คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : ♬12
จะพยายามทยอยลงให้ครบภายในอาทิตย์หน้า
ถ้าเขียนทัน 555555
เป็นครั้งเเรกที่วางพลอตฟิคค่ะ หลังจากผ่านมากลางเรื่องเเล้ว
ก๊ากกกกก
____________________________________________________________
ยุนโฮไม่กลับมานอนหอสองวันแล้ว... พอหมดตารางงานไม่ว่าจะดึกแค่ไหนร่างสูงก็จะขอแยกตัวออกไป ไม่กลับหอด้วยกัน
ยูชอนมองร่างสูงที่กำลังก้มหัวขอบคุณทีมงานที่ดูแลเรื่องถ่ายปกอัลบั้ม Repackage ก่อนจะเหลือบตามองนาฬิกาที่บอกเวลาตีสองสิบนาที พรุ่งนี้พวกเขามีคิวแต่งหน้าทำผมแต่เช้าเพื่ออัดมิวสิคแบงค์ ตอน6โมง ถ้าคืนนี้ยุนโฮยังจะไม่กลับหอไปนอนด้วยกันอีก...
“เจอกันพรุ่งนี้ที่สตูเลยนะจุนซู”
เขาได้ยินร่างสูงบอกกับผู้จัดการวง ก่อนจะก้มหัวลาทีมงานอีกครั้งแล้วหายออกจากสตูดิโอไป
...
“ถามจริง มีปัญหาอะไรกัน?”
คิมจุนซูที่วันนี้ขึ้นรถแวนของบริษัทกลับมาที่หอกลับพวกเขาด้วยเอ่ยปากถาม ผู้จัดการขาโหดนั่งไขว้ห้าง กอดอกแล้วหันหน้าไปทางยูชอน ดวงตาเรียวรีจ้องมือคีย์บอร์ดของวงเขม็ง
“จุนซูฮยอง จ้องขนาดนี้ยูชอนฮยองก็หายใจไม่ออกตายพอดี กดดันไปป้ะ?”
“ทำงานด้วยกันแต่ไม่คุยกัน จับมานั่งด้วยกันบรรยากาศก็อึดอัดอึมครึม แถมยุนโฮฮยองก็เลี่ยงไปนอนคอนโด ฉันควรถามใครถ้าไม่ใช่รูมเมทฮยองเขาหน่ะ ถามแกเรอะ?”
จุนซูหันไปโวย ก่อนจะใช้หมอนรองคอฟาดชางมินที่นั่งอยู่ในรัศมีแขนเอื้อมถึง
“เอาจริงๆฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”
ยูชอนส่ายหน้า หลังจากวันที่ยุนโฮยื่นสตรอว์เบอร์รี่ปั่นแก้วนั้นให้ เขากับยุนโฮก็ไม่ได้คุยกันอีก ไม่ใช่เพราะยุ่งจนไม่มีเวลาคุยกัน หรือเหนื่อยจนต้องงีบทุกช่วงที่ว่าง แต่เพราะไม่คุยกันเอง เขาไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายที่ชอบมองออกไปไกลๆนั่นคิดอะไรอยู่ ไม่กล้าถามด้วย พอเห็นยุนโฮแล้วก็รู้สึกปวดหนึบที่ใจขึ้นมาเพราะหวนนึกถึงการกระทำของตัวเองคืนนั้น เขาไม่นึกเสียใจที่แกล้งเมาให้อีกฝ่ายเห็น แต่เขาก็ควรจะควบคุมตัวเองและไม่ปล่อยให้ทุกอย่างเกิดขึ้นตามใจต้องการแบบนั้น ไม่งั้นตอนนี้คงไม่เป็นแบบนี้
“ไม่รู้ ไม่แน่ใจ หรือไม่อยากบอก”
“เอ่อ...”
เขามองหน้าแจจุงกับชางมินที่นั่งอยู่เบาะหลังอย่างขอความช่วยเหลือ เขายังไม่ได้เล่าอะไรให้สองคนนั้นฟังสักนิด และแจจุงก็รู้แค่ว่าเขาแกล้งเมา
“จุนซู”
ยูชอนกลืนก้อนน้ำลายลงคอก่อนจะเรียกชื่อคนตรงหน้า ในหัวมีความคิดตีกันยุ่งเหยิง ใจนึงก็อยากบอกออกไปตรงๆ แต่ใจนึงก็อยากจะรอดูแล้วจัดการกับปัญหาที่เขาน่าจะเป็นต้นเหตุด้วยตัวเอง
“ว่าไง? ไม่ไว้ใจฉันเหรอ ฉันเป็นผู้จัดการวงของพวกนายนะ”
“เปล่า ไม่ใช่แบบนั้น”
“จุนซูฮยอง ไม่เอาหน่า ให้เขาเคลียร์กันเองไม่ดีกว่าเหรอ?”
“นู่นก็ไม่พูด นี่ก็ไม่พูด ดีจริงๆ”
“ฉันไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนจริงๆ ขอโทษทุกคนจริงๆนะ”
“นายเข้าใจหรือเปล่าว่านายเป็นทีมเดียวกัน แล้วในอนาคต งานมันจะสำเร็จได้ยังไงถ้าลีดเดอร์กับสมาชิกทำตัวบื้อใบ้ใส่กันแบบนี้ มีอะไรทำไมไม่คุยกันให้มันจบๆหล่ะ ถ้ามันค้างคาแล้วสะสมจนกลายเป็นเรื่องใหญ่ ฉันไม่คิดว่ามันจะดีต่ออนาคตของวงหรอกนะ”
“ใจเย็นหน่อยสิ”
แจจุงบีบไหล่จุนซูเป็นการปรามให้อีกฝ่ายเย็นลง ส่วนชางมินก็กุลีกุจอปรับแอร์ แล้วยื่นขวดน้ำดื่มเย็นเจี๊ยบให้
“ขอโทษนะยูชอน ฉันอารมณ์เสียหน่ะ ฮยองบ้านั่นก็ไม่ได้อย่างใจ เป็นลีดเดอร์บ้าอะไรเนี่ย ถ้าพรุ่งนี้ยังทำตัวไม่มีความรับผิดชอบอีกนะ คอยดู เจอคิมจุนซูแน่!”
....
อยู่ดีๆยุนโฮก็จามขึ้นมา เขาขยี้จมูกพลางนึกในใจ คิมจุนซูต้องกำลังด่าเขาอยู่แน่ เพราะวันนี้อีกฝ่ายบอกว่าจะกลับไปนอนที่หอกับพวกเขาด้วย หวังว่าไอ้เด็กโหดนั่นจะไม่ระเบิดลงจนเมมเบอร์ของเขาตกอกตกใจกันหมดนะ
ยุนโฮยกม้วนกระดาษเล็กๆสีทองขึ้นแตะริมฝีปาก สูดควันพิษเข้าไปเต็มปอดก่อนจะพ่นกลุ่มควันสีขาวให้ลอยเอื่อยอยู่เหนือหัว กลุ่มควันนั้นลอยเป็นกลุ่มในตอนแรก ก่อนจะแตกออกแล้วค่อยๆกระจายกลืนหายไปกับอากาศ
เหมือนกับความคิดของเขาในตอนนี้ ...
เขาพยายามหาที่เงียบๆเพื่อให้เวลาตัวเอง และพยายามลากตัวเองออกมาคุย นั่นเป็นวิธีที่เขาทำเวลาที่เขามีปัญหา และมันก็เคยได้ผลเสมอ แต่กับเรื่องนี้ดูเหมือนว่าจะใช้ไม่ได้ เพราะอะไรกันนะ?
ฉันทำแบบนั้นกับยูชอนเพราะอะไร?
เป็นคำถามที่เขาเฝ้าถามตัวเองซ้ำๆ ตลอดหลายวันที่ผ่านมา คำตอบแรกที่เขาตอบตัวเองเมื่อหลายวันก่อนคือ เขาอาจจะเหงาหรือเปล่า? แล้วยูชอนดันเข้ามาในโลกของเขาพอดี เข้ามาเป็นเพื่อนร่วมทีม เป็นรูมเมท เรื่องแบบนั้นมันก็เลยเกิดขึ้นได้ง่ายๆ เขาก็เลยลองเอาตัวออกมาห่างจากเด็กนั่นดู แต่รู้สึกเหมือนทุกอย่างมันจะแย่ยิ่งกว่าเก่า
“ทำไมกันนะ?”
“หนีมาแล้วก็ดันคิดถึงเด็กนั่นซะงั้น”
ยุนโฮยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองหนักๆ ก่อนจะสไลด์หน้าจอโทรศัพท์ที่เขาวางทิ้งไว้บนพื้นนานแล้วเพื่อดูนาฬิกา ซึ่งบอกเวลาตีสามครึ่ง นอกจากนั้นก็ยังมี...
1 missed call from Yoochun
ความคิดเห็น