไปเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เธอเคยผ่านมันมาแล้วครั้งนี้ก็เหมือนกัน

    หญิงสาวเกือบจะทำแก้วกาแฟที่ถืออยู่หลุดมือหลังจากเงยหน้าจากเครื่องต้มกาแฟ และพบว่าตัวเธอตกอยู่ในนัยน์ตาของเขา ความตกใจลการไม่ได้ตั้งตัวทำให้เธอยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นปล่อยให้เขาเดินเข้ามาใกล้เธอ

    เธอสั่นสะท้านเมื่อเขาแกะแก้วกาแฟออกจากมือของเธอเพื่อวางมันลงบนโต๊ะ ปลายนิ้วหยาบกร้านของเขาให้ความรู้สึกกระด้างทว่าอบอุ่น แทบจะหลอมละลายตัวเธอยิ่งตอนที่เขาดึงตัวเธอเข้าไปในหว่างแขนแกร่งคู่นั้น เธอเงยหน้าขึ้นทันเห็นแค่ดวงตาสีฟ้าที่เกือบกลายเป็นสีเทาสนิทในระยะใกล้ก่อนที่เขาจะก้มลงจูบเธอ เธอแทบสำลักกับความโหยหาที่อยู่ในจูบของเขา ในปลายลิ้นที่เกี่ยวกระหวัดลิ้นของเธอไว้ของเขา เขาถ่ายทอดความรู้สึกของตัวเองลงมาในจูบนี้ และบังคับให้เธอรับรู้มัน

    “ผมคิดถึงคุณ”

    เขาช่างขี้โกงเหลือเกิน เขารู้ว่าแค่เขาใช้คำพูดเพียงไม่กี่คำก็ทำให้ใจของเธออ่อนเหลวเป็นขี้ผึ้งได้แล้ว เธอเจ็บใจที่ตัวเองยังคงเป็นแบบนั้น ยังคงหวั่นไหวด้วยคำพูดเพียงสามคำเพียงแค่มันออกมาจากปากเขา แต่อย่างน้อยเขาต้องไม่รับรู้มัน เขาจะไม่มีทางเห็นความอ่อนแอของเธอ

    เธอผลักเขาออกช้าๆ“คุณควรกลับไปได้แล้ว เราไม่ได้เป็นอะไรกันคุณไม่ควรอยู่ที่นี่”

    ดวงตาของเรย์หรี่เล็ก แววตาของเขากระด้างขึ้น เขาไม่พอใจ เธอรู้ แต่เขาไม่แสดงมันออกมามากไปกว่านั้น เขาวางแขนทั้งสองข้างตัว

    “อีกสองวันผมจะมาหาคุณอีก”

    ความว่างเปล่าปกคลุมรอบตัวเธออีกครั้งเมื่อปราศจากเขา เธอยังไม่ชินกับมันแต่สักวันมันจะกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับเธอ เพราะเธอตัดสินใจแล้วว่าเธอจะไม่กลับไปหาเขาอีก

     

    [Talk]

    หายไปนานขอโทษด้วยนะคะ

    เพราะสอบ +อัลทำกิจกรรมเยอะเกินไปด้วย - -‘

    ตอนนี้โทรมมากฮืออ

    อยากได้วันว่างๆที่เอาไว้นอนหนึ่งวันจังเลย

    FROM  Aunquio


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×