คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : Chapter 19: Illumination (ส่องสว่าง)
Title: The Noah’s
Bookman 2: The Dawn Goddess บุ๊คแมนของเหล่าโนอา
ภาค เทพธิดาแห่งรุ่งอรุณ
Story: Saturnalius
Translator: KITDS
Chapter 19: Illumination (ส่องสว่าง)
ราวี่สามารถหัวเราะอย่างจริงจังกับการที่ทุกอย่างมันเหมาะเจาะไปหมด
สภาเปิดชิ้นบันทึกเกี่ยวกับโนอาให้เขา
มอบโอกาสให้ราวี่จดบันทึกชิ้นก่อนต่อได้โดยไม่ต้องฝ่าฝืนกฎของตระกูลไปมากกว่านี้
ถ้าโร้ดเปลี่ยนไปใช้ชื่ออื่น บันทึกที่ปิดไปแล้วคงไม่มีวันเปิดขึ้นมาใหม่ เพราะในเมื่อโนอาต่างถูกมองว่าตายกันหมดแล้ว
มันไม่มีเหตุผลอะไรให้เชื่อว่าบันทึกจะดำเนินต่อไปหลังสงครามที่ได้รายงานไป
แต่โร้ดก็กลับมา ทวงคืนตำแหน่งที่เชอริลสร้างและชีวิตในฐานะมนุษย์ที่เขาเป็นผู้นำ
ในขณะที่สภาไม่รู้ถึงเหตุผลในการกลับมาของเธอ
ราวี่พอจะรู้คำตอบบางส่วน และกัดปากตัวเองไม่ให้หลุดยิ้มขณะที่รับคำสั่งมา
สิ่งที่เขาไม่คาดคิดคือสหายร่วมบันทึกหรือเอโลอีสเองก็เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน
ท่านเอิร์ลพันปีคนใหม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์กรใต้ดินของอังกฤษ
มันทำให้บันทึกชิ้นนี้น่าสนใจขึ้นมาจริงๆ เป็นโอกาสที่ชายหนุ่มผมแดงจะได้เห็นชีวิตด้านมนุษย์ของท่านเอิร์ล
เขาไม่เคยรู้ถึงสิ่งที่ท่านเอิร์ลคนก่อนทำ หรือว่าทำไมเขาถึงได้ร่ำรวยขนาดนั้น
แต่ตอนนี้เขาก็มีโอกาสที่จะได้เขียนบันทึกโนอาในอีกมุมมองหนึ่งที่แตกต่างออกไป
และบันทึกชิ้นใหม่ในเวลาเดียวกัน
ราวี่ไม่เคยสนใจเรื่องใต้ดินสักเท่าไหร่
นามแฝงก่อนเคยพาเขาไปบันทึกเรื่องราวตระกูลมาเฟีย
แต่มันก็เป็นแค่การสังเกตการณ์เท่านั้น เขาไม่ได้ใส่ใจจะเข้าไปข้องเกี่ยวกับตระกูล
แค่การทำงานของพวกเขาเท่านั้น แต่เอเวอลีน แอทเทนโบโรห์เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
อีฟเป็นครอบครัว และเขาก็อยากที่จะเขียนเรื่องจริงเกี่ยวกับความเกี่ยวข้องของเธอที่มีต่อโลกใต้ดิน
ชายหนุ่มผมแดงอยู่ที่ห้องน้ำชาในคฤหาสน์ท่านเอิร์ล
เขาเอนตัวพิงบนเก้าอี้ที่เขานั่งและจิบชาที่เพิ่งชงเสร็จใหม่ๆ
สาวใช้ชงชากาใหม่ให้เขา ก่อนจะรีบเชิญเขาออกจากห้องครัวและชี้มาทางห้องน้ำชาแทน
มันเป็นเวลาเช้าตรู่ แสงอาทิตย์สาดส่องพ้นเส้นขอบฟ้ามาเพียงเล็กน้อย
เขามาถึงเมื่อไม่นานก่อนหน้านี้ด้วยวิธีการเดินทางที่มีแต่บุ๊คแมนเท่านั้นที่รู้
มันเป็นเทคโนโลยีเก่าแก่ที่ถูกหลงลืมไปเมื่อนานมาแล้ว สร้างโดยจอมเวทแห่งมู
ทวีปที่หายสาบสูญตามกาลเวลาและคลื่นทะเลที่สูงขึ้น
เวทมนต์สร้างช่องว่างเหนือภพภูมิโลกเพื่อเดินทางไปยังสถานที่ที่มีสัญลักษณ์พิเศษ
ราวี่เคยมาที่คฤหาสน์ของท่านเอิร์ลและทำสัญลักษณ์บนบานประตูด้วยหมึกล่องหน
มนต์เคลื่อนย้ายไม่สามารถพาบุ๊คแมนไปยังสถานที่ใหม่ได้
บังคับให้เขาเดินทางไปยังสถานที่ที่มีสัญลักษณ์ที่ใกล้ที่สุดและเดินต่อในระยะทางที่เหลือ
มันใช้เพื่อเดินทางระหว่างจุดที่มีสัญลักษณ์สองจุดเพื่อปิดบังสถานที่ที่แท้จริงของคลังบันทึกและตัวตระกูลบุ๊คแมนเองด้วย
ไม่งั้นจะต้องเดินทางด้วยวิธีการปกติ การใช้โนอา
อาร์คเดินทางก็ยากจะเรียกว่าเป็นการเดินทางปกติ แต่มันก็ยังนับอยู่ในประเภทนั้น
ทิกี้ที่ถูกพามายังห้องน้ำชาโดยสาวใช้เช่นกันทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้พร้อมชาดำแก้วใหม่และมัฟฟินอังกฤษอบ
ถึงเขาจะแต่งตัวเรียบร้อย แต่เขาก็ดูกึ่งหลับกึ่งตื่น
ทิกี้ไม่ใช่คนตื่นเช้าเสียเท่าไหร่
“ไม่ไปนอนหรอ?” ราวี่เหลือบมองราวี่ขณะที่จิบชาของตน
และตื่นเต็มที่
โนอาหนุ่มที่เหนื่อยอ่อนมองบุ๊คแมน
เขาดูรำคาญเล็กน้อยแต่ก็ถูกใจกับความช่างสังเกตของเขา
“ฉันมีธุระต้องไปทำกับท่านเอิร์ล” เขาดันแว่นตามนิสัยด้วยนิ้วชี้ นิ้วอื่นๆ
ถือประคองมัฟฟินอังกฤษอยู่ “นายหายไปนานเลยนี่ กลับมาเมื่อไหร่ล่ะ?”
ราวี่ไม่แน่ใจว่าเขาหายไปนานแค่ไหน
แต่ดูจากปฏิทินในห้องครัว มันก็เกือบสองอาทิตย์ได้
เวลาผ่านไปไวเสมอเวลาอยู่ในคลังบันทึก มันไม่มีอะไรให้สังเกตถึงกลางวันกลางคืน
ไม่มีความแตกต่างกัน “เกือบชั่วโมงก่อน” เขาตอบ “แล้วธุระของนายที่ว่า”
“ไม่เกี่ยวกับโนอา” ทิกี้ยอมรับ
เขาพักช่วงไปหมายจะจิบชา แต่ก็ขมวดคิ้วเมื่อมันยังร้อนเกินไป
“ฉันพนันเลยว่ารู้ว่ามันคืออะไร”
ราวี่เหยียดยิ้มขณะที่จิบชา
เขามีเวลาปล่อยให้ชาเย็นพอจนอุณหภูมิกำลังพอเหมาะและไม่ร้อนเกินไป
และเขายังสามารถเป็นบุ๊คแมนหนุ่มช่างยุ่มย่ามได้ด้วย
“โห~?” ทิกี้เลิกคิ้วขึ้น
รอยยิ้มตามแบบฉบับขยายกว้างบนใบหน้าคม เขารู้ว่าบุ๊คแมนช่างสังเกต
แต่มันก็ไม่มีทางเป็นไปได้ที่เขาจะรู้ถึงเรื่องนี้
“องค์กรใต้ดิน” ราวี่ตอบเรียบๆ
และมองทิกี้อย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง
ทิกี้จ้องหน้าราวี่อยู่นานและละสายตาไปเพื่อจิบชา
แต่เขาก็ต้องเสียใจและขมวดคิ้วเมื่อชาลวกข้างในปากเขาเล็กน้อย
ราวี่เพลิดเพลินไปกับช่วงเวลานั้น
แต่ก็ตัดสินใจไม่ปล่อยให้พี่ชายบุญธรรมเข้ารอเก้อ “บันทึกชิ้นใหม่ หนึ่งในนั้น
เปิดบันทึกของโนอาขึ้นมาอีกครั้งแล้วก็ได้ชิ้นใหม่มาอีกอัน
ท่านเอิร์ลมีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์กรใต้ดินและฉันก็มาเพื่อบันทึกเรื่องราว”
ทิกี้ยิ้มกว้างผิดมนุษย์มนา
ตอนที่ราวี่ไป
เขาพูกถึงปิดบันทึกชิ้นปัจจุบันเกี่ยวกับเทพธิดาแห่งรุ่งอรุณและไปรับชิ้นใหม่
ทิกี้และคนอื่นๆ ในครอบครัวกังวลว่าบันทึกชิ้นใหม่จะพาเขาไปไกลจกครอบครัว
พาเขาไปยังเขตอันตรายใต้เงื้อมมือศาสนจักร ทุกอย่างลงตัวเป็นที่สุด
บันทึกชิ้นถัดไปพาเขาเข้าหาครอบครัวมากขึ้น
ราวี่เหยียดยิ้มเมื่อมือบอบบางภายใต้ถุงมือเอื้อมมาจับบ่าของราวี่
“คุณเป็นคนที่น่าสนใจมาก เคาน์เตสแอทเทนโบโรห์”
“เธอก็เป็นบุ๊คแมนที่ฉล๊าด ฉลาดนะ
ราวี่ปอน~” ท่านเอิร์ลเปรย เธอตื่นเต้นที่จะมีบุ๊คแมนเป็นของตัวเอง เหมือนกับคนก่อนหน้าเธอ
แม้ว่าเธอจะมีบันทึกถึงสองเล่มที่บันทึกเรื่องราวของเธอ ในขณะที่อดัมมีเพียงเล่มเดียว
และเธอก็ยิ่งกว่าพอใจที่ราวี่จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตส่วนตัวของเธอ ต่างจากอดัม
อีฟเปิดใจในเรื่องแบบนี้มากกว่า อดัมไม่บอกอะไรเกี่ยวกับตัวเองให้ราวี่รู้
และตอนนี้ประวัติศาสตร์ส่วนนั้นก็หายไปตามกาลเวลา แต่อีฟอยากให้เรื่องราวของเธอต่างออกไป
“และมันจะสนุกแน่นอน~! ฉันดีใจนะที่เธอจะเป็นส่วนหนึ่งของ‘ธุรกิจ’ครอบครัวแล้ว~”
ราวี่เงยหน้าไปยังหญิงสาว มองใบหน้ามนุษย์ของเธอบิดเบี้ยวเป็นรอยยิ้มกว้างจากหูถึงหู
“แล้วมันดำเนินมานานแค่ไหนแล้ว? ธุรกิจใต้ดินนี้น่ะ?”
“หลายปี~” ท่านเอิร์ลตอบ เดินอ้อมเก้าอี้เพื่อนั่งลงบนโซฟา
หญิงสาวรวบชายกระโปรงและค่อยๆ นั่งลงบนโซฟาที่ตกแต่งหรูหราแล้วไขว้ข้อเท้าเข้าหากัน
เธอพร้อมจะไปทำธุระ แต่งกายด้วยเสื้อแจ็กเก็ตสีชมพูและกระโปรงสีแดงเข้มที่จับจีบไปด้านหลังซึ่งเป็นสไตล์เสื้อผ้าที่เป็นที่นิยมในตอนนี้
รองเท้าบู๊ทใต้กระโปรงมีส้นและสูงอย่างน้อยครึ่งแข้ง ส่วนบนถูกคลุมด้วยความยาวชายกระโปรง
พวกมันติดกระดุมกลัดด้านนอก เธอสวมหมวกใบโข่งที่ตกแต่งด้วยกุหลายดอกโตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“มันเป็นที่มาที่ไปว่าฉันกับทิกี้ปอนรู้จักกับได้ยังไง”
ราวี่เหลือบมองไปทางทิกี้ด้วยคำถามที่ติดอยู่ในใจ
“ทิกี้เป็นชื่อจริงของนายหรอ?”
“ชื่อจิคาเอะ” เขาตอบ “ท่านเอิร์ลมอบชื่อทิกี้ให้ฉัน
ยังไงเสียก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะออกเสียงจิคาเอะได้ มันฟังดูคล้ายกัน*ด้วย”
“นั่นมันนานแค่ไหนแล้ว?” ราวี่ถามต่อ
ดีใจที่ได้ยินข้อมูลมากกว่าที่คาดไว้ เขาคิดไว้แล้วว่าทิกี้น่าจะมาจากประเทศแถบเอเชีย
แต่เขาไม่แน่ใจว่าประเทศไหน ชายหนุ่มผมแดงต้องยอมรับว่าคนอังกฤษออกเสียงของชื่อคนญี่ปุ่นไม่ได้ง่ายๆ
จิคาเอะเองก็ไม่ได้ออกเสียงง่ายเท่าไหร่ด้วย
“ประมาณ10ปีก่อน~” ท่านเอิร์ลตอบ “ฉันเริ่มธุรกิจนี้ค่อนข้างไวเลยล่ะ”
เธอมอบรอยยิ้มที่ดีใจแต่แฝงไว้ด้วยความชั่วร้ายให้ราวี่ เธอเด็กกว่าอดัมมาก แต่เธอจะไม่บอกว่าอายุเท่าไหร่
มันไม่ใช่เรื่องที่จะถามหญิงสาวเลย
และราวี่ก็ไม่รบเร้าเรื่องนั้น
เขาคิดว่าท่านเอิร์ลคนนี้คงอายุไม่มากกว่าเขาสักเท่าไหร่ เขาเริ่มคิดถึงชื่อที่ได้ยิน
จิคาเอะกับทิกี้มันฟังดูคล้ายกันก็จริง แต่ทำไมเธอถึงนึกถึงชื่อนี้?
มันเป็นความบังเอิญหรือมันเป็นเสี้ยวความทรงจำของโนอาที่หลงเหลือมา?
“ทำตัวดีๆ หน่อยนะ ราวี่ปอน~” ท่านเอิร์ลกล่าว “แล้วก็แต่งตัวให้เรียบร้อย พวกเราชอบปรากฏตัวแบบดูดีน่ะ~”
...........................
ขณะที่ราวี่แต่งตัวในชุดสูท
เขาเมินรองเท้าหนังที่เข้ากันและสวมรองเท้าบู๊ทคู่สบายโดยเอาขากางเกงทับปิดไว้ให้มันดูเหมือนรองเท้าหุ้มส้น
ท่านเอิร์ลไม่ได้ว่าอะไรเรื่องรองเท้าบู๊ท เธอเพียงยิ้มกว้างก่อนจะก้าวขึ้นรถม้าไป
ราวี่ไม่คุ้นชินกับการนั่งรถม้าสักเท่าไหร่
ปกติมักจะเดินไปทั่วหรือนั่งรถไฟมากกว่า รถม้ามันดูชั้นสูงไปสำหรับเขา แต่เขาก็อยู่ตรงนี้
สวมหน้ากากเป็นชนชั้นสูงสำหรับบันทึกชิ้นที่ 54 ระหว่างทาง มันรู้สึกเหมือนเขากำลังอยู่ในโอ่งเลี้ยงปลา
มองดูโลกรอบตัวเขาขณะที่มันผ่านไป มันมีเด็กน้อยเล่นตามถนนและกลุ่มหญิงสาวพูดคุยเกี่ยวกับอะไรสักอย่างที่เขาไม่สามารถได้ยินเพราะเสียงของม้าที่ลาดรถม้าอยู่
บริเวณนี้เป็นเขตของชนชั้นสูง เต็มไปด้วยคฤหาสน์และร้านหรู พวกเขาขับผ่านร้านคาเฟ่
ร้านอาหารและร้านอื่นๆ ที่ราวี่คิดว่าโร้ดคงชอบ
การนั่งรถม้ากินเวลาค่อนข้างสั้น
และมันก็หยุดตรงหน้าตึกสูงแบบนีโอคลาสสิก ด้านหน้าตกแต่งด้วยเสาโครินเธียนและบันไดกว้างที่นำขึ้นไปยังประตูสี่เหลี่ยมจัตุรัสแบบดั้งเดิมซึ่งตกแต่งเหนือกรอบประตูด้วยสัญลักษณ์คดโค้งแปลกตาตรงกลาง
มันดูเหมือนหอประชุมหรืออะไรสักอย่าง
ด้านนอกเป็นทางเดิน
มีเด็กหลายคนเล่นกันอยู่ เด็กสาวไล่เด็กชายวัยเดียวกัน แต่สะดุดชายกระโปรงของเธอและหัวเข่าถลอก
เธอเริ่มร้องไห้และเด็กชายก็พากันล้อเธอว่าเป็นเด็กทารก
ท่านเอิร์ลลงจากรถม้า มองไปทางกลุ่มเด็กอยู่ครู่หนึ่ง
และเธอก็เดินตรงไปโดยไม่พูดอะไร มือเด็ดกุหลาบจากหมวกใบใหญ่ของเธอ หญิงสาวยกชายกระโปรงขึ้นแล้วคุกเข่าลง
มอบกุหลาบให้เด็กสาวด้วยรอยยิ้มกว้าง เด็กสาวอารมณ์ดีขึ้นมาทันที ลืมรอยถลอกบนเข่าไปสิ้น
ราวี่มองด้วยความทึ่ง
ในใจคิดถึงความคล้ายที่เธอมีต่อท่านเอิร์ลคนก่อน เธอมีด้านมนุษย์เหมือนกัน
และเป็นด้านที่ค่อนข้างโอบอ้อมอารี ท่านเอิร์ลผุดลุกขึ้น
ยิ้มให้ราวี่กับทิกี้ก่อนจะเดินขึ้นบันไดสู่ทางเข้า ก่อนที่เขาก็หันตามเธอไป ราวี่สังเกตเห็นแมวดำที่ถูกริบบิ้นสีเหลืองคล้องกระดิ่งนั่งอยู่แถวๆ
ทางเดิน เธอนั่งมองเขาอย่างระมัดระวังด้วยดวงตาสีทองก่อนจะหันเดินเตาะแตะตามทางเดินไป
เธอเหมือนกับแมวที่ราวี่เห็นด้านนอกโบสถ์ที่ลา มันช่า
แต่มันไม่มีทางที่มันจะเป็นแมวตัวเดียวกัน สองเมืองนี้มันอยู่ห่างกันเกินไป
ด้านในตึกดูแพงหรูหรา
ด้านในเองก็เป็นการตกแต่งแบบนีโอคลาสสิก ที่แห่งนี้ค่อนข้างร้างสำหรับการประชุม
เมื่อเขาเห็นคนเพียงไม่กี่คน พวกเขาแต่งตัวน้อยกว่าและแยกออกได้ว่าเป็นพนักงานดูแลสถานที่
พนักงานต้อนรับจำทิกี้กับท่านเอิร์ลได้
และเปิดประตูให้พวกเขาเข้าไป ราวี่รีบตามไป ตัวติดกับอีกสองคนขณะที่เดินตามและสังเกตทุกรายละเอียดในที่แห่งนี้
ตัวโถงหลังบานประตูไม่ได้แต่งเหมือนด้านนอก และดูเก่าแก่กว่า มันเป็นกำแพงหินไร้การแต่งสี
เห็นก้อนอิฐที่ค้ำหลังคาทรงโค้ง ตัวโถงถูกต่อเติมใหม่ในช่วงนีโอคลาสสิก
แต่บางส่วนก็ยังคงความเป็นยุคกลางดั้งเดิมอยู่
พนักงานต้อนรับอีกคู่เปิดทางลับที่สร้างอยู่ในกำแพง
ประตูนั้นปกปิดเนียนมากจนราวี่แทบไม่สังเกตก่อนที่มันจะเปิดออก ท่านเอิร์ลยกชายกระโปรงขึ้นด้วยมือข้างหนึ่งและยื่นอีกข้างหนึ่งในทิกี้ที่จับมือเธออย่างสุภาพ
ประตูเปิดออกเผยให้เห็นบันไดแคบที่ดูเหมือนเป็นการก่อสร้างในยุคกลาง
นำทางลงไปในโถงใต้ดิน บันไดพาไปสู่ห้องกว้างที่มีเพดานโค้งและพื้นหินขัด ตามกำแพงตกแต่งด้วยรูปภาพของหนังสือและนกฮูก
ชั้นหนังสือเรียงรายตามกำแพงไปเรื่อยๆ เชิงเทียนมอบความสว่างให้กับตัวห้อง
สัญลักษณ์ตามกำแพงและตัวเขียนแปลกๆ
ที่ท้ายห้องทำให้บุ๊คแมนหนุ่มนึกขึ้นได้ เขาไม่ได้ยืนอยู่ทามกลางธุรกิจใต้ดินหรือการค้าอะไร
แต่เป็นกลุ่มที่เชื่อกันว่าถูกยุบไปในปี 1785 โดยคำสั่งราชวงศ์บาวาเรียน
บุ๊คแมนหนุ่มแทบไม่อยากจะเชื่อ
กลุ่มคนตรงหน้าเขาเชื่อในความเท่าเทียมและต่อต้านศาสนาที่เข้ามาบงการชีวิตผู้คน การใช้อำนาจในทางที่ผิดและเรื่องเหลือธรรมชาติ
พวกเขามุ่งจะสร้างกฎบัญญัติของโลกใหม่โดยการควบคุมเหตุการณ์ต่างๆ ในโลก
องค์กรนี้ยังคงอยู่ อิลลูมินาติในตำนาน
TBC…
ll WORDS FROM WRITER ll
คิดไม่ถึงกันเลยใช่มั้ยล่ะ ฉันอยากจะใส่ชีวิตอันลึกลับของอีฟและสาเหตุว่าทำไมเธอกับทิกี้ถึงสนิทกันมานานแล้ว
และฉันก็หาวิธีจนได้
ตอนแรกฉันวางไว้ให้มันเป็นแค่การแลกเปลี่ยนหรือธุรกิจใต้ดิน
แต่ฉันก็ดูรายการประวัติศาสตร์เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา และมีตอนหนึ่งเกี่ยวกับอัศวินเทมพลาร์และจอกศักดิ์สิทธิ์
อัศวินเทมพลาร์เกี่ยวข้องกับโบสถ์และศาสนา และมันก็จะสร้างความแตกต่างกับตัวละครและการที่พวกเขาต่อต้านวาติกันและศาสนจักร
ฉันต้องการอะไรสักอย่างที่จะทำให้มันเกิดขึ้น
ฉันก็เลยคิด ฉันชอบพวกองค์กรลับและมันมีอะไรให้ฉันเล่นเยอะมาก
ฉันชอบนิยายเรื่อง Angels&Demon เพราะงั้นความคิดแรกที่แว่บเข้ามาในหัวเลยเป็นอิลลูมินาติ
ฉันหาข้อมูลมาและมันก็เหมาะเจาะมาก ขณะที่การตีความของอิลลูมินาติใน คงไม่ถูกต้องสักเท่าไหร่
แต่ของฉันเองก็คงเหมือนกัน!
จอมเวทแห่งมูมาจากภูมิศาสตร์เก่า นักทำแผนที่เชื่อว่ามูเป็นทวีปหนึ่งซึ่งอยู่ใต้ทะเล
(เหมือนกับแอตแลนติส) ที่สุดท้ายแล้วก็ถูกพิสูจน์ว่าไม่เป็นความจริง อย่างน้อยก็ในตอนนี้
มูเอง ก็เหมือนกับแอตแลนติส ที่เชื่อกันว่าแข็งแกร่งและเต็มไปด้วยเวทมนต์คาถา
ll TALK WITH TRANSLATOR ll
สวัสดีครับผม
ตอนใหม่ตอนนี้ก็เริ่มขยายเบื้องลึกเบื้องหลังและปมหลักของภาคนี้ขึ้นมาแล้วล่ะครับ
ทุกคนคิดยังไงกันบ้างครับ? สำหรับตอนนี้อยากจะขยายความเรื่องชื่อของทิกี้นิดนึง
คือภาษาอังกฤษชื่อทิกี้จะสะกดว่า Chikae ซึ่งตรงเสียง Ch (ซึ่งทับศัพท์ภาษาไทยเป็น จ) นั้น จะออกเสียงคล้ายตัว T ของ Tyki (ทิกี้) ครับ สำหรับคนต่างชาติเลยออกเสียงคล้ายๆ
กันในขณะที่บ้านเรา ท กับ จ มันออกเสียงต่างกันไปเลย ประมาณนั้นน่ะครับ 5555
ก็ ไว้พบกันใหม่ตอนหน้านะครับ
แล้วก็อย่าลืมนะครับ ตอนนี้ยังเปิดพรีออเดอร์เล่มแรกอยู่นะครับผม
สนใจคลิกลิงก์เลย >> CLICK
ปล. ข่าวล่ามาเร็ว(?) ผมกำลังคิดจะแปลฟิค FFXV เพิ่มอีกเรื่องหนึ่ง แต่ก็ยังดูๆ อยู่นะครับ ใครเป็นแฟน NoctPrompt อาจจะได้มีข่าวดีกันนะครับผม ^ ^
ด้วยรัก
พาร์ท
Killer in the Dark
Shadow
ความคิดเห็น